คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #65 : Chapter 64 : กฏแห่งเหล็กกล้า
เป็นเช้าอันสงบสุขของเหล่านักเรียนที่ได้กลับมาที่ทริสเทนอีกครั้ง ณ พระราชวังใจกลางเมืองหลวง แสงตะวันส่องลอดหน้าต่างเข้าไปในห้องพักรับรองแขกห้องหนึ่ง ปกติแล้วจะเห็นเด็กสาวผมสีชมพูหลับอุตุอยู่กับเตียงหลังใหญ่ ขณะที่เด็กหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ทว่าวันนี้สถานการณ์นั้นกลับกัน
หลุยส์กุมมือที่ยางสังเคราะห์สีขาวขณะที่ร่างในชุดคลุมนอนสลบไสลอยู่บนเตียง ขอบตาเธอเป็นรอยคล้ำจางๆ จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เธอแทบไม่ได้นอนเพราะเป็นห่วงอาการที่หาสาเหตุไม่พบของเขา
เมื่อวานเรือเหาะกลับมาถึงพระราชวัง สามคนที่ไม่สบายคือเขาและทาบาสะกับแม่ถูกพาไปที่ห้องพยาบาล อาการบาดเจ็บของทาบาสะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีทั่วไป ส่วนคนแม่ยังต้องวินิจฉัยต่อ ขณะที่ทางด้านของเอ็กซ์...ทีมแพทย์ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากร่างกายของเขาอยู่คนละมิติกับความรู้ของโลกนี้ เธอจึงพาเขามาพักที่ห้องรับรองชั่วคราว เขารู้สึกตัวขึ้นมาหนึ่งครั้งกลางดึก...เพื่อกล่อมให้เธอนอน...
“เอ็กซ์...”
เรปลิลอยด์หนุ่มไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ทุกครั้งเขาจะนอนทีหลังและตื่นก่อนเธอ เขาไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เขาตอนนี้...ดูอ่อนแอเหลือเกิน และเธอก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
ประตูห้องด้านหลังเธอเปิดออก ชายในเสื้อคลุมคอตั้งสีม่วงก้าวเข้ามาพยายามไม่ส่งเสียงรบกวนคนบนเตียง มือขวาชูซองจดหมายสีขาวระดับสายตา
“เลดี้ลา วาลิเอล จดหมายถึงท่านครับ”
คืนนั้น คฤหาสน์วาลิเอล
ในห้องรับประทานอาหารที่กว้างขวางสมเป็นคฤหาสน์ของดยุค สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวกันรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งนายท่านและนายหญิงของบ้าน ลูกสาวคนโตและคนรอง ขาดก็แต่ลูกสาวคนสุดท้องซึ่งกำลังเป็นประเด็นสนทนาเผ็ดร้อนจนไม่มีใครแตะต้องอาหารตรงหน้า
ดยุคลา วาลิเอลนั่งอยู่ที่ปลายสุดของโต๊ะ ดวงตาสีเทาแข็งกร้าวด้วยโทสะ
ปึง! มือของเขาทุบลงกับโต๊ะ แม้เสียงจะดังแต่ก็ไม่มีข้าบริวารหรือคนร่วมโต๊ะเองส่งเสียงตอบโต้ใดๆ ไม่บ่อยนักที่ท่านดยุคจะแสดงความโกรธต่อหน้าคนอื่นอย่างเปิดเผยเช่นนี้
“หลุยส์! เด็กนั่นรู้มั้ยว่าทำให้ที่บ้านเป็นห่วงแค่ไหน!?”
“ตามที่ท่านพ่อพูดนั่นล่ะ เด็กคนนั้นเข้าร่วมสงคราม สองครั้งสองคราโดยไม่ขออนุญาตทางบ้านก่อน! ออกไปเสี่ยงอันตรายถึงต่างแดนทั้งที่ท่านพ่อห้ามแล้ว แถมยังบุกรุกพระราชวังกาเลียอีกตะหาก! ถึงจะบอกว่าเพื่อช่วยองค์ราชินีก็เถอะ นั่นเป็นงานของผู้ใหญ่ไม่ใช่รึไง!?” เอเลโอนอลพูดเสริมด้วยแววตาที่คมกริบใต้แว่นไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ เธอแทบทึ้งหัวตัวเองตอนที่รู้เรื่องหลังจากถูกเรียกกลับมาที่บ้าน
(เครดิต : bakatsuki.org)
คาเทอเลียนั่งนิ่งฟังคำพูดของพ่อและพี่สาว ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่ดีเหรอคะ เสี่ยงอันตรายเพื่อไปช่วยเพื่อนร่วมชั้นกับองค์ราชินี น่าภาคภูมิใจออก” เธอพยายามลดความตึงเครียดลง แต่เห็นสายตาของพี่สาวที่มองตอบกลับมาก็รู้ว่าไม่ได้ผล
“มันใช่เวลาจะมาหัวเราะที่ไหนกัน ครั้งก่อนก็เป็นเธอเองไม่ใช่เหรอที่ช่วยละลายโซ่ยึดสะพานให้เด็กคนนั้นหนีไปได้น่ะ”
“แหม แต่หลังจากนั้นเราก็ได้ตามไปดูแลหลุยส์ถึงที่โรงเรียนเลยไม่ใช่เหรอคะ?” คาเทอเลียยังรักษาใบหน้ายิ้มแย้มเอาไว้
นายหญิงของคฤหาสน์หลับตาครุ่นคิดมาตลอด ทันทีที่เธอเปิดปากพูด ทุกเสียงที่ดังอยู่ก็เงียบลง
“หลุยส์ช่วยองค์ราชินีให้ทรงกลับมาถึงทริสเทนได้อย่างปลอดภัย นับว่าสร้างคุณประโยชน์ให้กับอาณาจักรอย่างใหญ่หลวง” ดัชเชสลา วาลิเอลเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงาน
“แต่ว่า...เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน เด็กคนนั้นคงจะได้รับความดีความชอบจากทางราชสำนัก แต่เมื่อเป็นเรื่องของทางบ้านเรา เด็กคนนั้นต้องถูกลงโทษ”
ดยุคลา วาลิเอลพยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นชอบ
“ถูกต้อง หลุยส์ขัดคำสั่งของพ่อต่อหน้าสภาขุนนาง เพราะฉะนั้นคนที่จะรับหน้าที่ลงโทษหลุยส์ก็คือ—“
“—คือแม่”
ท่านดยุคมองภรรยาตัวเองหน้าถอดสี ลูกสาวสองคนกลั้นหายใจตัวเกร็ง แม้แต่ข้าบริวารที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยก็ยังเริ่มตัวสั่น
“ม—ไม่เห็นต้องให้ถึงมือท่านแม่เลยค่ะ...จริงมั้ย คาเทอเลีย?” เอเลโอนอลเริ่มเปิดปากพูดก่อน และก็ได้รับการพยักหน้าจากผู้เป็นน้อง
“จ—จริงด้วยค่ะ” ใบหน้ายิ้มแย้มที่คาเทอเลียขึ้นไว้เริ่มจะสูญเสียความเพอร์เฟ็ค
“อะแฮ่ม! ฉันก็คิดเหมือนกับพวกลูกๆ นะ คาริน ไม่ใช่เรื่องถึงขนาดต้องเป็นหน้าที่ของเธอ...ใช่มั้ยเจโรม?” ท่านดยุคหาใครไม่ได้ต้องหันไปถามพ่อบ้านเก่าแก่ที่อยู่ข้างๆ
“เอ่อ...กระผมนึกขึ้นได้ว่ามีงาน ต้องขอตัวก่อนนะครับ” พ่อบ้านชราโค้งหนึ่งทีก่อนจะจรลีออกไปจากห้องอาหารโดยพยายามไม่ไห้ดูรีบร้อนจนเกินไป
ในเวลาเดียวกันข้าบริวารคนอื่นๆ ก็รีบลี้ภัยออกไปจากห้อง สิ้นเสียงปิดประตูหลังจากคนสุดท้ายหายไปจากสายตา ดัชเชสลา วาลิเอลก็ลุกขึ้น สีหน้าเธอยังดูเยือกเย็น แต่ออร่าที่รุนแรงแผ่ออกมาจากตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องต่ำลงยังกับช่องฟรีซ
“ความไร้ระเบียบของลูกสาวถือเป็นความรับผิดชอบของฉัน เพราะฉะนั้นหน้าที่อบรมก็ต้องให้ฉันเป็นคนทำ ถูกต้องรึเปล่า?” เธอเอ่ยเป็นเชิงถาม แต่ทุกคนรู้ดีว่าตัวคนถามไม่ได้ต้องการคำตอบ แม้ว่าแต่ละคนอยากจะท้วงซักแค่ไหนก็ตาม ก็ถ้าการ ‘อบรม’ ของนายหญิงแห่งคฤหาสน์ลา วาลิเอลเป็นเหมือนปกติชนเขาก็คงไม่ต้องมาเป็นห่วงอย่างนี้
“หลุยส์สำคัญกับพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นจะอ่อนข้อให้ไม่ได้เด็ดขาด [พายุยักษ์] คนนี้จะเป็นคนตัดสินบทลงโทษให้กับหลุยส์เอง”
เช้าวันต่อมา
รถม้าคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาในเขตแดนของลา วาลิเอล เด็กสาวผมสีชมพูนั่งกุมมือแน่นอยู่ข้างใน ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความกังวล
นั่งอยู่ตรงข้ามเธอคือแฟนธอม เอ็กซ์บอกให้เขาตามเธอมาแทนตัวเองที่ลุกไปไหนไม่ได้ และอดีตองครักษ์เงาก็ทำตามโดยไม่ขัดข้อง(องค์ราชินีเองก็เห็นดีด้วย)
ถ้าเรปลิลอยด์หนุ่มในชุดคลุมอยู่ที่นี่ด้วยจะเข้าใจความรู้สึกเด็กสาวตอนนี้ได้ดีที่สุด ดยุคลา วาลิเอลที่เข้มแข็งดุดันดั่งผาสูง พี่สาวคนโตที่ตามที่เธอเล่าให้เขาฟังเป็นต้นเหตุนิสัยแกว่งแส้ของหลุยส์ตอนที่เจอกันแรกๆ เธอจะกลัวก็ไม่แปลกตรงไหน
แต่เขาคนนั้นไม่อยู่ที่นี่ตอนนี้ นอนซมอยู่ที่ปราสาททริสเทเนีย เหลือแค่เธอต้องผจญความโหดร้ายเพียงคนเดียว
อาจจะคิดว่าใช้คำว่า ‘โหดร้าย’ กับครอบครัวของตัวเองมันไม่ดี แต่คนนอกไม่มีทางรู้ดีเท่ากับเด็กสาว ว่าเมื่อเธอขัดคำสั่งโดยตรงจากผู้เป็นพ่อหรือแม่แล้วจะเป็นเช่นไร
แฟนธอมสังเกตสีหน้าและท่าทางของหลุยส์มาโดยตลอดก็สงสัยแบบเดียวกันนี้ ปกติเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไหนโดยไม่จำเป็น แต่ครั้งนี้ทั้งมาสเตอร์เอ็กซ์ทั้งองค์ราชินีฝากฝังหน้าที่นี้มาด้วยตัวเอง เขาต้องให้ความช่วยเหลือเด็กสาวคนนี้อย่างเต็มที่ และเพื่อการนั้นเขาก็จำเป็นจะต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“กลัวที่บ้านลงโทษเหรอครับ?” เขาถามสิ่งแรกที่เข้ามาในสมอง
หลุยส์ชะงักตัวเกร็งแว้บหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ โดยไม่มองหน้าคนถาม ยิ่งทำให้เขาสงสัยมากขึ้น
“ใครกันครับที่น่ากลัวขนาดนั้น?”
อาการชะงักกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ตามมาด้วยอาการตัวสั่นระริก แต่หลุยส์ก็เปิดปากตอบเสียงแผ่ว
“...รู้จักอดีตหัวหน้าฝูงบินแมนติคอร์รึเปล่า?”
แฟนธอมเลิกคิ้ว ไม่นึกว่าจะได้ยินเรื่องเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนเขามาถึงจากเด็กสาวอายุเท่านี้
“ศึกษามาบ้างครับ จากคำบอกเล่าปากต่อปากและในบันทึกที่ปราสาท พายุยักษ์ คารินผู้ปกปิดใบหน้าซีกล่างด้วยหน้ากากเหล็ก เริ่มรับใช้อาณาจักรในฐานะผู้ใช้ลมเมื่อสามสิบปีก่อน พายุยักษ์เป็นสัญลักษณ์แทนเวทย์มนต์ที่จอมเวทย์ผู้นี้ใช้” แฟนธอมเล่าตามที่ได้ยินจากในหมู่ขุนนาง และแม้แต่จากราชาองค์ก่อนเอง
“ครั้งหนึ่งแกรนดยุคยูสทัซก่อการกบฏ พายุยักษ์คารินก็ปราบลงด้วยตัวคนเดียว และเมื่อครั้งที่ทำการรบพุ่งกับกองทัพเยอร์มาเนียที่ชายแดน เพียงแค่ข่าวลือว่าพายุยักษ์ได้มาถึงแนวหน้าก็ทำให้เยอร์มาเนียถอยทัพไปอย่างรวดเร็ว” บอกตามตรง แม้แต่แฟนธอมก็รู้สึกชื่นชมในวีรกรรมระดับนี้ของมนุษย์เพียงคนเดียว
“ว่ากันว่าเธอเป็นหญิงสาวในคราบของอัศวินหนุ่ม เป็นผู้ที่งดงามหาที่เปรียบมิได้ เรื่องนี้ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้...การที่ท่านถามข้าถึงคนคนนี้ก็หมายความว่าพายุยักษ์คารินคือคนที่ข้าถามถึง อย่างนั้นสินะครับ”
“...แม่ของฉันเองแหละ...” ความรู้สึกภูมิใจที่ลูกสาวควรจะมีถูกกลบด้วยความกลัวจนหมดสิ้น
“แล้วรู้รึเปล่า กฎที่ฝูงบินแมนติคอร์ยึดถือในตอนนั้นน่ะ? ...มันคือ ‘กฎแห่งเหล็กกล้า’ สิ่งที่แม่ของฉันเกลียดที่สุดก็คือการขาดวินัย...”
แฟนธอมฟังอย่างเข้าใจ เพราะเขาเองเมื่อครั้งที่ยังเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบเงาสังหารซึ่งล้วนประกอบด้วยทหารชั้นหัวกะทิก็มีแนวคิดแบบเดียวกันนี้
ภายในรถม้าตกอยู่ในความเงียบ ด้านนอกเป็นยอดแหลมของคฤหาสน์และกำแพงที่ล้อมรอบอยู่อีกไม่ไกล ทว่าตอนนั้นเองที่สายลมอันรุนแรงพัดเข้ามากะทันหัน
พายุหมุนดึงเอาทั้งม้าและรถลอยสูงขึ้นไป คนในรถเสียสมดุลหกคะเมนตีลังกา แต่อดีตองครักษ์เงารักษาสติไว้ได้มั่นคง แขนซ้ายหนีบตัวเด็กสาวขณะที่มือขวาดึงเอาชูริเคนเหล็กจากกลางหลังปาทะลุคันรถออกไปแล้วกระโดดตามไปเกาะ
รถและม้าค่อยๆ ลดระดับลงสู่พื้น และแผ่สองสลึงค์หมดสภาพหลังจากถูกปั่นเหมือนผ้าในเครื่องซัก อดีตองครักษ์เงาลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยและเก็บชูริเคนคืนดังเดิม
หลุยส์ลงยืนกับพื้นและหันไปทางแมนติคอร์ที่กระพือปีกของมันขณะที่ลงยืนกับพื้น อัศวินในชุดเกราะเหล็กและผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ หมวกปีกกว้างประดับด้วยขนนกสีขาว หน้ากากเหล็กปิดใบหน้าซีกล่าง ‘ดุดัน’ คืออัศวินร่างบางผู้นี้ที่แผ่ ‘ความน่าหวาดหวั่น’ ออกมาจนล้นบรรยากาศ
“หลุยส์”
“ท—ท่านแม่”
แน่นอนว่าเราทุกคนที่เคยเห็นหลุยส์ยามโกรธย่อมรู้ดีว่าเธอนั้นน่ากลัว แต่เมื่อเปรียบอัศวินร่างบางผู้นี้แล้ว เธอคือหนู อัศวินคือสิงห์
ปราสาททริสเทเนีย
เอ็กซ์ลืมตาอยู่บนเตียงในห้องรับรองแขกห้องเดิมที่เขาพักอยู่มาตั้งแต่คืนวานซืน เขาไม่พูดอะไร และก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ขณะที่เสียงในตัวคุยกับเขาอย่างเจื้อยแจ้ว
(ไง ยอมแพ้รึยัง? จะลองเรียกระบบขึ้นมาดูก็ได้นะ ข้าไม่ได้บล็อกส่วนนั้น อุตส่าห์เหลือไว้ให้แกได้ติดตามชะตากรรมของตัวเองอย่างใกล้ชิดเชียวนะ)
ทำการตรวจสอบระบบ...
คำเตือน! 95% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
คำเตือน! 95% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
คำเตือน! 96% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
คำเตือน! 96% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
คำเตือน! 97% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
คำเตือน! 97% เกิดการขัดข้อง ไม่สามารถสั่งงานได้
--
แนะนำตัวละคร
“พายุยักษ์” คาริน
ข้อมูล : จาก Kaze no kishihime เป็นไลท์โนเวลเรื่องที่สามในซีรี่ส์ Zero no Tsukaima ตามติดชีวิตของ “คาริน” เด็กสาวที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าฝึกเป็นอัศวิน ถ้าเข้าใจไม่ผิดในภาพน่าจะอายุสิบแปด และแน่นอน...แม่ของหลุยส์
(เครดิตภาพ : bakatsuki.org)
--
S:”โห! แม่หลุยส์ตอนสาวๆ เหรอนั่นน่ะ!”
DX:”ไม่เคยเห็นมาก่อนสินะ ต้องยอมรับว่าดูใจเด็ดกว่าลูกสาว”
R:”ไม่เคยอ่านครับ หาอ่านไม่ได้ ฉะนั้นก็คงไม่มีข้อมูลที่ไหนจากเล่มนั้นหรอก ทั้งหมดที่แต่งนี่ก็เอามาจาก Zero no Tsukaima ไลท์โนเวลล้วนๆ”
DX:”สำหรับความคาดหวังของผู้อ่านที่เคารพนะครับ ก็อปปี้เอ็กซ์คงอยู่ไม่นาน คนเขียนไม่ได้วางแผนอะไรซับซ้อนขนาดนั้น มันขี้เกียจจะตายไป”
R:”เฮ้ย!”
ความคิดเห็น