ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : เพราะอย่างนี้ไง เขาถึงห้ามเด็กกินเหล้า!! ...คำเตือน: แฟนท่านไม่เหมือนโคลมนะ...
เย็นแล้ว ดวงอาทิตย์กลมโตครึ่งหนึ่งจมลงในเส้นขอบฟ้ายามพลบค่ำในเมืองนามิโมริ เสียงเครื่องยนต์เคลื่อนเข้ามาใกล้ประตูคฤหาสน์ทรงญี่ปุ่นอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดสนิท
เสียงเครื่องดับลง ร่างเล็กที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ก้าวลงมาก่อน ขณะที่ร่างสูงผู้เป็นคนขับส่งกุญแจให้พวงหนึ่ง เด็กสาวผมม่วงได้มาก็นำไปเปิดประตูหน้าคฤหาสน์ให้เด็กหนุ่มผมดำเข็นรถเข้าไป (R:ถึงบ้านแล้วดับเครื่อง ประหยัดน้ำมันกันดีกว่าครับ ผมกลัวหายนะจะบังเกิดแก่โลกก่อนฟิคนี้จบ)
หลังจากนำรถไปเก็บ ทั้งคู่ก็เข้าไปในตัวคฤหาสน์พร้อมกัน
ทันทีที่เท้าของเด็กสาวผมม่วงเหยียบลงไปบนพื้นไม้ซึ่งยกสูงจากพื้นเดินไม่ถึงสามสิบเซ็นต์เธอก็เซเข้าใส่เด็กหนุ่มผมดำที่อยู่ข้างๆ
“...ขอโทษค่ะ รู้สึกหน้ามืดนิดหน่อย...” เธอเอ่ยขอโทษเจ้าของบ้านที่มองเธออย่างพินิจพิจารณา
เขาเคยเห็นอาการแบบนี้มาก่อน มันคืออาการของคนขาดน้ำและเกลือแร่ในเลือด สาเหตุก็ง่ายๆ คือตากแดดมากเกินไป ย่อมทำให้เพลีย ยิ่งถ้าไม่ชินกับการโหมแรงหนักๆ หรือมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง
“ไปหาน้ำหวานในตู้เย็นดื่มซะ แต่อย่าดื่มมาก เพราะใกล้เวลานอนแล้ว ส่วนข้าวเย็น งด” เด็กหนุ่มประมวลผลในสมองและออกคำสั่งในคราวเดียว ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
โคลมเดินไปที่ห้องครัวโดยพยายามให้ท่าทางดูปกติที่สุด แต่เพลียก็คือเพลีย เพียงแค่ไม่ให้เซล้มก็ยากแล้ว หยิบอะไรในตู้เย็นที่ดูเป็นน้ำหวานได้ก็หยิบมา ไม่มีแรงจะเลือกมาก
ฮิบาริซึ่งไม่คิดจะงดข้าวเย็นตัวเองก็แยกไปทำอาหารของตัวเองที่มุมหนึ่งของห้องครัว ด้วยความที่สัตว์กินเนื้อนั้นไม่เคยเลือกมาก ไม่นานเขาก็ได้อาหารง่ายๆ อย่างข้าวผัดหมูมาหนึ่งจาน เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง เพราะถ้าพูดถึงแล้วจะโดนตื้บ ข้อหาวิจารณ์(ทางที่ดีหรือไม่ดีก็ช่าง)
ทั้งคู่ต่างจัดการกับอาหารของตัวเองบนโต๊ะกินข้าวอย่างเงียบๆ จนกระทั่งจานของเด็กหนุ่มว่างเปล่าแล้ว เขาจึงสังเกตเห็นว่าสิ่งที่เขาสั่งให้เด็กสาวไปหามาดื่มกับอาการของเธอนั้นไม่สอดคล้องกันแม้แต่น้อย
แทนที่จะมีแรงขึ้นมา เด็กสาวกลับทำท่าจะฟุบลงกับโต๊ะ แถมยังมีอาการลืมตาไม่ค่อยขึ้น และแก้มก็มีสีแดงเรื่อ
“เป็นอะไรไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่จะว่าเป็นห่วงก็ไม่ใช่ไม่พอใจก็ไม่เชิง
แต่เด็กสาวก็ไม่ตอบกลับ เขาจึงต้องเข้าไปดูอาการใกล้ๆ
ฮิบาริแตะไหล่เด็กสาวผมม่วงพร้อมทั้งเรียกชื่อ เธอตอบสนองด้วยการหันมาจ้องหน้าเขาด้วยตาครึ่งหลับครึ่งตื่น
“ท่านเคียวยะ...” เธอครางชื่อเขาออกมาด้วยเสียงอ้อแอ้จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง ก่อนจะเริ่มสุ่มเรื่องพล่ามขี้นมาเฉยๆ จนอีกฝ่ายงงเต้ก
“ท่านเคียวยะช่วยฉันไว้มากจริงๆ... ทั้งยอมให้เข้าโรงเรียน ทั้งให้ฉันอยู่ที่นี่ แล้วยังลำบากพาฉันไปดูแข่งเบสบอล... ขอบคุณมากนะคะ...”
ในตอนนั้นแม้แต่เด็กหนุ่มผู้มีสายตาเฉียบคมก็ไม่ทันสังเกตว่าเด็กสาวเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เขาเรื่อยๆ
ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างนิ่มนวลโดยที่ฮิบาริไม่รู้สึกตัว แต่กลิ่นแปลกๆ ที่ฉุนเตะจมูกทำให้เขารู้สึกตัวและผละออก
เด็กหนุ่มสำรวจของเหลวในแก้วทันที และพบว่ามันเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลจริงๆ แต่มันเป็น ‘เหล้าหวาน’ ได้ทั้งน้ำตาลแถมด้วยแอลกอฮอล์เลย ยัยตัวยุ่งเพลียมากจนประสาทรับกลิ่นทำงานบกพร่อง กลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งยังไม่รู้
...แต่ถ้าเธอรู้สึกตัวว่าเมื่อกี้ทำอะไรลงไป เธอคงตายเพราะอายจนหัวใจล้มเหลวไปแล้ว...
ที่น่าแปลกคือ เขาไม่ชอบแอลกอฮอล์ ไม่มีทางซื้อมาเก็บไว้อยู่แล้ว และยัยตัวดีคนนี้ก็คออ่อนเหยาะแหยะ แค่ก้นแก้วก็เป็นขนาดนี้ คงไม่หามาดื่มหรอก สงสัยว่าจะเป็นของที่หนึ่งในกรรมการรักษาระเบียบที่เขาเคยเรียกให้มาทำความสะอาดคฤหาสน์แอบเอาเข้ามา แล้วไม่ได้เอากลับออกไป
แต่ที่มาของเครื่องดื่มต้องสาป(?)นี้จะเป็นอย่างไรนั้นไม่สำคัญ เพราะที่สุดท้ายของมันคือถังขยะมุมห้อง ส่วนโคลม โดคุโร่ที่กินเข้าไปแล้ว จะโดยรู้หรือไม่ก็ตามแต่ จำเป็นจะต้องให้เธอไปอาบน้ำและนอนพักผ่อนโดยเร็ว
...แต่สภาพนี้คงจะไม่ง่าย ต้องหาทางแก้เมาแบบเฉพาะหน้าไปก่อน
วิธีเดียวที่เขาพอจะนึกและทำได้ด้วยข้าวของที่มีในบ้านก็คือ กาแฟผงสองช้อนโต๊ะ+น้ำร้อนหนึ่งแก้ว คนเข้าไป ไม่ใส่น้ำตาล หายร้อนปุ๊บก็เรียกเด็กสาวผู้สะลึมสะลือให้รู้สึกตัวก่อนจะยกป้อนทันทีโดยไม่ให้มีโอกาสได้คัดค้าน (ซาดิสม์นิดๆ)
(R:วิธีนี้ใช้ได้ครับ หาสดๆ จากเน็ต หรือจะกลืนน้ำมะนาวแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วอ้วกกลับออกมาก็ได้ นอนพักต่อนิดหายเป็นปลิดทิ้ง(รึเปล่า?))
เด็กสาวไม่ตกใจที่เมฆาหนุ่มยกน้ำให้เธอซด แต่ที่ทำให้เธอตกใจจนสำลักคือมันขมปี๋ (แหงสิ ก็กาแฟไม่ใส่น้ำตาลนี่นา)
“ดื่มแก้วนี้ให้หมด แล้วไปอาบน้ำนอน” ฮิบาริออกคำสั่งเด็ดขาด ทำให้เด็กสาวผู้น่าสงสารต้องฝืนกลืนน้ำดำขมปี๋เข้าไป (R:คนเขียนรู้สึกกับตัวเองเลย ขนาดใส่น้ำตาลแล้วนะ...)
ประมาณห้านาทีเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง อาการหน้าแดงก็ลดลงไปนิดหน่อย เมื่อลุกเดินได้เธอจึงโซเซไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ
ทางด้านฮิบาริอาบน้ำเสร็จก่อนก็สวมยูคาตะนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขก สิบห้านาทีผ่านไป เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเด็กสาวที่ควรจะเดินผ่านทางเดินนอกห้อง
เขาเห็นว่านานผิดปกติ จึงเดินไปดูที่ห้องน้ำ เสียงฝักบัวยังคงดังลอดออกมา แต่เมื่อเขาเรียกกลับไม่มีเสียงตอบกลับ ประตูห้องน้ำไม่มีกลอนหรือลูกบิดล็อก เขาจึงเปิดผางเข้าไปทันที
ห้องน้ำในคฤหาสน์ทรงญี่ปุ่นนี้ไม่ใช่ห้องใหญ่มากมาย มีฝักบัวและอ่างอาบน้ำเหมือนที่เห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นทั่วไป แต่ห้องน้ำจะเป็นยังไงก็ช่าง เด็กสาวผมม่วงนั่งแนบหน้ากับกำแพงใต้ฝักบัว ตาทั้งสองปิดสนิท ถ้ามีเลือดนองพื้นหน่อยล่ะใช่ฉากฆาตกรรมเลย
ถือว่าเป็นบ้านตัวเอง ฮิบาริย่างสามขุมเข้าไปหาเด็กสาวที่ตัวเปลือยเปล่าโดยไม่สนใจหยดน้ำที่เทลงมาจากฝักบัวเหมือนเม็ดฝน
‘หลับในห้องน้ำงั้นเหรอ...’ เด็กหนุ่มคิดว่าเด็กสาวคนนี้ช่างบอบบางซะเหลือเกิน แต่คนมันไม่เคยกินเหล้านี่
ยังดีที่เด็กสาวจัดการทำความสะอาดตัวเองจนเรียบร้อยเกือบหมด ไม่เหลือฟองสบู่ตรงจุดไหน ฮิบาริจึงปิดฝักบัวและพาตัวเด็กสาวกลับไปที่ห้องของเธอ
ยังไงก็เห็นไส้เห็นพุงกันจนหมดเปลือกแล้ว การสวมเสื้อผ้าให้เด็กสาวจึงไม่ใช่งานลำบากของเขา ซึ่งยังคงค้นข้าวของผู้หญิงได้อย่างหน้าไม่อายเหมือนเดิม (ด่าซะชัดมาก)
ฮิบารินั่งขัดสมาธิมองดูเด็กสาวที่สลบไสลไม่ได้สติในห้องที่ปราศจากแสงไฟอย่างเงียบเชียบ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าจนถึงบัดนี้เขายังไม่เคย ‘ขย้ำ’ เธอคนนี้แม้แต่ครั้งเดียว
โคลม โดคุโร่ เธอช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทั้งบอบบางและบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต่างกับนายของเธอเหมือนเกวียนเทียมม้ากับเครื่องบินคองคอร์ด แต่ใจเธอกลับเข้มแข็งไม่เหมือนกับพวกสัตว์กินพืชรวมพวก เป็นสิ่งที่เขาเคารพ
...เคารพ? บางทีเขาอาจจะรู้สึกเคารพเธอในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นเด็กสาวที่เขาไม่รังเกียจ เป็น ‘คนของเขา’
มือเรียวเล็กของร่างที่ไม่ได้สติกำชายยูคาตะของเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะลุกออกไป สะกิดมือเธอยังไงก็ไม่ยอมปล่อย
ถ้าเป็นปกติเขาคงบังคับดึงออกแล้วลุกหนีไปเป็นอย่างน้อย แต่วันนี้เขาไม่รู้สึกอยากทำอย่างนั้นเลย
ยังไงเธอก็ช่วยไม่ให้เขาถูกสัตว์กินพืชเจ้าเล่ห์หลอกอันเป็นการเสื่อมเสียเกียรติอย่างรุนแรง เขาจะถือว่านั่นเป็นสาเหตุ แล้วก็ตามใจเด็กสาวคนนี้ซักวัน เพราะงั้นถึงจะโดนเด็กสาวคนนี้ขโมยจูบไป เขาก็ไม่เอาความ ...แค่จะเก็บเอาไว้เป็นบทลงโทษเธอทีหลัง...
ในเมื่อลุกไปไหนก็ไม่ได้แล้ว ไฟก็ปิดจนหมด และยังไงห้องนี้ก็เป็นบ้านของเขา จะนอนที่นี่ซะเลยจะเป็นไรไป
เด็กสาวผู้หลับไม่รู้สถานการณ์รอบตัวเมื่อรู้สึกถึงแหล่งให้ความอบอุ่นอยู่ใกล้ตัว ด้วยสัญชาติญาณก็ซุกตัวเข้าไปหาพร้อมทั้งกอดเอาไว้หลวมๆ น่าตกใจที่คนอย่างฮิบาริ เคียวยะปล่อยให้เธอทำตามต้องการ
โดยไม่รู้ตัว คืนนั้นเป็นคืนที่อบอุ่นที่สุดตั้งแต่ทั้งสองเกิดมา...
--
R:”หวาว~!! เป็นตอนที่รู้สึกว่าไม่เลวเลย ต้องขอบคุณคุณ Larissa มาก ไม่ได้คุณช่วยกระตุ้น ผมคงไม่มีวันนี้(ประโยคคุ้นๆ) หวังว่าคงพอใจผู้อ่านทุกท่าน”
DX:”ไม่น่าเชื่อ... นี่แกแต่งตอนนี้เสร็จในสองชั่วโมงครึ่งเลยเหรอ...”
R:”แบบว่าไอเดียมี กำลังใจมา ก็ได้ตามที่เห็น แก้บ้างนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็ทำให้นึกถึงสมัยก่อน ที่ยังด้อยฝีมือแต่ไฟแรง...(รำลึกถึงอดีตเล็กน้อย) นานแล้วที่ไม่ได้แต่งได้เต็มตอนในวันเดียว...”
M:”แต่งได้เยี่ยมจริงๆ ครับ แต่ทั้งตอนมีพูดถึงผมครั้งเดียว แถมไม่ออกชื่อแบบนี้แสดงว่ากะทิ้งผมใช่มั้ยครับ ขนาดซาซางาว่า เรียวเฮยังได้บทพูดมากกว่าผมเลย”
R:”แสดงว่าแกคงไม่ได้สังเกตล่ะสิว่าบทพูดแกมันน้อยกว่าแรมโบ้อีก”
M:”ห๊ะ O_O!!?!!”
DX(โบกมือไปมาผ่านหน้ามุคุโร่):”เฮ้!...เฮ้ย!...”
R:”สงสัยจะช็อกมาก แหงล่ะ เป็นใครก็ช็อก ไม่ไปซัดหลาวตาย(?)ก็ดีแค่ไหน“
M(ทรุดลงกับพื้นในท่าคลาน):”*งึมงำงึมงำงึมงำงึมงำ*”
R:”ใกล้เคียงแฮะ...”
*ซัดหลาวตาย เป็นคำที่ผมได้รับมาจากอาจารย์ที่โรงเรียนท่านหนึ่งที่มีความสามารถในการพูดเล่นกับนักเรียนโดยคงสีหน้าเดิมไว้ได้ ไม่มีหัวเราะกับมุขตัวเอง เห็นว่าเป็นศัพท์ใหม่ที่ไม่พบในฉันเกิ้ล และไม่ควรเผยแพร่ จึงนำมาให้ทุกคนได้ทราบกัน(?) (DX:พวกขวางโลก)
--
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น