ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : โลกใบใหม่

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 11: เวลาที่หยุดเดิน

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 61


    ที่อาณาจักรทริสเทน เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งตั้งอยู่เขตปลายสุดเกือบถึงทะเล เป็นเมืองท่าที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน ชื่อของมันคือ<ลา โรแชลล์>

     

    รุ่งอรุณมาเยือน ชายวัยกลางคนเจ้าของบาร์ [ถังไวน์ทอง] เปิดประตูออกไปด้านหลังร้าน

     

    อืม~ วันนี้อากาศดีจริงๆ~” เจ้าของบาร์สูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอด บาร์ของเขาจะไม่เปิดจนกว่าจะเย็น

     

    บาร์ก็ต้องเปิดตอนเย็นและกลางคืน แล้วทำไมเขาถึงตื่นแต่เช้า? ความจริงแล้วเขากำลังจะไปนอนตะหาก

     

    หันหลังเตรียมจะเดินกลับเข้าร้าน สายตาไปสะดุดเข้ากับร่างที่พิงอยู่ข้างประตู ขาที่เขาออกจากร้านมาประตูที่เปิดบังพอดีจึงไม่เห็น แต่ที่ตรงนั้นมีเด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทาที่มีรอยถลอกทั่วตัวนั่งหลับตาอยู่ อกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างช้าๆ แสดงถึงความมีชีวิต

     

    นี่ เป็นอะไรรึเปล่า?! นี่!” เจ้าของร้านเข้าไปเขย่าตัวเด็กหนุ่ม เมื่อได้สัมผัสตัวจึงรู้ว่าร่างกายของเด็กหนุ่มนั้นเย็นเฉียบ อาจเป็นไปได้ว่าเด็กหนุ่มอยู่มาตลอดคืนโดยไม่มีแม้ผ้าห่มสักผืน

     

    เจ้าของร้านอุ้มร่างของเด็กหนุ่มขึ้นและพาเข้าไปในร้าน ประตูปิดลง

     

    ...

     

    .....

     

    ฮึก...ฮึก...

     

    ร้องไห้ทำไม อังริเอตต้า?

     

    ข้าฝันถึงท่านพ่อ...

     

    ...มาทางนี้สิ

     

    แขนที่สวมเกราะสีน้ำเงินเอื้อมลอดลูกกรงออกไปสวมกอดและลูบศีรษะปลอบประโลมเด็กหญิงอายุแปดขวบที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตา

     

    เสียคุณพ่อไปทำให้เธอเสียใจมากใช่รึเปล่า ถ้าเสียใจก็ร้องไห้ออกมาจนกว่าจะพอใจเถอะ อย่าฝืนเลย...

     

    มือที่ลูบหลังและเสียงที่อ่อนโยนทำให้เด็กหญิงปล่อยน้ำตาที่กลั้นไว้ออกมาเป็นสาย ร่างสีน้ำเงินโอบกอดเด็กหญิงเอาไว้กับอกที่เป็นโลหะ ทั้งแข็งและเย็นเฉียบ เขารู้สึกเศร้าใจที่ร่างกายนี้ไม่สามารถให้ความอบอุ่นกับเธอได้

     

    ข้าไม่เข้มแข็ง...ฮึก...เหมือนที่ท่านพ่อต้องการ!...ฮือ~!!

     

    เธอทำได้ดีแล้ว อังริเอตต้า เธออดทนได้ดีมาก ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องพักบ้างแล้ว ร้องไห้ออกมาให้หมด แล้วเธอก็จะกลับไปเข้มแข็งได้อีกครั้ง ความเศร้าทั้งหมดของเธอฉันจะรับไว้เอง...

     

    ...

     

    เอ็กซ์ลืมตาขึ้นในห้องที่เขาไม่คุ้นเคย เพดานสีขาว และห้องที่ค่อนข้างแคบ เตียงเดี่ยวสีขาวที่มีเพียงหมอนหนึ่งใบ กับเฟอร์นิเจอร์พื้นๆ เพียงโต๊ะกลมและเก้าอี้ไม้อย่างละหนึ่งตัว มีแจกันและดอกไม้วางประดับ

     

    เขาจะยกแขนขึ้น แต่รู้สึกไม่มีแรง มึนหัว ตาลาย เขารู้สึก...ป่วย

     

    เอ็กซ์รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ทั้งตึ้บๆ และตุบๆ ต้องทำสมองให้ว่าง ไม่คิดอะไรเลย อาการปวดจึงค่อยทุเลาลง

     

    ทว่าเพราะฝันเมื่อครู่ เขาจึงไม่สามารถทำอย่างนั้นได้

     

    บทสนทนาในอดีตกับอังริเอตต้าที่ร้องไห้มาหาเขา ตอนนั้นเธอยังทำใจกับการจากไปของพ่อไม่ได้

     

    ตอนนั้นเราโอบอังริเอตต้าเอาไว้เพื่อปลอบให้หายเศร้า...คราวนี้ต้องเสียองค์ชายเวลส์...โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ...จะทำใจได้รึเปล่า...เราจะยังสามารถปลอบอังริเอตต้าในปัจจุบันได้แบบนั้นอีกรึเปล่านะ...

     

    ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัว ขณะเดียวกันความรู้สึกหม่นหมองก็เข้าเกาะกุม เพราะเขามีคำตอบให้กับคำถามนั้นอยู่แล้ว ว่าอังริเอตต้าในตอนนี้ไม่เห็นเขามีความสำคัญอันใด มีเพียงเวลส์ที่ทำให้โลกของเธอหมุนได้...

     

    ...

     

    เอ็กซ์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความสดชื่น ถ้าไม่นับร่างกายที่ฝืดจากการนอนมากเกินไป อาการป่วยของเขาก็นับว่าหายเป็นปลิดทิ้ง

     

    เขายังอยู่บนเตียงตัวเดิมในห้องเดิม แต่คราวนี้มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ข้างเตียง

     

    ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกเป็นไงบ้าง?

     

    เอ็กซ์ลองลุกขึ้นนั่งดูก็รู้สึกแน่นๆ ที่ท้อง เสื้อคลุมสีขาวของเขาถอดวางอยู่ที่โต๊ะข้างๆ เขาจึงเลิกเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาลขึ้นดู เห็นผ้าพันแผลพันรอบ เป็นสีขาวสะอาดไม่มีรอยเลือด และก็ไม่รู้สึกเจ็บมากเท่าก่อนหน้า

     

    ขอบคุณมากครับ สบายขึ้นเยอะแล้วล่ะครับ เอ็กซ์ยิ้มและตอบอย่างเป็นมิตร ชายวัยกลางคนยิ้มตอบ

     

    ดีแล้วล่ะ จำฉันได้รึเปล่า? เจ้าของบาร์ที่เธอกับเด็กผู้หญิงใส่แว่นเข้ามาเมื่ออาทิตย์ก่อน

     

    เอ็กซ์เลิกคิ้วขึ้น และเพ่งดูใบหน้าของชายวัยกลางคนอย่างตั้งใจ ผมค่อนข้างสั้น หนวดเครายาวติดกันสีเทา ใบหน้าดูกร้านนิดๆ พอจะเป็นทหารรับจ้างรุ่นใหญ่ได้

     

    จำได้แล้วครับ เอ็กซ์ยิ้ม ก่อนจะถามคำถาม บอกว่า อาทิตย์ก่อน... ผมหลับไปนานเท่าไหร่เหรอครับ?

     

    ฉันเจอเธอพิงอยู่ข้างประตูเมื่อสามวันก่อนนี้เอง เธอเป็นไข้สูงมาก แล้วยังแผลเต็มตัว โดยเฉพาะที่ท้องสาหัสเอาการ สามวันดีขึ้นได้ขนาดนี้ถือว่าเร็วมากทีเดียว

     

    ผมเป็นนักเดินทางน่ะครับ ร่างกายก็เลยทนกับเรื่องพวกนี้พอสมควร

     

    เอ็กซ์ขอบคุณเจ้าของบาร์ที่ช่วยดูแลเขาจนหายไข้ แต่ร่างกายเขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เจ้าของร้านแนะนำตัวว่าชื่อ เบอร์นาร์ด’—ยืนกรานให้เขาพักต่ออีกสักวัน นักเดินทางหนุ่มไม่ใช่คนที่มีธุระรัดตัวอะไรก็ตอบตกลง แต่ขอช่วยงานในบาร์เขาเป็นการตอบแทน

     

    ตกหัวค่ำ บาร์เปิดตามปกติ ลูกค้ายังคงเนืองแน่นไปด้วยทหารรับจ้างและนักเลงเจ้าถิ่น บางคนมีผ้าพันแผลพันตามร่างกาย เป็นแผลไฟลวกหรือไม่ก็แผลถูกของมีคม

     

    เอ็กซ์รู้ว่าแผลพวกนั้นมาจากสาเหตุใดแต่เงียบไว้ไม่พูดอะไร เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไป ต่างฝ่ายต่างก็บาดเจ็บ แล้วมันก็เป็นงาน ก็ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด

     

    นี่ รู้รึยังว่าทริสเทนกับเยอร์มาเนียลงสรุปผูกสัมพันธไมตรีกันแล้วนะ

     

    บทสนทนาหนึ่งภายในร้านกระตุ้นความสนใจของเอ็กซ์ แม้จะทำงานหอบอาหารเครื่องดื่มไปด้วย แต่เขาก็ขยายการรับฟังเพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น

     

    ฮ้า~ ในที่สุดก็จับมือกันจนได้เหรอเนี่ย ก็สมควรอยู่หรอก สถานการณ์หมิ่นเหม่ขนาดนั้น แล้วทางอัลเบี้ยนว่ายังไง? หรือยังไม่เข้าที่เข้าทาง?

     

    จัดตั้งคณะปกครองใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกันนั่นล่ะ เห็นว่าติดต่อทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกันกับพันธมิตรทริสเทน-เยอร์มาเนียแล้วอีกตะหาก

     

    โห ทำอะไรฉับไวจริงๆ จักรพรรดิครอมเวล

     

    เอ็กซ์เพ่งสมาธิฟังอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มไปกว่านั้น

     

    เชื่อมสัมพันธไมตรีกันเรียบร้อยแล้ว หมายความว่าการอภิเษกก็เป็นที่แน่นอนแล้ว...

     

    เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกันแน่

     

    อ้าว! ลูกชายมาสเตอร์กลับมาแล้วเหรอเนี่ย?!” ลูกค้าขาประจำคนหนึ่งทักเมื่อเห็นเอ็กซ์ยกเครื่องดื่มไปให้ ทำให้เขาต้องเลิกคิดชั่วคราว

     

    เปล่าครับ ผมแค่ลูกจ้างชั่วคราว แต่ว่ามาสเตอร์มีลูกชายด้วยเหรอครับ? เอ็กซ์ปฏิเสธ ก่อนจะถามถึงประเด็นที่ขึ้นมา

     

    ใช่ มีอยู่คนนึง พอดูดีๆ แล้วหน้าก็ไม่ได้คล้ายกันขนาดนั้นนะ? แต่ผมสีเดียวกับน้องชายนี่ล่ะ เห็นว่าออกไปดูโลกกว้างหรืออะไรซักอย่าง

     

    นึกขึ้นได้ว่ามีรูปผู้หญิงผมสีขาวตั้งอยู่ในห้องที่เขานอน คงจะเป็นภรรยาของเจ้าของบาร์ลูกชายคงจะได้สีผมมาจากแม่ เอ็กซ์พยักหน้าเข้าใจ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย

     

    ...

     

    ถึงเวลาเช้า ลูกจ้างคนอื่นๆ เก็บร้านเสร็จก็พากันกลับบ้านไปพักผ่อน เหลือมาสเตอร์กับผู้อาศัย

     

    แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทายืนอยู่หน้าเตียงสีขาว คาดผ้าสีแดงรอบเอว คาดเข็มขัดกระเป๋าทับ ผูกเชือกป่านจากปลอกดาบสั้นกับสายคาดกระเป๋าที่เอวซ้าย เขาเตรียมตัวพร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง

     

    ขอบคุณมากครับสำหรับความกรุณา

     

    อืม ขอให้เธอโชคดี

     

    เอ็กซ์บอกลาเจ้าของบาร์ที่อุตส่าห์มาส่งถึงประตู

     

    แล้ว...เธอจะไปที่ไหนต่อล่ะ?

     

    กำลังคิดว่าจะไปทริสทาเนีย แต่ที่สุดก็แล้วแต่ขาจะพาไปครับ

     

    ...แม้แต่ที่ที่อันตรายงั้นเหรอ?

     

    เอ็กซ์เลิกคิ้วขึ้นกับคำถามที่ดูผิดธรรมชาติ เจ้าของบาร์หยิบรูปใบหนึ่งออกมา เป็นภาพวาดของเด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเอ็กซ์และมีผมสีเดียวกัน ที่คอสวมสร้อยเขี้ยวสัตว์สามเขี้ยวร้อยด้วยเชือกป่าน

     

    ...ฉันมีลูกชายอยู่คนนึง ชื่อ [จูลส์] เมื่อสองปีก่อนฉันให้ไปเก็บสมุนไพรที่ขึ้นแต่บนยอดเขา เจ้านั่นก็ไปที่เขาทางตะวันออก...จากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย

     

    เอ็กซ์ตาโตกับเรื่องราวที่ผิดไปจากที่ได้ยิน

     

    ลูกชายของคุณไม่ได้ออกเดินทางไปหรอกเหรอครับ?

     

    ...วันเดียวกับที่ลูกชายของฉันไป ข่าวเรื่อง<โคเบลด์>มาตั้งรกรากที่เขาฝั่งตะวันออกก็ลือมาถึงในเมือง ฉันจะออกไปตามหาเองก็คงไม่พ้นต้องเสียชีวิตให้เจ้าพวกนั้น แจ้งทางการไปแล้วก็รับแต่ปาก ลูกชายฉันน่ะคงจะถูกพวกโคโบลด์ฆ่าไปแล้ว ฉันคิดว่าซักวันก็จะทำใจยอมรับได้ แต่ว่า...

     

    เจ้าของบาร์หันไปทางทิศที่ดวงอาทิตย์ยามเช้าส่องแสง แต่สิ่งที่เห็นก็มีเพียงหน้าผาสูง

     

    เหมือนเวลาของฉันหยุดไปตั้งแต่ตอนนั้น ปีนึงก็แล้ว สองปีก็แล้ว ฉันก็ยังทำใจให้เชื่อไม่ได้ว่าลูกชายของฉันตายไปแล้ว คิดว่าวันหนึ่ง เจ้านั่นอาจจะเปิดประตูเข้ามาในร้าน บอกขอโทษที่กลับมาช้าเหมือนทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวเตร่ตอนดึก ถ้าบอกกับทุกคนว่าเจ้านั่นตายไปแล้ว ก็เหมือนเป็นการทิ้งความหวังนั้นไป ฉันกลัวที่จะทิ้งความหวังนั้น ถึงได้บอกไปแบบนั้น

     

    เอ็กซ์นิ่งฟังโดยไม่ปริปาก มองดูใบหน้าที่เจ็บปวดของชายวัยกลางคนผู้มีพระคุณต่อเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขามองคนคนหนึ่งที่สถานการณ์ไม่ต่างจากเด็กสาวที่เขารัก เสียคนที่รักไปในที่ห่างไกล ไม่แม้แต่จะได้รับคำลา

     

    ขอโทษนะที่พูดอะไรแปลกๆ ให้ฟัง แต่เห็นเธอแล้วทำให้ฉันนึกถึงลูกชาย ยังไงก็ขอให้โชคดีนะ!” เจ้าของบาร์สลัดความเศร้า ตั้งใจส่งเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้ม

     

    เอ็กซ์ลาตอบ และเริ่มออกเดินไปตามทางของเขา

     

    ...

     

    ตะวันใกล้ขอบฟ้าเข้าไปทุกที ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม

     

    เบอร์นาร์ดเดินมาเปิดประตูหน้าร้านเพื่อรอลูกจ้าง

     

    เขาได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ก็ก้มลงมองที่พื้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

     

    สิ่งมีชีวิตสองขาความสูงประมาณหนึ่งเมลครึ่งดิ้นพล่านอยู่กับพื้น โซ่เส้นใหญ่พันรอบร่างกายอย่างแน่นหนา ศีรษะที่เป็นสุนัขเป็นเอกลักษณ์ของโคโบลด์

     

    แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือเสื้อผ้าขาดๆ ที่โคโบลด์สวม เป็นเสื้อสีขาวจืดชืดที่ถูกตัดให้สั้นลงจากขนาดเดิมและหมองคล้ำจากอายุการใช้งาน และสร้อยเขี้ยวสัตว์สามเขี้ยวร้อยด้วยเชือกป่านที่คอ

     

    นี่มัน... เบอร์นาร์ดช็อก เป็นใครก็ต้องช็อกถ้าเห็นข้าวของของลูกชายตัวเองอยู่กับเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกับมนุษย์

     

    มองไปข้างๆ โคโบลด์ที่ดิ้นพล่าน กุญแจดอกหนึ่งวางอยู่ เบอร์นาร์ดเก็บมันขึ้นมาและมองดูแม่กุญแจอันใหญ่ที่ล่ามโซ่เอาไว้

     

    เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

     

    เด็กหนุ่มผมสีบรอนซ์เทายืนหลังพิงโขดหินลอบมองชายวัยกลางคนและโคโบลด์ ก่อนจะออกเดินไปโดยไม่เหลียวหลังกลับไปมอง

     

    ติดอยู่กลางระหว่างความหวังและความสิ้นหวัง อยากจะก้าวต่อไปแต่ก็ไม่กล้าปล่อยมือจากแสงอันริบหรี่ที่อยู่เบื้องหลัง ความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จิตใจที่ไม่อาจสงบลงได้ เขาเพียงแต่ช่วยจบมันลงเท่านั้น

     

    เท่านี้เวลาของชายวัยกลางคนก็จะเริ่มเดินอีกครั้ง ทว่าชีวิตของเขาจะไปในทิศทางใดนั้นเอ็กซ์ไม่อาจทราบได้ และไม่ใช่สิทธิ์หรือธุระเช่นกัน

     

    ถ้าหากอังริเอตต้ามีจิตใจที่ขัดแย้งแบบเดียวกันนี้ คำถามที่ว่าเขาเป็นใครกันจะสามารถทำอะไรให้เธอได้ คำตอบที่ว่ามีแต่องค์ชายเวลส์ที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอ

     

    กุมเสื้อคลุมสีขาวตรงจุดที่มีกระเป๋าอยู่ด้านใน คลำแหวนที่เขาถอดมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ

     

    อังริเอตต้าเป็นผู้นำ ไม่มีเวลามากมายขนาดจะเสียไปกับการรอตั้งปีหรือสองปีได้ ถึงเขาจะต้องทำร้ายจิตใจเธอ ถึงเธอจะต้องร้องไห้ ถึงเธอจะต้องอาลัยอาวรณ์ชายอื่นที่ไม่ใช่เขา

     

    เขาจะทำให้เธอเดินหน้าต่อไปเอง

     

    --

     

    PBW:”ตอนนี้ไม่มีเหตุการณ์อะไรสำคัญ ยังคงเป็นเรื่องภายในจิตใจระหว่างเอ็กซ์กับอังริเอตต้า พอมาอ่านเองแล้วรู้สึกงงๆ ยังไงก็ไม่รู้ ที่จริงก็แต่งตอนหัวกำลังงงๆ นั่นล่ะ

     

    S:”ไร้ความรับผิดชอบ

     

    PBW:”ขอโทษจริงๆ...(ไม่มีข้อโต้แย้ง) แต่ก็คิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญเหมือนกันนะ ระหว่าง<ให้ความหวัง>กับ<ให้ความจริง>จะเลือกอะไร? คิดว่าคงต้องแล้วแต่บุคคล แต่นี่เป็นสิ่งที่เอ็กซ์เลือกที่จะทำให้กับอังริเอตต้า

     

    DX:”อาทิตย์นึงละ ลงตอนใหม่แสดงว่าทำใจได้แล้ว?

     

    PBW:”ยัง...แค่วันนี้ได้กลับมาบ้าน ก็เลยพอมีกำลังใจจะเขียน พรุ่งนี้ก็กลับไปมหาลัย แล้วก็เพราะกิจกรรมยั้วเยี้ย คงไม่ได้กลับบ้านอีกสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อย...อย่างช้าที่สุดอาจจะถึงกลางเดือนกรกฎาคม ถ้ายังทำใจไม่ได้อีก(เป็นคนประเภทที่ทำใจได้ยากมาก)ก็คงจะอัพอีกทีตอนโน้นเลย คนเขียนลาไปก่อน สวัสดีครับ

    (*Edit: เปลี่ยนก็อบลินเป็นโคโบลด์ เพราะโคโบลด์ปรากฏในเรี่อง ส่วนก็อบลินไม่เห็นแม้แต่ชื่อ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×