ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : การต่อสู้อันดุเดิอด! ดุเดือดจนอัพรูปที่วาดไว้ไม่ขึ้นเลย โน่วววว~!!
Ch.13
คำเตือน!!
เนื้อหาในตอนแสดงถึงความรุนแรง พลังเหนือมนุษย์
และฉากต่อสู้ที่เกิดขึ้นจากระบบความคิดของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ชื่อว่า [นอ-สอ-นอ]
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
และไม่อนุญาตให้มีวัตถุที่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตไว้ใกล้ตัว
--
ที่ถนนสายหนึ่งชานเมืองนามิโมริ เด็กหนุ่มสี่คนกับทารกหญิงอีกหนึ่งยืนรอการมาของทารกชุดดำ และเขาก็มาถึงแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง รึบอร์น?” เด็กหนุ่มผมฟูถามทันที
“ฮิบาริไม่อยู่ อย่างหมอนั่นคงออกไปตามหากับกรรมการรักษาระเบียบแล้ว พวกเราต้องไปกันแค่นี้แหละ ทุกคนพร้อมกันแล้วใช่มั้ย?”
“อืม” สึนะตอบรับ
“รุ่นที่สิบพร้อม ผมก็พร้อมครับ!” โกคุเดระเสริม
“จะไปช่วยเพื่อนนี่เนอะ ก็ต้องเตรียมตัวกันมาแล้ว” ยามาโมโตะตอบหน้าระรื่นแต่มีแววจริงจังอยู่
“โอ้!! ช่วยโดคุโร่สุดหูรูด!!” เรียวเฮผู้มีอายุมากที่สุด เสียงตอบก็ดังที่สุดด้วย
ทารกหญิงมองดูทั้งสี่คนด้วยแววตาไม่วางใจ
“...รีบอร์น เจ้าพวกนี้จะไหวแน่เหรอ เป็นผู้พิทักษ์น่ะ?”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก การฝึกพิเศษที่โลกอนาคตทำให้เจ้าพวกนี้แกร่งทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ถึงเวลาก็จะเห็นเอง” ‘แล้วศัตรูยุคนี้ก็ไม่มีทางสู้เจ้าพวกนี้ที่ใช้พลังของแหวนได้ด้วย’
เมื่อเตรียมพร้อมกันแล้วรีบอร์นก็เริ่มอธิบายเส้นทาง
“ตามที่พ่อของยามาโมโตะบอก ที่นั่นเคยเป็นโกดังเก็บปลาสดจนกระทั่งเร็วๆ นี้ตรวจพบว่าปลวกกินจนผุพังใกล้ถล่ม กลายเป็นเขตอันตราย แล้วก็ได้แผนที่มาด้วย” ทารกชุดดำชูกระดาษเขียนด้วยหมึกพู่กันสีดำขึ้นมา ก่อนจะเริ่มเดินนำไปพร้อมกับอ่านแผนที่ไปด้วย
ทั้งหกเดินซอกแซกไปในเขตโกคุโยที่มีคนเดินกันเพียงน้อยนิด เลี้ยวซ้ายหันขวามานาน เลี้ยวอีกไม่กี่ครั้งก็จะถึง
‘รู้สึกแปลกๆ แฮะ’ สึนะคิด รู้สึกถึงความไม่สบายตัวอย่างประหลาด จึงหันกลับไปเตือนคนด้านหลัง
“ทุกคนระวังตัวด้วยนะ อาจจะมีอะไรอยู่ก็ได้
“ครับ รุ่นที่สิบ!” “ได้เลย สึนะ” “...”
“เอ๊ะ? ทำไมคุณพี่ไม่อยู่แล้ว!!” สึนะร้องลั่น เพราะนักมวยเพียงคนเดียวในกลุ่มหายไปอย่างไร้ร่องรอย
สองทารกที่เดินนำอยู่หันขวับกลับมาทันที
“สงสัยว่าเราจะประมาทไปหน่อย ติดกับศัตรูเข้าอย่างจัง ไม่นึกเลยว่าจะโดนเล่นงานตั้งแต่ยังไม่ถึงที่หมาย” ทารกชุดดำเอ่ยเสียงเครียด
“จะถอยก็ไม่ได้แล้ว ถ้าอยากจะช่วยเจ้านั่นแล้วก็ผู้พิทักษ์สายหมอกด้วยก็มีแต่ต้องมุ่งตรงไปหาศัตรู ถึงจะรู้ว่าเป็นกับดักก็เถอะ” ทารกหญิงว่าจบก็หันหลังเดินนำไปต่อ ทั้งสี่คนที่เหลือจึงเดินตามไป ในใจยังเป็นห่วงเด็กหนุ่มหัวสนามหญ้า
ทั้งห้าคนมาถึงหน้าโกดังขนาดใหญ่ บรรยากาศคล้ายซ่องโจร เพราะตามจดหมายแล้วมันก็ใช่
“ระวังตัวให้ดีล่ะ มีกับดักอะไรอีกแน่” ทารกชุดดำเตือนก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าสู่เขตอันตราย
“พวกเรามาแล้ว!” สึนะออกหน้าตะโกนบอก ก่อนที่ทั้งหมดจะตั้งท่าสอดส่องเตรียมรับการจู่โจมทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการจู่โจมจะมาในรูปแบบไหน
จนกระทั่งมันเริ่มขึ้น...
ซ่า~
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย!?” โกคุเดระร้องลั่นเมื่อเม็ดน้ำตกลงมาเป็นห่าฝนจนแต่ละคนตัวเปียกปอน
“!?!” รีบอร์นรู้โดยสัญชาตญาณว่านี่ไม่ใช่น้ำธรรมดา
ทันใดนั้นเงาคนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ล้อมทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกับวิ่งเข้ามาอาวุธครบมือ
ทารกหญิงและสองผู้พิทักษ์เข้ารับมือในศึกระยะประชิด ในขณะที่ทารกชุดดำผู้ว่องไวอยู่เสมอยกปืนขึ้นเล็งไปที่เด็กหนุ่มผมฟูซึ่งหยิบถุงมือไหมพรมออกมาสวม
ศัตรูใกล้เข้ามาทุกทีแต่นิ้วเล็กก็ยังไม่กดไก
“แย่แล้ว... ขยับตัวไม่ได้...”
สึนะได้ยินอย่างนั้นก็รีบควักเอากระปุกยาดับเครื่องชนออกมาด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดฝา นิ้วมือก็ปฏิเสธคำสั่ง กระปุกยาหล่นลงกับพื้น
“!!” เด็กหนุ่มทั้งสามรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนยืนแทบไม่อยู่ ส่วนอัลโกบาเลโน่ไม่สมประกอบก็ประสบชะตากรรมเดียวกับทารกชุดดำ
“น้ำที่ชุ่มตัวเราอยู่ มีไฟธาตุพิรุณอยู่หน่อยๆ!” รีบอร์นกัดฟันพูด ก่อนจะปลดปล่อยเปลวไฟธาตุอรุณขึ้นมากระตุ้นการทำงานของเซลล์ตัวเองเพื่อต่อต้านคุณสมบัติ [ระงับ] แต่ก็ไม่เห็นความแตกต่าง
‘แหวนน่าจะยังไม่เกิดขึ้นมานี่นา นี่มันยังไงกันแน่?’
สึนะที่ตาพร่ามัวมองเห็นกลุ่มคนที่เข้ามาใกล้ตัวเองได้ลางๆ ก่อนจะรู้สึกว่าถุงมือถูกถอดเอาไป
ซ่า!
โกคุเดระรู้สึกถึงของเหลวราดท่วมตัวเองอีกครั้ง แต่คราวนี้กลิ่นที่ฉุนเตะจมูกทำให้เขารู้ว่านี่มันคือน้ำมันไม่ผิดแน่
‘โธ่เว้ย จุดไฟไม่ได้ก็ใช้ไดนาไมต์ไม่ได้...’
“อึ้ก!!” เสียงร้องดังขึ้นจากยามาโมโตะ เงาดำเข้าประชิดตัวเขาจากด้านหลังพร้อมกับกดมือติดกับส่วนตรงหัวใจ
“ไฟธาตุอรุณ!... เจ้านั่นโดนกระตุ้นหัวใจอย่างรุนแรง แบบนี้หัวใจระเบิดแน่!...” โกคุเดระเมาน้ำมัน(?)แต่ก็ยังรู้ถึงสภาพรอบตัว
ไฟธาตุอรุณทึ่ซึมไปกับกระแสเลือดถูกหัวใจสูบฉีดไปทั่วร่าง สลายผลของไฟพิรุณได้ชั่วเวลาหนึ่ง และในตอนนั้นเองที่ยามาโมโตะมองเห็นอะไรบางอย่างส่องแสงสีเขียวอยู่บนเพดานสูงท่ามกลางความมืด
ด้วยแรงกระตุ้นจากไฟธาตุอรุณและพรสวรรค์เบสบอล เขาขว้างไม้ตีในมือขึ้นสูง กระแทกเข้ากับอุปกรณ์บางอย่างดัง ‘แคร่ก!’ แล้วแสงก็หายไปพร้อมกับร่างที่หัวใจบอบช้ำร่วงลงสู่พื้น
สองทารกรู้สึกได้ว่าตัวเองหลุดจากพันธนาการ หันกลับไปโต้ตอบผู้เข้าทำร้าย กระสุนจากปืนสีเขียวแล่นเข้าหน้าผากของเด็กหนุ่มผมฟูที่สติพร่ามัว ก่อให้เกิดปฏิกิริยาขั้นสุดยอดอีกครั้ง
“รีบอร์น! จัดการศัตรูสุดชีวิต!!”
แล้วเด็กหนุ่มในบ็อกเซอร์ตัวเดียวก็ไล่กวาดศัตรูที่เกาะแกะเพื่อนตัวเองให้ออกไปห่างๆ
รัล มิลจิใช้สายตาอันเฉียบคมมองหาผู้ที่ขโมยถุงมือของวองโกเล่หนุ่มไปจนเจอ และยกปืนขึ้นยิงโดยไม่เสียเวลาเล็ง
ปัง!
เงาดำล้มฟุบลง เธอวิ่งเข้าไปหยิบเอาถุงมือไหมพรมและกลับที่เดิมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนมันส่งให้วองโกเล่ในสภาพดับเครื่องชน
สึนะใส่ถุงมือเข้าไป และไฟดับเครื่องชนที่หน้าผากซึ่งเคยลุกอย่างบ้าคลั่งก็สงบลง ถุงมือไหมพรมเปลี่ยนเป็นถุงมือผ้าที่มีผลึกสีส้มที่ด้านหลัง สีหน้าเปลี่ยนเป็นมั่นใจ เด็กหนุ่มตอนนี้อยู่ในคราบของวองโกเล่เดซิโมผู้ปราบเบียกคุรันแห่งโลกอนาคต เป็นเด็กหนุ่มสุดเท่ขวัญใจ FC ทั้งหลายคนเดิม เว้นแต่... ใส่ถุงมือไม่ได้ช่วยให้ได้เสื้อผ้ากลับมา
ด้วยเปลวไฟที่พ่นออกจากถุงมือ สึนะเร่งความเร็วฝ่าฝูงศัตรูเข้า...หยิบเสื้อผ้าตัวเองที่อยู่กับพื้นก่อนจะบินขึ้นไปบนฟ้าและสวมมันกลับเข้าไป เพื่อลดบรรยากาศกระอักกระอ่วนลง
ทางด้านโกคุเดระได้ [เครื่องกำจัดสารไวไฟ] ของ [จางนีนิ] เข้าช่วยกำจัดน้ำมันที่เปื้อนตัวอยู่ออกไปจนหมด จึงกลับสู่สภาพพร้อมรบสมฉายา [สโมกกิ้ง บอมบ์] ได้อีกครั้ง
“ระเบิดสองเท่า!”
บรึ้ม!!
ศัตรูนับสิบหายวับไปกับการระเบิดเพียงครั้งเดียว
รีบอร์นซึ่งสังเกตศัตรูมาตลอดเวลาที่ต่อสู้สามารถค้นพบเรื่องสำคัญบางอย่างได้อย่างไม่ยากเย็น
“สึนะ! ยิง [เอ็กซ์-เบิร์นเนอร์] ขึ้นไปบนท้องฟ้าเลย!”
วองโกเล่หนุ่มเชื่อในคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ ยืดมือออกด้านหน้าและหลัง ปรับสมดุลไฟอ่อนคำยั้นไฟแข็งรวมศูนย์ เป้าหมายคือหลังคาที่ทั้งเก่าทั้งผุ ก่อนที่เปลวไฟสีส้มขนาดใหญ่จะระเบิดพวยพุ่งออกมาเป็นสาย
X-Burner!!
หลังคากระจุยกระจาย แสงสว่างส่องเข้ามา แล้วความรู้สึกที่เหมือนกับอะไรบางอย่างสลายหายไปก็รู้สึกได้โดยทุกคน เงาดำนับไม่ถ้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ทุกคนได้ข้อสรุป
“เมื่อกี้นี้เป็นภาพลวงตา แถมยังเป็นแบบจับต้องได้ ตามคุณสมบัติ [ก่อตัว] ของไฟธาตุหมอก” รีบอร์นอธิบาย
‘ถึงได้ลักพาตัวโคลมมา เพราะถ้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกต้องดูออกทันทีแน่’
สึนะกลับลงสู่พื้นแต่เปลวไฟที่หน้าผากยังไม่หายไป เพราะเขารู้สึกได้ว่าศัตรูยังอยู่ที่นี่ และอยู่...
“ตรงนั้น”
ที่ด้านหลังซากเพดานซึ่งตกลงมากองทับกันอยู่ ที่นั่นมีทางเข้าไปส่วนในของโกดัง สึนะมองไปทางนั้น และนี่ทำให้ใครบางคนโพล่งออกมา
“รออยู่นี่นะครับ ไอ้พวกทำตัวลับๆ ล่อๆ ผมจะเข้าไปลากคอมันออกมาเอง!” ว่าจบโกคุเดระก็วิ่งออกไปอย่างมุทะลุ
“เดี๋ยวก่อน โกคุเดระคุง!” สึนะร้องห้าม แต่เหมือนเสียงไปไม่ถึง เด็กหนุ่มผมเงินหายเข้าไปในประตู ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้น
บรึ้ม!
ซากหลังคาปลิวหายไปพร้อมกับช่องขนาดเท่าประตูเปลี่ยนเป็นอะไรซักอย่างที่ไม่น่าจะใช่กำแพงแน่ๆ
ควันจากแรงระเบิดบดบังทำให้มองไม่เห็น แต่เงาของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินกลับออกมาทำให้สึนะสบายใจ...ได้ชั่วขณะ จนกระทั่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของเด็กหนุ่มผมซอยสั้นสีน้ำตาลเข้มในเสื้อเสื้อคลุมหนังและกางเกงขาสั้นสีขาว และที่แก้มซ้าย...อักขระรูปจันทร์เสี้ยวสีเงิน
[*อุตส่าห์เสียเวลาวาดรูปหลายวัน กั๊กตอนไว้ไม่มาอัพฯ(มิน่าถึงนาน) ดันลืมว่าไฟล์ภาพนอกเครื่องมันจะใหญ่เวอร์ อัพไม่ได้ เซ็งครับท่าน]
“เจ้านั่นสินะ คนที่ว่า” รีบอร์นถามโดยรู้คำตอบอยู่แล้ว
เด็กหนุ่มปริศนามองร่างของเด็กหนุ่มที่หมดสติอยู่ ก่อนจะเลื่อนไปมองคนอื่นๆ
และโดยที่ทั้งสามยังไม่ทันได้ตั้งตัว ลูกธนูก็ก่อตัวขึ้นจากอากาศธาตุพุ่งเข้าจู่โจมเป็นห่าฝน
อัลโกบาเลโน่ทั้งสองไม่มีปัญหากับการหลบของธรรมดาๆ แบบนี้อยู่แล้ว และวองโกเล่หนุ่มซึ่งฝึกมาอย่างหนักก็เช่นกัน สายตาอันว่องไวของเขามองเห็นและหลบหลีกลูกธนูได้ทุกลูก ยกเว้นลูกหนึ่ง...
ฉึก!
แรงสะเทือนที่ไหล่ขวาทำให้สึนะหันกลับไปมอง พบว่าไหล่ของตัวเองมีเลือดไหลออกมา และลูกธนูก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ เป็นลูกธนูที่มีไฟธาตุหมอกเคลือบอยู่หน่อยๆ ตอบข้อสงสัยได้ว่าทำไมมันถึงล่องหน
สึนะตัดสินใจถอนลูกธนูออกและพุ่งฝ่าห่าฝนดอกธนูเข้าหาต้นกำเนิดโดยตรง และในระยะเพียงไม่กี่เมตรก่อนจะถึงตัว
ชิ้ง!
[ลางสังหรณ์ขั้นสุดยอด] ความสามารถของวองโกเล่ในการจับทางของหลายสิ่งหลายอย่างได้ ถ้าขาดความสามารถนี้ไปเขาคงไม่มีทางเบี่ยงหลบลูกธนูที่พุ่งสวนออกมาด้วยความเร็วเกือบเจ็ดร้อยเมตรต่อวินาทีโดยเฉียดแก้มเข้าไปเพียงไม่กี่มิลฯ
*(R:เท่ากับกระสุนปืนอย่างเร็วดีๆ นี่เอง)
สึนะถอยออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง เป็นเพราะไฟธาตุวายุ และในตอนนั้นเขาก็เบิกตากว้างด้วยความที่ทั้งประหลาดใจและตกใจเป็นที่สุด
ห่าฝนดอกธนูมาอีกครั้ง และคราวนี้สึนะก็หลบมันได้อย่างคล่องแคล่ว ทว่าไม่บุกเข้าไปเหมือนครั้งก่อน และยังดูบินฉวัดเฉวียนติดขัดกว่าครั้งก่อน
“ซาวาดะเป็นอะไรไปน่ะ?” ทารกนอกแก๊งถาม เธอดูออกเวลาที่ใครทำตัวไม่เหมือนปกติ และทารกชุดดำก็ช่วยตอบ
“สึนะกำลังสับสนอยู่ คงเป็นเพราะลูกธนูเคลือบไฟธาตุวายุเมื่อกี้ ถ้าให้ฉันเดา นั่นคงจะเป็นเพราะ...”
สึนะบินหลบดอกธนูนับร้อยท่ามกลางความสับสนของตัวเอง
‘เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน? ไฟธาตุวายุเมื่อกี้ เรารู้สึกได้...เป็นของโกคุเดระคุง!?’
และก็เป็นอย่างที่เราเคยได้ยินกันมา สภาพจิตใจส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสของคนเรา หลักฐานก็คือวองโกเล่หนุ่มถูกดอกธนูล่องหนปักเข้าที่ท้อง ตามด้วยหัวไหล่ข้างเดิม จนร่วงลงกับพื้น ไฟที่หน้าผากดับไป
“ซาวาดะ!” ทารกหญิงวิ่งเข้าไปดูอาการของเด็กหนุ่มก่อนเป็นคนแรก ตามติดด้วยทารกชุดดำซึ่งแบกร่างไร้สติของนักดาบหนุ่มเอาไว้
“แฮ่ก! แฮ่ก!” เด็กหนุ่มหายใจหอบด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ
‘สภาพแย่สุดๆ กล้ามเนื้อไม่มีแรง คงเป็นเพราะน้ำเมื่อกี้ แล้วยังบาดแผลอีก แต่ที่เลวร้ายที่สุดคงเป็นความสับสนตามที่รีบอร์นว่าเอาไว้’
ในสภาพที่เหมือนจะสิ้นหวัง คนเขียนก็ถูกปลดปล่อยจากสภาพแรงกดดันของคนอ่านเมื่อร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่ทางเข้า
“นึกว่าเป็นโรคุโด มุคุโร่ซะอีก ที่มาใช้ภาพมายาอยู่แถวนี้...”
ผู้มาใหม่ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แสงตะวันที่คล้อยขอบฟ้าจากด้านหลังพาดผ่านร่างของเด็กหนุ่มผมดำ
“หลังคาเสียหายยับเยิน ใครเป็นคนทำ?”
ปลอกแขน [รักษาระเบียบ] เด่นหราอยู่ที่ต้นแขนซ้ายของเสื้อเชิ้ตสีขาว
“แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าพวกนายคนไหนรู้ที่อยู่ของเด็กผู้หญิงผมสั้นสีม่วงล่ะก็บอกฉันมาซะ”
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลผู้มีอักขระที่แก้มซ้ายหันไปมองผู้มาเยือนด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ความระแวดระวังเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
“นายคงรู้สินะ” ประธานกรรมการรักษาระเบียบหันไปทางคนหน้าไม่คุ้นด้วยแววตาเยือกเย็นแต่หงุดหงิดและดุดัน
“บอกฉันมาซะ โคลม โดคุโร่อยู่ที่ไหน เพราะถ้าคนในความดูแลของฉันเป็นอะไรไปล่ะก็...”
ทอนฟาสีเงินปรากฏขึ้นที่แขนสองข้างของ [ผู้พิทักษ์แห่งนามิโมริ]
“ฉันจะขย้ำมันไม่ให้เหลือ...”
--
R:”เป็นไงมั่งอะ? ฉากบู๊ที่เขียนลื่นไหนจนลืมตัว ต่างกับฉากหวานที่ต้องเค้นสมองแล้วเค้นสมองอีกถึงจะออกมาได้ประโยคนึง”
DX:”ไอ้นั่นน่ะ ใครฟะ? รูปก็ไม่มี พูดก็ไม่พูดซักคำ อธิบายก็คลุมเครือ ห่วยแตกจริงๆ”
R:”ขอโทษด้วยเรื่องอธิบาย เรื่องไม่พูดมันอยู่ที่บุคลิก ส่วนรูปนั้น คนเขียนวาดไปแล้ว(ด้วยฝีมือที่ห่วยกว่า [ปิกัสโซ] ตอนแบเบาะ) แต่ไฟล์ภาพใหญ่เกินไป ลงไม่ได้ เซ็งหมูเห็ดเป็ดไก่และหูฉลาม”
H:”ฮึ ฉันได้ออกแค่ช่วยท้ายงั้นเหรอ? ถือเป็นการหลู่เกียรติของฉันอย่างรุนแรง เตรียมตัวถูกขย้ำ“
R:”สต็อป!!” (ล้วงป้ายออกมาจากอากาศธาตุ ตั้งลงหันหน้าเข้าหาฮิบาริ)
H:”นี่อะไร?”
R:”ป้ายบอก [เขตห้ามขย้ำ] อย่าทำอะไรฉันนะเฟ้ย ผิดกฎ!”
เปรี้ยง! (ป้ายหักกระเด็นหายไปกับอากาศธาตุ)
H:”กฎหายไปแล้ว ตายซะ”
ผัวะ! ผัวะ! กร๊อบแกร๊บ!~
DX:”...ดูไว้ซะ กรรมการรักษาระเบียบ แหกกฎที เล่นซะหน้าด้านๆ(แต่กฏพรรค์นั้นมันไร้สาระอยู่แล้ว)...”
--
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น