ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reborn : Fierce Demon & Little Cute Pineapple [1896]

    ลำดับตอนที่ #4 : ชุดนักเรียนญี่ปุ่นเเพงสุดขั้ว!!~ คณะกรรมการรักษาระเบียบก็รวยสุดหูรูด!!~

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 54


    เด็กสาวม.ต้นสองคนเดินคู่กันไปบนถนนในย่านการค้าเป็นภาพที่หาได้ทั่วไป แม้ว่าจะมีชุดนักเรียนต่างกัน รึว่าผ้าปิดตาลายหัวกะโหลกก็ยังไม่แปลกเท่าใดนัก แต่ที่แปลกก็คือเด็กทารกอายุไม่ถึงสองขวบสวมชุดสูทและหมวกปีกกว้างสีดำนั่งอยู่บนไหล่ของเด็กสาวเครื่องแบบนามิโมริ
     
    “ตอนที่ได้ยินว่าโคลมจังจะย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนเรา ฉันตกใจมากเลยล่ะรู้มั้ย” เด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวประบ่าเอ่ยกับเด็กสาวตัวเล็กกว่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
     
    “ฉัน...ทำให้ลำบากรึเปล่าคะ?...” เด็กสาวผมม่วงเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล
     
    “ไม่เลยจ้ะ! ทั้งฉันแล้วก็พวกสึนะคุงดีใจมากเลยที่เธอจะมาอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเรา” เด็กสาวยังคงรักษารอยยิ้มสดใสเอาไว้ได้สมกับที่เป็นน้องสาวของ [อรุณ]
     
    “ว่าแต่โคลมจังเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเรียนเหรอจ๊ะ?” เคียวโกะหัวไวกว่าพี่ชายในหลายเรื่องจึงพอจะสังเกตได้บ้าง
     
    “ฮิบาริเป็นคนจัดการให้น่ะ” ทารกชุดดำบนบ่าของเด็กสาวผมสีน้ำตาลตอบ
     
    “จริงเหรอจ๊ะ? คุณฮิบาริเนี่ยใจดีกว่าที่เห็นเนอะ โคลมจัง ^ ^”
     
    “ค—ค่ะ!”
     
    ทั้งสามมาถึงจุดหมายในเวลาไม่นานนัก เป็นร้านที่ขายชุดนักเรียนของแถบใกล้เคียง ซึ่งรวมถึงนามิโมริด้วย เคียวโกะตรงเข้าไปหาคนขายในทันที
     
    “มีชุดฤดูหนาวแล้วก็ชุดพละของนักเรียนหญิงของนามิโมริเหลือบ้างมั้ยคะ?”
     
    “ขนาดเท่าไหร่จ๊ะ?” คุณป้าคนขายถามกลับ
     
    “เอ่อ...” โคลมอ้ำอึ้งเพราะตอบไม่ได้
     
    “ถ้าอย่างนั้นก็วัดตัวกันก่อน ทางนี้เลยจ้ะ” คุณป้าผู้ยิ้มแย้มหยิบสายวัดตัวออกมาจากที่ลี้ลับเหมือนกับทอนฟาของประธานกรรมการรักษาระเบียบ
     
    “ย้ายโรงเรียนเหรอจ๊ะ?” คุณป้าผู้อัธยาศัยดีถามเด็กสาวผมม่วงไปด้วยในระหว่างที่หยิบจับสายอย่างคล่องแคล่ว
     
    “ค—ค่ะ” เด็กสาวผมม่วงตอบอย่างเขินอาย เพราะไม่เคยชินกับการคุยกับคนแปลกหน้า
     
    “หนูตัวเล็กน่าดูเลยนะ หมั่นกินนมเข้าไว้จะได้โตขึ้นทันเพื่อนเขานะจ๊ะ”
     
    “ข—ขอบคุณค่ะ” โคลมก้าวเข้าใกล้สังคมภายนอกเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง ต้องขอบคุณคุณป้าใจงาม
     
    “หนึ่งแสนสองหมื่นสี่พันเยนจ้ะ” (R:ประมาณ สี่หมื่นหกพันหกร้อยสี่สิบแปดบาท ชุดเขาแพงจริงๆ นะ)
     
    ทันทีที่ได้ฟังราคา โคลมก็ลมแทบจับ เพราะเงินค่าขนมประจำเดือนของเธอมันแค่ [500 เยน] (เกือบสองร้อยบาท)
     
    “อ...เอ่อ ฉันไม่...” แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออกมา (R:ข้างบนนั่นน่ะ เรื่องจริงจากการ์ตูน)
     
    “ไม่ต้องห่วง ฉันมีเงินให้เธอใช้ได้เหลือเฟือ” ทารกชุดดำว่าพลางดึงปึกเงินหนาสามเซนฯออกมา เป็นปึกเงินที่ประกอบด้วยใบหมื่นเยนล้วนๆ เป็นภาพที่ทำให้เด็กสาวทั้งคู่ถึงกับหน้าเหวอ
     
    “เงินตั้งมากมาย! รีบอร์นคุงได้มาจากไหนจ๊ะ?” เคียวโกะถามด้วยความสงสัย
     
    “ได้รับบริจาคมาน่ะ ไม่ต้องสนใจหรอก” ทารกชุดดัดบท ก่อนจะยื่นจำนวนที่ถูกต้องให้กับเจ้าของร้านและรับเงินทอนกลับมา
     
    “ขอบคุณที่อุดหนุนนะจ๊ะ” คุณป้าผู้ใจดีโบกมือไล่หลังเด็กสาวทั้งสองที่เดินคู่กันมาบนถนน
     
    “...ขอบคุณมากนะคะ...” โคลมเอ่ยเสียงแผ่วเบา สองแขนกอดถุงชุดนักเรียนเอาไว้อย่างหวงแหน
     
    “ถ้าจะขอบคุณล่ะก็ ขอบคุณเจ้าสึนะเถอะ เพราะเจ้านั่นเป็นบอส และก็เป็นคนตัดสินใจในขั้นสุดท้ายด้วย” เสียงเล็กแหลมของเด็กทารกดังตอบจากบนศีรษะของเด็กสาวผมม่วง
     
    “จะว่าไปแล้ว ที่ว่าได้รับบริจาคเนี่ย ได้มายังไงเหรอจ๊ะ?” เคียวโกะยังไม่หายสงสัย
     
    “ก็เงินเก็บของเจ้าสึนะไม่ได้มีน้อยๆ นี่เนอะ แล้วทุกคนก็ช่วยกันออก รวมทั้งเธอด้วยไม่ใช่เหรอเคียวโกะ” รีบอร์นยิ่มอย่างมีเลศนัยให้กับเด็กสาวผมสั้นที่ยิ้มแหยๆ
     
    “แหะๆ กะจะเก็บไม่ให้โคลมจังรู้นะเนี่ย แต่ฉันก็ออกแค่ห้าพันเท่านั้นแหละจ้ะ”
     
    “เงินส่วนใหญ่ได้มาเพราะมีเงินเก็บเจ้าสึนะ” รีบอร์นเสริม
     
    โคลมเริ่มปริ่มน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจ สองคนที่เหลือก็ได้แต่มองด้วยความปลาบปลื้ม
     
    ในตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียนสีขาววิ่งเหงื่อซ่กชกลมผ่านมา และก็เป็นการเริ่มต้นของเสียงเอะอะโวยวาย
     
    “เคียวโกะ! เธอยังไม่กลับบ้านเหรอ!” เด็กหนุ่มผู้มีพลาสเตอร์แปะที่จมูกเอ่ยกับเด็กสาวผมสั้นด้วยเสียงที่ดังเกินความจำเป็น
     
    “หนูพาโคลมจังออกมาซื้อชุดนักเรียนน่ะค่ะ พี่ยังไม่รู้สินะคะว่าโคลมจังจะเข้ามาเรียนที่นามิโมริในอาทิตย์หน้านี้แล้ว” เคียวโกะเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
     
    “โอ้! เธอเองเหรอ! ถ้าจะย้ายมาอยู่ที่นามิโมริก็ต้องทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการหน่อยแล้ว” เด็กหนุ่มผมเกรียนยังคงรักษาระดับความดังของเสียงเอาไว้ได้
     
    เด็กหนุ่มผมขาวผู้ใช้ทรงสั้นเกรียนและมีกล้ามเนื้อเป็นมัดสมกับตำแหน่งหัวหน้าชมรวมมวยและ [ผู้พิทักษ์แห่งอรุณของวองโกเล่] คนนี้ก็คือ—
     
    “ขอแนะนำตัวอย่างสุดหูรูด(ขั้ว)! ซาซางาวะ เรียวเฮ! เป็นพี่ชายของเคียวโกะ! คติประจำใจคือ สุดหูรูด(ขั้ว)!! ยินดีที่ได้รู้จักแบบสุดหูรูด(ขั้ว)!!” เรียวเฮแนะนำตัวแบบสุดกู่ได้ตามคติประจำใจเป๊ะ
     
    (R:ไอ้ ‘หูรูด(ขั้ว)’ ข้างบนนั่นไม่ได้เล่นมุขนะ ถ้าทั้งดูและอ่านก็คงจะรู้ว่ามันอันเดียวกัน แต่ใช้เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนละกันเนาะ คนเขียนชินกว่า)
     
    เด็กสาวผมม่วงเมื่อเจอเข้ากับคนที่มีอุปนิสัยต่างกับเธอชนิดคนละขั้วก็ประหม่าจนไม่กล้าพูดอะไร ทารกชุดดำบนศีรษะของเธอเข้าใจจึงเอ่ยขัดขึ้น
     
    “ดีจ้า เรียวเฮ ฟิตจัดเหมือนเคยเลยนะ”
     
    “หวัดดีเจ้าหนู! ท่านอาจารย์บอกเอาไว้ว่าให้ฝึกหนักๆ พักเยอะๆ เมื่อวานพักแบบสุดหูรูดไปทีแล้ว วันนี้ก็เลยต้องฝึกแบบสุดหูรูด!!” เด็กหนุ่มผมขาวยังคงปราศจากความคิดที่จะลดระดับเสียงลง
     
    “งั้นฉันไปก่อนล่ะนะ! เคียวโกะ อย่ากลับบ้านค่ำล่ะ!” เรียวเฮทิ้งท้ายไว้ให้กับผู้เป็นน้องสาวก่อนจะออกวิ่งต่อไปแบบสุดหูรูด (R:ตายล่ะ คนเขียนจะติดไปด้วย)
     
    ทั้งสามเดินกันต่อไปได้ไม่ทันไรก็เจอะเข้ากับอีกหนึ่งพระหน่อ
     
    “สึนะคุง สวัสดีจ้ะ” เคียวโกะเป็นผู้เอ่ยทักทายขึ้นก่อน
     
    “ค—เคียวโกะจัง โคลม รีบอร์นด้วย! ออกมาทำอะไรกันน่ะ?” เด็กหนุ่มหัวฟูผู้มีทั้งรอยช้ำคล้ำเขียวทั่วทั้งตัวเอ่ยพร้อมกับทำหน้างง
     
    “ออกมาซื้อชุดนามิโมริให้โคลมจังน่ะจ้ะ สึนะคุงไปทำอะไรมา เนื้อตัวถลอกปอกเปิกไปหมด?” เคียวโกะแสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจนจนสึนะทั้งดีใจและประหม่าในเวลาเดียวกัน
     
    “ม—มีอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ อย่าใส่ใจเลย ว่าแต่ซื้อมาพอให้โคลมใช้รึเปล่าน่ะ?” สึนะเอ่ยแก้ตัวก่อนจะเบี่ยงประเด็น
     
    “อืม ได้ครบทั้งชุดนักเรียนและชุดพละเลยล่ะจ้ะ ต้องขอบคุณสึนะคุงมากจริงๆ ถึงขนาดใช้เงินเก็บตัวเองเชียวเหรอจ๊ะ” เคียวโกะเอ่ยประโยคที่ใครหลายๆ คนกะเอาไว้นานแล้ว(?)
     
    “เอ๋? เงินเก็บฉัน?” วองโกเล่หนุ่มทำท่างงเป็นไก่ตาแตก จับต้นชนปลายไม่ถูก
     
    “ใช่จ้ะ รีบอร์นคุงเป็นคนบอกเอง” เด็กสาวผมสีน้ำตาลยังคงทึกทักเอาว่าเป็นเรื่องจริง
     
    “รีบอร์น! นี่นาย—แอ๊ก!!” วองโกเล่หนุ่มพูดไม่ทันจบก็ถูกนักฆ่าสังกัดแฟมิลี่ตัวเองกระโดดแผล็วเข้าสกายคิกที่หน้าผากจนล้มลงกับพื้นก่อนจะกระซิบที่ข้างหู
     
    ฉันอุตส่าห์ช่วยให้นายดูดีในสายตาเคียวโกะมั่งนาเฟ้ย แล้วเงินเก็บนายก็ยังอยู่ที่เดิมนั่นแหละ ไม่ได้ไปไหน
     
    แล้วนายไปเอาเงินจากไหนมาซื้อชุดนักเรียนแพงหูฉี่ =[ ]=;!~” เด็กหนุ่มผมฟูคุกเข่าขึ้นนั่งก่อนจะกระซิบตอบ ในขณะที่เด็กสาวทั้งสองมองอยู่ห่างๆ ด้วยความสงสัย
     
    นายลืมแล้วรึไง ฉันเป็นนักฆ่านะเฟ้ย” ทารกชุดดำตอบแบบเป็นนัย ให้คนฟัง(และอ่าน)ไปคิดเอง
     
    รีบอร์น! อย่าบอกนะว่านาย—!” เด็กหนุ่มไม่กล้าพูดจนจบ และบทสนทนาของศิษย์อาจารย์ก็เป็นอันต้องจบลงเมื่อมีเสียงแทรก
     
    “กระซิบกระซาบอะไรอยู่น่ะทั้งสองคน?”
     
    “ม—ไม่มีอะไรหรอกเคียวโกะจัง =_=;” สึนะกลบเกลื่อนเป็นพัลวัน ขนาดที่ว่าถ้าไม่ใช่การ์ตูน เขาจับได้ตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว
     
    “ยังไงก็แล้วแต่ ฉันกับเคียวโกะจะพาโคลมไปส่งที่โกคุโย กลับไปแล้วบอกคุณแม่ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง” รีบอร์นทิ้งคำสั่งเอาไว้กับบอสของแฟมิลี่ตัวเอง(?)
     
    “เอ๋!? อืม! ก—ก็ได้ งั้นฉันไปก่อนนะ เคียวโกะจัง โคลม” สึนะบอกลา
     
    “จ้ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ” เด็กสาวผมสั้นโบกมือลาด้วยรอยยิ้มอันเจิดจ้าอย่างเคย ส่วนเด็กสาวผมม่วงก็แค่โค้งคำนับ
     
    และแล้ว หลังจากผ่านการพล่ามอันยาวนานของคนเขียนจนแทบจะลืมจุดประสงค์เดิม ทั้งสามก็มาถึงหน้าทางเข้าซากปรักหักพังโกคุโย
     
    “แน่ใจนะจ๊ะว่าไม่ต้องให้พวกเราไปส่ง?” เคียวโกะถามย้ำด้วยความเป็นห่วง
     
    “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้” โคลมตอบเสียงเบา ก่อนจะโค้งคำนับทิ้งท้ายแล้ววิ่งเข้าไปด้านใน
     
    “โคลมจังเนี่ย ลำบากน่าดูเลยนะจ๊ะ รีบอร์นคุง”
     
    “เธอเกิดมาเจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะน่ะ แต่ตอนนี้มีพวกเราอยู่ด้วย คิดว่าโคลมคงจะค่อยๆ ฟื้นฟูทีละน้อย” ทารกชุดดำสันนิษฐาน
     
    “ว่าแต่เย็นมากแล้ว กลับกันเถอะเคียวโกะ”
     
    “จ้ะ รีบอร์นคุงก็คงหิวแย่แล้ว”
     
    แล้วทั้งคู่ก็เดินทางกลับ ยามค่ำคืนของนามิโมริก็ยังคงดำเนินไปอย่างปกติ
     
    แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ยังจบไม่ได้ ทุกคนคงไม่เชื่อจริงๆ หรอกนะว่ารีบอร์นไปรับจ๊อบยิงคนเพื่อหาเงินมาซื้อชุดให้โคลม เพราะมันไม่เข้าอย่างแรง ความจริงก็คือ
     
    --ก่อนหน้านี้ เวลาไหนซักเวลา บนดาดฟ้าตึกหลักของโรงเรียนมัธยมต้นนามิโมริ--
     
    “ที่ว่าขอเงินในคลังของกรรมการรักษาระเบียบ จะเอาไปทำอะไร เจ้าหนู” ประธานกรรมการรักษาระเบียบแห่งโรงเรียนนามิโมริถามอย่างจริงจัง
     
    “เอาไปซื้อชุดนามิโมริให้โคลมน่ะ นายคงไม่อยากให้มีการละเมิดกฎเครื่องแต่งกายในโรงเรียนใช่มั้ย” ทารกชุดดำตอบด้วยรอยยิ้มบลัฟอย่างเคย
     
    “ขอปฏิเสธ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องให้เงินสนับสนุนผู้หญิงร่างทรงของโรคุโด มุคุโร่” เด็กหนุ่มผมดำปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
     
    “ก็คิดว่าเพื่อให้ได้เจอกับมุคุโร่อีกครั้งสิ ถูกจะตายไปไม่ใช่รึไง” แต่อัลโกบาเลโน่อรุณยังมีเหตุผลหว่านล้อมอยู่ใน ‘สต็อกแม่น้ำทั้งห้า’ อีกเยอะ
     
    “แล้วถ้าโรคุโด มุคุโร่ไม่ปรากฏตัวออกมาล่ะ?”
     
    ทารกชุดดำกระหยิ่มยิ้มย่อง ถามกลับแบบนี้หมายความว่าเริ่มคล้อยตามแล้ว ต้องรุกแบบทีเดียวจบเลย
     
    “ฉันจะคืนเงินให้เป็นสองเท่าเลย งัดเอาจากกระปุกเจ้าสึนะก็ได้ ตกลงมั้ย?” รีบอร์นยิ้มบลัฟเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะได้ยินคำตอบที่ต้องการ
     
    “ก็ได้ เจ้าหนู ฉันรับข้อเสนอ” ฮิบาริตอบอย่างเยือกเย็นหลังจากชั่งใจได้ข้อสรุป
     
    เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขาขนาดนั้น เขาแค่ใช้มันในกิจกรรมของกรรมการรักษาระเบียบ และมันก็มีเหลือเฟือซะด้วย ถ้าแค่เพื่อโอกาสที่จะได้ขย้ำคู่แค้นล่ะก็ นับว่าคุ้ม
     
    “เยี่ยม ขอเดี๋ยวนี้เลยนะ”
     
    รีบอร์นรู้ดีว่าศิษย์ห่วยของเขาไม่มีทางมีเงินเก็บเกินสามหมื่นเยน แต่ถ้าจำเป็นขึ้นมา เขาจะงัดเอาไปลงพนันใต้ดิน เดี๋ยวเดียวก็ได้ แต่ไม่คืนต้นทุนให้เจ้าของนะ
     
    และนั่นเอง คือที่มา ของทุนการศึกษาทั้งหมดของโคลม โดคุโร่
     
    ฮิบาริ เคียวยะ เขาเป็นพรรคพวกที่พึ่งพาได้ในยามคับขันจริงๆ(R:ความหมายแปลกๆ วุ้ย?)
     
    --

    R;"ตอนนี้เเต่งไปเรื่อยๆ เเบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ ปูทางไว้ก่อน เดี๋ยวลงตัวเมื่อไรจะยัดบท [ฮิ-โคลม] ให้หมดมุขเลย"

    R:"เเล้วก็... เรื่องฮานะสงสัยมั้ย? สงสัยโคตรเลย ตั้งเเต่ในการ์ตูนเเล้ว ตอนมาเห็นศึกชิงเเหวนเเห่งอรุณ เเต่คุณเธอไม่สนใจ เเละไม่ใช่ประเภทเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเกินควร เรียกว่ายึดติดกับความเป็นจริง สงสัยเเต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากน่ะนะ ในฟิคนี้ก็เเค่คิดว่าเด็กๆ เล่นกัน 'พวกซาวาดะกับเด็กที่บ้าน' ประมาณเนี้ย"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×