ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ในนามของกระสุนดับเครื่องชน! ปฏิบัติการกล่อมฮิบาริสุดชีวิต!!
กิ๊ง ก่อง กาง ก่อง (DX:เสียงกระดิ่งคุ้นๆ?)
โรงเรียนเลิกแล้ว ฝูงนักเรียนไหลทะลัก(?)ออกจากห้องเรียนตลอดทั้งอาคาร แต่ไม่ถึงกับวิ่งเหยียบกัน
จอมห่วยสึนะ เดินหน้าปูดตาคล้ำลงบันไดมาที่ชั้นล่างด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายหัวเดียวกระเทียมลีบ
‘ยามาโมโตะไปซ้อมเบสบอล ส่วนโกคุเดระคุงถูก [พอยซั่น คุกกิ้ง เชือดนิ่มในสามชั่วโมง] เข้าไปโดยไม่รู้ตัว ไปนอนพักอยู่ห้องพยาบาล แบบนี้...เราก็ต้องไปเจอคุณฮิบาริคนเดียวน่ะสิ~!!!’ จอมห่วยกุมขมับตัวเองพร้อมทั้งโอดครวญอยู่ในใจ
เขามองไปที่ประตูโรงเรียนซึ่งประธานกรรมการรักษาระเบียบมักจะยืนตรวจตราอยู่ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
เสี้ยวหนึ่งก็รู้สึกโล่งใจที่ยังไม่จำเป็นต้องเสี่ยงตายตอนนี้ แต่อีกเสี้ยวหนึ่งก็เกิดสำนึกในหน้าที่ความเป็นบอส(ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้)ขึ้นมา
“อ๊ะ! รองฯคณะกรรมการรักษาระเบียบนี่?” เด็กหนุ่มเหลือบไปเห็นรุ่นพี่ในแจ็กเก็ตสีดำพร้อมด้วยผมทรงเด่นสะดุดตาจึงตรงเข้าไปถาม
“คุณเคียว? อยู่บนดาดฟ้าครับ แต่อย่าไปรบกวนเวลานอนเขาจะดีกว่านะครับ” เป็นคำแนะนำของรองฯคณะกรรมการรักษาระเบียบซึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ถ้าไม่ติดว่า...
‘ยังไงเรื่องที่จะไปพูดก็มีต้องสะกิดต่อมโมโหเข้าอยู่แล้ว ไม่ต่างกันเท่าไรหรอก =_=;’ เด็กหนุ่มรำพึงอย่างสังเวชใจ
และสึนะก็พบผู้ที่ตามหาอยู่บนดาดฟ้าจริงๆ เพียงไม่ได้อยู่ในท่านอน แต่ยืนหันหลังให้
‘เป็นไงเป็นกัน เพื่อโคลม(และถึงจะไม่เต็มใจ เพื่อความบันเทิงส่วนตัวของเจ้ารีบอร์น)’
เด็กหนุ่มผมฟูค่อยๆ ก้าวไปด้านข้างเพื่อมองดูหน้าของเป้าหมาย(?)ให้ชัดเจนก่อนจะลงมือ(?) เผื่อว่าเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยจอย
แต่สิ่งที่เขาได้เห็นนั้นเหนือความคาดหมาย และทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าตอนรู้ว่าพ่อเป็นมาเฟีย
‘โคลมมาทำอะไรที่นี่!?’
เมื่อเปลี่ยนมุมมอง ร่างของเด็กสาวผมสีม่วงซึ่งถูกบังโดยร่างในแจ็กเก็ตสีดำที่สูงกว่าก็ปรากฏสู่สายตาของสึนะ ท่าทางของเธอกระวนกระวายใจไม่ต่างจากเขา
และท่าทีของประธานหนุ่มที่เปลี่ยนไปก็เหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้บอสหนุ่มกระโจนเข้าไปหาทั้งสองคน
ทอนฟาสีเงินปรากฏออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งเจ้าของยังตั้งท่าเตรียมวิ่งเข้าขย้ำสัปปะรดน้อยผู้บอบบางทั้งที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่สัตว์กินพืช(R:มุขเริ่มเข้าใจยากขึ้นทุกทีแล้วเว้ยเฮ้ยเรา)
ฉึก!
เสียงลูกกระสุนแล่นผ่านอากาศเจาะเข้าสู่หน้าผากของเด็กหนุ่มที่มีฉายาว่า [จอมห่วย] ก่อนที่ร่างใหม่ของเขาจะผุดขึ้นจากกองเสื้อผ้าที่พื้นราวกับลอกคราบพร้อมทั้งเปล่งไฟสีส้มที่หน้าผาก เปลวไฟสีส้มของ [นภา] เปลวไฟดับเครื่องชนในตำนานของวองโกเล่ปรากฏขึ้นพร้อมกับคำๆ หนึ่งตะโกนออกจากปากของเด็กหนุ่มที่สวมเพียงบ็อกเซอร์สีฟ้าลายจุด คำที่เกือบจะถูกลืมเลือนไปแล้ว...
“รีบอร์น!! เจรจาสุดชีวิต!!!”
--
โคลม โดคุโร่ยืนแอบอยู่ที่มุมถนน มองไปที่หน้าประตูซึ่งมีผู้คนขวักไขว่
‘คุณเมฆาเลิกเรียนรึยังนะ?’ (R:เขาไม่เรียนแต่แรกแล้วเธอจ๋า โอย~)
เธอตั้งด้ามสามง่ามลงกับพื้น ก่อนจะเร่งพลังใช้ภาพมายาเข้าควบคุมประสาทสัมผัสผู้คนทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ไม่รู้ถึงตัวตนของเธอ ก่อนจะเดินผ่านประตูเข้าไปเงียบๆ ที่เธอลงทุนทำทั้งหมดนี้เพราะไม่อยากให้ทุกคนแตกตื่น
เมื่อเข้ามาได้ก็ถึงเวลาคิดหาวิธีตามหาตัวเด็กหนุ่มผมดำให้เจอ ซึ่งเธอก็จำได้ว่าผู้ชายผมทรงแตงกวา(R:ยังไง?)ที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนคือคนๆ เดียวกับที่บุกเข้า [ฐานทัพเมโลเน่] ด้วยกันกับเธอในโลกอนาคต และเธอก็จำได้อีกว่าเขาเป็นคนสนิทของเมฆาหนุ่ม จึงเข้าไปถาม
“ฮิบาริ เคียวยะอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“ประธาน? อยู่บนดาดฟ้าตึกหลังใหญ่ครับ” รองฯกรรมการรักษาระเบียบตอบสวนทันควัน
“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะเดินจากไป และไม่นานหลังจากนั้น รองฯหนุ่มก็รู้สึกตัว
“เมื่อกี้นี้เราคุยอยู่กับใคร?”
บนดาดฟ้าที่แสงอาทิตย์จางๆ ส่องลงมาจากหลังเมฆ เด็กหนุ่มผมดำนอนเอกเขนกอยู่บนพื้นปูนสีขาวอย่างสงบ... สงบจนกระทั่งประตูดาดฟ้าค่อยๆ เปิดออก และร่างบางของเด็กสาวผมม่วงก้าวเข้ามาพร้อมทั้งกอดสามง่ามไว้กับตัว ทำให้นกขนฟูสีเหลืองที่บินอยู่บริเวณใกล้เคียงร่อนลงมาที่ข้างศีรษะของเจ้านายผู้กำลังหลับใหล ก่อนจะส่งเสียงเรียกเจื้อยแจ้ว
“ฮิบาริ! ฮิบาริ!” พร้อมกับตีปีกขึ้นลง เป็นสัญญาณที่รู้กันระหว่างหนึ่งคนกับหนึ่งตัว
ประธานฯหนุ่มยกตัวขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองที่ประตูดาดฟ้า รีมฝีปากบางขยับเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ใคร?”
ความเย็นแล่นลงสันหลังของเด็กสาวจนลมหายใจของเธอขาดห้วง ถึงจะหวาดๆ อยู่บ้าง แต่เธอก็บังคับตัวเองให้ตอบออกไปได้
“ฉันเองค่ะ คุณเมฆา”
ฮิบาริ เคียวยะพิจารณารูปลักษณ์ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างละเอียดพร้อมกับเดินความจำไปด้วยกัน ทำให้ได้ข้อสรุปออกมาว่า
“ร่างสิงสู่ของโรคุโด มุคุโร่ เจ้านั่นสั่งให้เธอมาทำอะไรที่นี่?” ประธานกรรมการรักษาระเบียบถามด้วยความระแวง
“ฉันไม่ได้มาตามคำสั่งของท่านมุคุโร่ ฉันมาด้วยความต้องใจของตัวเอง” โคลมทำใจกล้าตอบออกไป เป็นคำตอบที่ผิดคาดเมฆาหนุ่มเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่น่าตกใจมากนัก
“...เธอต้องการอะไร?”
“ฉัน...มาขอบคุณ...” เด็กสาวพูดไม่ครบความก็ค้อมตัวลงเกือบเก้าสิบองศา ทำให้ฮิบาริไม่เข้าใจ แถมยังรำคาญนิดๆ
“ขอบคุณเรื่องอะไร?...”
“?...เมื่อคืนนี้คุณช่วยฉันไว้จากคนร้าย ฉันจึงมาขอบคุณ...” เด็กสาวก้มหัวขอบคุณอย่างลวกๆ อีกครั้ง
‘เหยื่อของพวกสัตว์กินพืชเมื่อวานนี้นี่เอง’ เด็กหนุ่มรื้อฟื้นความทรงจำกลับมาได้
“เมื่อคืนฉันหนีไปก่อน วันนี้ฉันจึงมาขอบคุณ...” เด็กสาวเอ่ยไปตามที่ใจคิด แต่เธอก็ยังหวาดๆ อยู่ว่าคำพูดของเธออาจจะไปทำให้ใครโมโหเข้า ซึ่งที่จริงมันไม่เกี่ยวกับคำพูดของเธอเลย...
“ฉันไม่ต้องการคำขอบคุณจากเธอ เรียกโรคุโด มุคุโร่มาซิ” ฮิบาริสั่งเสียงเฉียบพร้อมกับเปลือกตาที่หรี่ลงแผ่จิตสังหาร
“คุณ...ต้องการอะไรจากท่านมุคุโร่...” โคลมถอยฉากหนึ่งก้าวเมื่อรู้สึกถึงแรงอาฆาตจากคนตรงหน้า
“อย่าตั้งคำถามกับฉัน เรียกโรคุโด มุคุโร่มาซะ ฉันจะไม่พูดซ้ำอีก” แววตาของเมฆาหนุ่มยิ่งแข็งกร้าวขึ้นไปอีก ไอสังหารแผ่มาจนถึงตัวเด็กสาว
“ฉันทำให้คุณไม่ได้ค่ะ ท่านมุคุโร่จะมาเมื่อท่านต้องการ” เด็กสาวตอบตามความจริง เธอรู้สึกว่าโชคดีที่มันเป็นความจริง ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเผลอเรียกนายของเธอมาเจอกับอันตรายเข้าก็ได้
“งั้นถ้าร่างทรงอย่างเธอใกล้ตาย เจ้านั่นก็จะโผล่มายังงั้นสินะ...”
ฮิบาริตัดสินใจเด็ดขาด ยกทอนฟาที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ขึ้นตั้งท่าเตรียมจะขย้ำเด็กสาวที่กำลังสั่นกลัวตรงหน้า แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงตะโกน
“รีบอร์น! เจรจาสุดชีวิต!!” ดังขึ้นพร้อมกับเด็กหนุ่มผมฟูในกางเกงในตัวเดียวกระโจนเข้ามาขวางหน้าเขาเอาไว้
“ซาวาดะ สึนะโยชิ แต่งกายผิดระเบียบ ต้องถูกลงโทษ” ฮิบาริตัดสินใจเพิ่มเป้าหมายในพริบตา
“หุบปาก! ทำให้โคลมได้เข้าเรียนที่นี่ซะ!” เด็กหนุ่มผู้ซึ่งตาดำหายไปออกคำสั่งด้วยเสียงอันดังลั่น
“กล้าสั่งฉันยังงั้นเหรอ แล้วทำไมฉันจะต้องให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทำให้นามิโมริต้องแปดเปื้อนด้วย?” อารมณ์ของเด็กหนุ่มผมดำใกล้จุดเดือดเข้าไปทุกที
“ห้ามเถียง! บอกให้ทำก็ทำสิเฟ้ย!!” สึนะโพล่งกลับราวกับไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว(R:ก็จริงง่ะ)
“แต่งกายผิดระเบียบ ส่งเสียงดัง ทำลายความสงบสุข แล้วยังบังอาจออกคำสั่งกับฉัน ซาวาดะ สึนะโยชิ โทษของนายสาหัสมาก เตรียมตัวให้ดี” ฮิบาริเป็นฝ่ายพุ่งเข้าจู่โจมเด็กหนุ่มผู้ขาดสติ
แน่นอนว่าผลมันเห็นกันชัดอยู่แล้ว บอสหนุ่มไม่มีทางเทียบผู้พิทักษ์ของตัวเองในการต่อสู้ระยะประชิดได้ ถ้าหากทารกชุดดำที่อยู่ตึกฝั่งตรงข้ามอยู่เฉยๆ ล่ะก็นะ
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
กระสุนสี่นัดแล่นผ่านอากาศเจาะทะลุเข้าที่ข้อพับแขนและขาทั้งสองข้างของวองโกเล่หนุ่ม ทำให้ทั้งสี่ส่วนได้รับผลของกระสุนเพิ่มพลัง
แขนและขาสี่ข้างยืดออกราวกับหนวดปลาหมึกเข้าตวัดรัดตรึงประธานกรรมการรักษาระเบียบอย่างแน่นหนาจนขยับไม่ได้ แม้จะออกแรงจนถึงขีดสุดแต่ก็ยังหลุดจากเเรงของพลังจากกระสุนดับเครื่องชนไม่ได้
ในตอนนั้นเองที่ทารกชุดดำปรากฏตัวขึ้น
“ดีจ้า”
“เจ้าหนู นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ฮิบาริถามอย่างใจเย็นทั้งที่ตัวเองถูกพันธนาการเอาไว้อยู่
“เเค่มีเรื่องจะขอร้อง นายช่วยรับฝากโคลมเข้าเรียนที่นามิโมริได้มั้ย? แน่นอนว่าไม่ให้ทำเปล่าๆ” รีบอร์นใช้รอยยิ้มบลัฟให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าตัวเองเป็นต่อ
“ไม่เอาด้วยล่ะ ถ้านายไม่ให้เจ้านี่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ล่ะก็ แม้แต่นายก็จะกลายเป็นศพไปด้วย” ฮิบาริปฏิเสธแทบจะในทันที ซ้ำยังขู่ทารกชุดดำด้วยน้ำเสียงและแววตาเดียวกับที่ใช้กับคนในโรงเรียน ...ซึ่งเราก็รู้กันอยู่ว่าไม่มีผลกับทารกชุดดำแม้แต่น้อย
“จะดีเหรอ ถ้านายยอมรับข้อเสนอ ฉันอาจจะช่วยนายเรื่องมุคุโร่ก็ได้นา~” รีบอร์นงัดข้อเสนออันยั่วยวนออกมาใช้
“โรคุโด มุคุโร่น่ะฉันจะเรียกออกมาเอง ใช้ร่างทรงที่ตรงนั้นไง” ฮิบาริเบนสายตาไปทางเด็กสาวที่ตกใจและกุมสามง่ามในมือแน่นขึ้น
‘ฉลาดขึ้นนะ แต่ก็ทำให้คุมยากตามไปด้วย’ ทารกชุดดำนึกชมเด็กหนุ่มอยู่ในใจ
“!?” วองโกเล่ผู้ขาดสติ แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าแขนขาตัวเองค่อยๆ ถูกแรงที่มหาศาลกว่าดันให้เลื่อนหลุดออกทีละน้อย และปฏิกิริยานี้ก็ไม่พ้นสายตาของนักฆ่าหน้าเด็กไปได้ ทำให้เขาต้องรีบหาคำพูดมาหว่านล้อม
“มุคุโร่ถูกจับขังอยู่ จะปรากฏตัวได้ก็ต้องใช้พลังงานมาก และก็ต้องใช้เวลาสะสมนานตามไปด้วย ถ้ามีสื่อวิญญาณอยู่ใกล้ๆ ตัวจะยิ่งเพิ่มโอกาสเจอขึ้นไม่ใช่เหรอ?” รีบอร์นยังคงรักษาท่าทีเยือกเย็นและรอยยิ้มมั่นใจเอาไว้ และในที่สุดการบลัฟก็ส่งผล
“...ฉันรับข้อเสนอ แต่ถ้าโรคุโด มุคุโร่ไม่ปรากฏตัวออกมาซักทีล่ะก็ นายจะต้องเป็นคนสู้กับฉันแทน” ฮิบาริยอมโอนอ่อนแต่ก็ยื่นเงื่อนไขกลับไป
“ตกลงแลกเปลี่ยน” รอยยิ้มบลัฟเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแห่งความสำเร็จบางๆ พร้อมกันนี้แขนขาของวองโกเล่หนุ่มที่เกี่ยวก่ายตัวของเมฆาหนุ่มก็คลายออก และเปลวไฟสีส้มที่หน้าผากของเขาก็ดับไป... ในเวลาที่เหมาะเจาะที่สุด
“ซาวาดะ สึนะโยชิ โทษเพิ่มสองเท่า เตรียมตัวให้ดี” เมฆาหนุ่มจ้อง(ผู้ที่น่าจะเป็น)บอสของตัวเองด้วยแววตาที่เพิ่มแรงอาฆาตขึ้นอีกเท่าตัวพร้อมกับตั้งท่าเตรียมลุยสุดตัว
“อี๋!!~” เด็กหนุ่มผู้สวมเพียงบ็อกเซอร์รับรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองก็ได้แต่ตัวสั่นงันงก
“ไปกันเถอะ โคลม ฉันเรียกเคียวโกะเอาไว้แล้ว เดี๋ยวพาเธอไปซื้อชุดของนามิโมริกัน” ทารกชุดดำหันหลังเดินตรงไปที่ประตูซึ่งเปิดกว้าง ทิ้งภาพฆาตกรรมโหดเอาไว้เบื้องหลัง
“แต่ว่าบอส“
“นั่นเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างแฟมิลี่ อย่าห่วงไปเลย” ทารกชุดดำตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ค่ะ” ถึงจะยังงงๆ กับเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ เด็กสาวผมม่วงรับคำ ก่อนจะเดินตามหลังผู้ชี้แนะไป ทิ้งบอสของตัวเองไปอีกคน
“จริงสิ นายเป็นหัวโจกของกลุ่ม งั้นก็ต้องมีโทษพิเศษเพิ่มฐานทำลายความสงบของชีวิตฉัน” เมฆาหนุ่มนึกสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเด็กหนุ่มผมฟูขึ้นมาได้
“ไม่อ๊าววว~!!”
--
R:”รู้สึก...เสียวสันหลังจังแฮะ ไปวิจารณ์เขาไว้มาก เดี๋ยวก็ต้องโดนคืน แต่ยังไงก็ยังงั้นเลยเหอะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น