ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reborn : Fierce Demon & Little Cute Pineapple [1896]

    ลำดับตอนที่ #13 : การต่อสู้อันดุเดิอด! ดุเดือดจนอัพรูปที่วาดไว้ไม่ขึ้นเลย โน่วววว~!!

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 54


    Ch.13
     
    คำเตือน!!
    เนื้อหาในตอนแสดงถึงความรุนแรง พลังเหนือมนุษย์
    และฉากต่อสู้ที่เกิดขึ้นจากระบบความคิดของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ชื่อว่า [นอ-สอ-นอ]
    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
    และไม่อนุญาตให้มีวัตถุที่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตไว้ใกล้ตัว
     
    --
     
    ที่ถนนสายหนึ่งชานเมืองนามิโมริ เด็กหนุ่มสี่คนกับทารกหญิงอีกหนึ่งยืนรอการมาของทารกชุดดำ และเขาก็มาถึงแล้ว
     
    “เป็นยังไงบ้าง รึบอร์น?” เด็กหนุ่มผมฟูถามทันที
     
    “ฮิบาริไม่อยู่ อย่างหมอนั่นคงออกไปตามหากับกรรมการรักษาระเบียบแล้ว พวกเราต้องไปกันแค่นี้แหละ ทุกคนพร้อมกันแล้วใช่มั้ย?”
     
    “อืม” สึนะตอบรับ
     
    “รุ่นที่สิบพร้อม ผมก็พร้อมครับ!” โกคุเดระเสริม
     
    “จะไปช่วยเพื่อนนี่เนอะ ก็ต้องเตรียมตัวกันมาแล้ว” ยามาโมโตะตอบหน้าระรื่นแต่มีแววจริงจังอยู่
     
    “โอ้!! ช่วยโดคุโร่สุดหูรูด!!” เรียวเฮผู้มีอายุมากที่สุด เสียงตอบก็ดังที่สุดด้วย
     
    ทารกหญิงมองดูทั้งสี่คนด้วยแววตาไม่วางใจ
     
    “...รีบอร์น เจ้าพวกนี้จะไหวแน่เหรอ เป็นผู้พิทักษ์น่ะ?”
     
    “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก การฝึกพิเศษที่โลกอนาคตทำให้เจ้าพวกนี้แกร่งทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ถึงเวลาก็จะเห็นเอง” ‘แล้วศัตรูยุคนี้ก็ไม่มีทางสู้เจ้าพวกนี้ที่ใช้พลังของแหวนได้ด้วย’
     
    เมื่อเตรียมพร้อมกันแล้วรีบอร์นก็เริ่มอธิบายเส้นทาง
     
    “ตามที่พ่อของยามาโมโตะบอก ที่นั่นเคยเป็นโกดังเก็บปลาสดจนกระทั่งเร็วๆ นี้ตรวจพบว่าปลวกกินจนผุพังใกล้ถล่ม กลายเป็นเขตอันตราย แล้วก็ได้แผนที่มาด้วย” ทารกชุดดำชูกระดาษเขียนด้วยหมึกพู่กันสีดำขึ้นมา ก่อนจะเริ่มเดินนำไปพร้อมกับอ่านแผนที่ไปด้วย
     
    ทั้งหกเดินซอกแซกไปในเขตโกคุโยที่มีคนเดินกันเพียงน้อยนิด เลี้ยวซ้ายหันขวามานาน เลี้ยวอีกไม่กี่ครั้งก็จะถึง
     
    ‘รู้สึกแปลกๆ แฮะ’ สึนะคิด รู้สึกถึงความไม่สบายตัวอย่างประหลาด จึงหันกลับไปเตือนคนด้านหลัง
     
    “ทุกคนระวังตัวด้วยนะ อาจจะมีอะไรอยู่ก็ได้
     
    “ครับ รุ่นที่สิบ!” “ได้เลย สึนะ” “...”
     
    “เอ๊ะ? ทำไม—คุณพี่ไม่อยู่แล้ว!!” สึนะร้องลั่น เพราะนักมวยเพียงคนเดียวในกลุ่มหายไปอย่างไร้ร่องรอย
     
    สองทารกที่เดินนำอยู่หันขวับกลับมาทันที
     
    “สงสัยว่าเราจะประมาทไปหน่อย ติดกับศัตรูเข้าอย่างจัง ไม่นึกเลยว่าจะโดนเล่นงานตั้งแต่ยังไม่ถึงที่หมาย” ทารกชุดดำเอ่ยเสียงเครียด
     
    “จะถอยก็ไม่ได้แล้ว ถ้าอยากจะช่วยเจ้านั่นแล้วก็ผู้พิทักษ์สายหมอกด้วยก็มีแต่ต้องมุ่งตรงไปหาศัตรู ถึงจะรู้ว่าเป็นกับดักก็เถอะ” ทารกหญิงว่าจบก็หันหลังเดินนำไปต่อ ทั้งสี่คนที่เหลือจึงเดินตามไป ในใจยังเป็นห่วงเด็กหนุ่มหัวสนามหญ้า
     
    ทั้งห้าคนมาถึงหน้าโกดังขนาดใหญ่ บรรยากาศคล้ายซ่องโจร เพราะตามจดหมายแล้วมันก็ใช่
     
    “ระวังตัวให้ดีล่ะ มีกับดักอะไรอีกแน่” ทารกชุดดำเตือนก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าสู่เขตอันตราย
     
    “พวกเรามาแล้ว!” สึนะออกหน้าตะโกนบอก ก่อนที่ทั้งหมดจะตั้งท่าสอดส่องเตรียมรับการจู่โจมทุกรูปแบบ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการจู่โจมจะมาในรูปแบบไหน
     
    จนกระทั่งมันเริ่มขึ้น...
     
    ซ่า~
     
    “เฮ้ย! อะไรเนี่ย!?” โกคุเดระร้องลั่นเมื่อเม็ดน้ำตกลงมาเป็นห่าฝนจนแต่ละคนตัวเปียกปอน
     
    “!?!” รีบอร์นรู้โดยสัญชาตญาณว่านี่ไม่ใช่น้ำธรรมดา
     
    ทันใดนั้นเงาคนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ล้อมทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกับวิ่งเข้ามาอาวุธครบมือ
     
    ทารกหญิงและสองผู้พิทักษ์เข้ารับมือในศึกระยะประชิด ในขณะที่ทารกชุดดำผู้ว่องไวอยู่เสมอยกปืนขึ้นเล็งไปที่เด็กหนุ่มผมฟูซึ่งหยิบถุงมือไหมพรมออกมาสวม
     
    ศัตรูใกล้เข้ามาทุกทีแต่นิ้วเล็กก็ยังไม่กดไก
     
    “แย่แล้ว... ขยับตัวไม่ได้...”
     
    สึนะได้ยินอย่างนั้นก็รีบควักเอากระปุกยาดับเครื่องชนออกมาด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดฝา นิ้วมือก็ปฏิเสธคำสั่ง กระปุกยาหล่นลงกับพื้น
     
    “!!” เด็กหนุ่มทั้งสามรู้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนยืนแทบไม่อยู่ ส่วนอัลโกบาเลโน่ไม่สมประกอบก็ประสบชะตากรรมเดียวกับทารกชุดดำ
     
    “น้ำที่ชุ่มตัวเราอยู่ มีไฟธาตุพิรุณอยู่หน่อยๆ!” รีบอร์นกัดฟันพูด ก่อนจะปลดปล่อยเปลวไฟธาตุอรุณขึ้นมากระตุ้นการทำงานของเซลล์ตัวเองเพื่อต่อต้านคุณสมบัติ [ระงับ] แต่ก็ไม่เห็นความแตกต่าง
     
    ‘แหวนน่าจะยังไม่เกิดขึ้นมานี่นา นี่มันยังไงกันแน่?’
     
    สึนะที่ตาพร่ามัวมองเห็นกลุ่มคนที่เข้ามาใกล้ตัวเองได้ลางๆ ก่อนจะรู้สึกว่าถุงมือถูกถอดเอาไป
     
    ซ่า!
     
    โกคุเดระรู้สึกถึงของเหลวราดท่วมตัวเองอีกครั้ง แต่คราวนี้กลิ่นที่ฉุนเตะจมูกทำให้เขารู้ว่านี่มันคือน้ำมันไม่ผิดแน่
     
    ‘โธ่เว้ย จุดไฟไม่ได้ก็ใช้ไดนาไมต์ไม่ได้...’
     
    “อึ้ก!!” เสียงร้องดังขึ้นจากยามาโมโตะ เงาดำเข้าประชิดตัวเขาจากด้านหลังพร้อมกับกดมือติดกับส่วนตรงหัวใจ
     
    “ไฟธาตุอรุณ!... เจ้านั่นโดนกระตุ้นหัวใจอย่างรุนแรง แบบนี้หัวใจระเบิดแน่!...” โกคุเดระเมาน้ำมัน(?)แต่ก็ยังรู้ถึงสภาพรอบตัว
     
    ไฟธาตุอรุณทึ่ซึมไปกับกระแสเลือดถูกหัวใจสูบฉีดไปทั่วร่าง สลายผลของไฟพิรุณได้ชั่วเวลาหนึ่ง และในตอนนั้นเองที่ยามาโมโตะมองเห็นอะไรบางอย่างส่องแสงสีเขียวอยู่บนเพดานสูงท่ามกลางความมืด
     
    ด้วยแรงกระตุ้นจากไฟธาตุอรุณและพรสวรรค์เบสบอล เขาขว้างไม้ตีในมือขึ้นสูง กระแทกเข้ากับอุปกรณ์บางอย่างดัง ‘แคร่ก!’ แล้วแสงก็หายไปพร้อมกับร่างที่หัวใจบอบช้ำร่วงลงสู่พื้น
     
    สองทารกรู้สึกได้ว่าตัวเองหลุดจากพันธนาการ หันกลับไปโต้ตอบผู้เข้าทำร้าย กระสุนจากปืนสีเขียวแล่นเข้าหน้าผากของเด็กหนุ่มผมฟูที่สติพร่ามัว ก่อให้เกิดปฏิกิริยาขั้นสุดยอดอีกครั้ง
     
    “รีบอร์น! จัดการศัตรูสุดชีวิต!!”
     
    แล้วเด็กหนุ่มในบ็อกเซอร์ตัวเดียวก็ไล่กวาดศัตรูที่เกาะแกะเพื่อนตัวเองให้ออกไปห่างๆ
     
    รัล มิลจิใช้สายตาอันเฉียบคมมองหาผู้ที่ขโมยถุงมือของวองโกเล่หนุ่มไปจนเจอ และยกปืนขึ้นยิงโดยไม่เสียเวลาเล็ง
     
    ปัง!
     
    เงาดำล้มฟุบลง เธอวิ่งเข้าไปหยิบเอาถุงมือไหมพรมและกลับที่เดิมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนมันส่งให้วองโกเล่ในสภาพดับเครื่องชน
     
    สึนะใส่ถุงมือเข้าไป และไฟดับเครื่องชนที่หน้าผากซึ่งเคยลุกอย่างบ้าคลั่งก็สงบลง ถุงมือไหมพรมเปลี่ยนเป็นถุงมือผ้าที่มีผลึกสีส้มที่ด้านหลัง สีหน้าเปลี่ยนเป็นมั่นใจ เด็กหนุ่มตอนนี้อยู่ในคราบของวองโกเล่เดซิโมผู้ปราบเบียกคุรันแห่งโลกอนาคต เป็นเด็กหนุ่มสุดเท่ขวัญใจ FC ทั้งหลายคนเดิม เว้นแต่... ใส่ถุงมือไม่ได้ช่วยให้ได้เสื้อผ้ากลับมา
     
    ด้วยเปลวไฟที่พ่นออกจากถุงมือ สึนะเร่งความเร็วฝ่าฝูงศัตรูเข้า...หยิบเสื้อผ้าตัวเองที่อยู่กับพื้นก่อนจะบินขึ้นไปบนฟ้าและสวมมันกลับเข้าไป เพื่อลดบรรยากาศกระอักกระอ่วนลง
     
    ทางด้านโกคุเดระได้ [เครื่องกำจัดสารไวไฟ] ของ [จางนีนิ] เข้าช่วยกำจัดน้ำมันที่เปื้อนตัวอยู่ออกไปจนหมด จึงกลับสู่สภาพพร้อมรบสมฉายา [สโมกกิ้ง บอมบ์] ได้อีกครั้ง
     
    “ระเบิดสองเท่า!”
     
    บรึ้ม!!
     
    ศัตรูนับสิบหายวับไปกับการระเบิดเพียงครั้งเดียว
     
    รีบอร์นซึ่งสังเกตศัตรูมาตลอดเวลาที่ต่อสู้สามารถค้นพบเรื่องสำคัญบางอย่างได้อย่างไม่ยากเย็น
     
    “สึนะ! ยิง [เอ็กซ์-เบิร์นเนอร์] ขึ้นไปบนท้องฟ้าเลย!”
     
    วองโกเล่หนุ่มเชื่อในคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ ยืดมือออกด้านหน้าและหลัง ปรับสมดุลไฟอ่อนคำยั้นไฟแข็งรวมศูนย์ เป้าหมายคือหลังคาที่ทั้งเก่าทั้งผุ ก่อนที่เปลวไฟสีส้มขนาดใหญ่จะระเบิดพวยพุ่งออกมาเป็นสาย
     
    X-Burner!!
     
    หลังคากระจุยกระจาย แสงสว่างส่องเข้ามา แล้วความรู้สึกที่เหมือนกับอะไรบางอย่างสลายหายไปก็รู้สึกได้โดยทุกคน เงาดำนับไม่ถ้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ทุกคนได้ข้อสรุป
     
    “เมื่อกี้นี้เป็นภาพลวงตา แถมยังเป็นแบบจับต้องได้ ตามคุณสมบัติ [ก่อตัว] ของไฟธาตุหมอก” รีบอร์นอธิบาย
     
    ‘ถึงได้ลักพาตัวโคลมมา เพราะถ้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกต้องดูออกทันทีแน่’
     
    สึนะกลับลงสู่พื้นแต่เปลวไฟที่หน้าผากยังไม่หายไป เพราะเขารู้สึกได้ว่าศัตรูยังอยู่ที่นี่ และอยู่...
     
    “ตรงนั้น”
     
    ที่ด้านหลังซากเพดานซึ่งตกลงมากองทับกันอยู่ ที่นั่นมีทางเข้าไปส่วนในของโกดัง สึนะมองไปทางนั้น และนี่ทำให้ใครบางคนโพล่งออกมา
     
    “รออยู่นี่นะครับ ไอ้พวกทำตัวลับๆ ล่อๆ ผมจะเข้าไปลากคอมันออกมาเอง!” ว่าจบโกคุเดระก็วิ่งออกไปอย่างมุทะลุ
     
    “เดี๋ยวก่อน โกคุเดระคุง!” สึนะร้องห้าม แต่เหมือนเสียงไปไม่ถึง เด็กหนุ่มผมเงินหายเข้าไปในประตู ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้น
     
    บรึ้ม!
     
    ซากหลังคาปลิวหายไปพร้อมกับช่องขนาดเท่าประตูเปลี่ยนเป็นอะไรซักอย่างที่ไม่น่าจะใช่กำแพงแน่ๆ
     
    ควันจากแรงระเบิดบดบังทำให้มองไม่เห็น แต่เงาของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินกลับออกมาทำให้สึนะสบายใจ...ได้ชั่วขณะ จนกระทั่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของเด็กหนุ่มผมซอยสั้นสีน้ำตาลเข้มในเสื้อเสื้อคลุมหนังและกางเกงขาสั้นสีขาว และที่แก้มซ้าย...อักขระรูปจันทร์เสี้ยวสีเงิน
    [*อุตส่าห์เสียเวลาวาดรูปหลายวัน กั๊กตอนไว้ไม่มาอัพฯ(มิน่าถึงนาน) ดันลืมว่าไฟล์ภาพนอกเครื่องมันจะใหญ่เวอร์ อัพไม่ได้ เซ็งครับท่าน]
     
    “เจ้านั่นสินะ คนที่ว่า” รีบอร์นถามโดยรู้คำตอบอยู่แล้ว
     
    เด็กหนุ่มปริศนามองร่างของเด็กหนุ่มที่หมดสติอยู่ ก่อนจะเลื่อนไปมองคนอื่นๆ
     
    และโดยที่ทั้งสามยังไม่ทันได้ตั้งตัว ลูกธนูก็ก่อตัวขึ้นจากอากาศธาตุพุ่งเข้าจู่โจมเป็นห่าฝน
     
    อัลโกบาเลโน่ทั้งสองไม่มีปัญหากับการหลบของธรรมดาๆ แบบนี้อยู่แล้ว และวองโกเล่หนุ่มซึ่งฝึกมาอย่างหนักก็เช่นกัน สายตาอันว่องไวของเขามองเห็นและหลบหลีกลูกธนูได้ทุกลูก ยกเว้นลูกหนึ่ง...
     
    ฉึก!
     
    แรงสะเทือนที่ไหล่ขวาทำให้สึนะหันกลับไปมอง พบว่าไหล่ของตัวเองมีเลือดไหลออกมา และลูกธนูก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ เป็นลูกธนูที่มีไฟธาตุหมอกเคลือบอยู่หน่อยๆ ตอบข้อสงสัยได้ว่าทำไมมันถึงล่องหน
     
    สึนะตัดสินใจถอนลูกธนูออกและพุ่งฝ่าห่าฝนดอกธนูเข้าหาต้นกำเนิดโดยตรง และในระยะเพียงไม่กี่เมตรก่อนจะถึงตัว
     
    ชิ้ง!
     
    [ลางสังหรณ์ขั้นสุดยอด] ความสามารถของวองโกเล่ในการจับทางของหลายสิ่งหลายอย่างได้ ถ้าขาดความสามารถนี้ไปเขาคงไม่มีทางเบี่ยงหลบลูกธนูที่พุ่งสวนออกมาด้วยความเร็วเกือบเจ็ดร้อยเมตรต่อวินาทีโดยเฉียดแก้มเข้าไปเพียงไม่กี่มิลฯ
     
    *(R:เท่ากับกระสุนปืนอย่างเร็วดีๆ นี่เอง)
     
    สึนะถอยออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง เป็นเพราะไฟธาตุวายุ และในตอนนั้นเขาก็เบิกตากว้างด้วยความที่ทั้งประหลาดใจและตกใจเป็นที่สุด
     
    ห่าฝนดอกธนูมาอีกครั้ง และคราวนี้สึนะก็หลบมันได้อย่างคล่องแคล่ว ทว่าไม่บุกเข้าไปเหมือนครั้งก่อน และยังดูบินฉวัดเฉวียนติดขัดกว่าครั้งก่อน
     
    “ซาวาดะเป็นอะไรไปน่ะ?” ทารกนอกแก๊งถาม เธอดูออกเวลาที่ใครทำตัวไม่เหมือนปกติ และทารกชุดดำก็ช่วยตอบ
     
    “สึนะกำลังสับสนอยู่ คงเป็นเพราะลูกธนูเคลือบไฟธาตุวายุเมื่อกี้ ถ้าให้ฉันเดา นั่นคงจะเป็นเพราะ...”
     
    สึนะบินหลบดอกธนูนับร้อยท่ามกลางความสับสนของตัวเอง
     
    ‘เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน? ไฟธาตุวายุเมื่อกี้ เรารู้สึกได้...เป็นของโกคุเดระคุง!?’
     
    และก็เป็นอย่างที่เราเคยได้ยินกันมา สภาพจิตใจส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสของคนเรา หลักฐานก็คือวองโกเล่หนุ่มถูกดอกธนูล่องหนปักเข้าที่ท้อง ตามด้วยหัวไหล่ข้างเดิม จนร่วงลงกับพื้น ไฟที่หน้าผากดับไป
     
    “ซาวาดะ!” ทารกหญิงวิ่งเข้าไปดูอาการของเด็กหนุ่มก่อนเป็นคนแรก ตามติดด้วยทารกชุดดำซึ่งแบกร่างไร้สติของนักดาบหนุ่มเอาไว้
     
    “แฮ่ก! แฮ่ก!” เด็กหนุ่มหายใจหอบด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ
     
    ‘สภาพแย่สุดๆ กล้ามเนื้อไม่มีแรง คงเป็นเพราะน้ำเมื่อกี้ แล้วยังบาดแผลอีก แต่ที่เลวร้ายที่สุดคงเป็นความสับสนตามที่รีบอร์นว่าเอาไว้’
     
    ในสภาพที่เหมือนจะสิ้นหวัง คนเขียนก็ถูกปลดปล่อยจากสภาพแรงกดดันของคนอ่านเมื่อร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่ทางเข้า
     
    “นึกว่าเป็นโรคุโด มุคุโร่ซะอีก ที่มาใช้ภาพมายาอยู่แถวนี้...”
     
    ผู้มาใหม่ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แสงตะวันที่คล้อยขอบฟ้าจากด้านหลังพาดผ่านร่างของเด็กหนุ่มผมดำ
     
    “หลังคาเสียหายยับเยิน ใครเป็นคนทำ?”
     
    ปลอกแขน [รักษาระเบียบ] เด่นหราอยู่ที่ต้นแขนซ้ายของเสื้อเชิ้ตสีขาว
     
    “แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าพวกนายคนไหนรู้ที่อยู่ของเด็กผู้หญิงผมสั้นสีม่วงล่ะก็บอกฉันมาซะ”
     
    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลผู้มีอักขระที่แก้มซ้ายหันไปมองผู้มาเยือนด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ความระแวดระวังเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
     
    “นายคงรู้สินะ” ประธานกรรมการรักษาระเบียบหันไปทางคนหน้าไม่คุ้นด้วยแววตาเยือกเย็นแต่หงุดหงิดและดุดัน
     
    “บอกฉันมาซะ โคลม โดคุโร่อยู่ที่ไหน เพราะถ้าคนในความดูแลของฉันเป็นอะไรไปล่ะก็...”
     
    ทอนฟาสีเงินปรากฏขึ้นที่แขนสองข้างของ [ผู้พิทักษ์แห่งนามิโมริ]
     
    “ฉันจะขย้ำมันไม่ให้เหลือ...”
     
    --
     
    R:”เป็นไงมั่งอะ? ฉากบู๊ที่เขียนลื่นไหนจนลืมตัว ต่างกับฉากหวานที่ต้องเค้นสมองแล้วเค้นสมองอีกถึงจะออกมาได้ประโยคนึง”
     
    DX:”ไอ้นั่นน่ะ ใครฟะ? รูปก็ไม่มี พูดก็ไม่พูดซักคำ อธิบายก็คลุมเครือ ห่วยแตกจริงๆ”
     
    R:”ขอโทษด้วยเรื่องอธิบาย เรื่องไม่พูดมันอยู่ที่บุคลิก ส่วนรูปนั้น คนเขียนวาดไปแล้ว(ด้วยฝีมือที่ห่วยกว่า [ปิกัสโซ] ตอนแบเบาะ) แต่ไฟล์ภาพใหญ่เกินไป ลงไม่ได้ เซ็งหมูเห็ดเป็ดไก่และหูฉลาม”
     
    H:”ฮึ ฉันได้ออกแค่ช่วยท้ายงั้นเหรอ? ถือเป็นการหลู่เกียรติของฉันอย่างรุนแรง เตรียมตัวถูกขย้ำ—“
     
    R:”สต็อป!!” (ล้วงป้ายออกมาจากอากาศธาตุ ตั้งลงหันหน้าเข้าหาฮิบาริ)
     
    H:”นี่อะไร?”
     
    R:”ป้ายบอก [เขตห้ามขย้ำ] อย่าทำอะไรฉันนะเฟ้ย ผิดกฎ!”
     
    เปรี้ยง! (ป้ายหักกระเด็นหายไปกับอากาศธาตุ)
     
    H:”กฎหายไปแล้ว ตายซะ”
     
    ผัวะ! ผัวะ! กร๊อบแกร๊บ!~
     
    DX:”...ดูไว้ซะ กรรมการรักษาระเบียบ แหกกฎที เล่นซะหน้าด้านๆ(แต่กฏพรรค์นั้นมันไร้สาระอยู่แล้ว)...”
     
    --

    ความคิดเห็นที่ 31 (จากตอนที่ 10)   
    โคลมไม่ซื้อเสื้อในไว้ด้วยหรอ? -..-(โดนทอนฟาฟาด)
    PS.  1896 5986 Fighting !!! I love Mukuro ><// และ ไม่มีอะไร สำคัญไปกว่า โซวอนแน่ !! snsd forever ~~
    Name : \TiE*TiE/< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ \TiE*TiE/ [ IP : 223.205.169.189 ]
    Email / Msn: tie_tie-as-b(แอท)hotmail.com ส่งข้อความลับ
    วันที่: 1 กรกฏาคม 2554 / 22:52

    R:"คุณตีตี้(อ่านถูกป่าวหว่า?) ช่างสังเกตจังนะครับ ถูกต้องแล้วครับ ผมไม่ได้เขียนไว้ว่าโคลมซื้อเสื้อในเอาไว้ นั่นก็เพราะว่า...ผม...คิดไม่ถึง...(ขอโทษนะเฟ้ยที่เกิดมาเป็นผู้ชาย = =;) ถือซะว่ามันรวมอยู่ใน 'ชุด' ที่โคลมเลือกไปก่อนหน้านั้นละกันเนาะ เพราะเราก็อธิบายแต่ชุดที่ท่านฮิบาริเลือกซะด้วย"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×