คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - { B I G B O S S } ★ 04 ; คำพูดของเจ้านาย คือกฎหมายของบ้าน!
ไม่รู้ว่าคิมจงอินคิดไปเองหรือเปล่า..
แต่ท้องฟ้าวันนี้มันดูอึมครึมผิดปกติกว่าทุกวัน...
อย่างกับมันกำลังเย้ยหยันเขายังไงอย่างงั้นเลย
“เฮ้ย จงอิน”
เสียงจากด้านหลังดังเรียกให้คนที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าตื่นจากภวังค์ คนตัวดำสะดุ้งเฮือกเมื่อเจ้าของเสียงเดินมากระแทกถาดข้าวแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้าม พี่จงแดในลุคนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดแปลกๆ ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนั้น ก็คงเพราะคนที่นั่งโซ้ยข้าวอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้ใส่ชุดสูทสีดำเหมือนทุกวันล่ะมั้ง...
คิดว่าเขาเสียสติล่ะสิ ไม่ได้ใส่สูทผูกไทด์เหมือนทุกวันแล้วมันน่าอัศจรรย์ตรงไหน...
ก็จะไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ ถ้าพี่แกไม่ได้กำลังใส่ชุดดราก้อนบอลเซ็ตผมทรงตั้งเหมือนโงกุนแบบนี้อะ...
“มองไร มีปัญหาอะไรกับหัวกะบาลกู”
“เฮ้ย เปล่าๆ” คิมจงอินแทบสำลักข้าวที่เพิ่งจะกลืนลงคอ มือเรียวยกขึ้นทำท่าปฏิเสธทันที “ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหัวพี่...แค่สงสัยเฉย ๆ ว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้”
พอได้ฟังคำปฏิเสธจากคนตรงหน้าว่าไม่ได้จงใจมองหน้าหาเรื่อง คิมจงแดก็เอาลิ้นดุนผนังแก้มแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ มือเล็กยกขึ้นเสยทรงผมที่เซ็ตมาจากห้องเป็นอย่างดีอวดเด็กใหม่ “นี่อะหรอ...ก็เพราะว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ไง”
“วันศุกร์?” เด็กหนุ่มทวนคำแล้วยิ้มแหย ๆ ให้อีกฝ่ายทีนึงก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองแกร่ก ๆ “วันศุกร์แล้วมันยังไงวะพี่...”
“อ้าว...นี่มึงไม่รู้หรอ”
“ไม่อะ...” ส่ายหัวยิก ก่อนจะกระพริบตามองคนตรงหน้าปริบ ๆ เขาจะรู้ธรรมเนียมประหลาด ๆ ของบ้านนี้ได้ยังไง ก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เมื่อวาน =_=
“วันศุกร์ก็มีปาร์ตี้ไง” คนพูดบอกเด็กใหม่ด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ดวงตาเรียวเล็กนั่นสั่นระริกไปด้วยอาการตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
“ปาร์ตี้อะไรวะพี่...มีแค่เฉพาะวันศุกร์หรอ” คนตัวดำขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างมึนงง ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองตามที่มือของอีกฝ่ายชี้
ตอนนี้ห้องอาหารที่เคยว่างเปล่ามีแค่เขากับพี่จงแดเริ่มแน่นขนัดไปด้วยผู้คนแต่งกายประหลาด ๆ ไม่ใช่แค่โงกุนอย่างคิมจงแดเท่านั้นที่จัดเต็ม เมื่อกี้ตอนหันไปมอง จงอินสาบานได้ว่าเขาเห็นแฮร์รี่ พอตเตอร์กับรอน วิสลี่ย์เดินเข้ามาพร้อมกันด้วย...
“ใช่...” รุ่นพี่ร่างเล็กพูดพลางตักข้าวคำที่สองเข้าปาก “แต่งตัวตามธีมที่บอสเป็นคนกำหนด ก็เปลี่ยนไปทุก ๆ ศุกร์นั่นแหละ”
“แล้วถ้าไม่แต่งจะมีปัญหาอะไรไหมพี่” เด็กหนุ่มถามออกไปทันที จะหาเสื้อผ้าแปลก ๆ แบบคนอื่นใส่ในตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้ว และยิ่งคนตรงหน้าถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าแกน ๆ เขายิ่งรู้สึกว่ากระทะทองแดงมันอยู่ไม่ไกลแค่เอื้อม...
“มีดิ...ก็ถ้าใครแต่งตัวตามธีมที่บอสเป็นคนกำหนดไม่ได้จะต้องโดนปรับตกเป็นผู้แพ้” รุ่นพี่ร่างเล็กกระซิบเสียงเครียดก่อนจะกัดช้อนแรง ๆ อย่างคนมีอารมณ์ร่วม “ผู้แพ้ต้องโดนลงโทษ”
“ลงโทษ...?” คนตัวดำกระซิบกับตัวเองเสียงเบา เริ่มรู้สึกถึงลางร้ายที่ปรากฏจาง ๆ บนใบหน้าตัวเอง
“อือ ก็ไอ้ดงดงไง...”
“ไอ้ดงดง? ยังไง?” มาถึงตรงนี้คนตัวดำถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ลงคอ สาบานได้ว่าเขาไม่ได้กำลังป๊อดหรืออะไรทั้งนั้น แต่ขนแขนมันลุกชัน มันแสตนอัพของมันขึ้นมาเอง
เห็นหน้าไอ้เด็กใหม่ซีดเผือดไร้สีก็ยิ่งได้ใจ ร่างเล็กรีบยื่นตัวไปป้องปากพูดกับอีกฝ่ายเสียงเบา
“คนแพ้ต้องเป็นของเล่นให้ไอ้ดงดงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ โดยไม่มีข้อแม้ข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น!”
BIG BOSS | ボス
04 | คำพูดของเจ้านาย คือกฎหมายของบ้าน!
“เฮฮฮฮฮ!!!”
คงไม่ต้องถามหรอกว่าไอ้เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั้งสนามเทนนิสนี่เป็นของใครบ้าง เพราะมองดูคร่าว ๆ จากสายตาแล้วก็เกือบทุกคนนั่นล่ะที่ดูจะสนุกสนานกับสิ่งที่คิมจงอินต้องเจอ เด็กหนุ่มผิวสีแทนยืนเม้มริมฝีปากแน่น เขาจ้องมองรุ่นพี่ร่างเล็กที่กำลังจูง ‘ไอ้ดงดง’ เดินเข้ามาในเขตสนามเทนนิสด้วยสีหน้าสยอง
“เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทุกคนรู้กติกาดีอยู่แล้วใช่ไหม” จงอินหันไปทางโฆษกที่ยืนถือไมค์ลอยสีดำอยู่ข้างสนาม เสียงชายฉกรรจ์เกือบสามสิบคนในร่างอวตารตอบ ‘ทราบ’ เป็นเสียงเดียวกันอย่างรู้งาน เล่นเอาไอ้คนที่ยืนขาสั่นอยู่ตรงกลางสนามถึงกับฉี่แทบราด... กติกาส้นเท้าอะไรกับพี่ น้องจงอินนี่ไม่เห็นจะอยากทราบไปด้วยเลย!
“แต่เด็กใหม่มันยังไม่รู้กติกาของพวกเรา” โฆษกตัวบางในชุดสูทสีดำติดกิ๊บอันเท่าจิ๋มมดพยักเพยิดหน้ามาทางนี้ “ถ้างั้นใจดีบอกให้มันได้รู้กติกาก่อนดีไหม”
“ดี!!” รุ่นพี่คนอื่น ๆ ในชุดคอสเพลย์เต็มอัตราตอบมาอย่างพร้อมเพรียง
โลกมาเฟียโคตรไม่ยุติธรรม!
คิมจงอินทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ ไอ้โฆษกอะไรนั่นไม่เห็นจะแต่งตัวเข้าธีมเหมือนคนอื่นเลย ติดแค่กิ๊บดำอันเท่าจิ้งหรีด ขนาดหรี่ตายังมองแทบไม่เห็น แล้วทำไมมันไม่โดนอย่างเขาบ้าง... นี่ชะตาเขามันร่อแร่เต็มที หรือว่ามีราหูมาอมดาวประจำตัวเขากันวะเนี่ย!
“ฟังให้ดี ๆ นะ เด็กใหม่...” ด้านโฆษกเมื่อเห็นว่าน้องใหม่ส่ายหน้าหวืดก็ยิ่งพอใจ คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเปล่งเสียงทรงพลังออกมา “กติกามีอยู่อย่างเดียว คือ...เอ็งต้องวิ่ง วิ่งให้เร็ว...วิ่งให้ไว ถ้า 5 นาทีแล้วยังยืนอยู่ไหว เอาไปเลย สามแสนวอน!”
“เฮ้!!!!”
“อะไรนะ?” จงอินถึงกับครางออกมาเมื่อได้ยิน แม้ในหูจะได้ยินแต่เสียงเฮลั่น แต่ใครจะสนกัน? ก็ในหัวของเขาตอนนี้มีแค่คำว่า สามแสน สามแสน สามแสน
“พร้อมแล้วใช่ไหม” เสียงจากโฆษกดังขึ้นมาอีกรอบ คิมจงอินพยักหน้ารับคำช้า ๆ เหมือนคนเพ้อ นาทีนี้ไอ้คำว่าสามแสนมันครอบงำความคิดจิตใจของคนฟังไปหมดแล้ว
“ดีมาก งั้นมึง...” โฆษกตัวเล็กชี้ผู้ชายในชุดนารุโตะแถว ๆ นั้น “เอากระดูกไปผูกขาไอ้เด็กใหม่มันซะ”
ห๊ะ! กระดูกอะไร!
คิมจงอินตาเหลือกส่ายหัวยิกๆทันทีที่ชายในชุดนารุโตะย่างสามขุมเข้ามาพร้อมเชือกลูกเสือ มันจะไม่น่ากลัวเลยซักนิดถ้าที่ด้านปลายของอีกฝั่งไม่ได้พันไว้กับกระดูกขนมกินเล่นอันโตเท่าข้อเท้าของเขา
อย่าบอกนะว่า...
เด็กหนุ่มดีดดิ้นสุดตัวตอนที่พี่นารุโตะล็อคขาของเขาเอาไว้เพื่อผูกเชือกด้วยเงื่อนตาย โอ้ย พ่อแก้วแม่แก้วช่วยคิมจงอินด้วยยยย บุญกรรมอะไรที่เคยทำมาทั้งหมดขอให้เขารอดพ้นจากไอ้ดงดงที่ขวิดขาเตรียมรอตระครุบเหยื่อไปได้ไหมมมมมมมมมมม
แต่เหมือนบุญของเขาจะน้อยเกินไป ไอ้โฆษกใจเหี้ยมมันยกนกหวีดขึ้นมาจรดริมฝีปากแล้ว T T
“ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด นับเมื่อไหร่ 3 ปล่อยไอ้ดงดงได้” เสียงของโฆษกดังกังวานไปทั่วทั้งสนาม และไม่ต้องถาม หลังจากนั้นก็เสียงเฮครับ เฮกันแบบสะใจที่สุดที่จะได้รับน้องเด็กใหม่ด้วยการผูกกระดูกไว้ที่ขาให้หมาวิ่งไล่!!
กรี๊ดดดด อย่าเพิ่ง คิมจงอินยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะพี่!!
“สาม!!”
เสียงประกาศิตจากโฆษกคนเดิมตะโกนลั่น ตอนนี้พี่จงแดตัดเชือกที่ผูกกรงของไอ้ดงดงเรียบร้อยแล้ว อ้าวเฮ้ย! แล้ว หนึ่งกะสองล่ะหายไปไหน ! ใจคอจะไม่นับหนึ่งสองก่อนให้เขาได้ตั้งตัวเลยหรือไง! เด็กหนุ่มได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ โลกแม่งไม่เคยมีความยุติธรรมอยู่เลย ไม่เคยเลยแม้กระทั่งไอ้หมาเวรที่ทำท่าเหมือนหมาหิวเนื้อคนมากกว่ากระดูกที่ผูกอยู่ตรงขา!
“กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร”
ดงดงวิ่งกระโจนเข้ามาหาแต่ไกล แล้วสิ่งที่จงอินควรจะทำต่อจากนี้คืออะไร...
“วิ่งโว้ยยยยยยย วิ่งให้ป่าราบบบบบ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
________________________________________
“มึงนี่ยอดคนแท้ ๆ”
“ไอ้เด็กใหม่เจ๋งว่ะมึง”
“เฮ้ย ยินดีกับสามแสนนะไอ้น้องจงอิน”
หลายชั่วโมงถัดมาหลังจากคิมจงอินกลายร่างเป็นโคบานตวัดตัวขึ้นขี่อีน้องหมาร่างหมีพันธุ์พิทบลูตัวดำทะมึนสำเร็จและพิชิตมันลงได้ เด็กหนุ่มก็ได้รับการตอบรับเป็นคำชื่นชนอย่างล้นหลาม ไม่ต้องถามถึงนาทีระทึกใจ ถามว่าเขากล้าทำอย่างนั้นลงไปได้ไงเขายังตอบไม่ได้เลย
ตอนนั้นรู้อยู่อย่างเดียว... ถ้าไม่อยากให้มันกัดก็ต้องทำให้มันกลัวให้ได้
แล้วนาทีนั้นถามหน่อยว่าจงอินมีอะไรบ้างนอกจากกระดูกที่ผูกติดขา? ไม่มีเล้ยยย ไม่มีใครที่ยืนอยู่ข้างสนามแม่งใจดีโยนอาวุธอะไรลงมาให้เขาตัวติดไว้กำราบไอ้หมาบ้าเลือดเลยซักคน หันไปมองก็มีแต่ไอ้พวกผีพนันที่เริ่มลงขันหาเจ้ามือกันโดยไม่สนใจว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง
ตอนนั้นเองที่ทำให้เขาใจกล้า จงอินมองไปที่น้องหมาด้วยความมาดมั่น นั่น! มันเริ่มฟาดงวงฟาดงาถีบขาหลังเตรียมจะกระโจนเข้ามาหาเขาอีกรอบแล้ว!
จำได้ว่าวิ่งล่อมันให้วนรอบสนามอยู่หลายรอบ รอจนสบโอกาสก็กระโดดขึ้นหลังมันแล้วกอดคอมันเอาไว้ และในนาทีนั้นเองที่ปากของเขากระแทกโดนหัวมัน...
‘เอ๋งงงงงงงงงงงงงง’
เหมือนดงดงจะสติกลับ ทันทีที่ปากของเขาประทับลงบนกระหม่อมของมันอย่างเหมาะเจาะ จากหมาบ้าเลือดก็กลายเป็นหมาเชื่องทันที...
‘งื้ดดดดดด’
ไอ้หมาบ้านั่นหยุดวิ่งแล้วม้วนตัวกระโจนมาทาบทับเขาทั้งร่าง ตอนนั้นเขาโคตรงง งงมาก ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะโดนอีหมาหมีนี่ขย้ำจนขาดใจตายคาพื้นสนามเทนนิสไปแล้วแท้ ๆ แต่ไอ้ดงดงกลับทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายกว่านั้น...
มันก้มหน้าลงมาใกล้ ทำตาละห้อยประมาณว่าจุ๊บหัวกูอีกรอบเถอะนะ...
‘งื้ดดดดดด ๆ ๆ’
ตอนนั้นแหละที่ทำให้คิมจงอินเข้าใจ...
ที่แท้อีนังหมาหมี นี่ก็เป็นแค่หมาขาดความอบอุ่นดี ๆ นี่เอง...
“เฮ้ย!”
เสียงตะโกนเรียกจากพี่จงแดทำให้พิธีการระลึกชาติของเด็กหนุ่มมีอันต้องยุติลง จงอินกระเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่รุ่นพี่หนุ่มร่างเล็กในชุดโงกุนเดินเข้ามาใกล้
“ว่าไงพี่”
“หัวมึงอะ ก้มลงมาดิ๊”
จงแดมองหน้ารุ่นน้องที่มีคำว่า ‘ผู้พิชิต’ แปะไว้บนหน้าผากอันเท่าควาย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปกระชากป้ายนั้นออกจากหัวให้
เอาจริงๆวันที่รู้ว่ามันแอบเป็นชู้กับคุณบยอน เขานี่กำมือจนเส้นเอ็นแทบอักเสบเพราะเจ็บแค้นแทนเจ้านาย พอมันเข้าบ้านใหญ่ก็หมายมั่นปั้นมือเลยว่าถ้าแม่งกวนตีนมากเขาจะแกล้งมันเอาให้คลานกลับบ้านตัวเองแทบไม่ทัน แต่สองวันที่ผ่านมาไอ้คิมจงอินอะไรนี่มันมีอะไรมากกว่านั้น จะว่ากวนตีนก็กวนตีนนะ แต่จะบอกไงดี มันเจือไปด้วยความทะเล้นขี้เล่น เป็นกันเอง มีน้ำใจ แล้วยังไอ้หน้าคล้ำ ๆ ที่มองมาตาใสเอนไปทางคำว่าซื่อบื้อนั่นอีก....
บอกเลยว่าเจนเทิลแมนอย่างเขารู้สึกขัดใจเบา ๆ เพราะแกล้งมันไม่ลงจริง ๆ
แล้วยิ่งวันนี้ที่มันพิชิตไอ้ดงดงหมาเดือดแห่งคฤหาสน์ตระกูลโอได้ นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้เลยว่า ไอ้เด็กนี่มันมีดีกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ...
เพราะงั้นเขาเปลี่ยนใจแล้ว จากจะแกล้งมันก็เอาเป็นว่าคอยซัพมันดีกว่า...
ให้มันอยู่ไปนาน ๆ บ้านใหญ่จะได้มีเรื่องให้สนุกสนานทุกวัน
“มึงเอาตารางเรียนไปส่งให้ไอ้คยองซูมันรึยัง”
จงอินกระพริบตาปริบ ๆ สมองก็คิดไปด้วย เออลืมเรื่องสำคัญไปได้ไงเนี่ย!
“อ้าวเฮ้ย ยังเลย ลืมอะพี่!” พอนึกออกก็นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว ลำพังไอ้ตารางเรียนน่ะมันอยู่ติดตัวเขาตลอดเวลา แต่อีพี่คยองซูอะไรเนี่ยเป็นใคร หน้าตาเป็นไงเขายังไม่รู้เลย
“ลืมได้ไงไอ้ห่า มะรืนก็วันจันทร์แล้ว”
“ก็ผมหาพี่เค้าไม่เจออะพี่” รุ่นน้องผิวแทนพูดพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คนร่างเล็กเลยได้แต่ถอนหายใจหน่าย ๆ “ปากก็มีทำไมไม่รู้จักพูดรู้จักถามคนอื่นเค้าวะ ...โน่นไงไอ้คยองซู มาพอดีเลย”
พอหันไปจะมองหาคนที่พูดถึงก็เจอมันวิ่งกระหืดกระหอบมาทางนี้พอดี จงอินได้แต่ขมวดคิ้วมองตามนิ้วที่รุ่นพี่ชี้ให้ดู เฮ้ยยย แย่เม็ดดด ไอ้คยองซูของพี่จงแดก็คือโฆษกในชุดสูทที่แกล้งเขาเมื่อบ่ายนี่เอง!!
“เฮ้ยพี่คยองซูใช่ไหม ผมลืมเอาตาราง—”
“มึง ไอ้จงอิน” โดคยองซูพูดสวนพลางยกมือขึ้นที่ระดับหน้าเป็นเชิงให้คนตัวใหญ่กว่าหยุดฟัง ร่างเล็กกว่านั่นหยุดหอบหายใจพักนึงก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอแล้วยืดตัวตรงกระแอมไอเสียงดัง “เดี๋ยวค่อยเอาตารางเรียนมาให้กูตอนเย็น ตอนนี้ขึ้นไปพบบอสก่อน ด่วนๆ!”
“ห๊ะ”
“บอสเรียกพบมึง ด่วน!” คยองซูพ่นลมหายใจออกทางปากพลางหันไปสบถเบา ๆกับคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้า “หูหนวกหรือไงวะไอ้เด็กนี่”
“เรื่องอะไรวะพี่” แต่คิมจงอินสนใจที่ไหน ได้ยินอีกคนพูดถึง ‘บอส’ ก็ขยาดจะแย่แล้ว เด็กหนุ่มพุ่งเข้าไปเขย่าแขนคนตัวเล็กกว่าหน้าตาตื่นทันที
“จะเรื่องอะไรล่ะ ก็ที่มึงชนะหมาของบอสไง”
“....”
“รีบขึ้นไปรับรางวัลซะ ก่อนที่บอสเขาจะเปลี่ยนใจ”
_______________________________________
‘บอสบอกให้ขึ้นไปพบที่ห้อง…’
ตอนที่ได้ยินพี่คยองซู(พี่จงแดมันให้เรียกแบบนี้)พูดถึงห้องของบอส คิมจงอินก็แทบจะทรุดลงไปกราบเท้ารุ่นพี่ในชุดโงกุนเพื่อขอให้ถ่อสังขารมาด้วย ซึ่งตอนแรกพี่จงแดก็จะมาด้วยนั่นแหละ แต่ดันติดงานด่วนที่พี่ผู้ในชายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์วิ่งมารายงานซะก่อน ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่เขาหัวเดียวกระเทียมลีบที่ยืนกังวลอยู่ตรงหน้าบานประตูไม้มะฮอกกะนีนี่
มือเรียวยกขึ้นที่ระดับสายตาก่อนจะชะงักค้างไว้อย่างนั้น... ชั่งใจสุด ๆ จงอินกำลังชั่งใจสุด ๆ ว่าควรเคาะดีไหม? เพราะตั้งแต่ที่พี่คยองซูบอก จากตอนนั้นเวลาก็ล่วงมาเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคารพคำสั่งของเจ้านายนะ แต่เป็นเพราะไอ้ดงดงที่วิ่งวุ่นอยู่หน้าบ้านใหญ่ต่างหาก ที่ทำให้เขาถึงที่หมายช้าขนาดนี้...
อีหมาหมี อีหมาตอแหล!!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขามาถึงห้องของบอสช้ากว่าที่สั่ง ก็ไอ้ดงดงนั่นแหละ พอมันเห็นว่าคนที่วิ่งมาแต่ไกลเป็นใครก็ทำเป็นหูกระดิกหางกระดิก พอรู้ตัวอีกทีก็ล้มลงหลังกระแทกพื้นเพราะโดนไอ้หมาหมีมันขึ้นมาคร่อมไว้ทั้งตัวแล้ว
ไม่รู้จะรักอะไรกันนักกันหนา กว่าจะดันมันให้ลุกออกไปจากตัวไปได้ จงอินก็โดนกระทำย่ำยีจากน้ำลายเหนียวๆยืดๆนั่นจนเปียกไปทั้งหน้า ยังดีทีป้าแม่บ้านเข้ามาปรามไอ้หมาหมีนี่ไว้ก่อน ไม่งั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องนอนให้มันฟัดจนสาแก่ใจอีกนานแค่ไหน
บ้าอำนาจทั้งคนทั้งหมาเลยเว้ยบ้านนี้...
กริ๊ก
สุดท้ายก็ทำใจกล้าเปิดประตูห้องนอนของเจ้านายมาโดยถือวิสาสะ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะแกล้งทำเป็นกระหืดกระหอบ วิ่งเข้าห้องมาในอย่างคนร้อนรนแล้วเชียว แต่อะไรบางอย่างที่เด่นชัดอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ร่างโปร่งลืมคำโป้ปดที่คิดไว้ในสมองเมื่อกี้ซะหมด...
ก้น
....ก้นของบอสลอยเด่นเต็มสองลูกกะตา...
โคตรขาว...ขาวมาก....ขาวโอโม่สุด ๆ
สาบานได้ว่าตั้งแต่เป็นไบมา คิมจงอินไม่เคยเห็นก้นของใครขาวได้ขนาดนี้ เนียนได้ขนาดนี้ ดูเซ็กซี่ได้ขนาดนี้เลย
“มองอะไร”
เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวทันทีที่ได้ยินเสียงแหบเสน่ห์ดังขึ้นจากอีกฝ่าย จงอินส่ายหัวยิกเป็นเชิงปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่จะรอดพ้นสายตาคมกริบนั่นได้หรอ ก็เมื่อกี้ยังเผลอมองอีกคนในร่างเปลือยตาค้างอยู่เลย
“ทำไมไม่รู้จักเคาะประตู”
ร่างสูงว่าพลางทรุดตัวลงบนเตียงคิงไซส์ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อครู่และกำลังจะแต่งตัวอย่างสบายใจ แต่ก็ดันมีแมลงไร้ประโยชน์เปิดประตูผ่างเข้ามาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ขออนุญาต ถึงแม้เขาจะเป็นคนเรียกให้มันมาหาก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ควรจะรู้จักมารยาทไม่ใช่หรอ เข้าห้องส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่เคาะเรียกเจ้าของเขาก่อนได้ยังไง
นั่นทำให้เขาหมดอารมณ์... ร่างสูงหรี่กอดอกหรี่ตามองคนที่ยืนหัวหดอยู่ตรงหน้า จะเอายังไงกับมันดี ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วดูท่าจะไม่ได้สำเหนียกตัวเองเลยว่ากำลังทำผิด ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่ดูจากใบหน้าคมที่ขึ้นสีระเรื่อนั้น ท่าทางไอ้มดดำจะกำลังคิดอย่างอื่นกับร่างกายของเขามากกว่ากำลังรู้สึกผิดนะ
“ข..ขอโทษครับ...”
“ขอโทษใคร”
“บ..บอส”
ดูเหมือนจงแดจะสั่งสอนไอ้มดดำไร้ประโยชน์นี่ได้เป็นอย่างดี เพราะจากเมื่อวานที่เขาติงอีกฝ่ายเรื่องสรรพนามที่ควรจะใช้เรียกแล้ว วันนี้ไอ้มดดำนี่ก็เรียกเขาได้อย่างถูกต้องตามที่เขาต้องการ
“แกสายไป 1 ชั่วโมง”
จงอินเม้มริมฝีปากมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงนิ่ง ทั้ง ๆ ที่มีข้อแก้ตัวมากมายที่อยากจะใช้เถียงไอ้มาเฟียใจเถื่อนนี่ แต่เพราะร่างกายขาวโอโม่ที่ยังติดตาเขาอยู่นั่นแหละ มันทำให้ปากของเขาเหมือนจะสะกดคำว่า “เถียง” ไม่ออก พอเงยมองหน้าอีกคนก็ดูเหมือนร่างกายมันจะทรยศ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอายห่าอะไรนักหนา เลยได้แต่ก้ม ๆ เงย ๆ มองหน้าของบอสกับพื้นสลับกันอยู่อย่างนั้น
“ผม...เอ่อ ดงดง...ไอ้ดงดงมันชวนเล่นน่ะ...ครับ...บอส”
“เวลาพูดกับเจ้านายต้องมองหน้าด้วย”
เซฮุนว่าเสียงเข้ม ตอนแรกก็ขัดใจอยู่หรอกที่พอจะจับได้ว่าอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาแบบไหน แต่พอเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนกระวนกระวายนั่นแล้ว...
ก็อดที่จะแกล้งมันไม่ได้...
“แต่...”
“ไม่มีแต่”
คำสั่งประกาศิตทำให้คิมจงอินต้องจำใจละสายตาจากพื้นไปจ้องตากับอีกฝ่ายโดยปริยาย แต่พอมองไปได้ครู่ใหญ่ ไอ้จงอินน้อยก็แผลงฤทธิ์ซะคับเต็มกางเกง...
โอ้ยยยย มึงมาคับมาพองอะไรตอนนี้เนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ใจง่ายไปแล้วคิมจงอินนนน!! ไอ้คนใจง่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
เด็กหนุ่มได้แต่กรีดร้องคำว่าเมเด เมเดอยู่ในใจ ใครก็ได้ช่วยเขาที เขาไม่ได้อยากจะมีอารมณ์กับไอ้มาเฟียนี่เลยซักนิด แต่พอนึกถึงก้นขาว ๆ ที่ได้เห็นตอนเปิดประตูเข้ามาจงอินน้อยมันก็เหมือนจะพองมากขึ้นกว่าเดิม เด็กหนุ่มรีบทรุดตัวลงนั่งที่พื้นตรงหน้าอีกฝ่ายทันที ขอทีเหอะ อย่าให้บอสมันเห็นอะไรที่นูน ๆ ตรงเป้าเขาเลย ไม่งั้นมันต้องนึกสมเพชเขามากกว่าเดิมแน่ ๆ
ก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนมีอารมณ์ง่ายกับก้นของคนที่ไม่ได้ชอบซะที่ไหน แต่ไม่รู้ก้นของคุณบอสมันไปสะกิดต่อมอะไร ทำไมหื่นได้ตั้งแต่หัวค่ำอย่างนี้ ;_ ;
“นั่งทำไม ยังไม่ได้สั่งให้นั่ง”
“แต่...”
ทำไมโอเซฮุนจะมองไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร ยิ่งเห็นไอ้มดดำไร้ประโยชน์ร้อนใจเขาก็ยิ่งรู้สึกสนุก ดูเอาเถอะ ปากก็บอกว่ารักแบคฮยอนอย่างนี่อย่างนั้น แต่พอเห็นร่างกายของเขาเข้าหน่อยก็ดันมามีอารมณ์ง่าย ๆ อย่างนี้น่ะนะ?
สำส่อนจริง ๆ
“ทำไม มีอารมณ์หรือไง?”
คนถูกฮุกหมัดตรงตาเหลือกทันทีที่สมองประมวลประโยคคำถามสำเร็จ จงอินเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ไม่อยากยอมรับเลยว่าเป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า แต่จะให้ทำยังไงก็ในเมื่อมันพองสุด ๆ ฉุดไม่อยู่อย่างนี้... เด็กหนุ่มนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ อย่างเสียไม่ได้
“ถ้าเป็นผู้ชาย...จะกับใครก็ได้ อย่างนั้นสินะ?”
ใจมันก็อยากจะบอกว่าไม่ใช่ แต่พอลองมานึกทบทวนตัวเองดูใหม่ ที่เขาขึ้นง่าย ๆ อย่างนี้กับก้นของอีกฝ่ายก็ทำให้ปฏิเสธออกไปลำบากเหมือนกัน
“...”
เงียบกันไปพักใหญ่ นึกว่าอีกฝ่ายจะจำใจยอมรับ แต่ถึงอย่างนั้นไอ้มดดำนี่ก็ยังปฏิเสธ ร่างสูงบนเตียงหรี่ตามองคนที่นั่งส่ายหัวอยู่บนพื้นด้วยสายตาสมเพช
“หึ...เป็นอย่างนี้แล้วยังกล้าปฏิเสธอีกนะไอ้มดดำไร้ประโยชน์”
“...”
“ถอดกางเกงซะ”
“...”
“ฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้แกเอง”
____________________________________
TBC – 5
จะช่วยเหลือกันท่าไหนนะ อิอิ เรื่องเริ่มเพี้ยนๆไปใหญ่แล้ว 555
ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้นะคะ ติดแท็ก #ficbigboss ได้ในทวิตเลยนะ <3
’ cactus
ความคิดเห็น