ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดีใจที่เธอยิ้มได้ : กำลังใจในชีวิต ๒

    ลำดับตอนที่ #2 : เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 267
      1
      15 ธ.ค. 49

    เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ?

    นานแล้วเหมือนกันนะ  เมื่อนึกถึงตอนเรียนอยู่ชั้นอนุบาล

    มานั่งคิดดูแล้วยังเหมือนเมื่อวานนี้เอง

    ที่ฉันกับเพื่อนวิ่งหนีคุณครูประจำชั้น  แล้วไปแอบหลบอยู่ที่ข้างมุมตึก 

    หลังจากที่ทานข้างกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    เหตุผลก็เพราะไม่อยากจะนอนกลางวัน  อยากจะวิ่งเล่นให้หนำใจซะมากกว่า

    ประมาณว่าพลังงานจากข้าวที่ทานเข้าไปคงจะมากเกินไป

    เลยต้องหาทางระบายออกไปบ้าง  ไม่งั้นคงจุกตาย
     

    ภายในโรงเรียนที่กว้างใหญ่  กับสนามดินกว้างขวางหลังโรงเรียน

    และมุมตึกที่คิดว่ามิดชิดที่สุดแล้ว   แต่...

    สุดท้ายก็ยังไม่วายถูกคุณจับได้ทั้งสองคน 

    พร้อมทั้งเจอไม่เรียวกันคนละที  ตามระเบียบ
     

    ในขณะที่กำลังนั่งเพ้อถึงบรรยากาศตอนเด็ก

    ตามนิสัยของคนชอบเพ้อฝัน ออกจะเพ้อมากเอาการอยู่นะ

    หลายภาพที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต  ก็ค่อยๆผุดขึ้นมาทีละภาพ

    บางภาพก็ดูเลือนรางสมกับเวลาที่ผ่านมาหลายปี 

    จะมองอะไรก็แทบไม่เห็นเอาซะเลย

    แต่บางภาพกลับแจ่มชัดเหมือนกับเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์นั้นมาไม่กี่วัน

    ฉันยืนอยู่ตรงนั้น  เพื่อนยืนอยู่ตรงนี้  เราพูดคุยหยอกล้อเล่นกันอย่างนั้นอย่างนี้

    ความรู้สึกที่สดใส  ไร้เดียงสาตามประสาเด็ก

    ความคิด  จินตนาการที่เคยมีในตอนนั้น

    เหมือนจะย้อนกลับมาย้ำเตือนอีกครั้ง...

    วันเดือนปีที่หยาบกร้าน...

    คอยขีดเส้นทางเดินชีวิตของเราให้ดำเนินผ่านไปทุกวัน

    ในขณะที่เราเชื่อกันว่าเวลาคือยารักษาแผลใจที่ดีที่สุด

    เพราะมันช่วยให้เราลืมเหตุการณ์ที่ร้ายๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเราได้...

    แต่ในขณะเดียวกัน  ในมุมที่ตรงกันข้าม  ด้วยเส้นขีดเดียวกันนี้

    เวลามันก็พร้อมที่จะทำให้เราลืมเลือนสิ่งดีๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเราได้เหมือนกัน
     

    ความร่าเริง  ความใสซื่อบริสุทธิ์  แววตาที่ไร้เดียงสา

    กับจินตนาการที่ไม่จำกัดกรอบ  อย่างที่เราพบได้ในตัวเด็กทุกคน

    เป็นสิ่งที่เราเคยมี  เคยสนุกกับมันเมื่อวัยเด็ก (อาจจะนานมาแล้ว...)

    ค่อยๆถูกลืมเลือนและจางหายไปจากจิตใจของเราทีละนิด

    วันเวลาที่เคยผ่าน  พร้อมกับประสบการณ์อย่างผู้ใหญ่ที่ค่อยๆเติมเข้ามา

    บรรยากาศชีวิตภายใต้กรอบ  กับการทดสอบที่หนักหน่วงของสังคม

    ค่อยๆหลอมจิตใจของเด็กให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

    เปลี่ยนแววตาที่เคยไร้เดียงสา  ให้แกร่งกล้าขึ้นกว่าเดิม
     

    จนฉันเริ่มสงสัยเสียแล้วล่ะ  ว่าพวกเราลืมอะไรไปหรือเปล่า ???


    ในขณะที่เรากำลังต่อสู้อยู่บนโลกปัจจุบัน

    โลกที่เราตั้งกฎว่า  ใครแพ้ต้องออกจากเกม

    มันทำให้เราลืมความรู้สึกดีๆในวัยเด็กของเราไปหรือเปล่า  ???

    ความรู้สึกต่อโลกที่กว้างใหญ่ สวยงาม น่าหลงใหล

    โลกที่เต็มไปด้วยความสดใส สนุกสนาน ร่าเริง...


    เป็นไปได้ไหมที่เราจะเอาความรู้สึกนั้นกลับคืนมา

    เอาความรู้สึกดีๆที่เราเคยมีต่อโลก  อย่างที่เราหลงลืมมันไปแล้วนั้น

    กลับคืนมาในใจของเราอีกครั้ง  เหมือนอย่างเดิม


     

    บางครั้ง   ในขณะที่ฉันกำลังวุ่นอยู่กับปัญหา

    กำลังสับสนกับโลกที่ต้องเผชิญ จนถึงกับท้อถอย

    และอีกหลายครั้งที่ฉันหวั่นไหวกับวันเวลาที่กำลังจะผ่านเข้ามา

    ฉันมักจะนั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ  หยิบเอารูปเก่าๆขึ้นมาดู

    แล้วปล่อยใจให้ล่องลอยกลับไปในวันวาน...

    รอให้ความรู้สึก ความหวังและความตั้งใจอย่างที่เคยมี...

    มันผุดขึ้นมาทีละภาพ  ทีละนิด ทีละน้อย...จนชัดเจน


    แม้มันจะดูไร้สาระและอ่อนหัดอยู่บ้าง 

    แต่ความรู้สึกดีๆที่เคยมีนี่แหละ

    จะกลับมาเป็นกำลังใจให้ฉันต่อสู้กับโลกที่วุ่นวายนี้ต่อไป...
     


     

    ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙
    ห้อง ๑๒๐๗ หอพักนักศึกษาแพทย์ชาย
    มหิตลาคาร สมเด็จพระราชปิตุจฉา
    โรงพยาบาลศิริราช

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×