คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : KAIDO | รุ่นพี่ที่รัก 1
รุ่นพี่ที่รัก
Epidsode 1
เบื่อ..
ดวงตาเรียวเล็กคู่หนึ่งตวัดมองภาพเบื้องหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย หน่าย ร่างกายของเขาที่ราวกับไร้กระดูกสันหลังกำลังพาดตัวไปตามความยาวของโต๊ะหินอ่อน บรรยากาศรอบข้างเงียบกริบ สายตาของเขาจ้องมองไปยังโต๊ะที่อยู่ถัดไป
"ชานยอลมึง..."
"ไอ้เหี้ย อย่ากวน กูกำลังใช้สมาธิ.."
เสียงกระซิบเบาๆดังเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มคนที่นั่งล้อมโต๊ะหินอ่อนตัวนั้น ดวงตาห้าหกคู่กำลังเพ่งเล็งไปที่จุดเดียวกัน บรรยากาศรอบข้างดูตึงเครียด มีเพียงความเงียบรายล้อม..
"ชานยอลมึง ตั้งสติดีๆ..ใจเย็นนะ"
"กำลังทำอยู่.."
"อีกนิดมึง อีกนิด ใกล้แล้ว.. ใกล้แล้ว.."
บทสนทนายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง มีเสียงกระซิบอย่างใจจดใจจ่อดังอยู่ไม่ขาด กลุ่มคนที่รุมล้อมโต๊ะต่างกำลังลุ้นจนตัวโก่ง จนกระทั่ง...
ปึก!
ลูกฟุตบอลลูกหนึ่งลอยละลิ่วลงมากลางโต๊ะ กวาดเอาทุกอย่างล้มระเนระนาดในพริบตา!
"เหี้ย!!"
"ไอ้เชี่ย โดมิโน่กู! เละหมด บอลใครวะ!"
"....ผมเองครับ"
เสียงเอ่ยอย่างกล้ากลัวๆดังมาจากอีกฟากฝั่งหนึ่ง สายตาอาฆาตจากเจ้าของผลงานที่ตอนนี้เละไม่เป็นท่าพุ่งตรงไปที่เจ้าตัวทันที นั่นทำเอาชายหนุ่มหน้าหวานที่ยืนผวาอยู่ถึงกับสะดุ้ง เขารีบโค้งตัวขอโทษทันที
"ข..ขอโทษครับ!"
จะรอดมั้ยน้อ...
ชายหนุ่มร่างเล็กที่นั่งมองมาตลอดคิดในใจ ปากบางเฉียบประดับด้วยรอยยิ้มขบขันพลางมองสถานการณ์ตรงหน้าเงียบๆ
"ขอโทษแล้วโดมิโน่มันเดินกลับไปตั้งเองแบบเดิมได้ป่ะวะ! ชื่ออะไร ปีไหน คณะด้วย?!"
ร่างสูงยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ทำให้มองเห็นสัดสวนร่างกายที่สูงชะลูด แขนขาเรียวยาวกว่าคนทั่วไป คิ้วเข้มกำลังขมวดเป็นปมแน่น ดวงตากลมๆกำลังถลึงมองอีกคนอย่างเอาเรื่อง ใบหน้าที่แสดงออกถึงความหงุดหงิดอย่างชัดเจน เสียงทุ้มที่ส่อแววหงุดหงิดทำเอาคู่กรณีต้องตกใจกลัว และรีบตอบคำถามตะกุกตะกัก
"โด คยองซู ปี 4 คณะศิลปกรรมครับ.."
"ไม่ได้ยิน!"
"โด คยองซู ปี 4 คณะศิลปกรรมครับ!!"
เสียงตะโกนก้อง ทำเอาสายตานับร้อยของผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปมาหันมามองที่ต้นเสียง ยิ่งทำให้คนตัวเล็กอยากจะหดตัวแทรกเข้าไปใต้ชั้นปูนซีเมนต์ซะตรงนั้น ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีเลือดฝาดด้วยความอาย ไหล่ที่บางอยู่แล้วยิ่งห่อเล็กลง จนทำให้ใครอีกคนอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาจากโต๊ะและเดินเข้าไปหาร่างสูงที่กำลัง โกรธจัด
"นี่พี่เขาก็ขอโทษมึงแล้วไงวะชานยอล มึงอย่าทำหน้าดุอย่างกับจะกินหัวพี่เขาดิ่ มึงดูๆ ตัวพี่เขาจะหดหมดแล้วน่ะ" เขาพูดพร้อมกับตบบ่าชานยอลเบาๆ
"มึงก็พูดได้ดิ่จงอิน กูนั่งเรียงมาสองชั่วโมง สองชั่วโมงนะมึง! อยู่ๆมีบอลลอยมา แล้วเป็นไง ทุกอย่างเละ! เป็นมึง มึงไม่โกรธเหรอวะ" ชานยอลเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนของเขาก็หันกลับมาโวยวาย นิ้วเรียวชี้ไปที่กองโดมิโน่ที่ตอนนี้กระจายอยู่เต็มโต๊ะ แถมบางส่วนก็ตกไปอยู่ที่พื้นด้วย
"เอาน่ามึง ล้มแล้วก็เรียงใหม่ได้ มึงใจเย็นดิ่"
จงอิน หรือ คิมจงอิน เป็นคนผิวสีเข้มเล็กน้อยถึงปานกลาง ดวงตาเฉียบคมที่ตอนนี้กำลังแสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนอกอ่อนใจกับเพื่อนรักที่กำลังโมโห เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนคนนี้หายหงุดหงิด แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เจ้าตัวดันก้าวขาเตรียมเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอาเรื่องซะแล้ว
"ไม่เว้ย เรื่องอะไรกูก็ยอมได้ ยกเว้นเรื่องโดมิโน่! รุ่นพี่! โดมิโน่ผมเละแบบนี้ รุ่นพี่จะรับผิดชอบยะ..."
ไม่ทันที่ขายาวๆจะก้าวไปได้ไกลนัก ก็มีมือหนึ่งมาคว้าแขนเขาไว้แล้วกระชากเบาๆทีหนึ่ง ร่างสูงซึ่งไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลากลับมาด้านหลังทันที
"ถ้ามันเรียงยากนักให้กูช่วยไหม"
"แบคฮยอน...!"
Baekhyun part.
สวัสดีครับ ผม บยอน แบคฮยอน ตอนนี้ผมกำลังปวดตับกับไอ้โย่งบางคนที่กำลังเดือดปุดๆอยู่นี่เลย จะใครซะอีกล่ะครับ ก็นาย ปาร์ค ชานยอล ของพวกคุณนั่นแหละ
ตอนนี้ชานยอลกำลังยืนทำตาเหลือกใส่รุ่นพี่ตัวเล็กที่ยืนตัวสั่นอยู่ไกลๆโน่น ผมเลยต้องเอาเท้าสะกิดขาจงอินที่ยืนเอ๋อมองหน้าผมอยู่ข้างๆชานยอล แล้วบุ้ยปากไปทางนั้นให้ช่วยรับหน้าที่แทนหน่อย
หา อะไรนะ? ใช้เท้าไม่สุภาพ? ก็แหม..มือไม่ว่างนี่ครับ ต้องคว้าไอ้ถึกข้างๆไว้นี่ก็ไม่ใช่ง่ายเลยนา..
"แบคฮยอน...!"
ชานยอลหันมามองหน้าผมอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนดึงมือเขาไว้ ตอนเรียกชื่อผมนี่หน้ามันอย่างฮาอ่ะ เอ๋อสุดลำไส้ใหญ่ ผมยักคิ้วกลับไปให้ทีนึงแล้วขยับเข้าไปหาชานยอลที่ยืนเงอะงะอยู่
"เออ กูเอง"
"มึงมาได้ไง ไหนว่าวันนี้จะไปกับพี่ลู่ฮาน"
ชานยอลคงลืมสนใจเรื่องที่ตัวเองกำลังโกรธอยู่ ถึงได้เดินเข้ามาจับไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง แล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆแทน แหม.. เอาหน้าเข้ามาใกล้กูอย่างนี้มึงไม่จูบกูไปเลยล่ะครับ
"ก็กะจะไปอยู่หรอก แต่เฮียเลย์ดันกลับมากระทันหันอ่ะดิ่ เฮียลู่ก็เลยต้องไปรับที่สนามบินตอนนี้ เลยเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้แทน แล้วเฮียก็ฝากมาชวนพวกนายทุกคนด้วยนะ พรุ่งนี้ต้องไปดื่มด้วยกันนะ" ผมผลักไหล่ไอ้ตัวสูงให้หลบไปด้านข้างแล้วยื่นหน้าไปถาม(แกมบังคับ)เพื่อนๆ ของชานยอลที่นั่งมองอยู่ ทุกคนตกปากรับคำเป็นเสียงเดียวกัน
"ได้เลย!"
....หน้าตาโคตรแป้นแล้น เสียงงี้ดังฟังชัดอย่างกับเด็กประถมขานรับคุณครู -_- ทีเรื่องของฟรีนี่ไวกันจริงนะ
"อะไรนะ! เลย์กลับมาแล้วเหรอ?" จู่ๆ หนึ่งในกลุ่มนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาพร้อมกับอุทานเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาดูตื่นตระหนกระคนตื่นเต้นดีใจแบบปิดไม่มิด
"กลับมาแล้วครับ เห็นว่าเครื่องลงตอน 5 โมงครึ่งน่ะนะ ตอนนี้เฮียลู่ก็น่าจะกำลังไปที่สนามบิน"
"อ่า..พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ พี่ขอตัวก่อนนะทุกคน.. เออ แบคฮยอน พรุ่งนี้ขอไปด้วยคนนะ พี่ไปล่ะ"
แล้วร่างสูงก็วิ่งออกไปทันที ฮุฮุ คิดไว้ไม่ผิด... จริงๆแล้วที่ผมมานั่งเซ็งแกร่วอยู่ที่นี่ ก็เพื่อจะมาบอกเรื่องเมื่อกี้นี่แหละ อยากดูอาการของคนบางคนว่าจะเป็นยังไง นี่มันเป็นไปตามที่ผมคิดไว้เป้ะเลยนะเนี่ย! ผมยิ้มแล้วมองตามคนที่วิ่งออกไป คนนั้นคือ พี่คริสครับ เรียนนิเทศน์เหมือนพวกผม อยู่ปีสี่ อ้อ ลืมบอกไป ผมกับชานยอลอยู่ปีสาม คณะนิเทศน์นะครับ ไอ้จงอินที่ผมไล่ไปเมื่อกี้ก็ด้วย เออ จะว่าไปทางจงอินมันเป็นไงมั่งวะ ลืมไปซะสนิทเลย
"...."
"มองอะไรของมึง"
"ไอ้เหี้ย!"
"...เหี้ยซะเต็มหน้ากูเลยนะ บยอน แบคฮยอน.."
ตอนที่ผมกำลังจะหันไปมองทางจงอิน จู่ๆไอ้ชานยอลก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซะจนแทบจะสิงกับหน้าผมละ แล้วเป็นไงน่ะเหรอ ผมก็ตกใจสิครับ และด้วยความที่ผมเป็นสุภาพบุรุษที่หล่อสุดๆผมเลยจัดน้องวรนุชให้ชานยอลมันไปหนึ่งดอก เป็นไงล่ะ เอฟเฟ็คกระจายเลยสิมึง กูไม่ผิดนะบอกไว้ก่อน
"ก็เหี้ยน่ะสิ ใครสั่งใครสอนให้ยื่นหน้ามาแบบนี้ล่ะวะ เพราะงั้นมึงก็เอาวรนุชไปรับ'ทาน แล้วกันนะ เออแล้วนี่มึงจะให้กูยืนท้าแดดเคียงบ่าเคียงไหล่มึงอีกนานมั้ย กลับไปนั่งได้ละ ไปๆ" ผมจิ๊ปากแล้วลากแขนไอ้โย่งข้างๆที่ยืนเอามือลูบหน้าตัวเองให้กลับไปนั่งที่ โต๊ะ สงสัยจะโดนน้ำลายผมเข้าจริงๆซะด้วยแฮะ
"โหย โดมิโน่กู T^T" ชานยอลกลับมานั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่โต๊ะตัวเดิม เบะปากมองซากโดมิโน่แล้วคร่ำครวญในใจ ฮือ.. สองชั่วโมงของกู
"ไม่ต้องมาเบะปาก ไม่ได้เข้ากับหน้าเลยมึง ล้มแล้วก็เรียงใหม่ มา เดี๋ยวกูช่วย พวกมึงก็ต้องช่วยด้วย ไอ้ฮุน ไอ้เทา ไอ้เปา ไอ้เฉิน" ผมผลักหัวชานยอลเบาๆไปทีหนึ่ง หมั่นไส้ แล้วไอ้พวกที่เหลือนี่ก็นั่งมองกันหน้าแป้นแล้นเหลือเกิ๊น เอ้ย ยกเว้นไอ้เปาหมินไว้คน
"แล้วทำไมมีแต่กูที่มึงไม่เรียกชื่อดีๆล่ะ กูชื่อซิ่วหมินนะ T T" มันเบะปากตามชานยอลเมื่อโดนผมเรียกชื่อพี้ยนๆ ฮ่าๆ ผมชอบเรียกซิ่วหมินว่าเปานะ หน้ามันกลมๆ แก้มน่าดึงดี
"เพราะหน้ามึงกลม... อ้าวเฮ้ย ไอ้จงอินไปไหนแล้ว" ผมยักไหล่ให้มันก่อนจะหันไปด้านข้างกะจะดูอาการอีกสองคนที่หายเงียบไปเลย นั่นแหละถึงทำให้ผมได้รู้ว่า ไอ้จงอินกับรุ่นพี่คยองซูไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว
หายไปไหนของมันวะ
Kai part.
หลังจากโดนฝ่าเท้าของเพื่อนแบคฮยอนที่น่ารักแล้ว ผมเลยต้องผละจากทางนั้นเพื่อเดินไปดูอาการอีกคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปแทน คนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะซึมไปเลย เพราะเห็นเอาแต่ยืนก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองโลกตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“รุ่นพี่"
"...."
"รุ่นพี่ครับ รุ่นพี่....โด คยองซู!!"
"ห้ะ..อ้ะ จ..จงอิน เอ้ย ค..ครับ คยองซูครับ!"
ผมยิ้มขำมองอีกคนที่ยืนทำหน้าเลิ่กลักมองไปรอบๆ ดวงตากลมๆเบิกกว้างขึ้น จนผมแทบจะหลุดหัวเราะออกมา เมื่อกี้นี้ผมเรียกตั้งหลายรอบก็ไม่ยอมเงยหน้าสักที ผมเลยลองตะโกนไปทีนึง ตอนนี้ผมว่าน่าจะตาสว่างแล้วนะ
"พี่ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวไอ้ชานยอลน่ะ เพื่อนผมจัดการเอง มันใจร้อนไปงั้นล่ะ ไม่ต้องกังวลนะ"
"อ่ะ อื้ม"
ผมพยักเพยิดหน้าไปหาชานยอลที่ตอนนี้กำลังคุยกับแบคฮยอนอยู่ รุ่นพี่โด คยองซู หรือคนตัวเล็กข้างหน้านี่ก็มองตามไปทางที่ผมบอกก่อนจะผงกหัวรับเบาๆแล้วเขาก็ก้มหน้าลงอีกรอบ.. นี่พี่เขามองอะไรวะ บุ้งน้อยกลอยใจในพงหญ้าเรอะ ? ผมคิดในใจพลางขยับไปยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วก้มลงมองตาม พยายามหาว่าใต้พื้นหญ้าที่อีกคนยืนอยู่มีอะไรน่าสนใจนักหนา
"มองอะไรเหรอครับ" ผมถามในขณะที่ยื่นหน้าไปแตะกับหัวทุยๆของอีกคนเบาๆ เจ้าตัวที่รู้สึกได้ถึงสัมผัสจากหน้าผากของผมรีบหันขวับมามอง
"...!!"
"โอ้ย.."
...แล้วก็เอาหัวโหม่งจมูกผมเต็มแรงอีกด้วย เจ็บอ่ะ
"จ..จงอิน! ข..ขอโทษ ขอโทษๆๆ ขอโทษนะขอโทษ เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ"
"...."
พี่คยองซูรีบสาวเท้าเข้ามาหาผม ปากบางขยับเป็นคำขอโทษรัวๆพร้อมกับมองหารอยช้ำบนใบหน้าของผม แต่คงเพราะพี่เค้าตัวเล็กไปหน่อยเลยต้องเขย่งตัวขึ้นมาจนหน้าพี่เค้ามาอยู่ในระดับสายตาเดียวกับผม ตาโตๆบวกกับคิ้วที่ขมวดเป็นปมแน่น ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของพี่เขาลดลงสักนิด และคงเพราะไม่ได้เจ็บอะไรมากเท่าไหร่ ผมเลยลืมสนใจเรื่องจมูก เผลอจ้องใบหน้านั้นนิ่ง... เนิ่นนาน
"จงอิน.. เลือดกำเดานายไหล.. เอ่อ...อย่าจ้องสิ "
"หะ.. เออ จริงด้วย แย่ละ"
เพราะมัวแต่มองหน้าพี่เค้านานไปหน่อย ผมเลยไม่รู้สึกถึงน้ำสีแดงๆที่ไหลออกมาจากจมูก เฮ้ย เลือดกำเดาผมไหลตั้งแต่ตอนไหนวะ เวรเอ้ย ผ้าก็ไม่มีด้วย ผมลองใช้มือควานหาผ้าในกระเป๋ากางเกงซึ่งก็เจอแต่ความว่างเปล่าอย่างที่คิดไว้
"ยืมผ้าเช็ดหน้าพี่ก่อนก็ได้นะ"
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวลายโปโรโระถูกยื่นมาตรงหน้า ผมต้องแอบขำในใจๆเบา เพราะลายผ้าเช็ดหน้าที่น่ารักเหมือนเจ้าของนั่น ผมคว้าผ้ามาปิดจมูกไว้ แล้วค้างอยู่ท่านั้นสักพัก ต่างคนต่างเงียบ ผมพยายามจะเหลือบตามองอีกคนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะก้มหน้าหาหนอนแก้วบนพื้นหญ้าอีกแล้ว ผ่านไปสักครู่หนึ่ง คิดว่าเลือดน่าจะหยุดแล้ว ผมเลยเอื้อมมือไปสะกิดไหล่อีกคนเบาๆ
"เลือดหยุดแล้วล่ะครับ"
"อ่า..งั้นเหรอ"
"อืม เดี๋ยวผมเอาผ้าไปซักให้แล้วเอามาคืนวันหลังได้มั้ย" ผมมองผ้าเช็ดสีขาวที่ตอนนี้มีจุดแดงๆเลอะเต็มไปหมด ดีนะที่ไม่เลอะลายตัวโปโรโระไปด้วย
"อ้ะ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่เอาไปซักเองครับ" พี่คยองซูพูดเบา พร้อมทำท่าจะเอื้อมมือมาเอาผ้าเช็ดหน้าคืน
"เดี๋ยวผมซักให้เอง พี่รีบใช้เหรอ" มองอีกคนที่เอื้อมมาแล้วนึกอยากแกล้งขึ้นมา ผมชูผ้าขึ้นสูงๆจนอีกคนเอื้อมไม่ถึง
"อ้ะ! เอ่อ..เปล่า แต่ไม่เป็นไรจริงๆ เดี๋ยวพี่เอาไปซักเองครับ" คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกัก เมื่อขาที่ก้าวออกมาดันเกี่ยวกันเอง เลยล้มหน้าคะมำมาด้านหน้า ผมรีบเอื้อมมือไปคว้าเอวอีกคนไว้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมกำลังกอดรุ่นพี่คยองซูอยู่
"ผมเป็นคนทำเลอะ ผมต้องซักให้สิ" ผมพูดทั้งที่มือข้างหนึ่งยังชูผ้าอยู่ ส่วนอีกข้างก็เปลี่ยนมาช่วยพยุงตัวอีกคนที่พยายามกลับมายืนตรงเหมือนเดิม
" ม..ไม่เป็นไรจริงๆครับ... (///)" รุ่นพี่คยองซูก้มหน้าอีกครั้งเพื่อหลบสายตาของผมที่ก้มลงมอง ใบหน้าของอีกคนที่ตอนนี้แดงไปจนลามไปถึงหูยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากแกล้งมากกว่าเดิม ผมเอามือข้างที่ถือผ้าเช็ดหน้ายัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วคว้ามืออีกคนวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที
"งั้นไปซักด้วยกันตอนนี้เลยละกัน!"
"ด..เดี๋ยวสิ"
.
.
.
"จ..จงอิน.. ช้าหน่อย..พ..พี่วิ่งไม่ทัน แฮ่ก..แฮ่ก" เสียงหวานพยายามร้องเรียกร่างสูงตรงหน้าที่จู่ๆก็คว้ามือของเค้าวิ่งออกมา จากสนามฟุตบอล แต่เพราะช่วงขาที่แตกต่างกันเกินไปรวมทั้งความเร็วที่ไม่ได้ลดลง ทำให้ร่างเล็กเริ่มจะหายใจไม่ทัน
ทำไมถึงวิ่งเร็วอย่างนี้นะ..
ร่างเล็กคิด ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีเลือดฝาด เพราะอากาศร้อนๆบวกกับต้องออกแรงมากกว่าปกติเพื่อวิ่งตามอีกคนให้ทัน
"เหนื่อยแล้วเหรอครับ" ร่างสูงชะลอฝีเท้าลง ก่อนจะหันตัวกลับมามองอีกคนซึ่งตอนนี้สภาพดูไม่ค่อยสู้ดีนัก คนตัวเล็กก้มลงเอามือยันเข่าไว้ เสียงหอบหายใจหนักๆทำให้อีกคนรู้สึกเป็นห่วง
"พี่..ม..ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายน่ะครับ" คยองซูพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ มือเล็กยกขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลซึมลงมาบนใบหน้า
"มิน่าล่ะรุ่นพี่ถึงตัวเล็กขนาดนี้.." จงอินพูดกับตัวเองเบาๆ เขาเดินเข้าไปกุมมืออีกคนแล้วออกแรงฉุดให้มาเดินเคียงข้างกัน
"อะไรนะ" คยองซูรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนข้างๆพูดจึงหันไปถาม
" เปล่าครับๆ อ่ะ..นั่นไงก๊อกน้ำ" ร่างสูงส่ายหน้า ก่อนจะเหลือบไปเห็นก๊อกน้ำที่หมายพอดี
"เดี๋ยวพี่ทำเองครับ" คยองซูมองอีกคนหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยึดไปของเขาออกมาเพื่อล้างรอยเลือดออก เขารีบยื่นมือไปคว้าผ้าคืนมา แล้วลงมือขยี้ตรงรอยเปื้อนอย่างขะมักเขม้น ปล่อยให้ร่างสูงยืนมองเขาอยู่ใกล้ๆเงียบๆ
.
.
.
รอยแดงบนผ้าเช็ดหน้าหายไปแล้ว.. คยองซูบิดน้ำออกจากผ้าอีกหนึ่งทีก่อนจะพับเก็บไว้ตามเดิม ในตอนที่เงยหน้าขึ้นมาเขาก็พบว่าจงอินที่ยืนห่างออกไปเมื่อสักครู่กลับมายืนอยู่ตรงหน้า กำลังตั้งท่าจะทำอะไรบางอย่าง และตอนนั้นเองน้ำจำนวนหนึ่งก็สาดมาที่ตัวเขาเบาๆ
ซ่า!
คยองซูรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะของจงอินอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ถึงได้รู้ตัวว่าถูกคนตัวสูงแกล้งเอา ใบหน้าหวานงอง้ำลงเล็กน้อย เขาก้มลงมองเสื้อนักศึกษาที่ตอนนี้เปียกจนแนบเข้ากับลำตัว
"ทำไมทำแบบนี้ล่ะครับ" ร่างเล็กหันไปถามตัวการที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้อาบน้ำกลางแจ้ง เขาไม่รู้จริงๆว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่จู่ๆก็คนๆนี้แกล้งเอา
"อากาศร้อนน่ะครับ" ร่างสูงตอบด้วยรอยยิ้ม(พยายาม)ใสซื่อ มองตอบรุ่นพี่ตัวเล็กที่ตอนนี้ดูจะจนใจกับคำตอบเขาอย่างเห็นได้ชัด
จริงๆแล้วเหตุผลที่เขาสาดน้ำใส่คนตรงหน้าเพราะจู่ๆเขาก็เกิดความรู้สึกอยากแกล้งคนๆนี้ขึ้นมา แก้มแดงๆเริ่มป่องเพราะเสื้อที่เปียกน้ำจนชุ่มทำให้รู้สึกไม่สบายตัวช่วยขับให้ใบหน้าหวานดูน่ารักเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
คยองซูไม่รู้จะทำยังไงกับอีกคนดีจึงได้แต่ก้มลงบิดน้ำออกจากเสื้อ ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นหน้าปัดนาฬิกาข้อมือที่ตอนนี้เข็มสั้นชี้อยู่กึ่ง กลางระหว่างเลขสี่กับเลขห้า
"ตายละ! ใกล้จะห้าโมงแล้วนี่นา" เสียงหวานอุทาน เรียกความสนใจจากจงอินได้เป็นอย่างดี
"ห้าโมงทำไมเหรอครับ"
"พี่ต้องไปทำงานที่ร้านน่ะครับ ใกล้จะถึงเวลาแล้วด้วย.." คยองซูตอบพร้อมกับก้มมองสภาพตัวเองที่เปียกม่อล่อกม่อแล่กเหมือนลูกหมาตกน้ำ
ยังไงก็ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อน แต่หอก็ดันอยู่ไกลอีก ไปสายแน่ๆ..
ร่างเล็กเหม่อมองนาฬิกาข้อมือ นัยย์ตาคู่โตฉายแววกังวลอย่างปิดไม่มิด จงอินมองอากัปกิริยาของอีกฝ่ายเงียบๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปากออกมา
"งั้นตามผมมา"
"หะ..ห้ะ"
ไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธแขนเล็กๆก็ถูกฝ่ามือแข็งแรงของอีกคนลากให้เดินตามไปอีกครั้ง
"ห้องน้ำอยู่ทางนั้นนะครับ พี่เข้าไปเปลี่ยนได้เลย เดี๋ยวผมมา"
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกยื่นมาตรงหน้า ดวงตากลมโตมองเสื้อในมืออีกคนแล้วรับมาก่อนจะมองไปตามทางที่ร่างสูงชี้ให้ดู เขาพยักหน้ารับเบาๆ แล้วหันตัวเดินไปอย่างว่าง่าย จงอินเห็นดังนั้นก็แยกตัวไปอีกทาง
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ที่คอนโดของจงอิน คอนโดของจงอินมีขนาดใหญ่และมีทุกอย่างเพียบพร้อม คยองซูมองไปรอบๆตัวตลอดทางเดินด้วยความรู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่แห่งนี้ จนเมื่อมาถึงห้องที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำก็เปิดประตูเข้าไปทันที ร่างเล็กรีบถอดเสื้อนักศึกษาที่จนถึงตอนนี้ก็ยังเปียกอยู่ออก ก่อนจะสวมเสื้อที่ได้มาเมื่อกี้เข้าไปแทน แต่คงเพราะเจ้าของเสื้อตัวสูงกว่าคยองซูมาก เสื้อที่ให้มาจึงมีขนาดใหญ่กว่าตัวเขาไปไม่น้อยเลย
ร่างเล็กมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง...เขาก้มหน้าลงสูดกลิ่นเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมอยู่ รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นมาบนใบหน้า
กลิ่นเสื้อของจงอิน...
ใช่แล้ว โด คยองซูแอบชอบรุ่นน้องคนนี้มานานกว่าสามปีแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่จงอินยังอยู่ปีหนึ่งและตัวเขาเองอยู่ปีสอง
เขาไม่คิดเลยว่า การที่เขารีบวิ่งมาที่สนามฟุตบอลเพื่อจะแอบดูใครบางคนจะทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับรุ่นน้องที่เขาแอบชอบ ถึงขนาดได้มาที่ห้องของเจ้าตัว เขาอยากขอบคุณในความซุ่มซ่ามของตัวที่วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเผลอเตะลูกฟุตบอลที่กลิ้งผ่านมาเข้า จนกระเด็นไปตกที่โต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งโต๊ะตัวที่ว่าก็คือโต๊ะที่พวกของจงอินกำลังเรียงโดมิโน่กันอยู่นั่นเอง
ในขณะที่คยองซูกำลังยิ้มกับตัวเองคนเดียว....
ก๊อก ก๊อก
"รุ่นพี่เสร็จรึยังครับ จะสายแล้วไม่ใช่เหรอ"
ก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงเรียกดังมาจากข้างนอกทำให้คนตัวเล็กที่นั่งคิดจนเพลินถึงกับสะดุ้ง รีบก้มมองนาฬิกาเรือนเล็ก
4 โมง 55 นาที..
"ส..เสร็จแล้ว กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละครับ" เขาตะโกนกลับออกไปแล้วรีบหันไปพับเสื้อของตัวเองที่พาดไว้กับราว
"ผมนึกว่าพี่หลับไปแล้วซะอีก" จงอินพูดเมื่อเห็นคนตัวเล็กเปิดประตูออกมาอย่างรีบร้อน ร่างเล็กส่งสายตาขอโทษขอโพยพร้อมกับยิ้มแห้งๆให้ ร่างสูงหรี่ตามองท่าทางของอีกคนขำๆ ก่อนจะหันตัวเดินกลับออกไปที่ประตูโดยไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถไปด้วย
"ร้านอยู่ไหนครับ" จงอินพูดในขณะที่ตนเองกำลังเตรียมล็อคประตู
"ร้าน?"
"ที่ทำงานของพี่ไง"
"ที่ทำงานพี่ทำไมเหรอ" คยองซูทำหน้าเหลอหลา นอกจากจะไม่ตอบคำถามของจงอินแล้ว เขายังถามคำถามกลับอีกต่างหาก
"ผมจะไปส่ง"
- - - - - -(60%)- - - - - -
เสียงดนตรีดังเอื่อยๆคลอไปตามบรรยากาศที่เงียบสงัดภายในรถ คนสองคนซึ่ง ต่างคนต่างก็กำลังใช้เวลาอยู่กับความคิดของตนเองโดยไม่คิดจะพูดคุยกัน
ดวงตากลมโตแอบเหลือบมองร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่ ดวงตาเรียวคมจ้องมองทางข้างหน้า ใช้สมาธิที่มีในการบังคับพวงมาลัยเต็มที่ เขาไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขากำลังฝันอยู่รึเปล่า จะหยิกตัวเองก็กลัวว่ามันจะเป็นความจริง แล้วคนข้างๆจะหาว่าเขาบ้า อยู่ดีๆก็ทำร้ายตัวเอง
ก็แหม..คนที่แอบชอบมาตั้งสามปีเชียวนะ จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงกัน \(T///T)/
มือเล็กยกขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆให้กับความคิดที่เริ่มฟุ้งซ่าน เขาจะต้องใจเย็นๆ ต้องไม่แสดงพิรุธให้อีกคนเห็น ถ้ารุ่นน้องคนนี้รู้ว่ามีรุ่นพี่มาชอบแถมยังเป็นผู้ชายอีก เขาต้องโดนหาว่า โรคจิตแน่ๆ ต้องนิ่งเข้าไว้ ..นิ่งเข้าไว้
ท่าทางของคนตัวเล็กที่เอาแต่เบิกตากว้างมองที่พักเท้า แล้วจู่ๆก็ดันยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง ทำเอาเขาแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ มันจะแปลกไหมถ้าเขาจะรู้สึกว่าผู้ชายตัวเล็กคนนี้ทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด น่ารัก...จนเขารู้สึกอยากจะสัมผัสแก้มใสๆนั่นดูสักครั้ง
อยากจะลอง..จับดูสักครั้ง..
จงอินละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยเพื่อจะเอื้อมมือไปหาอีกคนที่กำลังเหม่อจนลืมสนใจรอบข้าง
"เลี้ยวซ้ายข้างหน้านะจงอิน... ม..มีอะไรเหรอครับ?" คยองซูสังเกตเห็นว่าใกล้จะถึงร้านของเขาแล้วจึงหันไปเอ่ยปากบอกกับอีกคน จังหวะที่กำลังเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาก็ปะทะกับมืออีกคนที่เอื้อมมาใกล้จนแทบจะแนบเข้ากับหน้าเขาอยู่แล้ว ร่างเล็กถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก นัยย์ตากลมโตก้มหลบสายตาอีกคนที่มองมา
จงอินสะดุ้งรีบชักมือกลับมาขับรถต่อไป เขาเลี้ยวรถไปตามทางที่อีกคนบอก ยังไม่วายแอบชำเลืองมองคนข้างๆที่ก้มหน้าลงอีกครั้ง ต่างกันก็ตรงครั้งนี้แก้มขาวๆนั่นมีสีแดงเลือดฝาดเพิ่มขึ้นมา
"ร้านนี้รึเปล่าครับ" จงอินจอดรถที่หน้าร้านหนังสือร้านหนึ่งแล้วสะกิดไหล่อีกคนเบาๆ
"เอ้ะ.. อ่ะ ใช่ครับ" คยองซูเงยหน้ามองออกไปนอกรถ ถึงได้รู้ว่ามาถึงหน้าร้านที่ทำงานของเขาแล้ว ร่างเล็กหันไปพยักหน้าขอบคุณให้อีกคนแล้วเปิดประตูเดินลงจากรถไป ก่อนหันกลับมาโค้งขอบคุณให้สารถีจำเป็นที่กำลังมองอยู่อีกครั้ง
"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ พี่ขอตัวก่อนนะครับ"
"โชคดีครับพี่คยองซู" จงอินที่ยิ้มให้แล้วเลื่อนกระจกขึ้น รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากที่ตรงนั้น ทิ้งให้อีกคนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนกับคำพูดของเขาที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนไป..
โชคดีครับพี่คยองซู..
โชคดีครับพี่คยองซู...
โชคดีครับพี่คยองซู...
ทุกคนครับ ผมจะทำยังไงดี โดคยองซูเผลอทิ้งหัวใจไว้ที่รถคันนั้นไปซะแล้วล่ะ T////T
.
.
.
.
"คืนนี้ สองทุ่ม ที่ร้านพี่ซูโฮ เฮียลู่ฝากมาบอกว่า ถ้าใครไม่ไปเฮียลู่จะตามไปหาถึงที่พร้อมกับของขวัญนะคร้าบบ" บยอน แบคฮยอน เด็กหนุ่มร่างเล็กตะโกนเสียงใส สายตาห้าหกคู่หันขวับไปมองต้นเสียงที่ตอนนี้ยืนเอามือค้ำโต๊ะกวาดสายตามองพวกเขาทุกคน รอยยิ้มกว้างๆผิดกับดวงตาเรียวเล็กที่แฝงแววบังคับไว้อย่างชัดเจน
ลองไม่มาดูสิ พวกนายไม่ได้โดนแค่ของขวัญจากเฮียลู่แน่นอน
ชานยอล ส่ายหัวให้คำขู่ของทางสายตาของคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะเพ่งเล็งมาที่เขาเป็นพิเศษ คงเพราะคราวที่แล้วเขาดันเบี้ยวนิดของไอ้เตี้ยนี่ไปดื่มกับรุ่นน้องต่างคณะ ปล่อยให้อีกคนรอเก้อ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แบคฮยอนก็ดูจะอาฆาตแค้นเขามากเวลามีนัด
"นัดคราวนี้มีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าเนี่ย"
โอเซฮุน หนุ่มสุดฮอตประจำกลุ่มของพวกเขาเงยหน้าขึ้นมาจากแก้วชานมไข่มุก เอ่ยปากถามแบคฮยอนที่นั่งลงตรงที่ว่างข้างๆเขา
"เลี้ยงต้อนรับไงล่ะ เลี้ยงตอนรับ เมื่อวานก็บอกไปแล้วนี่ว่าเฮียเลย์เพิ่งกลับมาจากแคนาดา" แบคฮยอนตอบพลางดึงแก้วชานมของอีกคนมาดูดจ๊วบจ๊าบจนแทบจะเหลือติดแค่ก้นแก้ว เซฮุนเห็นดังนั้นถึงกับถลึงตามองอีกคนดุๆ
"เลย์นี่ ใช่พี่อี้ชิงที่เป็นเดือนคณะนิเทศน์คู่กับพี่คริสรึเปล่านะ?" เทาที่นั่งฟังอยู่เงียบๆมานานถามขึ้น
"คนนั้นแหละๆ"
"ทำไมพี่เค้าถึงได้ไปแคนาดาล่ะ" คราวนี้ซิ่วหมินเป็นคนถามบ้าง ทุกคนในวงสนทนาต่างพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย สายทุกคู่พุ่งเป้ามาที่แบคฮยอนที่กำลังพยายามยืดอก(แบนๆ)ของเขา ร่างเล็กใช้นิ้วก้อยดันตรงหว่างคิ้วเลียนแบบโคนันคลุงตอนดันแว่นทั้งๆที่ไม่ได้ใส่แว่น ปากบางขยับทีละนิดทำเอาคนทั้งหมดต้องลุ้นตาม
.
.
"ความ - ลับ"
To be continue .
ปล. คอมเม้นในทวิต ติดแท็ก #รพทร ได้นะคะ
ความคิดเห็น