[Fic/TheMazeRunner] One Day (AllxNewt) - [Fic/TheMazeRunner] One Day (AllxNewt) นิยาย [Fic/TheMazeRunner] One Day (AllxNewt) : Dek-D.com - Writer

    [Fic/TheMazeRunner] One Day (AllxNewt)

    หนึ่งวันในทุ่งของเด็กหนุ่มชื่อนิวท์

    ผู้เข้าชมรวม

    478

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    478

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.พ. 58 / 01:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    mx -xine
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [Fic] One Day

      Pairing : AllxNewt

      หมายเหตุ : มโนล้วนไม่อิงหนังและหนังสือใดๆทั้งสิ้น และไม่มีอะไรแซ่บหรอกนะ เราใสใส

      *****


       

      อัลบี้ตื่นเถอะ



      อัลบี้
      เสียงร้องเรียกคุ้นหูที่แว่วมาทำเอาหัวหน้าชาวทุ่งอดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้ แม้รู้ดีว่าในฐานะหัวหน้าเขาควรจะลุกได้แล้ว แต่เมื่อคืนช่วยกำหนดพิกัดเขาวงกตกับมินโฮกันจนดึกดื่น ก็อดต่อเวลานอนไม่ได้

      นิวท์ยืนท้าวสะเอวจ้องแผ่นหลังของหนุ่มผิวเข้มที่หนีมาใช้เตียงพยาบาลนอน รู้ดีว่าเจ้าตัวต้องตื่นแล้วแน่ๆ แต่อยากงอแงนอนต่อ คนมาปลุกยิ้มมุมปากก่อนจะขยับไปชิดขอบเตียง


      “อัลบี้ ตื่นเถอะ”
      เสียงแผ่วกระซิบข้างหูทำเอาอัลบี้อดย่นคอไม่ได้ ถึงจะเตรียมใจแล้วว่านิวท์ต้องหาวิธีปลุกมาแกล้งเขาแน่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชินกับทุกครั้งหรอกนะ

      “อัลบี้”
      ไม่เรียกเปล่า มือบางเริ่มไล้แขนเขาไปเรื่อยๆก่อนจะเริ่มไล้ลงต่ำ แล้ววกเข้าขอบกางเกง


      อัลบี้ลืมตาโพลงคว้าแขนคนมาปลุกหมับ นิวท์หัวเราะคิก


      “ทำอะไรของนาย” คนตัวโตกว่ากดเสียงต่ำ
      “ก็แค่จะเช็กว่านาย 
      ตื่น’ รึยัง” นิวท์ตอบกลับ ดวงตาฉายแววพราวระยับ อัลบี้แค่นหายใจอย่างยอมแพ้ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ตัว

      แล้วถ้า ตื่น’ แล้วนายจะทำยังไง


       

      ก็จะช่วยปลอบให้มันสงบเอง

       

      *****


       

      กลิ่นหอมยั่วยวนของหมูย่างลอยมาแตะจมูก ดึงดูดคนตัวบางที่เดินบิดตัวด้วยความเมื่อยให้สาวเท้าเข้าหา

      นิวท์มองชัคที่เฝ้ากองไฟย่างหมูไปกินไปอยู่คนเดียวอย่างเอ็นดู

      “อ้าว นิวท์ มากินเร็ว กำลังอร่อยเลย”

      ชัคพูดชวนทั้งๆที่อาหารเต็มปาก นิวท์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆชัคแล้วท้าวคางมองอีกฝ่ายกิน

      “ไว้ก่อนนะ ตอนนี้กำลังอิ่มอยู่... ว่าแต่พวกนักวิ่งออกไปแล้วเหรอ”

      “อืม เบนกับมินโฮไปกันแต่เช้าเลย เสียดาย ถ้าออกช้ากว่านี้อีกนิดก็จะได้กินของอร่อยแล้ว”

      “นั่นสินะเสียดายจัง”
      “ว่าแต่นายไม่กินจริงๆเหรอ นี่อร่อยนะ” หน้าบ๊องแบ๊วของชัคทำให้นิวท์อดขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้จริงๆ

      “อืม... ลองชิมหน่อยก็ได้”


       

      ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตั้งตัว หนุ่มผมทองก็เอามือจับต้นคอของอีกคนก่อนจะโน้มหน้าไปเลียเศษหมูที่ติดอยู่ข้างปากของเด็กตัวอ้วน แล้วส่งเสียงอย่างพึงพอใจ




      “อืม... อร่อยจริงด้วย”

       

      *****



      อีกไม่นานกำลังจะเข้าฤดูหนาว ทำให้กลุ่มชาวไร่ต้องเหนื่อยกว่าที่เคย เนื่องจากต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตกักตุนไว้ก่อนหิมะจะมาเยือน

      นิวท์ช่วยคนอื่นๆขนข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวได้ไปเก็บในโรงเรือน ก่อนจะแยกตัวไปตัดแต่งเถาองุ่นต่อ หากแต่ยังไม่ทันจะทำเสร็จดี เสียงเอะอะที่ดังมาจากฝั่งปากทางเข้าวงกตทำให้คนตัวบางอดกลอกตาด้วยความเหนื่อยใจไม่ได้ ก่อนจะทิ้งเครื่องมือแล้ววิ่งไปทางต้นเสียง

      ตามที่คาด แกลลี่กับโทมัสก็ยังหาเรื่องทะเลาะกันได้ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แต่ยังไม่ทันที่นิวท์จะไปช่วยคนอื่นๆดึงตัวสองคนออกจากกัน เสียงตวาดห้ามทัพของอัลบี้ก็ดังขึ้น

      พอหัวหน้าปรากฏตัว ทุกอย่างก็เริ่มสงบ คู่กรณีกัดฟันกรอดจ้องหน้ากันก่อนที่แกลลี่จะหันไปฟ้องเรื่องที่โทมัสพยายามจะเข้าไปข้างในวงกตอีก จากสงครามกำลังกลายเป็นสงครามน้ำลาย


      นิวท์กลอกตาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันก่อนจะตะโกน


      “พวกนายพอได้แล้ว
      !.. แกลลี่ นายไปช่วยฉันเก็บฟืนเดี๋ยวนี้” ห้ามเสร็จก็ออกปากสั่งต่อ คนโดนสั่งอ้าปากจะแย้งแต่นิวท์ไม่เปิดโอกาส

      “เดี๋ยวนี้” เด็กหนุ่มกดเสียงต่ำ บอกให้รู้ว่านี่คือคำขาดห้ามโต้แย้ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป แกลลี่กัดฟันกรอดชี้หน้าโทมัสอย่างเอาเรื่องก่อนจำยอมเดินตามอีกฝ่ายไป



       

      *****


       

      พวกนายควรจะเชื่อฉัน” แกลลี่บ่น ขณะเอาขวานจามกิ่งไม้ “สักวันหมอนั่นต้องนำภัยมาสู่พวกเราแน่ๆ”

      “โทมัสเขาแค่อยากรู้อยากเห็น และฉันก็มองว่าการที่พวกนายเอาแต่ทะเลาะกันมันน่ารำคาญมากกว่าซะอีก” นิวท์ยืนกอดอกพิงต้นไม้ตอบ แน่นอน เอาคนแรงเยอะกว่ามาเขาไม่ลงแรงทำงานให้เหนื่อยหรอก

      “หมอนั่นอาจเป็นนักวิ่งที่ดีก็ได้ ใครจะรู้”

      “เหอะ”  แกลลี่แค่นเสียง นิวท์ถอนหายใจด้วยความระอา

      “นายควรจะหัดว่าง่ายบ้างนะ” 

      พอได้ยินประโยคนี้คนตัวโตกว่าถึงกับยิ้มเหยียด แกลลี่วางขวานในมือลงก่อนจะเดินเข้าหาอีกฝ่าย มือข้างหนึ่งท้าวต้นไม้ข้างหลังเด็กหนุ่มตัวบางกว่าไว้



      “ว่าง่ายกับนาย... แบบมินโฮน่ะเหรอ” 



      นิวท์จ้องตาอีกฝ่ายเห็นแววตารู้ทันทอประกาย คนถูกถามยิ้มบางไม่ตอบ แกลลี่เข้าประชิดอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ

      “ถ้าฉันว่าง่าย นายจะมีอะไรให้เป็นรางวัลล่ะ” คนถามเลิกคิ้ว มือว่างอีกข้างเริ่มระรานบริเวณสาบเสื้อกล้ามของคนตัวบาง



       

      นิวท์ยิ้มพรายก่อนจะโน้มคออีกฝ่ายลงมา

      “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่านายจะว่าง่ายถึงระดับไหนนะ”


       

      *****



      โทมัสมัดฟางกองสุดท้าย ก่อนจะโยนกองไว้กับมัดอื่นๆแล้วหันไปมองทางป่าอย่างไม่สบายใจ แกลลี่กับนิวท์หายเข้าไปข้างในสักพักแล้ว ถึงจะรู้ว่าในป่าไม่มีอะไรอันตราย แต่ก็อดห่วงไม่ได้
      ทุกครั้งที่เขาทะเลาะกับแกลลี่ นิวท์มักจะเข้าข้างเขาเสมอ แม้จะรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของเด็กหนุ่ม แต่ก็กังวลว่าเขาจะกลายเป็นต้นเหตุทำให้นิวท์มีปัญหากับคนอื่นๆรึเปล่า

       

      โทมัสยืดตัวขึ้นเมื่อเห็นแกลลี่เดินหัวยุ่งหอบกองฟืนเดินออกมา แต่ไม่เห็นวี่แววของอีกคน แกลลี่คงสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองอยู่จึงหยุดเดินจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเดินต่อไปยังทิศทางอื่น

      สักพักนิวท์เดินออกมาพอดี หนุ่มผมดำจึงวิ่งเข้าไปหา ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นคอเสื้อกล้ามอีกฝ่ายมีรอยขาดเล็กน้อย และมีเศษใบไม้ติดตามหัว


      “นายทะเลาะกับหมอนั่นเหรอ” โทมัสถามอย่างกังวล ก่อนจะช่วยหยิบใบไม้ออกจากผมของอีกฝ่าย นิวท์ส่ายหน้า

      “มีปากเสียงนิดหน่อยน่ะ แต่ไม่มีอะไรรุนแรงหรอก”

      “เป็นเพราะฉันสินะ” เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเป็นหมาหงอยแล้วก็อดอยากแกล้งไม่ได้

      “ก็ส่วนนึง” คำตอบที่รับไม่ได้ช่วยให้รู้สึกผิดน้อยลงเลย  พอเห็นโทมัสยิ่งหงอยคนขี้แกล้งเลยหลุดขำ

      “ไม่ต้องกังวลหรอก” นิวท์ตีแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “แกลลี่ก็เลือดร้อนไปงั้นแหละ สักพักก็กลับเป็นปกติ ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ใช่ว่าฉันกับหมอนั่นจะไม่เคยมีเรื่องตีกันสักหน่อย”

      แต่โทมัสก็ยังก้มหัวมองมือตัวเองด้วยความรู้สึกผิดอยู่ดี พาลให้นิวท์อดเห็นใจไม่ได้


       

      ไม่ได้เห็นใจที่อีกฝ่ายเอาแต่โทษตัวเองหรอกนะ

      แต่เห็นใจที่อีกฝ่ายซื่อและดีจนเขาถูกใจต่างหาก


       

      “โทมัส มองหน้าฉัน” 
      หากแต่อีกฝ่ายยังนิ่ง ทำให้นิวท์ต้องจับหน้าอีกฝ่ายให้เงยขึ้นมา

      สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากทำให้โทมัสสะดุ้ง ก่อนจะผละจากอีกฝ่ายแทบไม่ทัน

      “ทะ...ทำอะไรเนี่ย” โทมัสยกมือป้ายปากแต่หน้าแดงแจ๊ดไปถึงหูอย่างสังเกตได้ นิวท์หัวเราะ

      “ก็นายทำหน้าเป็นหมาหงอยจนฉันอดเอ็นดูไม่ได้นี่นา”

      “เล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ” โทมัสเสียงเข้ม


       

      “ฉันไม่ได้เล่นนะ”


       

      นิวท์หยุดหัวเราะแล้วมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่โทมัสไม่สามารถตีความหมายได้

      แต่มีความดึงดูดอย่างประหลาด


       

      “ฉันแค่อยากจูบนายจริงๆ” 


      นิวท์พูดออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม โทมัสกลืนน้ำลาย แม้ในสมองจะบอกว่ามันมีอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ แต่เขากลับยืนนิ่งให้อีกฝ่ายเดินเข้าใกล้ได้


       

      โทมัสเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไม

      ทั้งที่ดูไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรเลย แต่ทุกคนถึงยอมลงให้คนตัวเล็กคนนี้

       

      นิวท์มีพลังในการดึงดูดทุกคนให้คล้อยตามอย่างน่าประหลาด โดยผ่านแววตาที่จริงใจ

      และคำพูดตรงๆไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ


       

      “ขอจูบอีกครั้งได้ไหม” โทมัสจ้องหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลง

       


       

      เลยไม่ทันเห็นยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตัวผอมกว่า ก่อนที่รอยจูบจะประทับลงมา

       

       

      *****

       

      “นอนไม่หลับเหรอ”

      เสียงเคยคุ้นที่เอ่ยถามไม่ทำให้มินโฮที่มานั่งดูดาวบนแท่นเสาหันหลังไปมองแต่อย่างใด นิวท์ทรุดตัวลงนั่งข้างอีกฝ่าย หนุ่มหน้าตี๋รั้งอีกฝ่ายให้มาอิงแอบกับตน ก่อนจะก้มลงจูบกลุ่มผมนุ่ม

       

      นิวท์ขยับตัวให้ซุกอีกฝ่ายได้ถนัดขึ้นก่อนจะเอ่ยถาม “เหนื่อยไหมวันนี้”

      “ไม่เหนื่อยหรอก.. แค่เพลียที่ไม่ได้เบาะแสอะไรใหม่ๆเลยมากกว่า” เขาสำรวจที่ทางจนแทบจะหมดวงกตแล้ว หากแต่ยังหาสิ่งที่จะเป็นประตูทางออกหรือเส้นทางในไปสู่ส่วนใหม่ไม่เจอเลย

      “เสียดายนะ.. ถ้าฉันไม่บาดเจ็บ ก็คงจะได้ไปวิ่งกับนายแล้วแท้ๆ”

      คำพูดของคนตัวเล็กกว่าทำให้มินโฮกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น สำหรับชาวทุ่ง การได้เป็นนักวิ่งคือความภูมิใจ แม้นิวท์จะไม่แสดงออกว่าเขาไม่มีความสุขกับการที่ต้องกลายเป็นเพียงชาวไร่ดูแลผลผลิตให้คนอื่นๆ แต่มินโฮก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังเสียใจอยู่ดี

       

      “นายอยู่แบบนี้ดีแล้วล่ะ เอาจริงๆฉันไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวงกตนั่น ถ้าหากสักวันพวกกรีฟเวอร์เกิดเปลี่ยนออกมาล่าตอนกลางวันขึ้นมา ฉันไม่อยากให้นายมาเสี่ยงอันตรายด้วย”

      “........”

       
       

      “และอีกอย่าง ฉันจะได้มีคนให้กลับมาหาในทุกวันๆ”


       

      คำพูดหวานๆที่นานๆจะหลุดจากปากอีกฝ่ายที ทำให้นิวท์อดยิ้มไม่ได้ หนุ่มผมทองเขยิบตัวไปจูบอีกฝ่ายก่อนจะซุกตัวในอ้อมแขนแข็งแกร่งต่อ

      แต่สักพักนิวท์ก็หาวหวอด

       

      “เหนื่อยเหรอวันนี้” มินโฮเกลี่ยผมอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

      นิวท์ยิ้ม

       


       

      “เหนื่อย... มากๆเลยด้วย”

       

      End.

       

      ความจริงควรเขียนว่า allnewt(caneat) มากกว่า 555555

      เห็นมีคนบ่นอยากอ่านเลยจัดให้ อยากลองเขียนสไตล์นี้ดูด้วย

      ตอนเราดูเรารู้สึกว่านิวท์ควีนมาก แล้วคือคนรอบตัวชิปคู่ไม่เหมือนกันเลย เลยแซวกันว่านางน่าจะได้กับทุกคน
      ร้ายกว่ากรีฟเวอร์อีก 555555

      ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้ค่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×