[Fic/TheMazeRunner] One Day (AllxNewt)
หนึ่งวันในทุ่งของเด็กหนุ่มชื่อนิวท์
ผู้เข้าชมรวม
475
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[Fic] One Day
Pairing : AllxNewt
หมายเหตุ : มโนล้วนไม่อิงหนังและหนังสือใดๆทั้งสิ้น และไม่มีอะไรแซ่บหรอกนะ เราใสใส
*****
“อัลบี้ตื่นเถอะ”
“อัลบี้”
เสียงร้องเรียกคุ้นหูที่แว่วมาทำเอาหัวหน้าชาวทุ่งอดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้ แม้รู้ดีว่าในฐานะหัวหน้าเขาควรจะลุกได้แล้ว แต่เมื่อคืนช่วยกำหนดพิกัดเขาวงกตกับมินโฮกันจนดึกดื่น ก็อดต่อเวลานอนไม่ได้
นิวท์ยืนท้าวสะเอวจ้องแผ่นหลังของหนุ่มผิวเข้มที่หนีมาใช้เตียงพยาบาลนอน รู้ดีว่าเจ้าตัวต้องตื่นแล้วแน่ๆ แต่อยากงอแงนอนต่อ คนมาปลุกยิ้มมุมปากก่อนจะขยับไปชิดขอบเตียง
“อัลบี้ ตื่นเถอะ”
เสียงแผ่วกระซิบข้างหูทำเอาอัลบี้อดย่นคอไม่ได้ ถึงจะเตรียมใจแล้วว่านิวท์ต้องหาวิธีปลุกมาแกล้งเขาแน่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชินกับทุกครั้งหรอกนะ
“อัลบี้”
ไม่เรียกเปล่า มือบางเริ่มไล้แขนเขาไปเรื่อยๆก่อนจะเริ่มไล้ลงต่ำ แล้ววกเข้าขอบกางเกง
อัลบี้ลืมตาโพลงคว้าแขนคนมาปลุกหมับ นิวท์หัวเราะคิก
“ทำอะไรของนาย” คนตัวโตกว่ากดเสียงต่ำ
“ก็แค่จะเช็กว่านาย ‘ตื่น’ รึยัง” นิวท์ตอบกลับ ดวงตาฉายแววพราวระยับ อัลบี้แค่นหายใจอย่างยอมแพ้ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ตัว
“แล้วถ้า ‘ตื่น’ แล้วนายจะทำยังไง”
“ก็จะช่วยปลอบให้มันสงบเอง”
*****
กลิ่นหอมยั่วยวนของหมูย่างลอยมาแตะจมูก ดึงดูดคนตัวบางที่เดินบิดตัวด้วยความเมื่อยให้สาวเท้าเข้าหา
นิวท์มองชัคที่เฝ้ากองไฟย่างหมูไปกินไปอยู่คนเดียวอย่างเอ็นดู
“อ้าว นิวท์ มากินเร็ว กำลังอร่อยเลย”
ชัคพูดชวนทั้งๆที่อาหารเต็มปาก นิวท์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆชัคแล้วท้าวคางมองอีกฝ่ายกิน
“ไว้ก่อนนะ ตอนนี้กำลังอิ่มอยู่... ว่าแต่พวกนักวิ่งออกไปแล้วเหรอ”
“อืม เบนกับมินโฮไปกันแต่เช้าเลย เสียดาย ถ้าออกช้ากว่านี้อีกนิดก็จะได้กินของอร่อยแล้ว”
“นั่นสินะเสียดายจัง”
“ว่าแต่นายไม่กินจริงๆเหรอ นี่อร่อยนะ” หน้าบ๊องแบ๊วของชัคทำให้นิวท์อดขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้จริงๆ
“อืม... ลองชิมหน่อยก็ได้”
ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตั้งตัว หนุ่มผมทองก็เอามือจับต้นคอของอีกคนก่อนจะโน้มหน้าไปเลียเศษหมูที่ติดอยู่ข้างปากของเด็กตัวอ้วน แล้วส่งเสียงอย่างพึงพอใจ
“อืม... อร่อยจริงด้วย”
*****
อีกไม่นานกำลังจะเข้าฤดูหนาว ทำให้กลุ่มชาวไร่ต้องเหนื่อยกว่าที่เคย เนื่องจากต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตกักตุนไว้ก่อนหิมะจะมาเยือน
นิวท์ช่วยคนอื่นๆขนข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวได้ไปเก็บในโรงเรือน ก่อนจะแยกตัวไปตัดแต่งเถาองุ่นต่อ หากแต่ยังไม่ทันจะทำเสร็จดี เสียงเอะอะที่ดังมาจากฝั่งปากทางเข้าวงกตทำให้คนตัวบางอดกลอกตาด้วยความเหนื่อยใจไม่ได้ ก่อนจะทิ้งเครื่องมือแล้ววิ่งไปทางต้นเสียง
ตามที่คาด แกลลี่กับโทมัสก็ยังหาเรื่องทะเลาะกันได้ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แต่ยังไม่ทันที่นิวท์จะไปช่วยคนอื่นๆดึงตัวสองคนออกจากกัน เสียงตวาดห้ามทัพของอัลบี้ก็ดังขึ้น
พอหัวหน้าปรากฏตัว ทุกอย่างก็เริ่มสงบ คู่กรณีกัดฟันกรอดจ้องหน้ากันก่อนที่แกลลี่จะหันไปฟ้องเรื่องที่โทมัสพยายามจะเข้าไปข้างในวงกตอีก จากสงครามกำลังกลายเป็นสงครามน้ำลาย
นิวท์กลอกตาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันก่อนจะตะโกน
“พวกนายพอได้แล้ว!.. แกลลี่ นายไปช่วยฉันเก็บฟืนเดี๋ยวนี้” ห้ามเสร็จก็ออกปากสั่งต่อ คนโดนสั่งอ้าปากจะแย้งแต่นิวท์ไม่เปิดโอกาส
“เดี๋ยวนี้” เด็กหนุ่มกดเสียงต่ำ บอกให้รู้ว่านี่คือคำขาดห้ามโต้แย้ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป แกลลี่กัดฟันกรอดชี้หน้าโทมัสอย่างเอาเรื่องก่อนจำยอมเดินตามอีกฝ่ายไป
*****
“พวกนายควรจะเชื่อฉัน” แกลลี่บ่น ขณะเอาขวานจามกิ่งไม้ “สักวันหมอนั่นต้องนำภัยมาสู่พวกเราแน่ๆ”
“โทมัสเขาแค่อยากรู้อยากเห็น และฉันก็มองว่าการที่พวกนายเอาแต่ทะเลาะกันมันน่ารำคาญมากกว่าซะอีก” นิวท์ยืนกอดอกพิงต้นไม้ตอบ แน่นอน เอาคนแรงเยอะกว่ามาเขาไม่ลงแรงทำงานให้เหนื่อยหรอก
“หมอนั่นอาจเป็นนักวิ่งที่ดีก็ได้ ใครจะรู้”
“เหอะ” แกลลี่แค่นเสียง นิวท์ถอนหายใจด้วยความระอา
“นายควรจะหัดว่าง่ายบ้างนะ”
พอได้ยินประโยคนี้คนตัวโตกว่าถึงกับยิ้มเหยียด แกลลี่วางขวานในมือลงก่อนจะเดินเข้าหาอีกฝ่าย มือข้างหนึ่งท้าวต้นไม้ข้างหลังเด็กหนุ่มตัวบางกว่าไว้
“ว่าง่ายกับนาย... แบบมินโฮน่ะเหรอ”
นิวท์จ้องตาอีกฝ่ายเห็นแววตารู้ทันทอประกาย คนถูกถามยิ้มบางไม่ตอบ แกลลี่เข้าประชิดอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
“ถ้าฉันว่าง่าย นายจะมีอะไรให้เป็นรางวัลล่ะ” คนถามเลิกคิ้ว มือว่างอีกข้างเริ่มระรานบริเวณสาบเสื้อกล้ามของคนตัวบาง
นิวท์ยิ้มพรายก่อนจะโน้มคออีกฝ่ายลงมา
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่านายจะว่าง่ายถึงระดับไหนนะ”
*****
โทมัสมัดฟางกองสุดท้าย ก่อนจะโยนกองไว้กับมัดอื่นๆแล้วหันไปมองทางป่าอย่างไม่สบายใจ แกลลี่กับนิวท์หายเข้าไปข้างในสักพักแล้ว ถึงจะรู้ว่าในป่าไม่มีอะไรอันตราย แต่ก็อดห่วงไม่ได้
ทุกครั้งที่เขาทะเลาะกับแกลลี่ นิวท์มักจะเข้าข้างเขาเสมอ แม้จะรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของเด็กหนุ่ม แต่ก็กังวลว่าเขาจะกลายเป็นต้นเหตุทำให้นิวท์มีปัญหากับคนอื่นๆรึเปล่า
โทมัสยืดตัวขึ้นเมื่อเห็นแกลลี่เดินหัวยุ่งหอบกองฟืนเดินออกมา แต่ไม่เห็นวี่แววของอีกคน แกลลี่คงสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองอยู่จึงหยุดเดินจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเดินต่อไปยังทิศทางอื่น
สักพักนิวท์เดินออกมาพอดี หนุ่มผมดำจึงวิ่งเข้าไปหา ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นคอเสื้อกล้ามอีกฝ่ายมีรอยขาดเล็กน้อย และมีเศษใบไม้ติดตามหัว
“นายทะเลาะกับหมอนั่นเหรอ” โทมัสถามอย่างกังวล ก่อนจะช่วยหยิบใบไม้ออกจากผมของอีกฝ่าย นิวท์ส่ายหน้า
“มีปากเสียงนิดหน่อยน่ะ แต่ไม่มีอะไรรุนแรงหรอก”
“เป็นเพราะฉันสินะ” เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเป็นหมาหงอยแล้วก็อดอยากแกล้งไม่ได้
“ก็ส่วนนึง” คำตอบที่รับไม่ได้ช่วยให้รู้สึกผิดน้อยลงเลย พอเห็นโทมัสยิ่งหงอยคนขี้แกล้งเลยหลุดขำ
“ไม่ต้องกังวลหรอก” นิวท์ตีแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “แกลลี่ก็เลือดร้อนไปงั้นแหละ สักพักก็กลับเป็นปกติ ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ใช่ว่าฉันกับหมอนั่นจะไม่เคยมีเรื่องตีกันสักหน่อย”
แต่โทมัสก็ยังก้มหัวมองมือตัวเองด้วยความรู้สึกผิดอยู่ดี พาลให้นิวท์อดเห็นใจไม่ได้
ไม่ได้เห็นใจที่อีกฝ่ายเอาแต่โทษตัวเองหรอกนะ
แต่เห็นใจที่อีกฝ่ายซื่อและดีจนเขาถูกใจต่างหาก
“โทมัส มองหน้าฉัน”
หากแต่อีกฝ่ายยังนิ่ง ทำให้นิวท์ต้องจับหน้าอีกฝ่ายให้เงยขึ้นมา
สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากทำให้โทมัสสะดุ้ง ก่อนจะผละจากอีกฝ่ายแทบไม่ทัน
“ทะ...ทำอะไรเนี่ย” โทมัสยกมือป้ายปากแต่หน้าแดงแจ๊ดไปถึงหูอย่างสังเกตได้ นิวท์หัวเราะ
“ก็นายทำหน้าเป็นหมาหงอยจนฉันอดเอ็นดูไม่ได้นี่นา”
“เล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ” โทมัสเสียงเข้ม
“ฉันไม่ได้เล่นนะ”
นิวท์หยุดหัวเราะแล้วมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่โทมัสไม่สามารถตีความหมายได้
แต่มีความดึงดูดอย่างประหลาด
“ฉันแค่อยากจูบนายจริงๆ”
นิวท์พูดออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม โทมัสกลืนน้ำลาย แม้ในสมองจะบอกว่ามันมีอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ แต่เขากลับยืนนิ่งให้อีกฝ่ายเดินเข้าใกล้ได้
โทมัสเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไม
ทั้งที่ดูไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรเลย แต่ทุกคนถึงยอมลงให้คนตัวเล็กคนนี้
นิวท์มีพลังในการดึงดูดทุกคนให้คล้อยตามอย่างน่าประหลาด โดยผ่านแววตาที่จริงใจ
และคำพูดตรงๆไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ
“ขอจูบอีกครั้งได้ไหม” โทมัสจ้องหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลง
เลยไม่ทันเห็นยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตัวผอมกว่า ก่อนที่รอยจูบจะประทับลงมา
*****
“นอนไม่หลับเหรอ”
เสียงเคยคุ้นที่เอ่ยถามไม่ทำให้มินโฮที่มานั่งดูดาวบนแท่นเสาหันหลังไปมองแต่อย่างใด นิวท์ทรุดตัวลงนั่งข้างอีกฝ่าย หนุ่มหน้าตี๋รั้งอีกฝ่ายให้มาอิงแอบกับตน ก่อนจะก้มลงจูบกลุ่มผมนุ่ม
นิวท์ขยับตัวให้ซุกอีกฝ่ายได้ถนัดขึ้นก่อนจะเอ่ยถาม “เหนื่อยไหมวันนี้”
“ไม่เหนื่อยหรอก.. แค่เพลียที่ไม่ได้เบาะแสอะไรใหม่ๆเลยมากกว่า” เขาสำรวจที่ทางจนแทบจะหมดวงกตแล้ว หากแต่ยังหาสิ่งที่จะเป็นประตูทางออกหรือเส้นทางในไปสู่ส่วนใหม่ไม่เจอเลย
“เสียดายนะ.. ถ้าฉันไม่บาดเจ็บ ก็คงจะได้ไปวิ่งกับนายแล้วแท้ๆ”
คำพูดของคนตัวเล็กกว่าทำให้มินโฮกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น สำหรับชาวทุ่ง การได้เป็นนักวิ่งคือความภูมิใจ แม้นิวท์จะไม่แสดงออกว่าเขาไม่มีความสุขกับการที่ต้องกลายเป็นเพียงชาวไร่ดูแลผลผลิตให้คนอื่นๆ แต่มินโฮก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังเสียใจอยู่ดี
“นายอยู่แบบนี้ดีแล้วล่ะ เอาจริงๆฉันไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวงกตนั่น ถ้าหากสักวันพวกกรีฟเวอร์เกิดเปลี่ยนออกมาล่าตอนกลางวันขึ้นมา ฉันไม่อยากให้นายมาเสี่ยงอันตรายด้วย”
“........”
“และอีกอย่าง ฉันจะได้มีคนให้กลับมาหาในทุกวันๆ”
คำพูดหวานๆที่นานๆจะหลุดจากปากอีกฝ่ายที ทำให้นิวท์อดยิ้มไม่ได้ หนุ่มผมทองเขยิบตัวไปจูบอีกฝ่ายก่อนจะซุกตัวในอ้อมแขนแข็งแกร่งต่อ
แต่สักพักนิวท์ก็หาวหวอด
“เหนื่อยเหรอวันนี้” มินโฮเกลี่ยผมอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู
นิวท์ยิ้ม
“เหนื่อย... มากๆเลยด้วย”
End.
ความจริงควรเขียนว่า allnewt(caneat) มากกว่า 555555
เห็นมีคนบ่นอยากอ่านเลยจัดให้ อยากลองเขียนสไตล์นี้ดูด้วย
ตอนเราดูเรารู้สึกว่านิวท์ควีนมาก แล้วคือคนรอบตัวชิปคู่ไม่เหมือนกันเลย เลยแซวกันว่านางน่าจะได้กับทุกคน
ร้ายกว่ากรีฟเวอร์อีก 555555
ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้ค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ AdiQ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ AdiQ
ความคิดเห็น