"แม่คับ หื้อๆ แม่คับ อย่าไปนะคับ หื้อๆ" เสียงร้องไห้ปรานจะขาดใจของเด็กชายตัวน้อย ไม่ใช่แค่เรียกหาผู้เป็นมารดา แต่ยังเกาะขาหญิงสาวที่แกเรียกว่าแม่ ไว้อย่างสุดกำลัง หากแต่ผู้เป็นแม่กลับยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะแลตามองลูกชาย
"หื้อๆ วีร์ไม่ดื้อ ไม่ซน อึก.. วีร์สัญญา... แม่อย่าไป หื้อๆ อย่าทิ้งวีร์นะคับ" เด็กชายตัวน้อยยังคงเอื้อนเอ่ยวาจาอย่างยากลำบาก ด้วยร้องไห้ทั้งน้ำหูน้ำตา เพียงหวังว่าแม่บังเกิดเกล้าจะไม่จากไป ผู้เป็นแม่กระชับกระเป๋าถือในมือ แล้วเอ่ยเรียกลูกสาว
"ดา ช่วยอุ้มน้อง... แม่ต้องไปแล้ว"
เด็กหญิงปรดาทำตามที่ผู้เป็นแม่สั่ง เธออุ้มน้องชายวัย 5 ขวบ ขึ้นมากอดไว้ แม้เด็กชายตัวน้อยจะดิ้นอย่างไม่ยินยอมสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของพี่สาวอายุ 12 ปีได้ แล้วแม่ก็เดินจากไป ไม่แม้แต่จะหันมามองลูกชายที่ร้องเรียกจนสุดเสียง
จากเด็กชายปรวีร์ในวันนั้นที่ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมผู้เป็นแม่ต้องจากไป ได้แต่เฝ้าคิดว่าอาจจะเป็นเพราะตนเอง กระทั้งเด็กชายเติบโตเป็นวัยรุ่น วันนั้น วันที่เขาต้องพบกับความสูญเสียเป็นครั้งที่สอง
พ่อถูกลอบยิง ปรดาพี่สาวและเขาอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย สถานการณ์วุ่นวายและตึงเครียด หากแต่ก่อนที่พ่อจะสิ้นใจ พ่อกลับคิดถึงผู้หญิงคนนั้น...
"วีร์... พ่อคิดถึงเธอ... คิดถึงแม่ของแก..." ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกปรวีร์ที่นั่งหน้าซีดอยู่ใกล้ๆ แต่ผู้เป็นพ่อที่กำลังจะตายกลับส่งยิ้มให้ลูกชาย
"...บอกแม่แกให้ด้วย... พ่อ... ขอโทษ...ที่ยัง... ไม่รวย หึๆ" พ่อหัวเราะอย่างลำบาก ปรวีร์ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องหัวเราะ
"พ่อ..รักเธอ บอกแม่ รัก.. รักมาก..." พ่อพูดแล้วหลับตาลง แล้วพยายามยกฝ่ามือตัวเองไว้ที่อกด้านซ้ายอย่างทุลักทุเล ปรวีร์จึงช่วย และพ่อก็ยิ้มให้เขาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ก่อนที่มือของพ่อจะตกลงข้างลำตัว
ปรวีร์กำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าหนุ่มใหญ่ที่เคยแย้มยิ้มอยู่เสมอ กลับบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อคิดถึงเหตุผล ว่าเหตุผลที่แท้จริงของผู้หญิงที่กล้าทิ้งลูก ทิ้งสามีที่รักเธอมากไปอย่างไม่ใยดี นานถึง 30 กว่าปี แท้จริงแล้วก็เพื่อเงิน!!!
ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างห้ามใจ แล้วก้มลงมองดูรูปถ่ายในมือ เห็นปรดายืนฉีกยิ้มกว้างกอดคอน้องชาย ปรวีร์นิ่งมองภาพนั้นแล้วหวนคิดไปถึงหญิงสาวในภาพ
"วีร์คนเก่งไม่ร้องนะคับ ไม่ร้อง เดียวพี่ดาเอาขนมให้ดีไหม" เด็กหญิงปรดากอดน้องชายตัวน้อย แล้วโยกไปมาเป็นจังหวะ เธอถามน้องชายด้วยรอยยิ้ม หากแต่ดวงตาแดงกร่ำ
"พี่ดาคับ วีร์คิดถึงแม่ อึก" เด็กชายตัวน้อยถามพี่สาวอย่างสุดกลั้น แล้วเบ้หน้าเหมือนจะปล่อยโฮขึ้นมาอีก ทำให้พี่สาวนิ่งงันไป แต่แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น แล้วจึงแย้มยิ้มให้น้องชายอีกครั้ง
"อืม คิดถึงแม่... งั้นต่อไปเวลาวีร์คิดถึงแม่ พี่จะกอดวีร์ จะได้หายคิดถึงดีไหม" ปรดากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น หากแต่ปรวีร์รู้สึกได้ถึงอาการสั่นเทาจากผู้เป็นพี่สาว เขาจึงกระชับกอดเช่นเดียวกัน
"วีร์รักพี่ดาคับ"
"...พี่..ก็รักวีร์คับ"
ปรวีร์ตื่นจากภวังค์ในขณะที่เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มถอนหายใจ เมื่อรู้ว่าใครโทรมา เขาวางกรอบรูปลงที่โต๊ะข้างเตียง แล้วหยิบมือถือขึ้นมาอย่างชั่งใจ
ชายหนุ่มกดรับสายอย่างลังเล แล้วแทบจะเอาโทรศัพท์ออกจากหูไม่ทัน เมื่อปลายสายตะคอกใส่เป็นชุด จนเขาไม่รู้จะตอบคำถามไหน หรือช่วงไหนดี ปรวีร์ได้แต่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะได้ตอบออกไปเพียงรับคำ และเหมือนว่าการตอบเพียงแค่นั้นของปรวีร์จะทำให้อีกฝ่ายพอใจไม่น้อย อีกฝ่ายจึงตัดสายทิ้งอย่างไม่
เสียเวลาเอ่ยลา!!!!!
ความคิดเห็น