ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic exo} Deeper night . kaido

    ลำดับตอนที่ #3 : Deeper night 2

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 57





    Deeper night

     

    2

     

    ค่ำคืนที่พบเจอ

     

           

            เซนต์เพรสซิเด้นท์ อคาเดมี ไม่มีนโยบายให้มีการนำมนุษย์เข้ามาภายในเขตโรงเรียนผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษร้ายแรง

     

            แต่กฎ มีไว้แหกน่ะสิ. . .

     

           

     

            ห้องเรียนที่มีแต่ความมืดครอบคลุมไปหมดจะมีก็เพียงแต่แสงจากเทียนไขเท่านั้นบ้างประปราย บทเรียนเกี่ยวกับการปกครองด้านต่างๆถูกร่ายยาวออกมาอย่างน่าเบื่อและไม่หยุดหย่อน เก้าอี้ด้านหลังห้องเรียนที่เป็นแบบยกสูงจนราบลงไปถูกจับจองด้วยกลุ่มที่ใครๆก็เคารพโดยทั่วสถาบัน . . .แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์  คิมจงอิน เจ้าของแววตาสีเข้มกำลังจ้องออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่าย

     

            สอนเรื่องเดิม ๆ . . . การปกครองของเหล่าแวมไพร์

     

            พวกเขาทั้งเจ็ดต้องเข้าคลาสเรียนพิเศษของทางสถาบันเพราะว่าต้องเป็นผู้นำและคิมจงอินคิดว่า น่าจะเป็นท่านผู้นำคนเดียวมากกว่าที่ต้องมาเรียนเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ พวกเขาเลยพลอยติดร่างแหไปด้วย หันไปมองท่านผู้นำแล้วก็คิ้วกระตุก

     

            คริสกำลังนั่งหลับให้ตายเหอะ

     

            " มองอะไร จงอิน " คนถูกรอบมองถามออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่แบบนั้น

     

            " ก็เปล่า " ไหวไหล่แล้วหันไปทางผู้อาวุโสนั่นเหมือนเดิม

     

            ตึก

     

            ความรู้สึกวูบไหวและเลือดที่กำลังไหลพล่านไปทั่วร่างกายกำลังเกิดขึ้นกับแวมไพร์ทุกตนที่อยู่ที่นี่

     

            เลือด . . . มนุษย์

     

            ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดอย่างรู้กันก่อนจะหายไป มันก็คือสัญชาติญาณของสัตว์ สัตว์ร้ายที่อยู่ในร่างมนุษย์

     

            ฟึบ

     

            " ชานยอล . . .จะไปไหน "  มินซอกเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและไม่ได้ปรายตามองทางเจ้าของชื่อเลยแม้แต่น้อย นั่งไขว่ห้างถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำชนิดที่ว่าฟังแล้วต้องเกรง

     

            ตัวตนที่แท้จริงของคิมมินซอก. . . ไม่ใช่รุ่นพี่มินซอก

     

            " ผมทนไม่ไหว " คนตอบมีสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดียวกันแต่ภายในกลับปั่นป่วนไปหมด ตอนนี้กลิ่นเลือดมันชัดเจนและไม่สามารถควบคุมได้อย่างที่ควรจะเป็น และกลิ่นเลือดนี้มีอิทธิพลมากเกินไป

     

            " เกรงใจผู้ใหญ่หน่อยซิ้ . . .นั่งลง " น้ำเสียงที่ติดจะธรรมดาในตอนแรก ถูกกลบด้วยเสียงที่ทำให้ร่างกายปาร์คชานยอลหยุดกึกด้วยประโยคหลังที่ตามมา

     

            " ครับ คิมมินซอก "

     

            ทั้งห้องเงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลม

     

            ไม่นานคนของสภาอาวุโสที่ได้รับหน้าที่มาสอนก็เลิกคลาส ทั้งเจ็ดคนลุกพร้อมกันก่อนจะเป็นเจ้าของนัยน์ตาสีแดงโปร่งใสราวกับลูกแก้วและผมสีแดงเพลิงที่ถูกเซทมาอย่างดีเดินออกไปก่อนที่หน้าประตู

     

            " ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีคำตอบ เธอ. .มากับผมหน่อยซิ้ " ลู่หานหันไปปรายหน้ามองแบคฮยอนที่นั่งปากงุ้มเหมือนรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองในไม่นานนี้

     

            " ชิ. . .คนอื่นก็ได้หนิ "

     

            " แต่ก็เห็นมาทุกที "

            เจ้าของผมสีแดงเพลิงพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป แต่หารู้ไม่ว่าทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้แวมไพร์ตาสีม่วงแสนเย่อหยิ่งนั่นเต็มๆ





            การเรียนคลาสน่าเบื่อๆกินเวลาไปเกือบสี่ชั่วโมงและอีกไม่นานพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น ใช่ว่าแวมไพร์ทุกตนโดนแดดแล้วจะไหม้เหมือนในนิยาย กลัวกระเทียมเหรอ? จงอินคิดว่าเขายังกินมันอยู่ทุกวันที่ติดมากับสเต็กด้วยซ้ำ และไม้กางเขนเหอะ มินซอกยังใช้มันเป็นเครื่องประดับอยู่ทุกวัน

     

            นั่นมันก็แค่เรื่องหลอกเด็ก

     

            ตึก

     

            ความรู้สึกแล่นพล่านเหมือนตอนที่นั่งเรียนอยู่ไม่มีผิด แต่นี่มันใกล้มาก ใกล้ราวกับว่าอยู่กันเพียงเอื้อม

     

            ดวงตาสีดำประกายเปลี่ยนเป็นสีเลือดอีกครา ท่ามกลางความมืดแวมไพร์คือผู้ล่าที่แกร่งที่สุดและสง่าที่สุด แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ความต้องการมันต่างกัน เลือดบริสุทธิ์คือแวมไพร์ที่สามารถควบคุมความอยากได้

     

            แต่ตอนนี้จงอินกลับทนมันไม่ไหว

     

     

     

     

            “ อ๊ะ เลือดออกจนได้ สีหน้าเป็นกังวลของคนตัวเล็กผุดออกมาอย่างเห็นได้ชัด รีบๆเช็ดเลือดให้หยุดไหลให้เร็วๆเพราะเขาคิดว่านี่คงไม่ดีแน่

     

            คยองซูยังไม่กลับเข้าหอก็เหมือนเดิมวันนี้เขามาเก็บดอกกุหลาบให้เซฮุนและที่อยากจะตบหัวตัวเองแรงๆคือเขาไม่ทันระวังตัวจนหนามมันได้แทงเข้าไปในผิวหนังของเขาซะแล้ว

     

            “ ทำแบบนั้นมันน่าเสียดายนะครับ เสียงที่ทุ้มที่ดังมาจากข้างหลังทำเอาคยองซูสะดุ้งและเมื่อรู้สึกตัวก็รีบเอามือไพ่หลังทันที

     

            ไม่ดีแน่ถ้าเจ้าของดวงตาสีเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด

     

            “ อ๊ะ. . นิ้วเรียวสวยถูกดึงออกไปตรงหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ใบหน้าของคยองซูดูตกใจไม่น้อย ชานยอลยกยิ้ม ก่อนจะแลบลิ้นออกมาและโลมเลียนิ้วมือนั่นอย่างละมุนละไมเหมือนไม่อยากจะให้เลือดของคนตรงหน้าหมดเร็ว

     

            ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นเข้ามาภายในตัวคยองซูตอนนี้เขารู้สึกโอนอ่อนอย่างไม่รู้ตัวและร้อนรุ่มในเวลาเดียวกัน

            “ กลิ่นเลือดเหมือนคนเลยนะ ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้าขึ้นมาจากมือขาวช้าๆ

     

            “ . . . ”

     

            อย่านะ เขายังไม่อยากตาย

     

            “ โด คยองซู เหรอ? ” แลบลิ้นเลียหยดสุดท้ายเข้าปากก่อนจะวางมือนั้นลงปล่อยให้เป็นอิสระ เท่านั้นคยองซูก็รีบซุกมือตัวเองไว้ข้างหลังอีกครั้ง

     

            “ กลัวเหรอ

     

            ถ้าตอบว่า ไม่ เขาคงโกหก

     

            ชานยอลยกยิ้มบางและยืนกอดอกมองคนตัวเล็กอยู่อย่างนั้นแววตาสีเลือดแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวโปร่งใสเหมือนเดิม ผมสีน้ำตาลเข้มกับการเซททรงเล็กน้อยทำให้ใบหน้ายิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ ผิวของคนตรงหน้าก็ไม่ได้ซีดจนหน้ากลัวมาก และชุด. . .

     

            เอ๊ะ

     

            ไม่มีขลิบขาวเหมือนเขา

     

            “ คะ. . .คุณอยู่หอที่อยู่ตรงนั้นเหรอ กลืนน้ำลายพรางถาม เสียงของเซฮุนที่แว่วเข้ามาภายในโสตประสาทว่าอย่าเข้าใกล้พวกเลือดบริสุทธิ์

     

            ชานยอลพยักหน้าเป็นคำตอบ

     

            “ แอบมาขโมยดอกไม้อย่างนี้ เจ้าของรู้เขาจะโกรธนะ แค่เขานึกถึงเจ้าของแปลงดอกไม้นี้ก็ขนลุกจะแย่

     

            “ อ่ะ . . .เอ่อ ผมแค่มารดน้ำต้นไม้ ชานยอลมองไปยังดอกกุหลาบสีแดงต้นตอของเลือดที่ไหลซึมออกมาจากนิ้วเล็กเมื่อครู่

     

            “ แล้วก็ขอดอกไม้เป็นค่าตอบแทนน่ะ คยองซูยิ้มแห้งๆให้ชานยอลอย่างประหม่า กลัวคนตรงหน้าจับได้จะตายแต่ต้องเล่นละครให้เนียนไปก่อน

     

            “ อื้มม. . .ไม่ยักรู้แฮะ เดี๋ยวนี้จงอินมันใจดีถึงขนาดนี้

     

            ชื่อเจ้าของแปลงดอกไม้เมื่อวันก่อน. . .

     

            “ ทำอะไรกัน

     

            “ จงอิน

     

            ชานยอลหันไปมองคนมาใหม่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งผิดกับคยองซูที่หน้าตาตกใจอย่างปิดไม่อยู่และตาโตๆก็เหมือนจะหลุดออกมาซะอย่างนั้น

     

            “ กล้าเรียกเขาแบบนั้นได้ยังไง

     

            “ ชานยอล. . .

     

            เพียงแค่จงอินปรามชานยอลก็เงียบลงเหมือนมีใครมาสับสวิซต์ลง

     

            “ มาขโมยดอกไม้? ”

     

            “ เขาบอกว่ามารดน้ำ ชานยอลโพลงขึ้นมาอย่างตลก แล้วหันไปหัวเราะในลำคอทางคยองซูซึ่งตอนนี้กำลังงงเป็นไก่ตาแตก

     

            และที่สำคัญเครื่องแบบจงอินเหมือนของคนที่ชื่อชานยอล

     

            เลือดบริสุทธิ์

     

            “ ขะ. .ขอโทษนะ ดอกนี้จะเป็นดอกสุดท้าย ดอกสุดท้ายแล้วนะเซฮุน จะไม่มาเก็บอีกแล้ว

     

            คยองซูมองดอกไม้ในมือสลับกับพื้นหญ้าตรงหน้า แทนที่เขาจะคืนเจ้าของไปแต่กลับมาขอเป็นดอกสุดท้าย โง่กว่าคยองซูไม่มีอีกแล้ว ฮึ่ยยย

     

            “ หึ คิดว่าทำผิดแล้วจะปล่อยไปรึไง จงอินได้กลิ่นเลือดที่ทำให้เขาทนไม่ไหวใกล้ขนาดนี้มาจากคยองซูนี่เองสินะ น่าแปลกใจเพราะถ้าเป็นกลิ่นแวมไพร์ด้วยกันจะไม่น่าหลงใหลอย่างนี้และเขามาช้าไปชานยอลคงได้ลิ้มลองมันแล้ว

            ร่างโปร่งก้าวเข้าไปประชิดตัวกับคนตัวเล็กโดยมีชานยอลที่ยืนมองอยู่ห่างๆ คิ้วหน้าเลิกขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรต่อกับเลือดที่เขาพึ่งชิมมาเมื่อครู่อยากจะลองฝังเขี้ยวลงไปใจจะขาดแต่กลับไม่ทำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ อาจจะเป็นเพราะชานยอลสังเกตเห็นมือที่สั่นพั่บๆนั่นละมั้ง

     

            “ นะ. . .จงอินจะทำอะไร

     

            ไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับยื่นมือไปหยิบนิ้วคนตรงหน้าขึ้นมาและคำตอบก็ชัดเจนขึ้นเมื่อแววตาขลับดำนั่นเปลี่ยนเป็นสีเลือด คยองซูเบิกตากว้าง เหมือนเดจาวูเมื่อลิ้นหนาเลียลงที่ปลายนิ้วจนเลือดสีแดงเหือดหายไปจนหมด

     

            เขาต้องการเลือดจากคยองซู ไม่ใช่เพราะอยากแต่มันเป็นเพราะความรู้สึกแปลกๆ

     

            แบบที่ไม่เคยเจอ

     

            เร็วเท่าความคิดริมฝีปากหนาอ้าออกเล็กน้อยและนั่นทำให้คยองซูตกใจและสั่นกลัวเข้าไปใหญ่เมื่อเขี้ยวคมสวยได้งอกออกมาข้าๆและเริ่มฝังลงไปบนปลายนิ้วเรียวสวยนั่น

     

            “ อย่า!!!!!! 

     

     

     

     

     

            “ จงอินไปเก็บใครมา

     

            ร่างหนาช้อนตัวคนตัวเล็กเข้ามาภายในหอเลือดบริสุทธิ์ เขาจำใจต้องพาคนตัวเล็กเข้ามาภายในหอของตัวเองเพราะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนี่พักอยู่หอไหน ตัดออกไปอย่างแรกเลยคือหอนรกของจื่อเทา และสองหอนี้ ซึ่งนั่นก็เหลือตัวเลือกเพียงสอง แต่จงอินไม่เลือก เขาเลือกกลับมาที่หอตนเองดีกว่า

     

            “ น่ารัก

     

            ตาคมหันไปดุทางสายตาให้กับมินซอก พลางวางคนตัวเล็กลงที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น คริสที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมามองนิ่งๆ ถัดไปคือลู่หานกำลังนั่งลูบหัวหรือเล่นผมก็ไม่พลางของแบคฮยอนที่นอนหนุนตักคนเล่นผมและหลับตาพริ้มอย่างสบาย

     

            แล้วทำเป็นไม่ถูกกัน. . .

     

            ตาคมกวาดไปทั่วห้องแต่กลับไม่เห็น

     

            “ ถ้าหวงจื่อเทา อยู่หอของมัน มินซอกที่กำลังสำรวจใบหน้าของคนตัวเล็กอยู่เอ่ยช้าเนิบนาบ จงอินมองออกว่ามินซอกกำลังสนใจคนตัวเล็ก

     

            “ เอามือออก

     

            คนถูกสั่งเอามือออกอย่างว่าง่ายก่อนจะเปลี่ยนไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้างคยองซู ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มต่อหน้านักเรียนคนอื่นพออยู่ในพวกเราก็จะกลายเป็นคิมมินซอกผู้เรียบนิ่ง

     

            ห้องนั่งเล่นที่มีเพียงแสงไฟจากเทียนไขรอบห้องกับบรรยากาศที่แสนอึดอัดแต่หากเทียบกับหกคนที่อยู่ในห้องแล้วมันกลับเข้ากันได้อย่างสบายๆ ชานยอลนั่งเกากีต้าร์เบาอยู่ตรงขั้นบันได ก็ยังฮัมเพลงอยู่อย่างนั้น

     

            จงอินมองใบหน้าใสอย่างนั้นก่อนจะก้มหน้าลงไปแตะใบหน้าใสนั่นอย่างเบามือก่อนจะชันเข่าลงข้างหนึ่งข้างโซฟาที่คนตัวเล็กนอนอยู่ ทำให้คนในห้องตกใจไม่น้อย และเมื่อเห็นสายตาของจงอินก็ทำต้องทำเป็นเฉยๆไป

     

            มือหนาเอื้อมไปลูบหัวคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั่นก่อนจะชักมือกลับอย่างอ้อยอิ่งและไปนั่งบนโซฟาที่คยองซูนอนและยกหัวทุยนั่นมานอนบนตักตัวเองแทน

     

           

            “ คยองซู!!! 

     

            ทุกใบหน้าเงยขึ้นไปหาต้นเสียงที่ดังมาจากประตูพร้อมกัน เมื่อปรากฏร่างของคนตัวขาวผอม ผมสีชมพูบลอนด์ที่เป็นเอกลักษณ์นั่นก็ยิ่งสงสัยเข้าไปกันใหญ่ และตามมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กันทุกคนเมื่อเห็นจื่อเทาเดินตามเข้ามา

     

            “ เซฮุน. . .รอผมด้วยสิอย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม

     

            เจ้าของผมสีชมพูบลอนด์กวาดสายตาหาคนของตัวเองแล้วก็ต้องไปเจอคนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้มดูท่าทางสบายอยู่บนตักของ. . .คิมจงอิน

     

            “ ใครทำเขา เสียงแข็งเอ่ยออกมาอย่างคาดคั้นคำตอบ

            “ อย่าเอาแต่ใจสิ เซฮุนนา คริสเอ่ยพูดทั้งที่สายตายังจับจ้องหลังสือในมืออยู่อย่างนั้น ทำเอาเซฮุนคิ้วกระตุกอย่างขัดใจ

     

            “ อย่ายุ่ง

     

            “ กล้าพูดแบบนั้นกับหัวหน้าหอได้ยังไง ถึงแม้เสียงของมินซอกจะน่ากลัวขนาดไหนเซฮุนก็ไม่ได้แสดงท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยกลับยืนนิ่งเหมือนจะเอาคำตอบให้จนได้ แล้วยิ่งคยองซูไปนอนอยู่บนตักของคิมจงอิน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

            “ ผมทำเอง

     

            “ คะ. . .คุณ

     

            “ ปลอดภัยแล้ว และเราคงต้องคุยกันสักหน่อย โอเซฮุน

     

            เซฮุนได้แต่ยื่นนิ่งพลางข่มใจกลัวเอาไว้ในใจ จงอินรู้. . . คิมจงอินรู้แล้ว

     

            “ ไง ไม่เจอกันตั้งนานยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ ลู่หานทักเซฮุนขึ้นมาแต่กลับได้เป็นใบหน้านิ่งเฉยเป็นคำตอบ จื่อเทาที่ยืนกอดอกพิงพนังอย่างนิ่งสงบจึงหันไปหาลู่หานอย่างตำหนิทางสายตา ก่อนจะเดินไปขว้าข้อมือเซฮุนให้มาด้วยกันและเซฮุนก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ

     

            และไม่ลืมหันมาโค้งให้คนในห้องอย่างทุกครั้ง. .

     

     

     - - - - - - - - - - - - - - - - -

     
     

          “ เซฮุนจะไม่ตอบใช่ไหม ”

     

          หลังจากที่ลากคนตัวผอมออกมาจากวงสนทนาที่แสนจะอึดอัดเขาก็ถามเซฮุนเรื่องของคยองซูทันที เพราะไม่อยากจะให้เซฮุนไปคุยกับจงอินโดยตรงเอง เขากลัวว่าถ้าเซฮุนไปทำงอแงในแบบฉบับตัวเองอย่างนี้กับจงอินเซฮุนจะโดนอะไร

         

          “ ระ. .เราไม่ตอบ ”

     

          “ ได้. . . ”     หวงจื่อเทาลากเสียงยาวก่อนจะเดินไปปิดประตูห้อง และล็อคกลอนประตูเรียบร้อย เขาไม่ได้หวังว่าเซฮุนจะทำตาโตตกใจกับการกระทำลากลูกแมวเข้าห้องเสือเท่าไหร่ เพราะเซฮุนต่างออกไป

     

          ใบหน้าหวานยังขมวดคิ้วแน่นและหน้ามึนอยู่เหมือนเดิม

     

          หวง จื่อเทา ไม่ได้คาดคั้นคำตอบอะไรมากนักกับเซฮุน ถ้าเซฮุนอยากจะพูดเขาก็จะพูดเอง มือหนาลากเก้าอี้มาทิ้งตัวลงนั่งที่ข้างหน้าเซฮุน. . .นั่งกอดอกและเงยหน้ามองใบหน้าขาวใสอยู่อย่างนั้น นานจนคนโดนมองต้องเสหน้าไปทางอื่น. .แต่ยังยืนมึนอยู่ที่เดิม

     

          “ ไม่เมื่อยรึไง ” น้ำเสียงและท่าทางอ้อล้อของหวงจื่อเทาทำเอาเซฮุนจิ๊ปากเบาๆ

     

          “ เราไม่ได้อยากขึ้นมานี่ ”

     

          “ รู้หรอกน่า. . .แต่ผมอยากนี่นา ” พูดจบก็คว้ามือขาวและกระตุกเพียงเล็กน้อยร่างบางก็มานั่งอยู่บนตักเป็นที่เรียบร้อย เขาไม่ได้ทำอะไรเพียงให้เซฮุนนั่งอยู่บนนั้นเฉยๆ

     

          จื่อเทาไม่ได้สวมกอดด้านหลัง. . .เพียงแค่จับมือไว้

     

          “ ไม่อยากกลับมาอยู่แล้วหรือไง. . .ที่นี่อ่ะ ”

     

          “ . . . ” เซฮุนไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าจนชิดกับอกตัวเอง และจื่อเทาก็ไม่คาดคั้นเอาคำตอบอีกเช่นกัน เขาแค่เอาหน้าซบแผ่นหลังบางอย่างเหนื่อยใจ

     

          คงเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้เซฮุนเป็นแบบนี้

     

          “ อย่าคิดไปเองนะว่าเห็นผมอยู่คนเดียวแล้วสบาย. . ” พูดจบก็ถอนหายใจอย่างอ่อนล้า บางทีเขายิ้มก็ใช่ว่ามันจะโอเคและเหมือนชีวิตมีครบทุกอย่างแล้ว

     

          คนฟังยังหน้านิ่งเพียงแต่สายตาที่เคยนิ่งเฉยกลับสั่นไหวและ. .จื่อเทาไม่มีบุญที่จะได้เห็นมัน

     

          “ รู้หรือเปล่าลู่หานคิดถึ- ”

     

          “ ไม่รู้ ”

     

          “ แบคฮยอนก็คิดถึง ”

     

          “ . . . ”

     

          “ มินซอกก็คิดถึง ”

     

          “ . . . ”

         

          “ ชานยอลก็ด้วย ”

     

          “ . . . ”

         

          “ หัวหน้าหอด้วยนะ ”

     

          “. . .”

     

          “ จงอินก็ด้วย ”

     

     

          เงียบ

     

          ทั้งห้องจมดิ่งสู้ความเงียบอีกครั้ง จื่อเทาไม่พูดอะไรต่อจากนั้นอีกแต่กลับสร้างความเคลือบแคลงใจให้เซฮุนได้อย่างชัดเจน จนต้องเม้มปากเป็นเส้นตรงกลัวจะหลุดคำน่าอายออกไป

     

          แต่มันคงไม่ทันแล้ว. . .

     

          “ มะ. .หมดแล้วเหรอ ”  กลั้นใจถามออกไป พลางหลับตาลงอย่างรู้สึกพลาด

     

          อ่า. . . พลาดจนได้สินะ

     

          จื่อเทายกยิ้มอย่างห้ามไม่ได้. .คงไม่มีใครเคยบอกใช่ไหมว่าเซฮุนน่ารัก น่ารักไปหมดทุกอย่าง ไอ้นิสัยที่ใครๆก็ไม่อยากเข้าใกล้ไม่ใช่เพราะเซฮุนหยิ่งหรือถือตัวอะไร จื่อเทารู้ดีว่าเซฮุนก็แค่. .ขี้อาย พยายามไม่ยิ้มเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง

     

          แต่มันก็ดีเพราะจะได้มีใครมารุ่มร่ามกับคนตัวเล็กนี่

     

          “ หมดแล้วเหรอ. .เทา ”

     

          น้ำเสียงที่ฟังเหมือนเริ่มดูเร่งเร้าขึ้นมากกว่าเดิมเล็กน้อย

     

          “ แล้วคิดว่าไงหล่ะ? ”

     

          “ โอเคๆ เราจะกลับ ” พูดเท่านั้นก็ลุกขึ้นจากตักและค่อยแกะมือที่กุมกันออก โดยไม่ได้สนใจมองเลยว่าตอนนี้จื่อเทายิ้มจนปากจะฉีกอยู่แล้ว

     

          “ กลับเองนะ ” แกล้งแหย่อีกครั้งและนั่งอย่างใจเย็นที่เก้าอี้เหมือนเดิม

     

          “ ก็ไม่ได้ขอให้ไปส่งอยู่แล้ว ”

     

          เห็นน้ำเสียงปฏิเสธแบบนั้นแต่ตานี่เริ่มแดงรื้นขึ้นมาแล้ว ไม่รอช้าให้เซฮุนก้าวออกจากห้องได้ทัน จื่อเทารีบลุกไปคว้าแขนของอีกคนเอาไว้ก่อนและกระชากกลับมาหาตัวเอง จนใบหน้าสวยจมอยู่กับอกนั่นก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวปลอมประโลมอีกคนเบาๆ

     

          “ โอ๋ๆๆ ไม่ร้องน้า ขอโทษๆ ผมไม่ให้เธอกลับเองคนเดียวหรอกน่า ” ขำเบาๆแล้วก็ลูบหัวทุยไปด้วยช้าๆ เขาไม่คิดว่าจะทำเซฮุนร้องไห้ซักหน่อย แต่เสียงฟืดฟ้าดตรงช่วงอกนี่มันอะไรกัน แล้วก็รู้สึกว่ามันเริ่มเปียก

     

          “ เรา ฮึก. .ไม่ได้โกรธเรื่องนั้นเทา. .ฮึก ฮืออออออออออ ”

     

          ปล่อยโฮหนักกว่าเดิม ไม่เคยมีใครได้เห็นเซฮุนมุมนี้สักครั้งนอกจากครอบครัวของคนตัวขาวและหวงจื่อเทา แต่ล่าสุดนี้น่าจะมีเด็กที่ชื่อคยองซูอะไรนั่นอีกคนด้วยรึเปล่าเขาก็ไม่รู้ เพราะเท่าที่จับตามองสองคนนี้ดูสนิทกันอย่างน่าแปลกใจ

     

          “ ผมรู้ๆ ผมคิดถึงเธอนะ ”

     

          เงียบ

     

          เซฮุนเงยหน้าจากอกอุ่นและช้อนตามองอีกฝ่าย จมูกที่แดงรั้นและขอบตาแดงผ่าว ทำให้ใบหน้าขาวนั่นดูน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่

          คนตัวสูงกว่าก้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกับเซฮุนและมือหนาค่อยๆส่งมาเกลี่ยน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน มืออีกข้างก็จับแขนเรียวเอาไว้ราวกลับว่าจะไม่ให้ไปไหน

     

          “ แต่วันนี้ผมจะไม่ไปส่งเธอ. . ”

     

          เซฮุนขมวดคิ้ว จ้องหน้าจื่อเทาอีกครั้ง

     

          “ เพราะเธอจะค้างที่นี่ ”

     

          “ เปล่านะ เราไม่ได้พูด ”

     

          “ ผมได้ยินเธอพูดอยู่ ” หวงจื่อเทา โกหก. . แต่ขอแกล้งหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

     

          “ เราเปล่าพูด ”

     

          “ เธอพูด ”

     

          “ เราเปล่า!

     

          ริมฝีปากรูปกระจับไม่ได้เถียงต่อแต่กลับประกบลงมาที่ริมฝีปากบางจอมเถียง(เวลาอยู่กับเขาคนเดียว)นั่น ลิ้นร้อนไล้เล็มไปทั่วเนื้อนุ่ม และจูบที่มุมปากของอีกคนอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนเริ่มทำหน้าที่อีกครั้งเพื่อเปิดปากคนตัวเล็กแต่มันไม่เป็นผล เลยต้องใช้มือที่จับแขนอยู่เลื่อนขึ้นมาสอดไปใต้เครื่องแบบนักเรียนจนถึงแผ่นหลังผิวละเอียดนั่น และเลื่อนลงไปบีบเอวคอดเบาๆ

     

          เซฮุนเป็นฝ่ายดึงปากตัวเองออกก่อนและยืนมองหน้าคนเจ้าเล่ห์นิ่งๆ แต่พออ้าปากจะเถียงกกลับโดนครอบครองริมฝีปากอีกครั้ง

     

          เข้าทางหวงจื่อเทา

     

          “ อะ. .อื้อ “

     

          ลิ้นร้อนได้เข้าไปตักตวงความหวานอย่างสมใจ ไล้ลิ้นไปตามซอกฟันอย่างเอาแต่ใจและส่งไปกระหวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กต่อ จื่อเทามองใบหน้าเซฮุนตลอดการกระทำมีเพียงคนตัวเล็กเท่านั้นที่หลับตาอย่างประหม่า

     

          จะเกี่ยวรึเปล่าที่ปากเซฮุนหวานเพราะชอบกินของหวาน

     

          “ อื้อ ”

     

          เมื่อหายใจไม่ทันมือเล็กก็ยกขึ้นมาตีอกแกร่งรัวๆ แต่จื่อเทากลับไม่ปล่อย พยายามรุกลิ้นร้อนให้หนักหน่วงเข้าไปอีก มือลูบหลังอีกฝ่ายอย่างชำนาญและต่อเนื่อง มือข้างที่ว่างอยู่ก็คว้าเอาแขนเรียวมาคล้องคอตัวเองเมื่อเห็นว่าเซฮุนเริ่มยืนไม่ไหว  

     

          ขบเบาๆที่ริมฝีปากบางทีหนึ่งแล้วละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง

     

          “ เคลิ้มเชียว ”

     

          แกล้งแหย่อีกทีคนโดนแซวก็เลยก้มหน้างุดๆ เขารู้ว่าเซฮุนเป็นคนรับความรู้สึกช้า เย็นชา นิ่ง โลกส่วนตัวสูง

     

          แต่ว่าควรปล่อยแขนที่โอบรอบคอเขาได้แล้วก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวแล้วเตลิดกว่านี้เพราะเสื้อที่โผล่พ้นขึ้นมาจนเห็นเอวบางขาวจั๊ว

     

          “ นอนที่นี่นะ. . ”

     

          สงสายตาออดอ้อนหนึ่งที เซฮุนก็รีบเอามือตัวเองลงจากคอของจื่อเทาทันทีอย่างงกๆเงินๆ แล้วเดินไปทีเตียงของเจ้าของห้องและล้มตัวนอนคลุมโปงทันที

     

          ไม่ใช่เซฮุนจะทำไม่ได้. .

     

          คนผิวเข้มยืนมองแล้วก็ต้องหลุดหัวเราะกับการกระทำที่เหมือนเด็กของโอเซฮุน ก่อนจะเดินตามไปลูบผมสีชมพูบลอนด์ที่พ้นจากผ้าห่มนั้นแผ่วเบาและนุ่มนวล ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะทำให้เซฮุนฝันดี

     

          ก่อนจะพาตัวเองออกไปข้างนอกและไม่ลืมที่จะปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา

     

                เพราะลูกแมวขี้ตกใจหน่ะสิ. . .








     - - - - - - - - - - - - - - - - -







     

           ยังไม่ตื่นอีกเหรอ. . จะสลบนานอะไรขนาดนั้น

     

          ดวงตาคมจ้องมองเตียงขนาดใหญ่ในห้องของตัวเองที่ตอนนี้ถูกจับจองโดยคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา บางทีจงอินคิดว่าคยองซูคงเลยขั้นสลบและกลายเป็นหลับไปแล้วซะมากกว่า

     

          “ไง หลับสบายเลยนะ”

     

          “หึ คนนี้หรือว่าเซฮุนหล่ะ” ริมฝีปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย เขารู้เรื่องของหวงจื่อเทาดียิ่งกว่าใคร ไม่ซิเรารู้เรื่องของกันและกันดียิ่งกว่าใคร

     

          คนถูกถามกลับยิ้มบางและส่ายหัวเบาๆ จากนั้นก็พาตัวเองมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่ปลายเตียงของจงอินทันที และจงอินก็นั่งอยู่ตรงข้ามเขาเช่นกัน

     

          “เซฮุนเป็นไงบ้าง”

     

          น้ำเสียงของจงอินฟังดูราบเรียบตามแบบฉบับและหน้าก็นิ่งด้วยเหมือนกันจนจื่อเทาคิดว่าเขาอยากจะข่วนหน้ามันซะเหลือเกิน

     

          “น่ารัก”

     

          “เหรอ แล้วทิ้งไปทำไม”

     

          จึก

     

          ใบหน้าคมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำถามสุดกวนเบื้องล่างเขาช้าๆ “ไม่ได้ทิ้ง ยุ่งจริงๆ”

     

          ยุ่งหรือแทงใจดำกันแน่วะหวงจื่อเทา?

     

          “แล้วนั่น. .ไปยุ่งกับเขาทำไมตื่นแล้วก็ปล่อยเขาไปซะ” จื่อเทาพูดพลางมองไปที่เตียงใหญ่ “ในที่. .ที่เขาควรจะอยู่”

     

          ใช่ ทุกคนที่หอนี้รู้ทั้งหมดว่าคยองซูเป็นใครและเป็นอะไร และตอนนี้เซฮุนก็เป็นคนผิดที่คิดฝ่าฝืนกฎของโรงเรียนที่สำคัญโทษร้ายแรงที่สุดเลยด้วย จงอินคิดว่าเขาควรจะคุยเรื่องนี้กับเซฮุนให้เร็วที่สุดก่อนที่พวกสภาอาวุโสนั่นจะชิงตัวคนตัวเล็กนี่ไปซะก่อน

     

          จริงอยู่ว่าเวทย์ของเซฮุนนั้นโหดมาก แต่วันใดวันหนึ่งอย่างเช่นวันนี้คนตัวเล็กอาจจะโดนสภาอาวุโสลากไปทำอะไรซักอย่างได้เพราะกลิ่นเลือดตัวเองไม่ใช่กลิ่นมนุษย์ที่เซฮุนพยายามปกปิด

     

          “ผมแค่ต้องการพบเซฮุน”

     

          ใครจะไปให้พบวะ. .แฟนเขา(?)ออกจะน่ารักขนาดนั้น

     

          “เซฮุนเขาเจอเด็กคนนี้วันที่หิมะตกหนักเมื่อสามปีที่แล้ว” จู่ๆจื่อเทาก็พูดขึ้นในเรื่องที่จงอินต้องการถามจากคนรักของตัวเอง

     

          “!” เขาไม่ได้ตกใจกับเรื่องที่จื่อเทารู้ด้วยซ้ำแต่กลับกระตุกใจแทนมากกว่าวันที่โหดร้ายสำหรับเขา พรากทุกสิ่งไป. .

     

          “วันเดียวกับนายท่านตายเลยสินะ แต่พ่อแม่เขาก็ตายเหมือนกันนะจงอิน...”

     

          “...” คิ้วหนาขมวดเป็นปมอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่จื่อเทากำลังจะเชื่อมโยง

     

          “...โดยแวมไพร์”

     

          จงอินไม่พูดอะไรต่อทั้งนั้นแต่กลับเดินไปที่เตียงและล้มตัวลงเตรียมจะนอนทันที ทิ้งให้จื่อเทานั่งงงหัวเสียอยู่โซฟานั่นเหมือนเดิม

     

          “นายกลับไปได้แล้ว”

     

          พอรู้ก็ไล่เลยสินะ. .เออดีจริงเว้ย

     

          “ครับนายท่านคิมจงอิน” พูดประชดทีเล่นทีจริงก่อนจะเดินออกไปและไม่ลืมที่จะปิดประตูให้ด้วยอย่างที่เคย

     

     

          ปังง!!

     

          ไอ้หวงจื่อเทา. . .

     

     

     

          จงอินไม่ได้ง่วงเลยสักนิดเขาเพียงแต่ไม่ต้องการฟังอะไรต่อทั้งนั้นเรื่องในวันนั้นมันหนักอึ้งเกินไปสำหรับเขา และคงสำหรับคนตัวเล็กที่ด้วยสินะ

     

          ตาคมหันไปมองอีกคนที่นอนข้างๆกันก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวทุยเบาๆ กวาดสายตาไปทั่วใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนจะเลยไปที่ลำคอขาวที่สายตาเขากลับเห็นเส้นเลือดใหญ่กำลังเต้นตุบๆอยู่

     

          เป็นความสามารถที่น่ารังเกียจจริงๆ

     

          ตึก

     

          ตึก

     

          ดวงตาสีเข้มกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างห้ามไม่ได้ เขาไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ใกล้ขนาดนี้โดยไม่ทำอะไรมาก่อน

     

          ร่างหนาค่อยๆโน้มร่างกายไปหาคนที่กำลังนอนอย่างช้าๆ และซุกใบหน้าหล่อลงไปกับซอกคอขาวอย่างจงใจ ซูดดมความหอมที่ลำคอและค่อยๆไล้ลิ้นเลียอย่างแผ่วเบาจนคนถูกสัมผัสครางเล็กน้อย

     

          “อือ. .อ”

     

          จงอินไม่สนใจและเริ่มไล้ลิ้นเลียอีกครั้งและกดจูบที่ต้นคอแรงๆย้ำๆหลายๆครั้ง

     

          “อือ. .คิก เซฮุนอย่าได้ไหมงืม. . จะนอน. .”

     

          จะโดนดูดเลือดไปหมดตัวแล้วยังไม่รู้อีกนะ

     

          จงอินส่ายหัวให้กับความไร้เดียงสาก่อนจะข่มตาข่มใจแล้วล้มตัวนอนข้างๆคนขี้เซาเหมือเดิม

     

          ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองเก่งมากที่ไม่เผลอไป คงไม่มีใครในโรงเรียนทนได้อย่างคิมจงอินแล้วแหละ แต่. .แค่นอนกอดเฉยๆคงไม่เป็นไรใช่ไหม

     

     

     

                และน่าแปลกที่คืนนี้คยองซูกลับนอนหลับฝันดี

     









    ร้อยเปอร์อาจจะน้อยๆและแม่งๆแต่ครบแล้ว . . .ห้ามเลิกนะ
     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×