เอเลนดาร์ : สงครามพลังสถิตย์ร่าง - นิยาย เอเลนดาร์ : สงครามพลังสถิตย์ร่าง : Dek-D.com - Writer
×

    เอเลนดาร์ : สงครามพลังสถิตย์ร่าง

    โดย abyssfinger

    การช่วยเหลือผู้คนที่ติดคำสาปทำให้เขาต้องหนีจากแคว้นไปทวีปใหม่ และนั่นทำให้เขารู้ตัวตนผู้ที่ทำให้เกิดคำสาปร้าย ถึงคนผู้นั้นจะยิ่งใหญ่คับฟ้าและเขาจะต่ำต้อยแค่ไหน วิลลัสต้องเปิดโปงความชั่วร้ายนี้ให้ได้

    ผู้เข้าชมรวม

    2,013

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    2.01K

    ความคิดเห็น


    23

    คนติดตาม


    82
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  31 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 มิ.ย. 65 / 18:27 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ในช่วงเริ่มต้นของเรื่องประมาณ 20 ตอนแรก กลุ่มตัวเอกจะยังไม่ได้เข้าสู่โลกของผู้มีพลังสถิตย์ร่าง การดำเนินเนื้อเรื่อง 20 ตอนแรกนั้น จะยังเป็นโลกธรรมดาที่กลุ่มตัวเอกยังไม่ได้สัมผัสกับเหล่าผู้มีพลังอะไรมากนัก แต่เนื้อเรื่องจะเริ่มเข้าสู่โลกของผู้ฝึกฝนพลังที่ทวีปเอลเลนเดีย ก็ประมาณตอนที่ 25 ขึ้นไปแล้ว อย่างไรไรท์ก็ขอแปะสเกลพลังไว้สักหน่อยละกันครับ

    ระดับพลังของ                  ขอบเขตความเสียหาย

            ผู้มีพลังสถิตย์ร่างในโลก           

    ตื่นรู้ ขั้นที่ 1-5          สามารถสังหารศัตรูในการประลอง 1-1 หรือต่อสู้กันแบบกลุ่มย่อยมากๆ(ไม่เกิน 5)

    กุมกำหนด ขั้นที่ 1-5            สามารถสู้แบบตะลุมบอนกลุ่มย่อยได้ (ไม่เกิน 20-100 คน)

    ควบคุมสรรพพลัง ขั้นที่ 1-5    สามารถสู้้แบบตะลุมบอนกลุ่มใหญ่ได้ (100+ คน)

    เขตแดนสมบูรณ์ ขั้นที่ 1-5          การสู้รบระดับสงครามขนาดเล็ก (1000+ คน)

    เขตแดนไร้สิ้นสุด ขั้นที่ 1-5     การสู้รบระดับสงครามขนาดใหญ่ (10000+ คน)

    โลกสะพรึง ขั้นที่ 1-5       ทำลายภูเขาได้ทั้งลูก แหวกมหาสมุทร ยังไม่สามารถ 1-1 กับสัตว์อสูรระดับตำนาน                                               ได้ แต่พอหนีเอาตัวรอดได้

    กึ่งเทพชั้นต้น ขั้นที่ 1-5          สร้างความเสียหายระดับ 1 แคว้น / สามารถสู้ 1-1 กับสัตว์อสูรระดับตำนานได้                                                 แบบสูสีหรืออาจจะเป็นรองเล็กน้อย

    กึ่งเทพชั้นกลาง ขั้นที่ 1-5        สร้างความเสียหายระดับแคว้น 1 แคว้น / แต่สามารถสู้ 1-1 และเอาชนะกับสัตว์                                               อสูรระดับตำนานได้แบบฉิวเฉียด

    อนุเทพสวรรค์ ขั้นที่ 1-5         สร้างความเสียระดับแคว้น 1-2 แคว้น /สู้ 1-1 และเอาชนะสัตว์อสูรระดับตำนาน                                               แบบง่ายๆไม่เปลืองแรง

    เทพสวรรค์                        สเกลพลังอาณาเขตระดับทวีป

    พระผู้สร้าง                        ทำลายโลกได้ทั้งใบ หรือสร้างขึ้นมาใหม่ก็ได้

    เรื่องย่อ

    นี่เป็นเรื่องราวของโลกเอเลนดาร์ เล่าขานถึงการจุติของเทพทั้งแปดเพื่อปรับสมดุลให้โลกพวกเขาก่อตั้งภาคีแปดเทพเอเลนดาร์หรือที่ต่อมากลายเป็นโรงเรียนเอเลนดาร์เพื่อฝึกสอนเหล่าสิ่งมีชีวิตบนโลกที่มีพลังสถิตย์ร่างและเวทมนตร์เพื่อให้พวกเขาก่อประโยชน์แก่โลกใบนี้ แต่หลังจากสามร้อยปีแห่งการจุติเทพทั้งแปดก็กลับคืนสู่ที่ที่จากมา บ้างส่งถ่ายพลังของพวกเขาต่อให้มนุษย์ บ้างส่งทอดพลังต่อให้เผ่าพันธุ์ยักษ์หรือแม้กระทั่งเผ่าพันธุ์มังกรที่ยากจะได้เห็น แต่ไม่ใช่เทพทุกองค์ที่ยินยอมส่งพลังต่อให้ใคร ยังมีเทพบางองค์ที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกล้วนละโมภโลภมากพวกเขามีความต้องการไม่สิ้นสุด พอแก้ปัญหาเรื่องหมาเสร็จ ก็มีปัญหาเรื่องหมู พอแก้ปัญหาเรื่องหมูเสร็จก็มีปัญหาเรื่องนก ไม่รู้จักจบจักสิ้น ดังนั้นพลังบางส่วนเหล่านั้นถูกซ่อนไว้ที่ไหนซักที่บนโลกแห่งนี้เพื่อรอวันตื่น

    และดูเหมือนเทพบางองค์จะคิดถูก! พวกนี้ช่างวุ่นวายเสียจริงเพียงหนึ่งพันปีต่อจากนั้นโลกก็กลับมาเละตุ้มเป๊ะ! สังคมถูกแบ่งเป็นชนชั้น ผู้ที่อ่อนแอกว่าถูกกดขี่ ผู้ที่ห่วงแต่ผลประโยชน์ตัวเองหรือความมั่งคั่งของตระกูลตนตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่กำหนดกฏการปกครองตั้งกรอบกติกาที่เป็นประโยชน์แก่พวกของตนขึ้นในสังคม รุนรานแดนอื่นด้วยเหตุผลขี้ปะติ๋ว! แค่เรื่องถูกทหารลาดตระเวนชายแดนของอีกอาณาจักรไป อึ! ล้ำอาณาเขตเข้ามาในดินแดนของตนก็ประกาศก่อสงครามเสียแล้ว ที่ตีกันประจำก็เห็นจะเป็นความอยากได้อยากมีแย่งชิงในสิ่งที่ไม่ใช่ของของตนตั้งแต่แรก เฮ้ออ โลกช่างน่าเบื่อหน่ายเสียจริง

    วิลลัสเกิดมาในครอบครัวที่พ่อและพี่ชายตายในสงครามกำราบราชายักษ์ไบดันครั้งสองแม่จึงกลายเป็นบ้าจากการสูญเสียอีกสองปีถัดมาขณะที่เขาอายุได้แปดขวบแม่ก็ตายตามพ่อและพี่ชายไป วิลลัสในวัยเพียงแค่แปดขวบจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าหาเลี้ยงชีพจากการรับภารกิจระดับต่ำสุดของภาคีเสรีชน ยังโชคดีที่ภาคีก็ยังมีภารกิจประเภทตามหาแมวหายให้วิลลัสได้ทำล่ะนะ จวบจนอายุสิบเอ็ดขวบวิลลัสก็ได้เจอกับแช็ตวิคเด็กหนุ่มผมทองอารมณ์ดีที่มองโลกทั้งใบเป็นแค่สนามเด็กเล่น ไม่รู้ว่าเทพองค์ใดดลบันดาลให้แช็ตวิคถูกใจวิลลัสตั้งแต่แรกเห็น ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตามวิลลัสต้อยๆจนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกัน

    แต่แล้วจู่ๆก็เกิดคำสาปร้ายเธงเกลที่กระจายเป็นวงกว้างอย่างกับโรคระบาด หากใครที่ติดคำสาปร้ายนี้จะถูกสูบเอาพลังชีวิตไปจนตาย แคว้นอีสต์เซ็คอาณาจักรมนุษย์แห่งหนึ่งทางตอนใต้เป็นบ้านเกิดของวิลลัส ผู้คนตายกันเป็นใบไม้ร่วงขนาดกษัตริย์ของแคว้นยังเสด็จลี้ภัยไปอาณาจักรเซ็นทรอเลี่ยนดินแดนที่ถนนทุกสายล้วนทอดยาวไปที่นั่น

    "อ้าวเฮ้ย! แล้วใครจะอยู่แก้ปัญหาคำสาปเวรนี้วะ"

    นั่นคือสิ่งแรกที่วิลลัสคิด เขาบอกแช็ตวิคเพื่อนของเขาว่าเมื่อไม่มีไอ้ตัวมีอำนาจคนไหนในแคว้นนี้คิดจะทำ เดี๋ยวเขาจะแก้ปัญหาไอ้คำสาปเวรนี่ให้เอง

    "นายจะทำยังไงล่ะวิล เราเป็นแค่คนธรรมดาเดินดินกินข้าวแกงในซอย" แช็ตวิคเพื่อนซี้เอ่ยถามด้วยความจริงที่แสนเจ็บปวด

    "เอาน่าเพื่อน ฉันมีวิธีเด็ดดวงจะบอกให้ ก็แค่โจรกรรมห้องนิรภัยธนาคารกลางของแคว้นวางระเบิดห้องนิรภัยเป็นตัวประกัน แล้วก็บังคับให้ไอ้ลอร์ดคลิงตันหนึ่งในสี่ขุนนางหลักของแคว้นที่ดูแลรับผิดชอบธนาคารกลางนี้ทำตามข้อเรียกของเรา"

    "ข้อเรียกร้องอะไรวิล"

    "จัดตั้งสถานพยาบาลชั่วคราว"

    แช็ตวิคถึงกับคิดหนักมันถามย้ำอีกครั้งว่าคิดดีแล้วใช่ไหม

    "เราจะกลายเป็นอาชญากรตัวอันตรายของทั้งอาณาจักรเลยนะ จะมีป้ายประกาศจับติดรูปหน้าเราสองคนไปทั่ว อาจจะไม่ได้เข้าไปสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียนเอเลนดาร์ด้วยนะ"

    วิลลัสยิ้มให้กับคำถามของแช็ตวิคนิ้วมือชี้ขึ้นบนท้องฟ้าก่อนตอบว่า

    "ทำให้พวกเทพมันดูว่าพลังสถิตย์ร่างหรือจะสู้รอยหยักในสมองของเรา"

    และแล้วเรื่องราวตำนานของคนธรรมดาที่ไม่มีพลังวิเศษก็เริ่มต้นจากจุดนี้...

    แผนที่โลกเอเลนดาร์

    ข้อมูลโดยสังเขปของ 8 แคว้นของดินแดนฝั่งมนุษย์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเซ็นทรอเลี่ยน

    อีฟวูด : อาณาจักรอีฟวู้ดคือหนึ่งในสองแคว้นสุดท้ายที่มีอาณาเขตติดกับดินแดนคนเถื่อน แคว้นที่เคยเป็นถิ่นพำนักของตระกูลแอนโดธี ตระกูลที่สืบสายเลือดพลังสถิตย์ร่างโดยตรงจากเทพไอดัน ปัจจุบันแคว้นอีฟวู้ดอยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิเอมุนนอร์และถูกปกครองด้วยข้าหลวงใหญ่จากเซ็นทรอเลี่ยน ปัจจุบันตระกูลแอนโดธีไม่เหลืออยู่ในแคว้นอีฟวู้ดแล้วเป็นที่กล่าวขานกันว่าตระกูลแอนโดธีถูกฆ่าล้างตระกูลโดยจักรพรรดิเอมุนนอร์ (ปัจจุบันไม่ปรากฏผู้สืบทอดสายเลือดและพลังสถิตย์ร่างโดยตรงจากเทพไอดัน)

    นอร์แมน : แคว้นนอร์แมนคือหนึ่งในสองแคว้นสุดท้ายที่มีอาณาเขตติดกับดินแดนคนเถื่อน แคว้นที่มีชื่อเสียงของนักรบ การทำสงคราม พวกนอร์แมนไม่ถนัดการทำสงครามแบบจัดทัพแต่ถนัดการทำสงครามแบบกองโจร ข่านนอร์แมนสามารถระดมกองทัพม้าสามหมื่นนายจากทั้งแคว้นได้ภายในหนึ่งวัน

    แกลเลี่ยน : เนื่องชาวนอร์แมนและชาวอีฟวู้ดไม่ถูกกัน แคว้นแกลเลี่ยนจึงเป็นเสมือนพ่อค้าคนกลางที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนสินค้าจากทั้งสองอาณาจักร ชาวแกลเลี่ยนเป็นนักเดินทางตัวยงพวกเขาค้าขายเก่งมาก พวกเขานำสินค้าไปขายแคว้นทางใต้ และนำสินค้าจากแคว้นทางใต้กลับมาขายแคว้นทางเหนือแล้วสามารถทำกำไรได้มหาศาล

    แวนกาด : ชาวแวนกาดส่วนใหญ่เป็นนักเดินเรือที่เก่งกาจ พวกเขารับจ้างขนสินค้างานช่างฝีมือของคนแคระแห่งเทือกเขาเวสเซ็คไปขายแคว้นทางเหนือจนเรียกได้ว่าเป็นพันธมิตรทางการค้าเลยทีเดียวชาวแวนกาดหลายคนเดินเรือถึงทวีปมืดอยู่บ่อยครั้ง ตำนานเรื่องเล่าบนทวีปมืดถ้าคุณได้ยินมันมา สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเรื่องนั้นมาจากชาวแวนกาด

    โนแวร์ : สภาพภูมิศาสตร์ของแคว้นโนแวร์เป็นสถานที่ที่อากาศดีไม่ร้อนเกินไปและไม่หนาวเกินไป ที่ดินเป็นที่ราบลุ่มเสียส่วนใหญ่ แม่น้ำที่บริสุทธิ์จากเทือกเขาโมโมอาไหลลงสู่แคว้นโนแวร์ก่อน จึงทำให้ที่นี่เจริญด้วยการเกษตรและชนชั้นสูงจากเซ็นทรอเลี่ยนมักมาสร้างบ้านพักตากอากาศที่แคว้นนี้ เป็นที่ร่ำลือกันทั้ง 8 อาณาจักรมนุษย์ว่าแคว้นโนแวร์มีตลาดมืดขนาดใหญ่หากคุณจะหาใครสักคนที่ทำธุรกิจสีเทาคุณสามารถหาที่แคว้นโนแวร์ได้ไม่ยาก

    เวสเซ็ค : เทพกุนดันองค์แรกเลือกร่างสถิตย์ที่เผ่าคนแคระ พระองค์มองว่าพวกคนแคระขยันขันแข็งและขยันสร้างสิ่งต่างๆออกมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แคว้นเวสเซ็คร่ำรวยมหาศาลเทียบเท่ากับเซ็นทรอเลี่ยนหรือบางทีอาจจะเหนือกว่าหากคุณนับรวมสินทรัพย์ที่ยังไม่แปลงเป็นทองด้วยน่ะนะ คุณเชื่อหรือไม่ว่าพวกคนแคระเหล่านี้ไม่ถนัดการค้าขาย หากคุณคิดจะขอซื้อสินค้าจากพวกเขาคุณอาจจะได้ของดีที่ราถูกเหลือเชื่อหรือของห่วยที่พวกเขาตั้งราคาแพงลิบ เรียกได้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับอารมพวกเขาล้วนๆ แต่พวกเขายังโชคดีที่มีเหล่ามนุษย์เข้ามาเป็นพ่อค้าคนกลางให้จนทำให้พวกเขาร่ำรวยมหาศาล

    อีสต์เซ็ค : ดินแดนที่เงียบสงบ และค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แคว้นอีสต์เซ็คประชากรน้อยที่สุด ชาวอีสต์เซ็ครักความสงบมากกว่าที่จะแสวงหาความร่ำรวย พวกเขาอยู่ด้วยความพอเพียง แต่อย่างไรก็ตามด้านที่มีชื่อเสียงที่สุดของแคว้นอีสต์เซ็คคือด้านกวี ที่นี่กำเนิดนักกวีชื่อดังหลายคน แล้วมันทำให้พวกเขาร่ำรวยหรือเปล่าน่ะหรอแน่นอนว่าไม่ ราชวงศ์โรตารี่ครองราชย์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแคว้นนี้ แคว้นอีสต์เซ็คค่อนข้างสงบและไม่ปรากฏผู้ท้าชิงบัลลังก์กับพวกโรตารี่เลย แน่นอนด้วยเหตุนี้จึงทำให้แคว้นนี้เป็นแคว้นที่ขาดการแข่งขันมากที่สุด และล้าหลังที่สุดอีกด้วย กษัตริย์เอเทลที่4 แห่งราชวงศ์โรตารี่ยอมเป็นแคว้นบรรณาการของอาณาจักรเซ็นทรอเลี่ยนโดยสมัครใจ(เหตุการณ์เกิดเมื่อ 280 ปีที่แล้ว)

    เซ็นทรอเลี่ยน : ในอดีตแปดอาณาจักรไม่ได้ถูกรวบอำนาจเข้าสู่อาณาจักรเซ็นทรอเลี่ยน แต่ละแคว้นมีความเป็นเอกราชของตัวเอง ที่นี่คือบ้านเกิดของจักรพรรดิเอมุนนอร์ หลังจากเขาเอาชนะในสงคราม 8 แคว้นและสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิเอมุนนอร์ จึงประกาศให้เซ็นทรอเลี่ยนเป็นเมืองหลวงและให้เจ็ดอาณาจักรที่เหลืออยู่ใต้อำนาจของเซ็นทรอเลี่ยน


    ดินแดนอื่นๆที่ปรากฏในแผนที่นอกจาก 8 อาณาจักรมนุษย์จะไม่มีการบอกประวัติโดยสังเขป เพราะอันที่จริงตัวเอกของเรื่องก็ไม่ทราบข้อมูลที่ถ่องแท้ของดินแดนเหล่านั้นเช่นกัน ดังนั้นไรท์ก็อยากเชิญชวนให้ผู้อ่านมาร่วมผจญภัยไขความลับของดินแดนอื่นๆร่วมกับวิลลัสและแช็ตวิค คำสาปร้ายที่จู่ๆก็เกิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยพรากเอาชีวิตผู้คนไปอย่างง่ายดายมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือมีใครทำให้มันเกิดมาร่วมผจญภัยร่วมหาคำตอบไปด้วยกันคร้าบบ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น