ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: มรดกแห่งสวรรค์ (Chronicle of Ziene: Celestial Legacy) (ตีพิมพ์ สนพ อาเธน่า)

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 3: ราชันย์ไร้พ่ายแห่งมาดารัส (4/9)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 100
      10
      16 ต.ค. 60

    ช่างเป็นกองกำลังที่ป่าเถื่อนและหละหลวมที่สุด” วารีสพึมพำอย่างดูแคลน เธอใช้สองมือรวบกระโปรงขึ้นก่อนจะย่องผ่านอย่างเงียบกริบและระมัดระวังตัวที่สุด นัยน์ตาสอดส่ายหาลู่ทาง สมองพยายามจินตนาการถึงเส้นทางที่รู้มาจากการพูดพร่ำเพ้อเจ้อของสาวใช้

    น้ำตกนั่นอยู่ทางเหนือของกระโจมนี่เอง เดินเท้าไปก็ถึง ถ้าอยากไปก็คงต้องลองพูดกับฝ่าบาทดูค่ะ”

    วารีสทวนประโยคของสาวใช้ในใจ และมุ่งหน้าไปยังทิศนั้นเพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย และสามารถเดินเลาะเลียบแม่น้ำเพื่อมุ่งสู่หมู่บ้านหรือเมืองใกล้เคียงได้โดยไม่หลงได้ ทว่าเพียงแค่เธอก้าวออกจากค่ายไปไม่ไกล เสียงโวยวายของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งก็วิ่งตรงมาทางนี้พร้อมคบเพลิงวูบไหวอยู่ไม่ไกล

    ทำไมรู้ตัวกันเร็วขนาดนี้!

    วารีสเร่งฝีเท้าให้เร็วเท่าที่จะทำได้ คอยหันไปมองทหารที่ไล่ตามตนไม่ห่าง กระทั่ง...

    พลั่ก!

    เธอมัวแต่มองด้านหลังจนไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนหงายหลังล้มลง บางอย่างที่ไม่แข็งเหมือนต้นไม้ เมื่อเงยหน้าดูพลันใจเธอตกวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม

    กาดิออส” หญิงสาวเรียกปากสั่น ก่อนจะถูกมือแกร่งของคนตรงหน้าฉุดกระชากขึ้นยืนอย่างแรงและลากถูลู่ถูกังให้เดินตามมาท่ามกลางการดิ้นรนขัดขืนอย่างม้าพยศ

    ปล่อยข้า ข้าเจ็บ” วารีสทุบแขนกาดิออสไม่ยั้ง แต่กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งกำยำของเขาไม่สะทกสะท้านเขาลากต่อไปไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

    เมื่อกลับมาถึงกระโจมเธอก็ถูกโยนขึ้นไปบนเตียง โดยมีกาดิออสกอดอกยืนหน้าถมึงทึง ในขณะที่เธอคิดว่าตนอาจจะถูกฆ่าหรือถูกทำโทษอยู่นั้น เขาก็หันออกไปตะโกนสั่งทหารที่ยืนออกันหน้ากระโจม

    ไปเอาตัวรานีย์มาเดี๋ยวนี้”

    ไม่นานนักหญิงสาวคนหนึ่งก็ถูกพาตัวมาที่นี่ในสภาพตื่นตกใจ หัวกระเซอะกระเซิง เธอคือสาวใช้ของวารีสนั่นเอง

    เอาตัวสาวใช้คนนี้มาทำไม” วารีสถามอย่างไม่เข้าใจ แต่ในใจรู้สึกหวาดหวั่นกับสิ่งที่กำลังจะเกิด แต่กาดิออสเป็นฝ่ายเงียบบ้าง

    ทำโทษนางซะ” กาดิออสสั่งหญิงรับใช้คนอื่นให้เฆี่ยนตีรานีย์ต่อหน้าวารีส เสียงไม้เรียวแหวกอากาศกระทบผิวหนังแต่ละครั้งทำเอาเธอสะดุ้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหญิงรับใช้คู้ตัวนอนกับพื้นมิอาจต่อต้านหรือร้องประท้วงได้เลย

    เธอรู้ว่ากาดิออสจงใจทำโทษสาวใช้แทนที่จะเป็นตัวเธอเองเพื่อให้เธอรู้สึกผิด แต่นั่นไม่ใช่คนของเธอ เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกเห็นใจด้วยเล่า ถ้าอยากเฆี่ยนให้ตายก็ทำไปเลย การที่เธอพยายามหนีออกจากที่นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอเสียหน่อย แต่เป็นความผิดของกษัตริย์ใจเหี้ยมโหดที่นำเธอมาขังไว้ที่นี่ต่างหาก

    วารีสกัดริมฝีปากเชิดหน้าไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจ แต่เธอมิอาจฝืนได้ ร่างกายกลับทรยศสั่นด้วยทั้งความโกรธและกลัว เสียงร้องไห้โอดโอยทุกครั้งที่ถูกฟาดของรานีย์สะท้อนเข้าสู่โสตแม้จะยกมือขึ้นปิดหูแต่เสียงนั้นก็ยังคงเล็ดลอดให้ได้ยินอยู่ดี และนั่นทำให้เธอทนไม่ไหวในที่สุด

    พอได้แล้ว” หญิงสาวตะโกนลั่นด้วยอารมณ์โกรธจัด หญิงรับใช้ที่กำลังเฆี่ยนถึงกับตกใจจนชะงักยกไม้เรียวค้าง รานีย์มองมาทั้งน้ำตานองหน้า

    ใครบอกให้เจ้าหยุดเฆี่ยนกัน” กาดิออสเปรยเสียงราบเรียบกับหญิงรับใช้ ไม้เรียวจึงง้างหมายฟาดต่อวารีสจึงตะโกนขัดอีก

    จะลงโทษอะไรก็มาทำที่ข้านี่ สาวใช้คนนี้ไม่ผิดอะไรทำไมเจ้าถึงต้องเฆี่ยนตีนางด้วย เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ทุเรศที่สุด”

    กาดิออสได้ยินดังนั่นก็แค่นหัวเราะ ตอบกลับว่า “ทำโทษเจ้าไปก็เท่านั้น รังแต่จะยิ่งเพิ่มความแค้นเคืองและความดื้อดึงของเจ้าให้สูงขึ้น สู้ให้ข้าทำโทษสาวใช้นี่ไม่ดีกว่ารึ”

    วารีสเถียงไม่ออกได้แต่กำหมัดแน่นระงับอารมณ์ทั้ง ๆ ที่อยากตะบันหน้ากาดิออสให้สุดแรง

    เจ้าคนโหดร้าย...ก็ได้ ข้าจะไม่หนี แต่อย่าหวังว่าข้าจะยอมง่าย ๆ แค่นี้นะ” หญิงสาวชี้หน้าว่าเสียงสูง จากนั้นทั้งหมดก็เดินออกจากกระโจมไป โดยที่ไม่มีใครชายตามองเธอเลย ไม่แม้แต่รานีย์

    หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เธอก็พยายามหนีอีกหลายครั้ง แต่ก็ถูกจับกลับมาได้เสียทุกครั้ง และรานีย์สาวใช้ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ถูกทำโทษแทนเธอทุกครั้งเช่นกัน เธอจึงต้องคิดเลิกหนี… ชั่วคราว

    อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านวารีส วันนี้ข้ามีข่าวดีจะมาบอกด้วยค่ะ” วันรุ่งขึ้นรานีย์ทักเสียงใสเข้ามา ไม่มีทีท่าโกรธเคืองเธอแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ถูกเฆี่ยนไปหลายรอบโดยมีสาเหตุเพราะเธอ

    ข่าวดีสำหรับเธอคือการหนีออกจากขุมนรกนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่คาดหวังอะไรมากนักกับสิ่งที่รานีย์บอก

    ฝ่าบาททรงอนุญาตให้ท่านหญิงออกไปเดินเล่นรอบ ๆ ค่ายได้แล้วค่ะ แต่ต้องมีข้าคอยตามรับใช้อยู่ตลอดนะคะ”

    เจ้ากาดิออสนั่นคงคิดว่าข้าไม่คิดหนีแล้วสินะ แต่นับว่าเป็นข่าวดีได้จริง ๆ เพราะนั่นอาจจะมีโอกาสทำให้เธอสามารถหลบหนีสำเร็จก็เป็นได้

    ไม่ดีใจหน่อยหรือคะ” สาวใช้ขมวดคิ้วถาม แต่วารีสกลับไม่ตอบอีกทั้งยังเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อ ๆ

    บาดแผลของเจ้าหายแล้วรึ” วารีสถามเมื่อสังเกตเห็นว่าตามแขนและขาของรานีย์ไม่มีรอยแผลโดนทำโทษอยู่เลย

    สาวใช้อึกอักไม่อยากตอบ แต่ระงับอาการช่างพูดของตัวเองไม่ได้จึงบอกไปในที่สุด

    ฝ่าบาทให้นักบวชมารักษาให้เป็นพิเศษน่ะค่ะ ที่จริงพระองค์ไม่ใช่คนใจร้ายนะคะ ตอนนั้นทำไปเพราะเป็นห่วงท่านวารีสต่างหาก”

    ...เป็นห่วงรึ ช่างเป็นคนที่เข้าใจยากจริง ๆ โดนเสียขนาดนี้ยังแก้ตัวแทนนายตัวเองอีกนะ อะไรจะเทิดทูนปานนั้น...

    วารีสคิด

    เจ้าเลยยอมโดนเฆี่ยนเนี่ยนะ บ้ารึเปล่า โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด คนของมาดารัสเป็นแบบนี้ทุกคนเลยสินะ”

    อย่าดูถูกมาดารัสนะคะ ข้าเองถึงไม่ได้กำเนิดหรือมีพ่อแม่เป็นคนมาดารัส แต่ข้าก็รักประเทศนี้มาก ที่พระองค์ทรงหมั่นออกรบ ไม่ใช่เพราะความชื่นชอบเพียงอย่างเดียวแต่เพราะต้องการรักษาบ้านเมืองให้แข็งแกร่งน่าเกรงขามจะได้ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายคนจากหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างพวกข้า”

    รานีย์ผุดลุกขึ้นยืนพูดด้วยสีหน้าจริงจังมาก วารีสจับกระแสความโกรธเคืองได้ในน้ำเสียงนั่น เธออึ้งไปเล็กน้อยไม่คิดว่าสาวใช้คนนี้จะกล้าขึ้นเสียง แต่ดูเหมือนว่ารานีย์จะรู้สึกว่าตัวเองเผลอตัวข้ามเส้นไปเช่นกัน รีบคุกเข่าก้มลงเอ่ยขอโทษเป็นพัลวัน

    ขะ...ขอโทษค่ะ ขอโทษจริง ๆ นะคะ ข้าไม่สมควรโต้เถียง จะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้นะคะ หรือจะเปลี่ยนสาวใช้เลยก็ได้ ข้ามันแย่ ข้ามันไม่ได้เรื่อง ดูแลก็ไม่ดี ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วยัง...”

    หยุดพูด” วารีสสั่งเสียงเฉียบขาด “ข้าไม่อยากฟังคำขอโทษแล้ว ถึงเจ้าไม่มีสิทธิ์โต้เถียงได้แต่ข้าก็ผิดเองที่พูดจาดูถูกพวกเจ้า ถ้าเจ้าเชื่อมั่นว่าประเทศของเจ้าไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าพูดมา ก็พาข้าไปพิสูจน์ทีสิ เริ่มจากบริเวณรอบค่ายก่อนเป็นไร?”

    สาวใช้ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้าง “เจ้าค่ะ ข้าจะพาท่านเดินชมรอบค่ายนี่เลย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×