คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 1 : เหนือมังกรเพลิง ใต้ปีกสีเงิน (5/11)
“นี่เราจะคุยกันดี ๆ ไม่ได้เลยรึไง เมื่อไหร่เจ้าจะทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงบ้างนะ” รีสเลย์บ่นอย่างระอาใจ
“ใช่สิ ข้ามันทั้งแข็งกระด้าง ทั้งป่าเถื่อน ไม่เหมือนท่านพี่เลยสักนิด!” เธอขึ้นเสียงสูง
“ใช่ ไม่เหมือนเลย พี่เจ้าน่ะถึงจะเป็นนักรบ แต่ก็มีส่วนที่อ่อนหวาน แล้วดูเจ้าสิ”
อลิเวียถลึงตาค้อนใส่ ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนี รีสเลย์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเธออีกครั้งแล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ที่เราเจอหน้ากันแล้วต้องทะเลาะกัน”
แต่มีหรือที่อลิเวียจะไม่ได้ยิน ในเมื่อรอบข้างเงียบสงัดเสียขนาดนี้อีกทั้งเธอยังยืนอยู่ใกล้เขาอีกจึงอดไม่ได้ที่จะเถียงกลับ
“ใครใช้ให้ท่านปากเสียล่ะ”
“อันที่จริงเราก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เจ้าเองก็เสมือนน้องสาวแท้ ๆ ของข้า...”
รีสเลย์พยายามจะเปลี่ยนเรื่องแต่อลิเวียกลับยิ่งโกรธหนัก เธอเหยียบเท้าเขาเต็มแรงจนต้องร้องเสียงหลง ก่อนจะวิ่งหนีไป
“ใครเขาอยากเป็นน้องสาวท่านเล่า!” มิวายตะโกนว่าทิ้งท้ายพร้อมค้อนใส่อีกครั้ง ร่างบางวิ่งลับหายไปหลังกระโจมอื่นทิ้งรีสเลย์นั่งแต่ลูบเท้าตัวเองป้อย ๆ
“อะไรของยัยนี่เนี่ย ผีเข้ารึไงนะ มาหาเรื่องแล้วก็ไป” เขาบ่นโดยอดที่จะขุ่นเคืองใจไม่ได้ แรงไม่ใช่น้อย ๆ เลย และด้วยประโยคทิ้งท้ายนั่นก็ทำให้รีสเลย์ก็ไม่ได้นอนอีกเลยกระทั่งเช้า
ในวันนี้มีการประชุมเพื่อวางแผนบุกนาเลีย นครป้อมปราการที่ไม่เคยถูกตีแตกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา แผนการมากมายต่าง ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงในที่ประชุมทัพแต่สุดท้ายไม่มีแผนการใดใช้ได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย
รีสเลย์นั่งตำแหน่งหัวโต๊ะการประชุม ขอบตาคล้ำเนื่องจากไม่ได้หลับอีกทั้งร่างกายยังดูอิดโรยเนื่องจากยืนตากน้ำค้างตลอดทั้งคืน
“พื้นที่แบบนั้นขืนเดินเรียงแถวเข้าไปก็เท่ากับไปตายเปล่า ก็มีแต่ต้องบินไปเท่านั้นแหละ” ขุนพลเฒ่าเลปัสเสนอความคิดเห็น ก่อนจะสบเข้ากับพระพักตร์กษัตริย์ของตน
“ฝ่าบาท ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เลปัสผู้นั่งอยู่ใกล้สุดลอบกระซิบถามด้วยความเป็นห่วง ได้รับคำตอบมาเพียงฝ่ามือซึ่งโบกปฏิเสธในอากาศเป็นเชิงว่าไม่ต้องห่วง
“ทางนั้นก็น่าจะรู้แบบนั้นแหละ สงสัยว่าคงเตรียมหน่วยโจมตีระยะไกลไว้เต็มอัตราแน่ ๆ” ลิสเกอร์กัดฟันแน่น เขาพยายามเค้นเอาทุกอย่างออกมาจากสมอง มันต้องมีวิธีแน่นอนไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในโลกใบนี้ ทุกอย่างล้วนมีโอกาสสำเร็จแม้จะเพียงแค่หนึ่งในร้อยก็ตาม
“ยังไงหน่วยรบมังกรก็บินได้สูงกว่าระยะยิงของธนูอยู่แล้ว ข้าว่าน่าจะบินผ่านไปได้” เลโอลหัวหน้าหน่วยรบมังกรและเป็นบุตรชายของเลปัสออกความเห็น
“ที่ท่านพูดแบบนี้ได้แสดงว่ายังไม่เคยเห็นเครื่องยิงศรของโดนาเมสล่ะสิ ไม่สิ แทนที่จะเรียกว่าเครื่องยิงศร ควรเรียกว่าเครื่องยิงทวนยาวท่าจะเหมาะสมกับขนาดของมันมากกว่า นั่นเป็นเครื่องยิงที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับหน่วยมังกรของเราโดยเฉพาะเลยล่ะ”
ใครบางคนค้านขึ้นซึ่งรีสเลย์ไม่ใคร่จะใส่ใจมากนัก เรื่องแผนการเขาคิดไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลาให้ทุกคนถกเถียงกันเสร็จเรียบร้อยเท่านั้น เขารอเผื่อว่าอาจจะมีใครสักคนเสนอหนทางที่ดีกว่านี้ได้อีก
“ก็ต้องแลกกันเท่านั้น เราไม่มีทางเลือกอื่น ถ้านาเลียไม่แตกเราก็บุกไปเมืองหลวงไม่ได้” เลปัสพูดอย่างจนใจ เขาไม่มั่นใจในการออกศึกครั้งนี้เพราะไม่อยากเอาชีวิตลูกน้องไปเสี่ยงในแผนฆ่าตัวตายนี้เลย
ห้องประชุมเงียบไปพักใหญ่ ทั้งหมดทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เชื่อมั่นในแผนการเสี่ยงตายครั้งนี้ หากคิดใหม่ได้ อยากได้แผนการที่รัดกุมและดูมีประสิทธิภาพมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
“อีกสามวันจะเป็นคืนเดือนมืด” รีสเลย์ที่ฟังเงียบ ๆ มานานเอ่ยขึ้นบ้าง เหล่าผู้ประชุมต่างหันมามองเป็นทางเดียว ตั้งแต่ต้นการประชุมกษัตริย์หนุ่มไม่ค่อยเปิดปากเสนอความเห็นเลยจนพวกเขาคิดว่ากำลังนั่งกลุ้มใจอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงเป็นจุดเดียว
“เราจะย้อมสีหน่วยนักรบมังกรให้เป็นสีดำ แล้วลอบเข้าไปทิ้งน้ำมันและไฟลงไปในสถานที่สำคัญและบ้านเรือน ความโกลาหลนี้น่าจะมากพอที่จะทำให้เกิดความแตกตื่นวุ่นวายไปทั่ว ซึ่งนั่นคงจะทำให้หน่วยซุ่มโจมตีหน้าปากทางเข้าเกิดความพะวงถึงครอบครัว และนั่นคือโอกาสของเรา โอกาสที่จะบุกเข้าโจมตีโดยไล่จากทางด้านหน้าไล่ไปจนถึงกลางเมืองเพื่อกดดันให้ชาวบ้านและทหารถอยหนีไปยังทางออกที่เหลือโดยที่เราไม่ต้องเสียกำลังมาก”
รีสเลย์ร่ายยาวถึงแผนการรวดเดียวจบ โดยมีการพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นระยะกระทั่งเขาพูดจบ ภาพการต่อสู้เป็นฉาก ๆ ผุดขึ้นมาในใจที่เริ่มมีความหวังของทุกคน
“เราจะไม่จัดการกับทหารที่เหลือหรอกรึ” ขุนพลคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย
รีสเลย์พยักหน้ารับ
“ใช่แล้ว การสู้กับสุนัขจนตรอกคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แทนที่จะปล่อยให้พวกมันหนีไปง่าย ๆ แต่เรากลับเข้าปิดล้อมนั่นจะทำให้พวกมันถูกกดดันจนกลับมาสู้สุดชีวิต อีกทั้งทางเข้าที่คับแคบเช่นนั้นแม้จะรอดจากการซุ่มโจมตีแต่ก็ยังต้องใช้เวลานานกว่ากองทัพหลักจะเคลื่อนเข้าสู่เมืองได้”
ทุกคนเข้าใจกับแผนการกดดันทหารนาเลียให้หนีทัพนี้ดี ไม่มีใครค้านอะไรออกมาอีกและหลังจากปรึกษากันอีกเล็กน้อยพวกเขาก็ตัดสินใจใช้แผนการนี้โดยเอกฉันท์
การเตรียมการทั้งหมดดำเนินต่อเนื่องอยู่สามวันสามคืน ในที่สุดคืนเดือนมืดก็มาถึง รีสเลย์ยืนกรานที่จะเป็นหนึ่งในหน่วยนักรบมังกรที่ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงทัดทานจากคนจำนวนมากก็ตาม
“เพียงแค่ครั้งนี้เท่านั้น” รีสเลย์ลูบหัวมังกรเพลิงตัวโปรดที่กำลังหงุดหงิด เนื่องจากมันถูกย้อมสีทั้งตัวให้เป็นสีเดียวกับรัตติกาล มันครางออกมาเบา ๆ และยอมสงบลงในที่สุด
มังกรตัวอื่น ๆ ล้วนไม่ต่างกัน พวกมันหงุดหงิดทุกตัว อีกทั้งหน่วยนักรบผู้ขี่มังกรอีกหลายร้อยนายพากันตื่นเต้นกับภารกิจในครั้งนี้มากกว่าปกติ เพราะนอกจากจะได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับราชานักรบมังกรมือฉกาจที่สุดแห่งยุค ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายตำนานป้อมไร้พ่ายนาเลียอีกด้วย
“ทั้งคนทั้งมังกร...” รีสเลย์กุมขมับ แต่ที่จริงเขาเองก็ไม่ได้เป็นห่วงมากนัก เมื่อนักรบมังกรขึ้นประจำที่แล้วมังกรทุกตัวกลับสงบอย่างน่าประหลาด บรรยากาศทีเล่นทีจริงเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ความมุ่งมั่นแผ่ออกมาจากพวกเขา
ภาพมังกรดำเกือบสี่ร้อยตัวพุ่งทะยานฝ่าอากาศกลืนไปกับท้องนภายามคำคืนอย่างเงียบเชียบราวกับฝูงปีศาจแห่งความตาย ทำให้ผู้พบเห็นอดที่จะขนลุกเกรียวไปทั้งตัวไม่ได้ทั้งด้วยความฮึกเหิมและความกลัวปนเปกัน
ไม่นานนักพวกเขาก็บินมาถึงน่านฟ้าของนาเลีย กลุ่มนักรบถูกแยกตัวออกไปเป็นหน่วยย่อย ๆ และเริ่มทำการจู่โจมด้วยน้ำมันอย่างรวดเร็ว ถุงหนังน้ำมันนับร้อยถูกโยนทิ้งแตกกระจายไปทั่วทั้งเมืองลูกแล้วลูกเล่า กว่าทหารจะรู้ตัวเมืองทั้งเมืองก็กลายเป็นทะเลน้ำมันไปเสียแล้ว บัดนั้นเองแผนการของมังกรหนุ่มก็สำแดงอานุภาพ
“ข้าศึกบุก ข้าศึกบุก!!”
“ระวังน้ำมัน มันจะเผาไฟ!”
“หนีเร็ว!”
ความคิดเห็น