คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 2: เทพปีศาจอัลกีโรอา (2/4)
“ข้าก็รู้ตำนานถึงแค่ตรงนี้เหมือนคนอื่น ๆ นั่นแหละ ที่เจ้ากำลังจะบอกก็คือ...เอ้ะ” มังกรแห่งเชสนารู้สึกเอะใจบางอย่าง “ไม่สิ ข้ารู้มากกว่านั้น ท่านปู่กับท่านพ่อเคยเล่าให้ฟังมากกว่านี้ เรื่องที่ว่า เชสนา ลีออน ปฐมกษัตริย์ของเชสนาก็เป็นหนึ่งในแปดเทพ และท่านเชสนาก็คือผู้เดียวกับ...”
“ซิลเวอร์ เทพแห่งความกล้าหาญและวีรบุรุษ!” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน
“เป็นเรื่องจริงหรือนี่ ตอนเด็ก ๆ ข้าคิดว่ากำลังฟังนิทานหลอกเด็กเสียอีก” รีสเลย์พึมพำ
“ตอนที่ฉันรู้จากปูมบันทึกในห้องสมุดก็ตกใจเหมือนกัน เล่นไม่มีใครบอกอะไรฉันเลยต้องไปค้นเอาเอง ดีนะที่มีเขียนไว้ในหนังสือ” จีดัสบ่น
“ถ้าในหนังสือไม่มีเขียนเรื่องไหน เจ้าก็จะไม่รู้เรื่องนั้นใช่ไหมเนี่ย” รีสเลย์เอ่ยแซว “และถ้าเดาไม่ผิด เจ้าเองก็เป็นทายาทของเอลเลนนอสผู้ทรยศเหมือนกันสินะ”
“นาร์ดาส เทพแห่งสติปัญญา คือทวดของฉันเอง”
ได้ยินดังนั้นมังกรหนุ่มก็เผลอหลุดหัวเราะออกมา “มิน่าล่ะ ประลองปัญญากับเจ้าทีไรข้าถึงเสียเปรียบทุกครั้งไป”
“เรื่องนั้นอาจจะไม่เกี่ยวกับที่ฉันมีเชื้อสายเทพแห่งสติปัญญาก็ได้นะ แต่เพราะนายนั่นแหละที่...”
“หยุดเลย! ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร” รีสเลย์เอ่ยดักคอ ยกมือห้าม “สรุปว่าที่เจ้าไปหมกตัวอยู่หอสมุดตั้งแปดวันเพื่อจะยืนยันว่าเรามีเชื้อสายเอลเลนนอสเท่านั้นรึ”
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง ฉันค้นข้อมูลแล้วได้รายชื่อผู้ที่อาจจะสืบเชื้อสายเทพอีกหลายคนและฉันคิดว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับวิธีหยุดเทพปีศาจก็ได้ เพราะในอดีตบรรพบุรุษของพวกเราก็เคยยับยั้งสิ่งนั้นไว้ได้เช่นเดียวกัน”
“อืม สรุปว่าเจ้าก็ยังไม่รู้วิธีอยู่ดีสินะ” รีสเลย์เกาคางครุ่นคิด เขาอยากช่วยคิดหาวิธีบ้างแต่ขนาดเสนาธิการเจ้าปัญญาอย่างจีดัสยังคิดไม่ได้ แล้วอย่างเขาจะช่วยอะไรได้
“ก็ใช่ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าเจ้าปีศาจนั่นไม่ได้ไร้เทียมทาน ถ้าได้เผชิญหน้ากับมันอีกครั้งเราอาจจะพบจุดอ่อนของมันก็ได้” จีดัสพูดอย่างมีความหวัง
“ทัพของเชสนาเองแทบไม่เหลือ อย่าว่าแต่ทัพของโดนาเมสเลย หายเกลี้ยงไปแบบนั้น...”
บรรยากาศภายในห้องมีทั้งความสิ้นหวังกับความหวังผสมปนเปกันจนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทั้งคู่มองตากัน พวกเขาคิดตรงกัน
“ถึงเวลาที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันแล้ว”
จีดัสยิ้มเครียด ๆ ส่วนรีสเลย์ขมวดคิ้วครุ่นคิด วันต่อมาเขาดำเนินการติดต่อส่งทูตไปยังประเทศต่าง ๆ ในทวีปกิงคารอนทันที เพื่อจัดการประชุมผู้นำในการรับมือกับมหันตภัยครั้งนี้
ด้วยข่าวลือเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์กระจายลุกลามเร็วเสียยิ่งกว่าไฟไหม้ป่า เป็นเหตุให้บรรดากษัตริย์ประเทศน้อยใหญ่ตอบรับคำเชิญของเชสนาและโดนาเมสโดยไม่ยากเย็น
หลายวันนี้ทั้งสองต่างหัวหมุนวุ่นวายกับการเตรียมการต้อนรับเหล่าผู้นำกันเสียยกใหญ่ เพราะนอกจากจะต้องจัดหาที่พักหรูหราให้เหล่าผู้นำแล้ว ยังต้องจัดหาที่พักของบรรดาองครักษ์และคนรับใช้ซึ่งขนกันมาราวกับจะอวดอ้างอำนาจ ทั้งยังต้องจัดหาวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารให้มากเพื่อให้เพียงพอกับปริมาณแขก และต้องจัดเวรยามให้ดีเพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสนี้ก่อเรื่องให้เกิดความบาดหมางกัน
“ไหวไหม” รีสเลย์ถามขึ้นไม่รู้ว่าด้วยความกังวล เป็นห่วงหรืออะไร
“ไหวสิ นี่ก็เสร็จแล้วด้วย เอ้า รายชื่อผู้นำทั้งหมดที่รวบรวมมาได้” จีดัสตอบ ปิดเอกสารในมือฉับก่อนจะส่งให้กษัตริย์หนุ่มตรวจดู
“ยอดเยี่ยม แม้แต่พวกเผ่าเล็ก ๆ ตามป่าตามเขานายก็รวบรวมมาได้หมด ทำได้อย่างไร หรือว่าเปิดหามาจากหนังสือน่ะ” รีสเลย์ทึ่งในความสามารถของคนตรงหน้าเอ่ยแซวทีเล่นทีจริง
“จะใช่ได้ยังไง” จีดัสตอบด้วยน้ำเสียงที่สื่อได้ว่า เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้รึ “หนังสือไม่ได้มีบันทึกไว้ทุกอย่างสักหน่อย ฉันใช้งานนักรบมังกรของนายนั่นแหละออกตรวจสอบให้”
“....” รีสเลย์พูดอะไรไม่ออก
เจ้าคนตรงหน้านี่ถึงกับใช้นักรบมังกรที่ฝึกมาเพื่อการรบบนฟากฟ้าโดยเฉพาะ มาเป็นหน่วยสำรวจสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังไม่ได้ขออนุญาตจากเขาก่อนด้วยซ้ำ
“เอ้อ...” จีดัสนึกอะไรได้ “ขออนุญาตนายใช้หน่วยมังกรต่อเลยก็แล้วกัน เอาไว้ส่งสาสน์กับส่งตัวทูต สะดวกรวดเร็วดีนะ”
ท้ายประโยคเอ่ยชม… แต่มันไม่สายไปหน่อยรึ นอกจากเป็นหน่วยสำรวจแล้วยังเป็นหน่วยส่งสาสน์กับหน่วยขนส่งด้วย มิน่าล่ะ ช่วงนี้ทำไมถึงเห็นมังกรบินเข้าบินออกบ่อยนัก ความศักดิ์สิทธิ์ของหน่วยรบมังกรอันสุดแสนจะภูมิใจของเขาป่นปี้ไม่เหลือแล้ว
“ถึงกับดีใจจนพูดไม่ออกเลยรึ แล้วนายเปลี่ยนวิธีการเรียกสรรพนามตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนแรกยังแทนว่า ข้า กับ เจ้า อยู่เลยนี่… คงเปลี่ยนตามฉันสินะ” จีดัสถามเองตอบเอง ยังไม่ทันที่รีสเลย์จะขยับปากด้วยซ้ำ “คนสนิทกันเขาก็ใช้สรรพนามแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องปฏิเสธหรอก ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอเตรียมตัวเกี่ยวกับการประชุมในวันนั้นก่อนนะ นายจะไปไหนก็ไปเถอะ”
หนุ่มผมเงินโบกมือเอ่ยไล่อย่างไม่สนใจในขณะก้มหน้าก้มตากับกองเอกสารต่อไป ตั้งแต่พูดมายังไม่เงยหน้ามองคู่สนทนาเลยสักครั้ง หากเหล่ตาขึ้นมาสักนิดคงได้เห็นมังกรหนุ่มกำหมัดแน่นพร้อมตะบันหน้าเจ้าแว่นกวนอารมณ์ตรงหน้านี้อย่างแน่นอน
...ใครสนิทกับใครตอนไหน เจ้าบ้านี่พูดเองเออเองคนเดียวหมดเลยนี่ กวนอารมณ์นัก เป็นเพียงผู้อาศัยแต่กลับทำตัวราวกับอยู่ที่นี่มาสิบปี ไม่มีความเกรงใจกษัตริย์ที่ยืนทนโท่อยู่อย่างข้าซะบ้างเลย สักวันต้องเอาคืนให้ได้...
รีสเลย์คิดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ยกกำปั้นใส่หนึ่งทีก่อนจะกัดฟันบอกลา
“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไปเตรียมในส่วนของฉันบ้างล่ะ”
แน่นอน นอกจากรีสเลย์จะเตรียมส่วนการประชุมแล้ว เขายังเตรียมการแก้แค้นเอาคืนอีกด้วย เขาคิดหาวิธีที่จะทำให้วิหกเงินพ่ายแพ้ ไม่ว่าจะด้วยกำลัง ปัญญา หรือความสามารถ
กษัตริย์หนุ่มหาเวลาว่างไปท้าดวลเสนาธิการเจ้าปัญญาด้วยการเล่นหมากกระดานซึ่งแน่นอนว่าพ่ายแพ้ไปตามระเบียบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะท้าสู้มือเปล่าซึ่งฝีมือสูสีกันมากกระทั่งเหนื่อยจึงต้องเลิกรากันไป
“นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่” จีดัสถามขึ้นในที่สุดขณะยังง่วนอยู่กับเอกสารบนโต๊ะ
“เปล่า ไม่มี ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น” รีสเลย์ส่ายศีรษะปฏิเสธยิกก่อนจะมีนายทหารคนหนึ่งเข้ามารายงานเรื่องความคืบหน้า เขาจึงจำต้องเดินจากมา
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ได้แต่พึมพำเบา ๆ หารู้ไม่ว่าจีดัสเหลือบมองมาพร้อมกับหัวเราะไล่หลังอย่างรู้ทัน
หลายวันผ่านไปในที่สุดวันนัดประชุมแห่งกิงคารอนก็ใกล้เข้ามา มีหลายประเทศเดินทางมาถึงก่อนโดยถือว่าพักผ่อนต่างแดนไปในตัว กษัตริย์แห่งสวอนดูรัสเป็นประเทศแรกที่เสด็จมาถึงทั้ง ๆ ที่เป็นประเทศที่อยู่ห่างไกลเกือบที่สุด หัวหน้าชนเผ่าอิสระต่าง ๆ อีกหลายสิบชนเผ่าก็ได้รับเชิญในงานนี้เช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดหรือกลุ่มผู้ปกครองตนเองที่เล็กที่สุด ล้วนมีสิทธิ์รับรู้ถึงมหันตภัยในครั้งนี้ และเมื่อกษัตริย์แห่งเอนริโคซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศสุดท้ายเดินทางมาถึงเชสนาการประชุมก็เริ่มต้นขึ้น
ความคิดเห็น