คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 1 : เหนือมังกรเพลิง ใต้ปีกสีเงิน (10/11)
ในวินาทีที่นิ้วเรียวปล่อยจากสายธนู ลูกศรพลันพุ่งตัดสายลมตรงไปด้วยความเร็วสูงและเงียบเชียบ กระทั่งเป้าหมายผู้กำลังสู้รบติดพันอยู่ยังไม่รู้ตัวถึงมัจจุราชที่กำลังจะพรากชีวิตตนเลยแม้แต่น้อย
ก่อนที่ศรนั่นจะได้ทำหน้าที่สมใจเจ้าของ มันกลับไปปักเข้าที่ร่างหนึ่งซึ่งกระโดดออกมาขวางวิถีศรแทนไว้พอดี รีสเลย์ที่เห็นเหตุการณ์นั้นรู้สึกเหมือนเห็นทุกอย่างเป็นภาพช้า ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งซ้อนทับกับภรรยาของเขาค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างช้า ๆ
“อลิเวีย!!” รีสเลย์ฟาดหอกใส่ศัตรูที่บังอาจเกะกะแล้วรีบพุ่งตัวเข้าไปรับร่างนั้นไว้ก่อนกระแทกพื้นได้อย่างทันท่วงที
“อลิเวีย เจ้า...ทำไม... “ กษัตริย์หนุ่มเริ่มพูดไม่เป็นภาษาพลางกุมมือเธอไว้แน่น ได้แต่ภาวนาให้ลูกธนูนั้นรอดพ้นจากจุดสำคัญ
“ข้า...” เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ความเจ็บปวดนั่นทำให้เธอต้องชะงักหน้านิ่วคิ้วขมวด
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ข้าจะพาเจ้าไปรักษาก่อน” เขาช้อนตัวเธอและอุ้มขึ้นมา ร่างของอลิเวียเบาหวิวจนน่าตกใจ น่าแปลกว่านี่คือน้ำหนักของผู้ที่สวมเกราะเต็มตัวแล้ว มันช่างบอบบางราวกับชีวิตของเธอนั้นพร้อมที่จะหลุดลอยไปได้ทุกเมื่อ
เธอรั้งแขนของรีสเลย์ไว้แน่น ปากขยับพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่างแต่เสียงกลับไม่ออกมา รีสเลย์ห้ามเธอไว้
“ถ้าจะพูดอะไรไว้ให้หายดีก่อน! ถึงตอนนั้นข้าจะรับฟังทุกอย่างที่เจ้าพูด!”
นักบวชและแพทย์ประจำกองทัพถูกเรียกตัวมาเพื่อดูอาการของเธอ พวกเขาใช้เวทมนตร์ทำให้ลูกธนูถูกถอนออกโดยง่าย จากนั้นจึงใช้เวทเยียวยาบาดแผลให้สมานกัน แต่เวทรักษาใด ๆ กลับช่วยเธอไม่ได้ เลือดยังคงไหลทะลักออกจากปากแผลไม่หยุด ทั้งยาทั้งมนตราไม่สามารถหยุดยั้งอาการบาดเจ็บนี้ได้ บาดแผลลึกและใกล้หัวใจมากเกินไป
“คาถาฟื้นฟูทั่วไปปิดปากแผลลึกขนาดนี้ไม่ได้หรอก มีใครเป็นจอมเวทโลหิตไหม เรียกตัวมาด่วนเร็ว” แพทย์สนามตะโกนขอความช่วยเหลือ ขุนพลของรีสเลย์คนหนึ่งได้ยินเข้าจึงอาสาเข้าช่วยเหลือ
“ข้าเคยเรียนเวทสายนี้มา ขอให้ข้าได้ช่วยเถอะ”
ชายคนนั้นรีบร่ายคาถาควบคุมโลหิต เลือดที่ปากแผลทำท่าจะหยุดไหลลงครู่หนึ่งแต่ก็กลับทะลักออกมาราวกับสายน้ำ
“ธนูนั่นอาบเวทมนตร์บางอย่างไว้”
รีสเลย์ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาได้แต่กุมมือเธอไว้แน่นสัมผัสถึงชีพจรอันแผ่วบางที่เต้นอ่อนลงเรื่อย ๆ จากฝ่ามืออันเย็นเชียบ ใบหน้าของเธอขาวซีดไร้สีเลือดเปล่งปลั่งอย่างเคย
อลิเวียอ้าปากขยับเป็นคำพูดบางอย่างก่อนจะกระอักเลือดออกมา เขาอ่านปากตามและนั่นยิ่งทำให้เขาใจสั่นสะท้าน หยาดน้ำตาครั้งสุดท้ายไหลรินจากดวงตาแล้วเธอก็แน่นิ่งไปพร้อมกับรอยยิ้ม
...ทำไมกัน ทำไมคนรอบตัวข้าถึงต้องมาจากไปทีละคน ทีละคน...
รีสเลย์พยายามถามตัวเอง
...หรือว่าสาเหตุทั้งหมดนี่เกิดจากตัวข้าเอง...
“แกอยู่แถวนี้ใช่ไหม ไอ้พวกลอบกัดสกปรก โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!” มังกรหนุ่มตะโกนท้าทาย
จีดัสที่แอบซุ่มอยู่จำต้องปรากฏกายออกมา แม้จะเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดนัก แต่การลอบกัดแบบเมื่อครู่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกไม่สมกับเป็นตัวเองเลยสักนิด
ศรเงินถูกยิงออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับแตกตัวเป็นลำแสงนับสิบโจมตีใส่รีสเลย์
คลื่นเสียงคำรามจากมังกรหนุ่มก็พัดพวกมันให้ปลิวหายไปหมด ครั้งนี้รีสเลย์รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของศัตรูแล้วจึงเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีกลับบ้าง
ลมหายใจแห่งมังกรเพลิงอันโชติช่วง
“ลมหายใจแห่งเพลิง!”
เปลวไฟพ่นออกจากปาก มันม้วนตัวเป็นรูปทรงดุจพายุหมายเผาผลาญจีดัสให้มอดไหม้เป็นจุณแต่ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้นจีดัสสามารถร่ายเวทป้องกันได้ทันเช่นกัน
ม่านมนตราแห่งการลบล้างธาตุทั้งเจ็ด
เปลวเพลิงพลันกระทบถูกม่านบางที่จีดัสสร้างขึ้นและอ่อนกำลังลงจนสลายไป แม้ว่าจะต้านความร้อนได้หากไม่สามารถต้านพลังการโจมตีอันรุนแรงในระยะเผาขนได้ ร่างผอมบางถูกกระแทกกระเด็นพุ่งปลิวไปอัดเข้ากับต้นไม้ด้านหลังจนบาดเจ็บแต่เพียงอึดใจต่อมาเขาก็สามารถประคองตัวยืนได้
“ข้าจะแก้แค้นให้อลิเวีย” รีสเลย์กระชับหอกในมือแน่นและออกวิ่งสุดฝีเท้า
“มังกรฟาดฟัน!”
"อัสนีบาศลงทัณฑ์!"
รีสเลย์เข้าตวัดฟันขึ้นซ้ายขวาอย่างต่อเนื่องในระยะประชิด จีดัสซึ่งร่ายเวทรออยู่แล้วเรียกกลุ่มก้อนพลังสายฟ้าปรากฏขึ้นเหนือจุดที่รีสเลย์วิ่งเข้ามา ก่อนจะผ่าเปรี้ยงลงไปต่อหน้า
พลังของทั้งสองปะทะกันส่งผลให้เกิดแรงผลักกระแทกทั้งรีสเลย์และจีดัสปลิวห่างจากกันคนละทิศละทาง
รีสเลย์รู้สึกแปลกใจไม่น้อย จีดัสที่ถูกเรียกว่าเสนาธิการเจ้าปัญญา ไม่น่าเชื่อว่าสู้สูสีกับนักรบอย่างเขาได้ถึงเพียงนี้ แต่ไม่ว่าจะดูอย่างไรฝ่ายนั้นต้องบาดเจ็บหนักกว่าแน่นอน เขาบอกตัวเองว่าจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปไม่ได้
“ท่านจีดัส” อามู คนสนิทของจีดัสเห็นเข้ารีบวิ่งเข้ามาประคอง เธอเห็นสภาพแล้วรู้สึกสังเวชใจ จีดัสคนที่เธอรู้จักไม่มีทางที่จะทำอะไรบ้าระห่ำเช่นนี้แน่นอน คล้ายกับว่าเขาพยายามลงโทษตัวเองอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ข้าจะไม่ให้ท่านมาตายที่นี่หรอกค่ะ” ว่าแล้วเธอก็แบกจีดัสขึ้นหลังเพื่อพาหนีไปให้ไกลจากสมรภูมิ ให้ไกลจากมัจจุราชสีแดงผู้กำลังเยื้องย่างเข้ามาใกล้นั่น
“หนอย อย่าเพิ่งหนีไปนะ” รีสเลย์กัดฟัน พยายามเข้าขัดขวางแต่ตัวเขาเองเสียเรี่ยวแรงไปมิใช่น้อย ร่างสูงใหญ่ของขุนพลเฒ่าเลปัสยืนขวางเขาเอาไว้
“ถอยก่อนเถอะฝ่าบาท อย่าให้ต้องสูญเสียไปมากกว่านี้เลย” มือแข็งแกร่งบีบต้นแขนเขาไว้เพื่อเรียกสติ
รีสเลย์เพิ่งสังเกตถึงสิ่งรอบตัว สมรภูมิอันสับสนวุ่นวายมีศพของทั้งสองฝ่ายเกลื่อนกลาด เมื่อเห็นคนตายนับไม่ถ้วนเขาคิดจึงว่าตนเองไม่สมควรวู่วามจนเสียงานมากไปกว่านี้ คิดได้แล้วจึงพยักหน้ารับคำ นัยน์ตาสีแดงเปี่ยมไปด้วยความแค้นนั้นอ่อนแสงลง สองมือที่กำด้ามทวนแน่นจึงคลายออก
“จะให้ทุกคนที่เสียสละนั้นตายเปล่าไม่ได้ เราจะดำเนินตามแผนเดิม” มังกรหนุ่มเอ่ยขึ้นคล้ายเตือนสติตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าร่วมทัพตามเดิม
หลังจากนั้นทัพของเชสนาถูกบีบถอยร่นไปเรื่อย ๆ จนใกล้นาเลีย จีดัสเองรู้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นเขตอันตรายจึงยังไม่สั่งเคลื่อนทัพเข้าไปใกล้ ทั้งสองทัพต่างตรึงกำลังอยู่นานโดยไม่มีใครกล้าผลีผลามทำอะไรลงไป กระทั่งจีดัสได้รับราชโองการฉบับหนึ่งซึ่งทำให้รู้สึกลำบากใจเพราะพระเจ้าซาร์ทจะนำกองทัพหลวงมาร่วมศึกด้วย ที่หนักใจไม่ใช่เรื่องที่มีกำลังเสริมมาช่วย แต่ที่หนักใจก็เพราะทัพหลวงนั้นพระเจ้าซาร์ทรงเป็นผู้ออกคำสั่งการรบเอง และแน่นอนว่าพระองค์คงจะไม่รับคำแนะนำใด ๆ จากเขาแน่นอน
ความคิดเห็น