คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 1 : เหนือมังกรเพลิง ใต้ปีกสีเงิน (9/11)
แต่ในวินาทีต่อมารีสเลย์ก็รู้ตัวทันทีว่าตนเองติดกับเข้าอย่างจังเสียแล้ว จีดัสร่ายเวทพายุออกมาปัดเป่าหมอกที่เคยปกคลุมทั่วผืนแม่น้ำออกไปเผยให้เห็นเรือขนาดเล็กหลายร้อยลำที่ถูกออกแบบให้ติดตั้งอาวุธรบคล้ายหน้าไม้ขนาดยักษ์และมันกำลังหันเป้ามาทางหน่วยรบมังกรบินของเขา
รีสเลย์แทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นศรยักษ์ถูกยิงออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันจำนวนมากมายมหาศาลราวกับห่าฝน
"ไม่!!!” รีสเลย์ตะโกนสุดเสียงแต่มันไม่ใช่เสียงตะโกนธรรมดา เพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือคลื่นเสียงที่เรียกกันว่า "มังกรคำราม" หนึ่งในท่าไม้ตายที่มีเพียงมังกรหรือผู้ที่มีสายเลือดของมังกรเท่านั้นจะใช้ได้
คลื่นเสียงแห่งความพิโรธแผ่กระจายเข้าปะทะกับเหล่าศรยักษ์เหล่านั้นจนปลิวกระเด็นกระดอนไป แต่นั่นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น พายุศรที่เหลือต่างพุ่งเข้าเสียบร่างนักรบมังกรร่างแล้วร่างเล่า แต่ละคนที่โดนต่างก็ร่วงลงมาตายราวกับใบไม้ร่วง ทั่วบริเวณดูราวกับฝนเลือดที่สาดกระจายไปทั่ว
“ถอยทัพเดี๋ยวนี้!!” รีสเลย์ตะโกนสั่งลั่น แต่ถึงกระนั้นกว่าที่จะถอนตัวออกมาจากสมรภูมิอันบ้าคลั่งนี้ได้ เขาก็ต้องสูญเสียไพร่พลเป็นจำนวนมากและมังกรไปอีกหลายสิบชีวิต
ในระหว่างนั้น แม่ทัพคนหนึ่งแห่งโดนาเมสเห็นมังกรเพลิงรีสเลย์กำลังถอยกลับ ความคิดวูบหนึ่งพลันปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิด
...ถ้าสังหารคนๆ นี้ได้ สงครามก็จะยุติ...
แม่ทัพผู้นี้จึงไม่รีรอที่จะเข้าขัดขวาง เขาวิ่งเข้าฟาดฟันใส่รีสเลย์อย่างสุดความสามารถด้วยกำลังทั้งหมดที่ตนมี ทั้งสองมือต่างสลับดาบฟันซ้ายทีขวาทีปล่อยให้รีสเลย์ตกเป็นฝ่ายป้องกันเพียงอย่างเดียว แต่หารู้ไม่ว่าที่รีสเลย์ได้แต่ตั้งรับเพราะเขามัวพะวงอยู่กับทหารของเขา
“มาดาฟอย่า! ถอยออกมา!”
เมื่อจีดัสเห็นเหตุการณ์เข้าก็ตะโกนพร้อมกับวิ่งไปหาด้วยความร้อนใจ แต่เสียงของเขาไม่อาจส่งถึงเพื่อนรักได้ มาดาฟเป็นนักรบที่มีฝีมือไม่น้อยหน้าใครในโดนาเมส แต่เมื่อเทียบกับรีสเลย์ที่ทั้งแกร่งทั้งดุดันราวกับอสูร อย่าว่าแต่การเอาชนะเลยเพียงแค่สะกิดอีกฝ่ายให้เสียเลือดยังแทบเป็นไปไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
ฉัวะ!
สิ่งที่จีดัสกลัวที่สุดก็ได้เกิดขึ้น หอกยาวตวัดฟันร่างผู้อาจหาญมาต่อกร ร่างอัศวินหนุ่มลอยละลิ่วตามแรงส่ง เลือดสาดกระเซ็นเป็นทางและร่วงกระแทกพื้นก่อนจะกระตุกเพียงสองสามครั้งแล้วแน่นิ่งไป
รีสเลย์จะเข้าไปฟันซ้ำช่วยให้ตายโดยไม่ทรมาน แต่ศรเงินกลับพุ่งตรงมาสกัดกั้นเสียก่อนเขาจึงจำต้องกระโดดหลบและรีบใช้โอกาสตอนที่การบัญชาของฝ่ายศัตรูชะงักงันถอนทัพออกมา
“มาดาฟ...” จีดัสเข้าไปประคองตัวเพื่อนรักเอาไว้ สองมือและเนื้อตัวของเขาจึงเปรอะเปื้อนเลือดแดงไปด้วย แต่เขาไม่สนใจ ไม่สนกระทั่งการกลับไปสั่งการทหารโดนาเมสด้วยซ้ำ
“....”
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร” ปากพร่ำท่องเวทช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ แสงเรืองรองสว่างวาบบนบาดแผลยาวที่หน้าอกแต่ไม่เกิดผลอะไรขึ้น เลือดยังคงไหลทะลักออกมาไม่หยุด
“....”
“ลืมตาขึ้นมาสิ มาดาฟ ข้าบอกให้เจ้าลืมตาขึ้นมาไม่ได้ยินรึไง เจ้ายังไม่ได้ทำหน้าที่คุ้มครองข้าเลยนะ” จีดัสตะคอกใส่ร่างไร้วิญญาณอันนิ่งสนิทนั่น
“....”
“....” จีดัสบีบมือเพื่อนรักแน่น เขารู้ดีว่ามาดาฟคงสิ้นลมหายใจไปตั้งแต่โดนฟันครั้งแรกแล้ว แต่เขายังคงไม่ยอมรับ ร่ายเวทรักษาอย่างเปล่าประโยชน์
ชายหนุ่มผมเงินซึ่งยังคงประคองร่างเพื่อนสนิทเอาไว้เท่านั้นโดยไม่ยอมให้ใครแตะต้อง เขาก้มหน้านิ่งกระทั่งเวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่ทราบ เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าทัพของรีสเลย์ล่าถอยกลับออกไปหมดแล้ว สนามรบรอบข้างมีเพียงซากศพ อาวุธ เลือด และความตาย
“ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขายังมีหน้าที่ที่ต้องทำ
เขาแบกศพเพื่อนรักไว้แล้วค่อย ๆ เดินออกจากสนามรบโดยไม่ยอมพูดอะไรกับใคร ทันใดนั้นเองความรู้สึกเย็นสันหลังวาบก็ทำให้เขาขนลุกโดยไม่ทราบสาเหตุ ราวกับถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ บางคนที่ประสงค์ร้ายต่อเขา เขาหยุดและหันขวับไปยังที่มาของสายตานั่น ชายลึกลับสองคนยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบไม่ไกลจากเขามากนัก ทว่าเขายังไม่ทันจะได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนสองร่างนั้นก็พลันหายวับไปต่อหน้าต่อตา แต่ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นจากสายตาของวิหกเงินผู้นี้ได้
เขาแน่ใจว่าบุคคลปริศนาสองคนนั่นไม่ได้สวมเครื่องแบบทั้งโดนาเมสและเชสนาเลย พวกมันเป็นใครกันแน่
จีดัสได้แต่เก็บงำความสงสัยนี้ไว้ในใจแล้วกลับโดนาเมส ร่างผู้เสียสละชีวิตในสงครามถึงแม้จะยังไม่จัดอย่างเป็นทางการแต่เขาก็นำร่างของมาดาฟเข้าสู่พิธีฝังศพซึ่งจัดอย่างรีบร้อนเสียก่อน
ชายหนุ่มผมเงินในชุดไว้ทุกข์ยืนนิ่งอยู่หน้าป้ายหลุมศพ ป้ายที่สลักไว้อย่างเป็นเกียรติในนามของแม่ทัพผู้กล้าหาญ ผู้สละชีพในหน้าที่รักษาประเทศชาติ มาดาฟ
“ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าอย่างสาสม” เขาพูดเสียงราบเรียบราวกับถูกความเศร้าทั้งมวลสูบอารมณ์อื่นออกไปหมด ร่างสูงค้อมตัวลงเพื่อวางช่อดอกไม้ไว้ทุกข์สีขาวให้ก่อนจะเดินจากมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการแก้แค้น!
ข่าวสงครามครั้งล่าสุดมีชื่อวิหกเงินผู้นำทัพสร้างผลงานจนได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้โด่งดังแพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารและชาวเมืองได้เป็นอย่างดี พระเจ้าซาร์ทเองทรงพอพระทัยไม่น้อยถึงแม้จะยังทรงเคืองในชื่อเสียงของจีดัสที่ได้รับ แต่หลังจากนั้นไม่นานข่าวลือที่ว่ากองทัพเชสนากำลังเตรียมการถอนกำลังก็แพร่ไปทั่วเช่นกัน
จีดัสเองเชื่อว่านี่น่าจะเป็นอุบายอย่างหนึ่งของเชสนาแต่เขาก็แกล้งทำตามแผนการนั้นโดยการส่งกองทัพรุกกดดันทัพรีสเลย์ครั้งแล้วครั้งเล่า หลายครั้งที่ทัพเชสนาเข้าสู่บริเวณที่เขาสามารถโจมตีแตกหักได้ แต่จีดัสก็แกล้งเมินเฉย ราวกับรู้ว่าศัตรูกำลังวางแผนอะไรอยู่
ท่ามกลางสงครามที่วุ่นวาย จีดัสลอบออกจากกองบัญชาการไปยังจุดซุ่มโจมตีเพียงผู้เดียว เขาเลือกสถานที่ที่เป็นมุมอับทางสายตาของพวกรีสเลย์ ก่อนจะปิดบังจิตสังหาร ชายผู้โกรธแค้นตั้งสมาธิแล้วประทับคันธนูเล็งไปยังศีรษะของกษัตริย์แห่งเชสนาด้วยความประณีตเป็นที่สุด
พลังเวทมนตร์สีเงินไหลจากปลายนิ้วก่อร่างเป็นศรสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์แต่ศรในครั้งนี้กลับมีไอเย็นสีขาวแผ่ออกมาจาง ๆ ที่หัวลูกศร นัยน์ตาสีเงินคมกล้าจับจ้องเป้าหมายนิ่งราวกับโลกทั้งใบถูกหยุดเวลาไว้
ความแค้นทำให้จีดัสลืมเลือนความตั้งใจเดิมของตนไปหมดสิ้น สำหรับเวลานี้แล้ว การสังหารรีสเลย์เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะบรรเทาความรู้สึกผิดที่ไม่อาจช่วยเหลือเพื่อนรักได้ให้ลดลงไปบ้างไม่มากก็น้อย เขารวบรวมพลังเวทไว้ที่หัวลูกศรมากขึ้น ๆ หมายสังหารภายในดอกเดียว เมื่อได้จังหวะเขาก็ยิงมันออกไป
ฟุบ!
ความคิดเห็น