ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งซีน: มรดกแห่งสวรรค์ (Chronicle of Ziene: Celestial Legacy) (ตีพิมพ์ สนพ อาเธน่า)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 60


    บทนำ


         บริเวณทุ่งกว้างที่ไม่ห่างออกไปจากอาณาจักรเวนเซล มหาสงครามครั้งใหญ่ที่จะตัดสินชะตาของโลกนี้กำลังปะทุอย่างดุเดือด ฝ่ายหนึ่งคือกองทัพพันธมิตรจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กับฝ่ายของอมนุษย์จากโลกปีศาจ

         สงครามครั้งนี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกมากมาย แต่ใครเล่าจะคิดว่าแท้จริงจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์หาได้เกิดขึ้นแค่ภายในสงครามครั้งนี้ไม่ เวนเซลเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กำลังจะเกิดเหตุการณ์ที่จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของมหาสงครามซึ่งจะถูกจารึกไว้ในภายหลัง...

         ในค่ำคืนอันมืดมิดและเงียบสงัด เวลานี้มีเพียงแสงดาวและแสงไฟจากคบเพลิงที่ถูกจุดไว้เป็นระยะเท่านั้นที่คอยให้แสงสว่างแก่เมืองเมืองแห่งนี้ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะปัดเป่าความมืดมิดให้จางหายไปได้

         ในขณะที่เหล่าผู้คนและเมืองทั้งเมืองกำลังหลับไหลดังเช่นทุก ๆ ราตรีที่ผ่านมา ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังคงฝืนลืมตาตื่นอยู่


         "เปลี่ยนเวรได้แล้ว"

         ทหารหนุ่มที่ยืนสะลึมสะลืออยู่ถึงกับสะดุ้งโหยงเพราะเข้าใจว่ากำลังจะถูกติติงโดยผู้บังคับบัญชาเหตุเพราะเขาเผลอเคลิ้มไปแต่พอเห็นว่าเป็นเพื่อนรุ่นดึกที่คุ้นหน้าเขาก็เบาใจและผ่อนคลายลงอีกครั้ง

         "คืนนี้หนาวจังเลยนะลุง"

    เขาพูดแก้เก้อส่วนทหารชราก็ส่งซุปร้อน ๆ ให้แทนคำตอบ

         "น่าตลกดีนะ ทั้ง ๆ ที่สงครามนั่นใกล้เข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว แต่เมืองเราก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ทหารเฒ่าผู้ผ่านโลกมามากกว่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกยากว่ากำลังกลัวหรือประชดประชัน

         "สงครามระดับนั้น ประเทศเล็ก ๆ อย่างเราจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ไม่มีผลหรอกลุง" เขาว่าพลางซดซุปไปด้วย ไม่มีอะไรที่จะทำให้รู้สึกดีในคืนที่เงียบและหนาวเย็นเช่นนี้เท่ากับซุปร้อน ๆ อีกแล้ว

         ดูเหมือนทหารหนุ่มจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าสงครามจะไม่ขยายวงกว้างมาถึงอาณาจักรเวนเซลอย่างแน่นอน

         "เอาเถอะ แกไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวข้าเฝ้า..."

         ยังไม่สิ้นประโยคดีก็พลันเกิดแสงสว่างเจิดจ้าพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า แสงปริศนาก่อตัวเป็นเสาขนาดยักษ์ทำให้ทหารทั้งคู่ได้แต่มองอึ้งจนปากค้าง แสงสว่างทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เปลี่ยนทั้งเมืองจากยามราตรีให้กลายเป็นรุ่งอรุณ

         แม้ว่าปรากฏการณ์ประหลาดนี้จะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่อึดใจ แต่ทั้งผู้คนและหมู่สัตว์น้อยใหญ่ต่างก็รับรู้ถึงความผิดปกตินี้ ทั่วอาณาบริเวณถูกเติมเต็มไปด้วยเสียงร้องแตกตื่นที่ดังขึ้นอย่างเซ็งแซ่ ไก่ตัวผู้ทั้งหลายต่างโก่งคอขันกันสุดเสียง ฝูงปศุสัตว์ก็เตลิดจนคอกขังแทบพังพาบลงไป

         ชั่วเวลาไม่กี่อึดใจความโกลาหลก็ถาโถมเข้าปกคลุมทั่วอาณาจักร ชาวเมืองต่างถามไถ่ผู้ที่อยู่ใกล้ตัวถึงสภาพอันวิปริตนี้ บ้างก็สวดภาวนาอ้อนวอนต่อเทพ "อีเดส" ผู้เป็นศูนย์กลางทางจิตใจของอาณาจักร ด้วยว่าเหตุการณ์ที่ผิดธรรมชาตินี้จะเป็นลางดีหรือลางร้ายพวกเขาก็จนปัญญาที่จะทราบได้

         ซีวี แอนเทอร์โลนา เด็กสาวผู้เป็นต้นเหตุแห่งความโกลาหลกำลังตะลึงงัน เธอตัวแข็งดั่งต้องมนตร์สะกด เพราะยังทำใจให้เชื่อในสิ่งที่ดวงตาของเธอเห็นไม่ได้ ก่อนหน้านี้เบื้องหน้าของเธอมีลำแสงขนาดใหญ่ที่สาดส่องขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงนี้มีต้นกำเนิดมาจากร่างกายของเธอเอง มันก่อตัวขยายใหญ่ขึ้นจากแสงเล็ก ๆ จนกลายเป็นเสาแสงยักษ์ก่อนจะดับวูบไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

         "กรี้ดดด!!"

         เด็กสาวอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ประหลาดนั้นกรีดร้องขึ้นมาอย่างลืมตัว ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก แต่ก่อนที่พวกเธอจะได้พูดอะไรกัน เสียงตะโกนของชาวบ้านก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

         "นั่นแสงอะไร!"

         "ที่วิหาร! มันมาจากที่วิหารเก่า!"

         ผู้คนเริ่มโวยวายหนักขึ้นและสงสัยถึงต้นตอของแสงประหลาด เสียงเหล่านั้นทำให้เด็กสาวทั้งสองคนตระหนักได้ว่าพวกเธอไม่มีเวลาที่จะมัวมาตะลึงงันอีกแล้ว ด้วยว่าพวกเธอกำลังทำในสิ่งที่เป็นข้อห้ามของอาณาจักรนี้เข้าเสียแล้ว!

         แม้ทั้งคู่จะตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็พยายามรวบรวมสติและพยักหน้าให้สัญญาณแก่กันก่อนแยกย้ายกันไปคนละทิศดังที่เคยนัดแนะกันไว้

         พวกเธอสาวเท้าได้เร็วกว่าที่เคยวิ่งมาตลอดทั้งชีวิต ซีวีนั้นนอกจากจะรู้สึกกลัวว่าจะถูกจับแล้ว ตอนนี้ในสมองของเธอยังคงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้…

         “แสงเมื่อกี้มันอะไรกัน" เธอถามตัวเอง แน่นอนว่าไม่ได้คำตอบใด ๆ

         ในตอนนี้เธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าลำแสงขนาดยักษ์ที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับจะแหวกก้อนเมฆไปให้ถึงสวรรค์นั้นจะเป็นดั่งสัญญาณของอะไรบางอย่างที่จะมีผลต่อประวัติศาสตร์ในยุคนี้!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×