กลับบ้านเฮาเต๊อะ - กลับบ้านเฮาเต๊อะ นิยาย กลับบ้านเฮาเต๊อะ : Dek-D.com - Writer

    กลับบ้านเฮาเต๊อะ

    นี่คือเรื่องราวของ ชายผู้ชายตัวเล็ก และ คนกลุ่มเล็กๆ ในเมืองอันกว้างใหญ่

    ผู้เข้าชมรวม

    107

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    107

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ต.ค. 62 / 15:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    กลับบ้านเฮาเต๊อะ
     
     ตอนที่1. ล้อหมุน

    20 ธันวาคม พ.ศ 2548  ธง หนุ่มเหนือวัยเบญจเพศ เขาเป็นลูกชายคนเล็กของ ผู้ ใหญ่บุญ ผู้ ใหญ่บ้านแห่ง
    หมู่บ้าน ห้วยทรายเงิน จังหวัด เชียงราย เขาได้นำแนวคิดเรื่องการรับเหมาคนงานไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพๆ
    เพื่อที่จะเป็นเพิ่มรายได้ ให้กับคนในหมู่บ้าน เขาได้นำเรื่องไปบอกกับพี่ชายของเขา แต่พี่ชายของเขาให้ ไปขอพ่อเอง
    แต่เมื่อนำเรื่องนี้ ไปบอกกับพ่อของเขาเท่านั้นแหละ ก็ โดนด่าแบบเสียๆหายๆโดยอ้างว่าที่นี่ก็อยู่ดีกินดีมีที่ทำกินอยู่แล้ว
    จะไปทนดิ้นรนกัดฟันที่เมืองหลวงอันมีแต่คนหลอกลวงและวุ่นวายไปทำไมกัน แต่ถึงพ่อเขาจะพูดอย่างไรก็ ไม่สามารถ
    ทำให้ ธง เปลี่ยนความคิดได้เลย  เขาจึงได้ลองไปอ้อนแม่ของเขาให้ลองไปขอพ่อแทน ซึ่งสุดท้ายก็สำเร็จ 
    นางจันทร์ ซึ่งเป็นแม่ของเขาเป็นหญิงแกร่งและมีหัวก้าวหน้า นางได้บอกเหตุผลที่เมื่อสามีนางได้ฟังก็ถึงกับต้องยอม
    โดยนางให้เหตุผลไปว่า การที่จะอย่างนี้ก็เพื่อที่จะทำให้คนในหมู่บ้านของเราได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมาพัฒนาที่นี่ต่อไป
    และอีกอย่างเราในฐานะผู้รับเหมาย่อมต้องได้ส่วนแบ่งมหาศาลเมื่องานเสร็จอย่างแน่นอน 
    เมื่อทุกอย่างลงตัวขาดก็แต่คนงาน...แล้วใครจะมาเป็นคนงานให้ธงกันละ  ธง ได้นอนคิดถึงเรื่องนี้ทั้งคืนจนหลับไป

    เช้าวันต่อมา ขณะที่ ธง กำลังนั่งเหม่อลอยตรงม้านั่งที่หน้าบ้าน จู่ๆเขาก็ ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งตรงเข้ามา
    เป็น ทัพ เพื่อนสนิทเพื่อนตายเพื่อนรักของเขา ทัพ ได้มาบอกกับพร้อมกับร้องห่มร้องไห้แทบจะเป็นบ้าว่า น้องพลอย หญิงคนรักของเขาได้หนีเขาไปที่กรุงเทพๆไปแล้วจะทำไงดี ธง ได้ทจึงปลอบใจเพื่อนแล้วอ้างไป ทำไมเราไม่ไปตามหาน้องพลอยถึงกรุงเทพๆซะเลยละ ทัพ จึงบอกว่าแล้วจะให้ ไปยังไงเงินก็ไม่ค่อยจะมี ธง จึงถือโอกาสบอก
    เรื่องที่เขาได้วางแผนเอาไว้ ให้เพื่อนเขาฟัง ทัพ หัวเราะชอบใจ ว่าแล้วจึงได้วางแผนกับเพื่อนไปว่าถ้าใครมาทำด้วยจะได้เงินและประสบการณ์ที่ดีกลับไป ธง ชอบเเผนนี้มากจึงได้สั่งติดป้ายประกาศตามหาคนงานทันที

    บ่ายของวันนั้น พดด้วง หนุ่มน้อยวัย 19 ปี กำลังนอนเถียงนาเลี้ยงไก่ฟังเพลงจากวิทยุธานินธิ์ตัวโปรด แต่แล้ว
    บอล พี่ชายจอมกวนของเขาก็ ได้ขับมอเตอร์ ไซด์มาหาเขาแล้วชวนให้เขาไปเที่ยวงานวัดคืนนี้ด้วยกัน เขาได้ยินก็ดี ใจ
    และบอกให้พี่เขามานอนเลี้ยงไก่แทนเขาจะไปซักเสื้อตัวเก่งเตรียมไปงานคืนนี้ แต่แกล้งพี่เขาโดยการบอกให้ช้วยปรับ
    สัญญาณวิทยุหาช่องเพลงร๊อคให้เขาหน่อย พี่ชายก็ ใจดีช้วยเปลี่ยนให้น้อชายแต่หายังไงก็ ไม่เจอ เพราะจริงๆมันไม่มี
    พี่ชายของเขายังไม่ทันได้พูดอะไรน้องชายก็ขับมอเตอร์ ไซด์ของเขาจากไปทันที  รู้ตัวอีกทีก็นั่งงงเป็นไก่ตาแตก

    พดด้วง ขับมอเตอร์ ไซด์มาถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นบ้าน ไปถอดเสื้อผ้าอาบนํ้าแต่งตัว และรีบไปที่ตู้เสื้อผ้าหาเสื้อตัวโปรด
    แต่หายังไงก็หาไม่เจอจึงตะโกนหา แม่โหลง ( ย่า ) ถามหาเสื้อตัวโปรดของเขาว่าไปอยู่ที่ ไหน แม่โหลงก็ตะโกนกลับมาว่า เห็นว่าไม่ได้ใส่ตั่งนานแล้วก็เลยได้ ใส่บาตรถวายพระไปตั่งแต่เช้าแล้ว เขาได้ยินก็เข่าทรุดชักดิ้นชักกงอเหมือนกับเด็กน้อย แม่โหลงของเขาก็เลยไปปลอบแล้วให้เงินไปซื้อเสื้อตัวใหม่แทน เขาก็ยกมือไหว้แบบไม่เต็มใจและเดินลงบ้านไป 
    แม่โหลงของเขาก็ ได้แต่ส่ายหัว

    คืนนั้น งานวัดมีแต่ความครึกครื้น มีวงดนตรีมาเล่นเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับคนในหมู่บ้าน มีของมาขาย
    มี สไรด์เดอร์ มาให้เด็กๆเล่น มีบ้านผีสิง และอีกมายมาก พดด้วง ได้เดินดูของที่ขายตามงานจนไปชนเข้ากับ ฟ้า
    เด็กสาวที่เขาเคยแอบหลงรักตอนสมัยวัยเรียนมัธถยม บัดนี้เธอได้เติบโตเป็นหญิงสาวสวยน่ารัก และดูเพียบพร้อมมาก
    โชคดีที่เธอยังจำเขาได้ เขาจึงชวนเธอไปเดินเล่นด้วยกัน เธอก็ตอบตกลง  ทั้งสองได้เข้าบ้านผีสิงด้วยกัน ตอนผีโผล่
    เธอตกใจจนเผลอมาซบไหล่เขา แต่เมื่อได้สติก็พยายามถอยออกห่าง เขาได้ ไปยิงลูกโป่งจนได้ตุ๊กตาหมีเอามาให้เธอ
    เธอบอกกับเขาไปว่า ตอนนี้เธอสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์แล้ว อนาคตอาจกลับมาเปิด
    -อนามัยที่นี่ เขาแสดงความยินดีกับเธอ และแอบนึกสมเพสให้ตัวเองที่ ไม่ยอมเรียนหนังสือ ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้
    โดดเรียนไปทั่ว กลับมานึกดูตอนนี้มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาพยายามเปลี่ยนเรื่องพาเธอเดินไปดูหนังกลางแปลงกัน
    ในขณะที่ดูหนังกัน พดด้วง ได้ขอเบอร์ ฟ้า เธอก็ยอมให้ ทั้งสองสัญญาว่าจะโทรหากัน เมื่อฟ้ากลับกรุงเทพๆไปแล้ว

    เสียงดนตรีของวงดนตรีดังกระหึ่มไปทั่วงาน เหล่าหนุ่มฉกรรจ์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นอายุ 14-18 ปี ต่างพากัน
    เต้นแร้งเต้นกาโยกย้ายส่ายสเต็ปอันพิศดารประชันกันอย่างไม่มีอาย บอล พี่ชายพดด้วงได้ ไปเหยียบเท้าของนักเลงจากอีกหมู่บ้านเข้า แถมยังไม่ยอมขอโทษเขาอีก ซํ้าร้ายยังมาทำหน้ากวนโอ๊ยใส่เขาอีก งานนี้ก็เกมสิครับ ตีกันระนาวเหล่าชาวบ้านต่างพากันวิ่งมามุงดู ( แต่ไม่ห้ามหรอกนะดูอย่างเดียว ) พดด้วง วิ่งมาดูที่เกิดเหตุและวิ่งเข้าไปในวง
    กะว่าจะไปห้ามพี่ชายแต่ตัวเขากลับโดนพ่วงหางเลขโดนรุมต่อยไปอีกคน ไม่นานตำรวจ ส.ห ก็วิ่งเข้ามาแยกวงและจับตัวบรรดานักสู้เลือด ต.จ.ว ไปเข้าโรงพักทีละคนๆ พดด้วง เมื่อโดนรวบตัวออกมาก็กลับไม่เห็น ฟ้า ที่นี่แล้วจึงได้ถอนหายใจและเดินขึ้นรถตำรวจไป

    หลายวันต่อมา เมื่อ สองพี่น้องได้ออกจากคุกก็ ได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม พดด้วง ยังคงนอนนาเลี้ยงไก่
    ส่วน บอล ก็ ได้แต่แว๊นมอเตอร์ ไซด์อย่างเก่า นิสัยไม่ ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย

    คืนนั้น ที่บ้านของทั้งสอง แม่โหลงของพวกเขาได้บอกให้พวกเขาทั้งคู่เข้าไปทำงานรับเหมาก่อสร้างกับ ธง ที่กรุงเทพๆพดด้วง ดี ใจมาก รีบเข้าไปสวมกอดแม่โหลงเขาทันที ( จริงๆแล้วเขาอยากไปหา ฟ้า มากกว่า ) แต่ บอล กลับเซ็งเพราะไม่อยากจากมอเตอร์ ไซด์คันโปรดไป และไม่เคยเข้ากรุงเทพๆมาก่อน จึงได้บอกปฐิเสธ แต่แม่โหลงได้บังคับไว้เขาจึงไม่กล้าที่จะเถียงและยอมตกลงไปแต่โดยดี แม่โหลงได้ตักแกงใส่จานของหลานๆไว้เยอะแล้วบอกว่าไปที่โน้นอย่าห้าวกรุงเทพๆไม่ ใช่บ้านเรา เราไม่รู้จักใครที่นั่นเลย อย่าทำตัวเด่นเป็นเด็ดขาด แล้วนางก็กล่าวทั้งนํ้าตาว่า ตนเลี้ยงดูพวกเขาได้เพียงเท่านี้ พร้อมทั้งด่าพ่อแม่ของทั้งสองอย่างเสียๆหายๆว่า เอากันแล้วก็ทิ้งทั้งคู่มาให้ตนเลี้ยง
    พดด้วง เห็นก็สงสารจึงกุมมือแม่โหลงเขาเอาไว้แน่น และยิ้มเพื่อให้กำลังใจคืนนั้นตอนเข้านอน พดด้วง ได้พยายามกดโทรศัพท์รุ่นโนเกียร์ 3310 เพื่อโทรหา ฟ้า ของเขาแต่โทรยังไงก็ติด เขาจึงถอดใจและนอนหลับไป

    เช้าวันต่อมา ที่บ้านหลังใหญ่โตของ ผู้ ใหญ่บุญ ได้มีชายหนุ่มนับสิบคนมาสมัครงานก่อสร้างกับเขา หนึ่งในนั้นมี 
    หนานปั่น อดีตพระหนุ่มวัย 21 ปี ที่ลาสิขามาเพื่อผจลโลกกว้าง ทุกคนเมื่อเห็นหนานปั่นเดินมาเข้าแถวก็ต่างพากันแซวอย่างสนุกปาก บ้างก็ว่า เบื่อนุ่งจีวรแล้วเหรอ ถึงได้มาใส่เสื้อกับกางเกงแทน  พูดเสร็จก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน หนานปั่น เดินไปเรื่อยๆก็ ไปเหยียบส้นเท้าของ บอล เข้า บอลซึ่งตอนนั้นกำลังอารมณ์ ไม่ดีอยู่จึงเงื้อมมือชกที่
    หน้าหนานปั่นหนึ่งที และกะจะไปกระทืบซํ้าโชคดีที่ พดด้วง มาล๊อคตัวไว้ ได้ทัน ไม่งั้นได้หนักกว่านี้แน่ จากนั้นไม่นาน ธง ก็เดินออกมาและนับจำนวนคนจากนั้นจึงบอกให้ไปขึ้นรถปิ๊กอัพได้ คนที่ขึ้นรถได้ทันก็โชคดี ไป แต่ว่าคนที่ขึ้นไม่ทันก็อดไป และต้องรอรอบหน้า นั่นก็คืออาทิตย์หน้า ทุกคนที่ ไม่ทันต่างก็ส่ายหัวและเดินกลับไปก่อนที่จะออกรถ นางจันทร์ ได้วิ่งมามอบสร้อย ครูบาศรีวิชัย มาคล้องให้ลูกชายคนเล็กของนาง และอวยพรให้โชคดีเดินทางปลอดภัย เขายกมือไหว้ผู้เป็นแม่ จากนั้นจึงบอกให้ ทัพ ออกรถทันที  ผู้ ใหญ่บุญ ได้ยินดูลูกชายตนจากไปอยู่บนบ้าน และถอนหายใจด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

    ขณะที่รถกำลังวิ่งผ่านที่แล้วที่เล่า พดด้วง รู้สึกเหงาจึงโทรศัพท์ไปหา ฟ้า หญิงที่เขาหลงรัก แต่เธอก็ยังไม่รับสายเขาเขาจึงเศร้าใจมาก และกดวางสายไปด้วยความน้อยใจ บอล ผู้เป็นพี่ชายเห็นหน้าน้องไม่ค่อยดีจึงถามว่าเป็นอะไรไปเขาจึงยิ้มสู้เสือและปฐิเสธว่าไม่มีอะไร บอล ได้ยื่นหมูปิ้งไปให้ หนานปั่น กินด้วยกัน แต่เขาก็ปฐิเสธแล้วบอกว่าไม่กินเนื้อ
    บอล จึงถามต่อไปว่าแล้วจะกินอะไรที่นี่ ไม่มีผักเลยนะ หนานปั่น บอกว่ากลืนนํ้าลายก็ ได้  ไก่ หนึ่งในวัยรุ่นที่มาด้วยกันก็จึงยื่นนมถั่วเหลืองให้กินแทน เขาก็รับมาดูดอย่างเร็วเพราะความหิวไก่จึงทักไปว่านมเป็นไขมันนัว่าเป็นเนื้อเหมือนกันนะหนานปั่น จึงทำหน้าตกใจ ทุกคนบนรถจึงพากันหัวเราะชอบใจ ข้างในรถ ทัพ ได้ถาม ธง ไปว่า ที่กรุงเทพๆได้ติดต่อใครไว้หรือยัง ธง พยักหน้า แต่ก็หันไปถอนหายใจเบาๆ

    พระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนข้างหลังต่างพากันหลับไหลอย่างสนิท ยกเว้นข้างในรถที่ ทัพ พยายามข่มตาไม่นอนให้ได้พดด้วง ได้ฝันไปว่า กำลังวิ่งหยอกล้อกับ ฟ้า อย่างสนุกสนาน แต่แล้ว ! ก็ดันเผลอสะดุดขาตัวเองล้มลงและตกใจตื่นขึ้นมา เพราะว่ารถได้สะดุดทางรุกรัง เขาดูนาฬิกาในโทรศัพท์ก็พบว่าเป็นเวลากว่าเที่ยงคืนแล้วจึงนอนต่อ

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา รถได้เลี้ยวเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง ทัพ ได้ปลุกให้ ธง มาขับแทนเพราะตนง่วงมากแล้ว เขาจึงมาขับให้

    เช้าวันต่อมา ธง ได้ขับมาถึงตรงที่นัดหมายกับนายทุนเอาไว้นั่นก็คือ ปธุมวัน เพื่อเตรียมจะสร้าง คอนโดแห่งหนึ่งธง ลงจากรถออกมายึดเส้นยึดสาย ใช้นํ้าเปล่าล้างหน้า และโทรหานายทุนทันที  ไม่นานก็มีชายแก่ลงพุงเดินมาหาเขาคือ คุณ ประสงค์ คงเดช ( นามสุมติ ) นายทุงที่จ้างเขามาทำงานนี้ ทั้งสองพูดคุยเพื่อตกลงกันพดด้วง ตื่นเป็นคนแรก และปลุกให้คนอื่นๆตื่นกัน เมื่อทุกคนตื่น ธง ได้บอกให้ทุกๆคนไปนอนพักที่บ้านพักคนงาน-ก่อน เพราะวันนี้อุปกรณ์หาไม่ครบ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเริ่มทำ ทุกคนจึงเดินตาม คุณ ประสงค์ ไปที่บ้านพักคนงาน

    ที่บ้านพักคนงานมีคนงานชาวอีสานมาพักอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว แต่พวกเขาก็ ไม่ได้คิดอะไร และเดินเข้าไปเพื่อจัดวางของ

    ในตอนแรกกลุ่มของหนุ่มเหนือก็นั่งกองกันอยู่ฝั่งหนึ่ง หนุ่มอีสานก็นั่งกองกันอีกฝั่งหนึ่ง แต่ละกลุ่มไม่สนใจกันเลยแต่เมื่อฝ่ายหนุ่มอีสานนำ ลูกเต๋าไฮโล ออกมาเล่นกัน ฝั่งหนุ่มเหนือที่เปิดโดย ลุงรงค์ ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ ใหญ่คนเดียวของฝั่งภาคเหนือ จึงได้ขอมาเล่นด้วยคน ฝั่งอีสานทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนที่จะบอกให้ชวนคนเหลือมาเล่นให้หมดทั้งสองฝั่งเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานอย่างกับรู้จักกันมานาน พดด้วง เล่นไม่เป็นหรอกแต่ก็นั่งดูด้วยความอยากรู้

    และแล้วคืนนั้นงานปาตี้แบบไทบ้านก็ถูกจัดขึ้น มีลำโพงตัวใหญ่วางไว้หนึ่งตัว มี ไมค์อยู่หนึ่งตัวทั้งสองฝั่งเป่ายิงฉุบกันใครชนะได้ร้องเพลงก่อน ส่วนคนที่เหลือก็เมาอย่างเดียว หนานปั่น ถูกบังคับจากพวกเพื่อนๆ ให้ดื่มเหล้า แต่ไม่กล้าเพราะไม่เคยกินมาก่อน ไก่ จึงถามไปว่าที่ ไม่ยอมกินเพราะบวชอยู่ใช่มั๊ย หนานพยักหน้า ไก่จึงชี้ ไปที่เสื้อของหนาน
    แล้วถามว่า นี่ ใส่อะไรอยู่ หนานบอกว่า เสื้อ ไก่บอกว่า ไม่ใช่จีวรใช่มั๊ย งั้นก็กินได้ เขาจึงยอมกินอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อกินเสร็จก็สำลักออกมา ทุกคนต่างพากันหัวเราะด้วยความสนุกแล้วไมค์ก็ ได้มาถึงมือมือของ พดด้วง ซะที เขาได้ร้องเพลง บ่ออนซอน ด้วยความเมาและความน้อยใจให้กับ ฟ้า เมื่อร้องเสร็จก็วิ่งไปอ้วกนอกห้องทันที  

    คืนนั้นทุกคนต่างพากันหลับสนิทเพราะความเมา บอล ลุกไปฉี่ที่ห้องนํ้า เมื่ออกมาก็เห็นควันแปลกๆตรงห้องครัวก็ตกใจมากจึงตะโกนอย่างกระต่ายตื่นตูมว่า ไฟไหม้ !!!  เท่านั้นแหละทุกคนตื่นหมด รีบวิ่งมาที่ห้องครัวทันทีและสายตาของพวกเขาเห็นก็คือ ! หนุ่มอีสานที่ชื่อ สิงห์ นั่งดูดกัญชาอยู่ที่ ใต้โต๊ะวางจานชาม ทุกคนเห็นต่าพางกันก่นดา บอล หมดเพราะความโมโหและตกใจ บอล ที่รู้อยู่แล้วแต่ที่ตะโกนเพราะอยากแกล้งก็หัวเราะด้วยความสะใจ 

     ( จบตอนที่ 1 )


           ตอนที่2. วัดใจ

    เช้าวันต่อมา  หนุ่มๆทั้งสองภาคตื่นออกมาทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทุกคนมีความสุขดี   

    พักกลางวัน  ขณะที่ทุกๆคนกำลังนั่งกินส้มตำกันอย่างเอร็ดอร่อย พดด้วง ได้ถาม สิงห์ ที่ ไม่ยอมกินว่า
    ทำไมถึงไม่มากินด้วยกัน สิงห์ ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งเหม่อและถอนหายใจจากนั้นก็ลุกออกไป ลุงเคน ผู้ ใหญ่ของฝั่งอีสาน
    ได้บอกกับเขาว่า อย่าไปสนใจมันเลย บักสิงห์มันเพิ่งจะอกหักจากหญิงที่รัก แล้วมันยังโดนพวกของผัวใหม่ที่เป็นเศรษฐี
    มารุมซ้อมจนแทบจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว มีสิ่งเดียวที่จะเยียวยามันได้บ้างนั่นก็คือ กัญญชา พดด้วง ได้ฟังก็ถอนหายใจ

    ตกเย็น ทุกๆคนเมื่อเสร็จงานก็พากันกลับบ้านพักคนงาน 
    ที่นั่น หนานปั่น รีบวิ่งมาเข้าห้องนํ้าเพราะปวดท้องอุจระ แต่ทว่า ตอนนั้น ไก่ กำลังอาบนํ้าอยู่ ซึ่งความจริงเพิ่งจะอาบเสร็จ แต่เพราะอยากแกล้งหนานจึงบอกไปว่า ให้รอไปก่อนยังอาบไม่เสร็จ หนานซึ่งปวดมากจนแทบจะทนไม่ได้ก็พยายามเรียกให้ ไก่ ออกมา แต่ ไก่ ก็อ้างไปว่า เป็นนักบวชไม่ใช่เหรอ ทำไม่แค่นี้ถึงทนไม่ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็เบ่งออก
    มาเลย หนานซึ่งตอนนี้ ได้หมดความอดทนแล้ว จึงนั่งยองๆและเบ่งอึออกมาตรงนั้นแหละ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกใจและรีบวิ่งมาดูทันที  บางคนพากันอ้วกออกมา บางคนก็หาผ้ามาเช็ดอึ ให้  ไก่ เมื่อได้เห็นก็ยืนอึ้งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ขณะที่ทุกคนนั่งเล่นเพื่อฆ่าเวลา บางคนก็เปิดทีวีดูละครไป บางคนก็ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกบ้าน 
    ธง ก็เดินเข้ามาและมอบเงินมาแบ่งให้บรรดาคนงานคนละ 300 ทุกคนต่างพากันดี ใจ เมื่อแจกเสร็จ ธง ก็ขอตัวกลับห้องเช่าข้างๆ ลุงรงค์ ได้ถามเขาว่า อยู่ที่นั่นสองคนถ้ามีอะไรให้ช้วยก็โทรมาหาได้ ธง ยิ้มให้และพยักหน้า แล้วก็ ไป 

    บ่ายของวันต่อมา เป็นเวลาสองโมง แสงแดดกำลังสว่างจ้า รังสีความร้อนแผ่กระจายไปทั่ว ทุกคนแม้เหน็ดเหนื่อยหรือเหงื่อไหลเต็มตัวก็พยายามไม่แสดงความเหนื่อยออกมาให้ใครเห็น  ทันใดนั้น ! ในขณะที่ ลุงรงค์กำลังแบกเหล็กด้วยความขยันและอดทน จู่ๆก็ข้อเท้าพลิกเเละล้มลงไปนอนกับพื้นดิน แท่งเหล็กได้หล่นมาทับเอวของเขา เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกๆคนเมื่อได้เห็นก็รีบวางเครื่องไม้เครื่องมือ และวิ่งไปช้วยพะยุงลุงให้ ไปนั่งพักก่อน

    ที่บ้านพักคนงาน ขณะที่ลุงรงค์ กำลังนอนพักอาการอยู่ที่เสื่อที่ปูเอาไว้ เขาก็เหลือบเห็น สิงห์ เดินเข้ามาและตรงมาที่กระเป๋าของคนงานทุกคน และจัดการขโมยเงินของพวกเขาออกมาหมดเลย เขาหันหน้ามามองลุงนิดหน่อย จากนั้นก็เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุงก็ ได้แต่นอนมองเพราะว่าทำอะไรไม่ได้
    ตกเย็น ทุกคนเดินกลับมาที่บ้านพักคนงาน และพยายามกลับมานับเงินที่กระเป๋าก็ ไม่พบจึงพากันโมโหมาก ลุงรงค์จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟัง บอล เมื่อได้ยินก็ฉุนกึก ฟิวส์ขาดวิ่งออกนอกบ้านบอกจะตามไปฆ่าสิงห์ ทุกคนห้ามแต่เขาก็ ไม่ฟังวิ่งออกไปด้วยความเร็ว พดด้วง ได้ถามลุงรงค์ว่า แล้วสิงห์ ได้บอกหรือเปล่าว่าจะไปไหน ลุงส่ายหัว
    เอาแล้วสิ ! แล้วทีนี้พี่ชายของตนจะไปตามหาคนร้ายที่ ไหนได้ละ ก็ ในเมื่อไม่รู้ว่าตัวคนร้ายไปไหน งานนี้ก็มีแต่หลงพดด้วง เมื่อตั่งสติก็รีบวิ่งออกไปตามพี่ชายกลับมา  แต่เมื่อไปถึงถนนใหญ่เขาก็พบกับความสับสน และลืมทางกลับบ้านพักคนงาน เขาเห็นรถราวิ่งผ่านไปมา เสียงของรถทำให้จิตใจของเขาปั่นป่วน เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่คุกเข่านั่งร้องไห้  

    เช้าวันต่อมา ธง ได้เดินมาตามให้ทุกคนไปทำงานเพราะสายมากแล้ว แต่เมื่อไปถึงก็เห็นทุคนนั่งเหม่อลอยไร้ชีวิตชีวา
    เขาจึงได้ถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น หนานปั่น ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง  ธง ถึงกับหน้าถอดสี ยืนพิงกำแพงทำหน้าเศร้า
    เข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้นจากนั่นจึงปล่อยโฮออกมา

    คืนนั้น พดด้วง เดินเตร็ดเตร่ ไปตามท้องถนน เขาหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรดีตอนนี้เขาเดินไปตามท้องถนนจนไปเห็นเข้ากับลุงแก่ๆคนหนึ่ง ลุงแกเป็นคนตาบอด เขาจึงกะว่าจะพาลุงไปหาที่พักดีๆนั่งเพราะเห็นลุงแกนั่งอยู่กับพื้นฟุตบาด ลุงแกบอกว่า ไม่จำเป็น เพราะลุงแกเป็นคนจรจัดไม่มีบ้าน เหนื่อยที่ ไหนก็พักที่นั่น ข้างกายลุงแกมีแคนอยู่หนึ่งตัวแกบอกว่า ตกทอดมาตั่งแต่ปู่ของลุง จริงๆแล้วลุงเป็นคนอีสานมาทำงานที่นี่ได้ 20 กว่าปีแล้ว แต่ว่าลุงโชคร้าย ดันไปทำงานที่ ใช้สารเคมี และโดนสารเคมีเข้าตาทำให้ตาบอด จากนั้นก็ทำงานไม่ ได้ ไม่มี ใครสนใจ จนต้องระหกระเหเร่ร่อน โชคดีที่ลุงมีแคนอยู่ตัวหนึ่งยังคงพอใช้มันเพื่อประทังชีวิตได้บ้างพดด้วง จึงขออาสาอยู่ช้วยลุงขอทานที่นี่ ตอนแรกลุงก็ปฐิเสธเสียงแข็ง แต่ก็พยายามตื๊อจนลุงใจอ่อน เขาได้เล่ารื่องที่เขาประสบมาให้ลุงฟังทั้งหมด ลุงได้ฟังก็เศร้าใจและยอมให้เขาอยู่ช้วย เขาสัญญากับลุงว่าจะไม่ทิ้งลุงไปไหน

    หลังจากนั้นมา สองลุงหลานก็ช้วยกันเปิดวงดนตรี ( ที่มีแต่แคน ) โดยที่ลุงจะเป็นคนเป่าแคน ส่วนหลานร้องเพลง
    ได้เงินมาเข้ากระเป๋าบ้างถึงแม้จะน้อยนิด แต่พวกเขาก็มีความสุขดี

    25 ธันวาคม 2548 วันคริสมาสต์ ของสากล ขณะที่ พดด้วง กำลังนั่งช้วยลุงตง ( แกชื่อตง ) นับเศษตังค์เศษเหรียญอยู่นั้นเอง
    เขาก็เหลือบเห็น ฟ้า ใช่! เธอนั่นเอง เธอเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่มีของประดับวันคริสมาสต์เต็มไปหมด
    เขารีบวิ่งไปหาเธอกะว่าจะไปทักทาย แต่ทว่า เธอกลับทำเป็นจำเขาไม่ได้ ( น่าอยู่หรอกเพราะสภาพเขาตอนนี้ดูไม่ได้เลย)
    เธอพยายามจะเดินไปให้พ้นจากเขา เขาเองก็พยายามจะรั้งเธอเอาไว้ จนเธอต้องต้องตะโกนร้องให้คนมาช้วย
    ทันใดนั้น ! ก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามารุมทำร้ายเขา ( ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย )   เขาทุกรุมสะกำบาดเจ็บไปทั้งร่างกาย
    เขาเห็นเธอวิ่งจากเขาไปอย่างกับพยายามวิ่งหนีปีศาจร้ายตนหนึ่ง บัดนี้เขาได้รู้ซึ้งแล้วว่าเหตุใดเธอถึงไม่ยอมรับสาย
    ของเขา เจ็บกายยังไม่เจ็บเท่าเจ็บใจ เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์จากไป ทิ้งไว้แต่เพียงร่างของเขาที่นอนจมพื้นดินไร้คนสนใจ
    ลุงตง ค่อยๆเดินมาหาเขา เขาแปลกใจว่าลุงเดินข้ามถนนมาหาเขาได้ยัง ลุงไม่บอกได้แต่ยื่นมือมาพะยุงให้เขาลุกขึ้น
    ไม่นะ! อะไรกันนี่ ! ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนขาเป๋ ไปเสียแล้ว ลุงบอกกับว่า เดี๋ยวก็ชินไปเอง โลกมันเป็นแบบนี้แหละ
    พดด้วง แหงนมองฟ้ากวาดสายตาดูตึกรอบๆตัว และถอนหายใจ

    1 มกราคม  พ.ศ 2549 ปี ใหม่แล้วทุกคนต่างก็มีความสุขกับชีวิตใหม่ 
    ทางด้านของคนงานรับเหมาก่อสร้าง ทุกคนต่างก็ช้วยกันทำงานเหมือนเดิม หนานปั่น ได้ถามหา พดด้วง และ บอล
    กับ ธง เพราะว่าธงเคยสัญญากับทุกคนว่าจะช้วยตามหาทั้งสองคนให้ ธง ทำหน้าเศร้าแต่ก็ยิ้มสู้เสือแล้วบอกว่า
    กำลังตามหาอยู่ และบอกให้ทำงานไปไม่ต้องสนใจเรื่องนี้เดี๋ยวหาเจอก็เห็นเอง หนานไม่ทันได้พูดอะไรก็โดน ไก่ 
    ใช้ ให้มาช้วยแบกปูนให้หน่อย ธง ถือโกาสนี้รีบเดินจากไปทันที

    คืนนั้น ที่ห้องเช่าของ ธง กับ ทัพ ทัพ ได้ถามเพื่อนไปว่า ได้โทรหา คนที่บ้านบ้างหรือยัง ธง ส่ายหัว ธง ได้ถาม ทัพ
    ว่า ตอนนี้หาแฟนเจอรึยัง ทัพ ก็บอกว่า ถ้าหาเจอจะมานั่งด้วยกันที่นี่เหรอ ธง พิงผนังเอามือก่ายหัวและบอก
    ขอโทษเพื่อนที่ตนเองพาเพื่อนมาเดือดร้อนแบบนี้ ทัพ เอามือตบบ่าเพื่อนและยิ้มให้แต่ไม่พูดอะไร จากนั้นจึงหยิบ
    บุหรี่มาสูบ ธง ถามเพื่อนว่าเดี๋ยวนี้สูบด้วยเหรอ ทัพ บอกว่าอย่างน้อยมันก็ช้วยทำให้เขาลืมเรื่องเครียดๆได้
    ธง จึงขอเพื่อนมาสูบอีกมวน ทัพ จึงยื่นมวนบุหรี่ ให้เพื่อนสูบอีกมวน 

    ที่บ้านพักคนงาน  หนานปั่น ดื่มเหล้าจัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเครียดมาก ไก่ บอกให้เขาค่อยๆกินอย่าหักโหม
    แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ไก่ จึงหยิบเอาแก้วเหล้าของเขามาจากมือ เสร็จแล้วจึงปามันทิ้งลงกับพื้น จากนั้นก็ชกหน้าเขาหนึ่งที
    แล้วก็พูดว่า อย่าโง่ไปหน่อยเลย แค่นี้ก็เครียดกันตายห่าอยู่แล้ว พูดจบก็เตะขวดเหล้าจนกระจาย แล้วก็เดินเข้าไปร้องไห้ในห้อนนํ้า
    ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็พากันสลด ลุงเคน ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสได้สั่งให้ทุกคนแยกย้ายไปเข้านอนพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อ
    ลุงเคน ออกมาสูบบุหรี่ข้างนอกบ้าน เขาดูไม่มีทางออกในชีวิตนํ้าตาที่ไหลซึมอยู่นัยตาแต่ก็พยายามกลั้นมันเอาไว้ และเดินเข้าไปข้างใน

    คืนเดียวกัน ที่ริมฟุตบาดกลางถนนใหญ่ ลุงตง เป่าแคนเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ พดด้วง ได้ร้องเพลงอกหัก
    เพื่อระบายจิตใจเหมือนกัน เขาร้องเพลงทั้งนํ้าตา บัดนี้เขาไม่ต่างอะไรกับคนบ้าคนหนึ่ง เขาคิดถึงบ้านเกิดที่เชียงราย
    คิดถึงแม่โหลง คิดถึงเถียงนาน้อย คิดถึงวิทยุธานินท์ และที่สำคัญเขาเสียใจและน้อยใจในตัว ฟ้า มาก ถ้าเลือกได้
    เขาอยากกลับไปตั่งใจเรียน จะได้งานทำดีๆ และที่สำคัญจะได้ครองรัก กับ ฟ้า สาวที่เขารักสุดหัวใจ
     
    เช้าวันต่อมา แสงแดดอันบางตาสาดส่องไปทั่วเมืองกรุง เขาเห็นคนหนุ่มสาวออกไปทำงานของตัวเอง บ้างก็ขึ้นรถเมล์
    บ้างก็นั่งแท็กซี่ และ บ้างก็นั่งรถของตัวเอง และเขาก็เห็น หญิงสาวสวยอายุประมาณ 30 ปี กำลังเดินไปขึ้นรถเมล์
    ด้วยความเร่งรีบ ข้างกายสะพายกระเป๋า และแล้ว ! ก็มีชายคนหนึ่่งแต่งตัวในชุดที่เขาเองก็เหมือนจะจำได้ดี
    วิ่งมากระชากกระเป๋า ของหญิงสาวคนนั้น พดด้วง เห็นจึงรีบไปช้วยเธอทันที เขาวิ่งไปทั้งที่ขาก็กระเผกเพราะขาเป๋
    เขาเข้าไปต่อสู้กับหัวขโมยคนนั้น จนโดนโจรคนนั้นใช้มีดสั้นแทงเข้าไปท้องของเขา เขาล้มลงกับพื้น โจรคนนั้นวิ่งจากไป
    ก่อนไปได้หันมามองหน้าเขาหนึ่งที  พระเจ้า ! ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั่นก็คือ บอล พี่าชายคนเดียวของเขา !
    จู่ๆนํ้าตาของเขาก็ ไหลออกมา บอล ดูเหมือนจะจำเขาไม่ได้ ไม่สิเขาดูไม่เหมือนพี่ชายที่เขารู้จักเลย พดด้วง
    นึกถึงตอนที่ทั้งสองแก้ผ้าวิ่งเล่นด้วยกันตั่งแต่สมัยxยังเล็กกว่าตอนนี้  นึกถึงตอนที่พี่ชายของเขาสอนเขาขับ
    -มอเตอร์ ไซค์เป็นครั้งแรก มันเป็นความทรงจำที่ดี  บัดนี้เหตุใดฟ้ามันช่างมือมิดเช่นนี้ เขาเริ่มหายใจติดขัด 
    โลกทั้งใบเหมือนจะอยุ่ดหมุน  พดด้วง ค่อยๆล้มตัวลงกับพื้น บอล ได้วิ่งจากเขาไปไกลเรื่อยๆ เริ่มมีผู้คนมามุงดูเขา
    เขาเห็น บอล ถูกชายสามคนล๊อคตัว และเอากระเป๋ามาคืนให้หญิงคนนั้น เขายิ้มด้วยความดี ใจ และ ทิ้งตัวลงนอน

                                                        ( จบ ) 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×