คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19 ด้านนึงของซึงโฮ {Suengho's Side} {NC13+ sensored ver.}
ท่านใดหื่นซ่อนเร้นที่ฉบับถมดำ ::: {แอ๊ปหื่น}
ท่านใดหื่นเปิดเผยไปที่บ้านบีสต์ ::: {เปิดเผย}
NC18+ ทั้งคู่ค่ะ เนื้อหาไม่ต่าง แค่จัดไว้วัดระดับความหื่น ฮ่าฮ่า
ส่วนเด็กน้อยวัยใสทั้งหลาย....เรียนเชิญด้านล่างค่ะ
v
v
v
19- Suengho’s side
“พี่ซึงโฮ”
เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังขึ้น เจ้าของชื่อหันไปมองภรรยาของตัวเองที่ยืนอุ้มท้องอยู่อย่างตื่นตระหนก ไม่อยากเชื่อทั้งสายตาและประสาทหูของตัวเองเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จางซอนฮวาควรจะปรากฏตัว.....ที่นี่คือบ้านของซูยัง ผู้หญิงท้องแก่อีกคนที่เขาตั้งใจมาหา
“พี่ซอนฮวา” อีซูยังเรียกชื่อผู้มาใหม่อย่างตกใจเช่นกัน
“ซูยัง เธอท้องลูกของพี่ซึงโฮงั้นเหรอ” ซอนฮวาเปิดฉากถามทันที เธอเดินอุ้มท้องที่โตขึ้นจากการตั้งครรภ์ตรงเข้าไปหาสาวรุ่นน้องที่เธอรู้จักในฐานะคนรักของดูจุน
“ซอนฮวา พี่ขอโทษ”
คนที่เพิ่งมาถึงหันไปมองสามีอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่รับรู้ อีซูยังไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะคำขอโทษจากซึงโฮก็เป็นคำสารภาพที่ชัดเจนพออยู่แล้ว เธอสงสัยมานานว่าสามีของเธอมีใครอีกคนอยู่ในหัวใจ คนที่ซึงโฮเหม่อลอยถึงในยามที่อยู่กับเธอ ถึงแม้เขาพยายามจะปิดบัง แต่สัญชาตญาณหญิงของเธอก็รับรู้ได้ แต่ซอนฮวาไม่เคยคิดเลยว่าคน ๆ นั้นจะเป็นซูยัง
“นี่ถ้าฉันไม่ตามพี่มาวันนี้ ฉันก็คงไม่มีวันได้รู้เรื่องนี้ใช่มั้ย” ซอนฮวาถามขึ้น หน้าหวานที่หันไปมองซูยังมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย
“พี่คะ” หญิงอุ้มท้องอีกคนเอ่ยขึ้น แววตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน เพราะเธอเข้าใจดีว่าซอนฮวาคงหัวใจแหลกสลายไม่แพ้กัน เมื่อรู้ว่าคนรักของตัวเองมีใครอีกคนในใจ
ซูยังมองซอนฮวาอย่างเห็นใจ แล้วทันใจสายตาของเธอก็แข็งกร้าวเมื่อเห็นซึงโฮที่กำลังเดินเข้ามาปลอบภรรยาตัวเอง
“เห็นรึเปล่า เพราะพี่” ซูยังต่อว่าซึงโฮ ร่างสูงที่กำลังเอื้อมมือเพื่อดึงซอนฮวาเข้ามากอดชะงักนิ่ง หันไปมองซูยังที่มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
“ฉันบอกพี่แล้วว่าไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
“ไม่นะซูยัง ยังอยากดูแลเธอ”
ซึงโฮรีบผละจากซอนฮวาแล้วปรี่เข้าไปหาซูยังทันที ถึงแม้อีกคนจะปฏิเสธเขา แต่ซึงโฮก็ยังเพียรมาดูแลซูยังเสมอมานับแต่นั้นจนอีกคนเกือบจะใจอ่อนแล้วแท้ ๆ
ทั้งๆ ที่ซึงโฮเองก็ต้องดูแลซอนฮวาด้วย แต่ทุกครั้งที่หาเวลาได้เขาก็รีบแอบมาที่นี่ทันที คิดอยู่บ้างว่าวันนึงซอนฮวาต้องจับได้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าซูยังจะปฏิเสธเขาอีกครั้ง
ซอนฮวามองการสนธนานั้นอย่างตกใจ พร้อมๆ กับไม่เข้าใจไปด้วย ปฏิกิริยาของซึงโฮมีความห่วงใยต่ออีกคนอยู่มาก ในขณะที่อีซูยังเอ่ยกับซึงโฮอย่างปราศจากเยื่อใยใด ๆ
“แต่ในท้องเธอมันลูกฉันนะ” ซึงโฮพยายามยัดเยียดความรับผิดชอบของตัวเอง หากแต่ด้วยน้ำเสียงแบบนั้นทำซอนฮวาไม่ได้รู้สึกเลยว่าที่สามีของเธอพูดไปจะมีความหมายแค่นั้น
“พี่ไปให้พ้นจากบ้านฉัน ไม่ต้องมาที่นี่อีก”
แต่ซูยังก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนลงเลย เธอเอาแต่ปฏิเสธแล้วเดินหนีเข้าห้องไปทันที ซอนฮวาหันไปมองสีหน้าเจ็บปวดของสามีตัวเองที่ยืนมองบานประตูที่เพิ่งปิดลงไป เธอตามซึงโฮมาถึงบ้านของซูยัง เพื่อมาพบว่าคู่ชีวิตของเธอมีความปรารถนาในผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นหรือ
“เรากลับกันเถอะค่ะ” ซอนฮวาเข้าไปจับไหล่สามีอย่างปลอบปะโลมแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบนิ่ง
ซึงโฮมองหน้าภรรยาตัวเองอย่างตะลึงและรู้สึกผิด ซอนฮวาควรเป็นคนที่เสียใจที่สุดในตอนนี้ เธอควรเกลียดเขาให้เข้ากระดูกดำและต่อว่าออกมาถึงจะถูก พ่อของเด็กทั้งสองที่อยู่ในท้องของซอนฮวาและซูยังหลั่งน้ำตาออกมาอย่างอัดอั้น เมื่อพบว่าภรรยาตามกฏหมายของเขายังทำหน้าที่คู่ชีวิตที่ดีอยู่กระทั่งในเหตุการณ์แบบนี้
หลังจากออกจากบ้านของซูยัง ซึงโฮยังไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากนอกจากคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ซอนฮวามองหน้าสามีอย่างครุ่นคิดตลอดทางที่นั่งรถกลับบ้าน
“พี่ซึงโฮค่ะ” ซอนฮวาเอ่ยเรียกสามีเมื่อถึงบ้าน
”พี่รักเธอจริงๆ ใช่มัยคะ” เธอตัดสินใจถามสิ่งที่ข้อใจออกมา
“ซอนฮวา” น้ำเสียงรู้สึกผิดของซึงโฮตอกย้ำให้ซอนฮวาเกือบน้ำตาร่วงอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ควรจะดูแลเธอและลูก” หากแต่หญิงสาวกลับแสดงความเข้มแข็งออกมา ถ้าหากว่าซูยังคือคนที่สามีเธอต้องการ เธอก็พร้อมที่จะเข้าใจ
“แล้วเราสองคนล่ะ”
นี่คงเป็นสิ่งที่ซึงโฮคิดไม่ตกมาตลอด ซอนฮวายิ้มตอบให้กับคำถามนั้น
“ฉันอยู่ได้ ฉันมีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้วพี่ก็รู้.....ฉันจะรักพี่เหมือนเดิม แต่ในเมื่อใจพี่ไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ฉันก็ควรจะปล่อยพี่ไป”
ซึงโฮรวบตัวภรรยาเข้ามากอดอย่างซึ้งใจ รู้ดีอยู่ว่าซอนฮวาเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร คนที่เคยมัดใจเขาได้และเขาไม่คิดว่าจะมีใครทำให้หัวใจเข่สั่นครอนได้จวบจนซูยังปรากฏตัว
“ไม่ ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะดูแลลูกเอง”
แต่ดูเหมือนคนอีกคนจะไม่ยอมรับบทสรุปนี้ อีซูยังตอบปฏิเสธทันทีเมื่อซึงโฮและซอนฮวาที่ตกลงกันได้แล้วกลับมาหาเธอที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
“แต่ซูยัง ฉันยินดีจะรับผิดชอบ และซอนฮวาก็.....”
“ซูยัง เธอควรคิดถึงลูกให้มากนะ เด็กต้องมีพ่อ” ซอนฮวาช่วยซึงโฮพูด
“แล้วพี่จะบอกลูกพี่ว่ายังไง ลูกของเรามีพ่อคนเดียวกันนะ”
ซึ่งซูยังก็ต่อกกลับมาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมจางซอนฮวาต้องเสียสละสามีตัวเองมาให้เธอ ซูยังไม่ต้องการเป็นคนที่ทำลายครอบครัวของใคร
“ฉันเชื่อว่พี่ซึงโฮรักเธอจริงๆ” ซอนฮวาช่วยอ้อนวอนทั้งที่ในใจเธอเองก็เจ็บ
“แต่ฉันเกลียดเขา ฉันขอเถอะ อย่ามายุ่งกับฉัน คิดเสียเราไม่เกี่ยวข้องกัน อย่ายื่นมือมาช่วยฉันไม่ว่าทางไหน”
แต่ความดื้อดึงของซูยังมีอยู่มาก ยิ่งเห็นซอนฮวาทำตัวเสียสละแบบนี้ เธอก็ยิ่งปฏิเสธซึงโฮมากขึ้นเพราะความสงสารลูกผู้หญิงด้วยกัน หัวใจที่เกือบโอนอ่อนให้ซึงโฮกลับมาแข็งข้อขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวเดินหนีเข้าไปในตัวบ้าน หยิบกรอบรูปบนโต๊ะที่มีรูปคู่ระหว่างตัวเองและดูจุนขึ้นมองด้วยความคิดถึง
“เธอไม่เคยคิดจะวางใจในตัวฉันบ้างเหรอ”
ซึงโฮที่เดินตามเข้ามาเห็นดังนั้นก็เริ่มน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเอง ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะสู้ผู้ชายในรูปได้
“ในใจฉัน มีแต่ดูจุนเท่านั้น” ซูยังตอบพลางน้ำตาไหล
จางซึงโฮไม่พอใจอย่างที่สุดกับการกระทำที่ไม่เห็นใจเขาแม้แต่น้อยของซูยัง ร่างสูงปรี่เข้าไปหมายจะแย่งชิงกรอบรูปนั้น
“พี่ซึงโฮ อย่านะ”
ซอนฮวาที่รีบเดินตามเข้ามาทีหลังกล่าวขึ้นน้ำเสียงตกใจ เมื่อซูยังไม่ยอมมอบกรอบรูปนั้นให้ซึงโฮแต่โดยดี เธอมองภาพการยื้อยุดระหว่างทั้งสองอย่างตกใจ ซูยังเองก็ท้องโตไม่ต่างกับเธอ น่ากลัวว่าเคลื่อนไหวรุนแรงขนาดนั้นอาจส่งผลร้ายต่อเด็ก
ซูยังเองก็คงห่วงใยลูกในท้องเช่นกัน และเมื่อเห็นทีม่าว่าจะเพลี้งพล้ำต่อแรงของซึงโฮจนตัวเองกำลังจะเซล้มไป เธอก็เผลอเหวี่ยงมือที่ถือกรอบรูปเพื่อเป็นแรงในการผยุงตัวจนวัตถุในมือฝาดเข้ากับข้างศรีษะของซึงโฮเต็ม ๆ
“อ๊ะ!”
ซึงโฮเซไปอย่างอึ้ง ๆ หยาดเลือดไหลลงไล้ข้างหูเป็นเส้น ซอนฮวาตกใจรีบตรงเข้าไปหาสามี
“พี่ซึงโฮ ฉันขอโทษ”
ซูยังซึ่งเป็นตัวต้นเหตุตกใจเช่นกัน เธอเอ่ยคำขอโทษอย่างแผ่วเบา แต่หญิงท้องแก่ก็ต้องชะงักไปเมื่อซึงโฮดึงสายตากลับมามองเธออย่างตัดพ้อ
“เธอคงเกลียดฉันมากสินะ”
“ฉัน…”
“ก็ดี….นับจากนี้ฉันจะเลิกสนใจเธอและลูก ฉันจะลืมว่าเคยรักเธอ เคยรัก.....จนขนาดที่จะทิ้งเมียและลูกของตัวเองมาหาเธอ”
ถึงตอนนี้ซึงโฮเริ่มหมดความอดทนที่มีต่อซูยังแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขายอมสละทุกอย่ามาเพื่อคนตรงหน้า แต่ทำไมอีกคนซึงต้องทำกับเขาถึงเพียงนี้ ทั้ง ๆ ที่ซอนฮวาก็แสนดี แต่ซึงโฮเลือกที่จะทำร้ายจิตใจภรรยาตัวเองก็เพื่อผู้หญิงที่ไม่แม้แต่จะเห็นเขาในสายตา
“พี่ซึงโฮ” ซอนฮวาที่ถูกพาดพิงท้วงขึ้น
“ต่อจากนี้ไป ฉันจะมีเพียงซอนฮวาและลูกเท่านั้น”
จางซึงโฮเอ่ยเสียงแข็ง พยายามมองตาซูยังเพื่อหาร่องรอยความอาลัยที่มีต่อตัวเอง แต่ก็ว่างเปล่า ซูยังมองเขากลับด้วยสายตาที่มีแต่ความรู้สึกผิด ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกของเขาคนนี้ ไม่มีความรักให้เขาแม้แต่เสี้ยวเดียว
“พี่ซึงโฮ อย่าทำแบบนี้เลย”
ซอนฮวารับรู้ได้ถึงความรวดร้าวในน้ำเสียงของสามี เธอหันมองซูยังอย่างอ้อนวอน เธอเชื่อว่าถ้าซูยังให้โอกาส ด้วยความรักที่ซึงโฮมีให้ เขาจะสามารถทำให้ครอบครัวนี้มีความสุขได้ ส่วนตัวเธอ ถึงแม้มันจะดูไม่ยุติธรรมกับเธอ แต่ในเมื่อเธอมองแล้วว่ายอมรับมันได้ ซูยังควรรับฟังและยอมรับเรื่องนี้ ซอนฮวาคิดว่าการปล่อยให้ซึงโฮอยู่กับเธอทั้งที่หัวใจอยู่ที่ซูยัง แบบนั้นล่ะ ที่ทำร้ายเธอที่สุด
“ให้พี่ได้แก้ตัวเถอะซอนฮวา พี่ทำผิดกับเธอมาก พี่จะลืมผู้หญิงคนนี้ซะ ได้โปรดให้โอกาสพี่”
ในขณะที่ซอนฮวาพยายามส่งสายตาร้องขอต่อซูยัง ซึงโฮก็จับไหล่ให้เธอหันมาฟังรับฟังสิ่งที่ทำให้เธอต้องน้ำตาไหลออกมาด้วยความสังเวทใจ
บรรยากาศภายในบ้านของซึงโฮยังไม่ค่อยดีหนัก ตอนนี้ทั้งจุนฮยองและฮยอนซึงต่างมีสีหน้าหนักใจระคนเห็นใจ จางซึงโฮยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมเคลื่อนตัวไปไหน ราวกับว่าสิ่งที่ซอนฮวาเพิ่งเล่าจบไปเมื่อครู่นั้นกำลังย้อนความปวดร้าวในใจให้ผุดขึ้นอีกครั้ง
“พี่ซึงโฮทำได้จริง ๆ เขาดูแลพี่และอูยองอย่างดีอย่างที่พวกเธอเห็น”
ซอนฮวายืนยันอีกครั้งต่อหน้าฮยอนซึงและจุนฮยอง ซึงโฮสามารถทำให้เธอกลับมาเชื่อมั่นในความเป็นพ่อและสามีของเขาได้
“พี่ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พี่ซึงโฮทำต่อซูยังมันถูกหรอกนะ ที่พี่จะบอกก็คือ....พี่ซึงโฮก็พยายามจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนกัน”
“พี่รักซูยังจริงๆ”
จุนฮยองพึมพำขึ้น เขาชำเลืองมองฮยอนซึงที่กำลังมองซึงโฮอยู่เช่นกัน เขาเห็นความรู้สึกผิดฉายชัดบนแววตาของคนรัก เป็นอย่างที่เขาคิด ฮยอนซึงกำลังโทษตัวเอง
“พี่รักซูยังตั้งแต่แรกงั้นเหรอ” จุนฮยองถามขึ้น
ถ้าสิ่งที่ซึงโฮทำไปแต่แรกเพราะหลงรักซูยังไปแล้ว ฮยอนซึงก็สามารถปลดเอกตัวเองออกจากข้อหาที่เป็นต้นเหตุให้ซูยังเคราะห์ร้ายได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ซอนฮวาเล่ามายังไม่ได้บอกถึงข้อนั้น
“ไม่เลย ฉันไม่ได้รักเขาสักนิด” ซึงโฮที่เงียบไปนานตอบกลับด้วยเสียงสะอื้น
“พี่ฮะ”
ฮยอนซึงเรียกชื่อพี่ชายอย่างเห็นใจ ร่างบางผละจากจุนฮยองเดินเข้าไปหาคนเป็นพี่จนใกล้พอที่จะเห็นหยดน้ำตาที่รินออกมา
“พี่กับเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกันเลยนะฮยอนซึง ครอบครัวของพี่มีแค่เธอ ซอนฮวา แล้วก็อูยอง”
จางซึงโฮยังคงบอกแบบนั้นซ้ำไปมาราวกับหุ่นยนต์ที่ชำรุด
++++ Hide and Seek ++++
ท้องฟ้าเริ่มสางขึ้นแล้ว ดูจุนและโยซอบยังคงนอนกอดก่ายกันอยู่อย่างหลวม ๆ เจ้าตัวเล็กฮงกียังคงนอนพ่นฟองน้ำลายฟ่อดตกอยู่ในห้วงลึกของฝันหวาน เสื้อนอนที่ดูจุนคลุมเอาไว้ถูกปัดมากองอยู่ข้างแก้มยุ้ย
โยซอบนอนมองหน้าลูกชายด้วยความเอ็นดู ใบหน้าที่ปกติจะขาวใสยังคงแดงระเรื่อ คงเพราะความรักที่ดูจุนมอบให้มันกินเวลายาวนานจนตัวเขามีหยาดเหงื่อไหลซึมทั่วกาย ความเจ็บปวดที่ช่วงล่างยังหลงเหลืออยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก โยซอบรู้สึกถึงแขนแกร่งที่กระชับตัวเขาเอาไว้กอดรัดแน่นขึ้นจนทำเขารู้ตัวว่าอีกคนก็ยังไม่หลับเช่นกัน
“พี่ฝืนทุกครั้งที่อยู่กับฮงกีใช่มั้ย”
โยซอบถามออกไปพลางอมยิ้มเมื่อลูกตัวแสบกำลังยกมือขึ้นคว้าอากาศมากินเล่น ท่าทางจะฝันว่าได้กินเบอร์เกอร์
“อ่า...เปล่านี่”
ดูจุนยกหัวขึ้นมองฮงกีอีกราย ก่อนตอบกลับแบบไม่เต็มเสียงนัก ไม่ค่อยอยากให้อีกคนรู้สักเท่าไหร่ เรื่องที่เขากลัวเด็กนั่นน่ะ
“กีกวังบอกผมว่าดงอุนเล่าว่าพี่มีความทรงจำที่ไม่ดี” โยซอบบอกตามที่รู้
“กีกวังเล่าว่าดงอุนเป็นห่วงพี่มากตอนที่พี่พบฮงกีในรถ แล้วพี่ก็ช็อคไป”
ที่จริงถึงกีกวังไม่บอก คนตัวเล็กสัมผัสได้อยู่บ้างว่าดูจุนผิดปกติ ในเมื่อดูจุนแสดงสีหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่เรื่อยในเวลาที่ฮงกีพุ่งเข้าหา
ดูจุนคิ้วกระตุกเมื่อรู้ว่าความลับแตกเข้าให้ แต่วิธีที่โยซอบใช้บอกเล่ากลับทำให้เขายิ้มน้อย ๆ
“แล้ว....กีกวังบอกว่าดงอุนเล่าอะไรให้ฟังอีก”
ทุก ๆ อย่างคงมาจากดงอุน ไอ้น้องปากไม่มีหูรูดสินะ แล้วก็ลอยลมมาเข้าหูโยซอบด้วยฝีปากของกีกวัง
“เรื่อง……แม่ของพี่”
ดูจุนชะงักไปในทันที ถ้าดงอุนจะปากโป้งขนาดนี้ล่ะก็ เขาคิดว่าเขาควรเย็บปากไอ้ญาติผู้น้องคนนี้ไว้
“นายรู้เรื่องนี้มานานรึยัง” ดูจุนสอบถามเมื่อแน่ใจแล้วว่าโยซอบคงรู้เรื่องที่มาของโรคกลัวเด็กของเขาโดยละเอียดแล้ว
“ก็หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาล”
“งั้นนายก็แอบหัวเราะฉันอยู่ทุกครั้งล่ะซิ เวลาเห็นฉันตุ๊ดแตกเพราะฮงกี”
“ก็...กลั้นแทบไม่อยู่เหมือนกัน”
“นายนี่....จริงๆ เลย”
ดูจุนโอดครวญใส่โยซอบ เมื่อรู้ว่าอีกคนแอบหัวเราะเขาอยู่ในใจมานานแล้ว ทั้งสองส่งเสียงคิกคักใส่กันอย่างอารมณ์ดี
“นี่แหน่ะ ฉันจะเอาคืนบ้าง”
ดูจุนแกล้งเอาคืนโยซอบด้วยการเลื่อนมือขึ้นมาจี้ที่หลังหูจนอีกคนต้องดิ้นหนีพัลวัน
“คิก พี่ดูจุน หยุดนะ คิคิ.......ฮ่ะ ๆ อุ๊บ” โยซอบที่เผลอหัวเราะเสียงดังรีบเอามือทั้งสองข้างอุดปากตัวเองเมื่อนึกได้ว่าฮงกีนอนอยู่ข้าง ๆ
“อ๊ะ”
แต่กลายเป็นว่านอกจากปากแล้ว โยซอบก็ไม่อาจปกป้องส่วนใดของร่างกายได้เลย จนดูจุนฉวยโอกาสนั้นรั้งเอวของร่างเล็กเข้าใกล้จนหน้าท้องแนบชิดกัน คราวนี้เองที่โยซอบนึกขึ้นมาได้ว่าภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนี้ ทั้งเขาและดูจุนต่างปราศจากเสื้อผ้าปกคลุมร่างกาย
“นายให้อภัยพี่แล้วใช่มั้ย” ดูจุนจ้องเข้าไปในดวงตาใสของโยซอบอย่างหวานเยิ้ม
“ก็ยอมพูดด้วยแล้วนี่”
ประกายตาหวานนั้นทำให้โยซอบต้องหลุบสายตาหนีแล้วตอบมาอย่างเขินอาย รู้ดีว่าที่ตัวเองยอมไปมันเลยเถิดไปมากกว่าแค่การพูดคุย
“งั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกันจริงๆ แล้วใช่มั้ย” ดูจุนกลายร่างเป็นจอมขี้ตู่ขึ้นมา
“ระ เรื่องนั้น”
“รึเราจะไม่เป็นแฟนกันดี”
เมื่อเห็นว่าโยซอบตะกุกตะกัก ดูจุนก็แกล้งเอ่ยออกมาแบบนั้น สิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าตกใจของอีกคนที่ไม่เช้าใจว่าตกลงดูจุนจะเอายังไงกันแน่
“ก็...ฉันเป็นพ่อของฮงกี ส่วนนายเป็นป๊ะป๋า เอาเป็นว่าพวกเราเป็น……..ครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”
ดูจุนอธิบายให้โยซอบได้ดึงสีหน้าเขินอายกลับมาอีกครั้ง
“ใช่” แล้วโยซอบก็นึกบางอย่างขึ้นได้ “เรื่องนั้น พี่กล้าทำอย่างนั้นได้ไง ป๊ะป๋าของฮงกียกนิ้วชี้หน้าดูจุนที่เลิกคิ้วขึ้นเพราะไม่เข้าใจคำถาม เขากล้าทำอะไรลงไป
“กล้าดียังไงถึงขโมยฮงกีแล้วชิงเป็นพ่อซะเฉย ๆ”
ดูจุนอ้าปากอ๋อพยักหน้ายอมรับความผิดแต่โดยดี
“ก็.....” เขาพยายามนึกคำอธิบาย แต่ ณ จุดนี้ สมองสั่งการไม่ทันจริง ๆ
“ผมล้อเล่นน่ะ” โยซอบเอ่ยกลั้วขำ ก่อนจะพูดต่อ
“มาคิดดูแล้ว การที่พี่เป็นพ่อของฮงกีก็ไม่แย่เท่าไหร่”
คำพูดของโยซอบทำให้ดูจุนยิ้มจนแก้มปริ แน่ใจได้ในทันทีว่าป๊ะป๋าของฮงกีให้อภัยเขาหมดสิ้นแล้ว เขาค่อย ๆ เคลื่อนหน้าเข้าใกล้อีกคนมากขึ้น แต่กลับถูกคนตัวเล็กใช้มือดันตัวไว้ที่อกแทน ดูจุนจึงทำได้เพียงกระชับตัวเข้าใกล้และรัดแน่นขึ้นจนผิวเนื้อเบียดกัน
“อะ......เอ่อ....แล้วเรื่องคุณจุนฮยองล่ะ”
โยซอบถามด้วยสีหน้าเครียดขึ้น เขารู้สึกเป็นห่วงจุนฮยองและฮยอนซึงมากพอดู ถึงจะไม่สนิทกันมากนัก แต่โยซอบก็รับรู้ได้ว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน และเหนือสิ่งอื่นใด การที่เขายกเรื่องนี้มาพูด อีกเหตุผลหนึ่งคือเขาพยายามพาตัวเองออกจากแรงพิศสวาทของดูจุนที่ทำให้เขารู้สึกร้อนไปหมดทั้งตัวแล้วตอนนี้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีพวกเราคงต้องเล่าความจริงให้ฮยอนซึงรู้”
เหมือนว่าจะได้ผล เมื่อดูจุนผ่อนแรงที่กอดรัดออกแล้วตอมกลับมาอย่างเหนื่อยล้า ทั้งที่คิดว่าวันนึงฮยอนซึงต้องรู้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ที่จริงมันก็ควรเป็นอย่างนั้นตั้งนานแล้วล่ะ”
โยซอบตอกกลับแบบเควี้ยงค้อนลงหัวอีกคนเบา ๆ คนตัวเล็กไม่ชอบใจกับการปิดบังแบบนี้แต่แรก แต่เพราะฮยอนซึงเป็นเพื่อนสนิทของดูจุน เขาถึงได้ยอมทำตามที่ดูจุนบอก
แต่โยซอบกลับทำพลาดไป คำพูดติดน้ำเสียงอวดดีของเขาทำให้ดูจุนรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมากระทันหัน แล้วไอ้อารมณ์ที่คลายลงเมื่อนึกถึงเรื่องของฮยอนซึงเมื่อกี้ก็แล่นกลับมาอีกครั้ง
“งั้นเหรอ จริงสินะ เรื่องของเรามันก็ควรจะเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้วด้วยเหมือนกัน”
ดูจุนกระซิบพลางรวบตัวโยซอบมาแนบชิดอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเพิ่มโปรโมชั่นซุกไซ้ที่ซอกคอให้ด้วย
“อ๊ะ.....อ่า”
โยซอบอุทานเมื่อเจอการปลุกเร้าแบบไม่ทันตั้งตัว แต่สุดท้ายก็เผลอไผลไปอีกจนได้ ไม่ว่าดูจุนจะแตะต้องส่วนไหน มันก็ทำให้โยซอบรู้สึกวาบหวามได้ทั้งนั้น
คนที่เป็นพ่อตามกฏหมายของฮงกีปรือตามองโยซอบที่โอนอ่อนตามการลากไล้ริมฝีปากไปทั่วตัวของเขาอย่างย่ามใจ การเคลื่อนไหวของทั้งคู่ทำให้ผืนผ้าห่มที่คลุมอยู่ขยุกย่นนลงมาจนเผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าท่อนบน
ดูจุนยกตัวขึ้นแล้วโน้มประทับริมฝีปากของโยซอบที่รอรับอยู่อย่างเต็มใจ ผ้าห่มก็ยิ่งร่นต่ำลงอีกจนค้างติดอยู่ที่บั้นท้ายของดูจุนอย่างหมื่นเหม่ แผ่นหลังแน่นของคสตัวโตขยับเคลื่อนไปพร้อมจังหวะการเอียงองศาจูบ ลิ้นหนารุกล้ำเข้าไปควานทั่วปากอย่างกระหายราวกับจะช่วงชิงความหวานออกมาให้หมดสิ้น
“อื้อ”
โยซอบส่งเสียงครางหวาน ขนลุกชันทั่วอณูเมื่อรับรู้ถึงความหนาวของเครื่องปรับอากาศที่พ่นลมเย็นปะทะร่างกาย ริมฝีปากเล็กเคลื่อนตามปากหนาที่ดูจุนถอนออกอย่างเสียดาย แต่คนตัวโตก็ไม่ปล่อยให้โยซอบรู้สึกปล่าวเปลี่ยว ดูจุนลากลิ้นต่อเนื่องจากแก้มนิ่มมาถึงใบหูแล้วกัดเม้มเบา ๆ พร้อมทั้งใช้มือปลาหมึกลูบไล้ไปทั่วตัว ทั้งคู่กอดกระหวัดกันแนบแน่น
“อือ....อีกรอบนะครับ ป๊ะป๋าของฮงกี”
ดูจุนกระซิบเสียงแหบแห้งทั้งที่ยังมัวเมาอยู่กับการลิ้มเลียที่ใบหูของร่างเล็ก
“อ่าส์.....แต่พี่ดูจุน ...อืม”
“อืม..ว่าไงโยซอบ”
“ด่ะ ...เดี๋ยว...”
ก่อนที่จะถูกรุกรานไปมากกว่านี้ โยซอบก็ออกอาการต่อต้านในที่สุด แต่ดูจุนที่หูหนวกไปแล้วเพราะอารมณ์ที่ลุกโชนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามการประท้วงนั้น ร่างหนากดจูบเน้น ๆ แล้ว จากหน้าอกสู่หน้าท้อง เคลื่อนลงต่ำไปเรื่อย ๆ จากหน้าท้องสู่ท้องน้อย
“....หยุดแป๊บนึงก่อนนะครับ......คุณพ่อของฮงกี”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปจากปากของโยซอบ พร้อมกับการขยุ้มที่เรือนผมของดูจุนเบา ๆ ทำให้อีกคนโงหัวขึ้นมาฟังจนก่อนที่ริมฝีปากจะทันได้ครอบครองส่วนกลางร่างกายของอีกคน ดูจุนมองหน้าโยซอบด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
“ผม....” โยซอบหันไปมองที่ฮงกี “ผมกลัวฮงกีตื่น” จากนั้นโยซอบก็หันกลับมามองดูจุน ทำหน้าเหมือนกระดากที่จะพูดต่อ
“คราวนี้พี่อย่าทำให้เตียงกระเทือนนะ”
ดูจุนยิ้มกริ่มมองโยซอบที่พยายามเบือนหน้าหนีอย่างรักใคร่ ป๊ะป๋าของฮงกีคนนี้ทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมด คนตัวโตก็หยุดคิดตามคำของโยซอบชั่วครู่
“เรื่องนั้น....ฉันไม่รับปากนะ”
ดูจุนจึงไม่อาจรับปากได้ว่าตัวเขาจะยับยั้งใจได้แค่ไหน แต่การแก้ปัญหาเรื่องมันก็มีอยู่ ดูจุนใช้ประโยชน์จากร่างกายที่แข็งแรง นำผ้าห่มห่อตัวโยซอบแล้วอุ้มพาอีกคนย้ายไปยังเบาะนุ่มที่โซนห้องรับแขก ถึงแม้จะอยู่ห่างกันไม่มากนัก ทั้งยังไม่มีผนังกั้น แต่อย่างน้อยเขาก็ทำอะไรตามต้องการได้
คราวนี้....จะโยกแรงแค่ไหนก็ได้สินะ
++++ Hide and Seek ++++
เช้ารุ่งขึ้นหลังจากผ่านกิจกรรมร้อนแรงเมื่อคืน โยซอบตื่นขึ้นบนแผ่นอกแกร่งของดูจุนที่ห้องรับแขก ร่างเล็กรีบปลุกให้อีกคนตื่นตามและจัดแจงตัวเองก่อนที่ฮงกีจะตื่นมาพบ
“ฮงกีครับ ตื่นได้แล้วครับ เดี๋ยวป๊ะป๋าพาไปโรงเรียนนะ”
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย โยซอบก็สวมบทบาทป๊ะป๋าที่แสนดีทันที ส่วนดูจุนที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอารมณ์ดี
เป็นชีวิตครอบครัวที่เปี่ยมสุขจริง ๆ
“งื้อ ป๊ะป๋าโยซอบ ฮงกีฝันว่าแผ่นดินไหวด้วย” ฮงกีสะลึมสะลือยกมือป้อมขยี้ขี้ตาตัวเอง
อ๊ะ!
โยซอบตาโตหันไปมองดูจุนอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งอีกคนก็ตาฉีกในรัศมีความกว้างไม่ต่างกันมากนัก นั่นคงเป็นผลจากกิจกรรมในรอบแรก ยูนดูจุนควรซื้อเสียงระบบพอกเก็ตที่ป้องกันการกระเทือนได้ หรือไม่เขาก็ควรจะกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนแล้วจับเจ้าฮงกีไปยัดไว้สักห้องนึงจะดีกว่า
“เอ่อ....ฮงกี อาบน้ำแล้วมาดื่มโกโก้ร้อนกันเถอะ เดี๋ยวฉันชงให้”
“อ๋า คุณเทวดาจะชงให้ฮงกีเหรอ”
พอดูจุนเสนอตัวว่าจะทำอะไรให้เท่านั้นล่ะ เจ้าตัวแสบที่งัวเงียพูดเรื่องชวนตกใจอยู่ก็ตื่นเต็มตาแล้ววิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำไปทันที ดูจุนมีสมบัติพร้อมที่จะเป็นพ่อของฮงกีจริง ๆ โยซอบหันไปมองอย่างสงสัยว่า....ไอ้ทักษะการเปลี่ยนเรื่องแบบฉับไวนี้ดูจุนไปได้แต่ใดมา
“รู้สึกฮงกีจะรักพี่มากกว่าผมนะ”
“น่า....ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฮงกีชอบฉันนัก” ดูจุนเดินเข้ามาหาโยซอบ แล้วยิ้มให้ “รู้แต่ว่าฉันชอบนายมากกว่าใครในโลก” ยังไม่วายหยอดคำหวาน
โยซอบมองหน้าพ่อของฮงกีแล้วยิ้มรับอย่างมีความสุข ยิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็พาลตัวร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น ท่อนล่างของโยซอบยังปวดร้าวอยู่ด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องทำตัวเป็นปกติต่อหน้าฮงกี ดูจุนก้าวขาจะเดินเข้ากอดโยซอบแต่ก็โดนขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์เสียก่อน
“ฮัลโหล จุนฮยอง” ดูจุนเอ่ยชื่อขึ้นตามเบอร์โทรที่แสดงหราบนหน้าจอมือถือ
“อ้าว ฮยอนซึง นี่พวกนายเจอกันแล้วเหรอ” แต่แล้วคนที่โทรมากลับเป็นฮยอนซึงแทน น้ำเสียงดีใจของดูจุนเรียกให้โยซอบสนใจแอบฟังทันที
“อะไรนะ ตอนนี้อยู่ที่บ้านพี่ซึงโฮ แล้วนาย...”
คนตัวเล็กนิ่วหน้าสงสัยเมื่อดูจุนพูดชื่อซึงโฮออกมา
“รู้ทุกอย่างแล้วเหรอ” ดูจุนกล่าวเสียงต่ำลง
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบไปหา”
“มีอะไรเหรอครับ” โยซอบถามขึ้นทันทีเมื่อดูจุนวางสาย
“ฮยอนซึงบอกว่ามีเรื่องที่พวกเราควรรู้ ให้ไปที่บ้านพี่ซึงโฮ”
ทั้งดูจุนและโยซอบต่างแปลกใจไม่ต่างกัน ทั้งคู่ตัดสินใจจะไปส่งฮงกีที่โรงเรียนก่อนที่จะตรงไปบ้านของซึงโฮด้วยกัน
“เสร็จแล้ว ๆ”
เสียงก้องของฮงกีดังออกมาจากห้องน้ำ ทำให้ดูจุนและโยซอบละความคิดจากเรื่องของฮยอนซึงมาสนใจที่เจ้าเด็กจอมซนที่วิ่งตัวเปียกแฉะออกมา ผ้าเผ่อไม่ต้องปกปิดมันหรอก เจ้าช้างน้อยโตงเตงนั่นน่ะ
“เอ้ย....ด่ะ...เดี๋ยวฉันไปชงโกโก้ด่วนเลย”
ดูจุนที่เห็นว่าฮงกีที่ตัวชุ่มน้ำกำลังวิ่งเข้าใส่ก็รีบชิ่งไปชงโกโก้ทันที สงสัยว่าฮงกีจะวิ่งผ่านน้ำซะมากกว่า อาบเร็วยิ่งกว่าดาวน์โหลดสามจีเสียอีก
“คึคึ” โยซอบหลุดหัวเราะก่อนที่จะรีบเม้มปากเก็บเสียงเมื่อเห็นว่าดูจุนมองค้อนกลับมา
“คึ..เดี๋ยวเถอะฮงกี ทำไมไม่เช็ดตัวก่อนออกจากห้องน้ำครับ ฮ่ะๆๆ” โยซอบติงลูกชาย พลางเดินไปหยิบผ้าขนหนู แต่พอหันไปมองที่ดูจุนที่ตั้งหน้าตั้งตาชงโกโก้แบบลืมตายก็หลุดขำอีกจนได้
เหมือนแม่บ้านที่วงไพ่แตกยังไงยังงั้น คิคิ
“เอามา ๆ ฮงกีจะให้คุณเทวดาเช็ดให้”
ฮงกีรีบวิ่งไปดึงผ้าขนหนูออกจากมือโยซอบแล้ววิ่งจู๊ดไปที่ดูจุนทันที หยดน้ำไหลย้อยตามทางที่ขาสั้นจ้ำไป
โยซอบมองตามเจ้าลูกชายไป อยากจะน้อยใจบ้างอะไรบ้างที่ไม่ว่าอะไรฮงกีก็มีแต่คุณเทวดาไปเสียหมด เขามองดูจุนที่ถูกฮงกีเกาะขาจนปลายกางเกงเปียกแล้วถึงกับต้องพ่นขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“โอ๊ะ โอย...”
หัวเราะมาก ๆ เข้าก็ร้าวไปถึงตรงนั้นขึ้นมา แต่จะให้อดไหวได้ไง ในเมื่อดูจุนยืนนิ่งราวกับรูปปั้นในสุสานจิ๋นซี คงจะมีแค่มือที่ถือช้อนชงอยู่นั่นแหละที่สั่นเทาจนผงโกโก้ร่วงเกลื่อนไปหมด แล้วไหนจะน้ำตาที่ซึมออกมาที่หางตานั่นอีกล่ะ
ช...ช่วย-ด้วย
ดูจุนปั้นปากเป็นประโยคขอความช่วยเหลืออย่างไร้ซึ่งเสียง ใบหน้าที่หล่อเหลาเริ่มยับยู่ยี่
แต่โยซอบกลับแกล้งสะบัดบ๊อบใส่ ใจนึงก็อยากช่วย พอก้มลงมองฮงกีที่รักดูจุนจนเกินเหตุก็เกิดหมั่นไส้ขึ้นมาเสียก่อน จนในที่สุดความอิจฉาก็เข้าครอบงำป๊ะป๋าตกกระป๋องอย่างโยซอบ คนตัวเล็กปั้นปากส่งประโยคเงียบกลับไปหนึ่งประโยคตามด้วยแลบลิ้นใส่ไปหนึ่งที
ยูน-ดู-จุน….พี่-มัน-โจร-ขะ-โมย-ลูก-ชาย
ดูจุนอ่านปากได้ดังนั้นก็แทบจะทรุดตัวลงร้องไห้ แต่ที่ไม่ทรุดนี่ก็เพราะฮงกีอยู่ข้างล่างน่ะสิ ขืนลงไปอยู่ระดับเดียวกันมีหวังเจ้าลูกที่ขโมยเขามาคงกระโดดกอดคอให้หัวใจวายอีกแน่ มันใช่เวลาที่โยซอบควรอิจฉากันเหรอ ดูหน้าเขาสิ มันน่าอิจฉาตรงไหน
แต่ถึงจะหมั่นไส้ดูจุนและน้อยใจฮงกี โยซอบก็ยังคงรักเจ้าตัวน้อยเหมือนเดิม เขาเข้าไปจับฮงกีแยกออกมาจากดูจุน เช็ดตัวให้ลูกชายแล้วจับทาแป้งจนหน้าขาววอกเป็นการแก้แค้นแทน เอาให้อายเพื่อนที่โรงเรียนไปเลย
ทั้งสามคน คุณเทวดา ป๊ะป๋า และฮงกี นั่งทานอาหารเช้ากันก่อนจะออกจากห้องเพื่อพาฮงกีไปส่งที่โรงเรียน ซึ่งเจ้าตัวก็ดีใจมากที่วันนี้จะได้พบกับอูยองและฮีชอลเสียที หลังจากถูกจับมาเป็นตัวประกันซะนาน
“ฮงกีจะนั่งตัก” เสียงฮงกีท้วงขึ้นเมื่อโยซอบที่อุ้มเขาอยู่กำลังจะวางเขาลงที่เบาะด้านหลัง
“ครับผม ๆ” โยซอบตามใจลูกชาย เขารีบอุ้มเด็กน้อยกลับขึ้นมา หันไปสบตาดูจุนที่ยืนทำหน้าเบ้อยู่ฝั่งคนขับ
ก็แหงล่ะ ถ้านั่งตักก็หมายความว่าฮงกีจะอยู่ใกล้ดูจุนมาก มากขนาดที่ดูจุนไม่มั่นใจว่าเขาจะขับรถไปรอดรึเปล่า แต่ถ้าโยซอบว่ายังไง เขาก็ว่าตามกัน ถึงแม้จะอยากร้องไห้อีกแล้วก็เถอะ
โยซอบนั่งลงโดยมีฮงกีนั่งตัก จากนั้นคนตัวเล็กก็คาดเข็มขัดนิรภัยทับทั้งตัวเขาและฮงกี ส่วนดูจุนก็นั่งลงฝั่งคนขับแล้วคาดอุปกรณ์นิรภัยเช่นกัน เขาติดเครื่องรถแล้วขับออกไปจากลานจอดรถ
วันนี้รถแน่นถนนไม่น้อย ดูจุนขับรถออกมาอย่างไม่เร่งรีบนัก แต่เพราะรถคันข้างหน้าดูจะไม่เชี่ยวชาญในการขับนัก ทำให้ดูจุนนึกอยากจะแซงไปให้พ้น ๆ เพราะขืนตามหลังอยู่แบบนี้อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้
เอี๊ยด
แล้วก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อรถข้างหน้าเกิดเบรคกระทันหันจนหน้ารถของดูจุนเข้าไปจูบก้นคันหน้าอย่างจัง ทั้งดูจุนและโยซอบต่างตัวกระตุกอย่างรุนแรงไปพร้อม ๆ กัน
“นายเป็นไงบ้าง” ดูจุนรีบตรวจสอบคนที่มากับเขาด้วยทันที
“ไม่เป็นไรครับ อูย”
โยซอบไม่มีบาดแผลใหม่เกิดขึ้น จะเจ็บก็แต่ช่วงล่างที่น่าจะระบมขึ้นมานี่แหละ คนตัวเล็กตรวจสภาพตัวเองแล้วก้มลงปลอบลูกชายที่นั่งอยู่บนตัก
“ฮงกี ตกใจไหมครับ”
“……..”
โยซอบถามลูกชายแต่เจ้าตัวแสบไม่ตอบกลับ
“ฮงกี!”
++++ Hide and Seek ++++
“พี่ซึงโฮ”
ฮยอนซึงเคาะประตูเรียกพี่ชายที่ตอนนี้เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ตอนนี้ซอนฮวาทำหน้าที่แม่บ้านพาอูยองไปส่งโรงเรียนแล้วแต่เช้า
คืนที่ผ่านมานอกจากอูยองแล้ว คนที่อยู่บ้านนี้ทุกคนไม่อาจข่มตาหลับได้ ทั้งจุนฮยอง ฮยอนซึงและซอนฮวา ต่างนั่งคุยกันอย่างคร่ำเครียดตลอดทั้งคืน
“ดูจุนมาช้าจัง” จุนฮยองบ่นออกมาเมื่อมองนาฬิกาแล้วพบว่านี่มันกินเวลานานเกินไปแล้วนับจากที่ฮยอนซึงติดต่อเพื่อนสนิทไป
ร่างสูงล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก พลางเดินเข้ามาจับไหล่ฮยอนซึงที่ยืนพิงอยู่หน้าห้องนอนของพี่ชาย ไม่นานนักก็มีการตอบรับจากอีกฝั่ง
“ฮัลโหล ดูจุน นายออกมารึยัง” จุนฮยองถาม
“อะไรนะ ฮงกี!” เสียงจุนฮยองดังขึ้น ข่างสารจากดูจุนน่าตกใจไม่น้อยจนฮยอนซึงต้องสะดุ้งตัวขึ้นยืนตรงเพื่อฟังอย่างตั้งใจ เกิดอะไรขึ้นกับฮงกีงั้นหรือ
“ฮยอนซึง พวกดูจุนอยู่โรงพยาบาล”
ฮยอนซึงตาโตกับสิ่งที่จุนฮยองพูด จะบอกว่าฮงกีเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ
“เกิดอะไรขึ้น!”
ก่อนที่จะทราบอะไรแน่ชัด คนเป็นพี่ที่ขังตัวเองอยู่ก็เปิดประตูออกมาถามอย่างร้อนใจไม่แพ้กัน
++++ Hide and Seek ++++
“พี่ดูจุน ฮงกีจะเป็นอะไรไหม” โยซอบถามขึ้น ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
“ใจเย็นๆ ก่อนโยซอบ” ดูจุนปลอบ เขาเองก็เครียดไม่น้อย
“แต่ผมไม่เข้าใจ พวกเราแทบไม่เป็นอะไรเลย แต่ทำไมฮงกี” โยซอบร้องไห้ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฮงกีถึงแน่นิ่งไปในขณะที่พวกเขาทั้งคู่แทบไม่มีร่องรอยบาดเจ็บเลย
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยมากครับ”
โยซอบและดูจุนหันไปตามเสียง ตั้งใจฟังสิ่งที่ชายสูงวัยในชุดคุณหมอเอ่ยบอก
“ในกรณีแบบนี้ คุณให้ลูกชายนั่งบนตักแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยสินะครับ”
โยซอบพยักหน้าตอบ
“ที่จริงคุณควรทราบนะครับว่าการทำอย่างนั้น เด็กที่นั่งอยู่ด้านหน้าจะได้รับแรงกระแทกมากกว่าที่ควร” คุณหมอคงเลือกคำพูดมาอธิบายที่สุดแล้ว
“พี่ดูจุน....เพราะผม”
ดูจุนกอดปลอบอีกคนอย่างเห็นใจและโทษตัวเองเช่นกัน ในความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น ทั้งเขาโยซอบเข้าใจมัน
หมายความว่าฮงกีรับแรงกระแทกจากโยซอบที่นั่งซ้อนหลังอยู่ด้วย หรือถ้าจะแปลให้ทำร้ายจิตใจมากขึ้นก็คือ’ฮงกีทำหน้าที่เป็นแอร์แบ็คให้โยซอบนั่นเอง’
“แรงกระแทกขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สำหรับเด็ก...มันอาจจะทำให้อวัยวะภายในบอบช้ำ และอาจเสียชีวิตได้ครับ” คุณหมอพูดต่อราวกับว่าจะไม่เห็นใจโยซอบที่กำลังโทษตัวเองอยู่เลย
อาจเสียชีวิต....ประโยคนี้ทำให้ทุกคนที่เพิ่งตามมาถึงใจหายวาบ
“หมายความว่าไง....”
เสียงดังก้องอย่างตกใจดังมาจากด้านหลังของคุณหมอ ดูจุนและโยซอบมองข้ามไหล่ไปก็พบกับซึงโฮที่ยืนตะลึงอยู่
“พี่ซึงโฮ”
“คุณซึงโฮ”
++++ Hide and Seek ++++
TALK
อ่า....นี่ฉ้านทำอะไรลงไป๊!!!!!!!
สิ่งที่เกิดขึ้นกับฮงกีมันเป็นไปตามพล็อตที่วางไว้นั่นแหละค่ะ หวังว่าจะไม่เกลี่ยดกัน
ขอบคุณที่ยังอ่านกันและขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ
ปล....จะหายไปที่'เปิดเผย'กันหมดมั้ยเนี่ย T^T
รอแชปฯหน้ากันด้วยเน้อ จะจบแว้วววว
หรือสปอยด์ไว้ดีว่า.....แชปฯจะพาสนามเด็กเล่นมาลง ฮ่าฮ่า
ความคิดเห็น