ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic-BEAST] Hide and Seek: หัวใจโป้งแปะ! [DooSeob]

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10 ความจริงกำลังหลุดจากปาก {The Truth Is Coming}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 465
      4
      22 ก.พ. 62

    10- The truth is coming
     
     
     
     
    “พี่ซึงโฮ”
     
     
    การปรากฏตัวของซึงโฮสร้างความตกใจให้ดูจุนเป็นอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย เขาเหลียวไปถลึงตาถามกับฮยอนซึงที่แสดงสีหน้าลำบากใจอยู่ข้างๆ
     
     
     
    ทำไมจางซึงโฮถึงมาที่นี่? 
     
     
     
    ซึงโฮกดยิ้มเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของดูจุน ทั้งสองคนไม่ได้เผชิญหน้ากันแบบนี้เสียนาน ใบหน้าคมเข้มของดูจุนไม่เปลี่ยนไปเลยจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว 
     
     
    “ไม่ได้เจอกันนานนะดูจุน” รอยยิ้มร้ายถูกฉาบไปด้วยการทักทายที่เป็นกันเอง 
     
     
    “ใครน่ะพี่ดูจุน” เสียงของโยซอบดังออกมาจากในครัว
     
     
    โยซอบชะโงกใบหน้าออกมาสำรวจอาคันตุกะที่มาในวันนี้ คนตัวเล็กก็ทำการยิ้มทักทายแล้วกระตุกคอให้เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นฮยอนซึง แต่เพราะความไม่คุ้นกับใบหน้าของชายอีกคนที่กำลังอุ้มอูยองอยู่ ทำให้โยซอบต้องผละจากฮงกีและเดินออกมาที่ประตู เขาหยุดยืนข้างดูจุนก่อนจะสังเกตเห็นร่องรอยความตกใจบนใบหน้าเข้ม
     
     
     
    พี่ดูจุนเป็นอะไร?
     
     
     
    “ฮงกี ฮงกี๊ ฮงกี่ เปรี้ยวหวานมันอร่อย  )) อูยองจะหาฮงกี” อูยองที่โยกตัวสนุกร้องเพลงที่แต่งขึ้นมาเองเพื่อเรียกหาเพื่อนรัก
     
     
    โยซอบเลื่อนมุมมองจากคนข้างตัวมาที่อูยอง ก่อนจะเลยไปถึงชายแปลกหน้าที่มากับฮยอนซึง เขาค่อยๆ ประติดประต่อเรื่องราว ชายคนนี้มากับฮยอนซึง ทั้งยังอุ้มอูยองอยู่
     
     
     
    คงจะไม่ใช่....
     
     
     
    ซึงโฮปรายตามองไปยังโยซอบที่เดินออกมามองเขาด้วยความแปลก
     
     
     
    นี่สินะคนที่อยากเจอ ตัวจริงน่ารักไม่เบา
     
     
     
    เขามองโยซอบราวกับเห็นเป็นอาหารจานโปรดจนโยซอบรู้สึกแปลกๆ จนต้องขยับตัวเลื่อนไปอยู่ด้านหลังของดูจุน ซึงโฮพอใจในหน้าตาอันหมดจรดของชายหนุ่มตั้งแต่แรกเห็นในรูปถ่าย ดังนั้นเมื่อกลับมาเหยียบเกาหลี ก็อดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาชื่นชมตัวจริงสักหน่อย พ่อของอูยองหันไปมองดูจุนแล้วยิ้มยั่วท้าทายเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังมีท่าที หงุดหงิดเพราะสายตาที่ซึงโฮมองโยซอบ
     
     
     
    เข้าใจสินะ
     
     
     
    ยูนดูจุนและจางซึงโฮมักพึงพอใจใส่สิ่งเดียวกันเสมอ……อีซูยังก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นและตอนนี้ก็กลายเป็นยังโยซอบ ทั้งๆ ที่ซึงโฮไม่เคยคิดจะสนใจใยดีลูกชายที่ตัวเองไม่ต้องการมาก่อน แต่เมื่อได้เห็นรูปของโยซอบ ทำให้ซึงโฮต้องทบทวนความคิดของตัวเองใหม่
     
     
     
    การมีลูกเพิ่มขึ้นมามันก็มีประโยชน์เหมือนกัน
     
     
     
    นี่คือสิ่งที่ซึงโฮคิด
     
     
     
    ยังโยซอบต้องเป็นเหมือนอีซูยัง 
     
     
     
    ความเป็นพ่อของฮงกีจะกลายเป็นหมากสำคัญในการดำเนินแผนการของเขา เหมือนกับการต่อสู้แย่งชิงเจ้าหญิงในนิทานที่มีอัศวินคอยพิทักษ์อยู่ แต่มังกรไฟอย่างซึงโฮก็ไม่ได้กลัวเลยสักนิด เขาเคยคว่ำอัศวินไปได้หนนึงแล้ว ครั้งนี้เขาก็จะทำมันอีกครั้ง 
     
     
     
    ก็แค่....กำจัดอัศวินนั้นไปซะ!
     
     
     
    “สวัสดีครับ......ผม.........จางซึงโฮ” ซึงโฮแนะนำตัวเองโดยตั้งใจเน้นหนักให้คนที่สนใจฟังอยู่ได้ยินชัดเจน 
     
     
    ชื่อที่ได้ยินทำให้โยซอบรู้สึกแทบจะหยุดหายใจ เพราะคนที่ดูจุนบอกว่าเป็นพ่อของฮงกีตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้าเขาโดยอุ้มลูกชายวัยกระเตาะของ ตัวเองเอาไว้ โยซอบหันไปมองดูจุนอย่างทำอะไรไม่ถูก ในตอนแรกเขารู้สึกตกใจ จากนั้นก็ตามมาด้วยความคับแค้น ดวงตาที่ฉายแววเกลียดชังปรากฎขึ้นจนฮยอนซึงที่มองอยู่ต้องขมวดคิ้วสวยอย่าง ไม่เข้าใจ
     
     
    แม้ว่าโยซอบอยากจะตะโกนขับไล่ออกให้ซึงโฮออกไป แต่เมื่อเขาประจักว่าฮยอนซึงยังอยู่ที่นี่ด้วย ทำให้เขาไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการได้ เพราะเขาสัญญากับดูจุนเอาไว้ว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากฮยอนซึง 
     
     
    ทั้งฮงกี อูยอง และฮยอนซึงที่ยืนอยู่ด้วยล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ควรได้รับรู้ความชั่วร้ายของผู้ชายคนนี้ 
     
     
    โย ซอบลากสายตาตามซึงโฮอย่างช่วยไม่ได้ เขามองซึงโฮที่เดินสำรวจห้องหับอย่างทั่วถึงและใจเย็น ตอนนี้โยซอบรู้สึกหูอื้อไปหมด คิดวนไปวนมาตลอดเวลาว่านี่นะเหรอพ่อของฮงกี จนกระทั่งเมื่อสายตาของซึงโฮหยุดอยู่กับฮงกีที่ยืนชงเครื่องดื่มร้อนสี เข้มอย่างตั้งใจในครัว 
     
     
    “นั่นคืออีฮงกี...สินะ” เสียงพึมพำเบาๆ เล็ดลอดออกมาจากชายหนุ่มพร้อมด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
     
     
     
    เหมือนอย่างที่พี่ดูจุนบอก จางซึงโฮไม่ใช่คนดี
     
     
     
    “อูยอง!” 
     
     
    ฮงกีที่หันหน้ามาพบกับอูยองตะโกนเรียกอูยองดังลั่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ก็ยังไม่ละมือจากแก้วโกโก้ที่ตัวเองกำลังชงอยู่ 
     
     
    “นี่อูยอง นายมากับใครน่ะ?” เด็กน้อยเอนคอถาม
     
     
    อาจเพราะฮงกีไม่เคยพบซึงโฮมาก่อนทำให้เขาไม่รู้ว่าชายร่างกำยำที่อุ้มเพื่อนของเขาอยู่เป็นใคร เด็กชายหยีตาทำหน้าสงสัยมองไปยังซึงโฮที่กำลังลดตัวเพื่อวางอูยองลงที่พื้น ซึ่งอูยองก็รีบปรี่เข้าไปในครัวทันที
     
     
    เด็กๆ ถูกปล่อยให้เล่นสนุกสนานกันตามประสา ในขณะที่ผู้ใหญ่ต่างคิดกันไปคนละเรื่อง โยซอบกำลังโกรธกริ้ว อึดอัด และอยากจะตะโกนด่าทอซึงโฮแต่ทำไม่ได้เพราะฮยอนซึงอยู่ที่นี่ด้วย ส่วนดูจุนกำลังเป็นห่วงกลัวว่าฮยอนซึงจะรู้ความจริงเพราะโยซอบ ไม่ใช่เขาจะว่าโยซอบปากโป้ง เพียงแต่ความชิงชังที่โยซอบมีต่อพ่อของฮงกีนั้นเป็นของจริง มันคงยากมากที่โยซอบจะระงับอารมณ์ไว้ได้
     
     
    ในขณะที่ฮยอนซึงกำลังรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องที่ตนสงสัยว่าฮงกีเป็นลูกของซูยัง แต่กลับนำเรื่องนี้ไปปรึกษาซึงโฮแทน ดูจุนก็ไม่ต่างกับจุนฮยองที่ไม่ได้ถูกชะตากับซึงโฮนักหนา เพียงแต่ปฏิกิริยาต่อต้านจะมีน้อยกว่าเท่านั้น จางฮยอนซึงใส่ใจกับทุกความรู้สึกของทุกคน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกปกป้องจากใครหลายๆ คน
     
     
    “ฮยอนซึงไปหยิบของฝากในรถมาให้พี่ทีสิ” ซึงโฮทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น
     
     
    “ของฝาก?”
     
     
    มันน่าแปลกใจที่พี่ชายขอติดรถมารับอูยองที่โรงเรียนด้วย เพราะปกติซึงโฮไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ ไหนจะเรื่องที่ถามหาฮงกีกับอาจารย์ประจำชั้นอีก พอรู้ว่าเด็กน้อยถูกรับกลับมาแล้วก็ยังไม่วายขอให้เขาพาเจอที่นี่ แล้วนี่อะไร มีของฝากมาด้วยอย่างนั้นเหรอ แต่ร่างบางก็ยังทำตามที่พี่ชายไว้วานอย่างว่าง่าย
     
     
    เมื่อคล้อยหลังฮยอนซึงพร้อมกับประตูห้องที่ปิดลง ซึงโฮที่ที่ยังมองไปยังฮงกีที่กำลังสอนอูยองชงโกโก้อยู่ก็กล่าวออกมาทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าโยซอบมองมาที่เขาเขม็งด้วยใบหน้าแดงก่ำอยากยากที่จะเก็บความรู้สึกคับแค้นไว้ได้
     
     
    “เด็กฮงกีเป็นลูกของซูยังไม่ใช่เหรอ ลูกของเพื่อนน้องชาย ฉันก็ต้องเอาใจใส่หน่อย” 
     
     
    เฮือก
     
     
    คำพูดของซึงโฮกระแทกเข้าใส่โยซอบและดูจุนอย่างจัง โยซอบหันไปมองดูจุนด้วยสีหน้าเครียด เพราะแทนที่ซึงโฮจะบอกว่าให้ของขวัญฮงกีในฐานะเพื่อนรักของลูกชาย แต่กลับให้ในฐานะของลูกชายของซูยัง คนตัวโตด้านข้างแสดงออกว่าแปลกใจเช่นกัน เขาไม่แน่ใจว่าซึงโฮต้องการอะไรกันแน่ 
     
     
    “พี่รู้เรื่องฮงกีได้ยังไง” ผู้บริหารหนุ่มตัดสินใจถาม ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงแรงตึงของเสื้อเชิ๊ตที่ถูกโยซอบกำไว้เป็นกระจุกเพื่อ ระงับอารมณ์
     
     
    “ฉันเหรอ หึ เรื่องของลูกชายตัวเอง มันก็ต้องรู้กันสักหน่อยล่ะ จริงมั้ย?” ซึงโฮแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ
     
     
    “คุณยอมรับ?” เสียงเล็กถามขึ้น 
     
     
    แม้ว่ายังโยซอบจะเป็นคนที่มีน้ำเสียงนุ่มนวลและไพเราะ หากแต่ครั้งนี้ยูนดูจุนสังเกตุได้ว่าประโยคที่เอ่ยออกมามันมีความโกรธเกลียดแฝงออกมาด้วย ทั้งคู่ยืนนิ่งมองไปที่ซึงโฮที่ยักคิ้วตอบคำถามของโยซอบอย่างไม่ยี่หระ
     
     
    “แล้วไง?”
     
     
    เขายอมรับก็ได้ว่าเป็นพ่อ แต่ก็ใช่ว่าจะมารับผิดชอบอะไร เขาก็แค่อยากใช้ประโยชน์จากฮงกี ไหนๆ ก็อุตส่าห์ทำให้เกิดมาทั้งที
     
     
    “คุณมันเลว” โยซอบแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป คนตัวเล็กอยากจะเข้าไปขย้ำคอจางซึงโฮให้รู้แล้วรู้รอด ที่เขายังยืนนิ่งอยู่ได้ก็คงเป็นเพราะฝ่ามืออุ่นของดูจุนที่เอื้อมมาแตะปลอบ ที่ต้นแขนไว้
     
     
    “ก็ไม่เท่ากับคนข้างๆ นายหรอก” ซึงโฮใจเย็นตอบกลับพร้อมเบือนหน้าไปทางดูจุน “นี่มันก็แค่ผลพวงมาจากการกระทำของนายนะดูจุน”
     
     
    “จางซึงโฮ!”
     
     
    ยูนดูจุนทะลึ่งตัวเข้าคว้าคอเสื้อของซึงโฮแทน ทั้งที่เมื่อกี้ยังเป็นคนรั้งโยซอบไว้แท้ๆ ซึงโฮยังคงสงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน ในขณะที่ดูจุนกำลังรู้สึกกลัวในส่งที่ซึงโฮจะกล่าวต่อ ถึงจะรู้ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำพลาดไปแต่ดูจุนก็ไม่อยากให้ซึงโฮพูดมัน ออกมาในเวลาที่ต่อหน้าโยซอบอยู่
     
     
    “อะไรกัน หมายความว่าไง?” โยซอบที่ตกใจกับท่าทางโกรธเกรี้ยวของดูจุนถามขึ้น พลางใช้แรงที่มีไม่มากของตัวเองลากดูจุนออกมา
     
     
    “คุณลุงดูจุนกับคุณพ่อกำลังเล่นอะไรกันเหรอฮะ?” ฮงกีกับอูยองวิ่งออกมาแอบดูต้นเสียง ทั้งคู่มาเกาะกันอยู่ที่หน้าประตูครัวอย่างหวาดๆ 
     
     
    เสียงดังของดูจุนเรียกความสนใจจากเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ในครัวจนต้องพากันเดินออกมาดู โยซอบที่กำลังบีบแขนดูจุนเพื่อให้ผ่อนคลายอารมณ์โกรธอยู่จึงต้องรีบวิ่งไปทางฮงกีและอูยอง คนตัวเล็กพยายามพาเด็กน้อยกลับเข้าไปพลางอธิบายว่ามันไม่มีอะไร
     
     
    ดูจุนสะบัดมือที่ขยุ้มอยู่ที่คอเสื้อของซึงโฮออกอย่างหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ จนซึงโฮต้องผุดยิ้มเยาะออกมาทันที ปฏิกิริยาของดูจุนเป็นไปตามที่เขาคิด แผนการที่เตรียมมากำลังดำเนินต่อไปอย่างที่มันควรจะเป็น
     
     
    “อ้าว นายยังเล่าไม่หมดสินะ ยูนดูจุน อยากให้ฉันเล่าต่อให้จบมั้ยล่ะ”
     
     
    ร่างสูงพูดเสียงดังเพื่อให้โยซอบที่กำลังหันเหความสนใจของเด็กๆ อยู่ได้ยิน เพราะคิดว่าโยซอบต้องกำลังพยายามฟังอยู่เป็นแน่
     
     
    “หยุดปากพล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ดูจุนเข่นเขี้ยวใส่ เริ่มรู้เหตุผลในการปรกฎตัวของซึงโฮ
     
     
    ก่อนที่ซึงโฮจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ ฮยอนซึงที่ถูกไว้วานให้ไปหยิบของฝากจากในรถก็เดินหอบกล่องของขวัญขนาดกลางรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่หนานักขึ้นมา ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความสงสัยทันทีเมื่อพบว่าบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีก่อนหน้านี้ดูจะเลวร้ายเพิ่มขึ้นไปอีก
     
     
    “ฮยอน ซึง นายพาพี่ชายนายกลับไปซะ” ยูนดูจุนไม่อยากจะทนอีกต่อไป ขืนซึงโฮยังอยู่ที่นี่ สิ่งที่เขาปกปิดโยซอบไว้ต้องเปิดเผยแน่ และอาจมีผลไปถึงความลับที่พวกเขาปิดฮยอนซึงอยู่ด้วย
     
     
    ฮยอนซึงที่ไม่เข้าใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวได้แต่มองตามซึงโฮที่เดินเข้าไปนำอูยองออกมา เด็กน้อยมีท่าทีฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ต้องยอมตามใจผู้เป็นพ่อ ซึงโฮเหลียวไปมองฮงกีชั่วครู่ เด็กน้อยพี่ท่าทีเกรงกลัวพ่อของอูยองไม่น้อยและแทนที่จะดื้อดึงตามอูยองไป ฮงกีกลับถอยหลังไปแสร้งจัดการกับแก้วโกโก้นับสิบแก้วที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะ แทน ในขณะที่สีหน้ารังเกียจของโยซอบที่มองตามซึงโฮนั้นก็ทำให้เขายิ่งงงหนัก ทั้งๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกที่โยซอบพบกับพี่ชายของเขา
     
     
    “ถ้าอยากรู้ ก็อย่าลืมมาหาฉันได้ตลอดเวลานะ ยังโยซอบ” ชายผู้ซึ่งอุ้มอูยองอยู่เหมือนกับตอนที่มาถึงหยุดหันไปพูดกับโยซอบอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินตรงออกไปจากห้อง ทิ้งปริศนาเอาไว้ให้ค้างคาใจคนตัวเล็กอย่างจัง ยูนดูจุนถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อโยซอบหันมามองทางเขา
     
     
    จางฮยอนซึงมองดูจุนและโยซอบสลับไปมา แล้วหันไปมองแผ่นพี่ชายของตัวเองที่กำลังเดินไกลออกไป เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รู้สึกได้ว่าการมาถึงพี่ชายคงเป็นเรื่องที่ไม่ปรารถนาสำหรับทั้งคู่ เขาละล้าละลังที่จะหันหลังกลับเมื่อประจักษ์แน่ชัดด้วยสายตาว่าระหว่างโยซอ บและดูจุนมีบางอย่างเกิดขึ้น หากแต่เมื่อดูจุนหันมาสบหน้าและพยักหน้าให้เขา ทำให้ฮยอนซึงรู้ตัวว่าควรกลับไปก่อน เขาวางห่อของฝากพิงไว้ที่ข้างบานประตู ก่อนจะปิดประตูห้องลง
     
     
    “โยซอบ อย่าตามไป” ดูจุนรีบคว้ามือเล็กเอาไว้เมื่อโยซอบเริ่มก้าวออกไปจากตำแหน่งเดิม โยซอบคงอยากรู้เรื่องที่ซึงโฮเปิดประเด็นเอาไว้แน่
     
     
    “พี่ดูจุนมีอะไรปิดผมหรือเปล่า? มีอะไรที่ยังไม่เล่าให้ผมฟัง?” โยซอบหันขวับไปยิงคำถามรัวใส่ดูจุนอย่างสงสัย 
     
     
    ใบหน้าโยซอบแสดงอาการไม่เข้าใจแต่ต้องการคำตอบอย่างแจ่มชัด แววตาแสดงความหวั่นไหวอันเป็นผลมาจากสิ่งที่ได้ยิน ยูนดูจุนเกี่ยวข้องกับอีซูยังอย่างไรกันแน่ ผู้ชายคนที่ยืนจูบกับเขาอย่างดูดดื่มเมื่อสิบห้านาทีก่อนมีความลับอะไรที่ ปิดซ่อนไว้อีก 
     
     
    โยซอบไม่กล้าที่จะคิดไปเอง เขาอยากให้คนตรงหน้าอธิบายให้ฟัง แม้ช่วงไม่ถึงเดือนที่พวกเขาได้รู้จักกันมันอาจไม่นานนัก แต่โยซอบก็รู้ดีว่าดูจุนเป็นคนอ่อนโยนเพียงใด ความอ่อนโยนที่เขาได้รับมาตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือน ความอ่อนโยนที่ทำให้เขากำลังจะมอบใจให้ จูบแรกที่โยซอบมอบให้กับดูจุนมันก็เต็มไปด้วยความเชื่อและไว้ใจ เขาไม่อยากให้ความไว้ใจนั้นกำลังถูกบั่นทอนลงด้วยคำพูดไม่กี่คำของซึงโฮ
     
     
    ดูจุนสบตาโยซอบอย่างลำบากใจ ไม่คิดว่าเวลาที่ความจริงจะเปิดเผยมันเร็วขนาดนี้ หรือบางทีเขาควรจะยอมความจริงที่ว่าความลับไม่มีในโลก จางซึงโฮก็เป็นแค่ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เวลานี้มาถึงเร็วขึ้น คนตัวก้มหน้าหลับตาเพื่อทบทวนคำพูดของตัวเอง
     
     
    “ฉัน.....”
     
     
    มันช่างยากลำบากที่จะพูดเรื่องนี้ออกมา เขาไม่เคยเอ่ยถึงมันมานาน แม้แต่กับคนที่รู้เรื่องราวเป็นอย่างดีอย่างจุนฮยอง 
     
     
    “ฉัน...เป็นสาเหตุที่ทำให้ซูยังท้อง”
     
     
    ในเป็นการยากลำบากเหลือเกินสำหรับยูนดูจุนที่จะต้องยอมรับออกมาว่าตัวเขาเองเป็นคนที่ทำให้ซูยังต้องเจอกับความโหดร้าย แต่ดูจุนคงไม่อาจรู้ได้ว่ามันเลวร้ายยิ่งกว่าสำหรับคนตรงหน้าที่ได้รับรู้ว่ารักแรกของเขา ถูกทำร้ายโดยผู้ชายที่เขาเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ด้วย ยังโยซอบแทบเป็นลมวูบกับประโยคที่ได้ยิน ใบหน้าตะลึงบนร่างเล็กที่แข็งทื่อแสดงได้ดีถึงอาการช็อคที่แล่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน ปากเล็กสั่นระริกยกขึ้นลงอย่างยากลำบาก
     
     
    “พี่ทำอะไร?” คำถามนี้แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน 
     
     
    โยซอบปัดดวงตาไปมาพยายามนึกเรื่องราวด้วยตัวเองว่ามีเหตุผลไหนบ้างที่ดูจุนจะเป็นสาเหตุในการทำให้ซูยังตกเป็นของซึงโฮได้ ในเมื่อชายตัวโตบอกกับเขาว่าเป็นเพียงเพื่อนสนิทของซูยัง
     
     
    “ฉันเองที่เป็นคนบังคับให้ซูยังไปกับพี่ซึงโฮในคืนนั้น”


     
    ++++ Hide and Seek ++++


    TALK

    คืนนี้คงต้องหยุดอัพแค่แชปฯนี้นะคะ คึกไม่พอจริงๆ
    อ่อก.....นี่เห็นดาวระยิบเลยเนี่ย
    หวังว่ายังคงมีคนมาอ่านกัน

    ขอบคุณทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าค่ะ
    แสดงตัวกันบ้างจะดีใจและมีกำลังใจในการปั่นฟิคไม่น้อยเลยค่ะ





     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×