รู้มะทำอะไร แล้วแฟนไม่ชอบ*-* - รู้มะทำอะไร แล้วแฟนไม่ชอบ*-* นิยาย รู้มะทำอะไร แล้วแฟนไม่ชอบ*-* : Dek-D.com - Writer

    รู้มะทำอะไร แล้วแฟนไม่ชอบ*-*

    --

    ผู้เข้าชมรวม

    387

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    387

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ธ.ค. 49 / 14:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      รู้มะทำอะไร แล้วแฟนไม่ชอบ ส่งให้เพื่อน quote vote



      เมื่อไหร่มีความรัก ขอกระซิบว่า อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนะยะ จงใช้ความพยายามที่จะปรุงรสรัก ทั้งคาวหวานให้กลมกล่อมอยู่เสมอแล้วจะดีเองน้อง

      เห็นบางคนงี้พอมีแฟนปั๊บ ทำหยั่งกะแฟน “เป็นของตาย” จึงปล่อยปละละเลย ไม่แยแสคนรักอีกต่อไป จนจากเคยสยิวด้วยรสรัก กลายเป็นสยองเพราะเจอแล้วเฉยๆ และลงเอยด้วยการตีจาก เอ้า ก็ใครจะทนอยู่กะคนที่เห็นเราเป็นของตาย (เอ๊ะหรือมันแช่งให้เราตายกันแน่) ล่ะจริงมะ สู้ไปหาแฟนเอาดาบหน้า เพื่อร่วมมือกันพยายามทำให้รักนี้อยู่ข้ามคืน... เอ๊ย...คงอยู่ตลอดไปไม่ดีกว่าเรอะ

      โธ่ ก็ “ไม่อยากให้เธอไว้ใจ” ไง ทราบแล้วเปลี่ยน!

      ว่าแล้วขอหักมุม ชวนคุยเรื่อง การที่ใครบางคนอยากเอาชนะ “ใจ” คนที่เค้ารัก เค้าหลงด้วยการกระตือรือร้นทำสิ่งต่างๆนานา โดยหวังว่าจะได้ใจจากอีกฝ่าย แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งที่อุตส่าห์ตั้งใจทำนั่นน่ะ บางทีอาจไม่ถูกใจกิ๊ก, แฟนหรือคนที่คุณหมายตาอยากคว้ามาเป็นแฟนก็ได้

      แล้วอยากรู้ไหมล่ะ ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่ง “ว่าที่คนรัก” ของคุณอาจไม่อยากให้ทำหยั่งงี้ (ทำยังไงเดี๋ยวบอก) กะเค้า เอ้าไม่ต้องทำหน้าสงสัย งั้นมามะ มาดูละกันว่า อะไรน้าที่เค้าไม่ชอบแต่คุณดันไปคิดว่าเค้าชอบ (ในสิ่งที่คุณทำ) เช่น....

      1. ใช้เวลาที่คุณมีอยู่ทั้งหมดกับ “ว่าที่แฟน” จนเค้าอึดอัดใจ พยายามให้เวลากับคนที่คุณรักหรือชอบน่ะ เป็นสิ่งดีไม่มีใครเถียง แถมให้เวลากับ “คนพิเศษ” ย่อมดีกว่าปล่อยปละละเลยแน่ๆ แต่ของพรรค์นี้ควร “เดินสายกลาง” นะหนูนะ เพราะบางคนก็ไม่ชอบทำตัวติดกับแฟนเสมอไป ไม่ว่าจะเป็นแฟนกันจริงจังหรือแค่กำลังคบหาดูใจ เพราะเค้าอาจอยากไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่กะคุณก็ได้นี่นา ฉะนั้นอย่า “คิดเอง เออเอง” ว่า เค้าจะชอบต่อการที่คุณมาติดหนึบอยู่กะเค้าบ่อยๆ โถ คนเราก็ย่อมอยากมีเวลาส่วนตัวบ้างดี๊

      ส่วนหนทางแก้ไขน่ะเหรอ ก็แทนที่จะนั่งเฝ้าหรือทำตัวเป็นฝาแฝดกะเค้า เอางี้ แสดงให้คนพิเศษเห็นว่า คุณแคร์เค้าซะเหลือเกิน ด้วยการทำกิจกรรมด้วยกันในบางครั้งบางคราวก็พอ ไม่ต้องตามเค้าไปทุกงาน ไว้รอให้เค้าชวนไปเป็นเพื่อนขี่จักรยานที่สวนสาธารณะ หรือชวนไปงาน เลี้ยงของบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ในบางโอกาสก็ไปเด๊ะ อยากอยู่แล้วนี่

      สังเกตมะ ส่วนใหญ่ คนที่ขยันทำตัวติดกะแฟนเนี่ย มักเป็นฝ่ายหญิง ส่วนผู้ชายน่ะเหรอ โถ อยากอยู่ใกล้หนูก็ต่อเมื่อเพิ่งเริ่มจีบเท่านั้นแหละ ถ้ายังจีบไม่สำเร็จก็ไม่ลดละ แต่พอโอเค เซย์เยส ตกลงเป็นแฟนกันแล้วดิ ทีนี้ล่ะ จะเริ่มห่างแล้ว และยิ่งห่างไปเป็นโยชน์ถ้าฝ่ายหญิงตกลงปลงใจยอมให้เค้ารวบหัวรวบหางมาอยู่ด้วยกัน เพราะงั้นหนูๆอย่าใจง่าย เอ๊ย...อย่ายอมพลีกายให้เค้าง่ายๆ เชียว

      แต่เชื่อมะ ต่อให้เตือนกันถี่ยิบขนาดนี้ สาวๆ บางคนก็ไม่เชื่อ ถึงได้มีข่าวเอาเด็กทารกไปทิ้งไว้ตามที่สาธารณะเยอะแยะ ไม่งั้นไปทำแท้งก็มี สนุกชั่ววูบ แต่มีบาปติดตัวไปชั่วชีวิต ระวังกรรมตามทันเน้อ

      2. อยากช่วยทำงานบ้าน แต่ดั๊นทำเลอะเทอะ เลยแทนที่เค้าจะซึ้งในน้ำใจ กลับจะโดนด่าในใจน่ะสิว่า ซุ่มซ่ามอิบอ๋าย แล้วให้ชอบไหวรื้อ

      รู้หรอก ว่าบางท่านมีความตั้งใจดีที่อยากจะช่วยคนรักทำงานบ้าน แต่ทำไปทำมาดันไปช่วยสร้างขยะ หรือความเละเทะในบ้านซะมากกว่า สู้อยู่เฉยๆอย่าไปสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในบ้านเค้าเลยยังดีซะกว่า

      ส่วนวิธีแก้ไขความไม่เอาไหนในข้อนี้น่ะเหรอ แค่พยายามช่วยนิดๆหน่อยๆ ก็พอ เช่น ช่วยล้างจานกรณีที่ชวนกันไปทานข้าวที่บ้านเค้า หรือไม่ก็อาสานำขยะไปทิ้งอะไรเงี้ย เท่านี้ก็ปลื้มตายแล้ว

      3. ชอบใส่อารมณ์และนำปัญหามาคุยกะคนที่คุณรักเร็วเกินไปอ่ะดิ

      บางคนนะ เวลามีปัญหาส่วนตัวก็อยากเล่าให้แฟนหรือว่าที่แฟนฟังทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน, ปัญหากะเพื่อนร่วมงาน หรือปัญหาติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดการพนัน แต่โห ถ้าติดอบายมุขนี่ บอกไว้ก่อนเลยว่า ใครเป็นแฟนด้วยซวยแน่ๆ เพราะงั้น ก่อนเป็นแฟนใครควรเช็กหน่อยว่า เค้ามีข้อดีและข้อเสียตรงไหนมั่ง ถ้าเผอิญดีไปหมดซะทุกอย่างก็น่ากลัวอีกแหละ ว่าชอบสร้างภาพเรอะเปล่า ใครจะไม่มีข้อบกพร่องเลย จริงมะ

      แล้วเมื่อรักกัน ก็ควรร่วมทุกข์ร่วมสุข แต่จะดียิ่งกว่าหากคุณรู้จัก “กาลเทศะ” ว่าควรพูดคุย (เอ๊ะหรือระบายอารมณ์กันแน่นะ) กะเค้าในช่วงเวลาไหน เพราะการตั้งรับของฝ่ายผู้ฟัง ก็ต้องการจังหวะให้ได้ตั้งตัวด้วยดิ ไม่ใช่เค้าอารมณ์บูดอยู่ก็พูดเรื่องที่เติมความบูดเข้าไปอีก คงได้รักกันหรอก

      4. ชอบทำตัวเป็นเด็กเมื่อวานซืน แบบไม่รู้จักโตสักทีเรอะเปล่าล่ะ?

      เคล็ดลับของความรักที่ยาวนานน่ะ อยู่ตรงเวลาใกล้ชิดกันแล้วมีความสุข, ได้หัวเราะเฮฮา และสนุกสนานครึกครื้นใช่ม้า แต่ขืนรักจะสนุกท่าเดียว ท่าอื่นไม่เอา เพราะขาดวุฒิภาวะ, ขาดความรับผิดชอบและไม่โตเป็นผู้ใหญ่ซะที แล้วใครที่ไหน้ อยากฝากชีวิตไว้กะคนไม่รู้จักโตว้า เพราะนั่นหมายความว่า อีกฝ่ายต้องเป็นผู้นำน่ะซี ถ้าอยากแบกความรับผิดชอบของชีวิตคู่เอาไว้คนเดียวก็เอาซี้

      ส่วนหนทางแก้ไข ก็พยายามทำตัวให้เป็นหลักเป็นฐานบ้าง เป็นผู้ใหญ่หน่อยดี๊ คุณจะเด็กไปทั้งชาติไม่ได้หรอก เออถ้าเด็กบ้างเป็นผู้ใหญ่บ้างสลับกันไปยังพอหยวน บางคนงี้แก่แล้วแต่ทำเป็นดัดเสียงพูดแบบเด็กๆหรือพยายามทำตัวให้น่ารักเหมือนเด็กๆเข้าไว้ (โถ...ยิ่งแก่ยิ่งดัดจริตนะเอ็ง) โดยคิดว่าอีกฝ่ายจะได้เอ็นดู ซึ่งก็น่าเอ็นดูอยู่ไม่กี่วันหรอก เพราะความเบื่อมีจริงนะเฟ้ย อย่าทำเป็นเล่นไป

      5. ทำตัวเป็น “ขาแดนซ์” ชวนเค้าเต้นรำมากไปอ๊ะเปล่า?

      ถ้าทุกครั้งที่ชวนกันไปงานปาร์ตี้ หรือเที่ยวผับ เที่ยวงานสโมสรอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเป็นงานเต้นรำ ระบำส่ายเอว และคุณกับเค้าก็เต้นกันสุดฤทธิ์สุดเดชจนเท้างี้บวมเป่งก็แล้ว เมื่อยก็แล้ว เหนื่อยก็แล้ว แต่ยังฟิตเอ่ยปากคะยั้นคะยอให้เค้าออกไปเต้นรำกะคุณอีก เพราะแดนซ์ จนติดลมซะแล้วละก็ แสดงว่าไม่เอาใจเค้ามาใส่ใจเราเลยเนาะ หยั่งงี้ถือว่าเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อยมั้ง ฮี่โธ่อยากให้เค้ารักแต่ใช้วิธีออดอ้อนแกมบังคับเนี่ยนะ แดนซ์แล้วพัก พักแล้วแดนซ์ ดื่มน้ำมั่งก็ได้ เอ๊ะชักสงสัยว่า เป็นนักเต้นเท้าไฟ หรือไวไฟ กันแน่เนี่ย.

      จากคอลัมน์ ร้อยแปดพันเก้า นสพ. ไทยรัฐ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×