++ แค่นางร้ายคนหนึ่งเท่านั้น ++ - ++ แค่นางร้ายคนหนึ่งเท่านั้น ++ นิยาย ++ แค่นางร้ายคนหนึ่งเท่านั้น ++ : Dek-D.com - Writer

    ++ แค่นางร้ายคนหนึ่งเท่านั้น ++

    ฉันรู้สึกผิดมากมายเหลือเกิน ฉันรู้ว่าฉันทำผิดมาก ฉันเชื่อว่าวิชก็คงจะไม่ให้อภัยนางร้ายเลวๆ ฉันหรอกใช่มั้ย ???

    ผู้เข้าชมรวม

    449

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    449

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ต.ค. 48 / 22:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เฮ้อ เสียงถอนหายใจครั้งที่สิบของ  ปารยา  ทำไมคืนนี้เป็นคืนที่ทุกคนต่างต้องสนุกสนานอยู่กับเพื่อนทั้งนั้น
      แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกถึงความเหงา และโดดเดี่ยวจับใจมากมายขนาดนี้     หรืออาจเป็นเพราะฉันไม่มีเพื่อนแล้วไง

      เวลานี้เค้ากับคนรักจะทำอะไรอยู่นะ  คงไปสนุกอยู่ในงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆอีกมากมายที่ไหนซักแห่งแน่ๆ  จะรู้บ้างมั้ยนะ  ฃว่ามีคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ตรงนี้หนึ่งคน

      “ ปราย  ปราย อยู่รึเปล่า  เปิดประตูให้หน่อยสิ “ ใช่แล้วเสียงนี้ ฉันยังจำได้ดี วิชยะ วิชนายมาหาฉันจริงๆด้วย
      ฉันคงไม่ต้องเหงาแล้วสิ  

      ฉันวิ่งไปเปิดประตูห้องด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ที่ปกปิดไม่มิด  “ ดีจ้ะ วิช “   ฉันกล่าวทักทายเพื่อนรักด้วยเสียงใสๆ  
      แต่ก็รอยยิ้มนั้นก็ค่อยๆจางลง เมื่อเห็นหน้าเธอคนนั้นที่เข้ามาพร้อมกับเค้า

      ฉันนั่งมองทั้งเค้าและเธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยกัน มันเหมือนเงาสะท้อนที่แทนที่ เธอคนนั้นที่นั่งตรงนั้น มันคือฉันภาพต่างๆค่อยๆผุดขึ้น
      มาในความทรงจำของฉัน เมื่อเวลาหลายปีก่อน ในคืนวันเช่นนี้ ฉันกับเค้านั่งมองดาวด้วยกัน เราสองต่างพูดคุยเรื่องมากมายด้วยกัน  
      ในที่ๆแห่งนี้   ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับนั่งดูละครเก่าที่นำมาฉายใหม่อีกครั้ง  ผิดแต่คนที่นั่งข้างเค้า   คือ เธอ ไม่ใช่ฉัน
      และฉันคนนี้ก็ได้แต่แอบมองเค้าและเธออยู่ห่างๆเพียงแค่นี้

      “  แพร  นาน เท่าไหร่แล้วน่ะ  ที่เราไม่ได้มานั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ ” วิชเอ่ยถามแพรอย่างเหงาๆ
      ซึ่งปารยาก็น่าจะพอจับน้ำเสียงของเพื่อนรักได้
      “ วิช  ก็แพรก็มีงานต้องทำนี่  ไม่ได้ว่างทุกวัน วิชก็รู้ ”  แพรสิตา ผู้หญิงที่ได้ชื่อ ว่าเป็นคนรักของเพื่อน ตอบคนรักเสียงแข็ง  
      “  แพร รู้มั้ยว่า วิชรักแพรมากแค่ไหน  วิชรักแพรมากน่ะ  ”

      ฉันรู้ว่า วิชยะ เพื่อนรักของฉันคนนี้  รักเธอคนนั้นที่ชื่อ แพรสิตา  มากแค่ไหน  และฉันก็รู้ว่า แพรไม่เคยรักวิชเลย  แพรเพียงแต่คบวิช  
      เพื่อเอาชนะฉันไปวันๆเท่านั้น


      “ อ้าว วิช แฟนนายกลับไปแล้วเหรอ ” ฉันเอ่ยปากทักวิชเมื่อเห็น เค้านั่งเหงาๆอยู่คนเดียว
      “อืม  แพรกลับไปแล้วล่ะ  นี่ปรายช่วย วิช คิดหน่อยสิ  พรุ่งนี้ก็วันเกิดแพรแล้ว  วิชจะให้อะไรเป็นของขวัญเค้าดีล่ะ”  
      ใช่สิ พรุ่งนี้ก็วันเกิดแพรแล้ว  นายนี่ไม่เคยลืมเลยน่ะ
      “ปรายว่า เป็นแหวน หรือสร้อยคอก็ดีน่ะ”
      “ แต่วันเกิดปีที่แล้ววิชก็ให้แพรไปแล้วหนิ วาเลนไทน์ที่แล้วก็ให้สร้อยน่ะ ”
      ปรายนั่งคิดเงียบๆอยู่พักใหญ่ แล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรออก จึงพูดกับวิช
      “ใช่แล้ววิช  วิชกับแพรคบกันมากี่ปีแล้วล่ะ ??  วิชก็ทำเป็นบันทึกความรู้สึกที่วิชมีต่อแพรสิ มีรูปมีคำพูดต่างๆ แล้วตอนให้วิชก็บอกรักแพรด้วย น่ารักมากเลยเชียวล่ะ วิชว่ามั้ย ” แล้วแพรก็จะได้รู้ซะบ้างว่าวิชรักแพรแค่ไหน ประโยคหลังนี้ฉันได้แต่คิดแล้วเก็บเอาไว้ในใจไม่กล้าพูดออกไปทำร้ายจิตใจวิชหรอก
      “อืมก็ดีน่ะปราย  ปรายนี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของวิชเลยล่ะ  ขอบคุณมากน่ะเพื่อนรัก ” ขอบใจน่ะวิชที่ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่  แต่ไม่ต้องย้ำนักก็ได้คำนี้น่ะ  ฉันรู้ตัวฉันดีว่าฉันคงเป็นได้แค่นี้แหละ      



      “ ปรายวันนี้ ยัยโอ๋มันกลับมาจากเมืองนอกอ่ะ  ไปหามันด้วยกันมั้ย ”
      “ จริงเหรอปิ่น  โอ๋มันไปเรียนเมืองนอกนานเหมือนกันเนอะ กลับมาซะที  คิดถึงมันจังเลย  “ ฉันและปิ่นต่างอมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงเพื่อนรักคนนี้  สมัยเรียนทั้งฉัน ปิ่น โอ๋ แพร และ วิช เราต่างเป็นเพื่อนที่รักกันมาก  จากวันเวลาที่เปลี่ยนไป  ทำให้สถานภาพของเราทุกคนแปรเปลี่ยนตามไปด้วย
      “ปราย ปราย คิดไรอยู่เหรอ ” เสียงของปิ่นปลุกให้ฉันหลุดจากความคิดก่อนที่จะคิดอะไรไปไกลกว่านี้
      “ เออ ฉันกำลังคิดว่า จะชวน วิช มันไปหาโอ๋ด้วยกันมั้ย ”
      “เธอคิดช้ากว่าฉันแล้วย่ะ  ยัยปราย ฉันคิดได้ก่อนและโทรตามมันตั้งแต่เช้าแล้ว  แต่มันไม่ไปหรอก  ก็วันนี้วันเกิดยัยแพร  แฟนมันนี่นา มันคงจะใจดีถึงขนาดทิ้งแฟนไปหาเพื่อนได้อยู่หรอก……. ”   ฉันรู้ดีว่าน้ำเสียงของปิ่น ในประโยคสุดท้ายนี่ออกแนวประชดเล็กน้อย ฉันจึงได้แต่ส่ายหน้าและอมยิ้มน้อยๆ  ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา

      ……………………………………………………………………………….……………….
      ………………………………………………………………………

      “ว่าไงจ้ะ โอ๋ เพื่อนรัก ไม่เจอกันตั้งนาน สวยเหมือนเดิมน่ะจ้ะ ”     ฉันยืนมองเพื่อนรักอยู่นาน โอ๋ยังดูสวย  มั่นใจเหมือนเดิม  อาจจะดูสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทำเอาสายตา ของหลายๆคนที่นั่งในร้านไอติมเล็กๆในห้างที่เรานัดเจอกันวันนี้  หันมาจับจ้องโอ๋คนเดียว
      “ไม่หรอก ฉันไม่ได้สวยเหมือนเดิม   แต่สวยขึ้นต่างหาก จริงมั้ยปิ่น  ” เราทั้งสามต่างมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา กับคำพูดที่ดูจะชื่นชมตัวเองของโอ๋  
      “ แล้วนี่วิชกับแพรไม่มาเหรอ ” โอ๋ถาม หลังจากที่พวกเราไถ่ถามกันถึงสารทุกข์สุขดิบกันแล้ว
      “ เธอก็น่าจะรู้น่ะ ยัยโอ๋ ว่ารายนั้นน่ะติดแฟนซะยิ่งกว่าอะไร เฮ้อ ” ปิ่นพูดพลางถอนหายใจ
      “มาเจอกันอย่างนี้คิดถึงสมัยเรียนจังเนอะ ปราย ตอนนั้นเราทั้ง 5 คนเป็นเพื่อนกัน ” โอ๋เริ่มเป็นผู้เปิดประเด็นชวนเราทั้งสามคนหวนคิดถึงอดีต สมัยเรียน

      ตอนนั้นกลุ่มเราก็มีกันอยู่ 5 คน เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งปราย โอ๋ ปิ่น แพร และวิช แต่ใครๆต่างก็รู้ว่า วิชจะสนิทกับปรายมากกว่าทุกคน  ปรายคอยเป็นทั้งเพื่อน ที่ปรึกษาเรื่องต่างๆให้กับวิช แม้กระทั่งตอนที่วิชป่วยอย่างหนัก  ก็มีปรายนี่แหละที่คอยเป็นห่วง และดูแลวิชอยู่เสมอ  จนเพื่อนๆพากันล้อว่า วิชกับปรายเป็นแฟนกัน  

      “ ล่ะ ใครล่ะที่เป็นตัวยุเพื่อนๆให้ล้อฉันกับวิชน่ะ ” ปรายจ้องหน้าสองเพื่อนที่เป็นตัวการที่นั่งหัวเราะกันอยู่ข้างๆ
      “  ก็เห็นเป็นห่วงเป็นใยกันซะเหลือเกินหนิ   แล้วไอวิชมันก็ไม่ยอมปฏิเสธเพื่อนๆในห้องด้วย ” ปิ่นเพื่อนสาวเถียงปารยาข้างๆคูๆ

      ….มันก็จริง อย่างที่ปิ่นพูด ตลอดเวลาที่เพื่อนๆล้อ  วิชไม่เคยปฏิเสธ หรือมีท่าทีไม่ชอบใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนทำให้หัวใจดวงน้อยๆของปารยาเก็บเอาไปหวั่นไหวอยู่คนเดียว ว่า เค้าก็คงชอบฉันเหมือนกัน  
      จนถึงวันนั้น วันที่ฉันรวบรวมความกล้าจากแรงยุส่งของเพื่อนๆตัวดีทั้งสอง  ให้เข้าไปบอกรักวิช
      ฉัน  ปิ่น  และโอ๋ ตามหาวิชจนทั่วโรงเรียน จนมาพบวิชอยู่กับแพร  วิชยืนหันหลังให้เราทั้งสามคนจึงไม่เห็นว่ามีใครมา  แต่ฉันรู้ว่าแพรเห็นพวกเราอย่างเต็มตา  

      ปรายเดินเข้าไปใกล้วิชกับแพรเรื่อยๆจนได้ยินสิ่งที่วิชพูดกับแพร

      “ แพร  วิชชอบแพรน่ะ  เป็นแฟนกับวิชน่ะแพร ”  คำๆนี้มันยังก้องอยู่ในโสตประสาทของปรายมาจนถึงทุกวันนี้

      แพรเหลือบมองฉันที่ยืนอยู่ตรงนั้นนิดนึง  เหมือนรู้ว่าฉันชอบวิช และเธอก็ตอบคำคำนั้นที่ทำให้เหมือนฟ้าถล่มลงมาตรงหน้าฉัน “ค่ะ วิช แพรจะเป็นแฟนกับวิช ”

      “ ดูก็รู้ว่า ยัยแพรมันไม่เคยรักวิชแม้แต่น้อย ที่มันเป็นแฟนกับวิชก็แค่อยากเอาชนะปรายเท่านั้นแหละ จริงมั้ย ” โอ๋พูดด้วยน้ำเสียงเจ้บแค้น  เพื่อทำลายความเงียบบนโต๊ะไอติมนั้น
      “ ใช่ๆ มันรู้ว่าปรายรักวิช มันอิจฉาปรายมานานแล้วล่ะ ฉันรู้ว่ามันทำทุกอย่างเพื่อจะอยู่เหนือปรายให้ได้ น่าสงสารจัง ” ปิ่นเริ่มบทสนทนาต่ออย่างออกรส
      “สงสารนายวิช หรือแม่นางเอกปรายย่ะ ” โอ๋พูดพลางชำเลืองหางตามาหาฉันที่นั่งเงียบอยู่นาน
      “ ก็ทั้งสองแหละเนอะ  โดยเฉพาะ …” ปิ่นได้แต่พูดค้างไว้อย่างนั้น  เหมือนกับเห็นใครสักคน
      ทำให้ทั้งฉันและโอ๋ต้องหันกลับไปมองตามสายตาคู่นั้นของปิ่น
      “ ตายยากจริๆแม่คนนี้ พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บ ” โอ๋เอ่ยอย่างปลงๆที่เห็นแพร      ใช่แพรเคียงคู่มากับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เราทั้งสามต่างพากันจ้องดูให้แน่ใจ
      “ไม่ใช่ดูยังไงๆ ก็ไม่ใช่วิช ” ปิ่นบอกหลังจากจ้องดูด้วยความแน่ใจแล้ว  ใช่ไม่ใช่วิช ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่วิช  แล้วเค้าเป็นใคร ดูจากท่าทางแล้ว ไม่น่าจะใช่พ่อหรือพี่ชายของแพรด้วย  แล้ววิชล่ะ  ไหนบอกจะเอาของขวัญไปให้แพร ไปบอกรักแพรไง วิชไปไหน ปารยาได้แต่นั่งคิดเงียบๆด้วยความว้าวุ่นใจ ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาวิช แต่คงช้ากว่าเพื่อนสาวของเธอมาก
      “ ฉันรู้น่ะ ปรายว่ายจะโทรหาวิชน่ะ  เธอช้ากว่าฉันอีกแล้วน่ะ ” จริงด้วยปิ่น  ฉันช้ากว่าเธออีกแล้ว ปิ่นบอกว่า ปิ่นโทรหาวิชแล้ว วิชว่าวันนี้แพรไม่ว่างมาหาวิช  เพราะแพรติดอ่านหนังสือสอบ
      “ ฮึฮึ  ติดอ่านหนังสือสอบ  หรือมีนัดมาเที่ยวกับผู้ชายอื่นกันแน่ ” โอ๋  พูดอย่างเหยียดๆในตัวแพรมาก สงสารวิชจัง  วิชจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่า  คนรักของตัวเองมาเดินกับคนอื่นแบบนี้

      “ ปรายไหวมั้ย เป็นอะไรหน้าซีดจัง ” เพื่อนสาวทั้งสองเอ่ยถามปารยา เมื่อเห็นเธอเงียบไปนาน
      “ อืม ฉันไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมาน่ะ ” ปารยาลุกออกมาจากโต๊ะด้วยความมั่นใจ เหมือนคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง


      เอาล่ะเป็นไงเป็นกันยัยปราย  วันนี้ฉันต้องทำให้วิชรู้ความจริงให้ได้ว่า เธอคนนั้นคิดยังไงกับเค้ากันแน่???

      ปรายเดินเข้าไปหาแพรกับผู้ชายคนนั้น
      พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
      “ หวัดดีจ้ะ แพร สุขสันต์วันเกิดน่ะ แอบหนีคนรักมาเที่ยวกับใครล่ะ ”  แพรอึ้งไปเล็กน้อย เหมือนเด็กเล็กๆที่โดนผู้ใหญ่จับโกหกได้ ซึ่งฉันเองก็ไวพอที่จะจับสังเกต อาการนั้นของแพร
      “ หนีที่ไหนกัน ปราย นี่คนรักของแพรอยู่นี่  เค้าชื่อเอก  รู้จักกันซะสิ ” แพรเชิดหน้าตอบปารยาอย่างมั่นใจ และออกจะยิ้มเยาะอยู่ในที
      “ แล้ววิชล่ะ แพรเธอเอาวิชไว้ส่วนไหนของหัวใจเธอ  ”
      “ ก็คนที่ฉันเคยรู้จักไงล่ะ ปราย ” ทั้งคำพูดและรอยยิ้มที่เธอส่งมาให้ปารยาตอนนี้ช่างเหมือนกับเข็มเป็นร้อยๆ ทิ่มตำลงในจิตใจปรายา
      แพรยังคงพูดต่อ “  เธอก็รู้หนิว่า ฉันทนคบกับวิชมาเพราะเหตุผลอะไร เธอมันทั้งสวย เก่ง และก็มีครอบครัวที่ดีพร้อมกว่าฉันทุกๆอย่าง มันคงจะดีมากๆถ้าฉันจะอยู่เหนือเธอได้สักเรื่อง ก็เรื่องนี้ไงปราย เธอคงรู้แล้วน่ะ ”
      เธอนี่มันเลวจริงๆน่ะแพร   ฉันไม่นึกเลยว่าวิชไปหลงรักนางมารร้ายอย่างเธอได้ยังไง แม้ปารยาจะรู้อยู่แล้ว ว่าแพรไม่เคยรักวิชเลย  ที่คบกบวิชก็เพื่อเอาชนะเธอก็เท่านั้น  แต่วันนี้เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากหญิงสาวตรงหน้า  มันก็ทำเอาเธออดที่จะด่าไม่ได้
      “ อืม แล้วเรื่องที่เจอกันวันนี้ ถ้าเธออยากเอาไปเล่าให้ใครฟังฉันก็ไม่ห้ามน่ะ  อย่าลืมเล่าด้วยล่ะว่าฉันพูดว่าอะไรบ้าง  ฉันหวังว่าจะใครสักคนที่เชื่อคำพูดเธอน่ะ  ปรายเพื่อนรัก ” แพรเดินผ่านหน้าฉันไปกับเค้าคนนั้นด้วยสีหน้าที่สะใจอย่างมาก

      ใช่ แพรคำพูดของคนอย่างฉัน  คงไม่มีใครเชื่อ  แต่ถ้าทุดคำพูดของเธอที่มีอยู่ในโทรศัพท์นี่ล่ะไม่แน่
      ปารยายิ้มน้อยๆให้กับตัวเองพลางดูโทรศัพท์ที่อัดเสียงได้ในมือ

      …………………………………………………………………………….
      ……………………………
        
      “ ว่าไง จ้ะวิช ทำไมมาอยู่ห้องฉันได้ล่ะ ”  ปารยาเอ่ยทักวิช  เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามพบวิชนั่งอยู่ในห้องก่อนแล้ว
      “ มานั่งรอแพรน่ะ พอดีนัดไว้เย็นนี้ เดี๋ยวเค้าคงมา ขอยืมห้องนั่งรอแปบน่ะ ”
      “ อืม วิชแต่ฉันไม่รู้ว่านายจะต้องยืมห้องฉันรอนานแค่ไหนน่ะ ”  ฉันโพล่งนั้นออกไปตามที่ใจมันสั่ง เพราะฉันไม่คิดหรอก ว่าแพรจะมาหาวิชจริงๆ กี่ครั้งแล้ววิชที่นายนั่งรอแพรอยู่ตรงนี้  แล้วมีสักครั้งมั้ยที่แพรเค้ามาหานายจริงๆน่ะ

      ปารยานั่งมองโทรศัพท์เครื่องนั้น ภาพและคำพูดทุกคำที่เธอได้พบมาเมื่อตอนบ่ายค่อยๆแล่นเข้ามาในสมอง  สลับกับภาพวิช  ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและการรอคอย   ทำให้ความสับสนก่อเกิดขึ้นในจิตใจ ฉันจะทนได้มั้ยถ้าเห็น เพื่อนและคนที่ฉันรักมากที่สุดต้องผิดหวัง   ร้องไห้  เสียใจ  ที่ได้รู้ความจริงจากฉัน  แต่ฉันจะให้เขาเป็นคนโง่ในสายตาเธออย่างนี้ต่อไปหรือ  ฉันควรทำอย่างไรดี  

      ไม่มีใครตอบคำถามนี้ของปารยาได้เลย   ปารยาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนพื้นอย่างแรง  ด้วยอารมณ์ความรู้สึกโกรธตัวเองที่ตอบไม่ได้ว่าจะทำอะไรต่อไป

      ชิ้นส่วนของโทรศัพท์กระเด็นมาตกที่เท้าของวิช  

      “ ปราย  เธอร้องไห้ทำไม ไม่เอาน่าปรายไม่ใช่คนขี้แยนี่นา  มาวิชเช็ดน้ำตาให้ ” วิชเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยน  สัมผัสไออุ่นที่มีจากตัวของวิชส่งมาฉัน
      ฉันตัดสินใจลุกเดินออกจากห้อง ฉันเหนื่อย  เหนื่อยจนกว่าจะรับรู้เรื่องต่างๆแล้ว สมองของฉันมันคิดอะไรไม่ออกเลย

      ปารยาคงไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอวิ่งออกจากห้องนั้นแล้ว  เกิดอะไรขึ้นกับวิชและชิ้นส่วนของโทรศัพท์เหล่านั้น


      สักพักที่ฉันเริ่มทำใจได้ฉันกลับมาที่ห้องอีกครั้ง  ปารยากวาดตามองไปรอบๆห้อง ไม่พบใครเลย ไม่มีวิชแล้ว   มีแต่โทรศัพท์ที่กลับมาประกอบไว้เหมือนดังเดิมและมันก็ใช้งานได้อย่างดีด้วย  

      ..........ฉันใจหายวาบ เหมือนกับความรู้สึกกำลังบอกฉันว่า  เค้าเห็นแล้ว  แต่สิ่งที่ฉันสังหรณ์ใจจะเป็นจริงหรือไม่ฉันสุดจะรู้ได้   ได้แต่ภาวนาขออย่าให้มันเป็นอย่างนั้นเลย





      กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง
      โทรศัพท์ แผดเสียงทำลายความเงียบในห้องนั้น
      ปารยารีบรับสายอย่างรวดเร็วพร้อมหัวใจที่กระตุกวาบขึ้นด้วยความหวาดกลัว ความกลัวที่ตัวฉันเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องกลัว

        “ …………ค่ะ………………. ”  ฉันจำได้ว่าฉันพูดได้เพียงแค่นั้น  ตัวมันเบาหวิว  เหมือนวิญญาณออกจากร่างนี้ไปแล้ว
      แม่วิชโทรมาบอกว่า วิชป่วยหนักมาก เมื่อคืนหลังจากที่เค้าประกอบไอ่โทรศัพท์เครื่องนี้ให้เป็นเครื่องดังเดิม  เค้าก็ทดสอบและดันไปเห็นสิ่งนั้นเข้า  วิชเสียใจมาก ไปนั่งรอแพรเพื่อถามความจริง ที่หน้าหอพักเธอ ทั้งคืน  ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก  โรคปอดบวมเรื้อรัง ที่เค้าเป็นมาตั้งแต่เด็ก  กำเริบขึ้นอีกครั้ง

      นี่ ฉันทำอะไรลงไป  ถ้าวิชเป็นอะไรไปฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
      ปารยาเฝ้าตอกย้ำตัวเองด้วยคำๆนี้ตลอดเวลาที่ฉันเดินทางมาโรงพยาบาล

      “ หมอค่ะ  เพื่อนฉันเป็นยังไงบ้างค่ะ  ” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
      “ คนไข้อ่อนเพลียมาก  เค้าเป็นปอดบวมครับทั้งยังตากฝนมาทั้งคืน เวลาของเค้าเหลือไม่มาก หมอเสียใจด้วยจริงๆ \"
      หมาความว่า วิช ตายแล้วงั้นเหรอ  
      นี่ ฉันเป็นคนทำร้ายวิช  เป็นคนทำให้วิชต้องตายใช่มั้ย........

      ฉันแทบทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้น ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากฉันทั้งสิ้น  
      ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะพูด  ไม่มีแรงแม้แต่จะร้องไห้ด้วยซ้ำ
      ฉันไม่มีน้ำตาเหลือพอที่จะร้องไห้ต่อไปได้แล้ว

      ภาพวิชเพื่อนรักค่อยๆค่อยๆ สลับทีละฉากๆ เข้ามาในหัวของฉัน ทำไม ทำไม ทำไม บัดนี้ฉันมีเพียงคำถามนี้คำถามเดียว ที่เข้ามาในหัวของฉันพร้อมกับ ภาพต่างๆ ทำไมล่ะ ทำไมฉันต้องทำร้ายวิชด้วย  ตัวฉันตอนนี้มันช่างเหมือนนางร้ายในละครเสียจริง  ฉันไม่เคยรู้สึกเกลียดตัวเองเท่าวันนี้มาก่อน  

      นายคงเกลียดฉันมากซิน่ะ  
      ฉันมันโง่เอง  ฉันเป็นคนทำร้ายนายด้วยมือของฉัน
      ถ้าฉันไม่เข้าไปหาแพร   ไปถามแพรในบ่ายวันนั้น…….. ฉันไม่อัดเสียงแพรไว้………ไม่ถ่ายรูปมันไว้ ………ไม่เขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง
      เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นใช่มั้ย นายคงไม่ต้องหนีฉันไปแบบนี้ใช่มั้ย วิช

          

      ฉันรู้สึกผิดมากมายเหลือเกิน  ฉันรู้ว่าฉันทำผิดมาก  ฉันเชื่อว่าวิชก็คงจะไม่ให้อภัยนางร้ายเลวๆ ฉันหรอกใช่มั้ย ???

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×