ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ BETWEEN US ✖ [SF/OS l KAIHUN ft. EXO]

    ลำดับตอนที่ #9 : :: Fraternity #พี่รหัสไคฮุน -Special-

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 58


     

     

     

    กริ๊งงงงงงงง!!!

     

    เสียงนาฬิกาปลุกแผดดังไปทั่วห้องพักสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนเตียงซึ่งคลุมด้วยผ้าสีขาวสะอาดกับผ้านวมหนานุ่มที่กระจุกเป็นก้อนกลมๆอยู่กลางที่นอนช่างดูรกสายตา เกือบครึ่งนาทีที่นาฬิกาเจ้าปัญหาทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และไม่มีใครคิดจะกดปิดมัน

     

    "เซฮุน ปิดให้หน่อย"

     

    "..."

     

    ก้อนกลมบนที่นอนขยับยุกยิกก่อนจะดีดผึงออกมาจนผ้าผืนหนากระเด็นตกเตียงด้วยแรงถีบของคนใต้ผ้าห่ม ชายหนุ่มผิวแทนลุกขึ้นนั่งอย่างเอื่อยเฉื่อยพรางเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกานั่นให้มันหยุดดังเสียที

     

    จงอินพยายามอย่างหนักที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นมาเพื่อมองหาใครอีกคนซึ่งพักอยู่ห้องนี้ด้วยกัน... และสิ่งที่ได้รับก็มีเพียงความว่างเปล่า เขากวาดสายตาไปทั่วหอพักเล็กๆที่ใช้เป็นเพียงที่ซุกหัวนอนตลอดการใช้ชีวิตในมหา'ลัย ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน เตียงและประตูห้องน้ำพังๆนั่นช่างไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย

     

    พอห้องนี้ไม่มีเซฮุนเดินวนไปวนมาแม่งก็โครตไม่น่าอยู่เลยว่ะ...

     

    หยัดตัวลุกขึ้นไปหยิบโพสอิทสีเหลืองสะดุดตามาอ่านพรางยีผมอันยุ่งเหยิงของตัวเองอย่างนึกรำคาญ กวาดสายตามองปราดเดียวก็จับใจความได้ว่าน้องรหัสผู้ควบตำแหน่งแฟนจ๋าของเขาคงอยู่ที่คณะแล้ว

     

    'วันนี้มีจับสายรหัส พี่ต้องตื่นมาลุ้นน้องรหัสกับผมนะ ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้ว ห้ามนอนต่อนะครับ =) '

     

    ให้ตายเถอะ ไม่บอกเขาก็ต้องไปดูหน้าหลานรหัสตัวเองอยู่แล้ว แต่ที่ไปดูไม่ใช่ว่าอยากจะเห็นหน้าอะไรขนาดนั้นหรอก แค่จะไปคุมเชิงว่ามันน่าไว้ใจได้หรือเปล่า ถ้ามาวอแวเหมือนที่เขาเคยทำกับเซฮุนเมื่อปีที่แล้วมึงเอ๊ย... เตรียมตัวหัวขาดได้เลย

     

    ความหึงหวงมันไม่เข้าใครออกใครหรอกครับบอกเลย

     

     

     

    ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงรวมเวลาวิ่งผ่านน้ำแล้วชายหนุ่มผิวแทนก็บึ่งดูคาติมาถึงคณะนิเทศศาสตร์ เดินมายังไม่ทันถึงสาขาดีก็ได้ยินเสียงอึกทึกจากพวกปีสอง ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าคงเริ่มจับพี่รหัสกันแล้ว กวาดสายตาปราดเดียวก็เจอคนตัวผอมที่ตามหา จงอินเข้าไปโอบเอวบางจากหลังด้วยความเคยชิน แต่ดูเหมือนการเข้าชาร์จแฟนจ๋าแบบไม่ให้รู้ตัวนั้น จะเป็นเรื่องที่คิดผิดมหันต์...

     

     

    ป้าบ!

     

    "โอ๊ย ตีทำไมเนี่ย" จงอินคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ตีเขาได้อีก ก่อนจะถลึงตาใส่แฟนที่กำลังทำหน้าเหรอหรา หลังจากหันมาเห็นเต็มสองตาแล้วว่าเป็นเขาเอง ไม่ใช่ไอ้บ้าหื่นกามที่จะมาลวนลาม วินาทีต่อมาเซฮุนถึงได้เปลี่ยนเป็นขยับปากมุบมิบขอโทษขอโพยเขาเสียยกใหญ่

     

    "ผมไม่รู้ว่าเป็นพี่นี่ครับ เข้ามาแบบนี้ก็ตกใจหมดสิ"

     

    "เจ็บ~" เซฮุนหลุดขำออกมาเมื่อจงอินออดอ้อนเสียงอ่อน เอื้อมมือไปลูบรอยแดงบนท่อนแขนแกร่งซึ่งเกิดจากน้ำมือของเขาเองด้วยความสงสาร รู้ว่าแฟนหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์แกล้งสำออย แต่ก็ยอมเขาหน่อย พลั้งมือฟาดไปซะเต็มแรงขนาดนั้น

     

    เซฮุนไม่ชอบให้ใครมาโอบเอว เอาคางเกยไหล่ เพียงแค่รู้สึกว่าโดนสัมผัสถึงแม้จะบางเบาแต่เขาก็พร้อมจะประทับฝ่ามือลงไปให้เจ้าของมือปลาหมึกได้เจ็บแสบ แต่ทว่าความไม่ชอบนี้ก็ยังมีข้อยกเว้น นอกจากพ่อแม่แล้วก็คงมีเพียงผู้ชายที่ชื่อคิมจงอินเท่านั้นที่เซฮุนอนุญาต ให้ทำแบบนั้นได้

     

    แต่ที่ฟาดแฟนหนุ่มไปก่อนหน้านี้เขาตกใจจริงๆ ปกติแล้วจงอินจะไม่ค่อยแตะเนื้อต้องตัวเขามากจนเกินไปในเวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้

     

    ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาแปลกใจได้เสมอ คนที่ไม่สนใจอะไรและจูบเขาในที่สาธารณะตอนขอคบ คิมจงอินไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่นว่าจะมองตัวเองยังไง จนกระทั่งโอเซฮุนได้ตำแหน่งเดือนคณะมาครอบครอง เขาเป็นที่จับตามองมากขึ้นกว่าเดิม จงอินจึงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อมากนักเพราะไม่อยากให้คนอื่นมองเซฮุนในทางที่ไม่ดี

     

    พวกเขาต่างรู้ว่าอยู่ในสถานะคนรักกัน คนรอบข้างที่สนิทก็รู้ แต่คนภายนอกไม่รู้และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องป่าวประกาศ เพราะฉะนั้นการไม่ทำอะไรให้เซฮุนถูกว่ากล่าวในแง่ลบถือเป็นเรื่องดีที่สุด

     

    "โว้วๆ สนใจน้องหน่อยดิพี่"

     

    เสียงโหวกเหวกจากใครบางคนที่ดังขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ ใช้สายตาคมปราดมองตัวต้นเสียงก็พบว่าเป็นรุ่นน้องตัวเขียวนั่นเอง ยกมือขึ้นหวังจะแจกนิ้วกลางให้มันข้อหากวนประสาทแถมยังขัดจังหวะ แต่ทว่าเซฮุนกลับดึงรั้งแขนเขาเอาไว้เสียก่อน.. หันไปมองเบื้องหน้าถึงได้รู้ว่ารุ่นน้องปีหนึ่งที่กำลังจะเอ่ยแนะนำตัวและบอกเลขพี่รหัสที่ได้ชะงักไป

     

    ...นี่กูเป็นต้นเหตุหรอครับ?

     

    "ต่อดิน้อง" เห็นยืนทำตาลอกแลกอยู่นานจนต้องพูดเร่ง มันถึงได้เลือกยืนงงแล้วพูดต่อสักที

     

    "เอ่อ...ผมชื่อราวี่ พี่รหัสเลข 94 ครับ"

     

    "พี่จงอิน คนนี้ๆ"

     

    เสียงกระซิบข้างหูด้วยความตื่นเต้นจากคนตัวบางดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนน่ารำคาญจากคนรอบข้าง จงอินไม่สนใจพวกปากหมาที่แย่งกันแหกปากบอกน้องว่าพี่รหัสเบอร์ 94 แสนดี น่ารักน่าขย้ำขนาดไหน  บ้างก็บอกให้ระวังไว้ถ้ายุ่มยามกับพี่รหัสคนนี้มากๆจะโดนแดกหัวเอา ตอนนั้นน้องมันหน้าเหวอไปเลยว่ะ แต่ที่พวกมันพูดก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากความคิดเขาเท่าไหร่หรอก

     

    จงอินใช้สมองอันชาญฉลาดจดจำใบหน้าและชื่อของรุ่นน้องในสายรหัสคนใหม่จนขึ้นใจ.. ราวี่หวังว่าจะไม่มาราวีกับแฟนพี่นะน้อง เรื่องเต๊าะคนในสายรหัสด้วยกันเองปล่อยให้คิมจงอินคนนี้เป็นตำนานเพียงคนเดียวก็พอ

     

     

     

    .

    .

    เกือบสิบนาทีแล้วที่แฟนหนุ่มของเขาเอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา รอยย่นที่แปะอยู่กลางหว่างคิ้วสร้างความสงสัยให้เขาได้ไม่น้อย จงอินต้องมีเรื่องเครียดอะไรแน่ๆถึงได้ขมวดคิ้วมุ่นแถมยังทำหน้ายุ่งตลอดเวลา หลังจากประชุมเสร็จ

     

    "ข้าวผัดกิมจิอร่อยมากเลยอ่ะ ถ้าพี่ไม่กินผมจะกินหมดเลยนะ"

     

    "กินสิ" เซฮุนชะงักเล็กน้อยเมื่ออีกคนตักข้าวพร้อมกันยื่นช้อนมาข้างหน้าราวกับจะป้อน มันเป็นเรื่องปกติหากคนเป็นแฟนจะมีมุมเอาใจกันแบบนี้บ้าง ทว่าน้ำเสียงและท่าทางของจงอินต่างหากที่แปลกไป

     

    "พี่จงอิน เครียดอะไรบอกผมได้มั้ยครับ" เซฮุนเอื้อมไปกุมมือหนาพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง.. หลังจากรู้ว่าคนไหนเป็นน้องรหัสเขาแล้วจงอินก็บอกว่าจะไปประชุมเรื่องค่ายอาสากับรุ่นพี่ปี 4และอาจารย์ต่อ.. ก็นั่นแหละ จนถึงตอนนี้แฟนหนุ่มของเขาก็ยังมีสีหน้ามึนตึง ราวกับครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา

     

    "เฮ้อ ช่างมันเถอะ"

     

    "ไหนบอกจะไม่มีเรื่องปิดบังกันไง... พี่กำลังไม่สบายใจงั้นแบ่งเบามาให้ผมนะ แล้วถ้าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่คิดมากแบบนี้ยิ่งต้องบอกผมนะ พี่จงอิน"

     

    จงอินหลุดยิ้มให้กับประโยคแสดงความห่วงใยแสนน่ารักของคนตรงหน้า จนถึงตอนนี้เขาได้แต่ถามตัวเองในใจว่ากำลังกังวลอะไรอยู่กันแน่ ตอนประชุมเรื่องค่ายอาสาที่ จัดขึ้นทุกๆปีเขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องจัดแจงที่พักให้ทุกคน แล้วยังไงก็ปี 1 กับปี 2 ซึ่งเป็นพี่รหัสน้องรหัสต้องนอนห้องเดียวกันยังไงล่ะ

     

    ชายหนุ่มไม่ใช่คนงี่เง่าไร้สาระ แต่ทว่าการจินตนาการไปถึงตอนแฟนของเขาต้องนอนกับคนอื่นสองต่อสองในห้องแล้วมัน... ก็รู้ว่าไม่มีอะไรหรอก แต่คิมจงอินโครตจะหวงโอเซฮุนเลยว่ะครับ

     

    "ประชุมแล้วยังตกลงกันไม่ได้หรอครับ"

     

    "เปล่า ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว"

     

    ชายหนุ่มผิวแทนท้าวคางมองดวงหน้าขาวที่แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่ากำลังสับสนในตัวเขา.. ถ้าบอกออกไปว่าหึงเด็กนี่จะขำกร๊ากออกมาหรือเปล่าวะ

     

    "ถ้าไม่พอใจที่ผมจะชวนราวี่มากินข้าวด้วยผมขอโทษนะครับ" มองริมฝีปากอิ่มที่ยื่นออกมาขณะจ้อไปเรื่อยด้วยความหมั่นเขี้ยว ย ิ่งนับวันโอเซฮุนยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้จะไม่ให้หวงได้ไง "ข้าวพวกนั้นมันไม่อร่อยจริงๆ ผมก็อยากเลี้ยงข้าวน้องบ้างแบบที่พี่เลี้ยงผมปีที่แล้วไง"

     

    จงอินทนฟังคนตัวผอมคาดเดาไปต่างๆนาๆ ถึงเรื่องที่ทำให้เขากังวลใจต่อไปไม่ไหว จึงได้เอื้อมมือไปบีบกลีบปากอิ่มสีชมพูเอาไว้จนเหมือนปากเป็ดอย่างที่ชอบทำประจำ เวลาเซฮุนจ้อไม่หยุด ไม่ใช่เพราะรำคาญ หากแต่สิ่งที่เด็กตรงหน้าคิดมันใช่เหตุหลักที่ทำให้เขากังวล เสียเมื่อไหร่

     

    "โธ่ เด็กน้อย ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดมาตลอด ว่าที่พาไปกินข้าวด้วยบ่อยๆ เพราะนายเป็นน้องรหัส"

     

    "..." เซฮุนกระพริบตาปริบๆตั้งใจฟังสิ่งที่พี่รหัสผู้ควบตำแหน่งแฟนกำลังพูด เห็นแบบนั้นแล้วจงอินถึงได้ปล่อยมือออก

     

    "ดูแลน้องรหัสแค่ซื้อน้ำซื้อขนมให้มันก็พอแล้ว ถามเรื่องเรียนมันบ้าง.. ไม่ใช่ต้องทำแบบฉันเมื่อปีที่แล้ว"

     

    "พี่ดูแลผมดีมากๆ ผมอยากดูแลน้องรหัสให้ดีเหมือนพี่นี่นา"

     

    "เซฮุนนา นายก็รู้นี่ว่าที่ฉันให้นายมันมากกว่าพี่รหัสน้องรหัส"

     

    "..."

     

    "ที่ตอนนั้นฉันดูแลนายดีเป็นพิเศษ เพราะฉันชอบนายไง เข้าใจหรือยัง"

     

    จงอินยกมือขึ้นเสยผมด้วยความประหม่ากับคำพูดแบบนี้ที่ไม่ค่อยได้เอ่ยออกมาบ่อยนัก คบกันมาจะเป็นปีแล้วแทบนับครั้งได้ที่ชายหนุ่มผิวแทนจะพูดอะไรหวานๆ คิมจงอินก็คือคิมจงอินวันยันค่ำ ยังคงขี้แกล้ง กวนประสาทแม้ว่าจะเป็นแฟนกันแล้ว เขาไม่ชอบใช้คำพูดถึงแม้มันจะทำให้รู้สึกดี แต่อะไรมันจะสำคัญไปกว่าการกระทำ.. เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักเซฮุนมากแค่ไหน ไม่ต้องพูดอะไรมากมาก แต่เขาเชื่อว่าเซฮุนจะรู้สึกได้ด้วยใจ

     

    "ไม่ต้องกังวลนะ ผมไม่หลงรักน้องรหัสตัวเองแบบพี่แน่ๆ"

     

    ชายหนุ่มผิวแทนระบายยิ้มออกมาราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องให้กังวลใจมาก่อน เรื่องจัดห้องนอนในค่ายอาสาช่างมันก่อนละกัน ตอนนี้เขาต้องอดกลั้นตัวเองอย่างหนักเพื่อไม่ให้ตัวเองพุ่งเข้าไปฟัดแก้มนิ่มกลางร้านอาหารด้วยความหมั่นเขี้ยว.. ลองมาฟังประโยคกวนๆที่แฝงไปด้วยความน่ารัก ซึ่งมาพร้อมกับรอยยิ้มพิฆาตและดวงตาสระอิแบบเขาดูบ้างสิ

     

    ทนไหวก็ให้มันรู้ไป

     

    "เลิกน่ารักซักทีเถอะ โอเซฮุน"

     

     

     

     

     

     

    X

     

     

     

     

     

     

    ชายหนุ่มผิวแทนระบายยิ้มออกมาเมื่อคนตัวบางปรากฏขึ้นในกรอบสายตา นั่นหมายความว่าการรอคอยแฟนจ๋าเลิกเรียนตลอดสามชั่วโมงสิ้นสุดลงแล้ว มักจะเป็นอย่างนี้ในทุกๆวัน เป็นอันรู้กันว่าหากใครเลิกเรียนก่อนแล้วไม่มีธุระอะไรก็จะต้องรอเพื่อกลับหอพร้อมกัน ถึงแม้จงอินจะไม่เต็มใจนักที่ต้องปล่อยให้เซฮุนนั่งรอเขาคนเดียวเป็นชั่วโมง แถมยังเป็นอาหารตาให้ใครๆอีก เพราะเหตุนี้เขาถึงได้พยายามลงเรียนให้เวลาตรงกันมากที่สุด แม้จะเป็นไปได้ยากก็ตาม

     

    คิดอะไรได้ไม่นาน บางสิ่งก็ทำให้รอยยิ้มทรงเสน่ห์ต้องแปรเปลี่ยนไป แก้มกร้านข้างหนึ่งนูนขึ้นเมื่อเจ้าของดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มด้วยอารมณ์หงุดหงิด จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ไอ้หลานรหัสของเขาน่ะสิที่มันวิ่งวนไปทางซ้ายที ขวาทีรอบๆตัวเซฮุนอยู่ตอนนี้น่ะ..

     

    “ย่าๆๆ คิมวอนชิค !!” เสียงทุ้มต่ำของพี่ว๊ากปีสามแผดลั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนจะส่งสายตาดุดันไปให้เจ้าของชื่อที่เอาแต่ยิ้มแห้งๆตอนเห็นหน้าเขา

     

    “โห่ลุง บอกให้เรียกราวี่” เซฮุนหลุดขำเมื่อน้องรหัสทำใจกล้าเถียงกลับ แต่พอถูกพี่รหัสของเขาถลึงตาใส่เข้าให้ก็ได้แต่ทำหน้าหงอ จงอินกับราวี่ชอบทะเลาะกันบ่อยๆถึงจะไม่จริงจังก็เถอะ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไม หรือมันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จนถึงตอนนี้ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

     

    “กูจะเรียกมึงว่าราวี่ก็ต่อเมื่อมึงเลิกวอแวกับน้องรหัสกู เข้าใจนะ”

     

    “แต่น้องรหัสลุงก็เป็นพี่รหัสของผมเหมือนกันนะเว่ย”

     

    “อะไรนะ?!” จงอินคว้าน้องเล็กในสายรหัสเข้ามาใกล้ พร้อมกับลงทัณฑ์ด้วยการรัวมือใส่หัวทุยของมันไม่ยั้ง “พี่รหัสของผมงั้นหรอ ห๊ะๆ”

     

    “โอ๊ยลุง ผมพูดอะไรผิดวะ”

     

    “พี่จงอินพอแล้ว” เซฮุนส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนจะรั้งแขนแฟนหนุ่มเป็นเชิงห้ามให้เลิกตบหัวราวี่เสียที “แค่นี้น้องมันก็กลัวจนหัวหดแล้วเนี่ย”

     

    “เห็นแก่เซฮุนหรอกนะ”

     

    จงอินชี้หน้าคาดโทษอย่างไม่จริงจังนัก เขาแค่หมั่นไส้เวลามันชอบมาวอแวกับแฟนของเขา ก่อนที่มันจะรู้ว่าเซฮุนเป็นพี่รหัสก็ว่าเยอะแล้ว พอมันรู้ยิ่งเยอะกว่าเก่า ไม่รู้อะไรของมันนักหนา ซื้อน้ำซื้อขนมมาให้บ้างล่ะ ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของมันเลย ทักไลน์มาตอนดึกๆบ้างล่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรจนตอนนี้เริ่มรู้สึกตะขิดตะขวงใจแล้วว่ามันคิดอะไรกับแฟนกูเปล่าวะ..

     

    ไอเด็กราวี่นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งเวลามันอยู่กับเซฮุนสองคน ตั้งแต่ตอนไปค่ายอาสาแล้ว ชายหนุ่มแทบจะเอาตีนก่ายหน้าผากเมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปนอนตามห้องที่จัดไว้ให้.. ภาพที่เขาเคยแกล้งเซฮุนเมื่อปีที่แล้วผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลา ถ้ามันพิเรนทร์แกล้งเซฮุนแบบนั้นบ้างจะทำยังไงวะ!? แน่นอนว่าจงอินเชื่อใจเซฮุนมาก แต่ไม่เชื่อใจคนอื่นโว้ย

     

    เขาพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ ในใจอยากจะบุกไปห้องของเซฮุนกับราวี่แล้วลากแฟนจ๋ามานอนด้วยกันให้รู้แล้วรู้รอด แต่มันทำไม่ได้ไง

     

    สรุปในคืนนั้นจงอินก็ตาค้างตลอดทั้งคืน เพราะไม่สามารถเลิกเป็นห่วงแฟนตัวเองและข่มตาให้หลับลงได้ ถ้าเซฮุนรู้เรื่องนี้คงประหลาดใจอย่างมาก ที่คนหลับทันทีที่หัวถึงหมอนอย่างเขานอนไม่หลับเพราะหึงแฟน นึกแล้วก็ขำตัวเอง..

     

     

    โอเซฮุนโครตมีอิทธิพลต่อหัวใจเขาเลย ให้ตาย

     

     

     

    .

    .

    เกือบสามสิบนาทีแล้วที่จงอินได้แต่นั่งมองคนตัวบางหยิบชุดโน้นชุดนี้มาทาบกับตัวเองพร้อมกับพึมพำใส่กระจก เย็นนี้ที่สาขามีปาร์ตี้ ซึ่งจัดขึ้นมาเพื่อสังสรรค์ล้วนๆ หาได้มีสาระใดไม่ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือรุ่นพี่ที่จบไปปีที่แล้วจะกลับมาดูหน้าเฟรชชี่และน้องสายรหัสตัวเองก็เท่านั้น

     

    "นายจะใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้นแหละ เซฮุนนา"

     

    เข้าไปโอบเอวบางจากด้านหลัง รั้งให้คนตัวขาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดด้วยรักใคร่ ก่อนจะแย่งเสื้อผ้าในมืออีกคนไปกองบนเตียงรวมกับชุดอื่นๆก่อนหน้านี้

     

    "ผมไม่รู้จะใส่ชุดไหนนี่ครับ พี่จงอินก็ควรจะเลือกชุดของตัวเองด้วยเหมือนกัน" ชายหนุ่มขยับเอาคางเกยไหล่คนในอ้อมกอด ก่อนทั้งคู่จะสบตากันผ่านเงาสะท้อนในกระจก

     

    "แค่นี้ยังหล่อไม่พอหรอ หืม?" กระซิบแผ่วข้างใบหูที่เริ่มแดงแปร๊ดพร้อมกับตั้งใจส่งสายตาหวานซึ้งให้เห็นอย่างเปิดเผย แววตาที่อีกฝ่ายกังวลมาตลอดว่ามันจะไปทำให้คนอื่นหลงใหลเหมือนกับตัวเอง แต่เซฮุนจะรู้ไหมว่าสายตาแบบนี้ เขามีไว้เพื่อมองคนรักของเขาคนเดียว คิมจงอินไม่เคยมองเห็นใครนอกจากโอเซฮุน

     

    "ไม่ต้องหล่อไปกว่านี้แล้ว ผมหวง"

     

    จงอินหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ชายหนุ่มฝังจมูกลงที่ซอกคอขาวพร้อมกับสูดกลิ่นหอมจากอีกคนเสียฟอดใหญ่ให้กับประโยคแสนน่ารักนั้น ริมฝีปากหยักเริ่มซุกซนและพรมจูบไปทั่วซอกคอขาวอย่างหยามใจ เป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่าจงอิน พอได้เข้าใกล้ ได้สัมผัสเซฮุนเข้าหน่อยก็ไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้ เขาไม่รู้ว่าแค่ไหนถึงควรหยุด

     

    "ไม่เอานะ"

     

    หากแต่เซฮุนรู้ว่าควรจะหยุดเขายังไง จงอินมองคนในอ้อมกอดที่ผละตัวเองออกจากการพันธนาการของเขา เซฮุนหันมาเผชิญหน้ากันก่อนจะเริ่มปั้นสีหน้าจริงจังพร้อมกับพูดประคำสั่งละคนขอร้องออกมา

     

    "ไม่ต้องมาหอมมาจูบเลย" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากให้กับประโยคปลายเปิด ก่อนจะกอดอกตั้งใจฟังคำบัญชาจากทูลหัวของเขา ประโยคต่อจากนี้คงเป็นสิ่งที่เขาจำเป็นต้องปฏิบัติตาม หากยังอยากฟัดคนตรงหน้าอยู่

     

    "คราวนี้จะห้ามอะไรอีก"

     

    "คืนนี้ห้ามเมา ไม่ใช่ไม่ให้กิน แต่ถ้าเมาเหมือนหมาแบบปีที่แล้วอีกไม่ต้องมาเข้าใกล้ผมเลย"

     

    "โธ่ เซฮุนนา มีปาร์ตี้ทั้งที ไม่เมาได้ไง"

     

    "..."

     

    เซฮุนกลับไปสนใจเลือกเสื้อผ้าต่อทั้งยังไม่สนใจจะตอบคำถามเขา จนจงอินต้องรั้งข้อมืออีกคนให้หันมาหากัน เลื่อนลงไปกุมมือนุ่มเกินกว่าจะเป็นมือผู้ชายได้ พร้อมกับบีบเบาๆอย่างอ้อนวอนให้แฟนจ๋าเห็นใจ และปล่อยให้เขาได้เมากับเพื่อนๆเถอะ

     

    ในวินาทีถัดมาเซฮุนก็ส่งรอยยิ้มพิฆาตมาพร้อมกับวงแขนเรียวที่ยกขึ้นโอบรอบคอเขา มือไม้ของเขาอยู่ไม่สุขเมื่อคนรักบดกายเข้าแนบชิด ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงสัมผัสบางเบาจากแก้มเนียนเฉียดแก้มเขาไป กลิ่นหอมอ่อนๆที่เป็นเอกลักษณ์ของเซฮุน กับประโยคแผ่วเบาที่กระซิบอยู่ข้างหู แทบทำให้คิมจงอินลืมความคิดอยากจะเมาน้ำสีอำพันไปจนหมดสิ้น..

     

    "ก็อยู่ที่ว่า พี่อยากปาร์ตี้กับเพื่อนพี่น้อง.. หรือกลับมาปาร์ตี้กับผมที่ห้อง"

     

    จบสิ้นแล้วเหล้าเพื่อนรัก มันคงไม่มีหน้าที่ทำให้เขาเมาอีกต่อไป เพราะคิมจงอินพร้อมจะทำตามคำขอของคนรัก และกลับมาปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับเซฮุนสองคน คุณคงไม่รู้หรอก ว่าโอเซฮุนนี่แหละที่มอมเมาเขาได้ดียิ่งกว่าเหล้าเป็นไหนๆ

     

     

     

    เสียงอึกทึกจากเพลงและจังหวะบีทหนักๆกระตุ้นให้ใครหลายๆคนทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นมาขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลง ตอนนี้ก็สี่ทุ่มแล้วหลังจากเริ่มปาร์ตี้มาได้ราวๆสามชั่วโมง แต่ละคนคงเริ่มเมาได้ที่

     

    จงอินลอบมองคนรักเป็นระยะ ด้วยความเป็นห่วง หรือจะให้พูดตรงๆก็หวงนั่นแหละ คงไม่ต่างจากอีกคนนัก ที่คอยจับตาดูเขาตลอดว่าจะขัดคำสั่งแล้วกินเหล้าจนเมาหรือเปล่า ซึ่งชายหนุ่มก็ทำได้เพียงยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่มเท่านั้น

     

    "ไปดูน้องรหัสมึงหน่อยมั้ย ท่าทางไม่ไหวแล้วนะ" สายตาคมมองตามแผ่นหลังของเซฮุนซึ่งประคองเพื่อนตัวเล็ก ที่ทำท่าโก่งคอเหมือนจะอ้วกเข้าไปในห้องน้ำ "ไม่อยากจะเชื่อว่าคยองซูจะดื่มหนักได้ขนาดนั้น"

     

    ปลายตามองเพื่อนสนิทที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วก็ต้องล็อกคอมันเข้ามาซักไซร้ให้ได้ความ เมื่อต่อมเผือกมันกระตุก แม่งต้องมีประเด็นแน่ๆ

     

    "อะไรมึงวะ"

     

    "มึงกับคยองซูนี่ยังไง" ชานยอลดันหัวไอ้เพื่อนส้นตีนที่ล็อกคอเขาออก แต่ก็เท่านั้น แม่งรัดคอเขาหนักกว่าเดิมอีก "ห๊ะ ว่าไง?!"

     

    "กูไปจูบน้องเขา พอใจยังไอ้สัส" ชายหนุ่มผิวแทนปล่อยให้เพื่อนรักได้เป็นอิสระ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาราวกับนี่เป็นเรื่องตลกอ๊อฟเดอะเยียร์

     

    "มิน่า น้องเขาคงเอาแอลกอฮอล์ล้างปากสินะ" จงอินหัวเราะสะใจพร้อมกับยกมือตั้งการ์ด เมื่อไอ้เพื่อนหูกางง้างมือเตรียมตบเขาเต็มที่

     

    "เพื่อนเวร" ยิ้มรับคำด่าพร้อมกับยักคิ้วใส่มันไปทีนึง จากนั้นก็ได้นิ้วกลางของมันมาเป็นการตอบแทน ที่เขากวนตีนมันได้สำเร็จ.. สุดท้ายชานยอลก็เลิกตบตีกับเขาแล้วเข้าไปดูอาการน้องรหัสมัน

     

    ถ้าจบสวยๆหน่อยก็คงพากันไปสารภาพรักที่ไหนซักแห่งแล้วตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน แต่จากสภาพนั้น เพื่อนรัดของเขาอาจได้แผลที่มุมปากกลับมาเพราะถูกคยองซูต่อยเข้าให้ก็เป็นได้

     

    หลังจากชานยอลเดินออกไปได้ไม่นาน เซฮุนก็เข้ามาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขา ถามถึงอาการคยองซูเจ้าตัวแค่ยักไหล่แล้วตอบสั้นๆว่าชานยอลลากไปไหนแล้วไม่รู้.. จะไปไหนก็เรื่องของมันเถอะ ตอนนี้คนที่น่าสนใจคือคนตัวผอมที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่ต่างหาก

     

    "อยากกลับหรือยัง?"

     

    จงอินยิ้มด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นคนรักพยักหน้าจนหน้าม้าแตก ก่อนจะเอนศีรษะมาซบแขนของเขาเหมือนแมวน้อยขี้อ้อน ชายหนุ่มแทบอยากจะพากลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่ทว่า มารผจญก็ปรากฏตัวขึ้นจนได้

     

    "ลุงๆๆ"

     

    จงอินตวัดสายตาที่แสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนไปให้หลานรหัส เป็นจังหวะเดียวกับที่เซอุนเด้งตัวกลับไปนั่งในท่าทางปกติ ไม่หลงเหลือท่าทางขี้อ้อนแสนน่ารักน่าฟัดให้เห็น

     

    "อะไรมึงวะ ไอ้นี่"

     

    "ผมมีเรื่องจะถาม"

     

    "ว่า?!" ชายหนุ่มขานตอบอย่างไม่เต็มใจนัก มึงนี่ตามรังควานความสุขของกูเหลือเกิน ทั้งกวนตีน กวนประสาท ไอ้ที่เรียกเขาว่าลุงๆตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นลุงรหัสนี่ปลงๆและยอมให้มันเรียกไป  แต่เรื่องชอบทำตัววุ่นวายกับแฟนเขา ที่สำคัญชอบมาขัดจังหวะนี่สงสัยต้องมีเคลียร์กันหน่อยละ

     

    "คือ... มีกฏข้อไหนห้ามคบกับคนในสายรหัสปะวะลุง"

     

    ผ่าง!!

     

     ราวกับถูกค้อนปอนด์ใหญ่ฟาดลงกลางหัว สมองอันชาญฉลาดประมวลผลว่าไอประโยคทางอ้อมที่ทำให้คิดไปในทางเดียวว่ามันกำลังคิดไม่ซื่อกับใครบางคนในสายรหัส ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เขาแน่ๆ แล้วจะเป็นใครล่ะ? เจ๊เวนดี้สุดสวยงั้นเหรอ หรือว่าเป็นเซฮุน ขอบอกไว้ตรงนี้เลยถ้าหากเป็นอย่างหลังก็เตรียมอำลาเพื่อนพ้องน้องพี่ได้เลย เพราะมันจะจบชีวิตอยู่ตรงนี้แหละ

     

    "มึงชอบใคร" มีเพียงเซฮุนที่เห็นว่าแฟนหนุ่มของเขากำมือจนแน่นขนาดไหน เส้นเลือดปูดขึ้นตามท่อนแขนอย่างน่ากลัว เขาเอื้อมมือไปกุมกำปั้นนั้นไว้จนอีกฝ่ายค่อยๆคลายมือออก

     

    "ใจเย็นนะครับ" เสียงกระซิบแผ่วเบาราวกับสายฝนเย็นฉ่ำที่ดับความร้อนรุ่มในใจ ถึงแม้อารมณ์โทสะที่กำลังประทุอยู่ จะมาจากความคิดของตัวเองว่ารุ่นน้องคนนี้คิดไม่ซื่อกับแฟนเขา

     

    "ลุงตอบผมมาก่อนดิ"

     

    "มึง-ชอบ-ใคร" พูดชัดถ้อยชัดคำอย่างเหลืออด บอกมาคำเดียวเลยว่าชอบใครจะได้จบๆ จะได้รู้ไปเลยว่าจะใจเย็นลงได้เพราะมันชอบเจ๊เวนดี้ หรือมันจะโดนเตะที่บังอาจมาชอบเซฮุน

     

    "โหย ผมเขินว่ะพี่" ราวี่ทำท่าบิดไปบิดมา ถ้ามันเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มก็น่ารักอยู่หรอก แต่ไอ้นี่แม่ง... โครตน่าถีบ

     

    "ราวี่ รีบๆบอกมาเถอะน่าว่าชอบใคร ถ้าไม่อยากโดนพี่จงอินฆ่าซะก่อน" คนกลางอย่างเซฮุนต้องรีบเอ่ยเร่ง เพราะถ้าขืนน้องรหัสเขายังลีลาอยู่แบบนี้ ต้องโดนพี่รหัสควบตำแหน่งแฟนขี้หึง ต้องกระชากคออีกคนมารัวตบกบาลอีกแน่

     

    "พี่ก็น่าจะรู้นี่ครับว่าผมหมายถึงใคร" <- ราวี่

     

    "เลิกเล่นซักทีเถอะน่า" <- เซฮุน

     

    " -___-* " <- จงอิน

     

    "ผมทำถึงขนาดนี้พี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรอครับ" <- ราวี่

     

    "คิม-วอน-ชิค !!" ความอดทนของเขาได้ขาดผึงลงแล้ว จงอินกระชากคอเสื้อโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกจนน่ากลัว "มึงจะบอกมาดีๆได้หรือยังว่าใคร"

     

    "ผ..ผมบอกก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ต่อยผม"

     

    จงอินแค่นหัวเราะเมื่อสรรพนามที่ใช้เรียกเขาได้เปลี่ยนไป ไม่มีการกวนส่วนต่ำสุดของร่างกายโดยการเรียกเขาว่าลุกอีกต่อไป..

     

    "กูไม่สัญญาอะไรทั้งนั้นแหละ" จงอินกดเสียงต่ำจนคนฟังขนลุกซู่

     

    "พี่จงอิน ใจเย็นก่อนนะ" ชายหนุ่มยอมปล่อยมือออกเมื่อเซฮุนจับที่ต้นแขนของเขา..

     

    "คือผม.." ราวี่ลังเลที่จะพูดออกมา ยิ่งตอนที่รุ่นพี่ผิวแทนถลกเสื้อยืดแขนสั้นขึ้นจนเผยให้เห็นมัดกล้าม เขาก็รู้สึกเจ็บโหนกแก้มขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ได้ถูกต่อย "ผม.. ผมชอบพี่เวนดี้ครับ! โอ๊ย!!"

     

    "ห่าเอ๊ย!!" จงอินรัวตบกระโหลกทุยๆของหลานรหัสเต็มแรง "บอกมาแต่แรกมึงก็ไม่ต้องเจ็บตัวหรอก"

     

    "โอ๊ยลุง ตบจนสมองผมจะไหลแล้วเนี่ย ขำไรอ่ะพี่ ห้ามพี่รหัสของพี่หน่อยดิ พี่เซฮุนนนน!" คนตัวผอมหลุดขำออกมาเมื่อน้องรหัสเริ่มโวยวายขอความช่วยเหลือ ตอนแรกที่จงอินอยู่ในโหมดขรึมก็สงสารอยู่หรอก แต่ตอนนี้หมั่นไส้แล้ว บอกไปดีๆก็ไม่ต้องโดนแบบนี้แล้วมั้ยล่ะ

     

    "จะบอกไรให้นะ คนที่มึงควรจะไปเสนอหน้าให้เขาเห็นบ่อยๆ คือเจ๊เวนดี้คนสวย ไม่ใช่แฟนกู"

     

    "ห๊ะ ใครแฟนลุง คนที่ผมเจอบ่อยๆก็มีแค่ลุงกับพี่เซฮุนแค่นั้นแหละ..." ราวี่ชะงักไปชั่วขณะ หลังจากพ่นคำพูดออกไปเยอะแล้วเพิ่งประมวณผลถึงสิ่งที่รุ่นพี่ต้องการจะสื่อได้ "..พวกพี่คบกันหรอวะ" ชี้รุ่นพี่ทั้งสองสลับกันไปมา พอเซฮุนพยักหน้ารับถึงได้เข้าใจทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่น่าทำไมรุ่นพี่จงอินถึงหวงน้องรหัสเหลือเกิน

     

    "เออ หนักหัวมึงมั้ยล่ะ" ราวี่ส่ายหัวพรืด "งั้นก็แสดงว่าคบกับคนในสายรหัสเดียวกันได้ดิ เยส"

     

    "ดีใจทำซากอ้อยอะไร ทำอย่างกับเขาจะยอมคบด้วย"

     

    "งั้นลุงก็ต้องช่วยผมดิ พี่เวนดี้เป็นพี่รหัสลุงอ่ะ"

     

    "เซฮุนนา~ กลับหอกันเถอะ"

     

    "เห้ย เดี๋ยวดิ ลุง!!"

     

    จงอินหยัดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะรั้งข้อมือแฟนให้ลุกตามมาแล้วโอบเอวบางเดินจากไป โดยไม่คิดจะสนใจเสียงร้องโหยหวนจากรุ่นน้องที่ชอบปั่นประสาทเขาเลยแม้แต่น้อย..

     

     

     

     

     

    x

     

     

     

     

     

    "พี่เซฮุน ลุงบอกให้กลับหอก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ" เซฮุนหันไปพยักหน้ารับน้องรหัสทั้งที่ยังงงๆ ปกติแล้วเวลาจงอินไม่ว่างมารับหรือมีธุะก็จะโทรมาบอกเขาเอง แต่ทำไมวันนี้ถึงฝากราวี่มาบอกได้นะ

     

    แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ จงอินคงไม่ว่างจริงๆ เขาไม่อยากจะสงสัยและเก็บเอามาคิดมาก มองอีกแง่ก็ดีเหมือนกันที่ทั้งสองคุยกันดีๆ แล้วเลิกทะเลาะกันได้เสียที.. เซฮุนใช้เวลาเกือบสามสิบนาทีในการเดินทางกลับหอซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหา'ลัยมากนัก สายตาพลันเหลือบไปมองลานจอดรถ ในใจหวังว่ารถดูคาติคู่ใจของจงอินอาจจะจอดอยู่ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่หวังไว้

     

    ไขกุญแจเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนร่วมกันมานานนับปี ที่แห่งนี้ ห้องที่เคยว่างเปล่าโง่ๆนี่ไม่มีแม้กระทั่งโต๊ะ ตู้ เตียง แต่มันเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย เซฮุนมีความสุขมากที่มีจงอินเข้ามาในชีวิต เขาคิดไม่ออกเลยว่าหากวันนึงมีเหตุให้เราต้องแยกจากกัน หรือไม่ได้อยู่ที่ห้องนี้ด้วยกันแล้ว เขาจะสามารถเดินเหินอยู่ภายในห้องนี้ได้อย่างสนิทใจหรือเปล่า.. แน่นอนว่าไม่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนภาพเลือนรางของผู้ชายคนนั้นที่กำลังหยิบนู่น จับนี่ หรือนอนขี้เกียจอยู่บนเตียง ก็ยังวนเวียนอยู่ในห้องราวกับภาพหลอน

     

    ชายหนุ่มมักจะพูดอยู่เสมอว่าไม่อยากจะเป็นโลกทั้งใบของเขา แต่เราจะเป็นส่วนหนึ่งในโลกของกันและกัน แต่มันไม่ทันแล้ว เพราะนอกจากพ่อแม่ คิมจงอินก็เป็นโลกทั้งใบของโอเซฮุนไปเรียบร้อยแล้ว

     

    เซฮุนหัวเราะให้กับความคิดบ้าบอของตัวเอง นี่เขาเป็นบ้าอะไรอยู่ๆก็คิดมากเรื่องนี้ ราวกับจงอินกำลังจะจากเขาไปอย่างไรอย่างนั้น.. หรือเขาเรียกความรู้สึกเหล่านี้ว่า 'ลางสังหรณ์'

     

    บนโต๊ะทำงานดูเรียบร้อยจนแปลกตา กระดาษเอกสารมากมายของคนร่วมห้องที่มักจะกองจนรกอยู่บนนั้นหายไปไม่เหลือแม้แต่แผ่นเดียว ขาเรียวยาวก้าวไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ทว่ามันไม่ได้เกิดจากความตื่นเต้นดีใจ แต่มันเกิดจากความกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาเต็มหัวใจ

     

    อย่าให้สิ่งที่เขาคิดเกิดขึ้นจริงเลย..

     

    "...!!"

     

    เซฮุนเบิกตากว้าง ทั้งตกใจและผิดหวัง ทุกอย่างมันตีรวนขึ้นมาจนเขาสับสนไปหมด ภายในตู้เสื้อผ้าไม่หลงเหลือสิ่งใดที่บ่งบอกว่าใครอีกคนยังอยู่ในห้องนี้ และจะกลับมา.. เสื้อผ้าทุกชุดที่อยู่ในนั้นล้วนเป็นของเขาเพียงคนเดียว

     

     

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!

     

     

    เซฮุนกดโทรศัพท์โทรหาแฟนหนุ่มทันที เขาเดินวนไปมาระหว่างรอสายด้วยใจที่ว้าวุ่น "รับสิ พี่จงอิน ขอร้องล่ะ"

     

    (ฮัลโหล เซฮุนนา กึกๆ #-?฿¢%&)

     

    "พี่จงอิน พี่อยู่ที่ไหน"

     

    (จงอินคะ ตรงนี้ใช่มั้ย? .. ชู่ว~ เงียบก่อนครับ ..  ฮัลโหล เซฮุนได้ยินมั้ย )

     

    เซฮุนกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงคอ มือบางยกขึ้นปิดปากตัวเองไม่ให้เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมา เสียงพูดคุยต่อบทสนทนาของจงอินและหญิงสาวในสายทำให้น้ำตาเขารื้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังเสียงกุกกักราวกับเสียงบางอย่างเสียดสี กระทบกระทั่งกันดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา

     

    นี่หรอคือคำตอบที่เสื้อผ้าและของของจงอินหายไป หญิงสาวปริศนากับแฟนหนุ่มของเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เซฮุนไม่เคยรู้ว่าก่อนหน้านี้จงอินเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า คนที่ดูเป็นผู้ชายดิบๆและหล่อเหลาขนาดนั้นคงมีผู้หญิงเข้ามาชอบเยอะแน่ๆ แล้วถ้าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่จงอินเคยคบ คงไม่แปลกใช่ไหม ที่อีกคนจะกลับไปหาผู้หญิงเพราะเขาไม่ใช่แบบที่จงอินชอบจริงๆ มันไม่ผิดใช่ไหมที่จงอินจะกลับไปทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ทั้งที่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วใครเป็นผู้กำหนด..

     

    โทรศัพท์เครื่องหรูหลุดจากมือเรียวเมื่อเจ้าของไม่มีแรงจะกุมมันไว้อีกต่อไป เขาอยากจะร้องไห้ออกมาหากแต่มันร้องไม่ออก คิมจงอินคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด แสดงออกว่ารักเขา และเป็นคนชัดเจนขนาดนั้นจะนอกใจเขาจริงๆน่ะเหรอ?

     

    ใครก็ได้ บอกทีว่าเขาแค่ฝันไป หรือบางทีเขาแค่หูฝาดไป..

     

     

    .

    .

    'คุณว่าแฟนผมจะชอบมั้ยครับ'

     

    'ใครๆก็ชอบที่คนรักยอมตกแต่งบ้านในแบบที่ตัวเองอยากได้ทั้งนั้นแหละค่ะ แฟนคุณต้องดีใจมากแน่ๆ'

     

    จงอินยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาขอความช่วยเหลือจากคนงานที่บริษัทพ่อให้มาช่วยตกแต่งคอนโดใหม่ ทั้งวอลเปเปอร์และของตกแต่งทุกอย่างให้เป็นไปตามแบบที่เซฮุนชอบ พวกเขาเคยคุยกันบ่อยๆว่าอยากจะได้บ้านแบบไหน ถ้าได้ย้ายไปที่ใหม่ ถึงนี่จะเป็นคอนโดแต่เขาก็พยายามเนรมิตรให้เหมือนกับบ้านที่เซฮุนชอบมากที่สุด

     

    แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เพราะหลังจากที่เซฮุนโทรมาแล้วยังไม่ทันได้คุยกันให้รู้เรื่องสายก็ตัดไป พอโทรกลับก็ติดต่อไม่ได้อีก จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ

     

    ในที่สุดสองล้อที่เสียดสีกับถนนด้วยความเร็วตลอดครึ่งชั่วโมงก็หยุดลงหน้าหอที่แสนคุ้นเคย ชายหนุ่มกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง ในใจของเขาเต้นระรัวด้วยความลุ้น จงอินเตรียมคำพูดโน้มน้าวมาแล้วถ้าเซฮุนงอแงไม่ยอมไปคอนโดใหม่ด้วยกัน มันเป็นเรื่องยากที่จะทิ้งที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำไป แต่ก็ใช่ว่ามันจะลยเลือนไปจากใจ ถึงจะอยู่ที่ไหนความทรงจำที่มีร่วมกันก็มีค่าเสมอ และเขาหวังว่าเซฮุนจะชอบและยอมไปอยู่ห้องใหม่กับเขา

     

    หลังจากปลดล็อกประตูได้สำเร็จก็ผลักประตูเข้าไป ในตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง เขาสับสนและทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นคนรักของเขาซึ่งนั่งกอดเข่าอยู่ปลายเตียงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่เปรอะเปื้อนไปทั่วดวงหน้าขาว

     

    "เซฮุนนา~"

     

    "ไม่.. อึก ไม่ต้องเข้ามาเลยนะ" เซฮุนพยายามเปล่งเสียงที่แหบพร่าออกมาแม้จะทำได้ยากลำบากเพราะแรงสะอื้น

     

    "เกิดอะไรขึ้น ร้องไห้ทำไม?"

     

    จงอินรวบคนตัวบางเข้ามากอดแน่น หัวใจเขาแทบสลายเมื่อเซฮุนเอาแต่ร้องไห้จนตัวโยน และทุบตีเขาไม่หยุด ในหัวพยายามตรึกตรองว่าเขาไปทำอะไรผิดไปหรือเปล่า อีกคนถึงได้ร้องไห้หนักแบบนี้

     

    "พี่ไปอยู่ไหนมา .. พี่จะทิ้งผมแล้วใช่มั้ย .. ฮึก .. ผมทำอะไรผิด ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร" เขาไม่รู้แล้วว่าควรจะเจ็บเพราะกำปั้นที่กระหน่ำทุบลงมา หรือยืนงงกับสิ่งที่คนรักพูดดี เขาไม่เคยคิดจะทิ้งเซฮุน แล้วผู้หญิงอะไรกัน เซฮุนต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ

     

    “ฉันอยู่นี่แล้ว หยุดร้องก่อนนะ” วงแขนแกร่งกอดรัดคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงแน่น ยิ่งเซฮุนทุบเขา ยิ่งผลักไสเขาก็ยิ่งกอดอีกคนให้แน่นกว่าเดิม

     

    “...”

     

    นานทีเดียวที่ชายหนุ่มเฝ้าปลอบประโลมให้คนตัวผอมใจเย็นลง มือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน จงอินรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยที่เห็นร้องไห้หนักแบบนี้ เราไม่เคยทะเลาะกันหนัก และเขาไม่เคยทำให้เซฮุนเสียใจจนร้องไห้ฟูมฟายขนาดนี้ และแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมทำแบบนั้นเป็นอันขาด

     

    “พี่จงอิน..” เจ้าของชื่อก้มมองคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้ผละหน้าออกจากหน้าท้องของเขาแล้ว มือหนาเลื่อนมาประคองใบหน้าได้รูปของคนรักเอาไว้ หัวใจของเขากระตุกวูบจนมันเจ็บไปหมดเมื่อเซฮุนมองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน ไม่ต่างจากลูกแมวถูกทิ้งเลยซักนิด “...อย่าทิ้งผมไปนะ อย่าเลิกกับผมนะ”

     

    “เซฮุน มันไปกันใหญ่แล้ว” เขาไล้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบน้ำตาออกจากดวงหน้าขาว จงอินรู้สึกได้ว่าเสื้อของเขามันตึงเพราะเซฮุนดึงและกำเสื้อของเขาแน่น

     

    “บอกผมมานะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ของของพี่หายไปไหนหมด”

     

    “เซฮุน ฟังนะ ที่ของหายไปเพราะฉันย้ายไปที่คอนโดใหม่..” คนตัวผอมกอดรั้งเอวหนาเอาไว้ทันทีที่ยังฟังไม่จบประโยค หัวใจดวงน้อยแตกเป็นเสี่ยงๆยามที่มือหนาลูบผมเขาราวกับปลอบประโลม มันไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยซักนิด.. จงอินกำลังจะย้ายออกไปจริงๆ

     

    “ไม่ไปได้มั้ย?”

     

    เสียงอู้อี้ของคนที่ซบอยู่กับหน้าท้องทำให้เขายิ้มออกมาได้ในที่สุด จงอินไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เซฮุนเข้าใจผิด แต่มันทำให้รู้ว่าอีกคนรักเขามากแค่ไหน เซฮุนกำลังรั้งและไม่อยากให้เขาจากไป

     

    “ไม่ได้หรอก...”

     

    “นิสัยไม่ดี ทำไมทำกับผมแบบนี้” เซฮุนละใบหน้าออกมาก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทุบตีคนตรงหน้าอีกครั้ง เขากำลังเสียใจแล้วก็ไม่พอใจมากด้วยๆ แต่จงอินก็ยังเอาแต่ยิ้มอยู่ได้

     

    โอเซฮุนนั่งทำตาปริบๆอยู่บนเตียงที่เดิม ที่นั่งร้องไห้ฟูมฟายเป็นชั่วโมงๆด้วยความงุนงง มองตามชายหนุ่มผิวแทนที่ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเขาออกมากางไว้ข้างๆเขา ก่อนที่เสื้อผ้าในตู้จะถูกกวาดลงกระเป๋าจนหมด

     

    “ฉันจะย้าย แล้วนายก็ต้องไปกับฉันด้วย เข้าใจมั้ยครับคุณแฟน”

     

    “ไม่เข้าใจ” เซฮุนตอบตามความจริง พอจงอินหลุดขำออกมาเขาก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “พี่แกล้งผมหรอ”

     

    “ไม่ได้แกล้ง ฟังนะเซฮุนนา...” แฟนหนุ่มเดินมาทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงข้างๆเขา ก่อนจะรั้งมือเขาไปกุมเอาไว้แน่น “ฉันไม่ได้จะทิ้งนายไปไหน แล้วก็ไม่ได้นอกใจ ที่ฉันย้ายของตัวเองออกไปก่อนเพราะไม่รู้ว่าของสำคัญของนายมีอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นถึงได้รอให้กลับมาแล้วจะช่วยเก็บของไง”

     

    “...”

     

    “แล้วคราวนี้บอกได้หรือยัง ว่าทำไมถึงได้มานั่งร้องไห้แบบนี้”

     

    “ก็.. ผมกลับมาที่ห้องแล้วไม่เห็นของของพี่นี่ครับ เสื้อผ้าอะไรก็หายไปหมดเลย” เซฮุนกลอกตาราวกับชั่งใจว่าควรจะพูดประโยคต่อไปดีหรือเปล่า แต่จงอินเคยบอกว่ามีเรื่องอะไรต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง เพราะฉะนั้น... “ตอนโทรไปก็ได้ยินเสียงผู้หญิง เสียงกุกกักอีก... จะให้ผมคิดยังไง”

     

    เซฮุนทำปากยื่นปากยาวเมื่อจงอินขำออกมาราวกับเรื่องที่เขาเพิ่งพูดออกไปเป็นเรื่องตลก เขาเสียใจมากจริงๆนะ ทำไมถึงเอาแต่ยิ้มแล้วส่งสายตาแบบนั้นมาอยู่ได้

     

    “เก็บของกันเถอะ พอไปถึงห้องใหม่แล้วจะแนะนำผู้หญิงคนนั้นให้รู้จักด้วย”

     

    “พาเขามาอยู่ที่ใหม่ด้วยหรอ คนนิสัยไม่ได้ คนเจ้าชู้ คนเจ้าเล่ห์” ดวงหน้าน่ารักงอง้ำทันที ก่อนจะฟาดท่อนแขนสีแทนไปหลายรอบ แต่ยังไม่ทันจะสาแก่ใจเลย คนร้ายกาจอย่างคิมจงอินก็รวบตัวเขาเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเสียแล้ว “ผมไม่ไปด้วยหรอก ปล่อยผมนะ”

     

    “ถ้าไปถึงแล้วไม่ชอบที่นั่น จะยอมย้ายของทุกอย่างกลับมาที่ห้องเล็กๆ ห้องนี้เลย”

     

     

     

    .

    .

    จงอินขนของชิ้นสุดท้ายเข้ามาไว้ในคอนโดใหม่ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆอย่างหมดแรง เนื่องจากขนของหลายรอบและมันก็หนักๆทั้งนั้น ซึ่งไอ้ของทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของเซฮุนต่างหาก เพราะทันทีที่พาเซฮุนมาถึง จากอารมณ์ขุ่นมัวและแววตาหมองช้ำกลับเปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที

     

    แน่นอนว่าห้องที่กว้างขวางกว่าหอเล็กๆนั่นย่อมน่าอยู่กว่าเป็นไหนๆ ประตูห้องน้ำก็ไม่ได้พังจนล็อกไม่ได้(จงอินจะได้แอบเข้าไปตอนเซฮุนอาบน้ำไม่ได้อีก) การตกแต่งก็น่ารักในแบบที่เขาชอบ แต่ก็ผสมกับความเท่ในแบบของจงอินได้ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนที่จงอินแนะนำผู้หญิงในสายให้รู้จักเขารู้สึกเขินมาก ไม่ใช่เพราะเธอสวยหรืออะไร แต่เธอแค่เป็นคนออกแบบห้องนี้ให้ ไม่ใช่กิ๊กของจงอินอย่างที่คิดไปเอง

     

    “ชอบไหมหืม” เซฮุนพยักหน้าหงึกก่อนจะทิ้งตัวลงในอ้อมกอดแสนอบอุ่นทันทีที่จงอินอ้าแขนออกรอรับแฟนจ๋า

     

    “ไปแอบซื้อไว้ตอนไหนครับ แล้วเอาเงินมาจากไหน”

     

    “มีปัญญาขับดูคาติ แต่ไม่มีปัญญาซื้อคอนโดกว้างๆอยู่กับแฟนก็แย่ละ” เห็นเซฮุนทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อก็หลุดขำออกมา ชายหนุ่มหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ก่อนจะกระซิบบอกวิธีหาเงินให้จนคนฟังตาโต “จริงๆแล้วฉันแอบซื้อหุ้นบริษัทของพ่อ แล้วตอนนี้ก็ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่งล่ะ”

     

    “แกล้งผมอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” เซฮุนฟาดท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างไม่จริงจังนัก เขาทำปากเป็ดใส่ด้วยความหมั่นไส้ที่จงอินไม่ยอมตอบแถมยังยักไหล่ให้อีก เรื่องแกล้งล่ะก็คงไม่มีใครเกินพี่รหัสคนนี้แล้วล่ะ

     

    “รู้มั้ยว่าฉันตกใจแทบแย่ ตอนเห็นนายนั่งร้องไห้น่ะ”

     

    “พี่ไม่เคยทำผมร้องไห้เลยนี่”

     

    “จะไม่มีวันทำด้วย”

     

    เซฮุนเอนศีรษะซบกับบ่ากว้างพร้อมกับเผยรอยยิ้มกว้างอย่างไม่สามารถห้ามได้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนทำไมเขาถึงได้คิดไปต่างๆนานาได้ขนาดนั้นนะ ทั้งที่จงอินชัดเจนแล้วก็รักเขามากแท้ๆ

     

    “ตอนนั้นผมรู้สึกแย่มากเลย ผมคิดว่าบางทีถ้าผมเป็นผู้หญิงมันคงจะดีกว่านี้” เซฮุนช้อนสายตามองอีกคนที่หัวเราะออกมาเบาๆ วินาทีต่อมาเขาก็ต้องหลับตาลงเมื่อได้รับสัมผัสอุ่นจากริมฝีปากหนาที่หน้าผากของตัวเอง

     

    “ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะชอบผู้ชายได้ แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบผู้ชายน่ารักทุกคนบนโลกใบนี้  แต่นายเป็นข้อยกเว้นนะโอเซฮุน” เจ้าของชื่อตั้งใจฟังด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ แววตาที่มองมาเปี่ยมไปด้วยความจริงใจและความรักจนเขารู้สึกได้ เซฮุนรู้สึกหัวใจพองโตเหมือนกับตอนแรกๆที่เพิ่งคบกัน.. มันยากที่จะอธิบาย แต่เข้าไม่รู้แล้วว่าต้องทำยังไงถึงจะต้องเลิกหลงใหลในทุกๆอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้ได้ “จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแล้วจะทำไม แค่เป็นโอเซฮุนให้ฉันรักก็พอ”

     

    จงอินยิ้มตามเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสซึ่งมาพร้อมตาเรียวสวยที่หยีลงอย่างน่ารัก เซฮุนเป็นความสดใสยิ่งกว่าดอกไม้ที่บานสะพรั่ง.. เรื่องความรู้สึกเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และเขาคงจะห้ามไม่ให้เซฮุนคิดมากไม่ได้ แต่เขาจะแสดงออกให้น้องรหัสคนนี้เห็นมากขึ้น ว่าคิมจงอินรักโอเซฮุนจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

     

    ท่ามกลางแสงอาทิตย์สีส้มในยามเย็นที่กำลังลาลับขอบฟ้า คนสองคนไม่ได้สนใจแสงริบหรี่ของมันแม้แต่น้อย ทั้งคู่ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าหากัน ก่อนที่ริมฝีปากทั้งคู่จะประกบกันในที่สุด จูบแสนหวานละคนอ่อนโยนกำลังหลอมละลายความกลัวในใจของเด็กหนุ่มให้มลายหายไปอย่างช้าๆ ยามที่ริมฝีปากหนาค่อยๆละเลียดเล็มไปตามริมฝีปากล่างของเขาทำให้เซฮุนอ่อนระทวยจนแทบทรงตัวไม่ไหว หากไม่ได้แขนแกร่งรั้งเอวไว้ ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสกัน แต่เมื่อเขาได้รับสัมผัสจากผู้ชายคนนี้คราใด โอเซฮุนก็ต้องเป็นอันวูบไหวเมื่อนั้น

     

    “ถึงจะไม่ค่อยบอก แต่รักมากนะรู้เปล่า”

     

    “ผมก็รักพี่รหัสของผมจัง รักแฟนด้วย”

     

    “ก็คนเดียวกันมั้ยล่ะ บ๊องเอ๊ย”

     

    เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังขึ้นจากคนทั้งคู่ที่แนบชิดอิงแอบกันอยู่บนโซฟา ไม่ว่าความรักของเราจะยาวนานแค่ไหน ไม่ว่าในวันข้างหน้าจะเป็นยังไง.. ในวันนี้ขอแค่ได้มีความทรงจำดีๆร่วมกัน และรักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆก็พอ

     

     

     

     

    ถ้าเป็นน้องรหัสของพี่เบอร์ 88 ล่ะก็.. จะได้รับ ความรัก และการดูแลอย่างดี ไปตลอดชีวิตเลยล่ะ

     

     

     

     

     

     

    REAL END

     

     

     

     

     

     

    เผาจนเกรียม ดริ๊ฟจนยางไหม้ แถจนสีข้างถลอก

    แต่งฉะเปโดยไร้สติและไร้พล็อตใดๆ TT

    สำหรับคอมเม้นที่ถามว่าต้องการให้สกรีมมั้ย.. บอกเลยว่าสกรีมเถอะค่ะ -/\-

     

     

    ^o^ ฝากติดตาม และฝากฟิคไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ เลิ้บ <3 

     

     

     

    #พี่รหัสไคฮุน

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×