เหตุเกิดที่กรุงโซล
ธนนท์มีปัญหากับแม่...เขาเดินออกจากแม่ไปโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง เขาจะไปไหน ทำอะไร มาเอาใจช่วยกัน มาม๊า ๆ
ผู้เข้าชมรวม
160
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"ผม จะไปตามทางของผม เลิกยุ่งกับผมสักที ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น คุณนอกใจพ่อผม ผู้ชายคนนี้ไม่ดีหรอก เชื่อผมสิแม่ " เสียงชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปี พูดตะคอกใส่หน้าแม่ผู้บังเกิดก้าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อรู้ว่าแม่ของตนจะแต่งงานใหม่กับหนุ่มชาวเกาหลี ก่อนจะเดินให้หลังไป โดยไม่เหลียวมามองสักนิดว่าแม่ผู้อยู่เบื้องหลังได้มีน้ำตาเจ่อนองไปทั่วทั้งใบหน้ารูปงาม ที่มีผมหยิกเป็นหลอนขนาบข้างแกม และผิวที่ขาวนวลราวกับหยวกกล้วย พลางตะโกนร้องเรียกลูกชายของตนที่เพิ่งบินมาจากเมืองไทย "ธนนท์
.ธนนท์ อย่าไปนะลูก ฟังแม่อธิบายก่อน ธนนท์
."
"อย่าไปรั้งเลยที่รัก" " ไม่ค่ะคิมซัง ลูกฉันเพิ่งมาที่นี้ครั้งแรกนะค่ะ แกไม่รู้จักใครเลย" สรญาเอ่ยบอกชายร่างสูง ค่อนข้างมีอายุ ตาตี่ จมูกโด่ง ที่ยืนโอบกอดปลอบเธอ "มันไม่มีประโยชน์หรอกครับ พายุกำลังแรง" คิมซังพูดกล่าวเป็นเชิง เพื่อให้ภรรยาของเธอสงบใจลงบ้าง
สรญา ยังคงจมอยู่กับอาการซึมเศร้า ในใจของเธอได้แต่ร่ำหาลูกชายสุดที่รัก เธอรู้ว่าเธอผิด ที่เธอจะแต่งงานใหม่กับคิมซัง เธอรู้ว่าลูกของเธอรัก "ธนา" แค่ไหน ! ถึง ธนาจะจากไปร่วมสิบปีแล้วก็ตาม เธอพรึมพร่ำอยู่กับตัวเองตลอดทั้งวัน "ทานข้าวเถอะครับที่รัก วันนี้ผมทำราเมง ของโปรดคุณนะ" คิมซัง ชายต่างภาษากล่าวเชิญชวนว่าที่ภรรยา พลางง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะอาหาร สรญายังคงนั่งกดโทรศัพท์หาลูกชายของเธอ ทุกๆ สองนาที เพื่อหวังว่าลูกของเธอจะเปิดเครื่องรับสายเธอบ้าง "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" เสียงคู่สายยังคงเป็นเสียงเดิมซ้ำๆซากๆ นับตั้งแต่ที่ลูกเธอเดินจากไป
.
"บ้าเอ๊ย!..ฉันจะทำไงต่อว่ะนี่ ทางเทิงก็ไม่รู้จัก อ่านภาษาก็ไม่ค่อยจะออก" ธนนท์นั่งสบถกับตัวเอง อยู่ริมทางเดิน ที่ผู้คนผ่านไปผ่านมาต่างจ้องมอง เพราะรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นต่างชาติ แต่ก็ไม่มีใครที่จะยื่นมือมาช่วยเขาเลย ก่อนที่จะพาร่างผอมสูง และกระเป๋าเป้เดินทางไปยังแมนชั่นแห่งหนึ่งในกรุงโซล แล้วเขาก็ไปนั่งที่หน้าห้อง 124 เพื่อรอความหวัง ก่อนหน้านี้เขาได้เดินมาทั่วกรุงโซล จนพบแมนชั่นเป้าหมาย ธนนท์นั่งอยู่หน้าห้อง -124 เขาเคลิ้มหลับไป ด้วยความเหนื่อยและล้า
..
เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง นี้ก็เกือบสามโมงเย็นแล้ว หญิงสาวผิวเหลือง ผมดำดัดเป็นลอน ในชุดเสื้อคลุมยีนส์แขนยาวและทับในด้วยเสื้อยืดธรรมดา กับ กางเกงยีนส์ทันสมัย ผมของเจ้าหลอนรวบไว้ดูเข้ากับใบหน้ารูปไข่ ร่างไม่สูงมากแต่ดูกระฉับกระเฉงอ้อนแอ้น ปรากฏกายขึ้นเมื่อลิฟส์เปิดออก เจ้าหล่อนเดินมาตามทางเดินของแมนชั่นบนชั้นที่ 12 แล้วเธอก็ต้องหยุดชะงักหน้าห้อง4 เมื่อพบกับร่างชายหนุ่มที่หน้าปิดด้วยหมวกแก๊ป นั่งหลับขวางอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องพักของหล่อน ดูทีท่าแล้วชายหนุ่มคนนี้คงเป็นคนต่างชาติเป็นแน่ หล่อนเดาจากลักษณะที่หล่อนเห็นจากรูปร่าง "ดูดีเหมือนกันนะเนี๊ยะ นี้แค่เห็นแค่รูปร่างกับการแต่งกาย ยังไม่เห็นหน้าชัดๆเลย" หล่อนคิดในใจ แล้วหล่อนก็ตัดสินใจนั่งลงข้างๆชายหนุ่มและสะกิดแขนชายหนุ่มเพื่อเป็นการปลุกเขาให้ตื่น หลังจากรับรู้ว่าชายหนุ่มได้ตื่นแล้ว หล่อนจึงกล่าวถามชายที่นั่งงัวเงียขวางประตูอยู่ " Can I help you ? " ชายหนุ่มเงยหน้ามองที่มาของเสียงอย่างช้าๆ เขา มองหน้าหญิงสาวลอดผ่านหมวกแก๊ป เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นความหวังของเขาจริงๆ เขาเลยตอบหลอน ด้วยน้ำเสียงล้อเล่น "Yes,I love you." หญิงสาวหยุดชะงัก แล้วทำหน้างึนงงแอบเขินเล็กน้อยธนนท์อดกลั้นเสียงหัวเราะไม่ไหวจนระเบิดออกมาอย่างแรง ฮ่าๆๆๆๆ " ยายบื้อ แกเขินอะไรฮ่ะ บ้าเปล่าแกอ่ะ แค่คนที่ไม่เห็นหน้าบอกรักก็เชื่อแล้วเหรอ ยัยนมข้นเอ๊ย ?? " นมข้นหยุดชะงักแล้วชักสีหน้าโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ว่าเจ้าของเสียงที่ว่าหล่อนเมื่อตะกี้คือใคร "ไอธนนท์ มาได้ไงว่ะนาย " นมข้นพูดพลางดึงหมวกแก๊ปออกจากหน้าชายเมื่อครู่เพื่อดูให้แน่ใจว่าใช่คนที่หล่อนคิดรึเปล่า? เมื่อหน้าของชายเมื่อครู่ปรากฏขึ้นไขข้อข้องใจแล้ว หล่อนก็ขว้างหมวกใส่หน้าชายคนนั้นด้วยความงอนปนเขินก่อนที่จะไขประตูห้องแล้วเดินเข้าไปเงียบๆ
หล่อนปลดเสื้อคลุมออกวางพลาดไว้บนเก้าอี้นวมสีดำที่ตั้งอยู่หน้าเจ้าจอแบนสี่เหลี่ยม เผยให้เห็นต้นแขนเล็กของเจ้าหลอนภายใต้เสื้อยืดแขนกุดสีขาว ก่อนที่หล่อนจะโผล่หน้าออกไปที่หน้าประตูห้องของหล่อนอีกครั้ง "นี่ ตาทึ่ม นายจะยืนเซ่ออะไรอยู่เล่า?? เข้ามาสิ หญิงสาวกล่าวเชิญแขกผู้มาเยือนโดยมิได้นัดหมาย
"หึ คิดว่าจะไม่เชิญสะอีก ยัยบื้อ นี่ช่วยถือให้หน่อยสิ " ธนนท์ ส่งกระเป๋าเดินทางให้นมข้น "ใช่เรื่อง แค่นี้ถือเองสิ ผู้ชายส่ะเปล่า?" นมข้นพูดกวนประสาทชายหนุ่มก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้องพักของตนพร้อมกับที่ชายหนุ่มถือกระเป๋าเดินทางเดินตามมาในห้องอย่างเหนื่อยอ่อน "พรั่บ!" เสียงวางกระเป๋ากระทบกับพื้นหน้าโซฟาในห้องรับแขก เพราะอากัปกริยาที่เหนื่อยล้าของผู้ถือ ก่อนที่ผู้ถือจะกระโจนลงบนโซฟา และเคลิ้มหลับไป ส่วน นมข้นเจ้าของห้องพัก ก็ได้เข้าครัวเพื่อจัดแจงทำอาหารสำหรับ สองที ของหล่อนและแขกผู้มาเยือน
สรญา ยังนั่งกดเบอร์โทรศัพท์อยู่ไม่ขาดสาย ก่อนที่จะนึกได้ว่าจะมีเพียงหนึ่งคนที่ลูกชายของตนจะไปหาได้ในขณะนี้ รอยยิ้มได้เผยบนใบหน้าเศร้าๆของเธออีกครั้ง แต่แล้วก็พลันหายไป เพราะตอนนี้สรญาไม่รู้ข้อมูลและที่อยู่ของผู้ที่เธอคิดถึงได้เลย นอกเสียจากเบอร์ที่เมืองไทย เธอจึงตัดสินใจโทรกลับไปยังเมืองไทยด้วยความร้อนรุ่มเกาะกินไปทั่วทั้งหัวใจ
กริ้ง กริ้ง ! เสียงโทรศัพท์ในห้องพักดังขึ้น สร้างความประหลาดใจยิ่งนัก เพราะตลอดเวลา 3-4ปีมานี้ มีแต่คนคุ้นคยเท่านั้นที่โทรมาหาหล่อน แต่ก็จะโทรเข้ามาทางมือถือเสียมากกว่า นมข้นเดินพ้นจากขอบเขตของครัว มุ่งหน้าไปยังที่วางใกล้ๆ โทรศัพท์ ข้างโซฟาที่มีร่างของชายหนุ่มนอนหลับแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว หล่อนยกโทรศัพท์ มารับ และพบกับน้ำเสียงงัวเงียของผู้ชายที่โทรมา "สวัสดีดาร์ลิงค์ คิดถึงคุณจัง วันนี้มาหาผมนะ ผมรักคุณ ไม่เคยมีใครเซ็กซี่เท่าคุณแล้ว ผมให้คุณ สามแสนวอน มานะ อย่าช้าหล่ะ " นมข้นได้แต่ยืนงงกับเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะพูดตัดบท "ขอโทษคะ คุณต่อผิดแล้วหล่ะ ที่นี้ไม่ใช่เอ่อยังว่านะค่ะ" "เขินเหรอ ! น่ารักจัง ไม่ต้องอายหรอก ผมเลือกคุณแล้ว มาเร็วๆ อย่าเล่นตัวนักเลย ผมไม่เคยเสนอให้ใครขนาดนี้นะ มาม๊ะ" ชายหนุ่มยังคงพรึมพร่ำไม่เลิก "ผมให้คุณห้าแสนวอนแหละกัน นี่ขึ้นราคาแล้วนะ" "คุณต่อผิดจริงๆนะค่ะ แค่นี้นะค่ะ คุณลองโทรไปถามเบอร์ที่สถานีตำรวจดูแหละกันนะค่ะ" นมข้นตัดบทสนทนาแล้วว่าสายลง ด้วยอารมณ์แปรปรวน "จะบ้ารึไง คิดว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ยังว่าหรือว่ะเนี๊ยะ! อารมณ์เสีย" หล่อนสบถกับตัวเอง พลางเดินไปทำสิ่งที่ค้างคาอยู่เมื่อครู่ กริ้ง ! กริ้ง! กริ้ง! โทรศัพท์ดังข้นอีกครั้ง หล่อนวิ่งออกมารับด้วยท่าทีเอาเรื่อง "นี่ บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไง คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงยังว่ารึไง ตาบ้า โรคจิต ถ้าโทรมาอีกฉันจะโทรไปแจ้งตำรวจฟ้องร้องค่าเสียงหายนะ" หล่อนใส่ไม่ยั้งโดยไม่รับฟังเสียจากครู่สายเลยด้วยซ้ำ "อ่า
อื้ม ขอโทษจะหนู ฟังฉันก่อนสิจ๊ะ" เสียงจากปลายสายดังขึ้นเมื่อเห็นหล่อนเงียบไปชั่วครู่ "อ๋อ นี่ ให้ผู้หญิงโทรมา คิดว่าฉันจะไปรึไง ? ไอบ้า ไอโรคจิต" หล่อนเริ่มทวีความโกขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของชายที่นอนอยู่บนโซฟา สะดุ้งตื่นเพราะเสียงของเจ้าหล่อน ชายหนุ่มได้แต่นั่งมองหล่อนหัวเสียกับกรสนทนาทางโทรศัพท์ โครม! เสียงหล่อนกระแทรกโทรศัพท์ลงไปกับตัวรับอย่างแรง ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ชายหนุ่มที่กำลังงัวเงียได้แต่งงในท่าทีของหล่อนก่อนจะลุกเดินตามไปยังครัว "นี่ นมข้นบูดรึไง เสียงดังเป็นบ้า คนจะหลับจะนอน" ชายหนุ่มเริ่มก่อกวนหล่อนด้วยวาจา "หุบปากไปเลยนะนาย อารมณ์ยิ่งไม่ดีอยู่
วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันว่ะ ไปไกลๆเลย" หล่อนขู่ชายหนุ่มเมื่อครู่ ก่อนจะหันกลับมาบ่นกับตัวเอง "ซวย เซย อะไรของแก ฉันมาหานี้มันซวยนักใช่ไหม ??" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปด้วยสายตาที่แฝงเต็มไปด้วยความเศร้ากับทุกๆเรื่องที่พบมา แต่หวังแค่เพียงจะให้หล่อนปลอบใจเท่านั้น แต่หล่อนกลับไล่ตะเพิ้ด "นี่ เป็นบ้าไรอีกหล่ะนาย แค่นี้งอน ผู้ชายส่ะเปล่า? ขี้งอนไปได้ ไอทึ่มเอ๊ย! มากินข้าวส่ะสิ ทำไว้ให้แล้ว" หล่อนเรียกชายหนุ่มที่จะกำลังหันหลังพลางกระชากแขวนไว้ด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่าจะโดนโกรธ
ธนนท์เก็บความเศร้าทั้งหมดแล้วหันกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในใจด้วยนี้เลย"ฮ่าๆๆๆ " ธนนท์หัวเราะ กับท่าทางของหล่อนที่ดูเป็นกังวลจนเกินเหตุ "ไม่เปลี่ยนเลยนะแก ยังไงก็ยังงั้น ปากอย่างใจอย่าง ชอบประชดส่ะจริงๆ" ธนนท์หันกลับมาว่านมข้น "ก็ฉันกำลังหงุดหงิดนิแก ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ นายอย่าถือเลยนะ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ ไปกินข้าวเถอะ" นมข้นชี้แจงเป็นวรรคเป็นเวร แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
"ว๊าว! แกงส้มไข่ชะอม ของโปรดฉัน ยอดเลย ไม่ได้กินนานแล้วรู้ไหม??" ธนนท์ พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น ตื้นตัน ที่จะได้ลิ้มรส ของอาหารจานโปรด ที่ไม่ได้กินเสียนาน "เอ่อ ! ของโปรดก็กินๆไปส่ะ กินให้หมดแล้วกัน" นมข้นพูดแล้วยิ้มกระหยิมในท่าทางการกินแบบกระหายของ ธนนท์ "ยิ้มอะไร ฮ่ะ! เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว" ธนนท์เหลือบมองเห็นยิ้มที่ยียวนของนมข้น "เปล่า! ก็คนบางคน ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" เหอะๆๆ
1 สาวกับ 1 หนุ่ม นั่งต่อล้อต่อเถียงกันไปมา ในอาหารมื้อเย็น อย่างมีความสุข
กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะอีกครั้ง นมข้นชักสีหน้าอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงโทรศัพท์เมื่อก่อนหน้านี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ธนนท์ มองเห็นสีหน้าของหล่อน จึงลุกพรวดไปรับสายเอง "นายจะไปไหนเนี๊ยะ" นมข้นกล่าวถามด้วยทีท่าฉงน"ไปรับโทรศัพท์เด่ะ หนวกหูจะตายอยู่แล้ว คนจะกินข้าว" ธนนท์ขานตอบแล้วมุ่งไปนี้ยังโทรศัพท์ "เอ่อ ถ้าไอโรคจิตเมื่อกี๊ ด่ามันไปเลยนะ"นมข้นตะโกนบอกไล่หลัง
"สวัสดีครับ ต้องการเรียนสายใครครับ?" ธนนท์กล่าวทักทายด้วยเสียงสุภาพ
"ธนนท์
ธนนท์ ใช่ไหมลูก ? แม่ขอโทษฟังแม่อธิบายก่อนนะลูก " เสียงหญิงสาวดังเล็ดรอดออกมาจากคู่สาย "ไม่ครับ ไม่มีประโยชน์ แค่นี้นะครับ แล้วไม่ต้องโทรมาอีก" ธนนท์ตัดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเย็นชาปนปวดร้าวสุดๆ น้ำตาไหลรินลงมาอย่างที่เขาไม่สามารถเก็บกักมันไว้ได้ และ สมองที่ตื้อและปวดแทบจะระเบิด ธนนท์นั่งทรุดลงกองกับพื้นด้วยใจที่อัดแน่น เหมือนมีอะไรมาบีบรัด "ธนนท์
นายเป็นอะไร" นมข้นเอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนชายของตนนั่งหันหลังมือคุมขมับกองอยู่กับพื้น
ธนนท์ได้แต่นั่งเงียบไม่ตอบโต้ใดๆสักคำ มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นกับแผ่นหลังที่แฝงด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้าเท่านั้นเป็นคำตอบที่ประจักษ์แก่สายตาของหล่อน หล่อนได้แต่นั่งเงียบๆอยู่ด้านหลังของธนนท์ หลอนทำได้เพียงเฝ้าดูความเจ็บปวดของเพื่อน หล่อนเอื้อมมือไปแตะบ่าของเพื่อนชายด้วยความหวังว่า มือซ้ายข้างนี้จะระบายความโศกเศร้าและทุเลาความปวดร้าวของชายผู้นั่งหันหลังอยู่เบื้องหน้าลงได้บ้าง "นมข้น
." ชายหนุ่มหันมาโอบกอดหลอนพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นออดอ้อน "ฉันเจ็บ..ฉันหนัก ..ฉันปวด ..ฉันไม่รู้ทำยังไง" หล่อนได้แต่ฟังเสียงโอดควรญด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานของเพื่อน "ใจเย็นนะแก
แกมีไรจะระบายก็ได้นะเว้ย แกเป็นอะไรแกบอกฉันได้นะเว้ย ฉันยินดี ถ้าไม่อยากให้ฉันฟัง ฉันจะอุดหู ถ้าไม่อยากให้ฉันเห็นฉันจะปิดตา ขอให้แกทำสิ่งที่แกสบายใจและดีขึ้น ฉันพร้อมจะอยู่ข้างๆแกนะ" หล่อนทำได้แค่ปลอบใจไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านและน้ำตาที่ไหลรินด้วยความสงสารชายหนุ่มเบื้องหน้า ร่างของชายหนุ่มไร้น้ำหนักพร้อมกับ เสียงลมหายใจที่เงียบไปในเวลานั้น สร้างความตกใจแก่นมข้นอย่ามาก "ธนนท์
.ธนนท์ นายอย่างนิ่งสิ นายอย่าแกล้งกันนะ นายฉันไม่ตลกด้วยนะ นาย
ไอบ้า ไอทึ่ม ลุกมาเดี๋ยวนี้นะ คุยกับฉันสิ
"
นมข้นร้องเรียกทั้งน้ำตาที่แฝงไปด้วยความหวาดกลัวต่างๆนานา หลอนคว้ามือถือของหลอนโทรเรียกรถพยาบาล
วี้ ว่อ วี้ ว่อ วี้ ว่อ!!
.เสียงรถพยาบาลดั่งสนั่นทั่วทั้งย่านที่ตั้งแมนชั่น "ไม่เป็นไรนะ นาย
เสียงคุณหมอสั่งปรามนมข้น นมข้นนั่งรออยู่ด้านหน้าด้วยใจรุ่มร้อนไม่เป็นสุข พลางหยิบโทรศัพท์ เพื่อแจ้งข่าวให้ธนนท์ทราบ " รับสิ !! รับเร็วๆหน่อย!" นมข้นเร่งเร้าให้ปลายสายรับโทรศัพท์ "ฮัลโหล สวัสดีครับ! ต้องการเรียนสายใครครับ" เสียงตอบรับจากคู่สายสนทนาดังขึ้น "ขอเรียนสายคุณแม่สรญาค่ะ" นมข้นรีบตอบไปโดยไม่แคลงใจในน้ำเสียงของผู้รับสาย "ที่นี้ไม่มีคนชื่อสรญา ขอโทษด้วย" เสียงกระแทรกโทรศัพท์ดังเข้ามาในสายสนทนา "แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี๊ยะ" หล่อนบ่นไปพร่างชะเง้อดูความเคลื่อนไหวของด้านในห้องฉุกเฉิน
คุณหมอเดินออกมาบอกนมข้นด้วยใบหน้ากังวลนิดหน่อย "คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่
"
"แต่ไรค่ะ
.หมอ" นมข้นรีบตัดบทอ่ำอึ้งของหมอแล้วถามด้วยความกังวล "คือ
คนไข้ได้รับเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมาหรือเปล่าครับ?? ผมต้องการข้อมูลเพื่อประกอบการรักษาครับ เชิญทางนี้ดีกว่า" หมอเชื้อเชิญให้นมข้นเดินตามไปยังห้องของตน
เป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าๆ ขณะนั้นนมข้นที่นั่งอยู่โซฟาในห้องถึงกับตื่นตนก ในเสียงกรีดร้องอย่างคุ้มคลั่งของต้นเสียง "แม่
แม่มาทำไม ออกไป ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องมายุ่งกับผม ผมไม่อยากฟัง ผมเกลียดแม่ ไปให้พ้น! ผมบอกให้ไปไง ไป ไปให้พ้น " ซ่าส์ ซ่าส์ เสียงทีวีในห้องพักคนป่วยที่ธนนท์พักอยู่ดังขึ้นรูปหญิงสาวปรากฏขึ้นหน้าจอกายอาบไปด้วยเลือด ร้องขอความช่วยเหลือ "ช่วยแม่ด้วย แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว ช่วยด้วย
ช่วยด้วย" "ไม่
ไม่จริง" เสียงสะอึกสะอื้นดังอย่างต่อเนื่องตามด้วย เสียงตะโกนหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวดังขึ้นสนั่นไปทั่วโรงพยาบาล
.หล่อนรีบวิ่งเข้ามาที่เตียงผู้ป่วยด้วยอาการเป็นห่วงอย่างสุดขีด"ธนนท์นายเป็นอะไร ธนนท์" นมข้นกล่าวถามชายที่เพิ่งสะดุ้งขึ้นมาจากฝันร้ายด้วยความเป็นห่วง "แม่
แม่
ฮือๆๆแม่ถูกมันฆ่า ฮือๆๆ" "ไม่นะ
นาย
หมอเข้าเวรคนใหม่เดินเข้ามาดูอาการของธนนท์และหันไปบอกกับนมข้นที่ได้แต่ยืนร้องไห้สงสารธนนท์ที่ปวดร้าวและแสนเศร้า "ผมว่า
เขาต้องได้รับการบำบัดอย่างด่วน"
หมอได้พาธนนท์เข้าไปยังห้องผ่าตัด เพื่อทำการผ่าตัดรักษาโรคของธนนท์ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเกือบ 3 ชั่วโมง นมข้นได้แต่ภาวนาขอให้เพื่อนของหล่อนปลอดภัย
ข่าวด่วน! ข่าวด่วน! เสียงทีวีที่หน้าห้องผ่าตัดดังขึ้นปลุกให้นมข้นออกจากความพะว้าพะวง
หญิงไทยวัย 38 ปี ถูกฆาตกรรมที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง เมื่อเวลา 2 ทุ่มตรงวันนี้ คาดว่าสามีของเธอเป็นคนฆ่าเพื่อสมบัติของสามีเก่าของหญิงสาว
ฟุ๊บ! กรี๊ด ! กรี๊ด!! เสียงโทรศัพท์ของนมข้นหล่นลงพื้นเมื่อรูปใบหน้าของหญิงสาวที่ตายปรากฏขึ้น หล่อนรีบวิ่งไปยังห้องผ่าตัดทันที
"ไม่
.ไม่จริง กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" หล่อนวิ่งพล่านไปทั่วโรงพยาบาล อย่างคนไร้สติ
ผลงานอื่นๆ ของ รองเท้าเก่า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รองเท้าเก่า
ความคิดเห็น