Sweetest Memo #TaeHwi
ลืมเรื่องอดีตไปก่อน พี่จะทำให้ดีที่สุดสำหรับเราเอง
ผู้เข้าชมรวม
618
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
SF9 YoungBin InSeong JaeYoon DaWon RoWoon ZuHo TaeYang HwiYoung ChaNi TaeHwi RoChan YoungChan WonBin RoWon
“เพราะเหตุใดโชคชะตาของเขาจึงเปลี่ยนไปครับท่าน ข้าต้องเจอเขาก่อนผู้ชายคนนั้น!!!”
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงขึ้นเสียงใส่ข้า!!!! นี่เป็นโชคชะตาที่เบื้องบนได้ลิขิตไว้แล้ว
มิอาจะฝ่าฝืนได้!!”
“แต่ข้าทนเห็นคนที่ข้ารักเจ็บปวดไม่ได้! ข้ารอเวลานี้มานาน
รอที่จะได้รักและดูแลเขาอีกครั้ง เขาควรเจอข้าก่อนไอ้บ้านั่นอีก!!!!”
“ข้าเข้าใจท่าน แทยัง
การเห็นคนที่รักเจ็บปวดมันเจ็บยิ่งกว่าร้อยเท่าพันเท่า แต่เจ้าเชื่อข้าเถิด
อีกไม่นาน เจ้าจะได้เป็นคนดูแลฮวียองอีกครั้ง”
เสียงบทสนทนาที่มนุษย์ไม่มีวันได้ยินจบลง
ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพอยู่บนสรวงสวรรค์เดินออกมาท่ามกลางดอกไม้สีสดสวยงามเรียงรายอยู่เต็มสองข้างทาง
สรวงสวรรค์ที่มนุษย์จินตนาการว่าสวยงาม ใช่…มันสวยจนเกิดกว่าที่จะบรรยาย
แต่กับชายผู้นี้แล้ว มันเหมือนกับนรกที่เขาต้องมาทุกข์ทมอยู่ที่นี่
ที่ที่ไม่มีคนรักอยู่
“ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ฮวียอง”
.
.
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่ฮวียอง!! เปิดประตูหน่อย เป็นไงบ้างงง”
ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆ!!
“พี่ฮวียอง!!!!! ทำไรอยู่เนี่ย! เป็นอะไรหรือเปล่า!!”
เวลาพักผ่อนกลับมีคนมาเคาะประตูเสียงดังแบบนี้ทำให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
ชายหนุ่มร่างบางลืมตาขึ้นมาสู้แสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาในห้องผ่านประตูกระจกอย่างยากลำบาก
กำแพงห้องหมุนไปมาจนน่าเวียนหัว
มือเรียวยกขึ้นมากุมศีรษะไว้ก่อนจะใช้มืออีกข้างคลำกำแพงเดินไปที่ประตู
แกร๊ก!
“อ่าาา ว่าไง” ฮวียองพยายามประคองร่างตัวเองไม่ให้ล้มไปกองที่หน้าประตูตอนนี้
โลกหมุน แสบคอ ร้อนไปทั้งตัว ยากเหลือเกินที่จะทำให้เขาคุยกับผู้มาเยือนดีๆ
“ทำไมตัวร้อนงี้เนี่ย พี่ไปทำอะไรมา ไปๆๆเข้าห้องก่อน
พี่ยองบินถือของให้ผมหน่อย”
“นี่พี่นะโว้ย!!”
“เอ้าหรอ…นึกว่าแฟน” ชานฮีไม่สนใจคนตีนกาเยอะที่กำลังแหวเขาอยู่ทางด้านหลัง
แต่สุดท้ายก็ต้องยอมถือให้เพราะเขาต้องพยุงคนป่วยเข้าห้อง
ฮวียองถูกคนน้องอย่างชานฮีหิ้วปีกเข้ามานอนพักบนเตียง
เขารู้สึกร่างกายร้อนมากราวกับกำลังจะระเบิดออกมา ผมสีบลอนด์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ผุดออกมาทั่วทั้งตัว
“พี่ยงฮวา…ฮึกกกก ไม่! อย่าทิ้งผมไป!! พี่ยงฮวา!!!”
เสียงทุ้มตะโกนออกมาทั้งๆที่ตายังหลับสนิท
แขนเล็กยกขึ้นมาปัดป่ายไปทั่วคล้ายกับจะหาอะไรบางอย่าง
“ฮวียอง ฮวียอง” ยองบินรีบวิ่งเข้ามาดูในห้องก่อนจะจับแขนคนน้องให้โอบกอดตัวเองแล้วกอดคนตัวเล็กไว้แนบอกเพื่อปลอบโยน
ตอนนี้ฮวียองกำลังฝันร้ายเพราะพิษไข้
ถึงแม้จะปกติดีฝันร้ายนี้ก็ยังตามมาหลอกหลอนเขาเสมอในช่วงที่ผ่านๆมา
"พี่ยงฮวาทิ้งผม… ฮึกกกก ผมทำอะไรผิด" คนในอ้อมกอดตัวสั่นคลอนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจนเสื้อยองบินเปียกชุ่ม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาร้องไห้ให้กับความรักครั้งนี้ เพราะรักมาก จึงเจ็บมาก
ตั้งแต่ที่เลิกกับคนที่ชื่อจองยงฮวา ไม่มีวันไหนเลยที่ฮวียองจะยิ้มได้อย่างสนิทใจอีกครั้ง
มันมีแต่คราบน้ำตา
“ฮวียองอ่า นายไม่ผิด เลิกคิดถึงเขาเถอะนะ นายยังมีพี่ มีชานฮี
มีคนที่รักนายอีก” ยองบินจับไหล่เล็กดันออกมา
ค่อยๆใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบสองหน้าแก้ม ใบหน้าสวยตอนนี้ซีดเซียวและยังถูกแต่งแต้มด้วยน้ำตามันไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย
“ใช่ พี่ยังมีผมนะ” ชานฮีหย่อนตัวนั่งลงบนที่นอนข้างๆอีกสองคน
ฮวียองที่ชานฮีรู้จักยิ้มร่าเริงอยู่เสมอ ใบหน้าเปื้อนยิ้มไม่ควรเปื้อนน้ำตาเลยจริงๆ
“พี่ว่านายกินโจ๊กหน่อยดีกว่า นี่ก็บ่ายแล้วข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลย”
“เดี๋ยวผมยกมาให้”
“น่ารักจังครับที่รัก”
“พี่ยองบิน!!!!” ยองบินอมยิ้มกับท่าทางฟึดฟัดๆของกระต่ายน้อย
ดุเสียงดังใส่ ขมวดคิ้วจนผูกกันเป็นโบว์ เดินกระทืบเท้าปังๆๆ
แต่แก้มใสขึ้นสีชมพูจนปิดไม่อยู่ เขินก็บอกว่าเขินเถอะครับ ไม่ต้องมาดุกลบเกลื่อน
เพราะดุขนาดไหนก็ยังน่ารักอยู่ดี J
“พี่ไปจีบกันไกลๆได้มั้ยครับ” ฮวียองกรอกลูกตาดำขึ้นข้างบนอย่างคนที่เบื่อคนมีความรัก
ก่อนจะล้มตัวลงนอนพักหลังจากได้สติขึ้นมา แขนขาวข้างหนึ่งยกขึ้นมาวางบนหน้าผากร้อน
ดวงตาแดงก่ำหลับลงช้าๆ หวนคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่กับอดีตคนรัก
มันหวานซึ้งเหมือนพี่ยองบินกับชานฮี อ้อมกอดอบอุ่น คำพูดหยอกเย้าที่ชวนให้แก้มขึ้นสี
ตอนนี้กลายเป็นหนังม้วนเก่าที่คอยฉายความเจ็บปวดซ้ำๆ
โจ๊กอุ่นๆถูกตักขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยเข้าปากเจ้าตัวเสียที
ทั้งยองบินและชานฮีที่นั่งดูอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับถอนหายใจ
“จะตักจะเขี่ยอีกนานป่ะพี่ฮวียอง เขี่ยๆขุดๆจนจะถึงแกนโลกแล้ว!”
น้องเล็กสุดทนไม่ไหวจึงพูดออกมาเป็นคนแรก
“กินหน่อยเถอะฮวียอง จะได้หายป่วยไวๆ” พี่ยองบินเสริมอีกคน
ในที่สุดโจ๊กคำแรกก็เข้าสู่ปากเป็นที่เรียบร้อย
ใบหน้าซีดเหยเกเพราะความเจ็บยามที่ข้าวไหลผ่านลำคอ
“ไม่เอาแล้ว เจ็บคอ” เสียงแหบพร่าดังออกมา ฮวียองวางช้อนที่อยู่ในมือลงก่อนจะยกแก้วน้ำข้างๆขึ้นดื่ม
“งั้นกินยาแล้วไปนอนพัก” ยองบินแกะยาจากฟอย์ลวางใส่บนมือขาว ก่อนจะถูกโยนใส่เข้าปากกลืนพร้อมน้ำไปในที่สุด
ฮวียองพาร่างอันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองมาที่โซฟาหน้าทีวี เขาไม่อยากนอนจมบนเตียงแล้วจึงมาดูทีวีแทน
อย่างน้อยก็น่าจะมีรายการวาไรตี้ที่ช่วยให้เขาผ่อนคลาย ดีกว่าละครหลังข่าวน้ำเน่าหรือรักโรแมนติกจอมปลอม
‘ผมไม่เคยหยุดพักให้กับความเสียใจเลยครับ หนึ่งวินาทีที่เราหยุดพักเสียใจเท่ากับหนึ่งวินาทีที่เราสูญเสียไปโดยไม่จำเป็น
’
‘เดินหน้าต่อไปครับ อย่าตกหลุมคำว่าเสียใจ มันเป็นกับดักระหว่างทางที่จะไปถึงความสุข’
‘ช่วยฝากอะไรถึงคนที่กำลังทุกข์หรือเสียใจหน่อยค่ะ’
‘ถ้าคุณกำลังเสียใจอยู่ ลองคิดสิครับว่าเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว
บางคนอาจจะเป็นเดือน บางคนอาจจะเป็นปี ระยะเวลาที่ผ่านมาชีวิตคุณดีขึ้นหรือเปล่า
ชีวิตคนเราสั้นครับ และเชื่อว่าคุณมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะ ไม่รู้ว่าหนึ่งชีวิตนี้จะทำได้ครบทุกอย่างหรือเปล่า
ถ้าคุณมัวแต่เสียเวลาอยู่ตรงนี้ คุณก็ไม่มีวันได้ทำสิ่งที่มีความสุขหรอกครับ
ขอบคุณครับ’
จะจมปรักอยู่กับความเสียใจแบบนี้อีกนานใช่มั้ยฮวียอง…..
.
.
.
.
.
.
“เรียกข้ามามีเหตุใดครับท่าน”
“เบื้องบนกำหนดชะตาให้ฮวียองแล้ว….”
“ม…หมายความว่าข้าจะไปเจอฮวียองที่โลกมนุษย์ได้แล้วใช่หรือไม่”
“ฮึๆๆๆ ใช่แล้ว เจ้าพร้อมแล้วหรือไม่”
“พร้อมแล้ว ข้าอยากเจอฮวียองแล้ว”
“ข้าขอเตือนเจ้าหนึ่งสิ่ง ความทรงจำร้ายๆของฮวียองยังคงอยู่
เขายังลืมไม่ได้และคงไม่ง่ายที่จะให้เจ้าเข้าไปเป็นความทรงจำใหม่ คู่ชีวิตของฮวียองคือเจ้าแล้ว
หวังว่าเจ้าจะยังไม่ถอดใจไปเสียก่อน”
“ข้ารักฮวียอง ต่อให้นานแค่ไหนข้าก็จะรอ”
.
.
.
ครึ้มมมมมมมมมมม!!
เปรี้ยงงงงงงงงงงง!!!!!
“อย่าเพิ่งตกเลยนะ ขอฉันถึงห้องก่อน” ฮวียองเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตอนนี้มืดครึ้มจากใต้ตึก
วันนี้เขามาหาหนังสือเกี่ยวกับการแต่งเพลงที่ร้านหนังสือ
และตอนนี้กำลังจะกลับห้องแล้ว
เสียงฟ้าร้องตามด้วยเสียงฟ้าผ่าที่หนักแน่นทำให้เขากลัวว่าฝนจะตกก่อนที่จะถึงห้อง
ซู่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“โธ่….ขนาดเทวดายังไม่เข้าข้างฉันเลย” ร่างเล็กพึมพัมๆกับตัวเอง
ก่อนจะปัดเม็ดน้ำฝนที่เกาะเสื้อออก แค่ก้าวไปเท้าเดียวฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่
คงต้องติดอยู่ในนี้อีกนาน
เวลาผ่านไปนานมากขึ้น แต่ไม่มีท่าทีว่าฝนจะหยุดลง
กลับโหมกระหน่ำแรงขึ้นกว่าเดิม เสื้อโค้ทตัวเดียวที่เจ้าตัวกระชับให้แนบกายมากขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็ไม่ช่วยให้คลายความหนาวเลยสักนิด ละอองฝนที่สาดมายิ่งทำให้รู้สึกชื้นไปทั้งตัว
เพิ่งหายป่วยแท้ๆคงจะได้มาป่วยอีกรอบ
“คุณครับ”
“เรียกผมเหรอครับ” นิ้วชี้เรียวชี้เข้าหาตัวเอง
เพื่อถามย้ำกับชายร่างสูงที่เพิ่งมายืนข้างๆให้มั่นใจว่าคุยกับตน
“ครับ คุณนั่นแหล่ะ ผมเห็นคุณยืนรออยู่นานแล้ว ท่าทางจะหนาวซะด้วย
พอดีผมมีร่มติดมา ไปด้วยกันมั้ยครับ” ชายร่างสูงยิ้มกว้างให้
เหลือบมองลงไปที่มือก็เห็นร่มอยู่จริงๆ
“ถ้างั้นรบกวนด้วยนะครับ ผมไม่ได้เอาร่มมา ไม่คิดว่าฝนจะตก” ฮวียองโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวตรงเกาท้ายทอยแก้เขินที่ต้องรบกวนคนไม่รู้จัก
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เป็นไรครับๆ พยากรณ์อากาศเดี๋ยวนี้ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้”
คนตัวสูงโบกมือน้อยๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
พลางพูดติดตลกไม่ให้บรรยากาศของคนที่รู้จักกันใหม่อึมครึม
“อ่าาาาา ผมก็คิดแบบนั้นนะครับ” ฮวียองยิ้มกว้างกับคำพูดตลกๆของคนตัวสูง
ไม่วายช่วยตบมุขด้วยอีกคน
“ไปกันเถอะครับ รถของผมจอดอยู่บล็อกที่สอง แปปเดียวไม่เปียกแน่นอนครับ”
ร่างสูงกางร่มคันใหญ่ที่อยู่ในมือออก
ก่อนจะเอียงไปทางฝั่งคนตัวเล็กมากที่สุดเพื่อไม่ให้เปียกก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากใต้ตึกไป
“คุณชื่ออะไรครับ” ฮวียองหันหน้ามาถามคนตัวสูงที่ถือร่มอยู่
แต่ด้วยความที่เขาตัวเล็กกว่าหน้าผากมนจึงโดนกับปลายจมูกโด่งโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เอ่อ…..ขอโทษครับที่ไปโดนจมูก”
“ชื่อแทยังครับ ไม่เป็นไรๆ ผมไม่ถือ อย่าคิดมากครับ” แทยังตั้งใจถือร่มตรงไหล่อีกฝั่งของคนตัวเล็ก
กลายเป็นว่าตอนนี้เขาโอบกอดฮวียองไปโดยปริยาย ไม่แปลกที่เวลาหันมาแล้วหน้าจะชนกับจมูกของเขา
“อ๊ะ!! คุณเอียงร่มมาทางผมมาไป คุณเปียกหมดแล้ว” ฮวียองเห็นครึ่งตัวของอีกคนเปียกชุ่ม
จึงเพิ่งสังเกตได้ว่าแทยังเอียงร่มมาทางฝั่งเขา จึงรีบดันร่มแบ่งให้อีกคน
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ทันละครับ ถึงรถแล้ว” ร่างสูงหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ
ก่อนจะส่งร่มให้อีกคนถือแล้วตัวเองวิ่งผ่าฝนไปเปิดประตูรถ
ฮวียองรีบหุบร่มแล้วก้าวขึ้นรถทันที
ไม่อยากให้ตนโดนฝนมากเพราะไม่อยากป่วยอีก แต่ดันมาเจอแอร์ในรถที่ฉ่ำขนาดนี้
ป่วยก็ได้ครับ
“คุณแทยังเปียกทั้งตัวเลย เป็นเพราะผมแท้ๆ ขอโทษนะครับ”
“เปียกได้ก็แห้งได้ครับ ผมเห็นคุณยืนรอตั้งนาน
ไมรู้พรุ่งนี้เช้าจะได้กลับหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆ” ร่างเล็กหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
เป็นการหัวเราะที่สดชื่นที่สุดตั้งแต่หลายเดือนมา
“คุณ….” ฮวียองหยุดหายใจกะทันหัน ทำตัวให้ลีบแบนติดเบาะที่สุดเท่าที่จะทำได้
ก็เพราะแทยังหันมาชะโงกหน้าใส่ใกล้ๆจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ
มืออีกข้างก็ยันประตูคร่อมกักคนตัวเล็กเอาไว้
ดูเหมือนคนตัวสูงจะขี้แกล้ง ยิ่งฮวียองเอนหลังพิงเบาะมากเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งขยับเข้าไปใกล้เท่านั้น ยิ่งหยุดหายใจนานเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งอยู่ค้างไว้นานเท่านั้น
“คุณยังไม่คาดเข็มขัดน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยดังข้างๆใบหูเล็กที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงเช่นเดียวกับแก้มใสๆ
ฮวียองดึงสายเข็มขัดนิรภัยออกมาก่อนจะใส่ให้อีกคน
เฮ้อออออออออออออออออ
เสียงถอนหายใจยาวดังลั่นออกมาจนคนขับอดที่จะยิ้มไม่ได้
ก็ใครให้กลั้นหายใจหล่ะ ;)
“คุณรู้ชื่อผมแล้ว ผมอยากรู้ชื่อคุณบ้างจัง” เป็นคำถามที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว
แต่มันเป็นคำถามเปิดประเด็นที่ดูจะสร้างสรรค์ที่สุด
“ฮวียองครับ”
“ฮวียอง….ดูคุณจะอายุน้อยกว่าผมนะ” ดวงตากลมตวัดมองหางตาไปที่ร่างเล็ก
ความเย็นของแอร์เล่นงานเข้าให้ซะแล้ว ก่อนจะกลับมามองทางด้านหน้า รอให้อีกคนบอกเขาว่าหนาว
“อ่าครับ” มือขาวกระชับเสื้อโค้ทให้แนบตัวมากยิ่งขึ้น หนาวจนเข้าไปถึงกระดูก
จะพูดทีปากสั่นจนฟันกระทบกันกึกๆ
“หนาวก็บอกพี่สิ นั่งตัวสั่นอยู่ทำไม” ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องเป็นคนพูดเอง
ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ ทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองเลย
“ผมนึกว่าเป็นอุณหภูมิปกติของพี่” ฮวียองก้มตัวขอบคุณคนตัวสูงที่เบาแอร์ให้
“พี่แทยังช่วยจอดตรงร้านค้าตรงนั้นด้วยนะครับ ส่งผมตรงนั้นแหล่ะ
ฝนหยุดตกแล้วด้วย”
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงหน้าร้านค้าที่ฮวียองบอก
ระหว่างทางมีเสียงเพลงเปิดคลอมา แต่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้อะไรมาก
เพราะอย่างไรก็คงไม่ได้เจอกันอีกบ่อยๆ
“ขอบคุณมากนะครับพี่แทยัง ให้ผมเลี้ยงข้าวตอบแทนพี่สักมื้อนะครับ”
“โอเคครับๆ งั้นฝากท้องไว้ที่ฮวียองเลยนะ” ร่างสูงยิ้มให้คนตัวเล็กที่กำลังยิ้มให้เขาเช่นกัน
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ได้เลยครับผม กลับบ้านดีๆนะครับ” ฮวียองพยักหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ
หมับ!
“เอาร่มไปด้วย เผื่อฝนตกอีก” แทยังคว้ามือเล็กเอาไว้ก่อนจะเอื้อมไปหยิบร่มจากเบาะหลังมาให้อีกคน
“นี่นามบัตรพี่ ไว้โทรมานะ” ฮวียองรับนามบัตรกับร่มมาไว้ก่อนจะลงจากรถ
ไม่ลืมที่จะโบกมือบ้ายบายลา
“ยูแทยัง…ไม่เลวนี่”
.
.
.
.
.
.
สองเดือนผ่านไป
ฮวียองอ่า พี่อยากเจอเราจัง 08:10
เมื่อวานเราก็เพิ่งเจอกันนะพี่แทยัง 08:11
เมื่อวานก็เมื่อวาน วันนี้ก็วันนี้สิ T3T 08:12
แต่งตัวน่ารักๆนะครับคนดี เดี๋ยวพี่ไปรับ 08:12
ผมต้องหล่อสิพี่แทยัง!!!!! 08:12
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูถูกวางไว้บนเตียงอย่างรีบร้อน
ก่อนที่เจ้าของจะวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
ปากบอกไม่อยากเจอ พอบอกจะมารับนี่รีบแต่งตัวเชียว - -
ลัลลั้ลลาลัลลัลลั้ลลัลลัลลัลลา พาเรพาเร พังพาเร~
‘ฮัลโหลครับคนดี พี่อยู่ใต้คอนโดแล้วนะ’
“ครับพี่แทยัง ผมกำลังลงไปแล้ว แค่นี้นะครับ”
คนตัวเล็กในเสื้อยืดสีเหลืองกับกางเกงขาสั้นสีขาว
ผมสีบลอนด์เซ็ทขึ้นตั้งๆเพื่อให้ดูเท่ๆ แต่สำหรับแทยังแล้ว มันน่ารักมากกว่า
ขายาวก้าวเข้าลิฟท์รอเวลาที่จะได้เจอพี่แทยัง
ร่างสูงที่นั่งรถคนตัวเล็กอยู่ในรถคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าตัวเดินออกมา
ดูสดใส น่ารัก มองเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
แกร๊ก!
“รอนานมั้ยครับ” ฮวียองทักทายแทยังหลังจากขึ้นรถมา
มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเพราะความร้อน ก็วิ่งมานี่นาาาา-3-
“ไม่เลยครับ วันนี้น่ารักจังเลยนะ” คนตัวสูงอาศัยทีเผลอชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ
ก่อนจะหยิกแก้มใสของคนตรงหน้าเบาๆ
“ผมหล่อมากกว่าน่ารักครับพี่แทยัง” ฮวียองเริ่มชินกับการจู่โจมระยะประชิดของอีกคน
จึงใช้มือดันหน้าหล่อๆออกไป
“ฮ่าๆๆๆ เราน่ารักสำหรับพี่เสมอแหล่ะ”
“ปากหรือน้ำผึ้งครับ หวานอะไรขนาดนี้” ใบหน้าสวยส่ายหัวเบาๆให้กับความขี้เต๊าะของผู้ชายคนนี้
ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่จะไม่พูดหวานๆเลี่ยนๆใส่
“ต้องให้ฮวียองมาชิมแล้วหล่ะ จะได้รู้ว่าปากคนหรือน้ำผึ้ง”
น่ะ….โดนอีกดอก -//////-
“วันนี้จะไปไหนครับ มีของอร่อยๆมั้ย”
“พี่อยากไปเดินริมแม่น้ำ เดินกับเราสองคน” มือใหญ่ละจากพวงมาลัยมากุมมือเล็กไว้แน่น
มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องพูดออกไป
“หือ วันนี้พี่แทยังแปลกๆนะ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” มือเล็กอีกข้างเอื้อมมาแตะที่หน้าผากอีกคน
ทำให้คนพี่อดขำไม่ได้
“เป็นคนที่รักฮวียองได้มั้ยครับ” ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นก่อนจะรวบมือเล็กทั้งสองข้ามมากุมไว้
ส่วนคนโดนหยอดคำหวานใส่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แทยังเข้ามาทำให้ชีวิตดีขึ้นมาก
หายเศร้าและกลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่บางความทรงจำก็ยังหวนกลับมาในความคิดอยู่
สะพานข้ามแม่น้ำที่ทั้งสองข้างเรียงรายไปด้วยต้นไม่ใหญ่กำลังผลิดอกสวยงาม
เช้านี้เป็นเช้าที่ไม่ร้อนมากนัก ลมพัดอ่อนๆเย็นสบาย
ไร้ผู้คนเพราะตอนนี้คือเวลาทำงาน แทยังและฮวียองเดินมาเรื่อยๆ ชมดอกไม้ที่ประดับอยู่สองข้างทาง
ร่างสูงที่คอยถ่ายรูปให้คนตัวเล็ก หยอกล้อบ้างพูดคำหวานๆใส่บ้างตามสไตล์แทยัง
หากใครมาเห็นก็ต้องอิจฉาในความน่ารักของคู่รักคู่นี้เป็นแน่
“อ๊ะ! พี่แทยังปล่อยยย”
เอวบางถูกสวมกอดจากอีกคนทางด้านหลัง
คนในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักๆ ใช้ศอกกระทุ้งท้องบ้างหล่ะ หยิกแขนบ้างหล่ะ
แต่มีหรือที่คนอย่างแทยังจะปล่อย
“ไม่ปล่อยครับ พี่จะไม่ปล่อยเราไปไหนแล้ว” เมื่อคางแหลมเกยบนลาดไหล่เล็ก
เจ้าม้าพยศตัวนี้ก็โอนอ่อนลง
“ผมว่าวันนี้พี่ดูแปลกๆนะครับ มีอะไรหรือเปล่า บอกผมได้นะ” ดวงตาคู่สวยสบตาเข้ากับอีกฝ่าย
ให้สายตาสื่อผ่านความห่วงใยไปถึงแทยัง ถึงแม้จะแค่สองเดือน
แต่เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หัวใจพองทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน รู้สึกเป็นห่วง
และอยากอยู่ใกล้ๆทุกวัน
“เราเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย เชื่อหรือเปล่าว่ามีคนรอฮวียองมานานมากๆ”
“หือ ใครรอผมครับ มีคนรอผมด้วยหรอ”
“พี่รอเรานะฮวียอง พี่รอมานานมาก เฝ้ารอสิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิตจะขีดเส้นให้เราเจอกัน
แล้ววันนั้นก็มาถึง”
“……” ร่างเล็กนิ่งเงียบตั้งใจฟังสิ่งที่คนพี่พูด น้ำเสียงที่จริงจัง
อ้อมแขนแกร่งที่กระชับเอวเข้ากอดไว้แน่นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยๆของฮวียองสั่นระรัว
“ความจริงแล้วพี่ต้องเป็นสิ่งดีๆสำหรับเราตั้งนานแล้วหล่ะ
แต่ฟ้าก็เล่นตลกจนเจอไอ้นั่นก่อน….”
“พี่ยงฮวา?”
“มันทำเราเจ็บใจมากใช่มั้ย พี่รู้ว่าเรารักมันมาก
แต่พี่ทนไม่ได้เหมือนกันที่เห็นคนที่พี่รักต้องเจ็บปวด”
ฮวียองในตอนนี้คือสภาพไร้วิญญาณไปชั่วขณะ
มีแต่เสียงของแทยังดังก้องอยู่ในหัว น้ำเสียงที่จริงจังไม่มีท่าทีจะแกล้งเล่นหรืออะไร
ทำให้เขามั่นใจเลยว่ากำลังโดนสารภาพรัก ร่างบางถูกจับไหล่ให้หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนตัวสูง
อดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงบนแก้มใสที่ซับสีเลือดอยู่ตอนนี้
ฮวียองของเขาในตอนนี้น่ารักจริงๆ
“ฮวียองอ่า พี่ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย” แทยังย่อตัวลงมาเล็กน้อยให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกัน
ดวงตากลมโตมองเขาอย่างไม่ละสายตาหารู้ไม่ว่าข้างในใจของฮวียองจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“หือ อะไรครับ”
.
.
.
.
.
“ลืมเรื่องอดีตไปก่อน พี่จะทำให้ดีที่สุดสำหรับเราเอง”
“เป็นแฟนกับพี่”
“นะครับ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนอย่างฮวียองถูกขอเป็นแฟน
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งมากที่สุด
ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงเห็นว่าวันนี้แทยังหล่อกว่าทุกวัน รอยยิ้มก็หวานก็ทุกวัน
คำพูดก็เลี่ยนกว่าทุกวัน แต่มันทำให้เขามีความสุขจนล้นออกมา
“ผมคิดว่ามันเร็วไป….” ฮวียองก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อปกปิดความเศร้าและไม่อยากให้อีกคนเสียใจ
“…..”
“ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาอยู่กับพี่ ผมไม่เคยหัวเราะได้แบบนี้มานานแล้ว”
“……”
“ทุกเช้าที่ผมตื่นมา ผมอยากเห็นพี่เป็นคนแรก โอบกอดผมไว้แนบอก
ก่อนนอนผมก็อยากเห็นพี่เป็นคนสุดท้ายให้ผมฝันดีเหมือนกัน”
“แต่…..”
คำว่าแต่คำเดียวมันทำให้หัวใจของแทยังแทบจะสลาย
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ถ้าหากน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา คนรักของเขาจะได้ไม่เห็น
“ช่วยเป็นมากกว่าแฟนได้มั้ยครับ ผมเบื่อแฟนแล้ว :P”
.
.
.
.
.
เย็นวันนั้น
“อ๊ะ!!! อื้อออออ พ…พี่แทยัง อ่าาาาา…”
“หืม ว่าไงครับคนดี อืมมมม”
“เบาหน่อยย….ซี้ดดดดด ผมเจ็บบ”
“อ๋อ แรงๆใช่มั้ยครับ พี่จัดให้”
“อ๊าาาาาาาาา!!!!!!”
ตัดฉับ!!!! หุหุ
:. HB talks .:
ฮัลโหลลลลลล ขอเสียงแฟนตาซีหน่อยยยยย ฮิ้วววววว ความเรือแล่นนี้พี่อยากจะออกไปกรีดที่ดาวอังคาร อะไรจะเบอร์นั้นคะพี่แทน้องหวี วลีเด็ดจิ้นกันทั้งด้อมงานฟิคก็ต้องมาค่ะ แต่งเองอยากเป็นฮวียองเอง พี่แทก็ขี้อ่อย รถอ้อยคว่ำเป็นตันๆแล้วคุณ-..- ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ช่วยคอมเมนท์ให้ด้วยนะคะ ชรุ้บ
อ่านสนุกๆเพลินๆหอมๆนะจ๊ะ >3<
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ _BLUECYANIDE ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ _BLUECYANIDE
ความคิดเห็น