Go WiTh Me? ไปด้วยกันนะ
ความรักไม่ใช่การเดินนำหน้าไปก่อนหรือรออยู่แค่ข้างหลัง แต่ความรักคือการเดินไปด้วยกัน (มั้ง)
ผู้เข้าชมรวม
271
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ต้นไม้ใหญ่ประจำมหาลัยทุกๆกลางวัน คนที่ผ่านไปผ่านมาจะเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ผิวขาว ผมยาวระบ่า หลับอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้นความน่ารักของเธออาจจะทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต้องใจเต้นแน่ๆ ถ้าหญิงสาวคนนี้ไม่ส่งเสียงกรนออกมาเสียก่อน
" ฝนๆ คุณฝน โธ่ ทำไมมันปลุกยากแบบนี้เนี่ย ฟ้าๆ เจ้าฟ้า โว้ยยย ไอ้ฝนฟ้า" เสียงเรียกครั้งสุดท้ายดังลั่นพร้อมกับคำนำหน้าที่ไม่ควรเอามาใช้
เสียงตะโกนเรียกทำให้คนที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นมาและก็ต้องตะลึงเพราะภาพที่เห็นคือหญิงสาวตาโต ผิวสีขาวเผือก ผมสีดำยาวเป็นกรอบรายล้อม กำลังยกเท้าขึ้นเตรียมเหยียบลงมาที่ท้องของเธอทุกเมื่อ
" เฮ้ย ไอ้ไม้ แกจะทำอะไรเนี่ย" ฝนฟ้าโวยวายถามพร้อมกับรีบลุกขึ้น กลัวแสนกลัวว่าคุณดอกไม้เพื่อนรักจะทำให้เธอต้องอดข้าวเพราะเจ็บท้องที่คุณเธอจะเหยียบลงมา
" ก็ไม่ทำอะไร แค่ถ้าคุณฝนฟ้ายังไม่ตื่น ฉันดอกไม้คนนี้จะกระทืบปลุกเองไง" พูดจบก็ชักเท้ากลับแล้วยิ้มอย่างสะใจที่ได้แกล้งคนตื่นยาก
" เออๆ ขอบใจ ฉันตื่นแล้ว ให้ตายเถอะพูดอะไรไม่เข้ากับหน้าตาเลย" ฝนฟ้าพูดได้แค่นั้นก็ต้องรีบเผ่นหนีเพราะเท้าที่เพิ่งชักกลับไปได้ยกขึ้นมาเตรียมเหยียบลงมาอีกรอบ
" ล้อเล่นๆ ว่าแต่แกมีอะไรถึงได้มาปลุกฉัน ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่หรือไง" ฝนฟ้าถามพร้อมกับดูนาฬิกา ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะต้องตื่นเลย มาปลุกทำไมก็ไม่รู้
" ใช่ ยังไม่ถึงเวลาหรอก แต่ฉันมีอะไรให้แกดู ไปที่หน้าห้องน้ำกัน แล้วฉันจะเอาให้ดู" ไม้ตอบขณะออกเดินนำหน้าไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
" แกจะเอาให้ดูได้ยัง เดินมาตั้งนานแล้วนะ" ฝนถามขึ้นมาเพราะเดินมาตั้งนานแล้วแต่เพื่อนเธอก็ยังไม่พูดเรื่องที่จะพูด จนจะถึงหน้าห้องน้ำที่เป็นเป้าหมายอยู่แล้ว ยังไม่พูดอะไรเลย เสียเวลานอนจริงๆ
" นี้ไงถึงแล้ว ไอ้นี้แหละที่ฉันจะให้แกดู" ไม้พูดเมื่อมาถึงหน้าห้องน้ำแล้วชี้ไปที่โปสเตอร์การแข่งขันเปียโนที่ติดอยู่ที่บอร์ดหน้าห้องน้ำ
" อ้อ ไอ้นี่เอง ฉันเห็นแล้ว" ฝนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆแต่มันดูแปลกๆไปจากเดิมเล็กน้อยในความรู้สึกของดอกไม้
" แล้วทำไมแกไม่ไปแข่ง แกเก่งนี่หว่า ถ้าแกชนะแกก็จะเข้าไปใกล้คุณภูขึ้นไปอีกนะ แกมัวแต่เก่งเงียบๆอย่างนี้ไม่มีใครตรัสรู้หรอกนะ" ไม้พูดด้วยความหงุดหงิด จะไม่ให้หงุดหงิดได้ยังไงล่ะ ในเมื่อฝนฟ้า เพื่อนเธอคนนี้รักและเก่งเปียโนยิ่งกว่าอะไรและยังมีเป้าหมายที่อยากจะไปให้ถึงอยู่ด้วย
" ก็ฉันไม่กล้าไปแข่ง กลัวแพ้คนอื่นเค้า เฮ้อ" ฝนกล่าวเบาๆพร้อมกับถอนหายใจ เสียงโทรศัพท์ของฝนดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุย ฝนฟ้ามองโทรศัพท์แล้วขยับรอยยิ้ม
" 'จารย์สอนเปียโนของฉันโทรมา เค้าคงโทรมาบอกว่าหาโน้ตที่ฉันอยากได้เจอแล้วแน่ๆเลย" ฝนบอกด้วยเสียงที่ร่าเริงแล้วรับโทรศัพท์
แต่เมื่อคุยไปได้ซักพักใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับซีดลงเรื่อยๆ
" แย่แล้วๆ ไอ้ไม้ " ฝนฟ้าพูดขึ้นทันทีที่วางโทรศัพท์
" อะไร ใครแย่ ฉันแย่หรือแกแย่" หญิงสาวนามดอกไม้แกล้งย้อน
" ฉันสิแย่ ไม่ใช่แก จารย์ โทรมาบอกว่าเค้าลงชื่อฉันไปแล้ว ไอ้การแข่งขันเปียโนอันนี้ ลงไปแล้ว ฉันต้องแข่ง ทำยังไงดีไม้ แพ้แน่ๆเลย แพ้แน่ๆ" ฝนฟ้าโอดครวญพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลงเรื่อยๆ
" แค่แกคิดว่าแพ้มันก็แพ้แล้วไอ้ฝน ทำใจซะเถอะ ไปซ้อมมาเยอะๆแล้วชนะมาให้ได้นะ" ไม้พูดพลางตบไหล่ผู้เป็นเพื่อนที่ใบหน้ายังคงซีด แต่ก็ยังกล่าวให้กำลังใจไปอีกว่า "ถ้าแกชนะก็จะเข้าใกล้คุณภูขึ้นไปอีกก้าวนะ"
ใช่ เรื่องทั้งหมดก็เพราะหมอนั่นคนเดียว นาย ภูผา นักเปียโนชื่อดังที่เป็นทั้งเพื่อนสมัยเด็กและยังเป็นคู่แข่งของเธอ เพราะหมอนั่นชอบรักแล้วก็เก่งเปียโนเลยทำให้เธอสนใจว่าเปียโนมันมีดีอะไร เธอจึงเริ่มเรียนเปียโนและเธอก็เป็นอีกคนที่ชอบและหลงรักในเสียงของเปียโน แต่ที่สำคัญเธอต้องเก่งกว่าเจ้าผาให้ได้ เพราะเจ้าผาดูถูกเธอว่าต่อให้เธอรักหรือชอบเปียโนยังไงก็ไม่มีทางเก่งได้หรอก
" ก็ได้ ฉันจะแข่งและต้องชนะด้วย ต้องชนะ" เสียงประกาศต้องการชัยชนะดังลั่น น้ำเสียงที่มั่นใจมากขึ้นของฝนทำให้ไม้รู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยฝนฟ้าก็มีใจที่อยากจะชนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตลอดเวลาสามเดือน ฝนฟ้าและดอกไม้เข้าออกห้องซ้อมดนตรีเป็นว่าเล่น ว่างเมื่อไรต้องไปเมื่อนั้น และแล้ววันเวลาที่ฝนฟ้าหวาดกลัวก็มาถึง
" ขอเปิดการแข่งขันเปียโนรุ่นใหญ่ได้แล้ว ณ บัดนี้" เสียงของพิธีกรประกาศ
" ทำไงดีๆ ฉันต้องเล่นแล้ว ทำยังไงดี ไอ้ไม้" น้ำเสียงที่แสดงถึงความตื่นเต้นทำให้ดอกไม้ต้องถอนหายใจ
" ใจเย็นๆ ไอ้ฝน แกเล่นได้ดีแล้ว เท่าที่ฉันดูคนอื่นก็ท่าทางไม่ค่อยเท่าไร อีกอย่างนะวันนี้คุณภูมาด้วยไม่ใช่หรือไง นั่นไง เค้าจะพูดแล้วแกตั้งใจฟังสิ" ไม้ปลอบอย่างใจเย็นแล้วจบประโยคด้วยการให้ฝนฟ้าตั้งใจฟัง
บุคคลที่ลุกยืนขึ้นตรงหน้าคือ บุรุษร่างสูงผิวขาวหน้าตาหล่อเหลาและมาดนิ่งๆของนักเปียโนชื่อดังนาม ภูผา ทำให้สาวๆหลายๆคนที่นี้ชื่นชมกับความหล่อนิ่งและเท่
" ผม ภูผา รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ก็อยากจะให้ทุกๆคนเล่นให้เต็มที่และในการแข่งขันครั้งนี้มีคนๆนึงของผมมาแข่งด้วย ผมเคยบอกเค้าว่าเค้าไม่มีทางเก่งได้หรอก แต่เค้าก็มาถึงตรงนี้ได้แล้ว เอาล่ะครับก็ขอให้ทุกๆคนโชคดีนะครับ" ภูผาพูดและจบลงด้วยรอยยิ้ม สำหรับหลายๆคนคงเป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงการให้กำลังใจ แต่สำหรับฝนมันเหมือนการยิ้มที่ดูถูกเธอดั่งเช่นที่เค้าเคยทำมา
"ฉันต้องชนะให้ได้แน่ๆ นายผา" ฝนฟ้าให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง
เวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ฝนฟ้าต้องแสดง
" ต่อไปเป็นการแสดงของหมายเลขเก้า คุณ ฝนฟ้า เพลงที่เธอจะแสดงก็คือเพลง Variations On The Kanon" พิธีกรกล่าวพร้อมเรียกให้ฝนฟ้าขึ้นมาแสดง
เสียงเปียโนอันอ่อนหวานของเพลง Kanon ดังขึ้น บัดนี้มือที่เคยสั่นกลับเล่นไปด้วยความมั่นคงและมั่นใจ เหตุผลที่เธอเลือกเพลงนี้ก็เพราะเพลงนี้มีเนื้อเพลงท่อ่อนหวานแต่ก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในเพลงด้วย เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ภูผาเล่นให้เธอฟังแล้วเค้าก็บอกว่า เหมือนเธอ
"ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันก็รักและเก่งเปียโนได้" ฝนฟ้าคิดพร้อมกับเสียงเปียโนที่เบาลงเรื่อยๆจนจบ เมื่อเสียงเพลงจบลง เสียงปรบมือก็ดีงกึกก้องไปทั่วแสดงถึงความชื่นชม ฝนฟ้าลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้อย่างสวยงาม เธอยิ้มอย่างภูมิใจแล้วก้าวลงเวทีไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
" ขณะนี้ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย ผู้ชนะในการแข่งขันเปียโนรุ่นใหญ่ครั้งนี้คือ หมายเลขสิบสาม คุณแนน เพลงที่เล่นคือเพลง Moonlight Sonata ของแสดงความยินดีด้วยครับ" สิ้นคำประกาศของพิธีกรฝนฟ้าวิ่งออกไปทันที
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
" ทำไม ทำไมกัน ทั้งๆที่คิดว่าต้องชนะ แต่แล้วทำไมถึงไม่ชนะ ทำไมกัน" ฝนฟ้าถามตัวเองเมื่อขาเริ่มเหนื่อยล้าจากการวิ่ง จึงหยุดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
" ฟ้า " เสียงเรียกที่ทำให้ฝนฟ้าต้องชะงักแล้วรีบเช็ดน้ำตาออกไป จะให้คนๆนี้เห็นไม่ได้แค่คนนี้เท่านั้น ที่จะไม่มีวันให้เห็นน้ำตา
" มีอะไรค่ะ คุณภูผา" ฝนฟ้าพูดแล้วหันไปเผญิชหน้ากับคนที่เธอคิดว่าเกลียดที่สุด
" ไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ได้ ฟ้า เราเป็นเพื่อนกันนะ ว่าแต่ทำไมรู้ว่าเป็นเราล่ะ ฟ้า" ภูผาพูดน้ำเสียงที่อ่อนโยน
" ก็ไม่ทำไม ที่รู้ว่าเป็นนายก็เพราะมีแค่คนๆเดียวที่เรียกเราว่า ฟ้า แทนที่จะเป็น ฝน เหมือนที่คนอื่นเค้าเรียกกัน" ฝนฟ้าตอบ
ก็นั่นแหละ ภูผาเป็นคนเดียวที่เรียกเธอว่า ฟ้า ด้วยเหตุผลที่ว่า " ไม่อยากเรียกเหมือนใครๆ" และก็ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เธอก็เรียกเค้าว่า ผา แทนที่จะเป็น ภู เหมือนที่คนอื่นเรียก
" ว่าแต่นายมีอะไร จะมาหัวเราะเราใช่ไหมว่าเราไม่ชนะ ว่าเราไม่มีทางเก่งได้ ใช่ไหมล่ะ " ฝนถาม น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเริ่มสั่น น้ำตาที่แห้งไปแล้วทำท่าจะไหลอีกครั้ง
" เปล่า " ภูผาพูดได้แค่นี้ เพราะฝนฟ้าสวนขึ้นมาว่า " โกหก จะมาดูถูกเราอีกใช่ไหมล่ะ " น้ำเสียงของฝนสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
" จะร้องก็ร้องเถอะฟ้า เราจะอยู่เป็นเพื่อน" ภูผาพยายามจะปลอบ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ
" ฟ้า ฟ้าฟังผานะ คนเรานะมันก็ต้องมีการผิดพลาดบ้าง คนที่ทำผลาดก็คือคนที่ลองทำดูแล้ว แต่คนที่ไม่เคยทำผิดพลาดเลยคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลยนะ ฟ้ารู้ไหม ว่าเราดีใจแค่ไหนที่รู้ว่าในที่สุดฟ้าก็ลงแข่ง ที่เราเคยว่าฟ้าไปก็เพราะว่าฟ้าจะไม่มีทางเก่งได้เลยถ้าฟ้าไม่กล้า ฟ้าไม่กล้าที่จะลงแข่งไม่กล้าที่จะหาประสบการณ์ ก็ให้เก่งแค่ไหนแต่ไม่กล้ามันก็จบ ผาดีใจที่วันนี้ฟ้าก็กล้าที่จะเริ่มนับหนึ่งซักที" จบคำพูดนั้น ความเข้มแข็งที่พยายามสร้างมาตลอดก็ได้ถูกทำลายลง น้ำตามากมายไหลลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หนึ่งปีต่อมา
" ทำยังไงดี ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ ช่วยฉันด้วยไอ้ไม้" เสียงโวยวายของหญิงสาวดังขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำให้ดอกไม้ลุกขึ้นมาแล้วตบหัวเพื่อนของเธอพลางบ่น
" แกจะตื่นเต้นทำไม วันนี้คุณภูก็มาดู"
" จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง นี้มันคอนเสิร์ตครั้งแรกของฉันนะ" ฝนฟ้าเถียงอย่างเหลืออด นี้มันคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอนะ เพื่อนเธอคนนี้ไม่ตื่นเต้นดีใจเลยหรือไง
" ซีดีแกก็ออกมาแล้วจะตื่นเต้นอะไรอีก " จะว่าไปแล้วจะตื่นเต้นอะไรอีกในเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมานี้เพื่อนเธอคนนี้เที่ยวไปแข่งเปียโนเป็นว่าเล่น ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นต่อให้เอาช้างมาลากมันก็ไม่ยอมไป พอถามถึงเหตุผลมันก็บอกว่า "เมื่อเริ่มนับหนึ่งแล้วก็ต้องมีการนับสองสามไปเรื่อย หมอนั่นบอกเองว่าจะรอแล้วไปด้วยกัน แต่ก่อนที่จะไปด้วยกันฉันต้องตามให้ทันก่อน" สรุปแล้วเจ้าฝนกับคุณภูจะเป็นนักเปียโนมืออาชีพด้วยกัน
" ต่อไปนี้ท่านจะได้พบกับ ฝนฟ้า นักเปียโนคนหนึ่งของเมืองไทยที่เคียงคู่กับ ภูผา" เสียงพิธีกรเรียกให้สติของฝนฟ้ากลับมา และเดินออกไปด้วยอาการที่พยายามจะมั่นใจ
เมื่อฝนฟ้าได้เห็นผู้ชมที่มาชมการแสดงของเธอก็ทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น เสียงเปียโนดังขึ้นตลอดเวลาสามชั่วโมงเรียกเสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อเพลงสุดท้ายจบลง ฝนฟ้าลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้ หญิงสาวรับไมค์มาจากพิธีกรเพื่อกล่าวขอบคุณ
" ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ที่รักของฝน ขอขอบคุณทุกๆคนที่มาดูการแสดงของฝนในวันนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ แต่มีอีกคนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือคนๆหนึ่งที่ทำให้ฝนมีวันนี้ เค้าคนนี้เป็นคนที่คอยให้กำลังใจและเป็นคนที่ทำให้ฝนรักเปียโนคนๆนั้นก็คือ คุณภูผา เพื่อนของฝนเอง ขอบคุณมากนะ ผา" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจทำให้หลายคนอดยิ้มไม่ได้
ภูผาเดินเข้ามาพร้อมกับดอกทานตะวันช่อโต
" ในที่สุด ฟ้าก็มาถึงซะที เรานึกว่าจะต้องรอจนแก่" คำกล่าวที่เรียกได้ทั้งเสียงหัวเราะและใบหน้าที่บึ้งตึง
" ล้อเล่น แต่ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆหรอ" คำถามที่ทำให้ใบหน้าคนถูกถามแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
" แต่จริงๆนะฟ้า ในที่สุดฟ้าก็มาถึงซะที.....ฟ้า..เราไปด้วยกันนะ ไปพร้อมๆกัน นะ" คำชวนที่แสนง่ายทำให้ใบหน้าคนถูกชวนที่แดงอยู่แล้วแดงขึ้นอีก
" อืม ไปด้วยกันนะ" คำรับที่แสนน่ารัก ทำให้ภูผาขยับรอยยิ้มแล้วยื่นดอกทานตะวันให้พร้อมกับพูดว่า " ดอกทานตะวันจะเป็นตะวันส่องแสงนำทางสำหรับการเริ่มต้นนับหนึ่งของเราสองคน"
" ขอบคุณ" ฝนฟ้ายื่นมือไปรับ แต่พูดได้แค่นั้นเพราะอายเกินกว่าจะพูดอะไรได้อีก จึงขยับรอยยิ้มเป็นการขอบคุณอีกครั้ง
รอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงถึงการดูถูก รอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงถึงความเกลียดชัง รอยยิ้มที่ไม่ได้หมายถึงการเดินนำหน้าหรืออยู่ข้างหลังแต่เป็นรอยยิ้มที่แสดงให้เป็นว่า เราจะไปด้วยกันนะ
ไปด้วยกันนะ
จบแล้วววววววววว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ ทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียน ภาษาคงยังแย่ๆอยู่ แต่ก็จะพยายามนะค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่าน ถ้าอ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงก็บอกด้วยนะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ เนตรน้อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เนตรน้อย
ความคิดเห็น