ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] 5CM ❉ (LULAY vs. KAILAY vs. KRISLAY)

    ลำดับตอนที่ #12 : ( 5CM ) ❉ C H A P T E R . nine

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 432
      6
      6 เม.ย. 57


    CHAPTER NINE

     

     

     

     

     

    มือเรียวคร้ามแดดของลู่หานหมุนลูกบิดประตูห้องนอนออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมุ่น ดวงตากลอกไปมาทันทีเมื่อก้าวขาพ้นประตูห้อง

     

     

    ...อยู่ที่ไหน?...

     

     

    ร่างสูงสมส่วนในชุดนอนสีเทารีบพาตัวเองไปที่โซฟากลางห้องรับแขก แต่ก็ไม่พบคนสำคัญที่กำลังตามหา เขายิ่งรู้สึกกังวลใจเข้าไปใหญ่ เมื่อในห้องครัวก็ไม่ปรากฎแม้แต่เงาของร่างบาง

     

     

    ชิงชิงหายไป??

     

     

    ไม่รอช้าลู่หานรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน คว้าคีย์การ์ดสำรองเสียบเข้ากระเป๋ากางเกง แล้วสาวเท้าไปหน้าประตูห้องชุดอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาปวดหนึบ กลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเมื่อวานขึ้น มือหนากำเข้าหากันแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติ แต่ก็แทบจะทำไม่ได้

     

     

    ความกลัวเข้าจู่โจมไปทั่วทั้งหัวใจของลู่หานแล้ว

     

     

    คว้าเอารองเท้าแตะสีน้ำเงินมาได้ก็โยนเร็วๆลงไปที่พื้น จัดแจงสวมเข้าไปอย่างเร่งรีบ แล้วปลดล็อกประตูเตรียมพุ่งตัวออกไป

     

    “โอ๊ะ! หาน....” แต่เพียงแค่บานประตูเปิดออก เสียงใสๆของใครบางคนที่เขากำลังตามหาก็ดังสวนขึ้นมาเสียก่อน เป็นอี้ชิงที่ยืนถือถุงพลาสติกใส่ของมาหอบใหญ่ คนตัวเล็กอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มสวมรองเท้าผ้าใบ ในขณะที่ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อจับอยู่ที่ไรผมสีอ่อนดูน่าเอ็นดู

     

    แต่...

     

    “ไปไหนมา?” ลู่หานกดเสียงเข้มถามออกไป พยายามมองเมินความน่ารักและความขาวใสที่พุ่งออกมากระแทกสายตาเข้าอย่างจัง

     

    “ก็...ชิงชิงไปวิ่งในพาร์คมา พอดีจำได้ว่าในตู้เย็นเราแทบไม่เหลือของสดแล้ว ก็เลยแวะซูเปอร์ที่หัวมุมถนนด้วย นี่ไง...ชิงชิงซื้อของโปรดหานมาเยอะแยะเลย” ยิ้มกว้างพลางชูถุงที่พะรุงพะรังอยู่เต็มสองมือ ร่างบางบุ้ยปากเป็นเชิงบอกให้คนตัวสูงกว่าที่ยืนบังทางอยู่หลบฉากออกไป

     

    “หานหลบไปหน่อย ชิงชิงหนัก”

     

    “ไม่หลบ” พูดเสียงห้วน ยกสองแขนขึ้นมากอดอกแน่น ลู่หานในตอนนี้ทำหน้าตาบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ ส่งผลให้สัญญาณเตือนภัยดังลั่นในหัวของร่างบางถี่รัว

     

    เสร็จกัน... หานงอนซะแล้ว

     

    “หานงอนชิงชิงหรอ?” ก็รู้คำตอบอยู่หรอก แต่ก็ต้องทำเป็นใจดีสู้เสือ คนตัวเล็กขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อนสนิทที่ตั้งท่าจะออกไปตามหาเขาทั้งๆที่ยังใส่ชุดนอนอยู่ เห็นแบบนั้นร่างบางก็เลยคลี่ยิ้มหวานละมุนส่งไปแอคแทคหัวใจเพื่อนตัวสูงเข้าเต็มๆ

     

    “หานหรอจะกล้างอนชิงชิง? ไม่หรอก...หานรู้ตัว หานไม่ได้มีความหมายอะไรกับชิงชิงมากขนาดนั้นซักหน่อย” ลู่หานยังไม่เลิกตีหน้านิ่ง แม้ข้างในหัวใจจะเต้นตึกตักไปเพราะรอยยิ้มที่มีพลังทำลายล้างสูงของคนตรงหน้าแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงยืนกอดอกแน่น ปากเอ่ยคำพูดตัดพ้อประชดประชันออกมาไม่หยุด ก่อนจะตัดสินใจตีหน้าเศร้าแล้วเบือนสายตาหนีหน้าคนตัวเล็กไป

     

    “ใครว่าล่ะ เพราะหานมีความหมายกับชิงชิงมากต่างหาก ชิงชิงถึงได้มายืนง้อหานอยู่นี่ไง” ไม่พูดเปล่า คนตัวขาวยังจัดแจงวางข้าวของที่ซื้อมาลงบนพื้นปูพรมของคอนโด ก่อนจะขยับเข้าหาแล้วใช้สองแขนเพรียวกอดเอวของคนตัวสูงกว่าอย่างเอาอกเอาใจ

     

    “หานไม่งอนชิงชิงนะ หานก็รู้ว่านี่นาว่าหานสำคัญกับชิงชิงมากแค่ไหน” ว่าแล้วก็เอาหน้าถูลงกับต้นแขนอุ่น เส้นผมนุ่มๆสีกับเนื้อทำเอาลู่หานจั๊กจี๋จนเกือบจะหลุดขำออกมา

     

     

    ไม่ได้ๆ เล่นหนีออกไปคนเดียวแบบนี้ ยังไงก็ต้องงอนเสียให้เข็ด !

     

     

    “หานไม่รู้หรอก” เก็กหน้านิ่ง ไม่ยอมสบตาอีกคน

     

    “หาน...หานไม่รู้จริงๆหรือหานแค่แกล้งไม่รู้?”

     

    “หานจะไปรู้ได้ยังไง? ก็ไม่เคยเห็นว่าชิงชิงจะบอกอะไรนี่”

     

    “งั้นชิงชิงบอกตอนนี้เลยก็ได้...หานตั้งใจฟังให้ดีๆนะ” สูดลมหายใจเข้าจนลึก จางอี้ชิงปล่อยแขนออกจากข้างเอวของเพื่อนรัก แล้วยืดตัว เขย่งเท้า ยื่นใบหน้าเข้าไปให้ริมฝีปากอิ่มแตะข้างใบหูของคนฟัง

     

    “หานคือคนสำคัญที่สุดของชิงชิง เป็นแบบนั้นมาเสมอ...ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่หานจะสำคัญกับชิงชิงที่สุด....”

     

    “.......”

     

    ตลอดไป

     

     

     

     

     

     

    คำพูดใดๆ ก็บรรยายความรู้สึกของลู่หานในตอนนี้ออกมาไม่ได้ คนตัวสูงหมดความสามารถที่จะกลั้นยิ้มต่อไป ใบหน้าหล่อเหลาจึงขึ้นสีจางๆ พร้อมทั้งแต้มไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างไม่มีปิดบัง ลู่หานรู้ตัว ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นเร็วและรัวจนเกือบจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว

     

    เมื่อเห็นท่าว่าจะง้อได้สำเร็จ คนตัวเล็กก็ไม่ปล่อยเพื่อนรักให้มีโอกาสได้งอนต่อ เลย์รีบกดริมฝีปากสีหวานลงที่ข้างแก้มสากของลู่หานอย่างว่องไว และยามเมื่อเห็นคนถูกหอมแก้มอ้าปากค้าง ร่างบางก็ปล่อยเสียงหัวเราะคิกออกมาอย่างน่ารักน่าชัง

     

     

    เป็นแบบนี้ลู่หานจะไม่ทน! ชิงชิงจะน่ารักน่าฟัดเกินไปแล้ว!!

     

     

    คิดแล้วก็ไม่รอช้า มือหนาเอื้อมมารวบคนขโมยหอมแก้มเข้ามากอดแน่นในอ้อมอก ริมฝีปากสีอ่อนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ตามนิสัย ลู่หานก้มหน้าลงไปหมายจะหอมแก้มนุ่มเอากำไรคืนซักฟอดสองฟอด แต่ทว่า...

     

    “หายงอนชิงชิงแล้วหรอ?” คนผมน้ำตาลถามเสียงใส พร้อมกับเอื้อมมือเรียวมาปิดปากของกวางจอมฉวยโอกาสเอาไว้ทันควัน

     

     

    เผลอเป็นไม่ได้... หานนี่ชอบเอาเปรียบกันตลอดเวลาเลยสิน่า

     

     

    “ยัง” ดึงมือของกระต่ายน้อยออกจากปาก แต่อีกมือยังกระชับเอวบางเอาไว้แนบตัวไม่ยอมปล่อย ลู่หานยิ้มกริ่ม ไม่เหลืออาการแสนงอนเหมือนเมื่อตอนแรกเลยสักนิด

     

    “งอนอะไรถึงได้ยิ้มน่าตีแบบนี้กัน?”

     

    “ก็งอนชิงชิงนั่นแหละ หายไปไหนตั้งแต่เช้าแล้วไม่ยอมบอกหาน โน๊ตจะทิ้งไว้ซักแผ่นก็ไม่เห็นมี ไม่รู้หรอว่าหานตื่นมาไม่เจอแล้วจะเป็นห่วงแค่ไหน แล้วนี่หายป่วยแล้วรึไงถึงได้ออกไปวิ่งน่ะ?” คำพูดยาวเป็นพรืดของกวางขี้เป็นห่วงไม่ได้ทำให้คนฟังรำคาญใจเลย ตรงกันข้ามคนถูกห่วงกลับรู้สึกอุ่นวาบขึ้นในหัวใจ จนเผยรอยยิ้มชวนฝันออกมาแต่งแต้มบนใบหน้าได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู

     

    “ยังจะมายิ้มอีก”

     

    “ก็ชิงชิงดีใจนี่นา”

     

    “ทำให้หานเป็นห่วงจนแทบบ้าอย่างนี้อะนะน่าดีใจ?”

     

    “อื้ม...ก็ถ้าชิงชิงไม่หายตัวไป จะรู้ได้ยังไงว่าหานเป็นห่วงชิงชิง?”

     

    “แล้วที่หานทำมาตลอด ชิงชิงยังไม่รู้อีกหรอว่าหานห่วงชิงชิงมากแค่ไหน”

     

    “ไม่รู้หรอก ก็หานไม่เคยบอกชิงชิงนี่นา...” คำตอบที่ย้อนคำพูดของเขามาเอาคืนทำให้ลู่หานเกือบจะหลุดหัวเราะพรืด นอกจากจะน่ารักน่าฟัดแล้ว ชิงชิงของหานยังจะน่าจับมาจูบปากเสียให้เข็ด! โทษฐานทำกวนไม่รู้จักเวล่ำเวลา

     

    “ย้อนหานหรอครับ?”

     

    “เปล่า ก็หานแค่ไม่เคยบอกชิงชิงจริงๆนี่”

     

    “แล้วอยากฟังมั๊ยล่ะ?”

     

    “ห๊ะ?”

     

    “หานถามว่าชิงชิงอยากฟังมั๊ย?” ตาสบตา ลู่หานกวาดมองใบหน้าแสนหวานของคนในอ้อมกอดด้วยความรักใคร่

     

     

     

     

     

     

    ใครๆ ก็ว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ... แล้วตอนนี้ชิงชิงจะรู้บ้างไหม?

     

     

     

     

     

     

     

    ...ว่าหัวใจของหานมีแต่ชิงชิง...

     

     

     

     

     

     

     

     

    “มะ...ไม่อยากฟังแล้ว” จู่ๆจางอี้ชิงก็รู้สึกเหมือนลมหายใจกำลังติดขัด สองแก้มก็ร้อนผะผ่าวจนขึ้นสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศสุก ใบหน้าหวานรีบหันหลบสายตาคนขี้แกล้ง ก่อนจะออกแรงขืนตัวออกมาจากอ้อมกอดแกร่งที่รัดไว้แน่นจนใจแนบใจ

     

     

     

    หัวใจของลู่หานเต้นรัวอยู่ที่อกข้างขวาของอี้ชิง

     

    เหมือนกับที่หัวใจของอี้ชิง...เต้นรัวอยู่ที่อกข้างขวาของลู่หานเช่นกัน

     

    แม้ว่าจังหวะหัวใจของพวกเขาอาจไม่ได้เต้นไปอย่างพร้อมเพรียง

     

    แต่ที่สำคัญคือหัวใจทั้งสองดวงกำลังเต้น... เพื่อกันและกัน

     

     

     

    “ฟังหน่อยเถอะครับ”

     

    “ไม่...มะ...ไม่เอา” ใบหน้าของลู่หานเคลื่อนใกล้เข้ามาจนปลายจมูกของคนตัวสูงกว่าแตะลงที่ปลายจมูกของคนตัวเล็ก ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดลงมาจนโดนข้างแก้ม ทำเอาเลย์จางอยากจะหายตัวหนีลู่หานไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

     

    ...ก็มันเขินน้อยๆเสียเมื่อไหร่กัน...

     

    “ฟังสิแล้วหานจะหายงอน”

     

    “หานหายงอนแล้วชิงชิงรู้”

     

    “ใครบอก...หานยังงอนอยู่หรอก” โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ ในเมื่อยังมีโอกาสให้งอนได้ ลู่หานก็ไม่พลาดจะฉวยเอาไว้แน่นในมือ

     

     

    ...อยากให้กระต่ายน้อยง้อเขาจะตายอยู่แล้ว...

     

     

    “งั้นก็เชิญหานงอนต่อไปเถอะ...ชิงชิงจะไปเตรียมมื้อเช้าแล้ว หิว!” เน้นหนักตรงคำว่าหิว ร่างขาวๆในอ้อมแขนของลู่หานดิ้นไปดิ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ คนกอดก็หัวเราะหึหึ ไม่นำพาต่ออาการฟึดฟัดของคนน่ารักเลยสักนิด

     

    “หิวมากมั๊ยครับ?”

     

    “หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวเลย!!

     

    “ว้า...ช้างไม่มีให้กินอะ สงสัยชิงชิงคงต้องกินหานแก้หิวไปก่อนแล้วล่ะมั้ง” ไม่พูดเปล่า ลู่หานยังเอียงแก้มเข้ามาใกล้ร่างบางที่ยืนทำหน้าตาช็อกเหรอหราหลังจากโดนคนเจ้าเล่ห์กว่าโจมตีด้วยไม้เด็ดเข้าไปเต็มๆ

     

     

    กินหานแก้หิวเนี่ยนะ!?

     

    พูดออกมาได้ยังไง?!!

     

     

    “กินสิ แก้มหานเนี่ย...ชิงชิงกินเข้าไปเลย”

     

    “บะ...บ้า! แก้มเหม็นๆใครจะไปกินลง” จูนสติกลับมาได้ก็ตวาดแว้ด จางอี้ชิงคนหน้าแดงกำลังรับมือความเขินด้วยการแสร้งทำเป็นโวยวายเสียงดัง

     

    “ก็ได้ งั้นถ้าชิงชิงไม่กิน หานก็ขอกินแก้มชิงชิงแทนละกันนะ ดูท่าคงจะหอมมากสิใช่มั๊ย?” จะเหลือเหรอ? ชิงชิงจะหนีหานได้เหรอ? เอาสิ...ไม่ยอมหอมแก้มหาน หานหอมให้เองก็ได้ มาทำเป็นว่าแก้มเราเหม็น งั้นเราขอดมคนแก้มหอมให้ชื่นใจไปเลยก็แล้วกัน

     

     

    แล้วช่วยบอกที...ว่ายกนี้ใครวิน? J

     

     

    ลู่หานยิ้มร้าย ใบหน้าหล่อของคนผมสีคาราเมลไม่รอช้า เคลื่อนเข้ามาใกล้ แล้วกดจมูกฝังลงไปสูดกลิ่นหอมจางๆข้างแก้มใสอย่างหนักหน่วง จมูกเรียวเก็บเอาความนุ่มของกระต่ายในอ้อมกอดขึ้นมาเสียจนหนำใจ เสร็จจากแก้มซ้ายก็ตั้งท่าจะย้ายไปแก้มขวา โดยที่คนโดนแกล้งไม่มีโอกาสจะปริปากร้องขอความช่วยเหลือได้เลย

     

    ก็เล่นสติออบซอตั้งแต่โดนฝังจมูกลงไปแล้วนี่นา...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อะแฮ่ม...พี่คงไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรใช่มั๊ย?”  เสียงนุ่มๆที่ฟังคุ้นหูจนน่าแปลก ดังขึ้นมาหยุดทุกการกระทำของลู่หาน ในขณะเดียวกันเสียงนั้นก็ช่วยเรียกสติของเลย์จางกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

     

    “พี่จุน!” ใบหน้าอ่อนโยนของผู้ชายแสนอบอุ่นในชุดเสื้อโปโลแบรนด์ดังสีขาวสะอาดยืนส่งยิ้มเก้ๆกังๆมาให้น้องชายแท้ๆ และยังมีเผื่อแผ่ไปให้หนุ่มน้อยข้างบ้าน เป็นจุนมยอนนั่นเองที่เข้ามาขัดขวางการเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากแก้มนุ่มของเลย์จางจากลู่หานไป

     

    คนมาใหม่ยกนิ้วเรียวขึ้นเกาจมูกแก้เก้อ ก็เห็นหมดล่ะนะฉากเมื่อครู่ ตั้งแต่ที่น้องชายข้างบ้านกดจมูกหอมลงที่แก้มขาวๆของน้องชายเขาแล้ว ยังดีที่มีสติพอจะห้ามไว้ได้ทัน ไม่อย่างงั้น...

     

    ถ้าเรื่องถึงหูเข้า... คงมีใครบางคนที่รออยู่ที่บ้านอาละวาดจนข้าวของพังแน่นอน !

     

    “พี่จุนมาได้ยังไงฮะ?” กระต่ายตัวขาวรีบดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของกวางเจ้าเล่ห์ที่ยืนยิ้มแหยๆ มือบางเอื้อมไปคล้องแขนพี่ชายมาไว้แนบตัว ก่อนจะออกแรงดึงจุนมยอนให้เดินตามเขาผ่านหน้าลู่หานเข้าห้องไป

     

    “หานหิ้วของเข้ามาด้วยนะ” ไม่วายหันมากำชับเสียงขุ่น ยังไม่หายโกรธหรอกนะที่คนขี้แกล้งทำให้พี่ชายต้องมาเห็นเหตุการณ์แบบนั้นเข้า

     

    แล้วอย่างนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน...

     

    “คร้าบๆ” ยักไหล่แล้วก็ยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี ลู่หานเก็บถุงที่ร่างเล็กวางไว้บนพื้นขึ้นมาจนครบ ออกเดินตามหลังสองพี่น้องเข้าไป แล้วใช้เท้าเขี่ยประตูปิดตามนิสัยเดิม

     

    “พี่จุนกินอะไรมารึยังฮะ? หิวมั๊ย? เดี๋ยวอี้ทำอะไรให้กินนะฮะ” ใบหน้าหวานน่ารักอ้อนเอาใจพี่ชายทันทีที่เจอหน้ากัน ใครๆก็รู้ จางอี้ชิงติดจุนมยอนจะตายไป ตั้งแต่เล็กก็เอาแต่เดินลากตุ๊กตากระต่ายตามหลังพี่ชายไปเรียนพิเศษบ้าง ดึกๆก็ร้องจะนอนข้างพี่ชายตลอดเวลา กว่าจะยอมแยกห่างกันได้ ก็ตอนที่เกือบจะขึ้นชั้นประถมปลายแล้วนั่นแหละ

     

    ฝ่ายคนเป็นพี่เองก็ไม่ได้น้อยหน้าน้อง ถึงจะไม่แสดงออกมากเท่า แต่เวลาไม่เห็นหน้ากัน จุนมยอนจะโทรหาอี้ชิงทุกวันไม่ขาดเลย

     

    ลู่หานเองก็ได้แต่อมยิ้มมองพี่น้องขาวออร่าคู่นี้ขำๆ ปล่อยให้พี่น้องเขาคุยกันไป ตัวเขาเองก็เดินเข้าห้องไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น พอจัดการตัวเองเรียบร้อยก็ออกมาเจอกระต่ายตัวน้อยในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าสบายตากำลังล้างผักอยู่ โดยมีจุนมยอนเป็นลูกมือคอยช่วยหยิบนู่นจับนี่อยู่ข้างๆ

     

    “พี่จุนไปนั่งรอก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วยชิงชิงเตรียมมื้อเช้าเอง”

     

    “แน่ใจนะว่านายจะทำเอง? อาลู่ พูดจริงพูดเล่นเนี่ย?” จุนมยอนเลิกคิ้วเบิ่งตาโตเหมือนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ก็ลู่หานเด็กบ้าบอลข้างบ้านเนี่ยเคยทำกับข้าวเป็นกับใครเขาเสียที่ไหนกัน? ครั้งล่าสุดที่ลงมือทำ ยังมีเสียงจานชามแตกดังโครมครามออกมาจากครัวของบ้านตระกูลลู่อยู่เลย

     

    ไม่ใช่แค่นั้น...ถ้าจำไม่ผิด เหมือนเขาจะเห็นควันไฟพุ่งออกมาแว้บๆด้วย!!

     

    “แน่ใจสิครับ พี่จุนไปนั่งเถอะ เชื่อมือลู่หานคนนี้ได้เลย!!” น้ำเสียงมั่นใจ สดใส และพร้อมเกินร้อยของน้องชายบ้านใกล้ เรียกรอยยิ้มจากจุนมยอนได้พอสมควร คนอายุมากสุดเห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ยอมถอดผ้ากันเปื้อนสีส้มส่งให้เจ้าของตัวจริง แล้วก็ย้ายตัวเองไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวหน้าทีวี คอยภาวนาขอให้อย่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลย

     

    “ชิงชิงจะทำแพนเค้กมาร์มาเลดนะหาน” บอกชื่อเมนูของโปรดเพื่อนรักเสร็จ ร่างบางก็หมุนตัว หันมาเห็นลู่หานจัดการใส่ผ้ากันเปื้อนด้วยท่าทางทะมัดทแมงแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูยังไง๊ยังไงก็ช่างไม่เข้ากันเอาเสียเลย

     

     

    แมนๆอย่างหานน่ะ เหมาะแต่กับเสื้อบอลเท่านั้นแหละ !

     

     

    “ทำเยอะๆนะ หานชอบ”

     

    “รู้ไงถึงได้จะทำให้กิน” ส่งสายตาหวานเยิ้มใส่กันแล้วก็หัวเราะพรืด ลู่หานส่งยิ้มหวานก่อนจะยกจานชามออกมาจากตู้เพื่อจัดเรียงตามเมนูที่ร่างบางได้ลิสต์ไว้ นอกจากแพนเค้กมาร์มาเลดของโปรดเขาแล้วก็ยังมีออมเล็ตพริกหวานกับแฮมของโปรดของจุนมยอน ครัวซองค์สีทองอบร้อนๆจากร้านขายขนมปังหน้าคอนโด ทานคู่กับชาซีลอนหวานน้อย และปิดท้ายด้วยน้ำส้มคั้นสดเพิ่มความสดชื่น เติมวิตามินซีให้อารมณ์ดีไปตลอดทั้งวัน

     

    ท่าทางว่าคุณนายจางคนใหม่จะเลี้ยงลูกชายคนเล็กของบ้านตระกูลจางได้ออกมาดีจริงๆ

     

    จางอี้ชิงไม่เพียงมีฝีมือในการทำอาหาร แต่ร่างบางยังรู้จักการสร้างสรรค์และรวบรวมเมนูต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่เหมือนกับจุนมยอนที่ขออาสาเป็นคนชิม ไม่แตะเรื่องงานครัวเลยสักนิดถ้าไม่จำเป็น แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังทำหน้าที่นักชิมได้ดีสมราคาคุย เพราะไม่ว่าน้องชายสุดที่รักจะทำอาหารหรือเครื่องดื่มชนิดไหน หน้าตาแปลกประหลาดพิลึกพิกลออกมาอย่างไร จุนมยอนก็จะกินจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ แถมยังไม่ปริปากบ่นซักคำ มีแต่ชมว่าอร๊อยอร่อยจนคนทำตัวลอยตั้งแต่เล็กจนโต

     

    “ชิงชิงให้หานช่วยทำอะไรดี?”

     

    “หานช่วยหั่นพริกหวานกับแฮมเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆให้ชิงชิงหน่อย” มอบหมายงานแล้วก็หันไปสนใจกับแป้งสำหรับทำแพนเค้กที่ตัวเองกำลังยืนผสมอยู่อย่างมีสมาธิ ความจริงแล้วอี้ชิงก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อยอะไรขนาดนั้นหรอก แค่พอกินได้และทำรับแขกได้แบบไม่อายใครก็เท่านั้น

     

    คนที่ทำอาหารเก่งจริงๆน่ะ.... เป็นพี่ฟานต่างหากไม่ใช่เขา

     

    คิดถึงคนตัวสูงแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ป่านนี้ไม่รู้พี่ฟานคนอารมณ์ร้ายจะอาละวาดจนบ้านพังไปกี่ตลบแล้ว เล่นหาตัวเขาไม่เจอมาเป็นวันๆ มีหวังกลับบ้านไปคงได้เห็นผลงานการทำลายล้างของพี่ชายซุปเปอร์โมเดลแน่ล่ะคราวนี้

     

    “หานส่งข้อความไปบอกจื่อเทาให้แล้วนะว่าวันนี้ชิงชิงจะไม่เข้าไปเรียนคลาสบ่าย” หั่นผักไปก็พูดขึ้นมาลอยๆ ตอนไปอาบน้ำเมื่อครู่เขาจัดการฝากเพื่อนสนิทหนึ่งคนที่เหลืออยู่ของชิงชิงให้ไปลาอาจารย์เจ้าของคลาสให้แล้วเสร็จสรรพ แม้จะยังไม่ค่อยวางใจแพนด้าจีนนั่นเท่าไหร่ เพราะยังคงไม่รู้ว่าทำไมวันนั้นมันถึงได้รู้ที่อยู่ของโรงแรมที่จงอินพาอี้ชิงไป แต่ลู่หานก็ไม่เหลือทางเลือกมากนัก มีหมอนั่นอยู่คงช่วยเก็บชีทแล้วก็จดเลคเชอร์มาให้ร่างบางได้บ้าง อย่างน้อยๆก็คงจะดีกว่าการปล่อยให้ชิงชิงขาดเรียนไปเฉยๆก็แล้วกัน

     

    “ขอบคุณนะหาน ที่จริงชิงชิงก็หายดีแล้วล่ะ น่าจะเข้าคลาสบ่ายได้อยู่หรอก”

     

    “หยุดเลย เอาให้ดีขึ้นกว่านี้จริงๆก่อนเถอะ นี่แผลก็ยังเต็มไปทั้งตัว แล้วไหนชิงชิงจะเพิ่งหายจากไข้อีก ดีไม่ดีไปเป็นลมเป็นแล้งกลางห้องบรรยายขึ้นมาจะทำไง?”

     

    “รู้แล้วน่า...หานนี่ขี้บ่นจังเลย”

     

    “ไม่ห่วงก็ไม่บ่นหรอก”

     

    “อะไรนะ?”

     

    “ก็หานห่วงชิงชิงไงถึงได้เอาแต่บ่นแบบนี้” ย้ำคำหนักแน่น สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของคนฟังเลยสักนิด เป็นกระต่ายน้อยเสียอีกที่หลบหน้าเขา ก้มลงไปตีแป้งแพนเค้กเสียจนเนื้อเนียนเข้ากันดี จะว่าขำมันก็ขำ แต่ลู่หานก็ยังอดห่วงเลย์ไม่ได้จริงๆ

     

    “แล้วนี่ตอนบ่ายหานจะพาชิงชิงกลับบ้านด้วย ป่านนี้อาป๊าชิงชิงเป็นห่วงแย่แล้วมั้ง” ใจจริงก็อยากจะพากลับไปบ้านใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานอยู่หรอก เพราะตอนขับรถไปถึงโรงแรมเขาก็โทรบอกทางบ้านของชิงชิงไปแล้ว ว่าจะเป็นคนมารับร่างบางกลับโซลให้ แต่เพราะร่างกายของคนตัวเล็กมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด ลู่หานก็เลยเปลี่ยนใจไม่พาชิงชิงกลับเข้าไปส่งในบ้านใหญ่ ได้แต่โทรบอกให้จุนมยอนวางใจและหยุดการค้นหาลง แล้วเดี๋ยวเขาจะเป็นคนพาชิงชิงกลับไปส่งในวันถัดมา

              แต่นึกไปแล้วก็ยังสงสัย? ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จุนมยอนใช้วิธีอะไร ไอ้มังกรประสาทกลับถึงได้ไม่บึ่งรถมาพรากชิงชิงไปจากเขาเสียตั้งแต่เมื่อคืน และก็ไม่รู้อีกว่าทำไม...คนที่ปรี่มาดูอาการของกระต่ายหน้าหวานตั้งแต่เช้าถึงได้มีแค่จุนมยอนคนเดียว ไม่พ่วงส่วนเกินบางคนติดมาด้วยกัน?


                แต่ได้แบบนั้นก็ดี... ก้างขวางคอยังไม่มาตอนนี้ลู่หานก็สบายใจ

     

    จะว่าไปแล้ว ลองนึกๆดู ถ้าไอ้อู๋มันได้เห็นสภาพชิงชิงเมื่อคืนนี้ รับรองว่าต้องมีรายการแก้แค้น วิ่งแจ้นไปยิงหัวคิมจงอินทิ้งถึงที่ชัวร์ๆ

     

    คิดแล้วก็ปวดสมองแทนไอ้หมาดำนั่น ดีแค่ไหนแล้วที่เขาเป็นคนไปพาชิงชิงกลับมา ลองให้ไอ้บ้าเลือดนั่นเป็นคนไปเจอฉากมันบอกรักคนตัวขาวเข้าสิ

     

     

     

     

     

    ดีไม่ดีงานนี้คงมีคนตาย...

     

     

     

     

     

     

    “หานไม่ต้องลำบากวนรถไปส่งหรอก เดี๋ยวชิงชิงกลับพร้อมพี่จุนเลยก็ได้” เอียงคอบอกเพื่อนรัก เลย์ไม่อยากให้ลู่หานต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้ ทั้งขับรถไปรับเขากลับมาจากทะเลเมื่อวาน คอยอยู่พยาบาลตอนที่เขาป่วย แค่นี้ลู่หานก็คงเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว

     

    ...โอเค จะยอมนับรวมเรื่องที่หานช่วยอาบน้ำให้เขาเมื่อวานไปด้วยก็แล้วกัน...

     

    “ไม่อะ หานจะไปกับชิงชิง”

     

    “งั้นก็ตามใจ ถ้าเหนื่อยจนพรุ่งนี้ไปแข่งวิ่งไม่ไหวชิงชิงไม่รู้ด้วยนะคนดื้อ” พูดจบแล้วก็แลบลิ้นใส่อย่างน่ารัก เลย์ย้ายตัวเองไปหน้าเตา ตั้งกระทะ แล้วป้ายเนยลงไปให้ทั่วจนส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เจ้าของมือบางอมยิ้มน้อยๆ ชอบนักล่ะเวลาที่มีคนคอยทานอาหารที่เขาเป็นคนทำ ใบหน้าหวานใสหันไปส่งยิ้มให้พี่ชายที่ละสายตาจากข่าวต่างประเทศในจอทีวีขึ้นมาดูความเป็นไปของเขา จุนมยอนส่งยิ้มกว้างแสนอบอุ่นตอบกลับ ก่อนจะหันหน้าขวับยามที่ได้ยินเสียงประกาศราคาหุ้นขาเปิดตลาดของเช้าวันนี้ดังออกมาจากปากผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจเจ้าประจำ

     

    “ระดับหานแล้ว มีหรอจะไม่ไหว? มีหรอจะไม่ชนะ?”

     

    “อะจ้าๆ เก่งที่สุดเลยนะหานของชิงชิงเนี่ย!” ป่วยการจะต่อล้อต่อเถียง กระต่ายตัวขาวเลยเอาสมาธิมาทุ่มให้กับการหยอดแพนเค้กลงกระทะมากกว่า ทำไปทำมาสักพัก ก็ได้ยินเสียงร้องลั่นมาจากอีกฝั่งของครัว

     

    “โอ๊ย!!!!

     

    “หานเป็นอะไร?!” หมุนเตาแก๊สดับไฟวางกระทะลงทันที จางอี้ชิงรีบวิ่งเข้ามาหาเพื่อนรักที่ตอนนี้ยืนกุมนิ้วชี้ของตัวเองแน่น

     

    “หานเลือดไหล...เป็นอะไร มีดบาดหรอ?” แทบไม่ต้องรอคำตอบเมื่อหลักฐานคือมีดเล่มใหม่ที่ตกอยู่บนพื้นพร้อมหยดเลือดเล็กๆสองสามหยด เห็นแบบนั้นเลย์ก็ไม่รอช้า มือเรียวคว้าแขนลู่หานไปที่ก๊อกน้ำอย่างว่องไว

     

    “ทนหน่อยนะหาน ล้างแผลก่อนนะ” ลู่หานยอมปล่อยให้มือเล็กคว้านิ้วชี้ของเขาไปจ่อที่ปลายก๊อกน้ำ รู้สึกดีขึ้นเมื่อความเย็นของน้ำสะอาดเข้ามาชำระล้างเลือดสีแดงสดออกไปจากมือ อันที่จริงพอคราบเลือดหายไปหมดแล้ว ลู่หานก็พอจะเห็นได้ชัดเจนว่าแผลของเขามันก็ไม่ได้ใหญ่หรือลึกมากมายอะไร

     

    มิน่า...ถึงได้เจ็บแค่นิดเดียว

     

    แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะยังไม่วางใจ คิ้วเรียวถึงได้พันกันยุ่งเสียขนาดนั้น ลู่หานหลุดยิ้มกว้างออกมาเมื่อความรู้สึกยินดีที่เลย์เป็นห่วงเขากำลังส่งความอบอุ่นเข้าครอบคลุมไปทั่วทั้งหัวใจ

     

    “เจ็บจัง” รู้ตัวอีกทีก็เผลอหลุดปากอ้อนไปเสียแล้ว

     

    “เจ็บมากมั๊ย? ทนหน่อยนะหาน เดี๋ยวชิงชิงทำแผลให้ก็หายเจ็บแล้วน๊า” ปลอบเหมือนกับปลอบเด็กน้อยวัยกำลังซน กระต่ายตัวเล็กหยิบผ้าสะอาดมาเช็ดมือให้กวางหน้าหล่อ ก่อนจะผละไปค้นเอากล่องปฐมพยาบาลออกจากห้องนอนมา

     

    “มีอะไรกันหรออาลู่? ชิงชิง?” จุนมยอนลุกขึ้นมาจากโซฟา แล้วเดินเข้ามาในห้องครัวเมื่อได้ยินเสียงน้องชายตัวเองวิ่งตึงตังออกมาจากห้องนอน

     

    “หานโดนมีดบาดนิ้วฮะพี่จุน อี้กำลังจะทำแผลให้”

     

    “เป็นอะไรมากมั๊ยล่ะเรา?” พี่ชายตัวขาวหันไปถามลู่หานด้วยสีหน้าเป็นกังวล ถ้าอี้ชิงไม่ชอบโรงพยาบาล จุนมยอนก็เกลียดเลือดไม่ต่างกัน

     

     

    ...มันทำให้เขานึกถึงความทรงจำในวันที่กำลังจะเสียแม่ไป...

     

     

    “ไม่เป็นไรมากหรอกครับ เดี๋ยวชิงชิงทำแผลให้ก็คงจะโอเค” ส่งยิ้มแถมไปกับคำตอบที่ทำให้คิ้วขมวดๆของจุนมยอนคลายตัวลง คนอายุมากที่สุดในห้องพยักหน้ารับ ก่อนจะยืนไม่ห่างไปมากนัก เผื่อว่าน้องชายสุดที่รักจะให้เขาช่วยหยิบจับอะไร

     

    “อ่ะ เรียบร้อย...ทีนี้หานไม่ต้องช่วยชิงชิงแล้วนะ ไปจัดโต๊ะชงชารอกินเป็นเพื่อนพี่จุนเลยจะดีกว่า” ใส่ยาทำแผลปิดพลาสเตอร์ให้คนตัวสูงกว่าเสร็จ เลย์ก็ไล่ให้ลู่หานไปจัดการงานที่ไม่ต้องเสี่ยงกับของมีคมแทน

     

    “แต่หานยังเจ็บอยู่เลยนะครับ”

     

    ...อ้อนครั้งที่หนึ่ง

     

    “เดี๋ยวก็หายแล้วหาน อีกแปปเดียวก็ดีขึ้น”

     

    “แต่มันเจ็บมากเลยนะชิงชิง หานไม่ไหวแล้ว เนี่ย..มันแสบไปถึงกระดูกเลย”

     

    ...อ้อนครั้งที่สอง

     

    “ขนาดนั้นเลยหรอ โอ๋ๆๆ จะให้ชิงชิงช่วยยังไงดี?”

     

    ...เข้าทาง!!! จางอี้ชิงเสร็จลู่หานเป็นครั้งที่สามของวัน...

     

    “ชิงชิงก็เสกให้หานหายเร็วๆหน่อยสิครับ” ยู่ปาก เบ้หน้า ทำตากลมออดอ้อน ลู่หานยกนิ้วข้างที่เป็นแผลขึ้นมาจ่อใกล้ๆ ริมฝีปากของคนน่ารักอย่างแนบเนียน

     

    “โอเคๆ โอมเพี้ยง...ความเจ็บจงหายไป!” เสียงใสเอ่ยคำพูดน่ารัก เลย์อมลมเข้ามาในแก้มจนป่อง ก่อนจะจัดการเป่าเบาๆไปบนนิ้วที่ถูกพลาสเตอร์สีเหลืองลายลูกเจี๊ยบพันไว้อย่างอ่อนโยน เป่าไปเป่ามาก็พลันรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วเรียวถูกกดลงมาที่ริมฝีปากอิ่มของตนอย่างจงใจ

     

    “หานจะทำอะ....” ไม่ทันถามได้จบประโยค ริมฝีปากร้อนจัดของคนเจ้าเล่ห์ก็ทาบทับลงมาทั้งที่นิ้วยังกั้นขวางปากของพวกเขาอยู่อย่างนั้น ลู่หานกดปากแนบเข้าหาร่างบางอย่าออดอ้อน ก่อนจะถอนจูบออกมาทั้งที่ยังปล่อยนิ้วให้คาอยู่ที่ริมฝีปากแดง

     

    “ได้ยาดีขนาดนี้ หานหายเจ็บเป็นปลิดทิ้งเลย...” ว่าแล้วก็หัวเราะหึหึ ยามเมื่อมองเห็นใบหน้าขาวใสขึ้นสีแดงจัดที่ข้างแก้มเนียน เลย์ยืนนิ่งหลับตาปี๋ ทั้งโกรธทั้งอายจนอยากมุดหายลงไปใต้ดิน

     

     

     

    คนหน้าเหมือนกวางเคลื่อนนิ้วไปเกลี่ยเบาๆที่แก้มนุ่ม

     

    คนหน้าเหมือนกระต่ายก็ยืนนิ่งยอมให้อีกฝ่ายกระทำโดยไม่ขัดขืนอะไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บางทีนะบางที...

     

    ...บางทีทั้งสองคนอาจจะลืมไป...

     

    ว่ายังมีใครยืนกลั้นหายใจ อ้าปากค้าง ตะลึงตะลานกับฉากเลิฟซีนที่เห็นกับตาเมื่อสักครู่อยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคน!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พระเจ้าครับ...จุนมยอนจะเป็นลม !

     

     

    ก็รู้หรอกนะว่าสองคนนี้สนิทกันจนกอดกัน หอมแก้มกันได้อย่างเป็นธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก

     

    แต่ไอ้การจูบเมื่อกี้นี้มันคืออะไร?! จุนมยอนไม่เข้าใจ และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ไ ม่ โ อ เ ค !

     

     

     

     

     

    ไม่ดีเลย...ไม่ดีแล้ว

     

    ไอ้คริสโดนทำคะแนนทิ้งห่างจนฐานเสียงสั่นคลอนอยู่เห็นๆ

     

    จุนมยอนในฐานะบัณฑิตหนุ่มนักการตลาดจากคณะบริหารธุรกิจคงยอมให้เกิดการค้ากำไรเกินควรแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหนทางที่เขาอุตส่าห์ตระเตรียมให้น้องอี้กับพี่ฟานลงเอยกัน คงจะพังขาดทุนย่อยยับตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร

     

    ...เพื่อความสงบสุขของครอบครัวและเห็นแก่ความเป็นพี่เป็นน้อง...

     

     จุนมยอนคงยอมยกน้องชายให้ลู่หานไม่ได้จริงๆ

     

    เขารู้ดีเสมอว่าการคำนวณของเขาไม่เคยพลาด ถ้าครั้งนี้ลู่หานคือฝ่ายที่ปิดจ็อบประมูลได้ของชิ้นสำคัญไป คริสอู๋คนอารมณ์ร้ายคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองขาดทุนอยู่ฝ่ายเดียว !!!

     

    เพราะใครๆ ก็รู้ดีว่าอู๋อี้ฟานมีนิสัยไม่ต่างอะไรไปจากเด็กน้อยอายุ 5 ขวบ ทั้งเอาแต่ใจ และอาละวาดเก่งเป็นที่หนึ่ง ไหนจะอ่อนไหวง่าย เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวจนไม่ว่าใครก็ตามแทบไม่ทัน ตรงกันข้ามกับลู่หานที่มีความรับผิดชอบสูงและเป็นที่น่าไว้วางใจ รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรจะทำ

     

    เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้จุนมยอนเชื่อว่าลู่หานจะสามารถรับมือกับความผิดหวังได้ดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นหากสุดท้ายอี้ชิงได้ลงเอยกับอี้ฟาน... ถึงจะเจ็บหนักหน่อย แต่เขาก็เชื่อว่าลู่หานจะต้องผ่านมันไปได้ในที่สุด ไม่เหมือนกับมังกรบ้าอีกตัว ที่หากไม่มีอี้ชิงแล้ว ก็ดูท่าว่าคงจะไม่ยอมหายใจต่อไป

     

     

    คริสร้ายแค่ไหน? จุนมยอนนี่แหละที่รู้ดีที่สุด

     

    และคริสอ่อนแอแค่ไหน? จุนมยอนก็รู้คำตอบดีกว่าใครเช่นกัน

     

     

    ในฐานะพี่น้องต่างสายเลือด ควบกับตำแหน่งเพื่อนสนิทที่ได้มาโดยบังเอิญ จุนมยอนย่อมต้องเข้าข้างคริสอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าตัวเขาจะนึกวางใจลู่หานมากเท่าไหร่ก็ตาม

     

     

    ...เพราะเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ...

     

     

    ต่อให้อี้ฟานเป็นเพียงลูกติดของแม่เลี้ยงเขา แต่ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่วันนี้ทายาทหนุ่มแห่งตระกูลจาง จะเตรียมลงสนามเป็นแบ็คอัพให้กับอู๋อี้ฟานอย่างเต็มตัว

     

    ยิ่งเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนรักเพื่อนซี้สองคนนี้ด้วยแล้ว...

     

    จุนมยอนยิ่งต้องจัดการขั้นเด็ดขาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ !!

     

    เพราะขืนชักช้ากว่านี้... อี้ชิงคงโดนลู่หานจับกินเข้าไปจริงๆ

     

     

     

     

    ลูกชายคนโตของท่านประธานจางยืนกอดอก ปิดปากเงียบสนิท ไม่เอ่ยอะไรขัดจังหวะคนสองคนที่กำลังตกอยู่ในโลกส่วนตัว แม้ภายนอกจะดูเป็นปกติ แต่ภายในกลับไม่ใช่เลย สมองของจุนมยอนทำงานรัวเร็ว จับแผนการทั้งหลายขึ้นมาเรียงต่อกันเป็นสเต็ป แล้วเปลี่ยนไปคิดคำนวณค่าความเสี่ยงและความน่าจะเป็นของผลที่จะได้รับ ผ่านไปสักพักหนุ่มนักธุรกิจก็เริ่มกระตุกรอยยิ้มขึ้นมาแต้มไว้ที่ริมฝีปาก ยามเมื่อผลการคำนวณค่าเฉลี่ยของผลลัพธ์บ่งบอกว่าเขายังพอมีโอกาสที่จะได้รับผลกำไร

     

    ความมั่นใจจึงถูกเรียกขึ้นมาจนเต็มเปี่ยม จุนมยอนเลิกคิ้วขึ้นสูง กดมือแตะปากตัวเองด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ

     

    เผื่อใครจะยังไม่รู้?

     

    ถึงแม้ว่าจุนมยอนอาจดูนิ่มๆ แต่ความจริงแล้วเขาก็ ร้ า ย ไม่น้อยหน้าใคร...

     

     ไม่อย่างนั้นแล้วจะคบคนอย่างอู๋อี้ฟานเป็นเพื่อนสนิทมาได้ยังไงตั้งหลายปี?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...ขอโทษนะลู่หาน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แต่นายคงต้องเจอกับฉันหน่อยแล้วล่ะงานนี้ !!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ให้ทายพี่จุนจะทำอะไร -..- พี่ชายอ่อนโยนคนนี้ไม่ได้ดูใจดีอย่างภาพลักษณ์หรอกนะคะ /*บอกไว้ก่อนเลย*/

    อย่าหลงไปโดนท่าทางแสนอบอุ่นนั่นหลอกเอาเชียวน๊า 5555555555555

    ต่อหานชิงชิงกันอีกตอน ก่อนที่พี่หานจะยกเวทีให้พี่ฟานเขาไปครอบครองในตอนหน้า (สลับกับคิมไคนิดนึง)

    หมดจากพี่คริส จงอินถึงจะคัมแบ๊คกลับมานะคะทุกคน >///<

     

    ตอนนี้อาจจะดูเนิบๆไม่มีอะไรมาก.. แต่มันคือการปูเข้าสู่เนื้อเรื่องในช่วงครึ่งหลังของเรากันแล้วนั่นเองค่ะ !

    ดีไม่ดีเปิดตอนหน้า อาจกลับมาเป็นดราม่า(?)โดยไม่รู้ตัว /*อุ๊บส์*/ =w=

     

    “ขอบคุณทุกคนที่ยังคอยติดตามกันเหมือนเดิมนะคะ”

    ขอบคุณทุกโหวต ทุกคอมเม้นท์ ทุกวิว ทุกการแอดเฟบ. และขอบคุณทุกๆการติดแท็ก >3< #ฟิคห้าซีเอ็ม

    ยูมีความสุขมากเลยจริงๆค่า ! เห็นฟิคเรื่องนี้ได้รับความรักจากทุกคนก็ดีใจจนละลาย

    เม้นสั้นเค้าก็รัก เม้นยาวเค้าก็ยิ่งปลื้ม .. แต่ไม่ว่าเม้นมากี่บรรทัด ก็ทำให้ยูมีกำลังใจทั้งนั้น J

    ขอบคุณมากนะคะที่คอยติดตามกัน รักรี้ดเดอร์ทุกคนตลอดไปเลยยย <3 จุ้บๆๆๆๆ

     

     

    ปล.เนื่องจากมีของรางวัลมาเพิ่มในการเล่นเกมส์ตอนที่แล้ว

    ขอเวลาเพิ่มรายละเอียดและจัดเรียงของรางวัลอีกแปปเดียวนะคะ

    ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้จะรีบมาประกาศผลให้ฟังแล้วจ้า >..< /*ขอโทษที่ล่าช้านะคะทุกคน*/

     

    ปล2.เพื่อการอ่าน 5CM ให้ได้อรรถรสสูงสุด TT ทุกคนช่วยจินตนาการหน่อยนะคะว่า...

    พี่หานสูงกว่าชิงชิงมากกว่าความเป็นจริงซัก 5-7 เซ็นต์ , เพราะในเรื่องชิงชิงของเราๆ ตัวเล็กม๊ากมาก #

    ขอบคุณมากเลยจ้า >3< จุ้บ จุ้บ จุ้บ .

     

     







    E é主
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×