ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] 5CM ❉ (LULAY vs. KAILAY vs. KRISLAY)

    ลำดับตอนที่ #11 : ( OS ) ❉ KRIS x LAY x TAO - Mistaken

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 399
      5
      3 เม.ย. 57




     

     

     

    คุณเคยรู้ค่าของบางสิ่ง เมื่อมันสายเกินไปแล้วบ้างไหม?

     

    ตอนนี้ผมกำลังเผชิญกับความรู้สึกแบบนั้นอยู่

     

    ความรู้สึกปวดร้าวในหัวใจ ยามเมื่อเอื้อมมือออกไปแล้วไม่พบใครบางคน . . .

     

    ใคร . . ที่คอยยืนอยู่เคียงข้างผมเสมอมา

     

     

     

     

     

     

    ผมลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ในเช้าวันที่ดูยังไงก็ไม่สดใส ใบหน้าหล่อเหลาที่ทุกคนต่างชื่นชอบของผมเหม่อมองไปที่ผนังห้องสีขาวอย่างไร้จุดหมาย ปล่อยเวลาให้ไหลไปเรื่อยๆ อย่างไร้ค่า

     

     

    เพราะวันนี้ไม่มีอีกแล้ว ... คนที่จะมาใช้เวลาร่วมกัน

     

     

    ใบหน้าเล็กของใครบางคนลอยแว้บขึ้นมาในจิตสำนึก เสียงนุ่มๆของเขายังคงแว่วมาเข้าหูผมอยู่เสมอ รอยยิ้มหวานใสที่แสนจะงดงามยังคงมีให้เห็นได้อยู่ในภาพของความทรงจำ

     

    ผมแสยะยิ้มสมเพชให้กับตัวเองอย่างนึกขัน นี่ผมเป็นบ้าอะไร? ผมกำลังเฝ้าฝันอะไรอยู่?

     

    มองไปทางอีกฟากหนึ่งของเตียงหนานุ่มแล้วก็ยิ่งหัวใจกระตุก เตียงนอนที่เคยมีใครอีกคนมาแชร์ความอบอุ่นร่วมกัน เวลานี้หลงเหลือเพียงความเย็นชืดที่บาดหัวใจของผมจนเป็นแผลเท่านั้น

     

     

    ตื่นได้แล้วอู๋ฟานคนขี้เซาของเลย์

     

     

    เลย์...” เสียงทุ้มของผมหลุดออกจากลำคอไปอย่างยากลำบาก แค่จะเอ่ยชื่อเขา ผมยังรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรพอ

     

     

    วันนี้มีเฟรนซ์โทสต์ของโปรดนายด้วยล่ะ กำลังร้อนๆเลย ไปชิมหน่อยน๊า..

     

     

    แต่ราวกับความทรงจำกำลังเล่นตลก ยิ่งผมอยากลืม เขาก็ยิ่งปรากฎชัดเจนขึ้นมา ชัดเสียจนขนาดที่รู้สึกตัวอีกที ผมก็ตามภาพของคนในความทรงจำคนนั้นมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัวเสียแล้ว

     

    “ไหนล่ะ? ไหนเฟรนซ์โทสต์ของโปรดฉันล่ะเลย์...” ความรู้สึกอุ่นชื้นพุ่งขึ้นมาคลออยู่ที่ดวงตาคม ผมไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นปาดหยดน้ำใสๆที่กำลังไหลลงมาข้างแก้มได้เลยสักนิด แม้แต่สองขาที่ยืนอยู่ ยังแทบจะไร้เรี่ยวแรงพยุงตัว

     

    “ถ้าไม่ใช่ของที่นายทำให้ ฉันก็ไม่อยากกินอะไรเลย” ยังคงพูดอยู่กับตัวเอง หวังให้คนที่จากไปได้ยินคำพูดอันเอาแต่ใจของผม อู๋อี้ฟาน ผู้ชายโง่เขลาคนนี้

     

    ตั้งแต่วันที่คนตัวเล็กไม่อยู่ ผมก็กินข้าวแทบจะนับคำได้ วันไหนที่ไม่ถูกเพื่อนๆบังคับ ก็จะไม่แตะอาหารอะไรสักอย่าง เพราะถ้าไม่ใช่ของที่เขาทำให้ จะน่ากินมากแค่ไหนผมก็กระเดือกเข้าไปไม่ลง

     

     

    /ก๊อก ก๊อก ก๊อก/

     

     

    เสียงเคาะประตูห้องหนักๆ ทำให้หัวใจผมสั่นระรัว ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเมื่อสักครู่ดูเหมือนจะแข็งแรงเสียจนน่าประหลาด ผมพุ่งตัวไปถึงบานประตูไม้ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที พร้อมกับใบหน้าไร้สีเลือดของผมที่เริ่มมีรอยยิ้มแห่งความหวังเข้ามาเยี่ยมเยือน

     

     

    เพียงเพื่อจะพบว่า

     

    ยามเมื่อหมุนลูกบิดประตูออกไป จะพบกับใครบางคน

     

    ที่ผมไม่เคยต้องการจะพบเจอ

     

     

    “มึงมาทำไม!” ตวาดเสียงลั่นใส่หน้าผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง ผมแทบอยากจะยกขาถีบมันให้กระเด็นด้วยซ้ำไป แต่ก็ทำไม่ได้..

     

    เมื่อพลังในร่างกายไม่หลงเหลือเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    “คิดว่ากูอยากมานักหรอ? ถอยไป” เสียงแหบของอีกคนตอบกลับมาอย่างไม่ยอมลงให้กัน ผมยังคงดื้อด้านยืนขวางกั้นมันอยู่หน้าประตู

     

    “กูไม่ให้คนอย่างมึงเข้ามาเด็ดขาด!

     

    “กูก็ไม่ได้อยากเข้าไปนักหรอก ถ้าไม่ติดว่าเลย์เขาขอร้องให้กูมา” ดวงตาสีดำสนิทของแขกที่ผมไม่ได้เชิญหรี่ลงอย่างคนกำลังหงุดหงิด ใบหน้าดุดันของมันแทบจะไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ ไม่เหมือนกับผมที่เอาแต่จ้องหน้ามันอย่างกับจะฆ่าเสียให้ตาย

     

    “แล้วทำไมเลย์ไม่มาเอง?”

     

    “มึงคิดว่าเลย์เขาอยากเจอคนอย่างมึงนักหรอฮะอู๋อี้ฟาน? ถามออกมาได้ ไม่ดูบ้างหรอสารรูปตัวเองน่ะ” พูดจบก็ตัดสินใจผลักผมอย่างแรง ผู้ชายผมสั้นในชุดเสื้อโค้ทสีดำเดินตัดผ่านห้องของผมเข้าไปอย่างคุ้นเคย

     

    “แล้วมึงมันดีกว่ากูนักหรอเทา?” แค่นเสียงถาม อยากจะรู้นัก ว่าไอ้คนที่มันมาด่าผมปาวๆอยู่นี่ มันดีกว่าผมตรงไหน?

     

    “ดีพอจะดูแลเขาได้มากกว่ามึงก็แล้วกัน” แค่เพียงคำพูดที่ตอบกลับมาก็ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืนแล้ว คนพูดไม่สนใจจะเข้ามาช่วยประคอง ได้แต่ยืนมองผมลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความสมเพชเวทนา

     

    “มึงมันโง่อู๋ฟาน มึงทำทุกอย่างพังหมด แม้แต่หัวใจของเขา มึงก็ขยี้จนแหลกสลาย มึงทั้งนั้น...มึงทำมันพังทุกอย่างเลย” ทิ้งประโยคอันแสนโหดร้ายไว้ให้ผม แล้วก็เดินลิ่วตัดเข้าห้องนอนของผมกับคนตัวเล็กไปอย่างไม่รั้งรออะไรอีก ผ่านไปไม่นาน ระหว่างที่ผมยังคงจุกอยู่กับคำพูดเมื่อครู่ของมัน จื่อเทาก็กลับออกมาพร้อมลังกระดาษสีน้ำตาลใบใหญ่ที่ภายในบรรจุของใช้ของเลย์ไว้จนเต็ม

     

    “อย่า...มึงเอาของของเลย์ไปไม่ได้นะ” ผมอ้อนวอนเสียงแผ่ว แค่ชีวิตที่ไม่มีเลย์ของผมมันก็ทรมานจนเกินไปแล้ว นี่จะมาเอาข้าวของแทนตัวไปอีก ผมไม่เจ็บเจียนตายเลยหรือ?

     

    “ใช่ว่าของอยู่นี่แล้วเจ้าตัวเขาจะกลับมา...ตาสว่างแล้วยอมรับความจริงเถอะอู๋อี้ฟาน เลย์เขาเดินจากมึงไปนานแล้ว” ร่างสูงของจื่อเทาเดินผ่านผมไปในที่สุด เสียงปิดประตูห้องทำให้ผมมีแรงเฮือกสุดท้าย

     

     

    ไม่ได้!

     

     

    ยังไงผมก็ไม่ยอมให้มันเอาของของเลย์ไป !!

     

     

    ผมยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น พยายามทรงตัวให้ตรงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ก่อนจะพุ่งตัวไปที่ประตู ผ่านออกจากห้องไปหยุดยืนหน้าลิฟต์อย่างร้อนใจ

     

    ขอให้ทัน...ได้โปรดเถอะสวรรค์ ขอให้ผมไปทันที!

     

    เมื่อลิฟต์มาไม่ทันใจ สองขาของผมก็มุ่งตรงไปที่บันไดหนีไฟ ก้าวยาวๆ จนแทบจะกลายเป็นการกระโดดลงบันไดทีละสองถึงสามขั้น ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน แต่สุดท้ายผมก็มาหยุดยืนอยู่หน้าคอนโดได้ทันเวลา

     

    “รอนานไหมครับคนดี?” เสียงแหบพร่าของ อดีตเพื่อนสนิทดังขึ้นไม่ไกลนัก ผมมองตามเสียงไป จนพบกับ ใครบางคนที่หัวใจกำลังร้องเรียกหาอยู่ทุกวินาที

     

    “เลย์!!” เสียงต่ำของผมตะโกนเสียงดัง ยามเมื่อร่างบางเจ้าของเส้นผมสีชมพูหวานปรากฎขึ้นมาให้เห็นในสายตา

     

    ทว่าเจ้าของชื่อยังคงนิ่งงัน ร่างบอบบางไม่มีท่าทางว่าจะขยับสักนิด มีเพียงมือเล็กๆคู่นั้นที่กระชับเสื้อของเทาให้เข้ามามาแนบกับตัวเอง

     

    อย่า!

     

    “กลับมาเถอะนะ นายช่วยกลับมาหน่อยเถอะนะเลย์” ผมปรี่เข้าไปหาร่างเล็กที่ยืนพิงมาเซราติสีดำสนิทอยู่อย่างไม่รั้งรอ มือหนาของผมเอื้อมออกไป หมายจะคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดให้หายคิดถึง แต่...

     

    ออกไปห่างๆคนของกู!” ร่างสูงที่แทบจะทัดเทียมกับผมปัดมือผมออกอย่างรวดเร็ว จื่อเทาเอาตัวของมันเข้ามากั้นกลาง ขวางระหว่างผมกับใครอีกคนไว้อย่างมั่นคง ดวงตาเรียวที่แสนจะดุดันของมันพยายามขู่ให้ผมล่าถอยไป แต่เสียใจ นาทีนี้ผมไม่มีอะไรจะต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว!

     

    “เลย์...”

     

    “อู๋ฟาน! กูขอเตือนนะ ในฐานะที่กูกับมึงเคยเป็นเพื่อนกัน เลิกยุ่งกับเลย์เดี๋ยวนี้!” ผมไม่สนใจฟังคำขู่ ในหัวสมองของผมตอนนี้ มีเพียงร่างเล็กที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังของจื่อเทาเท่านั้น พยายามไม่นาน ผมก็อาศัยช่องว่างพุ่งเข้าไปจนถึงตัวเลย์

     

    “ฟานขอโทษเลย์ ฟานผิดเอง เลย์...ละ...เลย์ช่วยกลับมาเถอะฟานขอร้อง” ผมกุมมือเล็กที่ฉวยมาไว้ได้จนแน่น แม้จะมีมือแกร่งของอีกคนเข้ามาแย่งไป แต่ผมก็จะไม่มีวันยอมปล่อยให้เจ้าของมือเล็กคู่นี้หลุดลอยจากไปไหนได้อีก

     

    สองเดือนที่ไม่มีเลย์ ผมรู้สึกราวกับตายทั้งเป็น

     

    “ปละ...ปล่อย” เสียงใสๆที่ผมสุดจะคิดถึงเอ่ยผะแผ่ว ฟังดูก็รู้ว่าเลย์พยายามกลั้นเสียงสะอื้นอย่างสุดความสามารถ ในขณะที่ผมร้องไห้อย่างไม่อายใครอีกต่อไปแล้ว

     

    “ฟานอยู่ไม่ได้เลยเลย์...ฟะ.....ฟานรู้สึกเหมือนฟานกำลังจะตาย ไม่มีเลย์แล้ว....ฟาน....ฟานก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปได้ยังไง ขอร้องนะเลย์....กลับมาหาฟาน กลับมาอยู่ข้างๆฟานเถอะนะ ฟานขะ...ขอร้อง....”

     

    “มึงยังจะกล้าขอร้องอีกงั้นหรออู๋อี้ฟาน!!! มันสายเกินไปแล้ว มันหมดเวลาของมึงแล้ว เวลาที่เลย์ต้องการทำไมมึงถึงไม่อยู่เคียงข้างเลย์ เวลาที่เลย์ร้องไห้มึงหายไปไหน? เวลาที่เลย์เสียใจทำไมมึงไม่เคยรับรู้เลย? เป็นกู...เป็นกูคนนี้ต่างหากที่คอยดูแลเขา เป็นหวงจื่อเทาคนนี้ที่คอยอยู่เคียงข้างดูแลเอาใจใส่เลย์! มึงมันหน้าด้านอู๋ฟาน จนป่านนี้แล้วมึงยังจะมาเรียกร้องเอาอะไร!!!” แรงผลักด้วยความเกรี้ยวกราดถูกส่งมาปะทะเข้ากับหน้าอกของผมอย่างแรง จื่อเทาใช้เท้าถีบผมซ้ำอีกครั้ง พยายามกันเลย์ให้อยู่ห่างจากผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่เลย์เองก็ได้แต่ยืนร้องไห้อย่างหนักอยู่ข้างหลังของผู้ชายที่พร้อมจะปกป้องตนเอง มือเล็กไม่ได้จับมือของผมอีกต่อไปแล้ว

     

     

    มือคู่นั้นของเลย์กอดจื่อเทาเอาไว้แน่น...

     

    ดวงตาก็คอยแต่จะมองหาจื่อเทาไม่ใช่ผม...

     

    แม้กระทั่งชื่อที่เอ่ยออกมา...ก็กลับกลายเป็นชื่อของผู้ชายอีกคน

     

     

    “เทา...เทาอา...พาเลย์กลับไป...ไม่เอาแล้ว เลย์ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ฮึก....ฮืออออ” สะอื้นไห้ออกมาแล้วก็ปล่อยโฮในอ้อมกอดแกร่ง เลย์ทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของจื่อเทาแบบที่ทำให้คนมองอย่างผมแทบจะหยุดหายใจ

     

    มือหนาของเทากอดปลอบร่างเล็กไว้แน่น มันรวบตัวเลย์เข้ามาในอ้อมแขน ก่อนจะกดจูบย้ำๆซ้ำๆลงที่หน้าผากมนอย่างหวงแหน

     

    “นิ่งนะครับคนดี เทาจะพาเลย์กลับบ้านของเรานะ”

     

     

    บ้านของเรา?

     

     

    “บ้านของเราคือที่นี่ต่างหากเลย์ บ้านของเลย์กับฟาน บ้านของเราสองคน...” เหมือนเสียงของผมจะส่งไปไม่ถึง เมื่อเลย์ยิ่งเบียดตัวเข้าหาจื่อเทามากขึ้นกว่าเดิม

     

    ผมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ...

     

    “เลย์ให้อภัยฟานได้ไหม? เลย์อย่าทิ้งฟานไปได้ไหมครับ...” ผมคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนอีกครั้งและอีกครั้ง หวังเพียงแค่ให้ร่างบางยอมใจอ่อน

     

    อยากจะเป็นคนกอดปลอบเลย์

     

    อยากจะเป็นคนที่คอยจูบซับน้ำตาให้

     

    ไม่ใช่เป็นคนทำให้เลย์ต้องเสียน้ำตาแบบนี้!

     

    “มึงยังไม่หยุดอีกหรออู๋ฟาน? ไอ้เชี่ย...มึงจะไม่เลิกยุ่งกับเลย์ใช่ไหม? มึงจำไม่ได้รึไงว่ามึงเคยทำอะไรไว้กับเลย์!!!” เทาหันกลับมาด่ากราดใส่ผมที่กำลังจะเอื้อมมือออกไปคว้าชายเสื้อของเลย์เอาไว้ และในวินาทีที่ความทรงจำกำลังไหลเวียนย้อนกลับมา มือของผมก็ตกลงอย่างหมดแรง

     

     

     

    รำคาญ!!!! บอกว่าไม่กินก็ไม่กินสิ จะมาเซ้าซี้กันทำไม!!’

     

    ...วันนั้นผมปัดอาหารเย็นที่เลย์ทำไว้รอทิ้งลงพื้นจนหมด

     

     

     

    ไม่ว่าง! ไม่มีขารึไง? ถ้าเดินไปเองไม่ได้ก็ไม่ต้องออกไปไหนเลยแล้วกัน!!’

     

    ...วันนั้นผมผลักเลย์จนล้มลงกับพื้น...

     

     

     

    ทำไม? ฉันจะนอนกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?

     

    วันนั้นผมจูบคนอื่นต่อหน้าต่อตาของเลย์...

     

     

     

    เป็นแม่ก็ไม่ใช่ อย่ามาแส่เรื่องของกูให้มันมากนักนะ!!!’

     

    วันนั้นผมเมา ผมตบหน้าและไล่เลย์ออกจากห้องของเรา...

     

     

     

    ออกไป!!!! ออกไปจากชีวิตกู!!!!!!’

     

    วันนั้นผมได้ทำลายชีวิตที่เหลือทั้งชีวิตของตัวเองลง...

     

     

     

    ผมลงมือทำร้ายความรักของผมด้วยตัวเอง ผมมัวเมากับภาพลวงตา ความฉาบฉวย และความสนุกที่เข้ามาเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ลืมตัว ลืมหัวใจ และลืมเขาเอาไว้ข้างหลัง

     

    ทิ้งให้คนที่รักผมต้องนอนร้องไห้

     

    ทิ้งให้คนที่รักผมต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

     

    4 ปีที่เขายอมทน 4 ปีที่เขาพร้อมจะให้อภัย... ผมไม่เคยเห็นคุณค่า

     

    จนในวันที่เขาจากไป ผมถึงได้รู้...

     

    ว่านอกจากเลย์แล้ว ก็ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะรักผมได้มากเท่าที่เขารัก

     

    ...ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีเลยจริงๆ...

     

     

     

     

    “เลย์....” อยากจะพูดคำว่าขอโทษอีกสักพันครั้ง แต่รู้ดีว่าคนตรงหน้าคงไม่อยากจะฟัง เลย์หันหลังให้กับผม ไม่มอง ไม่ตอบอะไรกลับมา เขากุมมือที่จับจื่อเทาไว้แน่น กระตุกแรงๆ เหมือนจะอยากหนีผมไปให้ไกลๆ

     

    “มึงทำทุกอย่างพังเอง จำคำกูไว้นะอู๋อี้ฟาน!! มึงเป็นคนไล่เลย์ออกมาจากชีวิตของมึงเอง!!!” เสียงตวาดของเทาดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผม ก่อนที่มันจะประคองเลย์ ก้าวขึ้นรถหรูราคาแพงของมันไป ฝุ่นที่เกิดจากการออกตัวของรถฟุ้งใส่หน้าของผม เสียงล้อบดกับพื้นถนนดังแสบหูเสียจนผมปวดไปถึงขมับ ทิ้งไว้เพียงภาพแววตาสุดท้ายที่เลย์เหลือไว้ให้...

     

    แววตาของคนที่กำลังหมดใจ

     

    ไม่เหลืออะไรแล้ว...

     

    ผมไม่มีแม้แต่โอกาสจะขอแก้ตัว ผมขอเลย์คืนกลับมาไม่ได้ ผมขอชีวิตทั้งชีวิตของตัวเองคืนกลับมาไม่ได้เช่นกัน

     

     

     

     

     

    ออกเดินไปเรื่อยเปื่อย จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มายืนหยุดนิ่งอยู่กลางสะพานสูง...ทอดสายตาลงไปเบื้องล่างก็เผลอยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่

     

     

    ถ้ามันทรมานนัก...ผมจะไปรอเขาที่โลกหน้าก่อนดีไหม?

     

    เผื่อว่าคำขอโทษหลังความตาย จะช่วยให้เขายอมใจอ่อนให้อภัยผมบ้าง

     

    เผื่อว่าคำว่ารักที่เขาเคยให้กับผม จะย้อนคืนมาในวันที่เราเจอกันอีกครั้ง

     

    ...ในโลกที่ไม่มีหวงจื่อเทา...

     

     

    ผมไม่ไหวแล้ว ทนรับความทุกข์นี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว แค่จะหายใจก็ยังไม่อยากทำ ชีวิตที่ไม่มีเลย์...มันไม่มีความหมายอะไรเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลาก่อน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลาก่อนเลย์ของฟาน...เอาไว้วันที่เราเจอกันอีกครั้ง ฟานจะขอแก้ตัวกับเลย์ใหม่นะ

     

    ฟานสัญญาว่าฟานจะไม่ดื้อ ไม่ทำร้ายเลย์อีกต่อไป

     

    ฟานสัญญาว่าฟานจะคอยยืนอยู่เคียงข้างเลย์...ไม่ปล่อยให้เลย์ต้องเสียใจอีกต่อไปแล้ว

     

    อย่าร้องไห้อีกเลยนะคนดี ที่รักของฟาน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...ฟานรักเลย์มากๆเลย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาอีก มีเพียงความเงียบงันและความเย็นจากสายน้ำ ที่ช่วยพาอู๋อี้ฟานไปรอคอยจางอี้ชิงอยู่ที่ดินแดนไกลแสนไกล

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ด้วยความหวังว่า...สักวันนึงจะได้หวนคืนกลับมารักกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อู๋อี้ฟานจะรักจางอี้ชิงตลอดไป

    จางอี้ชิงได้โปรดให้อภัยอู๋อี้ฟานที........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ฟิคชั่ววูบมาก =///= อ่านข้ามๆมันไปเถอะนะคะ .. อายจริงๆ

    แค่รู้สึกอยากแต่งดราม่า ไปๆมาๆไหงออกมาห้วนๆงี้ก็ไม่รู้ TT ชอบไม่ชอบติ-ชมกันได้น๊า #

    ต้องเอาฟีลดราม่าออกมาให้หมดก่อน T^T ไม่งั้นเค้าวกกลับไปต่อพี่หานกับชิงชิงไม่ได้ซักที

    /*ในหัวมีแต่ความดาร์กเลยค่ะตอนนี้*/ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

     

    รอตอนหน้าและผลประกาศรางวัลของเกมกันอีกนิดนะคะ ^ ^)/ ตอนนี้หัวโล่งแล้ว

    วนกลับไปหวานกันต่อได้แล้ว สบายใจเฉิบ(?) 55555555555555 ทุกคนรอเค้าหน่อยน๊า !

    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า <3 จุ้บบๆๆๆๆๆ

     

     







    1'ST LUX THEME
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×