คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 24 : นกในกรง 2 (100%แล้วโว้ย!)
ตอนที่ 24
นกในกรง 2
........
อารมณ์ทั้งหลายสับสนปนเปกันจนหมดหลังจากเส้นผมสีเงินหายลับไปจากห้อง ชิคังได้แต่เขม่นมองร่างสองร่างที่ก่อเกี่ยวกันอย่างดูดดื่ม
“เอากับหมอนั่นสิ” ชายหนุ่มได้แต่โมโหแล้วโมโหอีก ทั้งที่หลายต่อหลายครั้งกว่าเขาจะยอมชักจูงไห้เซ็ตโชมารุใจเย็นลง เจ้านาราคุมักจะเข้ามาแทรกไห้เสียเรื่องเสมอๆ นับแต่ตอนนั้นที่เขาพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อนาราคุพามิซาเนะมาหลังจากคืนที่เซ็ตโชมารุร้องไห้อย่างหนัก แต่ว่า..เรื่องหลังจากที่นาราคุตามร่างบางไปนั้น ชายหนุ่มก็ไม่รูว่าเกิดอะไรขึ้น..
ร่างที่เปียกปอน..กับความเดือดดาลทำเอาเขาแทบนั่งไม่ติด แต่ความโกรธในดวงตาคู่นั้นเขากลับเห็นความเจ็บปวดอย่างชัดเจน..ชิคังจึงได้แต่ถอนหายใจกับตัวเองขณะทรุดนั่งลงบนขอบเตียง
“หน้าที่กามเทพของเจ้าไม่สำเร็จหรืออย่างไร?” น้ำเสียงฟังดูขี้เล่นปนขบขัน ถ้อยคำกึ่งล้อเลียนกึ่งนุ่มนวลที่ชิคังจำได้ในทันทีว่าดังมาจากบุรุษใด
“ เจ้าเมาหรือไง?..หรือว่าสติเลอะเลือน?” ชิคังพูดโดยไม่มองอย่างเบื่อหน่าย คนโดนเหน็บเพียงหัวเราะเบาๆ
“ ข้าไม่ได้ดื่มและสติก็ครบสมบูรณ์ดี สายตาข้ายังคงชัดเจนทำไห้เห็นใครบางคนนั่งทำหน้ามู่ สร้างบรรยากาศมาคุอยู่ในห้อง” คนถูกหาว่าทำหน้ามู่เหลือบมองคนว่าตรงประตู ร่างสูงโปร่งพอกันกำลังยืนหน้าเป็นอย่างกวนโมโห ผมสีทองยุ่งๆกับดวงตาดำสนิทดั่งราตรีกาลจับจ้องมายังใบหน้าคมคายของชิคังด้วยสายตายากคาดเดาเหมือนทุกที
‘ เรื่องยากยังไม่จบ คนชอบยุ่งก็เข้ามา’
“ ข้าไม่ได้ทำหน้ามู่..เลิกยุ่งกับข้าเสียทีเถอะ” ทว่าคำตัดรอนกลับไม่ได้ไล่ร่างสูงไห้เขยื้อนไปไหนซักนิด
“ เสียใจ เป็นชะตากรรมของนักพเนจรเช่นข้าที่จะต้องช่วยบรรเทาทุกข์โศกแก่คนอาภัพรักเช่นเจ้า” จิคาคุพูดยียวนและก้าวเข้ามาภายในห้องก่อนตรงมายังชิคัง
“ อาภัพรัก!..เจ้าว่าใครกัน!? ข้าไม่ได้ อุ๊บ!” ไม่ทันพูดจบ มือของฝ่ายตรงข้ามก็คว้าหมับเข้าที่แก้มทั้งสองข้างของชิคังและ..จัดการดึงมันเต็มเหนี่ยว!
“ โอ๊ย! เจ็บๆๆ หยุด! เจ็บนะ!!” ร่างสูงดิ้นออกจากมือคนขี้เล่นที่เผลอปล่อย ชิคังนั่งน้ำตาเล็ดขณะลูบแก้มทั้งสองข้างที่เริ่มแดงเรื่อ ดวงตาสีเทาตวัดมองเพราะเริ่มโมโหไปทางจิคาคุที่ยืนยิ้มกวนโอ๊ย
ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ชิคังจนจมูกโด่งเป็นสันเกือบสัมผัสกับหน้าผาก
“นี่ไงที่เขาเรียกว่าหน้ามู่” ใบหน้ามนหล่อเหลาแบบคนเจ้าชู้ไก่แจ้ พร้อมริมฝีปากบางที่เหยียดยิ้มราวกับถูกสร้างมาเพื่อกระตุกความอดทนของร่างแบ่งภาคหนุ่ม ชิคังยันใบหน้านั้นออกห่างโดยไม่ออมแรงด้วยความหมันไส้
‘ไห้ตายเถอะ น่าโมโหชะมัด’
นับตั้งแต่พบนักพเนจรสุดขี้เล่นนี่ก็มักจะเจอเรื่องให้ขุ่นเคืองใจอยู่ตลอดเวลา ไม่นับอาการรังควานยิ่งกว่าผีแค้นของชายผมทองที่มักมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวเขาเช้าจรดเย็น ซึ่งบางครั้งก็ผลุบโผล่ไปมาเหมือนจะแกล้งไห้ตกใจ และยังไม่อยากนึกถึงเรื่องการปรากฏตัวอย่างใต้โต๊ะอาหารที่เขากำลังกินข้าว หลังประตู บนต้นไม้และที่อื่นๆอีกมากมาย แถมพ่วงดีกรีกวนโมโหแบบเต็มอัตราจนชิคังมักจะฟิวส์ขาดอยู่ร่ำไป
ดวงตาสีเทาเหมือนหมอกมองร่างสูงที่ยินยิ้มอย่างสบายอารมณ์เบื้องหน้าแบบไม่เป็นมิตรนัก และเจ้าตัวก็คงรู้ดีจึงส่งรอยยิ้มหวานเป็นของตอบแทนราวกับไม่ทุกข์ร้อน
“ ไง?..” จิคาคุพูด
“ อะไรอีก?”
“ เจ้าคิดว่าไง ถ้าจะให้พี่ชายตาแดงกับที่รักของเจ้าแยกกัน?” ชายหนุ่มร่างแยกชะงักกับพูดนั้น ดวงตาสีเทาสลดวูบหนึ่งโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
“ นั่นมันสิทธิ์ของพวกเขา ตัวข้าไม่มีทางก้าวก่ายอยู่แล้ว” จิคาคุเลิกคิ้วมองก่อนเดินเข้ามานั่งข้างๆชิคัง
“ นี่ถ้าข้าไม่ได้รู้จักเจ้ามาก่อน ข้าคงตัดสินใจไปแล้วว่าเจ้าไม่ได้ชอบเซ็ตโชมารุ”
“ ข้าไม่ได้ชอบเซ็ตโชมารุ” ชิคังพูดแทรก ก่อนคนเจ้าชู้จะทำสีหน้าแปลกใจ
“แต่ข้ารักหมอนั่น..” ดวงตาสีหมอกราวพญามังกรดูจริงจังและมุ่งมั่นโดยไม่สะทกสะท้านกับคำพูดตนเอง ใบหน้าคมยังคงจ้องมองเบื้องหน้าโดยไม่ได้เหลียวมองคนข้างตัวที่มีสีหน้าว่างเปล่าอ่านยากอยู่ชั่ววูบหนึ่ง...แต่มันก็เป็นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีเสมือนภาพมายา
“ ฮะๆ งั้นก็ดีแล้ว!”
“ เดี๋ยว!! “ ชิคังอุทานลั่นเมื่อเจ้าตัวกวนนำมือหนาละเลงบวกขยี้ผมของตนเสียเละจนเรือนผมสีเทายุ่งเป็นรังนก แถมเจิคาคุยังทำหน้ายิ้มแย้มราวกับภูมใจนักหนากับฝีมือตัวเอง “หัวยุ่งๆแบบนี้เจ้าก็ดูน่ารักดีนะ ^^”
“ อ้อ..เหรอ~~” ชิคังเดือดปุด ก่อนจะเป็นฝ่ายคว้าผมคนเบื้องหน้าและดึงด้วยความโมโห
“ โอ๊ยๆ! ข้าเจ็บนะ เดี๊ยวหัวก็ล้านพอดีหรอก!!”
“ ล้านก็ดี ข้าจะได้พาเจ้าไปปลงผม บวชเป็นพระเสียไห้เข็ด!!”
“ จะบ้าเรอะ! เป็นพระก็จีบสาวไม่ได้น่ะสิ!”
“พูดมาก! เงียบไปเลย!!!!”
ทั้งสองยังคงโหวกเหวกโวยวายจนลั่นห้อง แม้จะดูอันตรายในบางทีแต่ก็เป็นชั่วเวลาหนึ่ง..ที่ชิคังรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจอย่างประหลาด
.......................................
เซ็ตโชมารุยังคงนั่งแกว่งตัวบนชิงช้าอยู่นานสองนาน ท้องฟ้าอึมครึมนั้นหาได้ช่วยใจที่มัวหมองสดใจขึ้นเลย กลับกัน..มันยิ่งสร้างความเศร้าจนยากจะบรรยาย
ดวงตาสีทองมองพื้นหญ้าตรงเท้าและหลุบตาลง ใบหน้าคมคายติดงดงามดูเรียบเฉยและเหงาหงอย จอมอสูรหนุ่มผู้ขึ้นชื่อว่าเย็นชา..เกราะน้ำแข็งบางๆที่สร้างขึ้นปรากฏรอยร้าวโดยชายผู้หนึ่ง...ชายผู้หนึ่งซึ่ง เคย เกลียด..ชายผู้หนึ่งที่ เคย หมายมั่นว่าต้อตายด้วยเงื้อมมือตน..ชายคนเดียวที่ ไม่ควร เข้าใกล้..สัญชาติญาณครั้งแรกที่เจอกัน บุคคลสวมชุดหนังลิงดูลึกลับและกระตุ้นสัญชาติญาณไม่ไห้เข้าใกล้โดยไม่รู้ว่าทำไม
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไม..แต่มันก็สายไปเกินกว่าจะแก้ไข เพราะส่วนที่อ่อนบางและควบคุมยากที่สุดได้ติดกับดวงตาสีเลือดนั้นไปแล้ว
ส่วนนั้น...ที่เรียกว่า “หัวใจ”..ส่วนสุดท้ายที่เขาคิดเสมอว่าไม่มีวันเกิดขึ้น..
‘ ข้าควรไปดีมั้ยนะ?.’ เซ็ตโชมารุคิด มองขอบฟ้าที่มัวเป็นสีเทาม่วงจากอากาศมิสู้ดี ‘ไปไห้ไกลจากหมอนั่น ‘
ภาพ “หมอนั่น” วาบขึ้นมา..คืนวันดีๆที่เขาพอจำได้ผุดขึ้นเรียกรอยยิ้มเศร้าประดับบนดวงหน้าสวย..เพราะมันจะตามคู่ขนานกับภาพนาราคุและมิซาเนะ อสูรหนุ่มปัดความคิดของตนเองออก และยืนขึ้นท่ามกลางเสียงฟ้าร้องครืนคราง
“ จิ๊บๆๆ” เสียงนกใสๆดังขึ้น ดวงตาสีทองกวาดมองหาต้นเสียงอย่างฉงน นกกระจิบสองตัวอยู่บนพื้นไม่ไกลนักบนลานทรายโล่งๆ นกตัวหนึ่งนอนเจ็บอยู่บนพื้นโดยมีนกสีน้ำตาลอยู่ข้างๆ
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้และทรุดเข่าก้มลงมอง นกตัวหนึ่งบาดเจ็บและมีเลือดไหลซึมลงพื้น อีกตัวดูขนยุ่งๆแต่ไม่เป็นอะไร มันเดินวนรอบนกตัวนั้นอย่างว้าวุ่น เซ็ตโชมารุเอื้อมมือเข้าไป นกตัวที่อาการดีรีบจิกมือเขาทันทีและพองขนกระพือเหมือนขู่แต่ชายหนุ่มไม่สน มันร้องประท้วงน้อยๆเมื่อร่างบางอุ้มมันขึ้นมาในอุ้งมือ
“ ไม่เป็นไรนะเจ้านก “ เสียงนั้นนุ่มนวลและแฝงความอ่อนโยนไว้ เจ้านกกระจิบน้อยดูเป็นมิตรขึ้นและเลิกพองขนแล้ว ดวงสีดำสุกใสจับมองดวงหน้าสวยอย่างไร้เดียงสาจนเซ็ตโชมารุอดยิ้มไม่ได้ “นั่นเพื่อนเจ้าหรือ?” เซ็ตโชมารุกระซิบถาม แม้จะแปลกนักที่คนอย่างเขาหลวมตัวคุยกับนก
หากน่าแปลกเข้าไปอีกที่มันร้องจิ๊บเศร้าๆและกระพือปีกชี้ไปยังร่างที่นอนอยู่ของนกกระจิบอีกตัว” จิ๊บๆ..จิ๊บ..จิ๊บ ..จิ๊บๆๆๆ” และมองมาที่ดวงตาสีทองอำพันเรียบเฉยอีกครั้งพลางปากร้องจิ๊บๆเป็นเรื่องเป็นราว มันพยายามทำทุกอย่างไห้เขารู้เรื่องที่สุด ไม่วายแสดงท่าทางโลดเต้นประกอบเรื่องโดยหารู้ไม่ว่าเซ็ตโชมารุฟังท่าทางและภาษามันไม่ออกซักคำ
“ ขอโทษนะ ข้าฟังเจ้าไม่รู้เรื่อง”
เจ้านกกระจิบทำท่าห่อเหี่ยว ปีกตกแนบลำตัว “ จิ๊บ..” มันเอ่ยรับ
“ โทษที..” เสียงหวานเอ่ย พลางมองนกตัวที่อยู่บนพื้นเงียบ มันคงโดนสัตว์ทำร้ายเพราะมีแผลตรงขาและปีกเหวอะหวะ ‘คงไม่รอด’ เขาคิด ขณะเจ้านกกระจิบกระพือปีกไปเกาะบนไหล่เขาพร้อมร้องเศร้าๆ
“ ไม่น่าเชื่อว่าสุนัจอสูรอย่างท่านจะสามารถทำตัวสนิทสนมกับนกต่ำๆเช่นนั้นได้” เสียงหวานที่คุ้นหูดังขึ้นเบื้องหลัง ดวงคู่งามเหลียวมองและเลิกขึ้นอย่างนึกแปลกใจกับบุคคลที่กล่าวทัก
มิซาเนะยืนอยู่เบื้องหลังห่างไปไม่กี่เมตร ร่างสูงระหงอรชรยังงดงามยั่วยวนเสมอ เซ็ตโชมารุยืนขึ้นตัวตรง ดวงตาสีทองจ้องมองนางโดยไม่แสดงความรู้สึกและพยายามไม่บังคับไห้เสียงที่ออมานั้นห้วนสั้นเกินไป
“เจ้ามีธุระอะไรกับข้า?” นางมองด้วยสายตาน้ำทะเลสุกใส
“ ข้าเพียงจะมาคุยเรื่องนาราคุเท่านั้น” มิซาเนะยิ้ม “ข้าเกรงว่าคนรักของข้าจะทำไห้ท่านว้าวุ่นมิใช่น้อย”
“ว้าวุ่น?..” เซ็ตโชมารุทวนคำ แก้วตาสีอำพันเรืองโรจน์ขึ้น “ทำไมเจ้าถึงคิดว่ามันจะทำไห้ข้าว้าวุ่น?” เสียงนั้นราบเรียบแต่เปลี่ยนสรรพนามเรียกโดยไว มิซาเนะหัวเราะเบาๆก่อนเดินเข้าหาอสูรหนุ่ม
“คำถามนั้นเจ้าก็รู้ดีแก่ใจ..อย่าได้ดูถูกสัญชาติญาณผู้หญิงเป็นอันขาด” นางยิ้มหวานหยด “ ผู้หญิงมักจะมีญาณในเรื่องหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องตรงนี้” มิซาเนะชี้ไปที่อกตน หรือบอกเป็นอีกนัยหนึ่งว่า “หัวใจ”
..หัวใจ..ความรู้สึก..ความรัก
“ไร้สาระ”เซ็ตโชมารุตัดบทอย่างเย็นชา
“อา เจ้าสบประมาดสัญชาติญาณได้ไม่นานหรอก..เพราะเจ้าเองก็ไม่ต่างอะไรจากข้า มีเจ้าของหัวใจคนเดียวกัน”
“งั้นสัญชาติญาณของเจ้าก็บอกไห้ทิ้งนาราคุไปในตอนแรกสินะ” เขาโต้กลับ เป็นครั้งแรกที่นางไร้รอยยิ้มบนใบหน้า ดูเหมือนคำพูดของจอมอสูรจะจี้จุดเต็มๆ ดวงตาสีน้ำทะเลขุ่นมัวลงและเริ่มไร้ความเป็นมิตร
“ เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ถ้าเช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับข้าเช่นเดียวกัน..ขอตัว” ชายหนุ่มตัดบท ร่างสูงบางก้าวจากไป ผมสีเงินสะบัดตามการก้าวเดินเป็นประกายจนเธออดชื่นชมในใจเงียบๆ
“เจ้ารักเขารึเปล่า?..รักนาราคุมั้ย?” คำถามของนางทำไห้เขาสะอึก เซ็ทโชมารุนิ่งงันเหมือนมีชะนักติดหลัง ดวงตาดั่งอัญมณีปิดลงสนิท ดวงหน้างดงามตรึงตราดูคาดเดาอารมณ์ยาก “ถามข้าไห้ได้อะไร?”
คราวนี้รอยยิ้มของมิซาเนะเริ่มผุดพราย “เพื่อมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าโดยแท้..หรือเจ้าไม่มั่นใจคำตอบของเจ้ากัน เซ็ตโชมารุ?”
ใบหน้าสวยหันกลับมามอง ความคมคายน่ามองผสมเค้าอิสตรีอย่างกลมกลืน มิซาเนะไล่สายตาสำรวจคนเบื้องหน้า ทั้งดวงตาเรียวสีทองอำพันล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนาสวย ริมฝีปากอิ่มอมชมพูกับผิวเนียนขาวราวหินอ่อน รูปร่างแบบผู้ชายดูผอมเพรียวอย่างน่าชื่นชม เธอคิดอิจฉากับเสน่ห์ในดวงตานั้นอย่างห้ามไม่อยู่
“เลิกยุ่งกับนาราคุซะ” คำต่อมาของเรียกรอยยิ้มจากเซ็ตโชมารุได้อย่างน่าแปลก
“คิดว่าข้าอยากยุ่งนักรึ..บางทีเจ้าอาจไม่สังเกตว่าเราตอนนี้มีสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“แต่ก็ไม่ได้เลิกยุ่งจริงมั้ย?” นางย้อนเสียงหวาน “ เจ้ามีเสน่ห์เซ็ตโชมารุ..และมันก็มีมากพอที่เจ้าจะทำไห้นาราคุหลงมัวเมา และข้าก็คิดว่าครั้งนี้มันน่าจะพอได้แล้วสำหรับการเล่นสนุกของเจ้า เพราะตอนนี้ข้าต้องการคนรักของข้าคืน”
‘สนุกอย่างงั้นหรือ?’ เซ็ตโชมารุแทบไม่เชื่อหูตัวเอง นี่นางคิดหรือว่าเขากำลังสนุก
“ ข้าไม่เคยปั่นหัวนาราคุ! “ เซ็ตโชมารุเอ่ยปากจนเหมือนตวาด
“ ข้าไม่ได้อยากมาที่นี่ และไม่เคยเล่นสนุก!” ดวงตาสีทองเรือง และระริก “ เจ้าเห็นหรือไง? ว่าข้าปรารถนาใจจะขาดที่จะได้นาราคุมันน่ะ!? มันต่างหากที่พาตัวข้ามาที่นี่ และข้าก็ขอไห้เจ้ามั่นใจได้เลยว่าถึงเจ้าจะเอานาราคุคืนไปข้าก็ไม่ห้าม!! (แต่ตูห้ามเว้ย!! : เซ)”
นางเหยียดรอยยิ้มที่เซ็ตโชมารุไม่นึกชอบขึ้น และเดินตรงมายังเขาและหยุดตรงเจ้านกตัวเล็กที่บาดเจ็บอยู่ “ข้าก็คิดเช่นนั้น ทว่าเจ้าคงไม่คิดหรอกว่าการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจนั้นกลับสร้างการบาดหมางแก่ข้าและนาราคุ” นางเอ่ยพลางมองดูนกที่แสนน่าสงสาร “ข้าเกลียดเจ้ามากรู้มั้ย? ตั้งแต่คืนนั้นข้าก็นึกแล้วว่าเจ้าเป็นตัวขวางทางข้า”
“น่าแปลกที่ตอนสุดท้ายเราคล้ายกัน” เซ็ตโชมารุพูดขึ้น นางยิ้มหวานคล้ายแสยะ “เจ้ามีทางเลือกสองทาง..ทุกข์ตรมอยู่แบบนี้ หรือปลดปล่อยตัวเอง”
“คิดว่าเจ้าทำอะไรข้าได้หรือ?” เสียงนุ่มเย็นชา ฟังดูถูก
“แค่จะแสดงไห้ดูเท่านั้น” นางยิ้ม มองไปยังนกใต้เท้า “สิ่งชีวิตยามที่ทุกข์ทรมานก็ย่อมต้องการปลดปล่อยอย่างเจ้านกตัวนี้”
มิซาเนะขยับยิ้มยั่วยวนและมองนกน้อยตรงพื้นด้วยสาตาที่เขาไม่ชอบเลย มันเป็นสายตาที่โหดเหี้ยม“มันทุกข์เหมือนเจ้า..” นางพูด
“และการปลดปล่อย..”
ตึง!!
“ อย่า!!” แต่ไม่ทัน เท้าของนางทุบขยี้ลงบนตัวนกที่ใกล้ตายจนเละ เจ้านกบนไหล่ร้องลั่นและบินหายไปในอากาศพร้อมเสียงแสบแก้วหูที่ดังสะท้อนไปทั่วสวนสาธารณะ
“ เจ้า!!” เซ็ตโชมารุตรงรี่และดันนางออก เจ้านกสั่นปากพะงาบๆและนิ่งไป ดวงตาวาวโรจน์หลายเป็นสีแดงจนนางผงะถอย “เจ้า! ทำ! แบบ! นี้! ทำไม!”
เสียงดุดันตลาดลั่นก้องทีละคำจนนางตัวสั่นแต่ก็ยังยิ้มสู้เสือ “ข้าจะทำมากกว่านี้ถ้าเจ้ายังไม่เลิกไปจากชีวิตเขา”
“หึ..น่าขำ” เซ็ตโชมารุพูด “เจ้าทำราวกับเป็นนางร้ายในละคร หรือเจ้าลืมไปแล้ว่าข้าเป็นบุรุษ”
“ถ้าจะไห้กลัวหรือมีปฏิกิริยาสะดีดสะดิ้ง ข้าคงอยู่ต่ำกว่าการคาดเดาของเจ้า” ชายหนุ่มพูดเสียงเย็น “หรือบางทีการคาดเดาของเจ้าอาจอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานข้า”
“เจ้ากล้า!!!”นางร้องจแก้วหูลั่น ทว่าเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือหัว
พั่บๆๆๆ
คลื่นสีดำๆมัวๆลอยเป็นวงเหนือหัว หากมองดีๆแล้วมันคือฝูงนกตัวเล็กที่รวมตัวกัน และครอบคลุมทั่วฟ้าอย่างน่ากลัว เสียงกรีดร้องของนกดังอย่างกราดเกรี้ยว มิซาเนะเบิกตากว้างขณะเซ็ตโชมารุก้าวถอยหลัง
“ รู้สึกงานนี้ไม่เกี่ยวกับข้า แต่เป็นของเจ้า” สิ้นเสียง ฝูงนกก็โฉบลงมาครอบคลุมทั้งตัวของมิซาเนะทันที
“กรี๊ด!!!!!!!!” มิซาเนะกรีดร้องลั่น ฝูงนกจิกลงบนตัวเธอนับร้อยตัวและใช้เล็บข่วนบนหน้าเธอเป็นทาง เธอพยายามวิ่งหนีแต่ก็ล้มลง ฝูงนกพัดฮือซ้ำอย่างน่ากลัว
เซ็ตโชมารุที่ดูเงียบๆรู้สึกแปลกที่ต้องมาเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายแบบนี้ ถึงนางจะเลวร้ายขนาดไหนแต่ก็อดไม่ได้ที่จะห้าม
“ เดี๋ยว!! พอได้แล้ว” เขาเอ่ยห้าม แต่น่าประหลาดที่เหล่านกบินกระจายไปทันที เจ้านกตัวเดิมบินหวือมาเกาะไหล่เขาพลางร้องเสียงใส
“แสบนักนะเจ้า” เขาพูดปนหัวเราะ
“เจ้าทำอะไร!!!”
เสียงหนึ่งดังก้อง! เป็นเสียงทุ้มอันคุ้นเคยจนใจสั่น ดวงตาสีทองเงยมองด้วยหัวใจระทึก
ร่างสูงโปร่งสันทัดเดินจ้ำจนผมหยักศกดำปลิวสยาย แต่เซ็ตโชมารุก็ต้องรู้สึกแปลกเมื่อสบกับดวงตาสีเลือดที่กรุ่นโกรธ..ข้าทำอะไรรึ?..คิ้วเรียวเข้มของนาราคุขมวดเป็นปมพร้อมริมฝีปากบางที่เม้มแน่น ชิคังวิ่งตามมาด้านหลัง หน้าตาดูตกใจ
“มิซาเนะเป็นอะไรรึเปล่า?!!” นาราคุตรงรี่ประคองหญิงสาว ร่างบางมองภาพนั้นพลางหัวใจเจ็บแปล๊บแต่ไม่ได้พูดอะไร ชิคังเดินมาหาข้าพลางตรวจดูว่าเจ็บตรงไหนแต่ข้าส่ายหัวและยิ้มไห้
“ขะ..เขาทำ” มิซาเนะเอ่ยอย่างหวาดกลัว ชิคังตาเบิกกว้างและหันมองร่างบางที่ดูแปลกใจ
“ ข้าไม่อยากเชื่อว่าเจ้าทำร้ายนาง!” นาราคุขึ้นเสียง เซ็ตโชมารุมองเขาแล้วจู่ๆก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
................
เอาล่ะ = =’’ ต่อแล้วค่ะ มาต่อแย้ววววววววว!!!!!
อะแฮ่มๆ แค่กๆ ถุยๆ
ป้าบ!!
พูดซักทีดิ - - : คนอ่าน
โทษค่ะ TAT : เซ >> เป็นไงบ้างคะกับตอนนี้ รู้สึกยังไงบ้างคะ พอได้มั้ยคะ แปลกก็บอกนะคะเหอ = =’’ งานนี้แตกหักจริงๆแล้ว ดูซิว่าจะจบยังไง เหอๆๆ เริ่มมาแนวน้ำเน่าอย่างสวรรค์เบี่ยงเบน เอ๊ยไม่ใช่!~ แล้วสิ = =’’’’ ง่าดูเหมือนมันจะน้อยดว่า 50% หยวนๆนะคะ TTATT
ปล.เม้นต์ๆเขานะคะ มันคือกำลังใจ มันคือกำลังวายยยยย -////- เหอๆๆ ไม่งั้นดองยาววววว
ความคิดเห็น