หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons - หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons นิยาย หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons : Dek-D.com - Writer

    หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons

    ผู้เข้าชมรวม

    378

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    378

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ธ.ค. 49 / 04:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






      หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons
      Copy Right (c) ZillioN 13th

      ...........


                         "คุณหมอคิดว่าไงครับ ?"

                          ผมพยายามกลั้นน้ำเสียงไม่ให้สั่นมากที่สุด หลังจากจ้องมองร่างของคนรักบนเตียงทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ผ่านทางห้องกระจก ชุดโรงพยาบาลอันขาวซีดย้อมผิวกายสีจางของเธอให้แลดูไม่สู้ดีนัก...

                         "สมองไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ ส่วนคนไข้ก็มีสติดี ระบบประสาทสัมผัสของก็ยังทำงานได้ไม่บกพร่อง"
                         เสียงทุ้มต่ำเงียบหายไป ก่อนจะกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง

                         "คุณลองเรียกเธอด้วยชื่อหลายๆครั้งหรือยังครับ"
                         "ลองแล้วครับ แต่เธอไม่มีถ้าทีว่าจะได้ยินผมเลย.."  ผมเอ่ยตอบ เบนสายตาลงบนพื้นด้วยความสลดใจ ในหัวปั่นป่วนเมื่อพยายามรื้อฟื้นเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน…

                         -----

                         ตัวปัญหาคืออะไรกันนะ...

                         ทุกอย่างพังทลายลง ตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน เธอก็ไม่เคยกลับมาหาผมอีกเลย เธอไม่เคยแม้แต่กระทั่งจะโทรมาถามว่าผมสบายดีหรือเปล่า ไม่มีโน้ตทิ้งไว้ ไม่มี sms ไม่มีจดหมาย ไม่มี.. ไม่มีเลยซักอย่าง แม้กระทั่งหยดน้ำตาที่ไหลริน ราวกับวันเวลาที่คบกันมา ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่มีวันหวนคืน

                         ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับจากเธอ.. ทุกครั้งที่ดวงตาเรียวเล็กฉายแววสุขุมกวาดมองมาที่ผม ก็ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าผมเป็นได้แค่เด็กตัวเล็กๆที่กำลังต้องการเรียกร้องความสนใจ บางครั้งผมก็รู้สึกเกลียดแววตาที่ดูเรียบเฉยกับความเป็นไปรอบๆตัว.. แบบฉบับของผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถแสดงความตื่นตระหนกหรือลนลานได้ ระยะเวลาที่ถูกทิ้งห่างเพียงแค่ห้าปีสามารถเปลี่ยนคนคนหนึ่งให้เยือกเย็นได้ต่างกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

                         แต่ผมไม่ใช่ ผมไม่เคยเปรียบเธอเป็นของเล่น ไม่เคยหยอกล้อกับความรู้สึกของเธอ
                         ในเมื่อผมต้องการความสนใจจากเธอเพียงคนเดียว เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

                        
                         เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ ที่ผมจมอยู่กับความหลัง

                         ดื่ม.. ผมดื่มจนเมามายไปเสียไม่รู้กี่ครั้ง หวังเพียงแค่เธอจะกลับมาพยุงร่างป้อแป้ที่ไร้แม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะลุกเดินไปไหนนั้นขึ้นมา

                         ผมพยายามทุกอย่าง เพื่อให้เธอเห็นใจ และหวังว่าเธอคงเมตตาผมบ้าง
                         กรีดข้อมือ..
                         กระโดดตึก..
                         แขวนคอ..
                         หรือแม้กระทั่งเผาบ้านตัวเอง

                         จนกระทั่งผมจนปัญญาและวันนั้นเอง ผมตั้งมั่นว่าผมจะไม่ไปพบเธอไปตลอดชั่วชีวิตนี้

                         -----

                         แต่แล้วสามเดือนให้หลัง ผมก็ผิดสัญญากับตัวเอง เมื่อทางบ้านของเธอโทรมาบอกว่าเธอตกลงมาจากระเบียงจากห้องพักชั้นสี่

                         คุณป้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เท่าที่ผมจับใจความได้คือเธอตั้งใจจะออกไปตากผ้า แล้วผลัดตกลงมา ผมเองก็ยังไม่เข้าใจนักเพราะปกติแล้ว เธอเป็นคนที่ระแวดระวังตัวเองเอาการ ...

       

                         ตกเย็นของวันเดียวกัน ผมขับรถไปที่อพาร์ตเม้นหลังนั้น..

                         บรรยากาศหม่นมองในเวลาโพล้เพล้ ด้วยเหตุที่อพาร์ตเม้นหลังนี้ก็เก่ามากแล้ว อีกทั้งยังตั้งอยู่ในซอกหลืบของเมือง จึงเป็นเรื่องที่หาได้ยากนักที่จะพบใครซักคนเดินผ่านไปมา แต่เธอเคยบอกกับผมว่า เธอหลงใหลกับบรรยากาศและกลิ่นอายอันแปลกประหลาดของตึกหลังนี้ตั้งแต่แรกเห็น

                         ผมพาร่างของตัวเองมาอยู่หน้าห้องสี่ศูนย์หก โชคช่วยที่เธอยังไม่ได้เปลี่ยนกุญแจไปเสียก่อน ผมแอบสต๊าฟมันไว้เผื่อว่าจะได้ใช้ประโยชน์ในสถาณการณ์เช่นนี้ สิ้นเสียงกริ๊ก ผมจึงเอื้อมมือลงหมุนลูกบิดช้าๆ

                         ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือสิ่งที่ผมไม่มีวันลืมได้ลง

                         ... ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยกองเอกสารที่สูงท่วมหัว ตู้เสื้อผ้าถูกแง้มเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง รวมไปถึงเตียงนอนอันว่างเปล่านั่นด้วย เพียงแค่ว่า...

                         -----

                         "ทาคาโกะซังเคยพับจรวดมั๊ยครับ ?"

                         "จรวดหรอ?
                         "เคยซิ ตอนเด็กๆฉันชอบเล่นมากเลยล่ะ จำได้ว่าพับทีไร จรวดของฉันก็บินวนอยู่อย่างนั้น ไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าเหมือนของคนอื่นเค้าเลย"

                         "นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าความกังวลหรือเปล่าครับ"
                         "หืมม ?"
                         "ผมกำลังหมายถึงว่า ถ้าสมมุติว่าปาออกไปผิดวิธีน่ะ จรวดมันก็บินวนอยู่อย่างนั้นแหละครับ ถึงจะพับดีแค่ไหนก็เถอะอืมมม.. ก็คล้ายๆกับกังวลว่าอันจะออกมาไม่ดีไงครับ"
                         ".... งั้นเหรอ"
                         "ให้ผมสอนนะ ...."

                         -------

                         จรวด.. มีแต่จรวดเต็มไปหมด...

                         ....

                         โมบายจรวดถูกแขวนติดอยู่กับเพดานห้องเป็นจำนวนนับไปถ้วน อีกทั้งจรวดรูปร่างจิ๋วที่ถูกพับใส่ขวดโหล จรวดรูปร่างแปลกตาที่ทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น.... ราวกับทั้งห้องได้กลายสภาพเป็นห้วงอวกาศแคบๆอย่างสมบูรณ์...

      ...



                         "ถ้าสมมุติว่าปาออกไปผิดวิธีน่ะ จรวดมันก็บินวนอยู่อย่างนั้นแหละครับ ถึงจะพับดีแค่ไหนก็เถอะ"


      ...


                         ------

                         เสียงประตูไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดด้วยแรงผลัก ผมเดินก้มหน้าซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ ทีท่าของเธอไม่ตอบสนองต่อการมาเยือนของผมแม้แต่นิดเดียว...

                         "ทาคาโกะซัง..."
                         น่าแปลก อยู่ดีๆ ทำไมเสียงของผมถึงได้สั่นเครือขึ้นมาเสียได้

                         ผมนั่งลงข้างๆเธอ ก่อนที่อารมณ์อันขุ่นมัวจะพลั่งพรูออกมาเป็นคำพูด
                         "ทาคาโกะซัง!!!!"

                         ไร้แม้เสียงตอบรับ คำพูดแห่งความเงียบงันกรีดลึกลงในจิตใจของผม
                         ผมร้องไห้ ถึงแม้จะรู้ว่าน้ำตาที่ไหลรินลงมาจะยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้มากยิ่งขึ้นก็ตาม

                         "ขอร้องล่ะ ยกโทษให้ผมได้มั๊ย!!"
                         "ผมยินดีเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ทั้งหมด ทั้งหมดของผม ถึงมันจะต้องเริ่มที่ติดลบก็เถอะ ผมขอเริ่มมันใหม่ได้มั๊ย!!"

                         ทุกสิ่งที่ผมเห็นคือ ภาพของเธอมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม
                         แต่ฉับพลัน ใบหน้าเรียวกลับเงยขึ้น และก้มลงราวกับถอนหายใจ

                         รอยยิ้ม

                         แสงแดดเวลากลางวันสาดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ปะทะเข้ากับดวงตาของผม
                         พร้อมภาพที่เธอหันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้า
                         ถึงแม้มันจะไม่ได้ส่งตรงมายังผม และเธอคงไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนี้

                         ผมกลับรู้สึกว่าบาปทั้งหมดได้รับการไถ่โทษแล้ว...                  
                         มันคือเพลงรักของเธอ แทนสิ่งที่เธอไม่เคยเอ่ยเอื้อนออกมา

                         ผมร้องไห้...
                         ไม่มีแม้คำปลอบโยน ไม่มีแม้แววตาเห็นใจ
                         ร้องไห้ให้กับความทุกข์ทั้งหมดที่มี ร้องไห้เผื่อวันพรุ่งนี้
                         เพื่อที่ผมจะได้ก้าวต่อไป และทิ้งความทุกข์ทั้งหมดเอาไว้เบื้องหลัง

                         "ผมก็รักคุณ"

                         ริมฝีปากถูกขยับอบ่างแผ่วเบา ผมรู้ดีว่ามันไม่สามารถส่งไปถึงเธอได้อีกแล้ว

                         ----

                         แววดาสีดำขลับกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

                         ภายในห้องแว่วเสียงร่ำไห้ของใครบางคนกำลังดังก้องไปทั่ว

                         เธอยังมีชีวิตอยู่  เขาเองก็กำลังเดินไปตามเส้นทางแห่งความฝัน เราทั้งคู่ยังอยู่บนโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายใบนี้  หากต้องตะเกียกตะกายมากขึ้นเท่าไหร่ ก้าวต่อไปก็จะมั่นคงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ...เธอเสียเวลาและน้ำตาให้กับเรื่องของเขามาพอแล้ว

                         ฉันพลัน ไอหมอกที่ดูหนาแน่นก็กลับเปลี่ยนเป็นเงารางของคนที่คุ้นเคย...

                         ถึงแม้จะรู้ดีว่าเป็นแค่ภาพลวงตา ถึงแม้จะรู้ว่าเวลาดีๆที่เคยมีไม่สามารถย้อนคืนมาได้
                         เมื่อเขาเลือกที่จะไม่มีเธอในโลกนี้ เธอก็จำเป็นจะต้องตัดใจ
                         แต่สุดท้ายก็เผลอปล่อยตัวไปกับให้กับความทรงจำอันแสนหวาน...

                         ใบหน้าอันอ่อนเยาว์เด่นชัดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง มือเรียวที่ยื่นออกไปหมายจะเช็ดน้ำตาที่อาบทั่วใบหน้าคมกลับไม่สามารถเอื้อมไปถึงจุดหมายได้

                         เธอยิ้ม
                         ให้กับโชคชะตา ให้กับวันข้างหน้า  ให้กับเขา ก่อนที่ภาพของชายผู้เป็นที่รักค่อยๆจางหายไป

                         ฉันพร้อมแล้ว ที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีเธอ

                         ลาก่อน...
                         อาซามิคุง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×