หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons
ผู้เข้าชมรวม
378
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หมื่นเพลงรักในรอยยิ้ม: A Smile without Reasons
Copy Right (c) ZillioN 13th
...........
"คุณหมอคิดว่าไงครับ ?"
ผมพยายามกลั้นน้ำเสียงไม่ให้สั่นมากที่สุด หลังจากจ้องมองร่างของคนรักบนเตียงทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ผ่านทางห้องกระจก ชุดโรงพยาบาลอันขาวซีดย้อมผิวกายสีจางของเธอให้แลดูไม่สู้ดีนัก...
"สมองไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ ส่วนคนไข้ก็มีสติดี ระบบประสาทสัมผัสของก็ยังทำงานได้ไม่บกพร่อง"
เสียงทุ้มต่ำเงียบหายไป ก่อนจะกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง
"คุณลองเรียกเธอด้วยชื่อหลายๆครั้งหรือยังครับ"
"ลองแล้วครับ แต่เธอไม่มีถ้าทีว่าจะได้ยินผมเลย.." ผมเอ่ยตอบ เบนสายตาลงบนพื้นด้วยความสลดใจ ในหัวปั่นป่วนเมื่อพยายามรื้อฟื้นเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน
-----
ตัวปัญหาคืออะไรกันนะ...
ทุกอย่างพังทลายลง ตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน เธอก็ไม่เคยกลับมาหาผมอีกเลย เธอไม่เคยแม้แต่กระทั่งจะโทรมาถามว่าผมสบายดีหรือเปล่า ไม่มีโน้ตทิ้งไว้ ไม่มี sms ไม่มีจดหมาย ไม่มี.. ไม่มีเลยซักอย่าง แม้กระทั่งหยดน้ำตาที่ไหลริน ราวกับวันเวลาที่คบกันมา ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่มีวันหวนคืน
ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับจากเธอ.. ทุกครั้งที่ดวงตาเรียวเล็กฉายแววสุขุมกวาดมองมาที่ผม ก็ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าผมเป็นได้แค่เด็กตัวเล็กๆที่กำลังต้องการเรียกร้องความสนใจ บางครั้งผมก็รู้สึกเกลียดแววตาที่ดูเรียบเฉยกับความเป็นไปรอบๆตัว.. แบบฉบับของผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถแสดงความตื่นตระหนกหรือลนลานได้ ระยะเวลาที่ถูกทิ้งห่างเพียงแค่ห้าปีสามารถเปลี่ยนคนคนหนึ่งให้เยือกเย็นได้ต่างกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
แต่ผมไม่ใช่ ผมไม่เคยเปรียบเธอเป็นของเล่น ไม่เคยหยอกล้อกับความรู้สึกของเธอ
ในเมื่อผมต้องการความสนใจจากเธอเพียงคนเดียว เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ ที่ผมจมอยู่กับความหลัง
ดื่ม.. ผมดื่มจนเมามายไปเสียไม่รู้กี่ครั้ง หวังเพียงแค่เธอจะกลับมาพยุงร่างป้อแป้ที่ไร้แม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะลุกเดินไปไหนนั้นขึ้นมา
ผมพยายามทุกอย่าง เพื่อให้เธอเห็นใจ และหวังว่าเธอคงเมตตาผมบ้าง
กรีดข้อมือ..
กระโดดตึก..
แขวนคอ..
หรือแม้กระทั่งเผาบ้านตัวเอง
จนกระทั่งผมจนปัญญาและวันนั้นเอง ผมตั้งมั่นว่าผมจะไม่ไปพบเธอไปตลอดชั่วชีวิตนี้
-----
แต่แล้วสามเดือนให้หลัง ผมก็ผิดสัญญากับตัวเอง เมื่อทางบ้านของเธอโทรมาบอกว่าเธอตกลงมาจากระเบียงจากห้องพักชั้นสี่
คุณป้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เท่าที่ผมจับใจความได้คือเธอตั้งใจจะออกไปตากผ้า แล้วผลัดตกลงมา ผมเองก็ยังไม่เข้าใจนักเพราะปกติแล้ว เธอเป็นคนที่ระแวดระวังตัวเองเอาการ ...
ตกเย็นของวันเดียวกัน ผมขับรถไปที่อพาร์ตเม้นหลังนั้น..
บรรยากาศหม่นมองในเวลาโพล้เพล้ ด้วยเหตุที่อพาร์ตเม้นหลังนี้ก็เก่ามากแล้ว อีกทั้งยังตั้งอยู่ในซอกหลืบของเมือง จึงเป็นเรื่องที่หาได้ยากนักที่จะพบใครซักคนเดินผ่านไปมา แต่เธอเคยบอกกับผมว่า เธอหลงใหลกับบรรยากาศและกลิ่นอายอันแปลกประหลาดของตึกหลังนี้ตั้งแต่แรกเห็น
ผมพาร่างของตัวเองมาอยู่หน้าห้องสี่ศูนย์หก โชคช่วยที่เธอยังไม่ได้เปลี่ยนกุญแจไปเสียก่อน ผมแอบสต๊าฟมันไว้เผื่อว่าจะได้ใช้ประโยชน์ในสถาณการณ์เช่นนี้ สิ้นเสียงกริ๊ก ผมจึงเอื้อมมือลงหมุนลูกบิดช้าๆ
ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือสิ่งที่ผมไม่มีวันลืมได้ลง
... ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยกองเอกสารที่สูงท่วมหัว ตู้เสื้อผ้าถูกแง้มเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง รวมไปถึงเตียงนอนอันว่างเปล่านั่นด้วย เพียงแค่ว่า...
-----
"ทาคาโกะซังเคยพับจรวดมั๊ยครับ ?"
"จรวดหรอ?
"เคยซิ ตอนเด็กๆฉันชอบเล่นมากเลยล่ะ จำได้ว่าพับทีไร จรวดของฉันก็บินวนอยู่อย่างนั้น ไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าเหมือนของคนอื่นเค้าเลย"
"นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าความกังวลหรือเปล่าครับ"
"หืมม ?"
"ผมกำลังหมายถึงว่า ถ้าสมมุติว่าปาออกไปผิดวิธีน่ะ จรวดมันก็บินวนอยู่อย่างนั้นแหละครับ ถึงจะพับดีแค่ไหนก็เถอะอืมมม.. ก็คล้ายๆกับกังวลว่าอันจะออกมาไม่ดีไงครับ"
".... งั้นเหรอ"
"ให้ผมสอนนะ ...."
-------
จรวด.. มีแต่จรวดเต็มไปหมด...
....
โมบายจรวดถูกแขวนติดอยู่กับเพดานห้องเป็นจำนวนนับไปถ้วน อีกทั้งจรวดรูปร่างจิ๋วที่ถูกพับใส่ขวดโหล จรวดรูปร่างแปลกตาที่ทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น.... ราวกับทั้งห้องได้กลายสภาพเป็นห้วงอวกาศแคบๆอย่างสมบูรณ์...
...
"ถ้าสมมุติว่าปาออกไปผิดวิธีน่ะ จรวดมันก็บินวนอยู่อย่างนั้นแหละครับ ถึงจะพับดีแค่ไหนก็เถอะ"
...
------
เสียงประตูไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดด้วยแรงผลัก ผมเดินก้มหน้าซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ ทีท่าของเธอไม่ตอบสนองต่อการมาเยือนของผมแม้แต่นิดเดียว...
"ทาคาโกะซัง..."
น่าแปลก อยู่ดีๆ ทำไมเสียงของผมถึงได้สั่นเครือขึ้นมาเสียได้
ผมนั่งลงข้างๆเธอ ก่อนที่อารมณ์อันขุ่นมัวจะพลั่งพรูออกมาเป็นคำพูด
"ทาคาโกะซัง!!!!"
ไร้แม้เสียงตอบรับ คำพูดแห่งความเงียบงันกรีดลึกลงในจิตใจของผม
ผมร้องไห้ ถึงแม้จะรู้ว่าน้ำตาที่ไหลรินลงมาจะยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้มากยิ่งขึ้นก็ตาม
"ขอร้องล่ะ ยกโทษให้ผมได้มั๊ย!!"
"ผมยินดีเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ทั้งหมด ทั้งหมดของผม ถึงมันจะต้องเริ่มที่ติดลบก็เถอะ ผมขอเริ่มมันใหม่ได้มั๊ย!!"
ทุกสิ่งที่ผมเห็นคือ ภาพของเธอมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม
แต่ฉับพลัน ใบหน้าเรียวกลับเงยขึ้น และก้มลงราวกับถอนหายใจ
รอยยิ้ม
แสงแดดเวลากลางวันสาดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ปะทะเข้ากับดวงตาของผม
พร้อมภาพที่เธอหันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้า
ถึงแม้มันจะไม่ได้ส่งตรงมายังผม และเธอคงไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนี้
ผมกลับรู้สึกว่าบาปทั้งหมดได้รับการไถ่โทษแล้ว...
มันคือเพลงรักของเธอ แทนสิ่งที่เธอไม่เคยเอ่ยเอื้อนออกมา
ผมร้องไห้...
ไม่มีแม้คำปลอบโยน ไม่มีแม้แววตาเห็นใจ
ร้องไห้ให้กับความทุกข์ทั้งหมดที่มี ร้องไห้เผื่อวันพรุ่งนี้
เพื่อที่ผมจะได้ก้าวต่อไป และทิ้งความทุกข์ทั้งหมดเอาไว้เบื้องหลัง
"ผมก็รักคุณ"
ริมฝีปากถูกขยับอบ่างแผ่วเบา ผมรู้ดีว่ามันไม่สามารถส่งไปถึงเธอได้อีกแล้ว
----
แววดาสีดำขลับกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
ภายในห้องแว่วเสียงร่ำไห้ของใครบางคนกำลังดังก้องไปทั่ว
เธอยังมีชีวิตอยู่ เขาเองก็กำลังเดินไปตามเส้นทางแห่งความฝัน เราทั้งคู่ยังอยู่บนโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายใบนี้ หากต้องตะเกียกตะกายมากขึ้นเท่าไหร่ ก้าวต่อไปก็จะมั่นคงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ...เธอเสียเวลาและน้ำตาให้กับเรื่องของเขามาพอแล้ว
ฉันพลัน ไอหมอกที่ดูหนาแน่นก็กลับเปลี่ยนเป็นเงารางของคนที่คุ้นเคย...
ถึงแม้จะรู้ดีว่าเป็นแค่ภาพลวงตา ถึงแม้จะรู้ว่าเวลาดีๆที่เคยมีไม่สามารถย้อนคืนมาได้
เมื่อเขาเลือกที่จะไม่มีเธอในโลกนี้ เธอก็จำเป็นจะต้องตัดใจ
แต่สุดท้ายก็เผลอปล่อยตัวไปกับให้กับความทรงจำอันแสนหวาน...
ใบหน้าอันอ่อนเยาว์เด่นชัดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง มือเรียวที่ยื่นออกไปหมายจะเช็ดน้ำตาที่อาบทั่วใบหน้าคมกลับไม่สามารถเอื้อมไปถึงจุดหมายได้
เธอยิ้ม
ให้กับโชคชะตา ให้กับวันข้างหน้า ให้กับเขา ก่อนที่ภาพของชายผู้เป็นที่รักค่อยๆจางหายไป
ฉันพร้อมแล้ว ที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีเธอ
ลาก่อน...
อาซามิคุง
ผลงานอื่นๆ ของ ZilliaN 13th ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ZilliaN 13th
ความคิดเห็น