[TWICE / OS] BE WIT U (Mina & Sana)
"ฉันฝันว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอด.." / "ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป"
ผู้เข้าชมรวม
888
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
; Introในค่ำคืนอันมืดมิด ที่ส่องประกายด้วยแสงไฟระยิบระยับจากเสาไฟและตึกรามบ้านช่องต่างๆ ร่างเพรียวบางผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อนสั้นระต้นคอกำลังทอดกายเดินไปบนทางเท้าที่บัดนี้ร้างผู้คน มีเพียงเสียงลมเบาๆที่พัดวูบผ่านเข้ามาทำให้เธอคนนั้นต้องยกแขนขึ้นมากอดอกของตนเองไว้ และก้าวเท้าเดินต่อไปยังที่แห่งหนึ่งที่เดิมอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน
ขณะที่เดินไปต้นไม้ต่างๆตามสองข้างทางก็ได้โผล่ขึ้นมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ จากตึกและอาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ติดๆกันนั้นก็เริ่มบางตาลง ความมืดค่อยๆเริ่มเข้ามารายล้อมร่างเพรียวบางของหญิงสาวเล็กน้อย เนื่องจากระยะห่างของเสาไฟที่คอยให้แสงสว่างนั้นมากขึ้น และแสงจันทร์ก็ค่อยๆถูกเมฆสีทึมเคลื่อนเข้ามาบดบัง หญิงสาวเร่งฝีก้าวอีกนิดขึ้นเพื่อจะได้ถึงที่หมายปลายทางโดยเร็ว
ไม่กี่อึดใจเธอก็ได้เดินมาจนถึงโบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่แถวชานเมืองที่นอกจากคุณพ่อบาทหลวงที่อายุอานามก็ปาเข้าไปเจ็ดสิบกว่าๆที่อยู่คู่ที่นี่มาตั้งนมนานแล้ว ก็คงจะมีน้อยคนนักที่จะแวะมาเยี่ยมเยียนโบสถ์เก่าๆเช่นนี้
คุณพ่อบาทหลวงที่แม้อายุนั้นเกือบจะย่างเข้าแปดสิบอยู่แล้ว แต่ร่างกายก็ยังคงแข็งแรงและยังดูหนุ่มดูแน่นเช่นเดิมกำลังเดินออกมาจากสุสานที่อยู่ด้านข้างของโบสถ์เล็กๆแห่งนี้ มันคงเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่หลังจากที่ทำทุกๆอย่างเช่นทุกวันเสร็จ เขาจะต้องเดินเข้าไปกวาดในสุสานเป็นอย่างสุดท้ายที่ทำในแต่ละวัน
แล้วก็ไม่มีอะไรผิดแปลกไปอย่างเคยนัก เพราะเมื่อเขาเดินออกมาจากสุสานได้ไม่ทันไรก็พบกับหญิงสาวร่างเพรียวบางที่กำลังเดินเข้ามาทางนี้ มากกว่าปีแล้วที่หญิงสาวอายุรุ่นราวคราวลูกคราวหลานเขาผู้นี้มาที่สุสานแห่งนี้ ก่อนเธอจะเข้าไปนั่งในโบสถ์เก่าๆนอกเมืองเช่นนี้เป็นเวลาราวๆเห็นจะเกือบสามชั่วโมงได้ และเดินกลับออกไปเช่นเคยอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน และเวลาเดิมๆมาปีกว่าๆได้แล้ว
หืมม.. แต่คราวนี้เห็นจะไม่เป็นอย่างเคยแฮะ คุณพ่อบาทหลวงครางในลำคออย่างสงสัยระคนแปลกใจที่หญิงสาวนั้นมาช้ากว่าที่ตนคิดเอาไว้มากทีเดียว ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะจู่ๆเธอคนนั้นก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาเสียอย่างนั้น
"คุณพ่อคะ กำลังจะปิดสุสานแล้วหรือคะ?" หญิงสาวร่างเพรียวบางเอ่ยถามอย่างเนิบนาบ เสียงหวานนั้นไม่ต่างจากสายลมเบาบางที่พัดผ่านเข้ามากระทบกับผิวกายในตอนนี้นัก วันนี้หญิงสาวมาในชุดที่ดูแปลกตากว่าเคย เสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวบางรัดรูปสีขาวสวมทับด้วยสูททำงานสีดำกริบ กางเกงสแลคสีเดียวกันและส้นสูงสีแดงเข้มตัดกับชุด
"ยังหรอก วันนี้มาช้านะลูก พ่อจะกำลังจะปิดสุสานนี่พอดีเลยล่ะ" คุณพ่อบาทหลวงเอ่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะต้องแปลกใจอีกรอบเมื่อเห็นสาวเจ้าอยู่ในชุดสูทเต็มยศนี่แทนที่จะเป็นชุดลำลองสบายๆแลดูกระทัดรัดเหมือนอย่างเคย "จะเข้าไปข้างในไหมล่ะ? ไว้พ่อค่อยมาปิดมันทีหลังก็ได้" คุณพ่อบาทหลวงเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ากำลังมองเข้าไปข้างในนั่น
เธอส่ายหน้าปฏิเสธน้อยๆ วันนี้งานที่ทำมีปัญหานิดหน่อย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้วันนี้เธอเลิกงานช้ากว่าปกติมาก กว่าเธอจะมาถึงสุสานนอกเมืองนี่ก็กินเวลาไปอีกมากโข เพราะในเวลาดึกๆเช่นนี้รถแท็กซี่นั้นช่างหายากเหลือเกิน "งั้นฉันขอเข้าไปนั่งในโบสถ์สักเดี๋ยวนึงนะคะ จะรบกวนคุณพ่อไม่นานนักหรอกค่ะ../โอ้ยย ไม่เป็นไรเลยลูก พ่อไม่รีบนักหรอก" เมื่อได้ยินหญิงสาวตรงหน้าพูดด้วยความเกรงอกเกรงใจกันแบบนั้น ก็รีบบอกปัดไป มือก็พลางจัดการล็อคประตูรั้วหน้าสุสานให้เรียบร้อยไปด้วยก่อนจะเดินนำเข้าไปในโบสถ์ที่อยู่ด้านข้าง
"มาสิ ตามพ่อมา โบสถ์เก่าๆแบบนี้ น้อยคนนักที่จะแวะเวียนมา พ่อก็เห็นมีหนูคนเดียวนี่ล่ะ ที่ขยันมาโบสถ์เก่าๆที่ห่างไกลจากเมืองอย่างนี้เสียเหลือเกิน ฮะๆ" คุณพ่อบาทหลวงพูดกลั้วหัวเราะน้อยๆอย่างชอบใจ ก่อนจะพลักประตูบานไม้เก่าเข้าไป หญิงสาวที่เดินตามเข้ามาไม่ได้พูดอะไรมากนัก เธอแค่ยิ้มรับคำของคุณพ่อบางๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ไม้ตัวยาวตัวเดิมเช่นเคย
ครั้งแรกที่เขาเจอหญิงสาวคนนี้ก็เห็นจะเป็นเมื่อสองสามปีที่แล้ว ในตอนนั้นเธอมาที่นี่พร้อมกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาจำได้แม่นเชียวล่ะ ก็แน่สิ นานทีปีหน มีไม่กี่คนนักหรอกที่จะผ่านหรือมายังโบสถ์เก่าๆแถบชานเมืองเช่นนี้ เด็กสาวอีกคนนั้นเป็นคนร่าเริง เฟรนลี่ ยิ้มง่าย ชอบพูดคุยเสียเหลือเกิน และรอยยิ้มของเธอก็เปรียบดั่งแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า ต่างกับหญิงสาวอีกคนที่ดูจะเงียบๆ ขี้อาย และพูดน้อย เธอคนนี้ดูเข้าถึงยากพอควร แม้เจอกันครั้งแรกเธอก็ยังสงวนรอยยิ้มนั้นไว้ มีเพียงรอยยิ้มที่ติดอยูมุมปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่แสดงออกมา
หญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในโบสถ์และขอนั่งพักจากการที่เดินทางมาไกลพอสมควร เขาจึงพาเด็กสาวเข้ามานั่งพักในโบสถ์พร้อมกับหาน้ำหาท่าให้ทั้งคู่ได้ทาน ถามไปถามมาก็ได้ความว่ารถที่ทั้งคู่ได้ขับมานั้นจอดเสียอยู่ข้างในป่าที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลโน้น พวกเธอจึงเดินขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อมาขอความช่วยเหลือ และก็โชคดีไปที่อย่างน้อยโบสถ์เก่าๆดูซอมซ่อแบบนี้ก็ยังมีโทรศัพท์พอให้ใช้ติดต่อกับภายนอกได้บ้าง ถึงแม้มันจะเก่าขนาดไหนก็ตาม เขาให้พวกเธอใช้โทรศัพท์ติดต่อไปในเมือง
รอได้สักพักรถลากก็มาถึง พวกเธอทั้งคู่กล่าวขอบคุณเขาเสียยกใหญ่ ก่อนจะบอกอีกว่าจะแวะมาที่นี่อีกบ่อยๆด้วย หลังจากนั้นโบสถ์เก่าๆที่เคยเงียบเชียบก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและหัวเราะของคุณพ่อบาทหลวงกับหญิงสาวอารมณ์ดีอีกคนหนึ่ง ส่วนหญิงสาวอีกคนแม้ไม่ได้พูดคุยด้วยมากนักแต่ก็ยังมีสายตาอันอบอุ่นและรอยยิ้มติดอยู่ที่ริมฝีปากอยู่เช่นเคย
"แล้วนี่หิวไหมลูก อยากได้น้ำหรืออยากให้พ่อช่วยอะไรหรือเปล่า บอกพ่อมาได้เลยนะ" คุณพ่อบาทหลวงหันมาถามเธออีกครั้ง และเมื่อเธอส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธอีกรอบ เขาก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเพื่อให้เธอได้ใช้เวลาอยู่คนเดียว หญิงสาวเงยหน้ามองไปยังไม้กางเขนอันไม่ใหญ่มากนักที่อยู่ด้านหน้าก่อนจะพึมพำออกมาเสียงเบาเสียจนแทบเกือบกลืนหายไปกับอากาศ
"เธอจากฉันไปนานเท่าไหนแล้วนะ..
.... ..ซาตังอา..."2BECON.____________________________________________Writer's talk.วันช็อตสั้นๆไถ่โทษที่หายไปนานมากค่ะ ฮืออㅠㅠดีใจกับสาวด้วยสำหรับ 3rd WIN !! และเมื่อวานที่ได้ PAK ที่ 14 Cheer Up~ถึงแม้ว่าเค้าเองจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากซื้มบั้ม 55555เลยอยากแต่งวันช็อตสั้นๆให้ค่ะ! รวบยอดทั้งหมดเลยเนอะะะ..55555คอมเม้นต์หรือติชมได้ตามสบายเลยนะคะContact ;twitter @Zilleggo_Credit theme by; SQ W E E Z T H E M E @ D E K - D
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Zilleggo_ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Zilleggo_
ความคิดเห็น