my winter ฤดูหนาวของฉัน ❄️❄️ - นิยาย my winter ฤดูหนาวของฉัน ❄️❄️ : Dek-D.com - Writer
×

    my winter ฤดูหนาวของฉัน ❄️❄️

    WINTER หมายถึง ฤดูหนาว แต่วินเทอร์สำหรับเขาไม่ได้หมายถึงฤดูหนาว แต่หมายถึงของพี่ตุลย์

    ผู้เข้าชมรวม

    172

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    172

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 มิ.ย. 65 / 10:46 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ประเทศไทยดินแดนแห่งความร้อน ต่อให้เกิดอยู่ไทยมานาน ก็ใช่ว่าจะชินกับความร้อนของประเทศ สองเท้าที่เดินไปให้จุดหมาย สองตาใช้มองไปรอบๆ ร้อนก็ร้อน แดดก็แรง ไม่เหมาะแก่การออกจากบ้านเลย 
        เดินมาถึงจุดหมายปลายทาง ปรายตาขึ้นไปมองที่ตรงหน้า ที่เป็นอาคารขนาดใหญ่ มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา ที่ไทยเรียกว่า “ศูนย์สรรพสินค้า หรือ ห้าง” คงเป็นที่ใครหลายๆคน อยากมาเดิน บ้างก็มาชอปปิ้ง กินข้าว ดูหนัง  เป็นต้น  ยิ่งเป็นวันอาทิตย์ไม่ต้องพูดถึง วันหยุดเกือบจะทุกคน คนจะเยอะเป็นหลายเท่า บ้างก็นัดเพื่อนมาเดินเล่น หรือบางครอบครัวก็พากันมาหาอะไรกิน ใช้ชีวิตครอบครัวสักหน่อย ชาร์ตพลังสักนิด ก่อนที่จะไปลุยกับงานต่อ
        ตุลย์ หรือตุลยา ได้แต่ถอนหายใจออกมาช้าๆ นี้ถ้ากลุ่มเพื่อนเธอไม่นัดกันมาหาหนังสือ ทีจะใช้นำไปทำรายงานส่งอาจารย์ ขอบอกเลยว่าตุลยาคนนี้ไม่ออกมาเด็ดขาด วันหยุดแบบนี้ขอนอนอยู่บ้าน ตากแอร์ ดีกว่าๆๆๆ
       
         เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ใครกันที่โทรมา มือข้างขวาทำหน้าที่ล่วงลงกระเป๋ากางเกงเพื่อขึ้นมารับสาย
       ‘พริม’ เพื่อนในกลุ่ม สงสัยโทรมาเร่งเธอแน่ๆเลย
       ‘โหล ว่า…’
        ‘ ถึงไหนแล้ววะ เขาถึงกันหมดแล้วนะโว้ย ช้าจัง บ้านมึงอยู่ใกล้แค่นี้ ’ มาเป็นชุด ไม่ให้ช่องว่างในการพูดเลย
        ‘อินิก!!  จะให้กูพูดตอนไหนบอกด้วย ละนี้มึงเอาของพริมโทรมาทำไม ’ ไม่ผิดหรอกคุณ…คนที่โทรมาไม่ใช่พริม เพราะอะไรนะหรอ น้ำเสียง คำพูดปากหมาๆแบบนี้มีคนเดียว คนที่สนิทที่สุดในกลุ่ม นิก นริกา เพื่อนสนิทที่มีความสูง 170 เท่าๆกับตุลย์  เพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม เรียนด้วยกันตั้งแต่ ม.1 - ม.6 แถมยังอยู่ชมรมกีฑามาด้วยกัน วงดนตรีที่ รร ยังอยู่ด้วยกัน ใช้คำว่าเติบโตมาด้วยกัน แค่มองตาก็รู้ไส้รู้พุงกันหมด
        ‘เอออ มึงถึงไหนละเพื่อนรัก’ 
       ‘ถึงละ กำลังเดินไปโซนหนังสือใช่ปะ ’ คุยกันเสร็จสรรพ รู้ถึงเป้าหมายที่อยู่เรียบร้อย รีบก้าวขายาวๆ ไปโซนหนังสือที่เพื่อนในกลุ่มถึงกันหมดแล้ว

    ร้านหนังสือ E-Book SHOP
     “มาแล้วหรอ” ถ้ายังมาหา จะเห็นมั้ย คิดสิคิด!! อยากจะตะโกนใส่หน้า แต่ทำได้แค่…
    “มาแล้วจ้ะ บุ๊ค ” ตอบได้แค่นี้ พร้อมยิ้มการค้าที่คิดว่าน่ารักที่สุด ส่งไปให้ เพราะตอนนี้ไม่มีสิทธิ์จะเปิดศึกกับใครได้ ฉายา คนสายประจำกลุ่ม
         บุ๊คไม่ต้อง เพียงแค่ยิ้มกลับ บุ๊ค หรือ บุณณดา สาวตัวเล็กของกลุ่ม  
    ที่กำลังเลือกหาหนังสือในชั้นกับ พริม หรือพริมา สาวสวยประจำกลุ่ม หรือ แม่ดาวบริหารปี 3 หันมายิ้มให้แต่ไม่พูดอะไรออกมา หันไปหาหนังสือต่อ โห้.. เอาซะรู้สึกผิดเลย 
       ฮ่า ฮ่า ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาข้างหลัง หันกลับไปพร้อมมองค้อนใส่ทีละคน จะเป็นใครได้ อินิก เพื่อนชั่ว ช่างกล้านักมาหัวเราะ หันไปมองข้างๆ ที่นั่งใส่แว่นหาข้อมูลในหนังสือคือ จินนี่ จิรญา และคนที่นั่งถัดมา
    ที่กำลังหัวเราะเมามันส์กับนิกที่นั่งข้างกันคือ ไอด้า ไอรดา หัวเราะใช่มั้ย สนุกจ้า เดี๋ยวเจอ… ใช้สมอง ยืนสมาธิ คิดออกแล้ววววไม่รอช้า เดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างจินนี่และไอด้า พร้อมทำหน้าให้น่าสงสารเสียงแปดเสียงสิบ

    “จินนี่ ไอกับแกล้งตุลย์อะ ” พูดจบ พร้อมหันไปมองไอด้า ยักคิ้วให้นิดๆ
    “ไอออ!! แกล้งตุลย์ทำไมมม ” เป็นไงๆๆ ไอด้าที่ตอนนี้ทำหน้าที่พร้อมจะขยี้ตุลย์ให้เละคามือให้ได้
    “ขอโทษคะ คุณตุลย์เพื่อนรัก” ชนะ….อิอิ
      
      หลังจากช่วยกันหาหนังสือ เพื่อรวบรวมไปทำรายงาน ซึ่งใช้คำว่า บุ๊ค พริม และจินนี่ หาดีกว่า เพราะเราสองสามคน แทบจะไม่ได้ช่วยเลย มั่วแต่คุยเรื่องเกมส์ซะมากกว่า แม่สาวสามคนเขาเป็นเด็กเรียน ลูกรักอาจารย์ประจำภาค ส่วนเราสามคน ตุลย์ นิก และไอด้า เรื่องเรียนไม่ต้องพูดถึง แต่ก็ไม่ถึงกลับไม่ได้นะ แค่ไม่เก่งเท่าแม่สามสาว ทรีเกิร์ลหรอก เราสามคนเน้นเล่นดนตรี ทำวงด้วยกันพอ อย่างน้อยมันต้องเด่นสักอย่างสิคุณณณ    เราหกคนตกลงว่าจะไปหาอะไรกินก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน 
     
       หลังจากกินข้าว ทำธุระเสร็จ ได้เวลาแยกย้าย 
    “เจอกันพรุ่งนี้ ห้ามสายนะทุกคน ” จ้า เสียงตอบที่ไม่ได้นัดหมายพูดขึ้นมาพร้อมกัน หลังจากบุ๊คพูดเตือน
    “กลับกันดีๆ นะทุกคน ถึงแล้ว ทักมานะ ” พริมพูดเสริมหลังบุ๊ค ที่ทำหน้าหงอใส่ทุกคน 
         บุ๊คและพริม นั่งแท็กซี่กลับด้วยกัน เพราะอยู่คอนโดด้วยกัน ทั้งสองคนย้ายมาจาก รร มัธยมด้วยกัน ครอบครัวก็สนิทกัน พ่อแม่ทั้งคู่เลยตัดสินใจให้อยู่คอนโดด้วยกัน จะได้มีเพื่อนและจะได้ช่วยหารค่าใช้จ่ายต่างๆ และอยู่ใกล้ มหาลัยจะได้สะดวกในการเดินทาง 
       ฉัน นิก ไอด้า และจินนี่ นั่งบีทีเอสกลับ ทางเดียวกัน จินนี่และไอด้านั่งแค่สองสถานี บ้านทั้งคู่อยู่ติดกัน 
    ส่วนฉันกับนิก ต้องนั่งไป สี่สถานี แล้วต่อแท็กซี่ไปลงทางเข้าปากซอยใหญ่ เดินเข้าไปในซอยเล็กอีกนิดเดียวบ้านเราอยู่ห่างกันแค่ซอยเดียว ซอยบ้านฉันจะถึงก่อน บ้านนิก เมื่อเช้านิกมีธุระเลยออกมาก่อน เพราะเราสองคนจะไปไหนด้วยกันตลอด ฉันเลยต้องออกมาคนเดียว สายคนเดียว เราสี่คนจบมาจาก รร มัธยมเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง คนละสาย ใช้คำว่า ถ้าไม่เจอที่มหาลัยก็ไม่รู้ว่า รร. มีคนๆนี้เรียนด้วยกัน
       นั่งบีทีเอส มาแปปเดียว ถึงสถานีที่ต้องลง เดินเข้าไปสัก ร้อยเมตร จะมีซอยอยู่หลายๆซอย ถ้าไม่ใช่เจ้าถิ่น มีสิทธิ์หลงแน่ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับฉันกับนิก เราวิ่งเล่นในซอยนี้มาแต่เด็กๆแล้ว แค่เพิ่งมารู้จักและสนิทกันจริงๆคือ มัธยม
    “ ถึงซอยบ้านกูละ เจอกันมึง ” นิกพนักหน้าและเดินไปนิดเดียวก็ถึงซอยบ้านมัน ส่วนฉันก็เดินเข้ามานิดเดียวก็ถึงบ้านที่รัก 
     เปิดประตูรั่วเดินเข้าไป ก็เจอแม่กำลังยืนรดต้นไม้อยู่ บ้านฉันเป็นบ้าน สองชั้นไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก ผ่านรั้วเข้ามา ตรงกลางเป็นถนนไว้เดิน ขวามือเป็นโรงรถไว้สำหรับจอดรถมีห้องเก็บของอยู่ข้างๆ ซ้ายมือเป็นสนามหญ้าสีเขียว และมีซุ้มไว้สำหรับนั่งเล่น ติดรั่วบ้านข้างๆ มีแป้นบาสตั้งอยู่ใกล้ๆ เป็นกิจกรรมพ่อลูกไว้เล่นด้วยกัน ถัดมาไม่ไกลมากจะมีสวนดอกไม้ขนาดย่อมนานาชนิดที่แม่ชอบปลูกไว้ แม่เป็นเภสัชกรคนสวย ที่เปิดร้านขายของตัวเอง ที่เปิดหน้าปากซอยติดถนนใหญ่ ส่วนพ่อเป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นหัวหน้าตำแหน่งสูง 
    “กลับมาแล้วคะ ” ตะโกนทักแม่พร้อมเดินเข้าไปกอดข้างหลัง หอมแก้มไปหนึ่งที 
    “กลับมาแล้วหรอ หิวมั้ยลูก เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน” ส่ายหน้าให้แม่ ว่าไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะเพิ่งจะกินมากับกลุ่มเพื่อน
    “พ่อไม่อยู่หรอคะ ไม่เห็นรถจอด” ถ้าวันหยุดแบบนี้ ปกติต้องเห็นพ่อมายืนจีบแม่แบบนี้สิ พ่อกับแม่นะ
    ต่อให้ลูกหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่หยุดหวานกันสักที 
    “พ่อไปออกรอบกับเพื่อน ” พ่อนะชอบเล่นกอล์ฟมาก บางครั้งก็พาฉันไปด้วย ส่วนแม่นะดอกไม้คือชีวิต ส่วนฉันกับพ่อคือหัวใจ จะบ้าตายยย….
     คุยกับแม่เสร็จเดินขึ้นชั้นสองของตัวบ้าน ที่มีสามห้อง ห้องฉันอยู่ริมซ้ายมือ ส่วนห้องพ่อกับแม่อยู่ริมขวามือ ตรงกลางจะใช้เป็นห้องครอบครัว เราะเป็นห้องที่เป็นโรงหนังขนาดเล็ก ที่พ่อทำไว้ให้ 
    ข้างล่างหลังบ้านจะมีห้องซ้อมดนตรีที่พ่อออกแบบและสร้างไว้ให้ เพราะพ่อบอกว่าจะได้มีห้องไว้เล่นแก้เบื่อ มันเริศนะพ่อฉัน 
     เดินมาถึงหน้าห้องที่มีตัวอักษร P’TUL ติดอยู่ เปิดเข้าไปจะเป็นตู้เสื้อผ้า สุดริมตู้จะเป็นประตูห้องน้ำส่วนตัว มองไปขวามือเป็นที่นอนลายโคนันเทาดำ เตียงนอนขนาดไม่สูง ฟูกญี่ปุ่นแบบหนานุ่มๆ ข้างที่นอนติดประตูมีโต๊ะไว้วางโคมไฟ ปลายเตียงมีทีวีขนาด 20นิ้วตั้งอยู่บนตู้ มีเครื่องเกมตั้งอยู่ ในตู้มีแผ่นเกมส์ที่ทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องคงชอบสะสมแผ่นเกมส์และกลายเป็นเด็กติดเกมส์จะว่าเลยก็ได้ ข้างๆ มีชั้นฟิกเกอรืโคนัน ถัดไปเป็นชั้นหนังสือ ที่ติดผนังห้องเป็นโต๊ะคอมที่ไว้ใช้ทำงาน

    ติ๊ง…ติ๊งงง
      เสียงแอพพลิเคชันหนึ่งดังขึ้นมา สงสัยกลุ่มเพื่อนเธอคงจะทักมาบอกว่าถึงกันแล้ว ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่ผิดคลาด กดตอบลงไปให้เพื่อนหายห่วง วางลงบนโต๊ะโคมไฟ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำสักหน่อยเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

    ผ่านไป 20นาที ตุลยืแต่งตัวอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อขาวแขนกุดนอนบิดขี้เกียจบนที่นอน กดโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ เข้าแอพนู้นบ้าง แอพเข้านี้บาง ปลายตาขึ้นไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดบนผนังห้อง 
    17.40 ห้าโมงกว่าแล้วหรอ เริ่มหิวแล้วสิ…. ไม่รอช้าโทรนัดนิกไปร้านประจำ ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยติดเซเว่น ไม่ไกลจากร้านยาแม่เท่าไหร่ พร้อมเปลี่ยนใส่กางเกงวอร์มดำขายาว ใส่เสื้อฮู๊ดสีเทาอ่อน เดินลงข้างล่างเพื่อจะไปที่นัดหมาย
    “แม่ พี่ตุลย์ไปร้านลุงศักดิ์กับนิกนะคะ” บอกกล่าวให้แม่รับทราบ แม่ผละจากทีวีหันมายิ้ม เดินมาพร้อมหยิบธนบตรแบงค์แดง 2ใบให้ 
    “แม่จะฝากซื้ออะไรคะ”
    “ป่าวคะ แม่ให้พี่ตุลย์เฉยๆ เผื่อพี่ตุลย์อยากกินอะไรไง ” ฉันยิ้ม พร้อมบอกขอบคุณแม่ ให้รางวัลเป็นหอมแก้มไปทีนึง
    “หอมแม่แบบนี้ จนแม่ติด ถ้ามีแฟนแล้ว จะยังหอมแม่อยู่มั้ยนะ” แม่เอ่ยแซว พร้อมหันมาทำหน้าใส่ นั้นสิ้…ตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็หอมพ่อกับแม่ตลอด ใช้คำว่าเสพติดแก้มพ่อแม่ก้ว่าได้ เพราะมันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งก็ว่าได้
    “แซวนะเดี๋ยวนี้ แฟนเฟินอะไรคะ พี่ตุลย์ยังไม่มีคนที่ถูกใจหรอก ” นั้นสิ้ โตจนตอนนี้เป็นนักศึกษา บริหารปี3 แต่ยังไม่มีแฟนเลย อ๋อยยยยย ฉันว่าฉันก็น่ารักนะ ทำไมไม่มีแฟนสักที
     เดินออกมาจากบ้านมุ่งหน้าไปโรงรถ zoomer x สีดำฟ้า คันโปรด ขับไปหน้าปากซอย จอดไว้หน้าเซเว่น นิกยังไม่มา ไปเดินในเซเว่นรอดีกว่า   เดินผ่านหน้ากลุ่มคน ผ่านไปหาขนมกินดีกว่า….
    “อุ๊ย ขอโทษคะ ” ยืนอยู่ดีกว่ารู้สึกว่ามีอะไรมากระแทกหลัง หันไปมอง เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังก้มขอโทษอยู่ “ไม่เป..” ไม่ทันพูดจบ กลืนคำพูดเข้าไปในปากที่เดิม เธอคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองกัน ขนาดตัวคงสูงห่างจากเธอไม่น่าจะกี่เซนได้ ผมยาวเลยไหล่ลงมานิดหน่อย กำลังยิ้มมาให้เธอเพื่อเป็นการขอโทษที่เผลอมาชนกัน มองรวมๆแล้วน่ารักกกก คนอะไรมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ขนาดตัวที่เล็ก ตัวขาว ใบหน้าที่พระเจ้าประทานมาให้พร้อมเจ้ารอยยิ้มน่ารักนั้น แม่….พี่ตุลย์ไม่ไหวววววววว
    “คุณเจ็บตรงไหนหรือป่าวคะ” ไม่คะไม่เจ็บเลย แต่ปากเจ้ากรรมกลับพูดไม่ออก เธอคนนั้นมองหน้าสักอีกครั้งเพื่อหาคำตอบ ทำได้แค่ส่ายหน้าว่าไม่เป็นอะไร เธอยิ้มกลับมาให้พร้อมก้มหัวแล้วเดินไปหากลุ่มเพื่อน
      เอามือข้างขวามาจับอกซ้าย ทำไมใจมันเต้นเร็วผิดปกติจัง ขึ้นไปจับหน้าตัวเอง ร้อนแปลกๆ หรือจะไม่สบายนะ สงสัยต้องให้แม่ตรวจให้แล้วสิ

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น