ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dooseob's House!!!

    ลำดับตอนที่ #8 : [OS Project] สัมผัสทั้งห้า: Voice

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 669
      2
      22 ก.ค. 55

    © Tenpoints !
     เค้าว่ากันว่าความรัก..เป็นสิ่งที่คนเราควบคุมไม่ได้... แม้จะไม่เคยได้เจอกัน แม้จะเคยได้ยินแค่เสียง แม้จะจำหน้ากันแทบไม่ได้...ความรักก็เกิดขึ้นได้เสมอ

     

    คุณอาจจะว่าผมหัวแข็งก็ได้...แต่ผมไม่เชื่อหรอกนะของพรรค์นี้น่ะ

     

     

     

    สถานีต่อไป...ทงแดมุน  Next Station Tongdaemun’

     

    “อ่า ถึงแล้วหรอเนี่ย”ผมเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือ ก่อนจะจัดแจงเก็บกระเป๋าลุกขึ้นเตรียมออกจากรถไฟเมื่อถึงสถานีที่ต้องลง ผมเบียดตัวผ่านกลุ่มคนแออัดไปยังประตูทันทีที่มันเปิดออกและเดินจ้ำออกจากตัวรถเต็มสปีดเพราะอีกแค่ห้านาทีคลาสเรียนพิเศษก็จะเริ่มแล้ว

     

    ปั่ก

    “โอ๊ย! / อ๊ะ!”แต่ด้วยเพราะมัวแต่มองจอมือถือผมเลยเดินชนเข้ากับคนที่เดินสวนมาเข้าอย่างจัง ของในมือเราทั้งสองคนหล่นระเนระนาดเต็มพื้นไปหมด

    “ขอโทษนะครับ.. เอ่อ..นี่ครับของๆคุณ”คนตัวเล็กหยิบของทั้งหมดขึ้นมาและยื่นของๆผมมาให้ ก่อนจะวิ่งขึ้นรถขบวนที่ผมเพิ่งลงมาไปอย่างรวดเร็ว...อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ดูๆไป...คนเมื่อกี๊น่ารักชิบ=.,=

     

     

     

     

     

     

    แว อีร็อคเค ดูกึน ดูกึน ดูกึน ดวีนี แซงกัก มัล แฮโดเสียงเพลงหวานแหววดังขึ้นมาจากมือถือใครซักคน

    “ใครวะ เข้ามาเรียนไม่ปิดเสียงมือถือ แถมเพลงยังตุ๊ดชิบหาย”ผมบ่นเบาๆก่อนเสียงเรียกเข้านั้นจะหยุดไป

    แว อีร็อคเค ดูกึน ดูกึน..

    “นี่ดูจุน รับโทรศัพท์สิมันรบกวนคนอื่นเค้ารู้มั้ย”ชอนดุงหันมาสะกิดผมแล้วกระซิบเบาๆ

    “บ้าป่ะวะ เสียงเรียกเข้าแบบนี้คิดว่าฉันจะใช้เรอะ”

    “เออฉันรู้ แต่เสียงมันมาจากกระเป๋าเป้นายแล้วมันจะเป็นของใครได้อีกล่ะ”

    “หื๊มมมม?”ว่าแล้วผมก็หันไปคว้ากระเป๋าเป้ตัวเองที่พื้นขึ้นมาทันที

    “จริงด้วยว่ะ..เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นทำไมเสียงรอสายกรูเปลี่ยนเอง??”

    “รับๆไปก่อนเหอะน่า ถ้าไม่อยากโดนดักฆ่าหมกทางแยกตอนเดินกลับบ้านล่ะก็”

    “อืมๆ”ผมพยักหน้าให้ชอนดุงก่อนจะหยิบไอโฟนในกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะเดินออกมารับสายข้างนอกห้อง

     

    “สวัสดีครับ”

    (สวัสดีครับ คือ..เอ่อ)

    “นี่ใครพูดอยู่ครับ?”ผมถามกลับเมื่อปลายสายเงียบไป น่าจะโทรผิดล่ะมั้ง

    (ผม..ยังโยซอบครับ)เสียงใสๆตอบกลับมาหลังจากเงียบไปซักพัก นั่นไงชื่อใครก็ไม่รู้ คงจะโทรผิดจริงๆแหละนะ

    “ผม่วาคุณน่าจะโทรผิดนะครับ...แค่นี้นะ”

    (เดี๋ยวๆๆๆๆ เดี๋ยวครับอย่างเพิ่งวาง)ปลายสายขัดขึ้นมาเสียงดังซะผมเอาหูออกจากโทรศัพท์ไม่ทัน

    (คือจำได้ไม่ครับ..คือเราเดินชนกันเมื่อตอนเย็น...หน้ารถไฟฟ้า) อ้อ! คนน่ารักคนนั้นน่ะเอง หรือว่าเค้าโทรมาจีบเรา??

    “อ่อ..ครับ แล้วคุณมีเบอร์ผมได้ไงอ่ะ?”

    (เรื่องมันก็คืออย่างนี้ล่ะครับ ผมว่าเราสลับมือถือกันซะแล้วล่ะ บังเอิญเราใช้มือถือรุ่นเดียวกันแถมเคสยังเหมือนกัน แถมตอนนั้นผมก็รีบๆเลยยื่นมือถือให้คุณผิดเครื่อง)

    “อ่า...เลยว่าเสียงเรียกเข้าแบ๊วชิบหาย”

    (อะไรนะครับ?)

    “อ๋อ เปล่าครับๆ แล้วเราจะนัดเอาโทรศัพท์คืนกันยังไงดีล่ะ”

    (คุณว่างวันไหนบ้างล่ะครับ นัดมาเลย)

    “ก็...ผมเลิกเรียนตอนสี่โมงแล้วก็มีเรียนพิเศษตั้งแต่ห้าโมงถึงสองทุ่มทุกวันที่ทงแดมุนนี่แหละ คุณมาที่สยามซักสี่โมงสี่ห้าห้าสิบได้มั้ยครับ ที่สถานีรถไฟฟ้าก็ได้”

    (อ่า...ผมเริ่มเรียนพิเศษสี่โมงครึ่งถึงทุ่มเนี่ยสิ)

    “แต่วันนี้เราเจอกันตอนห้าโมงเย็นนี่นา”

    (พอดีวันนี้ผมมีธุระด่วนน่ะครับเลยกลับเร็ว..อ่า..ทำไงดีล่ะเราว่างไม่ตรงกันเลย)

    “งั้น...เอางี้ละกันจนกว่าเราจะมีเวลาตรงกันคุณก็โทรเข้าเครื่องนี้วันละครั้ง จะได้เป็นการยืนยันว่าเราทั้งสองคนยังเก็บมือถือของเราไว้ดีอยู่”

    (ก็ได้ครับ...งั้นผมจะโทรไปซักสามทุ่มแล้วกันนะ)

    “ครับ แค่นี้นะครับผมมีเรียน”

    (ครับๆ)

     

     

    งงล่ะสิว่าทำไมผมถึงให้เค้าทำแบบนั้น

    .

    .

    .

    ลองคิดสิ เค้ากำลังรู้สึกผิดเพราะฉะนั้นคงไม่เบี้ยวใช่มะ

    .

    .

    .

    แปลว่าเค้าก็จะโทรมาทุกวัน

    .

    .

    .

    ผมก็จะใช้โอกาสนี้...ตีสนิทเค้าซะเลยไง โฮะๆๆๆ

    .

    .

    .

    เฮ้ยเดี๋ยว!

    .

    .

    .

    ถ้าฝ่ายนู้นโทรมา...

    .

    .

    .

    กรูก็ต้องจ่ายค่าโทรอ่ะดี๊!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’เสียงเรียกเข้าที่ผมแอบเจ้าของเปลี่ยน(ก็หน้าอย่างผมใช้เพลงแบ๊วๆอย่างงั้นคนอื่นมองผมเป็นกระเทยควายกันหมดแน่=..=)

     

    “ฮัลโหล”

    (สวัสดีครับ..ผมโยซอบที่โทรมาเมื่อวานนะ)

    “อ่อ ครับๆ”โอ้โห สามทุ่มเป๊ะเลยเว้ย

    (แล้วนี่คุณชื่ออะไรหรอครับ? ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย)

    “ยุนดูจุนครับ”

    (อ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกันนะครับฮะๆ งั้น..ผมวางก่อนนะ)

    “ด..เดี๋ยวๆ ไหนๆคนจ่ายค่าโทรก็เป็นผมแล้ว...”

    .

    .

    .

    “คุยกันซักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง”

     

     

     

     

     

    เดือนนึงละ...มือถือกรูหายไปเดือนนึงละ...แต่ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรเลยแฮะ= =”

    อย่างที่คิด โยซอบไม่เคยเบี้ยวนัดเลยซักวัน โทรมาสามทุ่มเป๊ะๆตลอด

    จากที่คุยกันทุกวัน จากคนไม่รู้จักตอนนี้เราเหมือนจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปซะแล้ว ถึงผมจะแทบลืมหน้าเจ้าตัวไปแล้วถ้าไม่มีรูปเซลคาในมือถือก็เถอะ

    โยซอบเป็นคนคุยสนุก แบบว่าคุยด้วยแล้วไม่อยากจะวางสายเลยล่ะถ้าไม่ติดที่ว่าวันต่อไปมีเรียนและค่าโทรที่พุ่งลิ่วก็นะ... ถึงจะไม่เคยเจอตัวจริง แต่บุคลิกน่ารักๆของเจ้าตัวก็ทำให้ใครๆที่ได้คุยด้วยตกหลุมรักได้ง่ายๆ...และผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้น

     

    อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’ พูดถึงก็โทรมาพอดีเลย

    “โย่”

    (โย่ ว็อทส์ซัพ)

    “ไอ แอม ไฟน์ แต๊งกิ้ว”

    (ฮะๆๆๆ นี่รู้ป่ะดูจุนนา ฉันนั่งมองนาฬิกามาทั้งวันเลยนะเนี่ยรอให้ถึงสามทุ่มซะทีจะได้คุยกะนาย)

    โอย...ประโยคนี้ทำใจเต้นจังแฮะ =///////=

    “แปลว่าฉันคุยสนุกอ่ะดิ”

    (อืม ฉันอยากเจอนายจังเลยอ่ะ ที่โรงเรียนมีแต่พวกลูกคุณหนู ทุกคนเลยเอาแต่เก๊กขรึมกันไปหมด..เฮ้อ~กลุ้ม)

    อ้อใช่ ลืมบอกไปเลย โยซอบเค้าเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังเลยล่ะ ที่นั่นมีแจ่พวกลูกคนรวยเท่านั้นแหบะที่เรียนไหว ตอนแรกที่รู้ผมก็ตกใจมากเลยนะ แต่โยซอบบอกว่าที่ได้เรียนก็เพราะเป็นนักเรียนทุน เรียนได้เอบวกทุกวิชา...คนอะไรเก๊งเก่ง=w=

    “ฉันก็อยากเจอนายเหมือนกันน่ะแหละ นี่ๆ วันเสาร์อาทิตย์นี้วันหยุดราชการนี่ว่างมั้ย?”

    (วันเสาร์อาทิตย์....มีนัดกับฮยองงอาไว้นี่นา)ปลายสายพึมพำเบาๆแบบที่คิดว่าผมคงไม่ได้ยิน..แต่ทำไงได้หูมันดี

    “นัดกับแฟนหรอ?”

    (ม..ม..ไม่ใช่นะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว)

    .

    .

    .

    แปลก...แปลกจริงๆ

    .

    .

    .

    ทำไมพอรู้ว่าเค้ามีคนที่ชอบแล้ว..มันถึงได้เจ็บใจแปลกๆอย่างงี้วะ?

     

    (ดูจุน..ดูจุนนา เป็นอะไรรึเปล่า)

    “อ..อ่อ ไม่มีอะไรหรอกพอดีเมื่อกี๊จะจามแต่มันจามไม่ออกน่ะ”

    (อ้อออ ฮ่าๆๆๆ)

    “นายนี่ขำง่ายจังเนอะ”

    (ปกติฉันก็ไม่ได้เส้นตื้นหรอกนะ แต่นายพูดอะไรมันก็ฮาไปหมดตะหาก รู้ตัวป่ะ)

    “จะถือว่าเป็นคำชมละกันนะ ว่าแต่..นายอยากเล่ามั้ยเรื่องคนที่นายชอบอ่ะ”

    (เหอะ อยากเป็นที่ปรึกษาหรือแค่อยากรู้ว่าฉันชอบใครกันแน่ล่ะ)

    “รู้ดีนะรู้ดี~

    (ฮ่าๆๆ อืมมมม เล่าก็ได้มั้ง)

    “อ่าฮะ”

    (ก็..คนที่ฉันชอบก็เป็นเพื่อนฉันคนนึง แต่เราไม่ค่อยสนิทกันหรอก ก็รู้จักกันแค่ผิวเผินได้คุยกันวันละไม่กี่ประโยคเอง แต่ว่าเค้าเป็นคนใจดีแล้วก็อารมณ์ดี แถมยังรับฟังเวลาฉันรู้สึกแย่)

    “โอ้ว...คุณสมบัติพระเอกหนังเกาหลีโดยแท้ แล้วหน้าตาเป็นไงอ่ะ หล่อมะๆ”

    (หล่อมั้ยหรอ...เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้แฮะ)

    “งั้น..นายกะจะบอกเค้าไปเมื่อไหร่ล่ะ?”

    (ไม่รู้นะ ปกติก็คุยกันแทบจะนับประโยคได้ ถ้าบอกไปแล้วเขาไม่ได้ชอบฉันขึ้นมา เขาไม่ตัดขาดกับฉันเลยรึไง)

    “ก็ต้องลองเสี่ยงดู..ถ้านายมั่นใจพอว่านายชอบคนๆนั้นจริงๆล่ะก็”

    (มั่นใจมั้ย...อันนี้ก็ไม่ค่อย..แล้วต้องทำไงถึงจะมั่นใจได้ล่ะ?)

    “ก็ถ้านายคิดถึงเขาบ่อยๆเวลาไม่ได้เจอกัน แล้วเวลาคิดถึงขึ้นมาใจก็จะเต้นแรงจนอึดอัด...อะไรประมาณนี้”

    (อืม...รู้ดีจังนะนายน่ะ)

    “แน่นอน..” เพราะเวลาคิดถึงนายฉันก็เป็นไง...

    (โอเค งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาบอกผลแล้วกันนะ ไปนอนล่ะบ๊ายบายยยยย)

    “กู๊ดไนท์แล้วก็สูงไวๆนะ ฮ่าๆๆ”

    (ไปนอนเลยไป๊....ติ๊ด)

     

    ฟุ่บผมวางโทรศัพท์ลงข้างตัวก่อนจะทิ้งตัวลงนอน แล้วยกแขนก่ายหน้าผากเผื่อว่าเรื่องที่คิดมันจะเบาลงไปซักนิด

    “สงสัย...ฉันจะชอบนายเข้าจริงๆแฮะยังโยซอบ”

     

     

     

     

     

    ตึกสองเท้าหยุดลงหน้าประตูเลื่อนสีเหลือง

    ไม่รู้ว่าได้ยังไง แต่ตอนนี้ผมโดดเรียนพิเศษมาที่โรงเรียนที่โยซอบมาเรียนทุกเย็นซะแล้ว...ทำไมน่ะเหรอ?

     

     

     

    อาทิตย์ก่อน

    อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’

    “ยอโบเซโย”

    (ดูจุนนา...ฉันว่า..ฉันมั่นใจแล้วล่ะ)

    “หืม?”

    (ที่ว่า...ฉันชอบเขาจริงๆ...ฉันว่าฉันชอบเค้าเข้าจริงๆแล้วแล้วล่ะ)ปลายสายพูดเสียงสั่น ใจผมเองก็สั่นไม่ต่างกันเท่าไหร่...อาจจะลั่สกว่านั้นก็ได้ล่ะมั้ง

    “อ..อืม ดีใจด้วยนะ แล้วนี่ จะบอกเขามั้ยล่ะ”

    (อาจจะมั้ง...แต่ฉันอยากให้ตัวเองพร้อมกว่านี้ก่อน...ความรักระหว่างฉันกับเค้ามัน..ดูเป็นไปไม่ได้เลย)

    “ทำไมล่ะ?”

    (นายคิดว่าความรักระหว่างคนที่แทบจะไม่ได้คุยกัน แทบจะไม่รู้จักกัน หน้าฉันเขาก็แทบจะจำไม่ได้...มันเป็นไปได้รึไงล่ะ)

    “พูดตรงๆคือโอกาสน่ะแทบจะไม่มีหรอกนะ...”

    (...)

    “แต่ก็อย่างที่บอกไปไงว่าก็ต้องลองเสี่ยงดู..ไม่งั้นก็ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายคิดยังไงจริงมั้ย?”

    (อ..อืม ดูจุนนาพูดเหมือน..ดูจุนนาก็มีคนที่แอบชอบเหมือนกันเลยนะ)

    “อืม...สถานการณ์ของฉัน..ก็ไม่ต่างกับนายเท่าไหร่หรอก หึๆ”

    (ง...งั้นหรอ?)

    “อืม...”

    (....)

    “....”เราทั้งสองคนต่างคนต่างเงียบกันไปอย่างไร้สาเหตุ มีแต่เสียงหายใจเบาๆเท่านั้น

    (งั้น..ฉันไปนอนแล้วนะ)

    “ฉันว่าฉันจะลองเสี่ยงดู...”

    (หืม อะไรนะ?)

    “เปล่าหรอก...ฝันดีนะ”

    (บาย)

     

     

     

    หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันสั้นลงเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็บอกเค้าว่าไม่ต้องโทรมาแล้วก็ได้ ส่วนมือถือไว้คืนตอนปิดเทอม

    แต่ถึงปากจะพูดอย่างนั้น อาทิตย์นึงที่ผ่านมาที่ไม่ได้คุยกับโยซอบ...มันกระวนกระวายแปลกๆ สุดท้ายก็เลยต้องมาหาเจ้าตัวถึงที่เรียนพิเศษในที่สุด

    “เฮ่อ...”ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนผมจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาเบอร์ตัวเอง จะว่าไป...ผมก็ไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนเลยแฮะ

    (ตรู๊ด...ตรู๊ด...)

    “รับหน่อยเถอะนะ...”

    (ฮัลโหลครับ?)ปลายสายกระซิบมา แสดงว่าเรียนอยู่ในห้องนี้จริงๆสินะ

    “นายออกมาข้างนอกได้มั้ย”

    (ต..แต่ฉันเรียนอยู่นะ)

    “แป๊บเดียวน่า...ฉันอยู่หน้าประตูนี่เอง”

    (ฮ..ฮะ? งั้นเดี๋ยวออกไปนะ)โยซอบวางสายไป ก่อนประตูสีเหลืองข้างหน้าผมจะค่อยๆเปิดออกพร้อมเด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนนึงยื่นหน้าออกมาช้าๆพลางมองผมตาปริบๆ

    “ดูจุนนาหรอ?”คนตัวเล็กถาม ผมยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าตอบ เจ้าตัวเบิ่งตาอย่างตกใจก่อนจะออกจากห้องมาและหันไปเลื่อนประตูปิด

    “ดูจุนนาตัวจริง..หล่อกว่าที่คิดเนอะ ฮะๆๆ”โยซอบเงยหน้าสำรวจหน้าผมไปทั่วก่อนจะยกยิ้มน่ารักเผยลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง

    “นายเองก็...น่ารักกว่าในรูปตั้งเยอะ”ผมตอบกลับยิ้มๆแล้วยกมือขึ้นลูบผมนุ่มๆของโยซอบเบาๆ ไม่รู้ว่าผมคคิดไปเองรึเปล่า แต่แก้มขาวๆของร่างเล็กกำลังขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยด้วยล่ะ...

    “ล..แล้วนายคิดยังไงถึงมาหาฉันที่นี่ล่ะ?”

    “ฉันคิดถึงนาย...”

    “...”โยซอบไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองตาผมด้วยแววตาตกใจปนสงสัย ผมก็ได้แต่มองตากลมใสของเขาเงียบๆเท่านั้น

    “น..นี่ เล่นอะไรเนี่ยฉันไม่ตลกนะ เพื่อนกันเค้าไม่ควรเล่นอย่างงี้นะรู้มั้ย ล..แล้วนายก็บอกเองว่าฉันไม่ต้องโทรไปแล้ว”หลังจากสู้สายตาผมอยู่ซักพักโยซอบก็เป็นฝ่ายหลุบตาลงมองพื้นก่อนจะพูดขึ้นเสียงตะกุกตะกัก

    “ฉันไม่ได้เล่นนี่...ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไง..ว่าฉันจะลองเสี่ยงดู...”

    “ฮ..ฮะ? อย่างบอกนะว่า คนที่ดูจุนนาชอบ ค..คือ”

    “อืม ถึงเราจะไม่เคยได้เจอหน้ากัน ถึงฉันจะได้ยินเสียงนายแค่วันละไม่กี่นาที...ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว...”ผมยื่นมือไปประคองใบหน้าเล็กๆของโยซอบให้เงยหน้าขึ้นสบตาผมก่อนจะพูดความในใจออกไปเต็มปากเต็มคำ

    “ฉันชอบนาย...”

    “.....”โยซอบมองตาผมนิ่ง แววตาใสๆเริ่มสั่นและมีน้ำใสๆคลอที่ขอบเล็กน้อย

    “แค่ฉันบอกว่าชอบนาย...ถึงขนาดต้องร้องไห้เลยหรอ? เฮิร์ทนะเนี่ย...”

    “.....”ผมปล่อยมือทั้งสองข้างออกมายืนล้วงกระเป๋าเหมือนเดิม ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยแล้วหัวเราะให้ดูเป็นปกติที่สุด

    “ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ...งั้น..นี่มือถือนาย”ผมจับมือนิ่มๆของโยซอบขึ้นมาข้างหนึ่งและวางมือถือของเจ้าตัวคืนไป ก่อนจะจับมืออีกข้างที่กำเครื่องของผมไว้แน่นขึ้นมาแกะออกเบาๆและหยิบมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกง

    “ไปล่ะนะ..โชคดี”ผมยกมือลูบหัวโยซอบอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา

    .

    .

    .

    .

    .

    “งั้น..ฉันก็จะลองเสี่ยงดูเหมือนกัน”เสียงเล็กๆที่คุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลังเรียกให้ผมหยุดเดินและหันกลับไป ก่อนจะเจอคนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าเดินตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ยืนอยู่ข้างหลัง

    “หืม?”

    “ก็ที่บอกว่าให้ลองเสี่ยงบอกรักคนที่ชอบ...ฉันก็จะลองเสี่ยงดูบ้าง”โยซอบพูดพลางมองตาผมนิ่ง

    “อืม...ดีแล้วล่ะ สู้ๆนะ”ผมชูกำปั้นให้กำลังใจคนตัวเล็กอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินต่อ

    “อย่าเพิ่งไปสิดูจุนนา...”

    .

    .

    .

    .

    .

    “ดูจุนไป..แล้วจะให้ฉันไปบอกรักใครล่ะ?”

     

     

     

     

    เค้าว่ากันว่าความรัก..เป็นสิ่งที่คนเราควบคุมไม่ได้... แม้จะไม่เคยได้เจอกัน แม้จะเคยได้ยินแค่เสียง แม้จะจำหน้ากันแทบไม่ได้...ความรักก็เกิดขึ้นได้เสมอ

     

    ผมเองก็เคยไม่เชื่อ...แต่ตอนนี้...ผมเชื่อแล้วล่ะครับ^^

     

     

     

     

     

    THE END

     

     

     

    กลับมาแล้วค่ากับโปรเจ็คต์สัมผัสทั้งห้าของเรา หายไปนานคิดถึงกันมั้ยเอ่ย?

    ขอโทษนะคะ พอดีเพิ่งึ้นม.ปลายอะไรๆมันเลยแปลกๆไปแล้วปรับตัวไม่ได้

    อยู่ในภาวะมึนรุนแรง = =

    พอวันเสาร์แล้วเลยโยนเรื่องเครียดๆทิ้งแล้วมาอัพฟิค 555

    โปรเจ็คต์นี้ยังเหลืออีกสามนะ รอเราด้วยน้าาาา(วิบัติเพื่อเสียง)

     

    แถมๆๆๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×