ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : [12] สายไปมั้ย..?
'ตึก ตึก'เสียงก้าวเดินของผมดังตลอดทางที่ผมเดินกลับบ้านโดยไม่มีเสียงรถหรือเสียงวุ่นวายแบบเมืองหลวงเหมือนปกติ ก็นะ...นี่ก็ตีสามครึ่งแล้ว คงไม่มีใครออกมาเดินลอยชายเหมือนผมหรอก
จริงๆผมก็ไม่ใช่คนกลับบ้านดึกหรอกนะ แต่พอดีไม่อยากแยกจากฮยอนซึงผมเลยหาข้อแม้มาอ้างว่าเที่ยวชดเชยเมื่อตอนบ่าย แล้วตอนไปส่งก็ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นาน มองนาฬิกาอีกทีก็เวลาป่านนี้ซะแล้ว
"เฮ้อ~ นายจะหลับรึยังนะ"ผมถอนหายใจยิ้มๆพลางคิดถึงใบหน้าสวยๆของฮยอนซึง ผมสงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงรักถึงหลงผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงได้มากขนาดนี้
"แค่ส่งข้อความคงไม่เป็นไรมั้ง"ผมหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงหลังจากคิดไปมากับตัวเองซักพัก จริงๆก็อยากโทรไปหรอกนะ แต่นี่ผมก็ออกจากบ้านฮยอนซึงมาชั่วโมงนึงได้แล้วและฮยอนซึงก็น่าจะเหนื่อยน่าดู ถ้าเขาหลับไปแล้วแล้วผมโทรไปปลุกก็ไม่ดีจริงมั้ย
'You've 5 missed call and 1 voice message'
"มิสคอลตั้งเยอะ มีอะไรป่ะวะ"ผมกดเปิดดูชื่อคนที่โทรมา ทำไมผมสังหรณ์ไม่ดีเลยก็ไม่รู้
'Seung's Omma'
"แม่ซึงนี่..."ผมพูดเสียงแผ่ว อยู่ดีๆก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ผมรีบเปิดฟังข้อความเสียงที่คุณน้าฝากเอาไว้ทันที
"จุนฮยองอา นี่น้าซอฮี แม่ซึงๆนะ พอดีมีไฟลท์ด่วนเข้ามา น้าคงไม่ได้กลับบ้านไปอีกสองสามวันเลย จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอกนะจ๊ะ แต่ตอนก่อนออกมาน้าเห็นมีคนมาด้อมๆมองๆแถวตึกที่น้าอยู่ น้าเลยอยากให้จุนฮยองไปอยู่กับฮยอนซึงหน่อยได้มั้ยจ๊ะ อ๊ะ! น้าต้องไปแล้วล่ะ ขอบคุณนะจ๊ะ...ติ๊ด"
"กึก"ผมทิ้งแขนสองข้างลงข้างตัวอย่างหมดแรง ตอนนี้ในหัวของหมดมันขาวไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี...
ในเมื่อน้าซอฮีไม่อยู่บ้าน...แล้วคนที่อยู่ในห้องตอนที่เราไปส่ง...คือใครกันล่ะ?
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฮยอนซึงทันทีที่ตั้งสติได้แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมามีเพียงเสียงรอสายดังซ้ำไปซ้ำมา
"โธ่เว้ย!!!"ผมแทบจะปามือถือทิ้งด้วยความโมโห ไม่ได้โมโหที่ฮยอนซึงไม่รับโทรศัพท์...แต่โกรธตัวเองที่ไม่อยู่ดูแลเขาอย่างที่ควรจะทำ
"ทำยังไงดีวะ.."ผมพูดกับตัวเองเสียงสั่น ถ้าให้เดินไปบ้านฮยอนซึงก็ต้องใช้เวลานาน ตอนนี้รถบัสก็ไม่วิ่งด้วย...
"จริงด้วย!!"ใช่..มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น
ไม่รอช้า ผมยกมือถือมาโทรออกทันที
"สวัสดีครับ...นี่ตำรวจใช่มั้ยครับ?.."
"ได้สิ..."คำตอบที่เบาซะจนเหมือนไม่ได้พูดจากร่างเล็กข้างหน้าทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
"โย.."
"ฉันคงตอบแบบนี้ ถ้านายทำอย่างนี้ตั้งแต่ห้าปีก่อน"แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็หุบไปเมื่อร่างเล็กตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"แต่รู้อะไรมั้ย ยุนดูจุน? หลังจากผ่านเรื่องที่ทรมานจิตใจตัวเองมาขนาดนี่น่ะ..คงไม่มีใครอยากกลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกหรอก..."
"โย ฟังพี่อธิบายก่อน"
"ไม่!! ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น"โยซอบหันมาปัดมือดูจุนที่รั้งตัวเขาไว้ออกและพูดเสียงดัง
แววตาที่เคยสดใส ตอนนี้เหลือเต็มไปด้วยความสงสัย ความไม่เข้าใจและความโมโห
น้ำตาใสๆเริ่มปริ่มที่ขอบตาเล็กน้อย
"โย..พี่.."ดูจุนได้แต่มองตาคู่นั้นอย่างเจ็บไม่แพ้กัน กี่ครั้งแล้วที่เขาทำคนข้างหน้าของเขาร้องไห้ ทั้งที่คนๆนี้เป็นคนที่เขารักที่สุด แต่เขากลับทำร้ายจิตใจร่างเล็กมากมาย
คำพูดคำอธิบายมีมากมายที่ดูจุนอยากบอก แต่พอเห็นโยซอบเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมันก็จุกอยู่ที่คอไปหมด
"หยุดเถอะ..มาอธิบายเอาตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยหรือไง.. ถ้านายยังรักฉันอยู่จริงๆล่ะก็ เก็บคำอธิบายของนายเอาไว้แล้วเราสองคนก็ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก ส่วนเรื่องคำสั่งอีกแปดข้อกับงานตอนเย็น ฉันจะรีบเคลียร์ให้หมด และหลังจากนั้นหวังว่าเราจะได้ตัดขาดกันจริงๆตามที่สัญญากันไว้"โยซอบเหม่อมองไปนอกหน้าต่างก่อนพูดเสียงเรียบเฉย แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้ร่างบางกำลังพยายามกลั้นน้ำตาแค่ไหน เพื่อไม่ให้ตัวเขาเองดูอ่อนแอไปมากกว่านี้
"อืม...นั่นสินะ ฉันคงต้องปล่อยนายไปใช่มั้ย"ดูจุนยิ้มเศร้าก่อนจะนั่งก้มหน้าเงียบๆไม่พูดอะไรอีก โยซอบก้มมองร่างสูงเล็กน้อยและเดินจากไปเงียบๆ มีเพียงประโยคทิ้งท้ายไว้ประโยคเดียว
"บอกแดเนียลให้ด้วยว่าฉันปวดหัว..ไม่เข้าเรียน"
'แกร่กๆๆ'
"เฮ้อ~ อยู่บ้านฉันยังไม่เคยนั่งขัดส้วมสะอาดเอี่ยมอ่องขนาดนี้เลยนะ"ร่างเล็กนั่งกอดเข่าบ่นกับตัวเองอย่างหน่ายๆ มือสองข้างก็ขัดโถส้วมต่อไปไม่หยุด
หลังจากหนีเรียนมาเมื่อเช้าโยซอบก็เดินล่องลอยไปนู่นมานี่อย่างเบื่อๆมาตลอดแล้วสุดท้ายก็มาทำงานที่นี่ อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกไม่อยากทำอะไรเลยล่ะมั้ง..
'แกร่ก' เสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้น ร่างเล็กหยุดขัดชั่วขณะและล็อคประตูห้องที่เขาขัดอยู่ลงเบาๆ
'ตึก ตึก ตึก'เสียงรองเท้าดังขึ้นสามก้าวและหยุดลงหน้าอ่างล้างมือ
'เข้ามายืนนิ่งๆ แล้วเข้ามาทำอะไรวะ'โยซอบแนบหูกับประตูแต่พอไม่ได้ยินเสียงอะไรก็บ่นในใจและมองออกไปทางซอกประตูงงๆ และคนที่เขาเห็นอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น
"ยุนดูจุน..."ร่างเล็กหลุดเรียกชื่อคนตัวสูงหน้ากระจกออกมาเสียงเบาและรีบปิดปากทันทีที่รู้ตัว แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อดูจะไม่ได้ยิน
ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงตอนนี้คิ้วขมวดด้วยความเครียดจนน่ากลัว แขนทั้งสองข้างท้าวกับอ่างและทิ้งน้ำหนักลงอย่างหมดแรง จากที่เห็นคงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่
'แกร่ก'เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้โยซอบสะดุ้งเล็กน้อย
"ฮยองเรียกผมมามีอะไรรึเปล่า?"
"อ่อ มาแล้วหรอ"เสียงที่คุ้นหูของอีจุนดังตามมาทันทีประตูปิดลง
"ช่วยล็อคประตูด้วย เรื่องที่ฉันอยากคุยกับนายมัน...สำคัญ"
"สำคัญจนต้องมาคุยในห้องน้ำเนี่ยนะ ฮะๆๆ"อีจุนถามขำๆ แต่ก็ยอมกดล็อคประตูแต่โดยดี
"โอเค ว่ามาสิฮยอง"
"ฉันอยากคุยกับแกเรื่อง...ยังโย"
'อึก..'โยซอบผละตัวออกมาจากผนังเงียบๆ คุยเรื่องเขางั้นเหรอ..เรื่องอะไรกัน?
"อืม...ทำไมล่ะฮยอง?"
"ฉันรักโย และยังไม่เคยเลิกรักเขาด้วย และฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าฉันคงยกโยให้แกไม่ได้แล้ว"
'นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน..!!'โยซอบทรุดลงกอดเข่ากับพื้นอย่างไม่เข้าใจ อีจุนมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ได้ยังไงกัน..?
"อะไรกันฮยอง หลังจากเราทำตามที่ตกลงกันไว้มาตั้งห้าปีแล้วเนี่ยนะ"
"ใช่..."
"ผมคงยอมไม่ได้หรอกฮยอง ผมเองก็รักโยซอบฮยองเหมือนกันนะ"
"แต่ฉันรักโยมาก่อน...และโยเองก็รักฉัน"
"แต่ตอนนี้เขาเกลียดฮยองแล้วไม่ใช่รึไงล่ะ?!? อีกอย่าง...ฮยองจำไม่ได้รึไงว่าตัวเองเคยพูดอะไรเอาไว้..?"
"ฉันจะยอมทำทุกอย่างที่นายขอ..."
"ใช่!! แล้วฮยองจะมาล้มเลิกหลังจากผ่านไปห้าปี หลังจากสิ่งที่เราทำมันใกล้จะสำเร็จแล้วเนี่ยนะ?!? ยังไงซะต่อให้เราล้มเลิกหรือไม่ โยซอบฮยองก็เกลียดฮยองไปแล้วไม่ใช่รึไง ดังนั้นผมคิดว่าฮยองควรจะทำตามข้อตกลงของเราให้มันจบๆไปเลยดีกว่า"
"แต่ถ้าวันนึงโยซอบเค้ารู้เรื่องจริงขึ้นมาล่ะ นายจะทำยังไง?"
"เขาไม่มีทางรู้ ตราบใดที่เราทั้งสองคนไม่บอก...หรือฮยองคิดจะบอก?"
'แกร่ก'ร่างเล็กที่นั่งฟังเงียบๆมาตั้งแต่แรกค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นด้วยแรงเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเปิดกลอนประตูห้องน้ำที่แอบอยู่ออกช้าๆ
"ไม่ต้องมีใครบอกทั้งนั้นแหละ..."เสียงเล็กที่เค้นพูดออกไปอย่างยากลำบากเพราะอารมณ์ที่หลากหลายจุกอยู่ที่อกดังขึ้นแผ่วเบาจนแทบไม่มีเสียง แต่ก็เรียกสายตาตกใจจากอีกสองคนในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
"ย...โย/ฮยอง!?!"
"พวกเรามาถึงโอไฮโอเรียบร้อยแล้วนะคะ กรุณาลงจากรถและถ้าหากมีไปรับสัมภาระข้างล่างรถก่อนไปด้วยนะคะ..."เสียงใสจนแสบหูจากลำโพงปลุกให้ชายหนุ่มทั้งสองที่นอนซบกันอยู่แนบชิดอย่างน่าอิจฉาตื่นขึ้นและปรือตาปรับให้เข้ากับแสงข้างนอกอย่างสะลึมสะลือ
"ถึงแล้วเหรอ?"ดงอุนหาววอดใหญ่พลางขยี้ตาอย่างงัวเงีย
"อื้ม ถึงซะทีเนอะ ไปกันเถอะ เว้ย!"กีกวังที่ตื่นเต็มร้อยแล้วลุกจากที่นั่งอย่างกระฉับกระเฉงแต่ก็ถูกดงอุนดึงกลับลงไปนั่งตักและเกยคางขึ้นที่ไหล่ดื้อๆโดยไม่อายสายตาคู่อื่นที่มองมาเลย
"ตอนนี้คนเยอะ รอคนน้อยลงก่อนค่อยลงไปก็ได้"ดงอุนพูดอ้อนเบาๆและกระชับอ้อมกอดขึ้นเล็กน้อย
"ไม่อายคนอื่นก็อายฉันหน่อยเถอะ แอ๊บเสียงมาได้"กีกวังดุพลางตีแขนดงอุนที่รัดอยู่รอบตัวเขา แต่จริงๆแล้วเขาเองก็หน้าแดงอยู่ไม่น้อย
"ไม่น่ารักเลยหรอ? ฉันอุตส่าห์แบ๊วจนเจ็บคอละนะ"
"ขอโทษที่ต้องบอก...แต่เสียงธรรมดานายยังน่ารักกว่าเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"
"ง่ะ=[]= แย่ขนาดนั้นเชียว"ดงอุนมองหน้ากีกวังเซ็งๆ ทำให้คนบนตักหัวเราะหนักขึ้นกว่าเดิม
"ล้อเล่นน่าๆ คือเสียงน่ะมันก็น่ารัก แต่หน้าของนายมันแอ๊บไม่เข้ากะเสียงซักนิดน่ะสิ"
"มันเฮิร์ทกว่าเดิมอีกแฮะ"
"อ่าว ซะงั้น?!?"ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันและหัวเราะออกมาพร้อมกัน
"ห้อง307นะคะ นี่ค่ะกุญแจ"พนักงานสาวหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ยิ้มหวานเยิ้มพลางยื่นกุญแจให้ดงอุนที่มาในเสื้อยืดกับกางเกงสี่ส่วนธรรมดา แต่มันก็ยังทำให้เขาดูดีเหมือนนายแบบอยู่ดี
"เอ่อ..ขอบคุณครับ"
"ค่ะ^^"
"เอ่อ คุณครับ.."
"คะ"พนักงานคนเดิมยิ้มกว้างอย่างกับถูกหวยกลับทันทีที่โดนเรียก
"กุญแจน่ะครับ"ดงอุนยิ้มแหยๆพลางชี้ไปที่มือคุณเธอที่ไม่ยอมปล่อยกุญแจ ซ้ำยังกำซะยังกับทากาวตราช้าง
"อ๊ะ! จริงด้วย ขออภัยด้วยนะ^^"
"ฮะๆ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ"ดงอุนยิ้มให้พนักงานสาวคนนั้นบางๆและเดินออกมาทิ้งให้เธอนั่งพร่ำเพ้อต่อไป
"ป่ะ ไปกันเถอะ"ดงอุนเดินมาจับมือของกีกวังที่นั่งเหม่อรออยู่ที่โซฟาในล็อบบี้ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์
"แหม~ ดงอุนของเราเนื้อหอมไม่เปลี่ยนเลยนะ"กีกวังแซวเสียงติดประชดเล็กน้อย ดงอุนก็อดหัวเราะความเก็บอารมณ์ไม่เป็นของคนตัวเล็กไม่ได้
"แน่น้อน~ เกิดมาหล่อซะอย่าง"
"เออออออ"
"ทำไมล่ะ หึงฉันหรอ?"
"บ้าเรอะ! เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยฉันจะหึงนายทำไม"
"ช่างเถอะ นายจะหึงฉันรึเปล่าก็ไม่เป็นไร แต่รู้ไว้อย่างนะ ว่าต่อให้จะมีคนกี่คนมารักมาชอบฉัน ต่อให้ฉันเนื้อหอมแค่ไหน ยังไงฉันก็รักนายคนเดียวกีกวัง"
"=/////////=....ฉันไปห้องก่อนล่ะ"ว่าแล้วคนตัวเล็กก็คว้ากระเป๋าตัวเองแล้ววิ่งหายขึ้นลิฟท์ไปทันที
"ห้องนายมันก็ห้องฉันน่ะแหละกวังอา~ ฮะๆ อีกีกวังเวอร์ชั่นเดิมกลับมา 100% เต็มแล้วสินะ"ดงอุนตะโกนตามไปไม่ดังมากตามมารยาทในโรงแรม และยืนอมยิ้มมองตามคนตัวเล็กไปเงียบๆ
อันนย๊องค่า ไรเตอร์กลับมาแล้วกับอีแอลตอนใหม่
ทิ้งไว้ให้รอนานเลยเนอะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ หัวมันตันๆไปสองสามวันเลยแต่งไม่ออก แต่พอหัวแล่นปุ๊บ ไรเตอร์ก็มาอัพให้ทันทีเลยนะคะ
อืมๆ....มีคนถามมาว่าใครมาช่วยซึงใช่มั้ยเอ่ย
ผู้นั้นไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่ไหนไกลหรอกค่ะ...ตำรวจนี่เอง 555
สำหรับคู่ดูซอบ ที่ไรเตอร์แสนจะซัพพอร์ต ชักดราม่าขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ฮุๆ แต่เมื่อถึงจุดพีคเมื่อนั้นความหวานก็จะมาใช่มั้ยเอ่ย..?
สุดท้ายนี้ ไรเตอร์กำลังคิดอยู่ว่าจะแต่งเอ็นซีดีมั้ยคะ เพราะไรเตอร์ก็ไม่เคย ถ้ารีดเดอร์อยากอ่านกันไรเตอร์ก็จะลองแต่งดู ไม่รู้จะออกมาดีมั้ยแต่ยิ่งได้กำลังใจจากเม้นท์เท่าไหร่ไรเตอร์ก็จะยิ่งมีแรงบันดาลใจมากขึ้นนะ:D
ปล.รักรีดเดอร์ทุกคนจุ๊บๆ
จริงๆผมก็ไม่ใช่คนกลับบ้านดึกหรอกนะ แต่พอดีไม่อยากแยกจากฮยอนซึงผมเลยหาข้อแม้มาอ้างว่าเที่ยวชดเชยเมื่อตอนบ่าย แล้วตอนไปส่งก็ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่นาน มองนาฬิกาอีกทีก็เวลาป่านนี้ซะแล้ว
"เฮ้อ~ นายจะหลับรึยังนะ"ผมถอนหายใจยิ้มๆพลางคิดถึงใบหน้าสวยๆของฮยอนซึง ผมสงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงรักถึงหลงผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงได้มากขนาดนี้
"แค่ส่งข้อความคงไม่เป็นไรมั้ง"ผมหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงหลังจากคิดไปมากับตัวเองซักพัก จริงๆก็อยากโทรไปหรอกนะ แต่นี่ผมก็ออกจากบ้านฮยอนซึงมาชั่วโมงนึงได้แล้วและฮยอนซึงก็น่าจะเหนื่อยน่าดู ถ้าเขาหลับไปแล้วแล้วผมโทรไปปลุกก็ไม่ดีจริงมั้ย
'You've 5 missed call and 1 voice message'
"มิสคอลตั้งเยอะ มีอะไรป่ะวะ"ผมกดเปิดดูชื่อคนที่โทรมา ทำไมผมสังหรณ์ไม่ดีเลยก็ไม่รู้
'Seung's Omma'
"แม่ซึงนี่..."ผมพูดเสียงแผ่ว อยู่ดีๆก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ผมรีบเปิดฟังข้อความเสียงที่คุณน้าฝากเอาไว้ทันที
"จุนฮยองอา นี่น้าซอฮี แม่ซึงๆนะ พอดีมีไฟลท์ด่วนเข้ามา น้าคงไม่ได้กลับบ้านไปอีกสองสามวันเลย จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอกนะจ๊ะ แต่ตอนก่อนออกมาน้าเห็นมีคนมาด้อมๆมองๆแถวตึกที่น้าอยู่ น้าเลยอยากให้จุนฮยองไปอยู่กับฮยอนซึงหน่อยได้มั้ยจ๊ะ อ๊ะ! น้าต้องไปแล้วล่ะ ขอบคุณนะจ๊ะ...ติ๊ด"
"กึก"ผมทิ้งแขนสองข้างลงข้างตัวอย่างหมดแรง ตอนนี้ในหัวของหมดมันขาวไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี...
ในเมื่อน้าซอฮีไม่อยู่บ้าน...แล้วคนที่อยู่ในห้องตอนที่เราไปส่ง...คือใครกันล่ะ?
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฮยอนซึงทันทีที่ตั้งสติได้แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมามีเพียงเสียงรอสายดังซ้ำไปซ้ำมา
"โธ่เว้ย!!!"ผมแทบจะปามือถือทิ้งด้วยความโมโห ไม่ได้โมโหที่ฮยอนซึงไม่รับโทรศัพท์...แต่โกรธตัวเองที่ไม่อยู่ดูแลเขาอย่างที่ควรจะทำ
"ทำยังไงดีวะ.."ผมพูดกับตัวเองเสียงสั่น ถ้าให้เดินไปบ้านฮยอนซึงก็ต้องใช้เวลานาน ตอนนี้รถบัสก็ไม่วิ่งด้วย...
"จริงด้วย!!"ใช่..มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น
ไม่รอช้า ผมยกมือถือมาโทรออกทันที
"สวัสดีครับ...นี่ตำรวจใช่มั้ยครับ?.."
"ได้สิ..."คำตอบที่เบาซะจนเหมือนไม่ได้พูดจากร่างเล็กข้างหน้าทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
"โย.."
"ฉันคงตอบแบบนี้ ถ้านายทำอย่างนี้ตั้งแต่ห้าปีก่อน"แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็หุบไปเมื่อร่างเล็กตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"แต่รู้อะไรมั้ย ยุนดูจุน? หลังจากผ่านเรื่องที่ทรมานจิตใจตัวเองมาขนาดนี่น่ะ..คงไม่มีใครอยากกลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกหรอก..."
"โย ฟังพี่อธิบายก่อน"
"ไม่!! ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น"โยซอบหันมาปัดมือดูจุนที่รั้งตัวเขาไว้ออกและพูดเสียงดัง
แววตาที่เคยสดใส ตอนนี้เหลือเต็มไปด้วยความสงสัย ความไม่เข้าใจและความโมโห
น้ำตาใสๆเริ่มปริ่มที่ขอบตาเล็กน้อย
"โย..พี่.."ดูจุนได้แต่มองตาคู่นั้นอย่างเจ็บไม่แพ้กัน กี่ครั้งแล้วที่เขาทำคนข้างหน้าของเขาร้องไห้ ทั้งที่คนๆนี้เป็นคนที่เขารักที่สุด แต่เขากลับทำร้ายจิตใจร่างเล็กมากมาย
คำพูดคำอธิบายมีมากมายที่ดูจุนอยากบอก แต่พอเห็นโยซอบเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมันก็จุกอยู่ที่คอไปหมด
"หยุดเถอะ..มาอธิบายเอาตอนนี้มันไม่สายไปหน่อยหรือไง.. ถ้านายยังรักฉันอยู่จริงๆล่ะก็ เก็บคำอธิบายของนายเอาไว้แล้วเราสองคนก็ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก ส่วนเรื่องคำสั่งอีกแปดข้อกับงานตอนเย็น ฉันจะรีบเคลียร์ให้หมด และหลังจากนั้นหวังว่าเราจะได้ตัดขาดกันจริงๆตามที่สัญญากันไว้"โยซอบเหม่อมองไปนอกหน้าต่างก่อนพูดเสียงเรียบเฉย แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้ร่างบางกำลังพยายามกลั้นน้ำตาแค่ไหน เพื่อไม่ให้ตัวเขาเองดูอ่อนแอไปมากกว่านี้
"อืม...นั่นสินะ ฉันคงต้องปล่อยนายไปใช่มั้ย"ดูจุนยิ้มเศร้าก่อนจะนั่งก้มหน้าเงียบๆไม่พูดอะไรอีก โยซอบก้มมองร่างสูงเล็กน้อยและเดินจากไปเงียบๆ มีเพียงประโยคทิ้งท้ายไว้ประโยคเดียว
"บอกแดเนียลให้ด้วยว่าฉันปวดหัว..ไม่เข้าเรียน"
'แกร่กๆๆ'
"เฮ้อ~ อยู่บ้านฉันยังไม่เคยนั่งขัดส้วมสะอาดเอี่ยมอ่องขนาดนี้เลยนะ"ร่างเล็กนั่งกอดเข่าบ่นกับตัวเองอย่างหน่ายๆ มือสองข้างก็ขัดโถส้วมต่อไปไม่หยุด
หลังจากหนีเรียนมาเมื่อเช้าโยซอบก็เดินล่องลอยไปนู่นมานี่อย่างเบื่อๆมาตลอดแล้วสุดท้ายก็มาทำงานที่นี่ อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกไม่อยากทำอะไรเลยล่ะมั้ง..
'แกร่ก' เสียงประตูห้องน้ำเปิดขึ้น ร่างเล็กหยุดขัดชั่วขณะและล็อคประตูห้องที่เขาขัดอยู่ลงเบาๆ
'ตึก ตึก ตึก'เสียงรองเท้าดังขึ้นสามก้าวและหยุดลงหน้าอ่างล้างมือ
'เข้ามายืนนิ่งๆ แล้วเข้ามาทำอะไรวะ'โยซอบแนบหูกับประตูแต่พอไม่ได้ยินเสียงอะไรก็บ่นในใจและมองออกไปทางซอกประตูงงๆ และคนที่เขาเห็นอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น
"ยุนดูจุน..."ร่างเล็กหลุดเรียกชื่อคนตัวสูงหน้ากระจกออกมาเสียงเบาและรีบปิดปากทันทีที่รู้ตัว แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อดูจะไม่ได้ยิน
ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงตอนนี้คิ้วขมวดด้วยความเครียดจนน่ากลัว แขนทั้งสองข้างท้าวกับอ่างและทิ้งน้ำหนักลงอย่างหมดแรง จากที่เห็นคงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่
'แกร่ก'เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้โยซอบสะดุ้งเล็กน้อย
"ฮยองเรียกผมมามีอะไรรึเปล่า?"
"อ่อ มาแล้วหรอ"เสียงที่คุ้นหูของอีจุนดังตามมาทันทีประตูปิดลง
"ช่วยล็อคประตูด้วย เรื่องที่ฉันอยากคุยกับนายมัน...สำคัญ"
"สำคัญจนต้องมาคุยในห้องน้ำเนี่ยนะ ฮะๆๆ"อีจุนถามขำๆ แต่ก็ยอมกดล็อคประตูแต่โดยดี
"โอเค ว่ามาสิฮยอง"
"ฉันอยากคุยกับแกเรื่อง...ยังโย"
'อึก..'โยซอบผละตัวออกมาจากผนังเงียบๆ คุยเรื่องเขางั้นเหรอ..เรื่องอะไรกัน?
"อืม...ทำไมล่ะฮยอง?"
"ฉันรักโย และยังไม่เคยเลิกรักเขาด้วย และฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าฉันคงยกโยให้แกไม่ได้แล้ว"
'นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน..!!'โยซอบทรุดลงกอดเข่ากับพื้นอย่างไม่เข้าใจ อีจุนมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ได้ยังไงกัน..?
"อะไรกันฮยอง หลังจากเราทำตามที่ตกลงกันไว้มาตั้งห้าปีแล้วเนี่ยนะ"
"ใช่..."
"ผมคงยอมไม่ได้หรอกฮยอง ผมเองก็รักโยซอบฮยองเหมือนกันนะ"
"แต่ฉันรักโยมาก่อน...และโยเองก็รักฉัน"
"แต่ตอนนี้เขาเกลียดฮยองแล้วไม่ใช่รึไงล่ะ?!? อีกอย่าง...ฮยองจำไม่ได้รึไงว่าตัวเองเคยพูดอะไรเอาไว้..?"
"ฉันจะยอมทำทุกอย่างที่นายขอ..."
"ใช่!! แล้วฮยองจะมาล้มเลิกหลังจากผ่านไปห้าปี หลังจากสิ่งที่เราทำมันใกล้จะสำเร็จแล้วเนี่ยนะ?!? ยังไงซะต่อให้เราล้มเลิกหรือไม่ โยซอบฮยองก็เกลียดฮยองไปแล้วไม่ใช่รึไง ดังนั้นผมคิดว่าฮยองควรจะทำตามข้อตกลงของเราให้มันจบๆไปเลยดีกว่า"
"แต่ถ้าวันนึงโยซอบเค้ารู้เรื่องจริงขึ้นมาล่ะ นายจะทำยังไง?"
"เขาไม่มีทางรู้ ตราบใดที่เราทั้งสองคนไม่บอก...หรือฮยองคิดจะบอก?"
'แกร่ก'ร่างเล็กที่นั่งฟังเงียบๆมาตั้งแต่แรกค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นด้วยแรงเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเปิดกลอนประตูห้องน้ำที่แอบอยู่ออกช้าๆ
"ไม่ต้องมีใครบอกทั้งนั้นแหละ..."เสียงเล็กที่เค้นพูดออกไปอย่างยากลำบากเพราะอารมณ์ที่หลากหลายจุกอยู่ที่อกดังขึ้นแผ่วเบาจนแทบไม่มีเสียง แต่ก็เรียกสายตาตกใจจากอีกสองคนในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
"ย...โย/ฮยอง!?!"
"พวกเรามาถึงโอไฮโอเรียบร้อยแล้วนะคะ กรุณาลงจากรถและถ้าหากมีไปรับสัมภาระข้างล่างรถก่อนไปด้วยนะคะ..."เสียงใสจนแสบหูจากลำโพงปลุกให้ชายหนุ่มทั้งสองที่นอนซบกันอยู่แนบชิดอย่างน่าอิจฉาตื่นขึ้นและปรือตาปรับให้เข้ากับแสงข้างนอกอย่างสะลึมสะลือ
"ถึงแล้วเหรอ?"ดงอุนหาววอดใหญ่พลางขยี้ตาอย่างงัวเงีย
"อื้ม ถึงซะทีเนอะ ไปกันเถอะ เว้ย!"กีกวังที่ตื่นเต็มร้อยแล้วลุกจากที่นั่งอย่างกระฉับกระเฉงแต่ก็ถูกดงอุนดึงกลับลงไปนั่งตักและเกยคางขึ้นที่ไหล่ดื้อๆโดยไม่อายสายตาคู่อื่นที่มองมาเลย
"ตอนนี้คนเยอะ รอคนน้อยลงก่อนค่อยลงไปก็ได้"ดงอุนพูดอ้อนเบาๆและกระชับอ้อมกอดขึ้นเล็กน้อย
"ไม่อายคนอื่นก็อายฉันหน่อยเถอะ แอ๊บเสียงมาได้"กีกวังดุพลางตีแขนดงอุนที่รัดอยู่รอบตัวเขา แต่จริงๆแล้วเขาเองก็หน้าแดงอยู่ไม่น้อย
"ไม่น่ารักเลยหรอ? ฉันอุตส่าห์แบ๊วจนเจ็บคอละนะ"
"ขอโทษที่ต้องบอก...แต่เสียงธรรมดานายยังน่ารักกว่าเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"
"ง่ะ=[]= แย่ขนาดนั้นเชียว"ดงอุนมองหน้ากีกวังเซ็งๆ ทำให้คนบนตักหัวเราะหนักขึ้นกว่าเดิม
"ล้อเล่นน่าๆ คือเสียงน่ะมันก็น่ารัก แต่หน้าของนายมันแอ๊บไม่เข้ากะเสียงซักนิดน่ะสิ"
"มันเฮิร์ทกว่าเดิมอีกแฮะ"
"อ่าว ซะงั้น?!?"ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันและหัวเราะออกมาพร้อมกัน
"ห้อง307นะคะ นี่ค่ะกุญแจ"พนักงานสาวหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ยิ้มหวานเยิ้มพลางยื่นกุญแจให้ดงอุนที่มาในเสื้อยืดกับกางเกงสี่ส่วนธรรมดา แต่มันก็ยังทำให้เขาดูดีเหมือนนายแบบอยู่ดี
"เอ่อ..ขอบคุณครับ"
"ค่ะ^^"
"เอ่อ คุณครับ.."
"คะ"พนักงานคนเดิมยิ้มกว้างอย่างกับถูกหวยกลับทันทีที่โดนเรียก
"กุญแจน่ะครับ"ดงอุนยิ้มแหยๆพลางชี้ไปที่มือคุณเธอที่ไม่ยอมปล่อยกุญแจ ซ้ำยังกำซะยังกับทากาวตราช้าง
"อ๊ะ! จริงด้วย ขออภัยด้วยนะ^^"
"ฮะๆ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ"ดงอุนยิ้มให้พนักงานสาวคนนั้นบางๆและเดินออกมาทิ้งให้เธอนั่งพร่ำเพ้อต่อไป
"ป่ะ ไปกันเถอะ"ดงอุนเดินมาจับมือของกีกวังที่นั่งเหม่อรออยู่ที่โซฟาในล็อบบี้ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์
"แหม~ ดงอุนของเราเนื้อหอมไม่เปลี่ยนเลยนะ"กีกวังแซวเสียงติดประชดเล็กน้อย ดงอุนก็อดหัวเราะความเก็บอารมณ์ไม่เป็นของคนตัวเล็กไม่ได้
"แน่น้อน~ เกิดมาหล่อซะอย่าง"
"เออออออ"
"ทำไมล่ะ หึงฉันหรอ?"
"บ้าเรอะ! เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยฉันจะหึงนายทำไม"
"ช่างเถอะ นายจะหึงฉันรึเปล่าก็ไม่เป็นไร แต่รู้ไว้อย่างนะ ว่าต่อให้จะมีคนกี่คนมารักมาชอบฉัน ต่อให้ฉันเนื้อหอมแค่ไหน ยังไงฉันก็รักนายคนเดียวกีกวัง"
"=/////////=....ฉันไปห้องก่อนล่ะ"ว่าแล้วคนตัวเล็กก็คว้ากระเป๋าตัวเองแล้ววิ่งหายขึ้นลิฟท์ไปทันที
"ห้องนายมันก็ห้องฉันน่ะแหละกวังอา~ ฮะๆ อีกีกวังเวอร์ชั่นเดิมกลับมา 100% เต็มแล้วสินะ"ดงอุนตะโกนตามไปไม่ดังมากตามมารยาทในโรงแรม และยืนอมยิ้มมองตามคนตัวเล็กไปเงียบๆ
อันนย๊องค่า ไรเตอร์กลับมาแล้วกับอีแอลตอนใหม่
ทิ้งไว้ให้รอนานเลยเนอะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ หัวมันตันๆไปสองสามวันเลยแต่งไม่ออก แต่พอหัวแล่นปุ๊บ ไรเตอร์ก็มาอัพให้ทันทีเลยนะคะ
อืมๆ....มีคนถามมาว่าใครมาช่วยซึงใช่มั้ยเอ่ย
ผู้นั้นไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่ไหนไกลหรอกค่ะ...ตำรวจนี่เอง 555
สำหรับคู่ดูซอบ ที่ไรเตอร์แสนจะซัพพอร์ต ชักดราม่าขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ฮุๆ แต่เมื่อถึงจุดพีคเมื่อนั้นความหวานก็จะมาใช่มั้ยเอ่ย..?
สุดท้ายนี้ ไรเตอร์กำลังคิดอยู่ว่าจะแต่งเอ็นซีดีมั้ยคะ เพราะไรเตอร์ก็ไม่เคย ถ้ารีดเดอร์อยากอ่านกันไรเตอร์ก็จะลองแต่งดู ไม่รู้จะออกมาดีมั้ยแต่ยิ่งได้กำลังใจจากเม้นท์เท่าไหร่ไรเตอร์ก็จะยิ่งมีแรงบันดาลใจมากขึ้นนะ:D
ปล.รักรีดเดอร์ทุกคนจุ๊บๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น