ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ex-Lover (มันจบไปแล้ว...) [Fic BEAST]

    ลำดับตอนที่ #8 : [07] เรื่องผิดพลาด

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 55


    "ฉันว่าฉันจำนายได้แล้วล่ะ...ยงจุนฮยอง"ร่างบางพูดพร้อมคลี่ยิ้มสวย

    "นาย...นายพูดจริงใช่มั้ย?"จุนฮยองถามฮยอนซึงเสียงสั่น น้ำตาใสๆเริ่มไหลออกมาจากดวงตาคม แต่นี่ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้า เป็นน้ำตาแห่งความสุขต่างหาก เมื่อคืนคนตรงหน้ายังจำเขาไม่ได้และยังผลักไสเขาอยู่ด้วยซ้ำ

    "ฉันเคยโกหกนายด้วยหรอ? ^^"ว่าแล้วร่างบางก็ยันตัวขึ้นนั่งและดึงมือหนามากุมเบาๆพลางมองตาอ่อนโยนแบบที่เคยทำเมื่อก่อน...สายตาที่จุนฮยองคิดถึงมาตลอด...

    "ฉันแค่ตกใจน่ะ..ก็เมื่อวานนายยังบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับนายอยู่เลยนี่นา"ร่างสูงพูดพลางนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างบาง

    "ก็ตอนนั้นฉันยังจำนายไม่ได้นี่นา...แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว. ..ฉันขอโทษนะ"ฮยอนซัึงมองหน้าร่างสูงก่อนยกมือขึ้นกอดจุนฮยองเกยคางขึ้นบนไหล่กว้างแล้วกระซิบประโยคสุดท้ายที่หูร่างสูง ทำเอาร่างสูงยิ้มไม่หุบ

    "นายไม่รู้หรอกว่าฉันตามหานายมานานแค่ไหน...ฮยอนซึง"ว่าแล้วร่างสูงก็ผละตัวออกจากร่างบางแล้วเชยคางเรียวขึ้นก่อนประกบริมฝีปากหนาลงกับปากบาง เขาค่อยๆโอบเอวบางเข้าหาตัว ร่างบางก็ผลักอกหนาออกมาเล็กน้อยเพื่อหายใจ ก่อนร่างสูงจะดึงร่างบางเข้ามาจูบต่ออีกครั้ง ลิ้นอุ่นสอดเข้าไปในปากบางและควานหาลิ้นของร่างบางอย่างโหยหา ฮยอนซึงเองก็จูบตอบไปอย่างต้องการไม่น้อยไปกว่าจุนฮยอง

    ร่างหนาค่อยๆกดไหล่ของฮยอนซึงลงกับฟูก แต่ร่างบางดูจะตั้งสติได้เลยผลักไหล่หนาออกเบาๆ

    "มีอะไรหรอ?"จุนฮยองผละออกจากฮยอนซึงก่อนถามอย่างงงๆ

    "ยังจะถามมาได้...พอฉันจำนายได้ปุ๊บก็จะเอาปั๊บเลยรึไง ก็บอกแล้วว่ารอให้ฉันพร้อมก่อน"

    "ตั้งแต่เริ่มคบกันจนวันนี้ก็เจ็ดปีแล้วนะฮยอนซึง...นายจะให้ฉันอดทนไปถึงไหน"จุนฮยองมองตาของฮยอนซึงด้วยแววตาเศร้าๆแต่ก็ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาจากตัวของร่างบาง

    "ฉันรู้...ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากหรือรังเกียจ...แต่นายเคย...ทำให้ฉันเสียใจ ถึงฉันจะจำไม่ได้ว่าทำไม แต่นายเป็นคนทำให้ฉันตัดสินใจ...หนีนายมา"

    "อืม...นั่นสินะ"ว่าแล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง ฮยอนซึงชันตัวขึ้นนั่งก่อนจะมองจุนฮยองที่ก้มหน้ากุมขมับอยู่

    "อย่าคิดมากไปเลยจุนฮยอง...ถึงตอนนั้นนายจะทำให้ฉันเสียใจ แต่นายก็ตามหาฉันมาตลอดหกปี ฉันจะถือว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่านายรักฉันจริงๆ งั้นฉันจะให้อภัยนายละกัน"เขาพูดพร้อมยิ้มให้ร่างสูงอย่างห่วงใย จุนฮยองหันมามองตาร่างบางก่อนยิ้มเศร้าๆ

    "ทั้งๆที่นายก็ยังจำไม่ได้ว่าฉันทำอะไรให้นายเสียใจน่ะนะ...?"

    "อื้ม"ฮยอนซึงพยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง

    "แต่นายถึงขนาดตัดสินใจมาที่นี่ มันคงแย่มากๆ..."

    "ก็บอกว่าอย่าคิดมากไงเล่าาาา"ฮยอนซึงจับไหล่หนาสองข้างโยกไปมาแล้วพูดเสียงอ้อนๆแบบที่เคยทำ ทำให้จุนฮยองยิ้มออกและหัวเราะกับการกระทำของร่างบาง

    "งั้นเรา...เหมือนเดิมแล้วนะ?"

    "หืม? อะไรเหมือนเดิมหรอ?"

    "ก็เราเป็นแฟนกันเหมือนเดิม...แล้วนะ"จุนฮยองถามตะกุกตะกุกอย่างเขินๆ ทำเอาร่างบางหัวเราะนิดๆ

    "ไม่เห็นต้องถามเลย...ฉันก็พูดมาขนาดนี้"

    "ฉันรักนายนะฮยอนซึง ไม่เคยเลิกรักนายเลย..."

    "เหมือนกันแหละ ฮิๆ"

     

     

     

    "พวกนาย...ทำอะไรกันน่ะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศเงียบ คนที่เป็นน้องชายที่หันหลังให้ในตอนแรกหันมามองอย่างตกใจก่อนจะผละตัวออกจากร่างเล็ก

    "เอ่อ...คือ...คือว่า..."อีจุนพูดแก้ตัวตะกุกตะกัก

    "นายเข้ามาได้ยังไง เจ้าของห้องยังไม่อนุญาต"แต่ก่อนอีจุนจะได้พูดอะไร โยซอบก็ถามขึ้นอย่างอารมณ์เสีย

    "ก็ประตูไม่ได้ล็อคแล้วทำไมฉันจะเข้าไม่ได้ล่ะ ยังไงก็...ขอโทษนะทค่มาขัดจังหวะ"ปากพูดขอโทษ แต่เจ้าของเสียงกลับยิ้มมุมปากแกมเยาะเย้ย

    "ฮยอง..."

    "ตอนแรกฉันจะมาตามนายกลับบ้าน แต่ถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะบอกแม่ให้แล้วกันว่าแกอ่านหนังสืออยู่บ้านเพื่อน"ดูจุนหันไปยิ้มให้อีจุนอย่างมีเลศนัยก่อนจะหันหลังแล้วก้าวเท้าเดินไป เขาชะงักมองที่เตียงนอนตรงมุมห้องเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไป

    "ฉันว่านายกลับบ้านไปก่อนดีกว่า...เรายังไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้น อ่อ ฝากไปบอกเขาด้วยว่าฉันไม่ได้ง่ายแล้วนายก็ไม่ได้แย่แบบที่เขาคิด ไม่สิ ความแย่ของคนเราไม่ได้ส่งต่อทางพันธุกรรม ดังนั้นอย่าคิดว่าคนพี่แย่แล้วน้องจะแย่ไปด้วย..."โยซอบพูดแบบใส่อารมณ์โกรธๆ ทำเอาอีจุนที่ไม่ค่อยได้เห็นร่างบางในมุมนี้อึ้งไปครู่หนึ่ง

    "ขอโทษนะ...ฉันคงอารมณ์เสีย...มากไปหน่อย"

    “อย่าคิดมากไปเลยฮยอง...ผมเข้าใจ งั้นผม...ไปก่อนนะ”อีจุนยกมือขึ้นลูบหัวโยซอบสองสามครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปและปิดประตูห้องให้เบาๆ

    “อย่าพาลสิ...ยังโยซอบ”เขาพูดก่อนจะต่อยหัวตัวเองเบาๆ

     

    เช้าวันต่อมา...

    안돼 더는 안돼

    อันเดว ทอนึน อันเดว

    ไม่ได้ ไม่ได้อีกเเล้ว

    이말을 하기가 두려워

    อีมารึล ฮากีกา นัน ดูรยอวอ 

    คำพูดคำนี้สำหรับฉันมันช่างน่ากลัว

    그래서 못본거야 

    กือแรซอ นอล มชบนกอยา

    เพราะว่าฉันจะไม่ได้เห็นเธออีก

    우린 안돼 정말 안돼 

    อูริน อันเดว จองมัล อันเดว

    พวกเราไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ

    어차피 사랑해선안되는걸 알아

    ออชาพี ซารางเฮซอนันเดวนึนกอล อัลรา

    ในที่สุดก็รู้ว่าความรักนี้เป็นไปไม่ได้อีกเเล้ว

    이제서야 사랑했는데 사랑했는데...

    อีเจซอยา ซารางเฮชนึนเต นอล ซารางเฮนึนเต...

    ตอนนี้มันเเค่รัก เเค่เคยรักเธอ...”

     

    เสียงริงโทนใหม่ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของโยซอบที่ยังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียง ทำให้ร่างเล็กค่อยๆปรือตาขึ้นก่อนจะคว้าโทรศัพท์มารับทันที

    “ครับ..?”

    (ไม่ต้องมาครับเลย นี่มันกี่โมงแล้ว)

    “แล้วนี่..ใครครับ”

    (ฉันไงแดเนียล อยู่ไหนเนี่ยเค้าเริ่มเรียนกันแล้ว)

    “หืม เรียน?...เดี๋ยวนะ...เฮ้ย เรียน!!!

    (เออดิครับ รีบมาเลยๆ แค่นี้ล่ะ)

    “อืมๆๆ”ว่าแล้วร่างบางก็กระวนกระวายไปมหาลัยทันที

     

    “วันนี้เราจะมาคุยประสบการณ์การบริหารธุรกิจกับรุ่นพี่จากมหาลัยที่จบไปแล้วของเรากันนะคะ เอาล่ะ ครูขอแนะนำ”

    “ครืดดดดดดดดดดดด”

    “ขอโทษที่มาสายครับอาจารย์”เสียงประตูที่ถูกกระชากให้เปิดอย่างแรงราวกับแผ่นดินไหว กับเสียงตะโกนของคนที่ประตูทำเอาทั้งห้องเข้าระยะช็อค

    “อ่ะ...จ่ะๆๆ เชิญไปนั่งได้เลยจ้ะโยซอบ”อาจารย์ที่อยู่หน้าห้องพูดเสียงสั่นๆนิดหน่อย สงสัยยังไม่หายตกใจ โยซอบพยักหน้าก่อนส่งยิ้มน่ารักให้อาจารย์เป็นการขอโทษ แล้วเดินไปนั่งที่นั่งตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตุคนที่ยืนอยู่ข้างๆอาจารย์ตรงหน้าห้องเลย

    “ทำไมมาสายงี้เนี่ย ปกตินายมาก่อนเวลาเรียนตลอดไม่ใช่หรอ?”

    “นาฬิกามันไม่ปลุกน่ะสิ”พอมานั่งปุ๊บ แดเนียลเพื่อนสนิทของเขาก็กระซิบถามทันที อย่างที่เขาพูด ปกติโยซอบมาคนแรกของห้องด้วยซ้ำ

    “เรียนไปก่อนไป”ร่างเล็กปัดมือไล่หน้าเพื่อนสนิทให้หันไปมองหน้าห้อง ส่วนตัวเองก็วุ่นกับการจัดของวางบนโต๊ะ

    “เอาล่ะๆ งั้นครูจะพูดต่อเลยนะ วันนี้ครูได้เชิญรุ่นพี่ที่จบไปแล้วของเรา ไม่ใช่จบธรรมดานะคะ พี่เขาจบก่อนเวลาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้านบริหารธุรกิจโดยเฉพาะด้วย”

    “เก่งจังเลยเนอะ...”

    “อ...อืม”ร่างบางตอบไปเบาๆ แต่ในใจเขาชักรู้สึกตะหงิดๆ ไอ้ที่อาจารย์พูดมาเนี่ย...มันเหมือนกับ...

    “ทุกคนทำความรู้จัก...ยุนดูจุน เอ้าปรบมือ!!!”และแล้วความรู้สึกแปลกๆก็เป็นจริง ร่างบางจิ๊ปากไม่พอใจก่อนจะจัดแจงเก็บของที่เพิ่งเอาออกมาเมื่อกี๊ใส่กระเป๋า

    “อะไรเนี่ย จะเก็บของทำไมอ่ะซอบบี้”แดเนียลหันมามองเขาด้วยสายตางงๆ

    “ไม่มีอะไรหรอก อยู่ดีๆก็หมดอารมณ์จะเรียน ไหนๆวันนี้ก็แค่คุยอยู่แล้วไม่ได้มีเรียนอะไร ไม่อยู่คงไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยว จารย์ออกจากห้องแล้วบอกด้วยฉันจะได้ออกไป”ว่าแล้วเขาก็หยิบกระเป๋ามาสะพายไว้หลวมๆรอเวลาลุก

    “งั้นครูฝากดูจุนดูแลน้องๆด้วยนะจ๊ะ อาจารย์ไปล่ะ”และอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปในที่สุด โยซอบใต้องรอให้แดเนียลบอก เขาลุกขึ้นแล้วตรงไปยังทางออกทันที ทำเอาคนอื่นในห้องอึ้งไปตามๆกัน(อีกครั้ง) เด็กเนิร์ดอย่างเขาเนี่ยนะหนีเรียน???

     

    “หมับ”แต่ก่อนโยซอบจะออกจากห้องเรียนได้ คนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็คว้าข้อมือของเขาเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับดึงเขาไปประจันหน้า

    “หนีเรียนหรอครับ...น้องเขย...?”ร่างสูงถามเบาๆให้พอได้ยินกันแค่สองคน พลางดึงร่างบางให้เข้าไปใกล้ๆ ตอนนี้หน้าของทั้งสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ ร่างสูงยักคิ้วถามอย่างกวนๆ ร่างเล็กก็ได้แต่กัดปากอย่างเจ็บใจ ให้ด่าออกไปตอนนี้ก็คงไม่ดี สาววายบางกลุ่มที่นั่งอยู่หลังห้องเริ่มวี๊ดว้ายมาเป็นระลอกๆ ดูจุนหันไปมองอย่างได้ใจ แล้วใช้สองมือดึงเอวบางให้เข้ามาใกล้ขึ้น

    “นายทำอะไรไม่ทราบ”โยซอบหมดความอดทนแล้วตะคอกดูจุนออกไปเต็มเสียง

    “อ๊ะๆ วันนี้ผมเป็นอาจารย์ครับ กรุณาพูดสุภาพด้วย”

    “ฮึ่ย...ปล่อยผมได้แล้วครับอาจารย์...ทำอย่างนี้มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี”โยซอบสบถเล็กน้อย ก่อนเปลี่ยนมาฉีกยิ้มแล้วพูดเสียงสุภาพ

    “เกรงว่าคงไม่ได้นะครับ เพราะถ้าปล่อยคุณนักเรียนคงจะหนีเรียน ไม่ดีครับไม่ดี”ดูจุนปล่อยมือข้างหนึ่งจากเอวโยซอบแล้วแกว่งนิ้วชี้พลางส่ายหัว

    “งั้นผมกลับไปนั่งเรียนก็ได้ครับ...อาจารย์”โยซอบเน้นคำว่าอาจารย์หนักๆ ก่อนจะผลักร่างสูงออกแล้วเดินกลับไปยังที่นั่งตัวเอง

    “หมับ”ดูจุนคว้าข้อมือเล็กไว้อีกครั้ง ทำเอาร่างบางเซเล็กน้อย ดูจุนเลยเข้าไปรับตัวโยซอบไว้ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาววายได้อีกระลอก

    “ขืนให้ไปนั่งตรงนั้น ผมเชื่อว่านักเรียนก็ไม่ตั้งใจเรียนหรอกครับ มานั่งตรงนี้ดีกว่า ใกล้ดี^^”เขาพูดพลางชี้นิ้วไปที่ที่นั่งแถวหน้าสุดซึ่งยังว่างอยู่

    “ทำไมผมต้องนั่งตรงนั้นด้วยล่ะ?”

    “ข้อแรกเพราะตอนนี้ฉันเป็นพี่เขยของนาย ถ้าฉันไม่พอใจนายฉันจะบอกให้น้องของฉันเลิกกับนาย”

    “เรื่องของเราสองคนนายเกี๋ยวอะไรด..”

    “อ๊ะๆๆ ยังมีข้อที่สอง เพราะฉันยังมีสิทธิ์สั่งนายได้อีกเก้าข้อ ซึ่งฉันจะถือว่านี่เป็นอย่างที่สอง นั่ง อยู่ ตรง นี้!!”ดูจุนก้มลงเอาหน้าผากชนกับโยซอบ ก่อนจะทำหน้าเย็นชาเหมือนปกติแล้วพูดน้ำเสียงกระด้างใส่ร่างเล็กให้เห็นและได้ยินกันเพียงสองคน

    “ชิ”โยซองได้แต่จิ๊ปากไม่พอใจแล้วทิ้งตัวลงพิงพนักพิง

    “แค่นั่งตรงนี้ก็พอใช่มั้ย งั้นก็เชิญสอนเลยครับอาจารย์ มันเสียเวลา”โยซอบตั้งใจกระแทกเสียงที่ประโยคสุดท้าย แต่ก็ยังยิ้มน่ารักอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “เอาล่ะ งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า ผมจะเล่าเรื่องอาชีพของผมให้ฟังก่อน...”และแล้วคลาสก็เริ่มขึ้น...

     

    “เฮ้อ...เมื่อยจัง แต่รุ่นพี่ดูจุนนี่เค้าก็น่ารักจังเลยเนอะ ตอบทุกคำถามตั่งแต่สีที่ชอบยันตารางธาตุ ฮิๆ”เสียงคุยของเพื่อนๆคนอื่นในห้องดังขึ้นมาจากด้านหลังเป็นแนวเหมือนๆกันหมด...ชมกันเข้าไป

    โยซอบเดินดูดน้ำปั่นในมือที่แดเนียลเพิ่งวิ่งไปซื้อมาให้เมื่อกี๊เพราะเห็นสภาพใกล้ตายอย่างเซ็งๆ

    “นั่นมันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นแหละนะ...เฮ้อ คนเรา”

    “หืม อะไร ใคร ยังไง???”แดเนียลที่เห็นโยซอบพูดอยู่คนเดียวแถมยังถอนหายใจทั้งๆที่ไม่ค่อยจะทำถามขึ้นอย่างสงสัย

    “รุ่นพี่ดูจุนหรอ? พวกนายรู้จักกันหรอ”

     

    อืม...เพื่อนฉัน...โดนแตะเนื้อต้องตัวขนาดนี้ ถ้าไม่รู้จักเลยกระผมคงเป็นสัตว์มีนอไปแล้วล่ะนะ

     

    “ก็พอรู้จักกันแหละ แต่เขาไม่ใช่คนดีอย่างที่นายคิดหรอกนะ จริงๆแล้วหมอนี่น่ะ...”

    “อะแฮ่ม นินทาอาจารย์อย่างนี้ไม่ดีนะครับ”เสียงกระแอมดังขึ้นระหว่างทั้งสองคนจากข้างหลัง

    “อ้าวรุ่นพี่ ผมไม่ได้พูดอะไรนะครับ มีแต่ซอบบี้พูดคนเดียว...”

    “อ้าว ไอ้เพื่อนเวร แล้วนาย เอ้ย อาจารย์มีอะไรรึเปล่าครับ ชอบยุ่งกับผมจัง”

    “ฉันมีธุระจะให้นายช่วยหน่อยน่ะ ยังโย^^

    “อึก”ชื่อที่ถูกเรียกออกมาทำเอาร่างเล็กเงียบไป

    “เหยๆ อาจารย์อย่าเรียกซอบบี้อย่างนั้นนะครับ เจ้าตัวเขาไม่ชอบ”

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาคงไม่เอาเรื่องอะไรผมหรอก จริงมั้ยครับ...ยังโย?”ดูจุนพูดแล้วยักคิ้วกวนประสาทร่างเล็ก

    “จะพูดมากอีกนานมั้ย ผมมีธุระต้องไปทำ”โยซอบหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนถามห้วนๆอย่างอารมณ์เสียและหมุนตัวเตรียมเดินออกจากวงสนทนา

    “หยุดก่อนๆๆ ฉันแค่จะถามว่าวันนี้นายจะไปซ้อมที่วงมั้ย เดี๋ยวฉันไปด้วย”ดูจุนคว้าข้อมือเล็กของโยซอบเป็นครั้งที่สามของวัน ร่างเล็กหันมาทำหน้าค้อนใส่อย่างรำคาญๆ

    “เพื่อ? ฉันว่าคนที่วงเขาก็คงไม่ค่อยอยากเจอกับนายเท่าไหร่หรอกนะ”

    “ใครจะไปรู้ล่ะ อีกอย่างนายคงยังจำคำสั่งแรกของฉันได้...ฉันบอกแล้วไง...ว่าฉันจะจีบมินฮยอก”

    “อ้อ นั่นสินะ นี่จะเอาจริงหรอ ตอนแรกคิดว่านายละเมอ มันถึงได้เกินจริงได้ขนาดนั้น”โยซอบพูดพลางยิ้มเยาะ

    “เหอะ ถ้าฉันทำได้จริงๆขึ้นมาล่ะนายจะเถียงไม่ออก หึๆ งั้นเอ่อ...นักเรียน..?”

    “แดเนียลครับ”

    “อ่อ แดเนียล ผมขอยืมตัวเพื่อนคุณหน่อยนะครับ”

    “อ่อ เชิญครับเชิญ”แดเนียลยิ้มพลางผายมือไปที่ทางออก ดูจุนก็ก้มขอบคุณนิดหน่อยแล้วลากร่างเล็กไปที่ทางออกอย่างไม่ลำบากเท่าไหร่นัก

    “เฮ้ย แดเนียลลลลล อย่าทิ้งฉันอย่างนี้เซ่!!!

    Bye…See Ya Seobie”เสียงแดเนียลที่ดังมาจากทางเดินข้างหลังทำร่างเล็กได้แต่กัดฟันกรอด เท้าก็พยายามจะหยุดแรงลากของร่างสูงข้างหน้า มือก็พยายามแกะมือตัวเองออก แต่ดูจะไม่ได้ผล จนสุดท้ายก็ลงเอยว่าเขาถูกลากมาอยู่หน้ารถBMWสีดำมันเงาของดูจุนแล้วเรียบร้อย

    “แกร๊ก”ดูจุนเดินไปเปิดประตูหลังรถก่อนหันมามองโยซอบเชิงบอกให้ขึ้นรถ แต่แล้วเขาก็ค้างเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ แล้วก็ปิดประตูหลังเปลี่ยนไปเปิดประตูหน้าแทน

    “เข้ามานั่งซะเร็วๆ หรือจะให้อุ้ม”ดูจุนกลับมาพูดน้ำเสียงเย็นชาใส่เขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ารอบตัวไม่มีใครแล้ว

    “เออๆ ให้เกียรติกันหน่อยเถอะ ถ้าฉันปฏิเสธไม่ช่วยต่อขึ้นมาล่ะก็ อกหักดามไม่ได้แน่ ชิ”ปากก็ประชดไปแต่ตัวก็เข้ามาอยู่บนเบาะรถเรียบร้อย

    “แกร๊ก ตุบ”ดูจุนเดินอ้อมไปเปิดประตูรถก่อนจะนั่งลงที่นั่งคนขับ

    “นั่งดีๆแล้วอย่ากวนประสาท วันนี้...นายเป็นคนของฉันหนึ่งวัน...

    “ฮ...ฮะ!?!

     

     

     

    “กรึ่ก แอ๊ด...”ร่างสูงเปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ตีสามกว่าๆ กีกวังน่าจะหลับไปแล้ว และเขาก็ไม่อยากทำคนตัวเล็กตื่น

    “อะ...อ๊า”เสียงครางที่ก็น่าจะรู้อยู่ว่าเสียงอะไรดังมาจากในห้องทันทีที่ดงอุนเหยียบพื้นห้อง ทำเอาเขาสะดุ้งแล้วมองซ้ายมองขวา

    “ไม่เอาน่า...อาจจะห้องข้างๆก็ได้”เขาส่ายหัวพลางคลายเน็กไทสีดำที่คอออกเล็กน้อย

    “ฮึก...แรงอีก..อ๊า..”เสียงที่ดังมาอีกครั้งทำเอาร่างสูงกลืนน้ำลาย คราวนี้เสียงมันดังขี้นกว่ารอบแรก...มาจากในห้องนอนของกีกวัง ดงอุนกำหมัดแน่นก่อนจะก้าวฉับๆไปที่ประตู ก่อนจะเปิดมันออกอย่างแรง

    “ปัง!!!

    “หืม อ้าวคุณดงอุน”

    “อ้าวอุนจิมาแล้วหรอ?”เสียงใสถามขึ้นทำให้ดงอุนงงเล็กหน้า เขาเงยหน้าจากพื้นไปมองสองคนที่อยู่ในห้อง...

     

    เอ๋ ไม่ได้มีอะไร...หรอ?

     

    “เป็นอะไรรึเปล่า เปิดประตูซะยังกะไฟไหม้”กีกวังถามพลางหยิบป๊อปคอร์นในถังข้างตัวมากิน

     

    ถามมาได้...ก็เสียงมัน...เหมือน...

     

    “เปล่าหรอก...มันง่วงน่ะ ว่าแต่พวกนายดูอะไรกัน เสียงนี่ดังไปถึงข้างนอกเลย”

    “อย่าไปบอกใครนะครับคุณดงอุน...คุณจียงเขาให้กีกวังฮยองมาล่ะครับ”

    “ฮะ?? ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถึงจียงฮยองให้มาแล้วทำไมพวกนายต้องมานั่งดูเรื่องแบบนี้กันสองต่อสองด้วยล่ะ”ดงอุนเผลอใส่อารมณ์ในการถามไปนิดหน่อย(ไม่นิดเท่าไหร่)ทำเอามีร์กลืนน้ำลายอย่างกลัวๆ

    “ใจเย็นๆน่า ก็ตอนแรกฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วตอนต้นเรื่องมันก็เป็นหนังธรรมดาๆ นายนั่นแหละเข้ามาไม่ถูกช่วง”

     

    ถ้าฉันมาช้าไปอีกหน่อยนายอาจจะโดนหมอนี่จับกดไปแล้วก็ได้นะเฟร่ย

     

    “แต่พวกนายก็ไม่ควรมาดูอะไรแบบนี้สองต่อสองนะ ถ้าอารมณ์มันมาแล้วพวกนายเลยเถิดกันไปกว่านี้จะเป็นยังไงกันเล่า”ดงอุนเถียงออกไปข้างๆคูๆ กีกวังทำหน้าหงุดหงิดปนไม่เข้าใจก่อนจะพูดขึ้นมา

    “พูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง...รู้มั้ยว่ามันดูถูกฉันแค่ไหนดงอุน ฉันก็บอกแล้วว่ามันก็เป็นแค่ฉากๆนึง ฉันกับมีร์เองก็ไม่ได้คิดอะไรกันไปมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง นาย...ไม่เชื่อใจฉันเลยรึไง”

    “ฮยอง...”

    “ไม่เป็นไรมีร์...วันนี้นายกลับไปก่อนดีกว่าฉันอยากอยู่คนเดียว แล้ววันหลังถ้าเห็นฉันอยู่กับดงอุนก็อย่าทักฉันนะ ฉันไม่อยากโดนเข้าใจผิด”ร่างบางปาดน้ำตาก่อนจะหันไปมองดงอุนด้วยสายตาโกรธแล้วเดินกระแทกออกจากห้องไป ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังลั่น

    อีกสองคนที่เหลืออยู่ในห้องต่างก็จ้องหน้ากันอย่างเอาเรื่องอยู่เงียบๆ

    “คุณมันโง่...และแย่ที่สุด...คุณก็รู้ว่าผมกับฮยองไม่ได้คิดอะไรกันแล้วจะทำแบบนี้ลงไปทำไม คุณก็รู้ว่ามันจะทำร้ายจิตใจฮยอง เพื่อนกันแท้ๆไม่เชื่อใจเพื่อนตัวเองบ้างเลยรึไงฮะ?!?”มีร์ตะโกนว่าร่างสูงขึ้นมาก่อนจะวิ่งตามกีกวังออกไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนกำหมัดแน่นอยู่ในห้องว่างเปล่า

    “โธ่เอ๊ย...ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ!!!”เขาถีบเข้าที่โซฟาจนมันเลื่อนออกไปไกลพอดู

     

    ...เขาตั้งใจจะมาหาร่างเล็กและเล่าความจริงเรื่องงานแต่งงาน

    ...เขาตั้งใจจะมาง้อร่างเล็กและชวนให้หนีไปด้วยกัน

    ...เขาตั้งใจจะมาขอให้ร่างเล็กเชื่อใจในตัวเขา...ในความรักของเขา

    ...เขาตั้งใจจะมาขอความรักและขอกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับร่างเล็ก

    ...แต่นี่...มันผิดไปหมด

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกก”ร่างสูงตะโกนอย่างอารมณ์เสียก่อนจะทรุดลงนั่งกับพื้นและร้องไห้ออกมา

    “ถ้าฉันตามนายไปตอนนี้...นายก็คงไม่ฟังฉันหรอกใช่มั้ย...?”เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะพูดกับคนบนหน้าจอทั้งน้ำตา ก่อนจะกดพิมพ์ข้อความส่งไปให้ร่างเล็ก

     

    ฉันหวังว่าตอนนี้ที่นายอ่านข้อความนี้...นายจะหายโกรธฉันแล้ว ฉันขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ แค่ไม่อยากให้นายยุ่งกับผู้ชายคนอื่น...นอกจากฉัน

    มันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวแต่เรื่องที่ฉันจะบอกนายต่อไปนี้...มันจะทำให้ฉันดูเห็นแก่ตัวยิ่งกว่าเดิม...แต่ยังไงฉันก็คงต้องบอกนายไว้ก่อนแล้วฉันจะอธิบายให้ฟังวันหลัง...

     

     

     

     

     

    ฉัน...กำลังจะแต่งงาน... 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×