คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Neighbor END
“โอ่ยยยยยยยยยยยยย การบ้านม.ห้าหรือการบ้านปีสี่วะ ยากชิบหายยยยยยยย”ผมแหกปากแบบไม่เกรงใจชาวบ้านแล้วโยกหัวขึ้นลงกับโต๊ะอ่านหนังสือเผื่อว่าความฉลาดจะเพิ่มขึ้นมาบ้าง
“ครืดดดดด ครืดดดดดดดดด”มือถือรุ่นหายากที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะสั่นบอกว่าตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งแล้ว
“อ่า...เร็วจังเลยเว้ย”ผมกดปิดนาฬิกาปลุกและปิดการบ้านยากบรมเล่มยักษ์ลงอย่างหมดทางเลือก ทำไมน่ะเหรอ...?
.
.
.
.
ไม่ได้จะเป็นเด็กอนามัยขึ้นมาหรอกนะ แต่แค่ตั้งใจจะรีบนอนก่อนโยซอบจะกลับมาเท่านั้นแหละ
ผมนี่ก็แปลกนั่งอดทนฟังมาตั้งนานเพิ่งจะฉลาด ฮ่าๆๆๆ ข่างมันเถอะผมไปนอนดีกว่า สวีดัด!!
.
.
“พรุ่บ”พลิกไปทางซ้าย
.
.
“พรึ่บ”พลิกไปทางขวา
.
.
“ว้อยยยยยยยยย นอนไม่ล๊าบบบบบบบบบบ”หลังจากที่ข่มตานอนมานานแล้วไม่หลับซักทีผมก็ลุกขึ้นนั่งและแหกปากตามภาพลักษณ์แบดบอย (หืม??) ก่อนจะปาหมอนไปที่หน้าต่างเต็มแรง
00.15PM
อ่าวเอ๊ะ เลยเที่ยงคืนแล้วนี่หว่า...
.
.
.
คือผมหูดับหรือห้องนั้นเค้าเล่นผีผ้าห่มกันวะ
.
.
.
ไม่มีเสียง อู้ อ้า อย่างที่ผมคิดว่าจะเป็นเลยซักนิด*0*
“ป๊อกๆ”เสียงเคาะกระจกห้องดังขึ้นจากตรงที่ผมเพิ่งโยนหมอนไปเมื่อกี๊ ใครวะมาซะดึก..?
คงไม่ใช่สุดฮอตหรอกชิมิ=..=..?
“หน้าต่างไม่ได้ล็อค เปิดได้เลยครับ”ไม่รอให้สงสัยไปกว่านี้ผมก็ตะโกนออกไปทันที
“งั้นฉันเข้าไปนะ...”เสียงใสดังมาจากอีกฝั่งของกระจก ก่อนเจ้าของเสียงจะโผล่หน้าเล็กๆนั้นมาจากระเบียงข้างๆ และตามมาด้วยขา ตัวและแขนเล็กๆนั่นค่อยๆปีนข้ามระเบียงที่ชิดกันมาที่ระเบียงของผม
“ครืดดดดดดดดดดด”ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝืดเพราะไม่ได้รับการเปิดหรือหยอดน้ำมั้นเลยตั้งแต่ผมมาอยู่ห้องนี้ (จริงๆก็ไม่คิดว่ามันจะยังเปิดได้ด้วยซ้ำนะ=..=) ทำเอาคนที่เปิดเข้ามาสะดุ้งและเผลอปิดหูแล้วหลับตาปี๋เหมือนเด็กกลัวฟ้าผ่า ผมยิ้มกับท่าทางเด็กๆนั้นเล็กน้อยก่อนจะเขยิบตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง
“ไหนๆก็เดินผ่านแล้ว โยนหมอนใบนั้นกลับมาให้หน่อยสิครับ”
“อ่อ อื้มๆ”ว่าแล้วโยซอบก็ก้มลงเก็บหมอนและโยนกลับมาซะเต็มแรง..และ..
“ปั่ก แอ่ก!!”เข้าหน้าผมอย่างจังน่ะสิถามได้= =
“อุ้ย ขอโทษนะดูจุนนา ฉัน..ใส่แรงเยอะไปหน่อย”โยซอบยิ้มเจื่อนพลางถูมือไปมาก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาริมเตียงผมอย่างไม่เกรงใจ อย่าเห็นว่าเป็นเด็กม.ปลายแล้วจะไม่กล้าขืนใจนะว้อยยยยย
.
.
.
อวดไปงั้นเอาเข้าจริงก็ไม่กล้าหรอก เหอๆๆ
“ว่าแต่โยซอบอุตส่าห์ปีนมาหาผมถึงห้องมีอะไรครับ เอ้อ แล้วันนี้ไม่มีสะบึมบึ๊อะไรกันแล้วหรอ?”
“ห๊ะ!?! อะไรสะบึมบึ๊”
“ก็... ที่คุณทำทุกวันน่ะ=///=”ผมพูดตะกุกตะกัก แถมยังหน้าแดงอย่างห้ามไม่ได้ ก็ผมยังอยู่ม.5อยู่เลยนี่นา เคยก็ไม่เคย พูดถึงเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีกระดากปากกันบ้าง
“ฮะๆ แหมก็รู้ว่าเพื่อข้างห้องกำลังอยู่ในวัยกำลังเรียนน่ะสิฉันถึงต้องเลิกไปก่อน ทำนายนอนดึกทุกวันอย่างนี้เดี๋ยวเรียนไปไม่เข้าหัวขึ้นมา เกรดตก สอบได้เอฟ เอนท์ไม่ติดขึ้นมาฉันจะรู้สึกผิดเอาได้”
“แหม ปากบอกไม่อยากให้เป็นๆ แต่ร่ายมาซะยาวเชียวนะครับ”
“ฮี่ๆ ล้อเล่นน่าๆ อ้อแล้วที่ถามว่าฉันมีอะไร พอดีฉันได้ยินเสียงดูจุนโวยวายเรื่องการบ้ารขึ้นมาตอนห้าทุ่มกว่าๆใช่ป่ะล่ะ”
“อ่า..ฮะ แล้วเพิ่งมาตอนนี้เนี่ยนะ?”
“ฟังก่อนเส่!! ก็ตอนนั้นก็กะจะมาช่วยล่ะนะแต่เห็นนายเงียบไปเลยคิดว่านายน่าจะนอนไปแล้ว”
“อืมๆ”
“แต่เมื่อกี๊ฉันได้ยินใครก็ไม่รู้โวยวายขึ้นมา ก็เลยตื่น...แล้วนอนอีกไม่หลับ เลยมาหานายเพราะดูจากอาการแล้วน่าจะนอนไม่หลับใช่มะ?... มีนมกินป่ะ?”นั่น!! รู้จักกันมาแค่ไม่กี่วันอะไรจะดูสนิทกันมาเป็นปีขนาดนี้ ก็นะ เค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน... เฮ่ย! หมายถึงเฟรนด์ลี่ตะหากๆ
“อยู่ในตู้เย็นตรงโน่น ไปเอาเองแล้วกันนะครับ ผมใส่แต่บ็อกเซอร์”
“ไม่ต้องอายหรอกน่าผู้ชายด้วยกัน แถมฉันยังเคยเห็นมาเยอะแล้วด้วย”โยซอบพูดไปขำไประหว่างที่เดินไปหยิบนมในตู้เย็น คือคนพูดไม่อายแต่คนฟังนี่อยากจะมุดผ้าห่มให้จมหายไปอยู่แล้วเนี่ย!!
“โยซอบน่ะเคยเห็นมาเยอะ แต่ผมไม่เคยมีใครเห็นนี่ครับ ผมหวงๆ”
“อ่ะจ้าๆ นี่ดูจุนไม่มีนมกล้วยหรอ?”
“แล้วอะไรทำให้โยซอบคิดว่าผมจะมีล่ะครับ?”
“อ้าวก็ดูจุนยังเด็กอยู่นี่นา เด็กๆเค้าก็ต้องชอบกินนมกล้วยกันไม่ใช่หรอ ตอนฉันอยู่มัธยมเนี่ยนะ ไม่ขาดตู้เย็นเลยจะบอกให้...งั้นกินนมจืดแทนแล้วกัน”ตัวเล็กๆของโยซอบงุดไปงุดมาอยู่หน้าตู้เย็นซักพักแล้วเดินกลับมาพร้อมกล่องนมหนึ่งกล่อง
“ถึงโยซอบเป็นแต่คนอื่นก็ไม่ใช่ว่าจะทำเหมือนกันหนิครับ แถมผมเองก็ม.5แล้ว ใช่เด็กซะที่ไหน เดี๋ยวๆๆๆอย่าเพิ่งเดินกลับมา!”
“หื๊ม*[]*!?!”
“เอามาให้ผมกล่องนึงด้วยดิ ขอรสชอคโกแล็ตนะ”
“อ่าฮะ.... เอ้ารับ”ว่าแล้วกล่องนมสีน้ำตาลก็ลอยมาซะผมแทบตั้งตัวไม่ทัน
“โทษฐานที่สั่งผู้ใหญ่แถมยังไม่มีครับลงท้าย”
“โอ้ว โหดแท้”
“อีกนิดเดียวฉันจะได้ทำหัวมานิดแตกเหมือนพี่โน๊ตแล้วนะเนี่ย แค่เปลี่ยนจากลูกดอกเป็นกล่องนม ฮ่าๆๆๆ”
“เออะ..ไว้อาลัยให้มุกของโยซอบสามวิ..หนึ่ง..สอง..ส”
“ย่าห์!!! ยุนดูจุน ใครบอกว่ามันแป้กล่ะ แค่นายเส้นลึกไปเท่านั้นแหละ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ครับๆไม่แป้กๆ โคตรฮาเลยเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ”ผมนอนแผ่ลงกับเตียงแล้วหัวเราะไม่หยุด
“ไม่ต้องประชดเลยนะ...เอ๊ะ นี่การบ้านดูจุนนาหรอ?”
“ถ้าหมายถึงหนังสือเล่มหนาเท่าดิกชันนารีบนโต๊พนั่นล่ะก็..ใช่ การบ้านผมเอง”ผมตอบกลับไปแต่ก็ไม่ได้หันไปมอง ก่อนจะได้ยินเสียงหนังสือพลิกไปพลิกมา คงเปิดดูการบ้านผมอยู่มั้ง
“เวลาเรียนนายนอนอย่างเดียวเลยรึไงเนี่ย”
“หมายความว่าไงคู๊ณณณ พูดดีๆนะ ผมน่ะตั้งใจเรียนจะตาย...แค่มันไม่เข้าหัวซะที= =”
“ก็ดูดิ ตอบผิดหมดเลย ไอ้ที่ทดไว้นี่ก็ทำผิดวิธีอีกตะหาก”
“ใครจะไปเก่งเหมือนโยซอบล่ะโด่ววว งั้นถ้าเก่งนักก็สอนผมดิ ไหนๆก็นอนไม่หลับกันทั้งคู่แล้ว”ผมว่าก่อนจะคลุมหัวและห่อตัวด้วยผ้าห่มแล้วเดินไปนั่งลงบนพื้นข้างๆโยซอบที่โต๊ะทำงานมองร่างเล็กข้างหน้าปริบๆ เอาวะ! ได้ทั้งเรียนพิเศษฟรีด็ทั้งอยู่กับสุดฮอต ข้อเสนอที่มาพร้อมผลประโยซน์สองเท่า=w=b
“อื้ม จริงๆนายจะมาให้ฉันสอนให้เมื่อไหร่ก็ได้นะอย่างที่บอกว่าฉันทำงานที่บ้าน ไม่ต้องเกรงใจหรอก ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่รบกวนการนอนของนายมาเกือบปีแล้วกัน ฮะๆ”
“งั้นก็ไม่เกรงใจล่ะนะครับ เอ้อ โยซอบสอนข้อนี้หน่อยสิ ทำไม่ได้เลยอ่า”
“รู้สึกนายก็ทำไม่ได้ซักข้อไม่ใช่รึไง”
“เมื่อก็ว่าไงนะ= =?”
“ปล๊าวววววววว มาๆ นี่ข้อนี้ต้องทำอย่างนี้...”แล้วคลาสเรียนพิเศษระหว่างผมกับโยซอบก็เริ่มขึ้น จนรู้ตัวอีกทีเราก็ตื่นมาเจอตัวเองฟุบอยู่บนโต๊ะตอนเช้าซะแล้ว
สองเดือนผ่านไป(อย่างรวดเร็ว)
“โยซอบบบบบบบบบบ เปิดประตูที๊!!!”ผมตะโกนเรียกคนในห้องเสียงดังพลางเอาเท้าถีบประตูเบาๆ ทำเอาเจ้าของห้องวิ่งเลิ่กลั่กมาเปิดประตูอย่างกับกลัวประตูพัง
พูดตามจริงนะ หลังจากที่ขลุกอยู่ด้วยกันมาสองเดือน(เรียกว่าผมอ้างเอาการบ้านเลขเข้าไปหม้อโยซอบจะตรงความจริงกว่านะ) ผมก็แทบไม่ได้เห็นโยซอบในแบบยั่วๆแบบฉบับสุดฮอตอย่างที่ผมเห็นวันแรกๆที่รู้จักอีกกันเลย จะมีก็แต่แบบป้ำๆเป๋อๆ ไม่ก็น่ารักแบบเด็กน้อยซะมากกว่า ยังไงซะมันก็ทำให้โยซอบดูดีไปอีกแบบนะ
“อะหือ แบกอะไรมาเนี่ยเต็มไม้เต็มมือไปหมด”
“สะเบียงไง อาทิตย์หน้ามีสอบกลางภาคแล้วเลยกะจะมาให้โยซอบติวให้ผมหน่อย ถอยก่อนๆๆๆหนักจะแย่อยู่แล้ว”ผมเพยิดหน้าให้โยซอบเปิดประตูให้กว้างขึ้นและเดินหหลบออกจากหน้าประตูไป ซึ่งเจ้าตัวที่ยังดูงงๆก็ทำตามโดยไม่ได้ว่าอะไร
“มีมาแต่รามยอน..ไม่มีกิมจิมาด้วยหรอ?”
“ห่วงกินจริงนะ ที่ผมมาคราวก่อนโยซอบก็มีในตู้เย็นไม่ใช่หรือไง”
“นั่นมันเมื่อวานซืน แต่วันนี้ไม่มีแล้วไง”
“ฮะๆ งั้นเดี๋ยวผมไปเอาจากห้องตัวเองมาให้ ระหว่างรอผมก็เอาหนังสือเรียนผมไปดูก่อนละกัน”
“โอเช”
หลังจากนั้นไม่นานผมก็กลับเข้าไปในห้องของโยซอบอีกรอบพร้อมกล่องเก็บกิมจิฝีมือออมม่าที่ผมแสนจะภูมิใจ
“หูวววววววววว กล่องเบ้อเริ่มเลย มาๆฉันต้มน้ำไว้ให้ละเดี๋ยวกินไปติวไปแล้วกันเนอะ”
“ได้อ่ะได้ แต่อย่าเอาแต่กินแล้วกันโยซอบน่ะ”
“เหอะดูถูกกันไปหน่อยมั้ง นี่แน่ะๆๆๆ”โยซอบเขย่งขึ้นยีหัวผมเล่นแล้วหัวเราะสะใจ แต่ไม่รู้ทำไม...ใจผมถึงเต้นแรงแปลกๆนะ?
“เฮ่ย นายโกรธฉันรึเปล่าเนี่ย? ขอโต้ดน้าาาาา ไม่รู้ว่านายไม่ชอบ งั้นคราวหลังฉันจะไม่เล่นอย่างงี้แล้วสัญญาเลย”โยซอบรัวคำชอโทษออกมารัวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดสุดขีดพอเห็นว่าผมไม่ได้หัวเราะตอบกลับไปเหมือนทุกที ก็ไม่ได้โกรธซะหน่อย แค่...เหม่อ=..=
“ฮ่าๆๆๆๆ ผมล้อเล่นหรอกน่า ว่าแต่โยซอบเถอะ ไม่เจียมเอาซะเล้ยยยย สูงเลยไหล่ผมมานิดเดียวมาเล่นหัวกันได้ไง”
“ใครบอกว่าเตี้ย เค้าเรียกว่าพระเจ้าประทานส่วนสูงมาให้เข้ากับหน้าตา ฉันหน้าเด็กก็เลยตัวเล็กเหมือนเด็ก ส่วนที่ดูจุนสูงก็เพราะดูจุนหน้าแก่ไง ฮี่ๆๆๆ”พูดไปก็ยิ้มอย่างสะใจ นี่ถ้าคนพูดไม่น่ารักจริงๆผมคงชกไปแล้วนะเนี่ย มาล้อปมด้อยของผมได้ไง ฮึกๆTT^TT
“อ่า... งอนอีกแล้ว ขอโทษนะดูจุนนาาาาา”โยซอบกอดมแน่นแล้วเงยงุดหัวไปมากับอกของผมจนผมเริ่มยุ่ง
ตึกตัก...ตึกตัก...
โอ๊ยยยยยยยยยย ให้ตายเถอะใจเต้นแรงอีกแล้ว แถมหัวโยซอบก็งุดไปงุดมาอยู่ไม่ห่างจากหัวใจผมเท่าไหร่อีกตะหาก หวังว่าเค้าคงไม่ได้ยินหรอกนะ
“แหม่ ใจเต้นแรงยังกะสเตอริโอในผับเชียวนะ ชอบฉันอะเด้”โยซอบเงยหน้าสบตาผมแล้วยิ้มแซว จะให้ตอบว่าไงล่ะวะ!!
“แล้ว....โยซอบอยากให้ผมตอบว่าอะไรล่ะ?”
“เอ๊า! จะรู้นายมั้ยล่ะ”โยซอบยักคิ้วกวนแล้วกอดผมแน่นขึ้นพลางยิ้มแฉ่งอย่างผู้ชนะ จะแกล้งอะไรเด็กน้อยอย่างโผ้มมมม(น้อยแล้วนะ= =)
“งั้นถ้าผมบอกว่าใช่อ่ะ โยซอบจะทำไง”ผมหลุดพูดออกไปเบาๆ แต่ดูถ้าเค้าจะได้ยินเต็มสองหูเลยเงยหน้าจ้องตาผมด้วยแววตาที่ตีความไม่ออก
เราสองคนยังจ้องตากันอยู่อย่างนั้นและเลื่อนใบหน้าเข้าหากันราวกับมีแรงดึงดูด ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าแต่ผมรู้สึกเหมือนหัวใจของโยซอบที่แนบอยู่กับตัวของผมก็เต้นแรงไม่ต่างจากที่ผมเป็น จมูกของเราชนกันเล็กน้อยเตือนให้ผมรู้ว่าตอนนี้หน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นฯเท่านั้น โยซอบหลับตาลงช้าๆ...ผมเองก็เช่นกัน...
“วี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงกาต้มน้ำดังขึ้นจากห้องครัวทำเอาทั้งผมทั้งโยซอบสะดุ้งและผละออกจากกันทันที
โยซอบมองหน้าผมเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็หลุบตาลงมองพื้นหลบสายตาของผมไปแทน
“น..น้ำเดือดแล้ว... ไปเตรียมรามยอนรอได้เลยนะเดี๋ยวฉันตามไป”ร่างเล็กทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหายไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว
“แกทำอะไรลงไปเนี่ย...ยุนดูจุน?”ถามไปงั้น...ผมเองยังไม่รู้ตัวเองเลย
11.00 PM
“เหนื่อยจังเล้ยยยยยยยย นี่โยซอบคืนนี้ผมนอนห้องนี้ได้ป่ะ นอนพื้นก็ได้แต่ขี้เกียจเก็บของ”ผมบิดขี้เกียจเล้กน้อยแล้วคว่ำหน้าแผ่ลงบนโต๊ะทำงานของโยซอบที่จัดการเคลียร์ของจนกลายเป็นโต๊ะติวเลขเรียบร้อย
“ก็ได้ๆ แต่ห้ามเกินกว่านั้นนะ ไม่งั้นฉันจะไม่ติวเลขให้อีกเลยคอยดู”ร่างเล็กหัวเราะเล็กน้อยแล้วฟุบลงบ้าง หลังจากเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นเราก็นั่งเรียนกันไปแบบเงอะๆงะๆต่างคนต่างพูดติดขัดมองหน้ากันก็ไม่กล้า กว่าจะกลับมามองหน้ากันติดก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่า ตอนที่ผมยอมพูดออกไปนั่นแหละว่าอย่าคิดมาก...ถึงจริงๆจะคิดลึกอยู่ก็เหอะ= =”
“นี่จะเที่ยงคืนแล้วหรอเนี่ย เร็วจังเลยเนอะ งั้นฉันว่าเราพักก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ก็วันเสาร์มีเรียนอะไรป่ะ?”
“มี.. แต่แคนเซิลไปละจะอยู่ติวเลข”
“เฮ้ๆๆ ถึงนายจะว่างทั้งวัน...แต่ฉันก็มีงานต้องทำนะ!!”โยซอบหันมามองหน้าผมทั้งๆที่ฟุบอยู่ทำให้หน้าเราทั้งคู่มีเพียงศอกของผมกับโยซอบขวางไว้เท่านั้น โยซอบชะงักไปซักพักก่อนจะเถียงกลับมา
“ทำงานก็ทำงานดิ ตอนนั้นผมก็นอนเอาแรง ติวทั้งวันก็ต้องมีเหนื่อยกันมั่งสิ โถ่ พูดอย่างกับไม่เคยสอบกลางภาคงั้นแหละ”
“พอดีว่าฉันตั้งใจเรียนสม่ำเสมอ ก่อนสอบเลยไม่ต้องมานั่งติวงกๆเหมือนใครบางคน”โอ้ว เฮิร์ต!!(อย่าว่าแต่ลุงเลย...ไรเตอร์ก็กระทบ= =)
“งั้นกลับห้องก็ได้ ชิ!”ผมแกล้งเหวี่ยงใส่คนตัวเล็กที่ยิ้มแฉ่งไม่รู้ร้อนแล้วลุกขึ้นเก็บของ
“...”โยซอบมองผมนิ่งไม่พูดอะไรด้วยแววตาแบบที่...เดาความหมายไม่ถูกเลย
“ไปละน้าาาาา”ผมทิ้งท้ายเสียงยาวแล้วค่อยๆหมุนตัวแบกหนังสือเรียนออกมา
“หมับ”
“ด..เดี๋ยว ฉันพูดเล่นน่า... นายจะนอนก็นอนไปเถอะ”มือเล็กคว้าข้อมือผมไว้แน่นแล้วพูดเสียงเบายิ่งเพราะเขาฟุบหน้าลงกับโต๊ะผมเลยมองไม่เห็นหน้าเขาแถมเสียงยังออกมาอู้อี้จนแทบฟังไม่ออก แต่จากแก้มที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อยนั่นก็ทำให้ผมเดาได้ไม่ยาก
“โยซอบพูดเองนะ ไล่กลับก็ไม่ทันแล้วล่ะ ฮะๆๆ”ผมวางหนังสือกองยักษ์ที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคงไม่ต้องแบกกลับห้องลงกับโต๊ะ
“แต่ถ้าฉันเกิดละเมอเดินไปเหยียบนายเข้าก็อย่าโวยวายแล้วกัน ชิ”โยซอบหมุนหัวมามองหน้าผมอีกรอบพลางทำแก้มป่องแล้วแลบลิ้นใส่ ผมยกมือขึ้นยีผมสีดำนุ่มนิ่มนั่นเบาๆแต่ก็ต้องดึงมือกลับมาหลังจากเสียงหัวเราะของโยซอบเงียบไปแล้วเปลี่ยนเป็นมองผมด้วยสายตาแปลกๆนั่นอีกครั้ง
“อ..เอ่อ ขอโทษที...ลืมตัวไปหน่อย”
“อ...อืม งั้นนายไปอาบน้ำอะไรให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาแล้วกันนะ”ว่าแล้วโยซอบก็พรวดพราดลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่หันมามองผมอีกก่อนจะปิดประตูดัง...
“ปัง!!!”
โกรธป่ะวะเนี่ย...???
11.15 PM
“เข้าไปล่ะนะคร้าบบบบบบ”ผมว่าก่อนจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปในห้องโยซอบ
“ไม่ตอบแฮะ.. หรือจะยังอาบน้ำไม่เสร็จ”ผมพึมพำก่อนจะเดินไปรอบๆห้อง ถึงจะเข้าออกบ่อยๆแต่ผมก็ไม่เคยทีโอกาสเดินสำรวจห้องนี้จริงๆซะที ไหนๆเจ้าของหก็ไม่อยู่แถวนี้ผมก็ขอเดินเล่นหน่อยแล้วกัน
ผมเดินลูบนิ้วไปตามโต๊ะยาวที่วางของนู่นนี่ทั้งหนังสือ เครื่องเขียน ของเล่นไว้เต็มไปหมด ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับกรอบรูปไม้กรอบหนึง่ที่แอบอยู่หลังกองหนังสือ
“ทำไมคราวก่อนๆถึงไม่เคยเห็นเลยหว่า... ไหนๆเจ้าของห้องก็ไม่อยู่ขอดูหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกนะ”ผมหันซ้ายหันขวาไม่เห็นวี่แววของโยซอบ เลยหยิบกรอบรูปนั้นมาให้เบามือที่สุด ก่อนจะเป่าฝุ่นที่เกาะกรอบรูปนั่นออก แล้วผมก็ต้องอ้าปากค้างกับรูปในกรอบนั้น
“นี่มัน...”
“เคร้ง...”เสียงอะไรบางอย่างตกกระทบกับพื้นทำเอาผมสะดุ้งแล้วเก็บกรอบรูปนั้นลงที่เดิมแทบไม่ทัน ก่อนจะหันไปยังต้นเสียง
“ย..โยซอบ”
“น..นายไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น???”โยซอบตะโกนถามเสียงดังอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน สีหน้าและท่าทางการยืนที่กำมือแน่นนั้นทำให้เดาได้ไม่ยากว่าคนตัวเล็กกำลังโมโหผมอยู่
“ค..คือผม ผมก็มาเดินเล่นรอบห้องรอให้โยซอบอาบน้ำเสร็จเฉยๆนี่นา มีอะไรรึเปล่าครับ”ผมยิ้มสู้และพูดเหมือนไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ควร
“นาย...คงไม่ได้ไปยุ่งกับของตรงนั้นหรอกนะ”โยซอบถามมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นลงเล็กน้อย
“ไม่ได้จับอะไรทั้งนั้นล่ะครับ คิดว่าผมกล้ารึไง รู้น่าว่าโยซอบไม่ให้(ถึงจริงๆจะทำไปแล้วก็นะ= =)”ผมยิ้มกว้างกลับไปเนียนๆ โยซอบถอนหายใจอย่างโล่งอกและยิ้มออกมา ก่อนจะก้มเก็บกระป๋องสีฟ้าๆบนพื้นขึ้นมา
“งั้นก็แล้วไป... นาย..ดื่มเป็นป่ะ?”
“หา? หมายถึงเบียร์??”
“อื้ม ไม่เป็นก็ไม่เป็นไรนะฉันมีน้ำเปล่า”
“ฮู้ยๆๆๆ ไม่ต้องๆ ผมพอจะเคยแอบดื่มมาบ้าง เห็นอย่างงี้ผมคอแข็งมากนะจะบอกให้”
“งั้นก็ดีละ อยู่ดีๆฉันก็อยากดื่มขึ้นมา มาดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ”
“ไม่กลัวผมเอาไปแจ้งจับข้อหาล่อลวงเด็กกินเหล้ารึไง”
“ก็ถ้านายแจ้งจับฉันนายก็ต้องโดนจับเหมือนกัน เพราะนายก็สมยอมยอมกินเหล้ากะฉันด้วย”
“ฮะๆๆๆ เอาเถอะ นั่งก่อนสิยืนถือเบียร์ตั้งหลายกระป๋องหนักแย่”ผมว่าก่อนจะเดินไปดึงเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวออกแต่โยซอบก็ขัดผมไว้ก่อน
“ไม่ต้องๆๆ นู่นๆนอกระเบียงนู่น ฉันจุดเทียนไว้แล้ว”โยซอบพูดก่อนจะเพยิดหน้าไปนอกระเบียงที่มีผ้านวมปูนอนปูพื้นระเบียงไว้และมีเทียนดวงเล็กจุดอยู่รอบๆ
“งั้นเปิดประตูให้นะ”ผมวิ่งไปเปิดประตูระเบียงก่อนเราสองคนจะเริ่มตั้งวงก๊งเหล้ายามดึก...
“แล้วคิดไงวันนี้โยซอบถึงอยากดื่มขึ้นมาล่ะครับ ปกติก็ไม่ดื่มนี่”ผมเปิดเบียร์กระป๋องแรกดื่มหลังจากนั่งมองโยซอบดื่มมาได้ซักพัก
“ไม่รู้สิอยู่ดีๆก็อยาก มันก็เหมือนอารมณ์คนเรานั่นแหละ เราควบคุมไม่ได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ แต่พอมันมาแบ้วอย่างเดียวที่เราทำได้คือสนองมัน...จริงมั้ย?”โยซอบวางกระป๋องเบียร์(เปล่า)กระป๋องที่สามลงข้างตัว ก่อนจะพูดเสียงเอื่อยแล้วหันมายิ้มให้ผมตาเยิ้ม...
นั่นไง..สุดฮอตของกรูกลับเข้าร่างแล้วมั้ย!!
“อ่า...จริงด้วยนะ”ผมยิ้มเจื่อนกลับไปแล้วกระดกเบียร์กระป๋องแรกเข้าปากรวดเดียวครึ่งกระป๋องอย่างกับกินน้ำเปล่า
“ดื่มเก่งจังนะดูจุนนาเนี่ย ไม่เหมือนเด็กมัธยมเลย”
“หน้าก็บอกอยู่ว่าผมน่ะแก่กว่าอายุจริง ฮ่าๆๆ”
“นี่...ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าอย่าว่าตัวเองแก่”โยซอบหันมามองผมแล้วส่ายนิ้วชี้ไปมา
“ดูจุนนาน่ะ...หล่อจะตาย”ใบหน้าเล็กๆเขยิบเข้ามาเกยที่ไหล่ข้างซ้ายผม โยซอบมองหน้าผมแล้วยิ้มมุมปากนิดๆ ไม่ใช่รอยยิ้มน่ารักๆแบบที่เจ้าตัวชอบทำ...แต่เป็นรอยยิ้มยั่วดีๆอารมณ์ผู้ชายนี่เอง
“แถมยังนิสัยดี...หุ่นดี...อารมณ์ดี..”มือข้างที่ไม่ได้ถือกระป๋องเบียร์ยกขึ้นลูบไปตามส่วนต่างๆของใบหน้าผมเบาๆช้าๆ ทำเอาขนลุกไปหมดเลย
“ที่สำคัญ...ดูจุน...ยังไม่เคยผ่านใคร”นิ้วเล็กหยุดลงที่คอเสื้อของผม ก่อนจะเกี่ยวกระดุมเม็ดบนสุดจนหลุด ลมหายใจอุ่นรดลงบนต้นคอของผมอย่างสม่ำเสมอทำผมแทบคลั่ง
“ย..โยซอบ... พอเถอะครับ”
“ทำไมล่ะดูจุนนา? ยังดื่มไม่หมดกระป๋องแรกเลยไม่ใช่หรอ”ร่างบางผละออกจากคอของผมอย่างอ้อยอิ่งแล้วมองผมตาละห้อย...จะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วนะเว้ยเฮ้ยยยยยยยย(ก็ไม่ต้องทนสิลูก//ไรเตอร์)
“ค..คุณเมามากแล้วนะ”ผมเผลอเรียกโยซอบด้วยสรรพนามที่ต่างออกไป และดูท่าทางเจ้าตัวจะไม่พอใจนักถึงได้มองผใค้อนพลางบีบข้อมือผมแน่น...โยซอบที่น่ารักคนนั้นหายไปไหนซะแล้วเนี่ย?!?
“ท..ทำไมล่ะ ดูจุนรังเกียจฉันเหรอ”
“เปล่าหรอกครับ ต..แต่”
“แต่อะไรล่ะหืม?”
“ผมก็แค่...กลัวว่ามันจะ...”จบลงด้วยแค่คำว่าOne night standน่ะสิ... อยากจะพูดแต่ก็กลัวโยซอบจะโกรธ...จะให้ทำยังไงได้ล่ะ
“หึ...ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ย นายนี่อินโนเซ็นท์จริงๆเล้ยดูจุนนา”ฮ..ฮะ!! เอ๊ะ อย่าบอกนะว่า..???
“ฉันล้อเล่นนนนนนน โหยถ้าดื่มเบียร์แค่สามกระป๋องกว่าๆแล้วเมาก็ไม่ใช่ยังโยซอบหรอกน่า”
“โหยโยซอบ เล่นแรงนะรู้ตัวมั้ย ผมก็ตกใจไปด้วยเนี่ย”
“แต่ฉันดีใจนะ ที่ดูจุนไม่ตอบรับเหมือนกับที่คนอื่นทำน่ะ...”
“...?”ผมหันไปมองหน้าเค้าแล้วส่งสัญญาณตัวเควสชั่น มาร์คตัวเบ้อเร่อไปให้ทางสายตา
“ก็ถ้าปกติเวลาฉันทำแบบนั้น...คนอื่นก็จะเล่นด้วย แล้วก็ลงเอยที่One night Standเหมือนทุกครั้งไง”โยซอบยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม
“ฉันน่ะหวังมานานมากเลยนะ...ว่าซักวันฉันจะเจอคนที่ตอบกลับมาแบบที่ดูจุนทำ”เขาหันกลับมายิ้มเศร้าให้ผม ก่อนจะเหม่อออกไปยังท้องฟ้าข้างหน้า
“คนที่จะรักฉัน...เพราะฉันเป็นฉัน ไม่ใช่แค่เพราะรูปลักษณ์ยั่วยวน...หรือเซ็กซ์...”น้ำเสียงที่เบาลงและเงียบไปทำเอาผมพูดไม่ออก ไม่รู้เลยว่าคนที่มีOne night Standเป็นกิจวัตร อีกใจนึงก็มีความคิดแบบนี้
“แล้วโยซอบจะมีไปทำไมล่ะครับ ความสัมพันธ์แบบนี้น่ะ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ยืนยาว แล้วมันก็จะทำร้ายจิตใจโยซอบเองด้วย”ผมมองไปยังครึ่งใบหน้าขาวที่สะท้อนแสงยามค่ำคืนของเมืองโซลอย่างต้องการคำตอบ ไม่รู้สิ...จริงๆแล้วในใจผมเองตอนนี้ก็อยากจะรู้เหมือนกัน
แค่ไม่อยาก...ให้โยซอบกลับไปใช้วิตกับความสัมพันธ์แบบนั้นอีก
“ก็แค่...หวังว่าวันนึง..ฉันจะได้เจอกับคนที่รักฉันจริงเท่านั้นล่ะนะ”ร่างบางหันกลับมายิ้มเศร้าให้ผมอีกครั้งก่อนจะเก็บกระป๋องเบียร์ข้างตัวมากอดไว้
“เอ่ล่ะ...ฉันว่าเราดื่มมาเยอะแล้ว...ป..ไปนอนกันดีกว่าเนอะ”ว่าแล้วก็ยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมคว้าแขนเล็กของเขาไว้ซะก่อน
“มีอะไรรึเปล่าดูจุนนา?”โยซอบหันมาถามผมเสียงเบาและเงียบไปเมื่อเราสบตากัน ร่างเล็กหย่อนตัวลงนั่งท่าเดิมและลดอ้อมแขนที่กอดกระป๋องเบียร์ไว้ลงช้าๆ ใบหน้าของผมกระเถิบเข้าใกล้กับของโยซอบทีละนิดๆอย่างไม่รู้ตัวก่อนริมฝีปากองเราจะสัมผัสกันเบาๆ
มันไม่ใช่จูบที่ร้อนแรงอย่างที่จะทำให้ริมฝีปากบอบบางนี้ของโยซอบแดงช้ำ แต่มันก็หวานเกินกว่าหยุดได้
ผมยังคงควานหาความหอมหวานในโพรงปากเล็กนั้นไปไม่มีเบื่อ ไม่ต่างอะไรจากโยซอบที่จูบตอบผมมาอย่างเคลิบเลิ้ม ก่อนจะลมหายใจของเราทั้งคู่จะเริ่มใกล้หมดลง ผมจึงต้องผละออกมาอย่างเสียดาย
“ด..ดูจุนนา”โยซอบมองผมด้วยแววตาเดายากอย่างที่ผมได้เห็นมาหลายครั้งในหลายๆวันที่ผ่านมา ดวงตาเล็กสั่นระริกราวกับจะร้องไห้ทำให้ใจของผมเต้นแรงขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
“โยซอบ...”ผมจับมือเล็กทั้งสองข้างของร่างเล็กข้างหน้ามากุมไว้เบาๆ ก่อนจะมองตากลมโตทั้งสองข้างนั้นแล้วยิ้มบางๆให้คนข้างหน้า
“คนที่จะรักโยซอบที่โยซอบเป็นคนนั้นน่ะ...”ใช่...ผมรู้หัวใจของตัวเองแล้ว...และผมจะไม่ปล่อยมันไปแน่นอน ผมค่อยๆโน้มตัวลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูโยซอบ ประโยคที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พูดให้ใครฟัง...แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกัน
“ให้เป็นผม..ได้มั้ย?”
“พ..พูดเล่นรึเปล่าดูจุนนา?”โยซอบผลักผมออกเบาๆแล้วถามผมเสียงสั่น น้ำตาใสเริ่มคลอรอบดวงตาโตทั้งสอง ผมยกมือปาดมันออกแล้วส่ายหน้าเบาๆกลับไป
“ต..แต่ ฉันแก่กว่านายตั้งหกปีนะ ล..แล้ว..อื้อ”ผมดึงข้อมือเล็กให้เซเข้ามาใกล้ตัวผมมากขึ้นก่อนจะยกคางมนขึ้นและประกบริมฝีปากลงกับริมฝีปากของโยซอบทันที ก่อนเจ้าตัวจะได้พูดอะไรต่อ
“จะกี่ปีก็ไม่สนหรอก...ขอแค่คนๆนั้นคือยังโยซอบผมก็พอใจแล้ว...แล้วโยซอบก็อย่าปฏิเสธผมเลย ถึงขนาดมีรูปถ่ายผมเก็บใส่กรอบไว้เลยไม่ใช่รึไง”
“ฮ...ฮะ?!? ไหนนายบอกว่าไม่ได้ดูไง”
“ก็ไม่กล้าบอกนี่นา...เห็นโยซอบขึ้นขนาดนั้น หวงมากเลยรึไง นั่นก็รูปของผมแท้ๆ”
“ฮึ่ย! เงียบไปเลย”
“นี่!โยซอบ...”
“หืม?”
“โยซอบ..รักผมบ้างมั้ย?”
“ถ..ถามทำไมเนี่ย”
“ก็ผมรักโยซอบ...เลยอยากรู้...เผื่อใจเราตรงกัน...ผมจะได้ขอโยซอบคบไง”
“...ตรงมาก...ตรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว”โยซอบมองหน้าผมเหวอ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“สรุปไม่รักผมใช่มะ โอเคงั้นผมไปละ โอ๊ะ ผมคงต้องไปเที่ยวย้อมใจ หรือจะไปซื้อแว่นกันแดดมาใส่ดีเผื่อร้องไห้แล้วตาบวม อกหักซะงั้น”ผมคลายอ้อมกอดออกจากเอวเล็กๆของโยซอบแล้วทำท่าสะอื้น ก่อนจะหมุนตัวไปทางทางออก
“เดี่ยวๆๆๆๆๆ ฉันยังไม่ได้ตอบเลย”โยซอบดึงปลายเสื้อผมไว้แล้วดึงมันเล็กน้อยให้ผมกลับไปคุยกับเขาก่อน ก็นะ...เขาขอมาผมก็ต้องทำตาม(อีหยิ่ง!!//ไรเตอร์)
“ฉันรักนาย...รักมาก่อนนายรักฉันตั้งนานแล้วด้วย”
“ฮะ...? แอบมีความลับอะไรป่ะเนี่ย”
“ช่างมันเถอะน่า”
“เอาเถอะ ไหนๆเราต่างคนต่างก็รักกันแล้ว...คบกับผมนะโยซอบ”ผมกุมมือเล็กสองข้างขึ้นมา ก่อนจะมองตาโยซอบโดยโยซอบก็จ้องตาผมกลับมา ไม่มีหลบตาเหมือนคราวก่อนๆ
“อืม...”
“งั้น...กอดได้มั้ย?”โยซอบไม่ได้ตอบ แต่หลบตาผมลงมองพื้นแล้วพยักหน้าหงึกๆ ผมยิ้มกับท่าทางเขินน่ารักๆนั้นแล้วดึงร่างเล็กเข้ามากอดและเกยคางวางลงกับไหล่ที่แคบเหมือนผู้หญิงโยซอบก็ยื่นนิ่งอยู่ซักพักก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นวางที่กลางหลังและซุกหน้าลงกับอกของผม
“แล้ว...ขอจูบได้มั้ย?”
“ก็จูบไปแล้ว่รึไง...ตั้งสองครั้งแล้วด้วย”ร่างเล็กตอบกลับมาเสียงอู้อี้เพราะหน้ายังคงซุกอยู่กับตัวของผมไม่ห่าง พอเห็นคนตัวเล็กไม่ปฏิเสธผมก็คลายอ้อมกอดออกแล้วจุบลงที่กลุ่มผมหน้าม้าที่บดบังหน้าผากขาวใสนั้นเบาๆ กลิ่นดอกลาเวนเดอร์จางๆจากแชมพูทำเอาผมเกือบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนต้องผละออกมาในที่สุด
โยซอบมองหน้าผมงงๆเล็กน้อย ก่อนผมจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ริมฝีปากสีชมพูอิ่มที่ผมเพิ่งได้ลิ้มรสไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วและก้มลงครอบครองมันอีกครั้ง
รสแอลกอฮอล์ที่อ่อนลงกว่าจูบคราวก่อนๆทำให้ผมลิ้มลองรสหวานหอมจากร่างเล็กตรงหน้าได้มากขึ้น บวกกับโยซอบเองที่จูบตอบกลับมาแบบที่ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเองยิ่งทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่อยู่
มือสองข้างที่ตอนแรกวางอยู่ข้างเอวคอดเล็กของโยซอบเริ่มเกลี่ยไปตามหลังแคบก่อนผมจะเลิกเสื้อนอนตัวบางขึ้นอย่างลืมตัว แต่ดูเหมือนโยซอบจะรู้ตัวเลยดันผมออกเบาๆแล้วมองหน้าผมสีหน้าตกใจเล็กน้อย
“จะเอา..จริงหรอ?”
“แล้วโยซอบ...ให้มั้ย..?”
“อ..อื้ม ถ้าดูจุนต้องการ”
“มั่นใจเถอะโยซอบ...มันไม่จบแค่One night stndแบบคนอื่นๆหรอก”โยซอบยิ้มให้ผมจนตาหยีก่อนจะเปิดระตูเลื่อนห้องนอนออก
“เข้าไปข้างใน..มั้ย?”ร่างเล็กหันมาถามผมเสียงเบา แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากดึงร่างบางเข้ามาจูบต่อจากที่ค้างไว้เมื่อกี๊ มือก็ไม่ปล่อยให้ว่างค่อยๆถอดเสื้อนอนสีขาวตัวบางที่ขวางหูขวางตาออกจากตัวโยซอบ และพาคนตัวเล็กในอ้อมกอดไปนั่งลงบนเตียงโดยที่ปากยังไปห่างจากกัน
“แน่ใจนะว่ายังไม่เคยน่ะ โปรเหลือเกิน”โยซอบถามขึ้นเมื่อผมนั่งยองลงบนพื้นระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา(ยังใส่กางเกงมิดชิดอยู่อย่าเพิ่งคิดไปไหน)พลางลูบผมของผมเล่น
“ก็เห็นผิวขาวๆของโยซอบแล้ว...ผมห้ามตัวเองไม่อยู่นี่นา”ใบหน้าเล็กๆขึ้นสีชมพูอ่อนและหลบสายตามองไปทางอื่น พอโยซอบไม่พูดอะไรขึ้นมาอีกผมก็ลุกขึ้นและกดตัวเขาให้ลงแนบกับพื้นเตียงก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นสบู่เด็กอ่อนๆตามซอกคอขาวนวลและทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้เป็นจุดๆ
“อ๊ะ...เดี๋ยว..ดูจุนนา”เสียงท้วงที่เบาขนเกือบไม่ได้ยินหยุดการกระทำของผมไว้ชั่วครู่
“มีอะไรรึเปล่า?”
“ป..เปล่า แค่จะบอกว่า...เบาๆหน่อยนะ...ตรงนั้นมัน...ไม่ได้ใช่มาเป็นเดือนแล้ว..ฉันกลัวเจ็บอ่ะ”โยซอบยกมือสองข้างปิดหน้าอย่างอายๆแล้วพูดเสียงเบา ผมได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแก้มแทบปริ น่ารักชะมัด><
“ไม่ต้องห่วงหรอก คงไม่มีใครอยากให้คนที่ตัวเองรักเจ็บหรอกจริงมั้ย? แต่โยซอบเถอะ ถอนตัวตอนนี้น่ะ...ไม่ทันแล้วนะ”ผมก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กก่อนจะขบใบหูเล็กนั้นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่ได้จะปฏิเสธอยู่แล้ว...”โยซอบมองหน้าผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“พูดเองนะ”ผมยิ้มกลับไปแบบเดียวกัน ก่อนจะสานต่อสิ่งที่ทำค้างไว้
“อ...อ๊า ด..ดูจุน ร...เร็วอีก อื้อออ”
และอีกครั้งหลังจากหายไปนาน เสียงจากห้องพักห้องนี้ก็กลับมาครอบครองค่ำคืนเหมือนเช่นเคย
เพียงแต่...ชื่อที่ถูกเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น...ไม่เคยเปลี่ยนคนไปอีกเลยตั้งแต่คืนนี้
แถมๆ
5ปีก่อน...
“ยินดีด้วยนะครับ กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกทุกคน ในที่สุดพวกคุณก็ทำกันแล้ว ขอบคุณที่อยู่ร่วมงานพิธีจบการศึกษาในวันนี้ เชิญแยกย้ายกันกลับบ้านได้เลยครับ”ประธานนักเรียนที่เป็นพิธีกรจำเป็นของงานกล่าวพลางโปรยยิ้มอีกเล็กน้อยก่อนจะเดินลงจากเวทีไป ร่างเล็กในชุดนักเรียนที่มีตัวอักษรกับสติ๊กเกอร์เต็มไปหมดแสดงถึงความป๊ปปูล่าร์ของเจ้าตัวแทบจะกระเด้งขึ้นจากเก้าอี้หลัวจากนั่งมาเป็นชั่วโมง ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมา แม้มันจะเป็นเรื่องปกติที่คนเค้าทำกัน แต่พอคนตัวเล็กคนนี้ทำแล้วมันกลับดูน่ารักน่ามองไปหมด
“ยังโยซอบ จะไปไหนต่อป่ะ?”เพื่อนหนุ่มหน้าตาหล่อกระชากใจที่นั่งหลับอยู่ข้างๆลุกขึ้นบิดขี้เกียจบ้าง ก่อนจะหันมาถามเสียงยานเพราะยังตื่นได้ไม่เต็มที่
“เหอะทำเป็นถาม จริงๆนายก็แอบหวังไม่ให้ฉันไปใช่ปะล่า ฉันรู้หรอกน่าว่านายนัดกับฮยอนซึงไว้ ฉันคงไปถ่ายรูปโรงเรียนเก็บไว้ซักพักก่อนแลหะแล้วค่อยกลับ ขี้เกียจฉลอง”
“พูดเองนะ ว้า...เสียดายจังเลย ซึงจ๋าได้ยินมั้ยไอ้ยังมันไม่ไป แต่ฉันจองห้องเกะไว้แล้ว ฉันรู้ว่านายไม่อยากเสียของงั้นเราไปกันสองคนละกันเนอะ”ร่างสูงหันไปเกาะแขนหนุ่มหน้าสวยที่ยืนทำหน้าหมดหน่ายกับความดื้อของแฟนตัวเองแล้วยิ้มร่าทั้งๆที่ปากบอกเสียดาย ก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากเขาออกไปทันทีที่ร่างบางพยักหน้าอย่างหมดทางเลือก
“ฮ้าาาาา ไหนๆเค้าก็ไปกันหมดแล้ว เราเองก็ไปถ่ายรูปมั่งดีกว่าเนอะ ฮิๆ”ร่างเล็กหันไปโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักทั้งสองคน ก่อนจะหยิบกล้องที่ห้อยอยู่ที่คอของตนขึ้นมาเปิดและเดินตามออกไปบ้าง
“แชะ แชะ แชะ”ร่างบางเดินรัวกดชัตเตอร์กล้องไปอย่างไม่รู้จักเบื่อ กว่าจะรู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่หน้าสนามฟุตบอล ที่ๆปกติเขาไม่ค่อยได้ผ่านมาเท่าไหร่เพราะกลัวแดดแถมพอเริ่มคบกับจุนฮยองหมอนั่นก็พาเขาขี้เกียจเตะบอลไปด้วย
“อืมมมมมม อู้ววว มุมนี้โอเคเลยแฮะ”เขาหมุนกล้องไปเรื่อยแล้วลุกๆนั่งๆอยู่ซักพักจนหามุมที่อยากถ่ายเจอและยิ้มกว้างออกมาจนเห็นลุกยิ้มเล่นเอาคนที่เล่นบอลอยู่หันมามองตาค้างไปตามๆกัน ยกเว้นคนๆเดียว...
“เฮ้ยๆๆ อย่ามัวแต่เหม่อดิพวกแก จะเตะแล้วนะเว้ย”
“แชะ”
“หืม!?!”อยู่ดีๆเด็กหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นน้องตะโกนเสียงดังมาจากทางไหนก็ไม่รู้ แล้ววิ่งผ่านหน้าร่างบางไปตอนที่เขากดชัตเตอร์พอดี แสงแฟลชที่จ้าเข้าตาทำให้ร่างสูงชะงักจากการเตะลูกบอลแล้วยกมือป้องตาอัตโนมัติ ก่อนจะหันมามองเจ้าของกล้องงงๆ
“เอ่อ..ผมบังกล้องรึเปล่าครับ?”
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก ฉันต่างหากต้องขอโทษที่มาขัดเกมนายอย่างนี้”
“นี่...รุ่นพี่อยู่ม.6ใช่มั้นครับเนี่ย...มาถ่ายรูปโรงเรียนว่ะสิ”
“อื้ม วันนี้ฉันมาโรงเรียนวันสุดท้ายแล้วน่ะ ก็เลยจะถ่ายเก็บไว้ดู”
“ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ แล้วนี่...ใช้กล้องฟิล์มหรือดิจิตอลอ่ะครับ”
“หา..? ดิจิตอลน่ะ”ร่างเล็กอึ้งไปกับคำถามแปลกๆที่คนข้างหน้าถามมาแต่ก็ตอบไปอยู่ดี
“เปล่าหรอกครับ แค่กลัวว่าใช้กล้องฟิล์มแล้วมีผมติดไปในรูปน่ะสิ เสียดายแย่เลย”
“ฮะๆ นายนี่ตลกดีนะ...อืม...จะว่าไปมันไม่ได้แค่ติดนายนะ มันหน้านายเต็มๆเลยตะหาก นายอยากให้ฉันลบรึเปล่าล่ะ?”ร่างเล็กก้มลงเปิดรูปในเม็มกล้องดูแล้วหัวเราะออกมา รอยยิ้มที่เจ้าตัวยิ้มซะแก้มขาวๆนั่นแทบปริทำเอาคนข้างหน้าใจเต้นระส่ำระส่ายจนต้องหลบตาโตๆนั้นไปเล็กน้อย
“อ่า...จริงๆผมไม่ค่อยชอบให้คนอื่นถ่ายรูปตอนทีเผลอหรอกนะ...แต่ไหนๆวันนี้รุ่นพี่ก็เรียนจบแล้ว แล้วในรูปผมก็ไม่ค่อยขี้เหร่เท่าไหร่...ถือว่าผมให้รุ่นพี่เป็นของขวัญเรียนจบละกัน ฮ่าๆๆๆ”
“งั้นก็...ขอบใจนะสำหรับของขวัญ จริงๆในรูปนี้นายก็หล่อจะตายน้า”ร่างบางยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะก้มลงอมยิ้มกับรูปเจ้าตัวในกล้อง
“แล้วนี่...นายอยู่ม.อะไรเนี่ย”
“ม.1 ครับ”
“เฮ้ยจริงอ่ะ!?!”
“โอ่ว...หน้าผมไม่บอกขนาดนั้นเชียว=..=”
“ไม่ใช่อย่างง้านนนน แต่นายก็หล่อดีนี่นา ถือว่าเจ๊าไง ฮิๆ”
“จะถือว่าเป็นคำชมละกันนะครับ ฮะๆ งั้น..ถ้าไม่มีอะไรผมไปเล่นบอลต่อก่อนนะ ไว้เจอกันให่มนะครับรุ่นพี่”ร่างสูงหันมาโค้งให้ร่างเล็กนิดหน่อยก่อนจะวิ่งกลับเข้าสนามฟุตบอลไป ร่างบางมองตามแผ่นหลังกว้างไป ก่อนจะโบกมือให้เล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวหันกลับมามองเขาอีกครั้ง
“โหยยย ยุนดูจุน แกรู้จักกับดาวโรงเรียนอย่างรุ่นพี่ยังโยซอบก็ไม่แนะนำให้ฉันมั่งเลยนะเว้ย”
“ใครบอกว่ารู้จักเล่า ก็เพิ่งเคยคุยกันวันนี้วันแรกน่ะแหละ...”เสียงแซวเจี๊ยวจ๊าวดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงกลับเข้าไปเล่น ทำให้เกมบอลเป็นอันต้องหยุดไป
“อ๊ะ ห้าโมงกว่าแล้วหรอเนี่ย...กลับบ้านดีกว่า”ร่างบอบบางก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะรีบวิ่งออกจากโรงเรียนไปโดยไม่ลืมหันกลับไปมองคนรู้จักคนใหม่ในสนามฟุตบอลที่มองกลับมาเช่นกันทำให้ทั้งสองมบตากันอีกครั้ง ต่างคนต่างยิ้มให้กันอีกครั้งก่อนเขาจะเปิดรูปในกล้องดูพลางออกเดินกลับบ้านและอมยิ้มมุมปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ยุนดูจุน...นายชื่อยุนดูจุนสินะ”
“งั้นที่โยซอบบอกว่ารักผมมาตั้งนานแล้ว..ก็ตั้งแต่ตอนนั้นเลยอ่ะดิ”
“อื้ม./////.”โยซอบงุดหน้าลงกับผ้าห่มแล้วพยักหน้าหงึกๆ
“แฮ่ๆ รักแรกพบเลยอะเด๊ะ แปลว่าผมหล่อมาก โยซอบเห็นปุ๊บติดใจปั๊บ”
“ก...ก็ ไม่เถียง”
“น่ารักจังเลยแฟนผมมมมมม”
“ถ้าฉันน่ารักมากกกกกกก ก็รักฉันให้มากอย่างที่พูดละกัน”
“มั่นใจได้เลย โยซอบไม่ต้องกลัวผมจะทิ้งโยซอบไปไหนหรอกนะ”
“แหม...จะไม่ให้ฉันกลัวได้ไงล่ะ...ฉันแก่กว่านายตั้งหกป..อุ๊บ”โยซอบพูดเสียงหงอยลงแต่ก่อนจะพูดจบก็โดนร่างสูงดึงเข้าไปปิดปากซะก่อน ลิ้นอุ่นสอดเข้าควานหาความหวานในโพรงปากเล็กอย่างไม่รู้เบื่อ แล้วผละออกมาเมื่อร่างเล็กข้างล่างเริ่มหายใจไม่ออกเพราะโดนจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัว นิ้วยาวแตะลงบนริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆแล้วระบายยิ้มบาง
“อย่าพูดอย่างงี้อีกนะโยซอบ...ผมสัญญาว่าเราจะรักกัน...ตลอดไป...นะ”
THE END!!!
จบแล้วจ้าาาาา สนุกมั้ยเอ่ยๆ?
เอามาลงดึกหน่อยเพราะนั่งแต่งแล้วเพ้อ 555
หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
เรื่องต่อไปจะตามมาอีกไม่นาน ติดตามกันต่อไปจ้า^^
ก่อนจากกัน ทิ้งท้ายไว้ด้วยพิคฟิคเบาๆจ้าาาาา
ความคิดเห็น