คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [OS Project] สัมผัสทั้งห้า: Vision
ความรู้สึกที่มองไม่เห็นสิ่งใดรอบตัว...
ความรู้สึกเหมือนกับ...อยู่ในห้องมืดรอบด้านตลอดเวลา
ความรู้สึกที่แยกกลางวันกลางคืน หน้าตา ส่วนสูงของผู้คนไม่ได้น่ะ
คุณคงไม่เข้าใจหรอก
อา...ผมล่ะอยากมองเห็นอีกซักครั้งจริงๆเลย
“ปึง! โครม! ปัง! ครืดดดดดดด”
เสียงอึกทึกคึกโครมดังมาจากอีกฟากของผนังห้องปลุกให้ผมต้องตื่นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ผมเอื้อมมือไปยังโต๊ะหัวเตียงเล็กน้อยก่อนจะตะปบนาฬิกาเรือนยักษ์ไปเต็มแรง
“เจ็ดโมงสิบห้า วันที่ 31 ธันวาคม 2XXX”
นาฬิการ้องตอบกลับมาเสียงเรียบ แต่ผมกลับขมวดคิ้วจนแทบจะผูกเป็นปมได้แล้ว
“โอยยยยย ใครเนี่ยย้ายเข้ามาแต่เช้าเลย รู้จักเกรงใจเพื่อนบ้านมั่งสิว้าาาา วันหยุดนะครับวันหยุด”
ผมโวยวายออกไปดังพอสมควรเผื่อว่าเพื่อนบ้านใหม่จะได้ยินซักนิด แล้วล้มตัวลงนอนบนเบาะนุ่มอีกครั้ง
“ขอโทษคร้าบบบบบบบบบบบบบบ”
“เฮือก!!!”
เกินคาด...คนจากข้างห้องตะโกนตอบกลับมา ไม่นะ คิดว่าเค้าจะไม่ตอบ
นี่เราตะโกนดังขนาดนั้นเลยหรอวะ
.
.
.
“ซวยแน่...ยังโยซอบเอ๊ย”
“ก๊อกๆๆๆ อยู่มั้ยครับ ผมคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่น่ะครับ”
เสียงเคาะประตูดังมาไม่ไกลจากเตียงนักเรียกให้ผมตื่นขึ้นมาอีกรอบ
“แปะ...แปะ...แกร่ก”
ผมแปะมือลงไปบนโต๊ะหัวเตียงเพื่อคลำหานาฬิกาอย่างที่ทำปกติ ก่อนจะกดปุ่มด้านบนของมัน
“สิบโมง สามสิบนาที วันที่ 31 ธันวาคม 2XXX”
“โอเค สายแล้ว อย่างนี้ค่อยถูกมารยาทสังคมหน่อย”
ผมพึมพำกับตัวเองซักนิดก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียง ควานหารองเท้าแตะใส่ในบ้านมาสวม แล้วค่อยเดินไปเปิดประตูห้อง
“แกร่ก...”
“สวัสดีครับ ผมยุนดูจุน เรียนอยู่ปีสอง คณะวิศวะนาโน เพิ่งย้ายมาอยู่ห้อง200ข้างๆคุณ
เมื่อเช้าทำเสียงดังไม่ถูกเวลาไปหน่อยต้องขอโทษด้วยนะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“อ...เอ่อ” อึ้งสิ...อึ้งแ*กไปตามๆกัน พอเปิดประตูปุ๊บก็เหมือนมีพายุลูกยักษ์พัดถล่มเข้ามาทันที
ไม่ใช่อะไรที่ไหน ก็คุณเพื่อนบ้านใหม่นี่แล ไม่ทันจะเปิดประตูเต็มที่ก็พูดรัวมายาวเหยียดยังกับแร็พ
นี่อีกนิดเดียวจะหงายแล้วนะเนี่ย= =”
“อ่า...ฉันยังโยซอบ ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกัน หะๆ...อ้อ ส่วนฉันเรียนคณะดุริยางค์”
ผมยิ้มบางๆออกไปตามมารยาทก่อนจะจับลูกบิดปิดประตู
“เดี๋ยวครับ...เอ่อ มือ...”
เสียงจากคนข้างหน้าค้านมาอีกครั้งทำให้ผมต้องหยุดการปิดประตูชั่วขณะ
และผมก็คงไม่โง่ขนาดตีความไม่ออกว่าเขาต้องการจะเชคแฮนด์
“อ่า...ขอโทษด้วยนะพอดีผมมองไม่เห็น...อ่ะ”
ผมชูมือขึ้นตั้งระดับอกและยื่นมันไปข้างหน้าเล็กน้อย ใช้เวลาแป๊บนึงก่อนดูจุนจะเข้าใจความหมายที่ผมบอกแล้วยกมือขึ้นจับกับมือของผมก่อนจะเขย่ามันซักสองสามครั้ง
“อย่าหาว่าผมยุ่งเรื่องคนอื่นเลยนะ..แต่ว่า..คุณโยซอบ..”
.
.
.
“ครับ ก็อย่างที่เห็น ผมตาบอด”
“แล้ววันส่งท้ายปีเก่าอย่างนี้นายไม่คิดจะออกไปไหนหน่อยเหรอ”
“ไม่หรอก บ้านฉันอยู่ตั้งแดกูโน่น”
ผมถามขึ้นระหว่างตักไอติมจากถ้วยในมือเข้าปากอย่างคล่องแคล่ว
ไม่เหมือนคนตาบอดซักนิด โฮะๆๆๆๆ (น่าภูมิใจเนอะ= =”// ไรเตอร์)
ถ้าทุกคนสงสัยว่าคนตัวสูงๆนี่เข้ามาอยู่ในห้องนอนผมได้ยังไง...ผมจะเล่าให้ฟังละกัน
‘อ่า...ขอโทษด้วยนะครับ’
‘จะขอโทษทำไมล่ะ คุณไม่ใช่คนที่ทำให้ผมตาบอดซะหน่อย’
‘ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ...แล้วนี่คุณอยู่คนเดียวหรอ’
‘อ่าฮะ...ผมว่าไหนๆเราก็อายุเท่ากันแล้วคุยแบบปกติดีกว่ามั้ย รู้สึกแปลกๆ’
‘โอเค งั้นก็...นายอยู่คนเดียวหรอ’
‘ฉันบอกให้พูดปกติ แต่ไม่ได้ให้พูดซ้ำซักหน่อย ตาพิการแต่หูปกติดีครับ’
‘ฮ่าๆๆๆๆๆ ยิ่งกว่าปกติซะอีกเนี่ย’
แล้วก็กลายเป็นว่าเราสองคนคุยกันถูกปากถูกคอไปเลย
สุดท้ายเราสองคนก็เลยมานั่งเปิดฮิเตอร์ซดไอติมกันอยู่ในห้องผมสองคนนี่ไง
.
.
.
.
.
นี่ล่ะนะ วันส่งท้ายปีเก่าของคนโสด= =”
“ว่าแต่นายล่ะ ไม่กลับบ้านไปหาครอบครัวหน่อยหรอ มานั่งเปิดฮีทเตอร์กินไอติมในวันหิมะตกอย่างงี้อ่ะนะ”
“อืม...ไม่ใช่ฉันไม่กลับ แต่ฉันไม่มีครอบครัวให้กลับไปต่างหาก อุบัติเหตุครั้งที่ทำให้ฉันตาบอดน่ะ...มันไม่ได้เอาไปแค่ความสามารถในการเห็นของฉันอย่างเดียวหรอกนะ...”
“อ..เอ่อ ขอโทษนะ”
ดูจุนตอบกลับมาเสียงเอื่อย ผมหันไปทางที่เขานั่งอยู่แล้วยิ้มให้เขาเล็กน้อย
.
.
.
ไม่ได้เจอคนที่แคร์ความรู้สึกเราขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
.
.
.
.
ตั้งแต่วันที่รถชนจนตาบอด
.
.
.
.
ตั้งแต่วันที่ย้ายเข้าโซลมาเรียน มาอยู่คนเดียวแบบนี้
“ยิ้มอะไรเนี่ย ฉันหลอนนะ”
“ไม่มีอะไรๆ นี่ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่านายไม่ใช่คนที่ขับรถชนฉันซักหน่อย
ไม่ต้องขอโทษกันหรอกน่า เรื่องนี้น่ะฉันทำใจได้ตั้งนานแล้ว”
“อ่า..แหะๆ จะพยายามแล้วกันนะ”
“แล้วเรื่องกินไอติมน่ะ...ปกติฉันว่ามันก็น่าเบื่ออยู่หรอก”
.
.
.
.
“แต่ปีนี้มันก็ดูสนุกดี”
.
.
.
.
“อาจจะเพราะมีนายนั่งกินเป็นเพื่อนมั้ง”
“ยังงงง โยยยย ซอบบบบบ ตื่นได้แล้วครับ เจ็ดโมงแล้วๆๆ”
ปลายเตียงที่ยวบลงและเสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นจากข้างหูเรียกให้ผมตื่นขึ้น
ผมลืมตาขึ้น บิดขี้เกียจนิดหน่อย และยิ้มให้ความฝันเมื่อคืนบางๆ
“อ่า...กู๊ด มอร์นิ่งดูจุนนา”
อยากอวดมากเลย ผมมีนาฬิกาปลุกใหม่มาได้สามเดือนกว่าแล้วนะทุกคน^^
“ไม่ตื่น ฉันเกิดทนไม่ไหวปล้ำแฟนตัวเองไม่รู้นะ ยิ่งไม่มีทางสู้อยู่ ลุงล่ะชอบเหลือเกิน”
“หยุดคิดไปเลยๆ ตื่นนานแล้วว้อยแค่ไม่อยากลุก”
ผมตอบกลับไปยิ้มๆ ก่อนมือหนาจะเอื้อมมาลูบหัวผมเบาๆ
ใช่ อย่างที่คุณเข้าใจ ผมกับดูจุนตกลงเปลี่ยนสถานะจากเพื่อน...เป็นคนรักกันมาได้สามเดือนกว่าๆแล้ว
หลังจากรู้จักกันมาปีกว่าๆ และมีความสัมพันธ์กึ่งเพื่อนกึ่งแฟนกันมาอีกเกือบปี
ในที่สุดเขาก็ขอผมเป็นแฟน... ^^
“ถามจริงเถอะ วันนี้มันวันพิเศษอะไรนักหนา มีเรียนก็ไม่มี ปลุกมาซะเช้าเชียว...อ่ะ”
ผมถามติดงัวเงียเล็กน้อยก่อนจะขยี้ตาเบาๆแล้วอ้าแขนออกให้ดูจุนอุ้มผมขึ้นยืนอย่างที่ทำเป็นประจำ
“นึกดีๆสิ วันนี้เป็นวันสำคัญของเราเลยน้าาาา”
ดูจุนกระซิบเข้าที่ข้างหูผมเบาๆพลางดึงตัวผมให้ลุกขึ้น
“วันไรหว่า.....”
ผมเลยหน้าขึ้นข้างบนอย่าครุ่นคิด ก่อนดูจุนจะโอบเอวทั้งสอข้างผมเข้าไปกอดหลวมๆ
“วันนี้ฉันจะพาไปหาพ่อแม่ฉันที่บ้านน่ะ กะว่าจะพาไปเจอตั้งนานแล้วยังไม่ได้ไปซะที”
“ที่แดกูอ่ะนะ แล้วไปยังไง”
“ก็ขับรถไปดิ ทำไมหรอ”
“มันจะดีหรอดูจุนนา หิมะตกขนาดนี้ขับรถถนนลื่นน่าดูเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกโย วันนี้วันดีมันก็ต้องมีแต่เรื่องดีๆสิจริงมั้ยฮึ”
ดูจุนกระซิบข้างหูผมเบาๆพลางลูบผมปลอบใจ ก่อนจะผมจะรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มนวลที่ริมฝีปากที่ดูจุนประทับลงมา
“อ..อืม จริงด้วยเนอะ”
ผมยิ้มกว้างให้เขา ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการเตรียมตัว
.
.
.
.
.
นั่นสินะ วันนี้วันดี จะคิดมากไปทำไมกันJ
“นี่ดูจุนนา แล้วพ่อแม่นายเค้าจะไม่โกรธหรอ..ถ้าท่านรู้ว่านายกับฉัน...เอ่อ”
“ไม่หรอก พ่อกะแม่รู้แล้วล่ะว่าฉันคบกับนาย แถมฉันยังเคยส่งรูปนายไปให้เค้าดูเลยนะ”
“เห้ยจริง!!”
“ไม่ต้องดังขนาดนั้นก็ได้หูจะบึ้มแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
ดูจุนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะผละมือข้างหนึ่งจากเกียร์มาลูบหัวผมเบาๆ
“ขับรถดีๆไปเถอะน่า ทางมันลื่นนะ”
“ครับๆๆ”
มือหนาขยี้ผมผมเยาๆก่อนจะกลับไปขับรถอย่างตั้งใจดังเดิม
‘ปั่ก’
“โอ๊ย... มีอะไรหรอดุจุนนา”
อยู่ดีๆรถก็หักเข้าซ้ายกระทันหันจนหัวผมโขกกระจกรถไปทีนึง ผมยกมือลูบหัวตรงที่เจ็บป้อยๆก่อนจะหันไปถามดูจุน
“อ๋อ พอดีมีรถแซงไปน่ะ...เข้าจอดข้างหน้าแล้ว สงสัยคงน้ำมันหมดไม่ก็รถเสียมั้ง...ไม่มีอะไรหรอก”
“อ...อืม ระวังหน่อยนะดูจุนนา...ฉันก็น่าจะมองเห็น จะได้ช่วยดูจุนมองทางบ้าง...”
“เฮ้ๆ อย่าคิดมากเลยโย ไม่มีอะไรหรอก นายจะมองเห็นหรือไม่เห็นฉันก็รักนายเหมือนเดิมนั่นแหละ”
“อ...อืม”
ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มบางๆก่อนจะเอนตัวลงนอนพิงเบาะอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...มันรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเอาซะเลย
‘เอี๊ยดดดดดด ฟิ้ววววววว โครมมมมมม!!!!!’
ยังไม่ทันขาดคำ รถก็หักหลบเข้าข้างทางกระทันหันอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับไม่ใช่แค่หลบเล็กน้อยเหมือนเมื่อกี๊
จู่ๆรถก็ลอยขึ้นจากพื้นถนน ก่อนความรู้สึกเคว้งคว้างจะครอบนำไปรอบตัวของผม
นี่คงไม่ใช่...รถคว่ำหรอก..ใช่มั้ย
“ย..โย เป็นอะไรรึเปล่า บาดเจ็บตรงไหนมั้ย ตอบฉันสิโย”
“ม..ไม่เป็น...ไร”
ผมเอ่ยปากตอบไปอย่างอ่อนแรง เสียงรอบตัวมันอื้ออึงไปหมด
“โย อย่าเป็นอะไรนะโย..โย!!!”
และนั่น...เป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน...
“อ...อือ”
“ตื่นแล้วหรอโย เป็นยังไงบ้าง”
“น...นี่ที่ไหน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆพลางยกมือขึ้นก่ายหน้าผากช้าๆ
“แล้วนี่...อะไร”
ถามออกไปเสียงแห้งผากอีกครั้ง เมื่อมือของผมโดนเข้ากับผ้าก๊อซที่ปิดตาทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้
“ใจเย็นๆนะโย ตอนนี้เราอยู่โรงพยาบาล พอดีเมื่อวานซืนที่เราไปหาพ่อกับแม่ของฉันกันน่ะจำได้มั้ย
มีรถตัดหน้าเรา รถฉันก็เลยคว่ำ แล้วนายก็สลบไป ส่วนที่นายโดนปิดตาอยู่อย่างนี้ก็เพราะว่า
พอดี๊พอดีตอนที่โยสลบอยู่ มีคนบริจาคม่านตาใหม่ให้โยพอดีไง”
“จริงหรอ งั้นก็แปลว่าฉันจะมองเห็นแล้วใช่มั้ย”
“อื้ม ดีใจด้วยนะ”
ดูจุนพูดก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วลูบหัวเบาๆอย่างที่ผมชอบให้ทำ
“ฉันล่ะกลัวมากเลยนะว่าโยจะเป็นอะไรไป”
“ถ้านายยังอยู่ฉันก็จะไม่จากนายไปไหนหรอกดูจุนนา...”
ผมยกมือกอดตอบเขาไปหลวมๆก่อนจะกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
“อืม... ฉันรักนายนะโย ฉันจะไม่ยอมให้นายเป็นอะไรอีกแล้ว”
“โย...ยังโยซอบครับ ตื่นได้แล้วนะ”
“อ..อื้ม กู๊ด มอร์นิ่งดูจุนนา”
ผมยิ้มให้ต้นเสียงเล็กน้อยก่อนจะยืดเส้นยืดสายและลุกขึ้นนั่งพิงหมอนที่ดูจุนจัดให้ใหม่
“วันนี้ตื่นสายนะเรา มาๆเดี๋ยวฉันป้อนข้าวเช้าให้ วันนี้มีข้าวต้มกุ้งที่โยชอบด้วยล่ะ”
“เย้~”
ดูจุนลูบหัวผมเบาๆก่อนจะเดินหายไปเตรียมข้าวเช้าให้ผมอย่างทุกวัน
“วันพรุ่งนี้ฉันก็จะได้เห็นหน้านายจริงๆแล้วนะดูจุนนา...”
ผมพูดออกมาลอยๆแล้วยิ้มบางๆ ใช่แล้วพรุ่งนี้ผมจะได้เปิดผ้าพันแผลแล้ว
ต้องขอบคุณเจ้าของม่านตานี่มาก ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ต้องขอบคุณมากจริงๆJ
“นี่ดูจุนนา พรุ่งนี้ตอนที่ฉันเปิดผ้าปิดตานายจะมาอยู่กับใช่มั้ย”
“....”
ดูจุนไม่ได้ตอบอะไร เสียงก๊อกแก๊กจากการกระทบกันของช้อนส้อมเงียบไปราวดูจุนไม่ได้อยู่ตรงนั้น
“ด..ดูจุนนา เป็นอะไรรึเปล่า”
“อ๋อ...ป..เปล่า อ...เอ่อโย พรุ่งนี้ฉันมีธุระสำคัญต้องกลับไปหาพ่อกับแม่น่ะ
ฉันอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยตอนนายเปิดผ้า...ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“อ่า...เรื่องรถชนสินะ”
“อืม แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะกลับมาหานายแน่..ซักวันนึง”
“ม..หมายความว่าไงดูจุนนา ซักวันนึงน่ะ นายจะไปไหน นายจะไปทำอะไรดูจุน”
“ใจเย็นโย ฉันก็แค่พูดอย่างนี้เพราะว่าฉันจะกลับมาหานายหลังเสร็จธุระไง
เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปอยู่กับพ่อแม่กี่วัน แต่ไม่กี่วันหรอกโยเชื่อฉันสิ”
“อ...อืม อย่าพูดอย่างนี้อีกนะดูจุนนา อย่าพูดเหมือนกับว่าเราจะไม่ได้เจอกัน”
“อย่าพูด...ยังกับเราจะไม่ได้เจอกันอีก...”
“โอ๋ๆๆๆ อย่าร้องนะเด็กน้อย งั้นเพื่อเป็นการชดใช้ วันนี้ยุนดูจุนจะอยู่ดูแลคนป่วยทั้งวันเลยดีมั้ยเอ่ย”
“อื้ม เอาให้สมกับเวลาที่จะหายไปด้วยล่ะ”
“แน่น๊อนนนนนนนน ที่รักของผม^^”
“พรุ่งนี้ก็จะได้เปิดแผลแล้วนะคะคุณโยซอบ ยินดีด้วยน้าาา”
“ครับ ขอบคุณนะครับคุณจียอนที่คอยดูแลผม พรุ่งนี้ผมก็จะได้รู้แล้วว่าคุณสวยขนาดไหน คึๆ”
ผมยิ้มให้นางพยาบาลดูแลไข้ที่คอบดูแลผมอย่างดีมาตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นเล็กน้อย
คุณจียอนดึงผ้าห่มของผมขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะออกจากห้องไปเงียบๆ
“แหม หม้อสาวไม่อายแฟนเลยนะยังโยซอบ”
“เหอะ ก็ใครล่ะจะแอบหายไปวันที่แฟนจะได้ลืมตาดูโลกน่ะฮะ”
“อ่า ล้อเล่นน่าๆๆๆ อย่างงอนกันนะโยอ่า~”
“...”
“ขอโทษนะโย นี่โกรธฉันจริงๆหรอ”
“...”
“โย...“
“ใครว่างอนละโด่ว โง่นะเรา แบร่~”
ผมแยกเขี้ยวใส่ต้นเสียงที่น่าจะนั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะฟุบตัวลงนอนพลางหัวเราะเสียงดัง
“ถึงจะโง่แต่ก็เป็นแฟนนายไม่ใช่รึไงฮึ”
“อ่อ พอดีฉันชอบผู้ชายโง่ไง ฮ่าๆๆๆๆ”
“รู้สึกพูดนะนาย มานี่เลยยยยย”
ดูจุนลุกขึ้นโซฟาเข้ามาจี้ที่เอวผมไม่ยั้ง แล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น
“เป็นไรเนี่ย โถ่คิดว่าโกรธที่ไหนได้หาทางแต๊ะอั๋งเค้านี่หว่า”
“ก็รักอ่ะ ไม่ได้รึไง”
“ได้ๆๆ แต่อย่ากอดแน่นนักเสะ!! เดี๋ยวแผลที่ตามันจะปวด”
“เกี่ยว”
“เกี่ยวดิ แว๊กกกกกก”
ผมพูดย้ำทฤษฎีปัญญาอ่อนของตัวเอง แต่ดูจุนก็ไม่ฟังอะไร กลับดึงผมเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิมซะอีก
“พรุ่งนี้น่ะ...นายต้องสู้นะโยซอบ ต้องอยู่ให้ได้นะ”
“ดูจุนนา...เป็นอะไร ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”
“ก..ก็ ให้นายดูแลตัวเองไง พรุ่งนี้จะได้มองเห็นแล้วนี่เนอะ”
ดูจุนผละอ้อมกอดออกไปและลูบหัวผมเบาๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจากตัวเขาหรอกนะ
“ตอนนี้กี่โมงแล้วหรอดูจุนนา”
ผมถามขึ้นหลังจากงีบไปซักพัก โดยมีดูจุนนั่งลูบหัวกล่อมผมอยู่ไม่ห่างจนตื่น
“สองทุ่มแล้วล่ะ”
“จริงหรอเนี่ย นี่ฉันนอนไปสามชั่วโมงเลยหรอ”
“อื้ม ไม่เห็นต้องตกใจเลยนี่นา ฮึ”
ดูจุนลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆผมและจัดการจับผมลุกขึ้นนั่งพร้อมโอบผมลงซบไหล่เขาช้าๆ
“แหม ก็วันนี้กะว่าจะอยู่คุยกับดูจุนนาทั้งวัน สุดท้ายต้องให้ดูจุนนามานั่งเฝ้าตอนฉันหลับซะงั้นอ่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉันได้นั่งมองหน้าโยฉันก็มีความสุขแล้ว”
ว่าเบาๆก่อนดูจุนจะก้มลงจรดปลายจมูกกับหน้าผากของผมช้าๆแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“อีกอย่าง ถึงนายตื่นก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ดีนี่เนอะ”
“อืม... งั้นไหนๆฉันก็ตื่นแล้ว ทำไรกันดี”
“งั้นมาเต้นรำกันมั้ย วันนี้พระจันทร์เต็มดวงด้วยนะ”
“จะดีหรอ”
“อื้ม มาสิๆ”
ดูจุนว่าพลางจับมือผมและดึงให้ผมลงยืนบนพื้นช้าๆ
“แต่ฉันเต้นรำไม่เป็นนะ มองไม่เห็นด้วย”
“ไม่ต้องห่วง... นายมีฉันอยู่ทั้งคนไง”
ดูจุนกระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมยิ้มให้เขาบางๆก่อนดูจุนจะดึงผมเข้าไปใกล้ๆแล้วเอาหูฟังข้างหนึ่งมาใส่ให้ผม
มือหนาแต่อบอุ่นข้างหนึ่งของเขาสอดเข้าประคองเอวของผมไว้ ก่อนอีกข้างนึ่งจะจับมือของผมไปวางบนไหล่
และดึงมืออีกข้างของผมเข้าไปประสานนิ้วไว้แน่น
ฟังเพลงนี้เพิ่มบรรยากาศเนอะ => DOOSEOB
“ค่อยๆก้าวตามที่ฉันบอกนะ”
ดูจุนดึงตัวผมเข้าไปกอดจนชิด ก่อนจะค่อยก้าวขาไปตามจังหวะเพลงช้าๆ
“ก้าวขาขวามางข้างหน้า แล้วก็ไปทางขวา ถอยไปข้างหลัง แล้วก็ก้าวขาซ้ายไปทางซ้าย”
ผมพยักหน้าหงึกๆก่อนจะค่อยๆเริ่มก้าวเท้าตามดูจุนไปเรื่อยๆ
“ทำได้แล้วล่ะ^^”
“เก่งมาก... ทำไปเรื่อยๆนะ”
ผมยิ้มลางๆอีกครั้ง ก่อนเราจะปล่อยให้เสียงเพลงเปิดคลอเบาๆที่เราได้ยินกันเพียงแค่สองคนนำใจและตัวของเราไป
“นี่โยซอบ”
“หืม”
“ทำไม...นายถึงรักฉันเหรอ”
“ถามทำไม่อ่ะดูจุนนา”
“เปล่า... ฉันก็แค่อยากรู้ว่าฉันดียังไงนายถึงได้รักฉัน”
“ฉันว่าคนที่ควรจะถามคือฉันมากกว่า ว่าทำไมนายถึงได้มารักคนตาบอดแบบฉัน”
“เฮ้ๆ ฉันถามก่อนนะ นายก็ตอบมาก่อนสิ”
“อืม... สาเหตุที่ฉันรักนายอ่ะหรอ...”
ผมพิงหัวลงกับไหล่ของดูจุนเบาๆ เอ...ผมจะพูดว่ายังไงดีล่ะ..
ขืนให้พูดทั้งหมด...เป็นวันก็พูดไม่หมดหรอกนะ
“ก็...ดูจุนนาใจดี อบอุ่น แบ้วก็คอยดูแลฉันมาตลอด”
“ไม่ใช่แบบคนที่สงสารกัน...”
“แต่แบบคนที่เป็นห่วงกัน”
“แบบที่...ฉันลืมไปแล้วว่ามันเป็นยังไง”
“แล้วก็...เพราะฉันรู้สึกว่า....ฉัน...เกิดมา..เพื่อเจอกับนาย...”
ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง ดูจุนลูบหน้าของผมไปมาอย่างทะนุถนอม ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจูบลงที่ริมฝีปากผมช้าๆ
นั่นสินะ... ตั้งแต่คบกันมาเราสองคนยังไม่เคยจูบกันจริงๆซักครั้ง... แบบนี้น่ะ...
ดูจุนมักจะบอกว่าผมยังไม่พร้อมบ้าง หรืออยากให้เราโตกว่านี้ก่อนบ้าง
แต่วันนี้เขากลับมอบสัมผัสที่ผมรอคอยมานานโดยที่ผมไม่ได้เอ่ยถามหรือขอเหมือนคราวก่อนๆ
“วันนี้คิดยังไงถึงยอมจูบกับฉันแล้วล่ะ ปกติล่ะปัดนักปัดหนา”
ผมเอ่ยถามเมื่อดูจุนผละใบหน้าออกไปและดึงผมเบาๆให้เริ่มก้าวเท้าเต้นอีกครั้ง
“ก็ฉันกลัวจคะคิดถึงนายนี่นา ถ้านายมองเห็นแล้วไปหลงรักคนอื่นจะทำยังไง อย่างน้อยถ้าฉันเคยจูบนายแล้ว
นายจะได้จำฉันไปตลอดไง...ในนี้”
ดูจุนจิ้มนิ้วลงที่หน้าอกข้างซ้ายของผมช้าๆก่อนจะเลื่อนมือมาจับที่ใบหน้าของผมไว้เบาๆ
สงสัยตอนนี้เขาคงกำลังจ้องหน้าผมแล้วคิดอะไรอยู่ละมั้ง
“เพลงนี้เพราะเนอะ”
“อ..อืม”
ดูจุนเปลี่ยนเรื่องไปหลังจากเงียบไปได้ซักพัก
“รู้มั้ยว่าเพลงมันเกี่ยวกับอะไร”
“ม..ไม่รู้สิ มัวแต่คุยกับนาย ไม่ได้ฟังเลย แหะๆ”
“เพลงนี้น่ะ...เกี่ยวกับโรมิโอกับจูเลียต”
“คนสองคนที่รักกัน แต่กลับไม่สามารถจะอยู่ด้วยกันได้”
“มัน..น่าเศร้าจังเนอะ”
“อ..อืม นี่ดูจุนนาเป็นอะไรหรือเปล่า ซึมมาทั้งวันแล้วนะ”
ผมยกมือขึ้นจับหน้าของดูจุนเบาๆบ้าง อยากจะถอดผ้าปิดตาบ้าๆนี่ออกให้สิ้นเรื่องไปซักที
“เปล่าหรอก ก็ฉันอยากอยู่ด้วยตอนนายเปิดตานี่นา เสยดายจังอ่ะ”
“ก็ไปสายๆหน่อยสิ”
“ก็อยากอยู่หรอก แต่ฉันมีนัดแล้ว สายไม่ได้ซะด้วย”
“อืม...”
“นี่โย...”
“หืม”
“คืนนี้...ก่อนฉันจะไป...”
“ฉันขอคำยืนยันได้มั้ย...ว่านายจะไม่ลืมฉัน ตอนที่ฉันไม่อยู่...”
สำหรับNC ไปอ่านที่นี่นะครับผม => DOOSEOB
ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้างๆคนรักบนพื้นที่ว่างบนเตียงช้าๆ มือหนาเกลี่ยผมที่จับตัวกันไปหมดเพราะเหงื่อ
ของอีกคนออกจากหน้าผากเนียนช้าาๆ ก่อนจะกดปลายจมูกลงเบาๆอย่างเอ็นดู
“ฉันรักนายจังโยซอบ...”
“อื้ม ฉันก็รักดูจุนนา”
โยซอบยิ้มกว้างก่อนจะพลิกตัวมากอดดูจุนไว้หลวมๆพลางถูหัวไปมาอย่างที่ชอบทำ
“นี่โย สัญญากับฉันอย่างได้มั้ย”
“ถ้าเกิดระหว่างที่ฉันไม่อยู่ แล้วนายเจอใครที่ดีกว่าฉัน คนที่ดูแลนายได้”
“ถามอะไรเนี่ยดูจุนนา!”
“เดี๋ยวโยฟังก่อน.. โยสัญญาได้มั้นว่าโยจะเปิดรับคนที่ดีกว่าฉัน...”
“ไม่ ในเมื่อฉันรักดูจุนนา..แล้วดูจุนนาจะให้ฉันไปรักคนอื่นได้ยังไง ทั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากเลยซักนิดเนี่ยนะ!”
“ไม่ โย..คือฉัน..”
“หรือดูจุนนา..ไม่รักฉันแล้วหรอ”
โยซอบกำมือแน่นพลางซุกหน้าลงกับแผงอกกว้าง เสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะก่อนดูจุนจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสแฉะๆออกมาจากผ้าปิดตาของร่างเล็ก...นี่โยซอบ..ร้องไห้เพราะเขางั้นเหรอ
“ไม่ใช่อย่างนั้นโย ฉันแค่อยากให้นายได้เจอคนที่ดีกว่าฉัน...
ถ้านายเกิดรู้สึกรักใครแบบที่รักฉัน ฉันก็ไม่อยากให้นายมายึดติดกับฉัน...ทำให้กันได้มั้ยโย”
“อ.อืม”
โยซอบพยักหน้าเบาๆ ก่อนดูจุนจะคว้าร่างบอบบางของคนรักมากอดแน่น
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ร้องไห้
...หรอกนะ
“แต่ฉันก็อยากขอให้นายสัญญาอีกอย่าง...”
“หืม”
“ว่าจนกว่าฉันจะกลับมา....”
“จนถึงวันนั้น..”
“รอฉันนะ... อย่าลืม..อย่าลืมฉันนะ”
ร่างสูงกลั้นเสียงสะอื้นให้มากที่สุดก่อนจะยิ้มเล็กๆและพูดออกไปราวกับไม่ได้รู้สึกแย่
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมดูจุนนาถึงพูดแบบนี้..ฮึก ต..แต่ถ้าดูจุนนาขอ...”
“ฉันก็สัญญา...”
ดูจุนยิ้มบางๆก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางที่เขารักมากที่สุดนั้นอย่างนุ่มนวลและเนิ่นนาน
ราวกับ...
มันจะเป็นครั้งสุดท้าย...
“คุณโยซอบคะ...คุณโยซอบตื่นได้แล้วนะคะ”
“อ...อือ ครับ”
ร่างเล็กบนเตียงตอบเสียงงัวเงียก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มือก็จับตัวเองเล็กน้อยเผื่อจะยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
แต่ก็โล่งไปได้ เมื่อพบว่าร่างสูงได้จัดการใส่เสื้อผ้าให้เขาเมื่อคืนก่อนจะออกไป
“ค่อยๆลุกนะคะ เดี๋ยวจะได้ถอดผ้าปิดตาแล้วนะ”
จียุนเดินเข้ามาช่วยพยุงร่างเล็กขึ้นนั่งเบาๆ แต่เจ้าตัวก็หน้าบิดไปครู่หนึ่ง
เมื่อความเจ็บที่ช่วงล่างมันช่างทำลายแรงในการลุกเสียจริงๆ
“อ๊ะ!”
“เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณโยซอบ”
“อ..ไม่มีอะไรครับ สงสัยเมื่อคืนจะนอนผิดท่าเลยปวดตัวนิดหน่อย”
ยิ้มเจื่อนแล้วตอบไปโกหกคำโต
“เอาล่ะงั้นเดี๋ยวเราจะถอดผ้าพันแผลกันเลยนะคะ”
“ครับ”
ร่างเล็กยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากนางพยาบาลสาว เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอีกคนได้ดีเสียจริง
“งั้นก็ หลับตาก่อนนะคะ แล้วพอดิฉันบอกให้ลืมตาก็ค่อยๆลืมตาช้านะคะโอเคมั้ยเอ่ย”
“ครับ”
ว่าแล้วจียุนก็ค่อยๆแกะเทปผันแผลทั้งสองข้างออก แสงจากข้างนอกทะลุผ่านเปลือกตาเข้ามาเล็กน้อยทำให้โนซอบยิ่งตื่นเต้นใจแทบหลุดออกมาจากเบ้า จะได้มองเห็นแล้วสินะ...
“ทีนี้ก็...ค่อยๆลืมตานะคะ... แสงอาจจ้าแต่อย่าขยี้ตานะคะ”
“ค..ครับ”
ร่างเล็กพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะค่อยปรือตาลืมขึ้นช้าๆ ตื่นเต้นจนหายใจแทบไม่เป็นจังหวะ
“อ๊ะ”
อุทานออกมาเล็กน้อยเมื่อแสงรอบตัวมันสว่างซะเหลือเกิน ก่อนจะค่อยลืมตาขึ้นช้าๆอีกครั้ง
“ม..ม...มองเห็นแล้ว... ผมมองเห็นแล้วครับคุณจียุน”
โยซอบตะโกนอย่างดีใจทั้งน้ำตา... น้ำตาแห่งความดีใจหรอกนะ
“อยากให้ดูจุนนามาอยู่ด้วยจัง...”
ร่างบางพูดลอยๆก่อนจะหันมองไปนอกหน้าต่าง นกตัวเล็กสีสันสดใสบินมาเกาะที่ขอบระเบียงห้องพักของเขาสามสี่ตัว
ราวกับจะมายินดีที่เขามองเห็นได้อีกครั้งอย่างนั้นแหละ
“คุณจียุนครับ รู้มั้ยว่าดูจุนออกไปจากห้องผมเมื่อไหร่”
“ค..คะ เอ่อ คุณดูจุน..คือใครหรอคะ”
“อ้าว ก็ผู้ชายที่มาเฝ้าผมทุกวันน่ะครับ ที่ปกติจะนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวนั้น”
โยซอบมองจียุนตาปริบๆก่อนจะชี้ไปยังโซฟาหนังที่มุมห้อง
“อ..เอ่อ ขอโทษนะคะ แต่เท่าที่ฉันอยู่เฝ้าคุณโยซอบมา ก็ไม่มีใครมาเฝ้าคุณโยซอบนี่คะ
แถมในประวัติคนไข้ คุณโยซอบก็ไม่มีครอบครัวที่ไหนนะคะ”
“จ..จะเป็นไปได้ยังไงครับ ดูจุนก็คนที่ตัวสูงๆ ที่นั่งรถไปกับผมวันที่รถคว่ำไงครับ
เค้าอยู่กับผมมาตั่งแต่วันแรกที่ผมตื่นเลยนะ!!”
“...”
จียุนหน้าถอดสีเล็กน้อยก่อนจะเงียบไปทันที ยิ่งสร้างความสงสัยให้โยซอบมากกว่าเดิม
“เงียบทำไมล่ะครับคุณจียุน นี่คุณแกล้งอะไรผมอยู่หรือเปล่า”
ร่างบางจับมือนางพยาบาลสาวมากุมไว้หลวมๆก่อนจะจ้องตาอีกคนอย่างต้องการคำตอบ
“อ..เอ่อ คือ ดิฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี”
“แต่ตั้งแต่วันแรกที่คุณฟื้น ก็ไม่มีใครอยู่เฝ้าคุณจริงๆนะคะ”
“แล้วคนที่คุณบอก...ว่านั่งรถไปกับคุณวันที่คุณประสบอุบัติเหตุ”
“ดิฉันทราบมาว่า.. ตอนที่รถพยาบาลไปถึงที่เกิดเหตุ เขาบาดเจ็บสาหัสมาก”
“แต่รถของเราอีกคันยังไปไม่ถึง”
“เขาเลยบอกว่า....”
“ให้พาคุณมาก่อน”
“แต่กว่ารถคันที่สองจะไปถึง...”
“เราก็...”
“พอแล้วครับ!!! พอเถอะ ผมไม่อยากฟัง นี่คุณกำลังพูดเล่นอะไรรึเปล่าครับ ผ..ผมโดนหลอกเต็มๆเลยนะเนี่ย ฮะๆ”
โยซอบยกยิ้มทั้งน้ำตา ในใจหวังว่ามันจะเป็นพียงเรื่องล้อเล่น
ไม่หรอกน่า...ดูจุนอยู่กับเขามาตลอด
นั่งพูดคุยกับเขาทุกวัน
แถมเมื่อคืนยัง...
“ไม่จริงหรอก นี่เรากำลังถ่ายรายการซ่อนกล้องอะไรกันรึเปล่าครับคุณจียุน”
มองตานางพยาบาลคนสวยอย่างคาดหวัง หวังเพียงแค่ว่าจียุนจะหลุดยิ้มแล้วบอกเขาว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่เซอร์ไพรส์
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
“คุณดูจุน..เสียชีวิตคาที่หลังจากพวกเราพาคุณมาได้ไม่นานค่ะ”
“และเขายังทิ้งโน๊ตไว้ในมือถือด้วยว่า....”
“ให้เอาม่านตาของเขา...มาเปลี่ยนถ่ายให้คุณ...”
THE END
แน่ะ...
แน่ะ....
ค้างอ่ะดิ๊
รู้หรอกน่า 55555 ไม่ต้องห่วงเราไม่ปล่อยให้รีดเดอร์ทุกคนสับสน
ภาคต่อคัมมิ่งซูนจ้า~
ความคิดเห็น