อย่าโง่! คำพร่ำสอนของคุณครูที่รัก - อย่าโง่! คำพร่ำสอนของคุณครูที่รัก นิยาย อย่าโง่! คำพร่ำสอนของคุณครูที่รัก : Dek-D.com - Writer

    อย่าโง่! คำพร่ำสอนของคุณครูที่รัก

    ใครๆ คงไม่อยากถูกด่าว่า "โง่" จริงมั้ยครับ แต่ทำไมนะ...ผมชอบที่จะโดนอาจารย์ท่านนี้ด่าว่า "โง่" ชะมัด

    ผู้เข้าชมรวม

    946

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    946

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 มิ.ย. 54 / 09:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                หมายเหตุ บทความนี้อาจมีคำไม่เหมาะสม แต่เพราะมันเป็นเรื่องจริง จึงไม่ขอเซ็นเวอร์ใดๆ และหวังว่าผู้ใดที่เข้ามาอ่านจะหัวเราะไปกับมันนะครับ

                ปล.ทั้งนี้ทั้งนั้น บางส่วนที่เป็นความคิดเห็นของผม ผมหมายถึง "ตัวผม" เท่านั้นนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใครนะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      อย่าโง่! คำพร่ำสอนของคุณครูที่รัก

       

      ใครๆ คงไม่อยากถูกหาว่าโง่ เพราะนอกจากจะเป็นการดูหมิ่นและสบประมาทแล้ว ยังทำให้ผู้ถูกว่านั้นอับอายอีกด้วย และยิ่งระหว่าง “ครู” กับ “ลูกศิษย์” แล้ว คำคำนี้ไม่สมควรหลุดออกมาเพื่อใช้ต่อว่านักเรียนเป็นอันขาด

       

      แต่ครูท่านที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้ ทั้งคำว่า “โง่” และ “ควาย” กลับพุ่งเข้าใส่นักเรียนทุกคนไม่เลือกหน้า จนเราๆ แทบจะรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมแหลมๆ งอกขึ้นบนหัวทุกครั้งที่เรียนกับท่าน และน่าแปลก ที่ไม่มีใคร “โกรธ” ท่านเลยสักคนที่ดุว่าเราเช่นนี้ มิหนำซ้ำยัง “หัวเราะชอบใจ” กันด้วยซ้ำที่ถูกด่า  

       

      หรือนักเรียนกลุ่มนี้ รวมทั้งตัวผมจะซาดิสท์ ชอบถูกครูว่าแรงๆ ไม่งั้นคือไม่เป็นอันเรียน?

       

      ผมว่าพวกเราเข้าข่ายโรคจิตมากกว่า ที่ชอบให้แกด่าพวกเราเช่นนี้ ยิ่งโจทย์วิชาเคมีซึ่งเด็กนักเรียน “ห้องคิง” ทั้งห้องยังคิดกันไม่ออก ทันทีที่อาจารย์พลิกโครงสร้างแบบจำลองเคมีกลับเข้าที่เหมือนในตำราเด๊ะๆ ทุกคนก็ร้องอ๋อ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นห้องเพราะทุกคนถูกด่าว่า “ควายยย” กันถ้วนหน้า

       

      มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจไม่ชอบที่ถูกด่าด้วยถ้อยคำเช่นนี้ แต่เชื่อเถอะครับ ว่าหากคุณได้มาเรียนกับอาจารย์จริงๆ แล้ว คุณจะพึงพอใจกับการถูกด่า เพราะแท้จริงแล้ว คำด่าเหล่านั้นมันไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกเหยียดหยามนักเรียนคนไหนทั้งนั้น แต่มันเป็น “คำเตือน” ว่าอย่ามองอะไรแค่ผิวเผิน เราต้องหัดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้ได้ลึกซึ้งกว่าบทเรียนทั่วไป มิเช่นนั้นอาจส่งผลไปถึงการเรียนในมหาวิทยาลัยก็เป็นได้

       

      “โจทย์ข้อสอบที่ดี จะต้องแยกเด็กเก่งกับเด็กไม่เก่งได้” นอกจากการสอบย่อยจะบรมยาก ต่อให้เปิดตำราจากที่เรียนพิเศษแห่งหนใด สถาบันใด หรือการสร้างจตุคามรุ่น “มีกูไว้ ไม่ตกเคมี” โดยหัวหน้าห้องก็ยังไม่อาจเอาชนะโจทย์มหาโหดของท่านได้ ใบประกาศคะแนนซึ่งแปะประจานไว้หน้าห้องพักครูจึงมักจะเห็นว่าเด็กห้องคิง ยังได้คะแนนศูนย์ หนึ่ง หรือสอง กันเป็นแถว

       

      แต่เพราะการสอนของท่านเช่นนี้นี่เอง ที่ทำให้ผมสามารถฝ่าด่านข้อสอบแอดมิชชั่นวิชาเคมีมาได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง ช้อยบางข้อจะหลอกเด็กที่ลืมคิดกลับอีกตลบเหมือนที่อาจารย์เคยดักพวกเราไว้แล้วเป๊ะๆ นี่ถ้าหากว่าผมไม่เคยฝึกวิชายุทธเช่นนี้มาก่อน คงจะตกหลุมพรางเหล่านั้นได้ง่ายๆ และกลายเป็น "สัตว์มีเขา” ตามที่อาจารย์ท่านว่าจริงๆ

       

      จนถึงตอนนี้ สิ่งเหล่านั้นได้สั่งสมให้ผมรู้จักคิดให้ดีก่อนลงมือทำ ทั้งข้อสอบ หรือในชีวิตประจำวัน ผมคิดได้ว่าเราจะอยู่ได้หากไม่มีความประมาท นอกจากนี้ ยังเป็นการสอนให้ผมอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะรู้ดีว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า เห็นตัวอย่างได้จากนักเรียนหลายคนที่เก่งกล้าโอ้อวด ไปเรียนพิเศษมาแล้วคิดว่าแน่ ล้วนต้องสยบต่อโจทย์เคมีของอาจารย์ “ศิวาภรณ์” ทุกรายไป

       

      แม้แต่ตอนนี้ ผมก็คงยังเป็นเด็กโง่ๆ ผู้อ่อนประสบการณ์คนหนึ่งในสายตาของอาจารย์ ทันทีที่ตบเท้ากลับเข้าไปเยี่ยมโรงเรียน ก่อนจากลา ยังได้ข้อคิดคำคม(ซึ่งคมบาดใจ)จากอาจารย์ไว้อีกว่า

       

      “กลับมากินหญ้าที่โรงเรียนได้ทุกเมื่อนะพวกเอ็ง!!!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×