ในห้องทรงลูกบาศก์ขนาดเล็กกระทัดรัดแต่กลับอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายจนลายตา ชายหนุ่มร่างโปร่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวเก่ง ดวงเนตรสีแปลกเพ่งไมองปยังคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ชายผู้นี้ถูกเรียกว่าGM เนื่องจากเขาเป็นถึงผู้พัฒนาระบบของเกมแนวเอาชีวิตรอดยอดฮิตอย่างเกมIdentity V ซึ่งกำลังโด่งดังและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
และวันนี้…เขาก็ต้องมาทำหน้าที่ของเขา ในการอัปเดตตัวเกมให้มีสิ่งใหม่ๆที่น่าสนใจอย่างอีเว้นท์พิเศษ ตัวละครใหม่ หรือสกินสวยๆให้ผู้เล่นได้เก็บสะสมกันไป
ชายหนุ่มเริ่มรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์จนเกิดเสียงกระทบระหว่างปลายเล็บกับคีย์บอร์ดดังแกรก...แกรก...ไปทั่วห้อง ยิ่งเป็นห้องเงียบๆเช่นนี้ เสียงเหล่านี้ยิ่งชัดเจน
ตัวเลขดิจิตอลบอกเวลา2.00นาฬิกา
ดวงตาสีรัตติกาลภายใต้กรอบแว่นหนาจับจ้องไปที่หน้าจอและคีย์บอร์ดก็จริง แต่ตอนนี้จิตใจของเขากลับไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไหร่
เขาเริ่มง่วง
เปลือกตาคู่นี้เองก็เริ่มจะหนักขึ้นทุกวินาที การฝืนลืมตาต่อช่างยากลำบากเกินกว่าจะทนไหว ในหัวเริ่มเผลอตัวคิดฟุ่งซ่านพอๆกับดวงตาที่ปรือลงมาจนแทบปิด
เอาวะ อีกนิดเดียว
เขาบอกกับตนเองเช่นนั้น พร้อมๆกับที่โค้ดตัวสุดท้ายถูกพิมพ์ลงจนเสร็จสมบูรณ์ เมื่อเห็นว่างานของตนเสร็จเรียบร้อยดีแล้วชายหนุ่งจึงไม่รีรอที่จะปิดคอมแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนแสนรักทันที ก่อนที่จะหลับไปด้วยความรวดเร็ว
โดยที่หารู้ไม่ว่า…โค้ดที่ถูกพิมพ์ด้วยความง่วงงุนนั่นน่ะ
มัน–พิมพ์–ผิด!!
………………………………………
แจ๊คลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง…
ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆตัวหนึ่ง ในคฤหาสน์สยองขวัญหลังหนึ่ง
และเขาจะไม่แปลกใจเลยสักนิด…หากบนเก้าอี้ข้างๆเขาไม่ปรากฎวิญญาณปริศนาที่โผล่มาแล้วก็จากไป หากที่นั่งอีกสามที่ที่ควรจะว่างเปล่ากลับมีผู้รอดชีวิตคนอื่นๆนั่งอยู่
และนี่ยังไม่น่าแปลกใจเท่า…
การที่มีคนเรียกเขาว่านาอิบ!!
"นาอิบ นายคิดว่ารอบนี้ใครจะเป็นฆาตกร?" เสียงสดใสอย่างสาววัยรุ่นเอ่ยถาม เด็กสาวเจ้าของเรือนผมตัดสั้นสีวอลนัทมองหน้าเขาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้า หมวกฟางแบบชาวไร่ถูกสวมอยู่บนศีรษะของเธอช่างเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่แค่เห็นก็รู้ว่าใครคือเจ้าของ
เอ็มม่า วู้ดส์ สาวชาวไร่ที่เหล่าฆาตกรหมั่นไส้นักหนากำลังถามเขาว่าฆาตกรในรอบนี้จะเป็นใครเนี่ยนะ!?
นี่มันไม่ปกติแล้วววว!!
แจ๊ครู้… เขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้เป็นฆาตกรอีกต่อไป
เพราะตั้งแต่ที่เขาเห็นเงาสะท้อนของตนผ่านกระจกในห้องโถงใหญ่ ชายหนุ่มก็พบว่าตนมีรูปร่างเหมือนเด็กหนุ่มทั่วๆไปที่ใส่ฮู้ดสีเขียวปกปิดเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเอาไว้…
ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของนาอิบ!!
ไม่รู้ว่าทำไม อย่างไร หรือเพราะอะไร
แต่ตอนนี้แจ๊คโคตะระจะสับสนเลย!!
"ฉันว่ากวาง" ใครบางคนตอบขึ้นก่อนที่แจ๊คจะได้พูดอะไร "ก็วันนี้กวางฟรีนี่นา วันที่นาอิบฟรีกวางจะฟรีด้วย น่าจะมีคนเล่นเยอะ"
ครีเชอร์ เพียร์สัน หัวขโมยหนุ่มในชุดสีน้ำตาลเข้มว่า ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นโจรแต่เบื้องหลังการขโมยของแต่ละชิ้นของเขากลับทำให้เราไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเขาคือคนเลว และเพราะมีประวัติเช่นนี้จึงทำให้ใครต่อใครเรียกด้วยฉายาโรบินฮู้ดแทน
"นั่นสินะ…คะ" เอ็มม่าตอบเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปด้วยความลังเลว่าควรใช้ภาษาสุภาพกับเขาดีหรือไม่ เธอรู้ว่าเธอควรแสดงความเคารพและนอบน้อมต่อครีเชอร์เพราะเขาถือเป็นผู้มีพระคุณต่อเธอในตอนที่เธอไม่มีที่จะไป
แต่กลับกัน เธอกลับไม่รู้สึกอย่างสุภาพกับเขามานัก อยากพูดคุยแบบเพื่อนคุณกันมากกว่าเด็กปรึกษาผู้ใหญ่
"ไม่ต้องสุภาพหรอก คุยแบบปกติน่ะแหละ" เหมือนชายหนุ่มจะรู้ เขาหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย เอ็มม่าจึงยิ้มตอบไปพอเป็นพิธี
"อืม" เธอตอบรับ
"เฮ้อ! แต่ฉันไม่อยากเจอเกมคีปเปอร์เลยจริงๆ" เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้น เคิร์ธ แฟรงค์ นักสำรวจเจ้าของสมุดพิศวงเอ่ยขึ้นมาหลังจากเงียบมานาน
"หมอนั่นแม่นจะตาย อย่างกะแชมป์สไนเปอร์โลก" เขาบ่นอุบอิบพร้อมถอนหายใจเบาๆ
"เอาน่า ก็ดีกว่าเจอพรีเซนเตอร์แป้งเด็กแคร์หรือพ่อครัวปิ้งไก่นะ" ครีเชอร์ส่ายหัวเบาๆ แจ๊คหลุดขำพรืดกับคำว่าพรีเซนเตอร์แป้งเด็กแคร์ที่ใช้เป็นสรรพนามเรียกแทนเกอิชาของเขา แต่ก็จริงดังว่า มิชิโกะน่ะแต่งหน้าขาวราวหิมะเสียขนาดนั้น ถึงจะเป็นวัฒนธรรมของประเทศบ้านเกิดเธอก็เถอะ แต่คนอื่นๆไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นเหมือนเธอนี่ การแต่งหน้าเช่นนั้นจึงดูแปลกตาสำหรับทุกๆคนไป
ส่วนฉายาปิ้งไก่นี่ แจ๊คชินกับการถูกเรียกด้วยฉายานั้นแล้ว ถึงตอนแรกจะหงุดหงิดอยู่บ้างก็ตาม แหม…หมอกนะไม่ใช่ควันจากเตาบาร์บีคิว เรียกซะจากฆาตกรต่อเนื่องสุดสยองกลายเป็นพ่อค้าขายไก่ย่างข้างทางเชียวนะ
วิ่ว…
"…?"
เสียงเล็กๆคล้ายเสียงลมพัดดังขึ้นข้างๆหู แจ๊ครู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นเสียงลมอย่างแน่นอน ยิ่งคฤหาสน์หลังนี้เป็นพื้นที่ปิด มันจะไปมีลมพัดได้อย่างไร
เมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มในร่างเด็กหนุ่มจึงกวาดสายตามองหาต้นตอของเสียงนั้น จนพบกับจดหมายสีขาวประทับตราสีแดงวางอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แจ๊คมั่นใจว่าตอนแรกด้านหน้าเขามีเพียงจานและปลอกแขนแบบเดียวกับที่ทหารรับจ้างมักใช้ ไม่มีเจ้าจดหมายนี่วางอยู่ด้วย
ดูเหมือนจะไม่มีใครมองเห็นจดหมายฉบับนี้นอกจากเขา ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะเปิดจดหมายเพื่ออ่านเนื้อหาข้างใน และหวังให้มันช่วยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้บ้าง
สวัสดีแจ๊ค
ผมGMเองนะ คือ… ผมรู้ว่าตอนนี้คุณคงงงงวยเป็นอย่างมากในการที่ต้องตื่นมาในร่างของนาอิบแบบนี้ ซึ่ง… ผมก็ต้องกราบขอโทษด้วย
เมื่อคืนผมง่วงไปหน่อยจึงทำให้เขียนโค้ดผิดพลาด ส่งผลให้คุณทั้งสองสลับร่างกัน ตอนนี้คุณอยู่ในร่างนาอิบและนาอิบก็อยู่ในร่างคุณ
ผมจะรีบแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้คุณคงต้องลงเล่นเกมไปก่อน เมื่อจบเกมนี้แล้วทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง
–GM
"เดี๋ยวนะ…" ชายหนุ่มพึมพำหลังอ่านจดหมายเสร็จ ดวงตาสีไพลินหรี่ลงมาเล็กน้อย
นี่เขาต้องมาเล่นเป็นผู้รอดชีวิตงั้นเหรอ?
แถมยังเป็นผู้รอดชีวิตที่เขาเคยไปยั่วโมโหบ่อยๆด้วย!?
แล้วไอ้เจ้าผู้ริดชีวิตคนนั้นก็กำลังเล่นเป็นตัวเขาอยู่เนี่ยนะ!!
"จบจากนี้แกไม่เหลือซากแน่…ไอ้GMเวร!"
……………………………………………………
สิ่งแรกที่สัมผัสได้หลังเริ่มเกมคือไอเย็นความเย็นที่กระแทกไปทั่วร่างจนเผลอยกมือขึ้นมากอดตัวเองแน่น
แจ๊คในร่างนาอิบมองไปรอบๆ กำแพงหินสีเทาตรงหน้าบ่งบอกได้ว่าเขาอยู่ในแมพโบสถ์ แมพที่เขาเล่นบ่อยจนแทบจะจำที่ตั้งของเครื่องปั่นไฟ เก้าอี้ประหาร รวมถึงจุดเกิดของหลุมหลบภัยได้หมดแล้ว
ปกติมันหนาวขนาดนี้เชียว? หรือเพราะเราอยู่ในร่างหมอนี่กันนะ?
เขาตั้งคำถามกับตัวเอง ทั้งที่ตอนนี้ตนก็ใส่ฮู้ดอยู่แท้ๆ แต่ดูเหมือนมันจะมีไว้กันแดดมากกว่ากันหนาว ส่งผลให้ไม่มีอะไรพอใช้ป้องกันความเย็นเหล่านี้ได้เลย
แจ๊คไม่เคยรู้สึกว่าแมพมันจะหนาวเหน็บอะไรขนาดนี้มาก่อน อาจเพราะเขาเป็นฆาตกรก็ได้มั้ง แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าจะเกี่ยว
ช่างมันเถอะ สุดท้ายก็สรุปออกมาเป็นแบบนั้น…
ชายหนุ่มจับจ้องไปทางเสาไฟสูงที่มีแสงสีเหลืองกระพริบถี่ๆตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเขาเท่าไหร่นัก แจ๊คมองมันก่อนสักครู่หนึ่งจึงค่อยเดินไปหาเครื่องปั่นไฟเครื่องนั้น
รองเท้าบูทสีดำเหยียบลงบนพื้นหินหยาบช้าๆอย่างมั่นคง เสียงฝีเท้าดังเปันจังหวะต่อเนื่องเมื่อเริ่มออกเดิน
มือบางบรรจงวางลงบนแป้นพิมพ์ นิ้วเรียวเริ่มรัวปุ่มต่างๆคีย์บอร์ดเพื่อดีโค้ดหรือถอดรหัสให้เสร็จสมบูรณ์
แจ๊คยอมรับว่าตนไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน…และก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย เดิมทีตัวละครทหารจับจ้างก็ถอดรหัสได้เชื่องช้าอยู่แล้ว พอมาบวกกับแจ๊คที่ทั้งชีวิตเพิ่งได้ลองถอดรหัสเป็นครั้งแรก… การดีโค้ดจึงดำเนินไปอย่างช้าๆจนสล็อตแทบจะเป็นตะคริว
ยิ่งเมื่อยืนถอดรหัสอยู่ได้สักพัก ควันสีขาวก็ค่อยๆปรากฎขึ้นทีละน้อยจนก่อตัวเป็นหมอกหนาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นไปจนเกือบหมด
และนั่นก็ทำให้แจ๊ครู้ได้ในทันทีว่าใครเป็นฆาตกร…
บึ้ม!
เสียงระเบิดดังก้อง เกิดประกายไฟขึ้นเล็กน้อยจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าเพื่อป้องกันตัวเอง
สาเหตุที่เครื่องระเบิดก็คงหนีไม่พ้นหมอกพวกนี้แหละ ที่ทำให้เขามองแป้นพิมพ์ผิดจนถอดรหัสพลาด
เฮ้ยๆ…ปกติก็ดีโค้ดช้าเป็นเต่าคลานอยู่แล้ว เครื่องระเบิดแบบนี้มันก็ยิ่งช้าน่ะสิ!!
ชายหนุ่มได้แต่โวยวายในใจ แต่ก็ว่าอะไรใครไม่ได้ในเมื่อเขาเป็นคนถอดรหัสพลาดจนเครื่องระเบิดเอง
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจเต้นเริ่มดับกว่าปกติ เกิดรอยบางอย่างคล้ายรูปหัวใจสีแดงสดบริเวณกลางอก ความกดดันอันไร้ที่มาเริ่มถาโถมเข้าสู่ตัวจนหายใจติดขัด ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่อัตราการเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น เพิ่มมากเสียจน…ราวกับหัวใจจะหลุดออกมา
เพราะแมพโบสถ์เป็นแมพเล็กๆไม่ใช่แมพใหญ่อย่างแมพท่าเรือ
การทำอะไรที่ส่งสัญญาณไปให้ฆาตกรได้รู้ จึงถือเป็นการฆ่าตัวตายง่ายๆทางหนึ่ง
หรือก็คือ เพราะแมพเล็ก ต่อให้ฆาตกรจะอยู่ไกลแค่ไหน อดทนรอเพียงไม่กี่อึดใจเดี๋ยวเขาก็หาคุณเจอ…
ชายหนุ่มละสายตาจากเครื่องถอดรหัสในทันที สองขาวิ่งไปหาแผ่นไม้เล็กๆที่วางพิงอยู่ระหว่างหินขนาดใหญ่สองก้อน เพื่อเตรียมพร้อมในการวิ่งจู๊คหนีจากฆาตกร
ตึก…ตึก…
หากเงี่ยหูฟังดีๆ จะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆอยู่ข้างๆหู
เป็นเสียงที่แสดงถึงความมั่นใจ ประสงค์ร้าย และ…
โกรธเคือง
เผลอเพียงชั่ววินาทีเดียว ใบหน้าอ่อนเยาว์ก็ถูกอาบย้อมตัวแสงสว่างสีแดงฉานโดยไม่ทันตั้งตัว
ตึกตัก…
เพราอยู่ใกล้มาก...หัวใจของเขากำลังเต้นแรงเสียจนสั่นไปทั้งร่าง
โครม!
ชายหนุ่มผลักแผ่นไม้ล้มลงมาในทันทีที่รู้สึกตัวว่าฆาตกรอยู่ตรงหน้า แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถอยหลังหลบได้ทันทำให้ไม่โดนสตั๊น
แจ๊คไม่สนใจว่าฆาตกรจะโดนสตั๊นหรือไม่ เขาวิ่งฉีกออกไปอีกทางเพื่อไปหาจุดจู๊คที่ดีกว่านี้
ฆาตกรในร่างผู้รอดชีวิตหันกลับมาเพื่อเช็คดูว่าแจ๊คยังตามมาอยู่ไหม
ไม่สิ… จะเรียกแจ๊คก็ไม่ถูก
เรียกนาอิบน่าจะดูถูกต้องกว่า
หนีตัวเองนี่มันรู้สึกแปลกๆแฮะ
ชายหนุ่มนึกในใจ พลางกระโดดข้ามกรอบหน้าต่างเพื่อหลบการโจมตีของฆาตกรในหน้ากากสีขาว
ฉึก!
ปลายเล็บแหลมตวัดลงที่แผ่นหลังของผู้รอดชีวิต มันอาจไม่กลายเป็นแผลลึกน่ากลัวอะไร แต่ก็ทำให้มีเลือดไหลซึมออกมาจากปากแผลได้
แจ๊คหันหลังกลับไปมองฆาตกรที่กำลังสะบัดมือเพื่อเช็ดเลือดที่ติดอยู่บนปลายนิ้ว ดวงตาสีฟ้าไพลินฉายแววตกใจชัดเจน
มันตีไกลขนาดนี้เลยเหรอ!?
ทั้งที่กระโดดข้ามหน้าต่างมาได้แล้วแท้ๆ แต่กลับยังโดนตีจนขึ้นสถานะบาดเจ็บได้
เล่นฆาตกรมาทั้งชีวิตแจ๊คคิดมาตลอดว่าการโจมตีของเขามันสั้นเหลือเกิน แต่พอได้มาเป็นผู้รอดชีวิตดูบ้าง ทำให้รู้เลยว่าจริงๆแล้วการโจมตีของเขาไกลขนาดไหน
หากไม่นับเฮียหมึกที่เพิ่งเข้าใหม่สดๆร้อนๆ แจ๊คคือฆาตกรที่มีระยะการโจมตีไกลที่สุดเลยก็ว่าได้ คงเพราะกรงเล็บอันแหลมคมของเขาที่ยาวมาจนถึงเข่านั่นล่ะมั้ง
นี่ยังไม่ได้พูดถึงการชาร์จแล้วตีนะ…ลองกดโจมตีค้างแล้วปล่อยสิ อื้อหือ RIPล่วงหน้า
ร่างกายของผู้รอดชีวิตตอบสนองอัตโนมัติเมื่อถูกโจมตี ความเจ็บปวดและความกดดันในสถานการณ์ที่คับขันทำให้อะดรีนาลีนในตัวฉูบฉีดและออกแรงพุ่งตัวไปด้านหน้าเพื่อป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายใดๆที่กำลังใกล้เข้ามา
ชายหนุ่มวิ่งกลับไปทางแผ่นไม่เดิมที่ตนเคยล้มไว้ กระโดดสไลด์ตัวข้ามมันมาได้หวุดหวิดจนเกือบโดนเล็บขาวๆนั่นฟาดเป็นครั้งที่สอง
"จะหนีไปไหนน่ะ? นายไม่อยากให้เกมนี้จบเร็วๆเหรอ"
เสียงทุ้มถูกเอ่ยขึ้นเบาๆพอให้ได้ยิน ฆาตกรสวมหน้ากากจ้องมองไปยังร่างบางของผู้รอดชีวิตที่พยายามวิ่งหนีเขาอยู่ นาอิบแปลกใจเล็กน้อยที่ยังไม่เห็นแจ๊คใช้ความสามารถของปลอกแขนคู่ใจเขาเลยสักครั้ง
เอาเถอะ… คงใช้ไม่เป็นแหละมั้ง
เด็กหนุ่มสรุปเช่นนั้น
โครม!
แผ่นไม้ถูกดึงลงมากันทางไม่ให้ฆาตกรเดินผ่าน
"พูดอะไรแบบนั้นล่ะครับคุณชาเขียว" มุมปากของแจ๊คขยับวาดเป็นรอยยิ้มอ่อนๆแต่กลับบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด "ผมไม่ใช่มาโซนะครับ"
"อ๋อเรอะ ลืมไปว่านายมันS" นาอิบตอบหน้าตาย น้ำเสียงไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรเหมือนอย่างทุกครั้งที่คุยกัน
เสียงหอบหายใจถี่รัวของผู้รอดชีวิตที่บาดเจ็บเพียงหนึ่งเดียวในเกมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผ่นไม้น้อยๆที่เป็นที่พักพิงชั้นดีของผู้รอดชีวิตถูกใช้ไปแผ่นแล้วแผ่นเล่า และเมื่อล้มไม้ลงได้ อีกไม่นานไม้เหล่านั้นก็จะถูกพังทิ้งจนไม่เหลือซาก
พรึ่บ!
แสงไฟสองดวงสว่างวาบขึ้นมาพร้อมกันไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่เท่าไรนัก เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนถอดรหัสเสร็จแล้วถึงสองเครื่องในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน
"ถอดรหัสกันเร็วดีจริง" แจ๊คพึมพำ มิน่าล่ะตอนเล่นเป็นฆาตกรเผลอแปปๆเครื่องถอดรหัสหายไปเป็นแถบๆ นี่ขนาดไม่มีเจ้าทนายมาลงเล่นด้วยนะเนี่ย
"คุณไปไล่คนอื่นบ้างไม่ดีกว่าเหรอครับ" เขาถามเด็กหนุ่มที่เดินตามหลังมาโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าอีกฝ่าย หันไปตอนนี้เขาก็ตายน่ะสิ…
ผัวะ!
"ไม่ต้องมาใช้ภาษาสุภาพเลย ขนลุก"
นาอิบตอบพลางสะบัดข้อมือหลังจากโจมตีพลาดไปโดนก้อนหินที่ขวางทาง เด็กหนุ่มแอบทึ่งเมื่อเห็นแจ๊คสามารถวิ่งจู๊คได้นานขนาดนี้ มันน่ามหัศจรรย์มากสำหรับคนเพิ่งเคยจู๊คครั้งแรกที่จะล่อฆาตกรได้จนเพื่อนร่วมทีมถอดรหัสเสร็จไปหลายๆเครื่องเช่นนี้
"อีกอย่าง ฉันไม่คิดจะทำร้ายเพื่อนหรอกนะ"
"หูย ใจดีไปอีก" แจ๊คเอ่ยปากขณะกระโดดข้ามกรอบหน้าต่างบานเล็กๆ จากเลือดที่เคยซึมออกมาจากบาดแผลเล็กน้อยเมื่อไม่ได้รับการรักษาเสียทีแผลเล็กๆนั่นจึงเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเลือดไหลเป็นทางยาว ง่ายต่อการตามหาตัว
"แล้วผมไม่ใช่เพื่อนคุณหรือครับถึงได้ตามฆ่ากันขนาดนี้" ชายหนุ่มถามออกไป คำถามที่ถึงรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ก็ยังจะถามออกไป
"โทษที ฉันไม่เคยมองนายเป็นเพื่อน" นั่นไงล่ะ คำตอบที่เดาได้ง่ายๆถูกเอ่ยออกมาแล้ว
"อ๋อ ไม่เคยมองเป็นเพื่อน แต่เป็นมากกว่านั้นใช่ไหมครั—"
ฉึก!!
Terror shock!
ตุบ...
ร่างเล็กๆภายใต้ฮู้ดสีเขียวสะดุดตาล้มลงกับพื้นทั้งที่ยังข้ามแผ่นไม่เสร็จดี ทั้งที่คิดว่าอยู่ห่างมากแล้วแท้ๆยังจะตีโดนอีกเหรอเนี่ย
"ลองพูดอีกทีสิ ฉันจะฆ่านายซะตอนนี้โดยไม่ต้องพาไปนั่งเก้าอี้ประหารเลยคอยดู"
แผ่นไม้ถูกพังลงด้วยกรงเล็บเจ้าของฉายาThe Ripper ฆาตกรในหน้ากากขาวก้มลงมองผุ้รอดชีวิตที่ถูกโจมตีจนกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด
"อะ…อะไรกันครับ? แค่ผม…พูดแค่นี้คุณก็…จะฆ่ากันเลยเหรอ… แค่ก!"
ถึงจะโดนโจมตีจนล้มลงไปนอนกับพื้นปูน แจ๊คก็ยังพยายามจะพูดคุยยั่วโมโหอีกฝ่ายให้ได้ แม้จะพูดไม่ค่อยได้เพราะความเจ็บปวดที่ถาโถมใส่ร่างก็ตาม
"ถ้าแค่พูดยังไม่ไหวก็อย่าซ่า"
นาอิบอุ้มร่างของผู้รอดชีวิตขึ้นจากพื้น แจ๊คที่กำลังดิ้นไปมาเพื่อกันไม่ให้ตนถูกพาไปยังเก้าอี้ประหารแอบนึกในใจว่าทำไมวันนี้นาอิบของเราโหดจัง…
"สะ…เสียใจด้วยครับ… เก้าอี้แถวนี้… อะ…เอ็มม่าทำลายทิ้งไปหมดแล้ว…ล่ะครับ"
"บอกว่าถ้าพูดไม่ไหวก็อย่าซ่า"
ตุบ…
ร่างบางถูกวางลงกับพื้น แจ๊คแปลกใจเล็กน้อยแต่คิดว่าคงเป็นเพราะนาอิบคิดอยากให้เขาแห้งตายอยู่ตรงนี้ดีกว่าวิ่งวุ่นหาเก้าอี้ประหารที่ยังไม่ถูกทำลายไปทั่วแมพล่ะมั้งนะ
"ละ...ลืมไปแล้วเหรอครับ…ว่า...ผมมีเปิร์ค…ละ...ลุกเองน่ะ"
"ชื่อเปิร์คก็จำไม่ได้เนอะ"
นาอิบว่าขณะที่เดินไปยังเก้าอี้ประหารที่ถูกพังจนใช้การไม่ได้ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะลงมือจัดแจงซ่อมมันจนกลับไปอยู่ในสภาพเดิม
เฮ้ย…มันเอาซ่อมเก้าอี้มา…
แจ๊คนึกในใจด้วยความตื่นตระหนก เอาแล้ว…เขาคงได้ไปสบายก่อนใครคนอื่นแล้วล่ะนะ
แต่แทนที่นาอิบจะเดินมาอุ้มแจ๊คแล้วจับนั่งลงที่เก้าอี้ประหาร เขากลับเดินเลี้ยวไปที่กล่องสีแดงข้างๆจุดที่ชายหนุ่มนอนอยู่ กล่องใบนั้นถูกเปิดอ้าค้างไว้ แสดงว่าเคยมีคนมาค้นมันก่อนแล้วแต่กลับไม่ได้เอาของที่ค้นเจอไป
เข็มฉีดยาหลอดเล็กๆบรรจุของเหลวสีแดงใสไว้ภายในถูกวางอยู่นอกกล่องและยังไม่มีใครมาเก็บไป คนที่ค้นกล่องนี้คงค้นเพื่อเอาแต้มไม่ก็กะจะเก็บเจ้าเข็มฉีดยานี่ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
นาอิบถือหยิบเข็มฉีดยาเล็กๆนั่นขึ้นมา ก่อนจะหันไปหาแจ๊ค
"คุณ…?"
"คนเจ็บอย่าพูดมาก"
ของเหลวสีแดงค่อยๆถูกฉีดเข้าร่างกายของผู้รอดชีวิตทีละนิดจนหมดหลอด เท่านั้นบังไม่พอ นาอิบคว้าเอาผ้าพันแผลสีขาวสะอาดมาพันบริเวณหลังซึ่งเต็มไปด้วยรอยถูกของมีคมแทงอย่างเบามือ
เลือดที่เคยไหลรินรางเปิดก๊อกค่อยๆหยุด ความเจ็บปวดและเหนื่อยล้าของแจ๊คค่อยๆหายไป สถานะของชายหนุ่มกลับไปเป็นปกติอีกครั้งเหมือนไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน
"คุณทำอะไรน่ะครับ?"
"ตอบแทนที่เคยพาไปลงหลุมตั้งหลายเกม แถมพอเห็นนายพูดติดๆขัดๆแล้วมันรู้สึกไม่ชอบใจ"
แจ๊คกระพริบตาติดกันสามครั้งเหมือนไม่มั่นใจว่านี่เรื่องจริง นาอิบช่วยฮีลเขาเนี่ยนะ? บ้าไปแล้ว สมองของหมอนั่นต้องได้รับการกระทบกระเทือนขั้นรุนแรงเป็นแน่
แจ๊คยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ดวงตาสีฟ้าราวอัญมณีจับจ้องไปยังใบหน้าของฆาตกรหนุ่ม แต่เพราะสวมหน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้าทำให้แจ๊คไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังทำหน้าแบบไหน
ชายหนุ่มพยายามมองลึกลงไปในดวงตาสีรัตติกาลที่โผล่ให้เห็นผ่านรูเล็กๆของหน้ากาก แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้นาอิบรู้สึกยังไง
นาอิบน่ะ ตอนเป็นผู้รอดชีวิตก็เป็นคนดี ช่วยล่อฆาตกรให้เพื่อนคนอื่น ทั้งที่เป็นหน้าที่ที่เสี่ยงที่สุดแท้ๆ แต่กลับทำมันด้วยความเต็มใจ
แล้วพอมาเป็นฆาตกรเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังคงช่วยเหลือคนอื่นๆแม้กระทั่งกับเขา…ที่เคยเป็นถึงฆาตกรที่ตามล่าตัวนาอิบเองก็ตาม
"คุณนี่น่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ"
ถึงจะไม่รู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่แจ๊คก็พูดออกไปแบบนั้น
ฟุ่บ!
เอ๊ะ…!?
รู้สึกได้ว่าเสียศูนย์ไปช่วงหนึ่ง ราวกับลอยอยู่กลางอากาศอยู่สักพัก
โดยไม่ทันตั้งตัวแรงกระชากบริเวณแขนทำให้แจ๊คเซไปตามแรงนั้นอย่างง่ายดาย
ตุบ!
เอี๊ยด…
แกรก…แกรก…
หะ…หา? เดี๋ยวนะ... เดี๋ยวววว!!
รู้สึกเหมือนถูกโยนมาที่ไหนสักที่ ที่ที่มีสัมผัสนุ่มๆคล้ายเบาะอะไรสักอย่าง พร้อมเสียงเอี๊ยดๆอย่างไม้กระทบกันและเสียงสุดท้ายดังแกรกติดกันสองครั้งเหมือนเวลาล๊อคกุญแจเหล็ก
ใช่…แจ๊คถูกจับนั่งเก้าอี้ประหาร
"ได้ไงกันครับ!? ผมก็ไม่ได้อยู่ในสถานะล้มสักหน่อยนี่!"
ชายหนุ่มออกแรงดิ้นไปมาบนเก้าอี้สีแดงทันทีหวังให้ไอ้ลวดหนามนี่หลุดออกไปจากตัวแต่ก็ไม่สำเร็จ
"ช่วยไม่ได้ ฮีลแล้วไม่หนีเอง" นาอิบยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เด็กหนุ่มเดินเข้าประชิดเก้าอี้ประหารที่แจ๊คนั่งอยู่ โน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าของผู้รอดชีวิต
"ตอนแรกว่าจะปล่อยแล้วแท้ๆ นายทำฉันเปลี่ยนใจเองนะ"
วันนี้มันโหดและกวนตีนขึ้นจริงๆว่ะ…
เป็นไม่กี่ครั้งที่แจ๊คจะหลุดคำหยาบออกมาแบบนี้…
นาอิบย่อตัวลงข้างๆแจ๊คที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีแดง ดวงตาภายใต้หน้ากากยาวสบเข้ากับดวงตาของอีกฝ่ายไม่หันหนี
"อะไรกันครับ นี่คุณจะแก้แค้นหรือไง"
แจ๊คยิ้มแห้งๆเมื่อรู้ตัวว่าฆาตกรคนนี้คิดจะเฝ้าเหมือนที่ตนเคยแกล้งนาอิบแบบนี้บ่อยๆ
"ไม่ได้เฝ้าสักหน่อย แค่อยากมองหน้านายนานๆ" นาอิบหัวเราะในลำคอ ส่วนแจ๊คได้แต่ก้มหน้าเมื่อถูกตอบกลับด้วยประโยคที่ตัวเองเคยใช้บ่อยๆตอนเฝ้าอดีตทหารรับจ้าง
เวรกรรมตามทันแล้วสินะเรา…
"ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องใส่หน้ากาก"
"เอ๊ะ?"
เมื่อนาอิบเปิดบทสนทนามาแบบนั้นทำเอาแจ๊คงงไปชั่วขณะ "ทำไมต้องใส่หน้ากาก… อยู่ๆคุณถามอะไรน่ะครับ?"
"ก็เหมือนที่นายถามฉันว่าทำไมต้องสวมฮู้ดนั่นแหละ" เด็กหนุ่มสวนทันที "ฉันไม่คิดว่าหน้านายจะแย่จนต้องปิดไว้นี่นา"
"พูดแบบนี้แปลว่ายอมรับว่าผมหล่อ?"
"พูดแบบนี้แปลว่าอยากตาย?"
"ฮะๆ ผมอยู่บนเก้าอี้ประหารอย่างนี้แล้ว ก็ถือว่าตายไปครึ่งหนึ่งแล้วนี่ครับ" แจ๊คหัวเราะเบาๆ การถูกจับนั่งบนเก้าอี้ประหารติดจรวดนี่ ถึงยังมีโอกาสรอดแต่ก็ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้ว เพราะคุณอาจไม่มีโอกาสรอดอีกเป็นครั้งที่สองก็ได้
…เกมนี้ไม่สามารถฆ่ากันโดยปราศจากเก้าอี้เหล่านี้ได้…
"เฮ้อ…"
เด็กหนุ่มถอนหายใจแรงๆ
"จริงๆแล้วนายก็ต่อล้อต่อเถียงไม่เบาเหมือนกันนี่นา" เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ ดวงตาภายใต้หน้ากากขาวจ้องมองร่างของตนที่นั่งอยู่
"พอดีติดมาจากใครบางคนแถวนี้น่ะครับ" แม้ตัวเองจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ประหารแต่ดูเหมือนแจ๊คจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่ เขายังคงยิ้มอ่อนๆและพูดคุยโต้ตอบกับนาอิบซึ่งเป็นฆาตกรในขณะนี้ได้สบายๆ
Don't rescue me!
ข้อความสั้นๆถูกส่งไปให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนรับรู้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมาช่วยเขาจริงๆ
"นายอยากตายขนาดนั้นเลย?" นาอิบเลิกคิ้วเล็กน้อยกับการกระทำของคนตรงหน้า
"คงงั้นมั้งครับ" แจ๊คหัวเราะเบาๆ "ผมอยากอยู่กับคุณต่ออีกหน่อยน่ะ"
"สมองนายได้รับการกระทบกระเทือนหรือไง? ตอนนี้นายคือผู้รอดชีวิตนะไม่ใช่ฮันเตอร์ มีผู้รอดชีวิตคนไหนอยากอยู่ใกล้ฮันเตอร์บ้าง?"
"แต่จบเกมนี่ผมก็กลับไปเป็นฮันเตอร์เหมือนเดิมนะครับ"
"นายอาจมีโอกาสเป็นผู้รอดชีวิตแค่ครั้งเดียวเองนะ ไม่อยากลองวิ่งหนีให้เต็มทีหน่อยหรือไง?"
"ทีคุณยังไม่ไล่ฆ่าอย่างเต็มที่เลยนี่"
มีความยอกย้อน…
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่นาอิบรู้เหมือนกำลังเถียงกับตัวเองยังไงชอบกลแถมยังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มใช้คำพูดคล้ายแจ๊คมากขึ้นทุกวันอีกต่างหาก นี่มันแค่สลับร่างหรือสลับจิตใจไปด้วยกันแน่เนี่ย!
"อา... เอาเถอะ ยังไงซะเถียงกับนายไปก็เหนื่อยเปล่า" นาอิบถอนหายใจเบาๆ ทุกครั้งที่เขากับแจ๊คมีบทสนทนาร่วมกันมันไม่เคยจบลงได้ดีสักครั้ง
นาอิบนั่งลงกับพื้นแข็งๆตรงหน้าเก้าอี้ประหารที่แจ๊คนั่งอยู่ ดวงตาของทั้งคู่สบกันอยู่นาน
"คุณทำอะไรน่ะครับ?"
"เมื่อย"
". . ."
แจ๊คถึงกับกินจุดกับคำตอบของอีกฝ่าย แน่นอนว่าที่นาอิบนั่งลงไม่ใช่เพราะเมื่อยอย่างที่บอกแน่ๆ หมอนี่จงใจกวนเขาอยู่ชัดๆ
แจ๊คเหลือบไปเห็นว่าด้านหลังของฮันเตอร์มีร่างในชุดสีฟ้ายืนอยู่ใกล้ๆแผ่นไม้เพื่อรอจังหวะเจ้ามาช่วยเขาจากเก้าอี้ประหาร ชายหนุ่มลืมไปว่ามันมีผู้รอดชีวิตจำพวกไม่ว่ายังไงก็จะช่วยเพื่อนให้ได้อยู่ ซึ่งดูเหมือนเคิร์ธจะเป็นหนึ่งในนั้น
Don't rescue me!
แจ๊คส่งข้อความเน้นย้ำไปอีกว่าไม่ต้องเข้ามาช่วย แต่ดูเหมือนนักสำรวจคนนี้จะไม่ฟังเอาเสียเลย
"อยากเห็นหน้านายจังแฮะ"
จู่ๆนาอิบก็พูดสิ่งที่เจ้าตัวไม่น่าจะพูดออกมา ทำให้เคิร์ธที่ไม่รู้เรื่องที่พวกเขาสลับร่างกันไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
"ตอนนี้ร่างนายก็เป็นของฉันไปแล้ว งั้นฉันจะทำอะไรก็ได้ถูกไหม" มือข้างที่ปราศจากกรงเล็บถูกยกขึ้นมาสัมผัสหน้ากากสีขาวที่ปิดบังใบหน้าของฮันเตอร์อยู่และค่อยๆออกแรงขยับหน้ากากนั่นช้าๆ
ใบหน้าภายใต้หน้ากากถูกเผยให้เห็นทีละน้อย นาอิบยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่ได้เอาคืนคนตรงหน้าเสียบ้าง
"เฮ้! หยุดนะ!"
จากที่แจ๊คนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยปราศจากการดื้นรนขัดขืนใดๆ เขาเริ่มพยายามดิ้นไปดิ้นมาแล้ว อยากจะเอื้อมมือไปจับคนตรงหน้าแล้วสั่งให้หยุดแต่ก็ทำไม่ได้ อยากจะลุกออกไปหยุดสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะทำแต่ก็ทำไม่ได้
แจ๊คจะไม่ว่าอะไรเลยถ้านาอิบถอดหน้ากากเขาออกตอนที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน เนื่องจากที่นี่ไม่มีกระจก ไม่ว่าอย่างไรนาอิบก็ไม่สามารถเห็นหน้าจริงๆของเขาได้ และแน่นอนว่าเขาเคยเห็นหน้าของตัวเองมาก่อนอยู่แล้วมันจึงไม่มีผลอะไร
แต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยล่ะก็...
ตึกตักตึกตัก
เสียงหัวใจ...มันดังกว่าปกติหรือเปล่านะ?
It's not safe! get away from me!
แจ๊คส่งข้อความเน้นไปอีกครั้งว่าให้ทุกคนออกไปให้ห่างจากเขาซะ
ดวงตาสีฟ้าพยายามสื่อสารทางสายตาให้นักสำราจคนนั้นออกไปไกลๆ ดวงตาของแจ๊คฉายแววน่ากลัวมากเสียจนเคิร์ธสะดุ้งโหยง
ตอนนี้ชายหนุ่มอยากจะบีบคอผู้รอดชีวิตที่ไม่รู้เรื่องอะไรคนนี้เสียเดี๋ยวนี้ ถ้าเป็นไปได้จบเกมนี้เมื่อไหร่เขาจะฆ่าหมอนี่อย่างทารุณที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เคิร์ธดูจะไม่ทำตามที่แจ๊คต้องการ เขาทำท่าเหมือนจะวิ่งเข้ามาช่วยอีกต่างหาก
"ไม่ต้องมาช่วย!!"
แจ๊คตะโกนบอก เขารู้ว่านาอิบจงใจจะถอดหน้ากากของเขาต่อหน้าผู้รอดชีวิตคนอื่น ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้ทำแบบนั้นอย่างแน่นอน ไม่ว่ายังไงก็ตาม
ไม่ได้!
ไม่ว่าจะใครก็ไม่ยอมให้เห็นหน้าหรอก!!
เคิร์ธวิ่งเข้ามาช่วยทั้งที่แจ๊คไม่ต้องการและไม่เคยต้องการความช่วยเหลือแบบนี้เลยสักนิด นาอิบที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงเพื่อนคนนี้ก็ต้องวิ่งเข้ามาช่วยยอมปล่อยให้เหยื่อของตนหลุดรอดไปได้
แต่ก็ต้องแลกกับบางอย่าง
วินาทีที่ลวดหนามรอบตัวถูกดึงออกจนได้รับอิสระกลับมาอีกครั้งเป็นวินาทีเดียวกับที่หน้ากากสีขาวที่เคยปกปิดใบหน้าของฆาตกรคนนี้ถูกถอดออก
จนเผยให้เห็นใบหน้าที่แจ๊คไม่อยากให้ใครเห็น
ไม่! ไม่ได้!
ขอแค่เรื่องนี้เท่านั้น!!
แม้แต่ฆาตกรด้วยกันแจ๊คยังไม่เคยยอมให้ใครเห็นหน้าของเขามาก่อน ไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้เห็นเด็ดขาด ขอแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่จะยอมให้ไม่ได้
แต่ไอ้เจ้าบ้านี่กลับ…
"บอกว่าไม่ต้องมาช่วยไง!!"
ฟุ่บ!
ร่างของนักสำรวจหนุ่มถูกกระชากอย่างแรงจนเซ แรงของแจ๊คที่คว้าเอาคอเสื้อของเคิร์ธมาทำให้เสื้อสีฟ้าของเขายับยู่ยี่ไม่หมด
"นา…อิบ?" เคิร์ธพึมพำด้วยความตกใจกับการกระทำของเพื่อนร่วมทีม
"ฉันไม่ใช่นาอิบ!!" แจ๊คตวาดเสียงดังด้วยความโกรธ ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเรื่องง่ายๆแค่นี้เลยนะ? ทำไมต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องขึ้นมาด้วยนะ?
ทั้งที่เรื่องสลับร่างบ้าๆนี่น่ะขอแค่จบแมชท์นี้เรื่องมันก็จบแล้วแท้ๆ!!
"พอเถอะ!"
เป็นนาอิบที่ตะโกนขัดขึ้นมา
"ปล่อยเพื่อนฉัน… แจ๊ค" นาอิบว่าต่อ เมื่อเห็นท่าทางโมโหของแจ๊คเขาก็ยอมรีบสวมหน้ากากกลับไปเหมือนอย่างเดิม บางทีเขาอาจจะล้ำเส้นเกินไปแล้วก็ได้
"หึ! ก็ได้ครับ" ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชากว่าปกติ
ผลัก!
เขาผลักร่างของเคิร์ธออกไปไกลๆอย่างไม่ใส่ใจ แจ๊คสบตากับนาอิบเล็กน้อย
"ขอโทษที่ไปยุ่งเรื่องของคุณ" เสียงของเขาดูแข็งกระด้างจนน่าตกใจ "ต่อไปนี้ผมจะไม่ยุ่งอะไรกับคุณอีกแล้วครับ คุณนาอิบ"
"เดี๋ยว!"
แจ๊คไม่เคยเรียกเด็กหนุ่มว่านาอิบ
นาอิบไม่เคยได้ยินแจ๊คเรียกชื่อตนเองเลยสักครั้ง ทั้งที่เขาก็เรียกชายหนุ่มว่าแจ๊คแท้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่เรียกชื่อเขาเสียที แต่กลับใช้สรรพนามแทนว่าคุณมาตลอด
และนั่นก็ทำให้รู้สึกห่างเหินแบบแปลกๆ
จริงอยู่นาอิบอยากให้แจ๊คเรียกชื่อเขาบ้าง
แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้!
"เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว!"
เด็กหนุ่มพยายามตะโกนรั้งผู้รอดชีวิตในฮู้ดสีเขียวไว้ แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจเขาเลย แจ๊คเดินตรงไปด้านหน้าโดยไม่คิดจะหันกลับมามองหน้าเขาแม้สักนิด
"แจ๊ค!"
แม้จะพยายามเดินตามสักเท่าไหร่ แต่เมื่อใกล้จะถึงตัวแล้วแจ๊คก็จะใช้สกิลติดตัวพุ่งตัวออกไปจากเขาเสมอ
ทั้งที่อีกนิดเดียวก็คว้าได้แล้วแท้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับDashผ่านไปเสียอย่างนั้น…เป็นแบบนี้ติดกันสี่รอบ…ห้ารอบ…หกรอบ…
อยากจะขอโทษ
แต่อีกใจก็คิดว่ามันไม่แฟร์
ทำไมก่อนหน้านี้แจ๊คสามารถแกล้งเขาแรงๆได้? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงเอาคืนบ้างไม่ได้?
ทำไมเขาต้องขอโทษในเมื่อแจ๊คไม่เคยขอโทษเขาเลย?
อา…ไม่สิ เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก
จะยอมให้วันหนึ่งก็แล้วกัน
หมับ
"ขอโทษนะ"
แขนเรียวคว้าเอาตัวคนตรงหน้ามากอด ใบหน้าของผู้รอดชีวิตซบกับอกของฆาตกร นาอิบยกมือขึ้นมาลูบหัวของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
ทั้งแจ๊คทั้งนาอิบ ลึกลงไปในใจของทั้งคู่ต่างโหยหาอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน
โหยหาบางคนเพื่อมาเติมเต็มบางอย่าง
บางอย่าง…ที่ไม่ำด้รับมานานจนแทบจะลืมเลือนไป
"นายไม่ชอบใช่มั้ย งั้นฉันจะไม่ทำอีกแล้ว" เด็กหนุ่มกระซิบข้างๆหูของคนที่อยู่ในอ้อมแขน เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น วางบนข้างที่ไม่มีอาวุธลงบนฮู้ดสีเขียวคล้ายชาญี่ปุ่นที่ตนมักสวมอยู่ประจำ
แจ๊คไม่ตอบโต้อะไร เขาไม่ได้ปัดมือนั้นออก ไม่ได้พยายามดิ้นให้หลุดจากตรงนี้
"ปล่อย…" เสียงอันแผ่วเบาลอดออกมาจากริมฝีปากบาง
"ไม่ ไม่ปล่อย"
นาอิบยิ้มอ่อนๆ แม้จะรู้ว่าแจ๊คไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มให้อีกฝ่ายอยู่ก็ตาม เขาใช้มือสัมผัสกับฮู้ดแล้วค่อยๆดึงมันลงมาอย่างช้าๆและนุ่มนวล
เผยให้เห็นเส้นผมสีน้ำตาลสวยที่มักถูกซ่อนไว้ภายใต้ฮู้ดตัวนี้ตลอดเวลา...
"ตอนนี้ก็…เท่าเทียมกันแล้วนะ"
"อา…"
ตึกตัก...
เสียงหัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนทุกครั้ง
บางทีเขาก็สงสัยเหมือนกันว่า…
หัวใจนี่มันเต้นแรงเพียงเพราะอยู่ใกล้ฮันเตอร์จริงๆน่ะหรือ?
เด็กหนุ่มรั้งสะโพกของขึ้นฝ่ายให้แนบตัวมากขึ้น แจ๊คก้มหน้าลงเหมือนไม่อยากสบตากับเขาอย่างไรอย่างนั้น
"คุณรู้ไหม…" ชายหนุ่มเริ่มขยับตัว เขาค่อยๆโน้มตัวเข้าหาอีกฝ่าย จนใบหน้าของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน แจ๊คค่อยๆขยับใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นทีละนิดๆจนในที่สุด…
"คุณน่ะเป็นคนแรกเลยนะ…"
ริมฝีปากของทั้งคู่ก็สัมผัสกัน
อาจไม่สามารถบอกว่านี่คือจูบได้เต็มปาก เพราะมีหน้ากากบางๆคั่นกลางระหว่างทั้งสองทำให้ริมฝีปากไม่ได้ประกบกันดี
แต่ถึงจะไม่ได้สัมผัส
ก็แต่รู้สึกได้
รู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มและอบอุ่น
รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนและนุ่มนวล
รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เฝ้ารอและโหยหามานาน
บางสิ่งที่เรียกว่า
ความรัก
แจ๊คละริมฝีปากออก เด็กหนุ่มได้แต่นิ่งค้างไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม มือบางสัมผัสกับหน้ากากสีขาวที่ถูกสวมอยู่ก่อนจะค่อยๆขยับมันออก
"ถ้าเป็นนาอิบล่ะก็" แจ๊คเอ่ยเสียงแผ่ว "จะยอมให้เห็นก็ได้"
หน้ากากสีขาวร่วงหล่นลงกับพื้น
ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หน้ากากดูดหมือนจะทำอะไรไม่ถูก ผมสีดำนิลลงมาตามใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนลูกมะเขือเทศ ดวงตาสีทองที่ควรฉายแววน่ากลัวกลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
แจ๊คยิ้มอ่อนๆให้ถาพที่เห็นตรงหน้า
ถึงจะรู้สึกแปลกๆเพราะมันเป็นร่างกายของเขาก็เถอะ
แต่เจ้าของปฏิกิริยานี่ก็คือนาอิบนี่นา
"รักนะ คุณชาเขียว"
"ระ...รักนาย…เหมือนกัน"
[END]
……………………….…….…...……..………
~สนทนาหลังอ่านจบ~
ฮะฮะฮะฮะฮะ//หัวเราะแห้งหลังเขียนเสร็จและพบภัยพิบัติครั้งใหญ่มา
เกลียดความเออร์เรอร์ของเด็กดี!! ใครใช้ให้มาเออร์เรอร์ตอนยังไม่อัพห๊าาาา!?
ขอบ่นสักเล็กน้อย
ไรท์เขียนเรื่องนี้จบไปแล้ว และเมื่อกำลังจะอัพเท่านั้นแหละ เด็กดีเกิดเอ๋ออัพไม่ได้ เราเลยบันทึกแบบร่างไว้ก่อนแล้วกดรีเฟซหน้าจอ
กลับมาอีกทีหายหมดเลยค่าาาา เย่!!=_="
คือเซฟไว้เยอะนะไม่ใช่นานๆเซฟที ทำไมหายไปเยอะเกินครึ่งเรื่องได้อะไม่เข้าใจ นี่ต้องมานั่งเขียนใหม่หมดเลยอะ หัวร้อนมาก
เราลืมบอกไปว่าไม่เคยแต่งวายมาก่อน… มันเลยออกมาทุลักทุเลแบบนี้แหละค่ะ 555//หัวเราะแห้ง
เป็นมนุษย์ที่ไม่ได้เฉียดใกล้การเขียนแนวโรแมนซ์มาก่อน แถมชีวิตยังไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับคำว่าโรแมนติกเลย... พอเขียนมันเลยได้แค่นี้แหละค่ะ ขออภัยจริงๆ...
หวังว่ารีดทักท่านจะชอบนะคะ! ขออภัยในทุกความผิดพลาดค่ะ!!
//สถานีต่อไปฟิคน้องลัคกี้♡
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น