KNUPREBYC AJNIN (ทดลองอ่าน) - นิยาย KNUPREBYC AJNIN (ทดลองอ่าน) : Dek-D.com - Writer
×

    KNUPREBYC AJNIN (ทดลองอ่าน)

    หนึ่งในผลงานที่เขียนยากสุดของไรท์

    ผู้เข้าชมรวม

    80

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    80

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 พ.ค. 67 / 10:22 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ฝันเห็นดวงดาว

    พวกมันช่างหลากหลายสีสันทั้งปะปนกันเป็นดวงใหญ่ดวงเดียว จนจำแนกไม่ถูกว่ามีสีอะไรบ้าง

    ห่างไกลออกไปประหนึ่งไกลโพ้น แต่ไม่สูงเกินหยั่งบนนภาน้ำหมึก

    บังคับตัวเองเงยหน้าขึ้นไม่ได้ รู้อยู่แก่ใจว่าดวงดาวอยู่ข้างบนหัวนับล้านๆ ดวงได้กระมัง อนันต์จนนับไม่หวาดไม่ไหว

    รู้แท้แน่ว่าเบื้องหน้าขณะจับจ้องเพียงอย่างเดียวสะท้อนเงาบนกระจกตาคู่นี้

    ไม่ใช่ดวงดาว

    ฝันถึงมันเป็นรอบที่เท่าไรแล้วนะ รู้สึกเหมือนฝันซ้ำๆ กันอย่างนี้มาหลายครั้ง หรือมันเพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว ทำไมจิตถึงจดจำได้ว่าเคยท่องเที่ยวมายังแดนสนธยานี้อีกครั้งล่ะ

    ไม่อาจแยกแยะ

    สัมผัสถึงเหตุการณ์จริง กาลครั้งหนึ่งซึ่งเคยยืนอยู่ตรงจุดนี้

    ไจอาห์

    หันขวับทันใด มองหาต้นเสียงเสมือนและใช่เรียกขานตนด้วยชื่อขาดความคุ้นเคย ลึกๆ แล้วปักใจเชื่อว่าเจ้าของชื่อนั้นคือตนนั่นเอง

    มายืนดูกลุ่มดาวเหล่านั้นอีกแล้วเหรอ

    เสมือนความหวังไม่ไกลเกินเอื้อมจะคว้ามา เทียบเท่ากับเหนือชั้นฟ้าขึ้นไปเป็นไหนๆ หวังว่างั้นน่ะนะ

    พยักหน้าตอบ

    เดาฉันได้ง่ายตลอดเลยหรือ ว่าควรเจอฉันได้ที่ไหนน่ะนะ

    ไม่ยากเลย

    อีกฝ่ายตอบ

    ฉันหวังอยากให้ตัวเองคว้ามันมาให้กับเราทั้งสองคนได้จัง

    จำเป็นด้วยหรือ

    พินิจคำพูดนั้น

    ฉันไม่แน่ใจ อาจจำเป็นก็ได้มั้งนะ หรืออาจไม่เลยก็ได้ ฉันเพียงไม่รู้ว่าที่นั่นจะเป็นอย่างไรกับเรา เมื่อได้อยู่สถานที่แห่งนั้นจริงๆ จะใจดีหรือใจร้ายกับเราแบบไหน หรือเพียงปล่อยชีวิตอยู่ในรูปแบบตามยถากรรมไม่ต่างจากข้างนอกนี่

    ใครๆ ก็ว่าข้างในไม่ใช่ดินแดนแห่งฝันดีเลยนะ

    พวกเขานอกรีต

    สวนกลับทันควัน ไม่ไว้ใจพวกเดียวกันเอง ซึ่งคอยดูแลกันและกันไม่ทิ้งห่างหายแม้แต่คนเดียว

    พวกเขาหนีตายเพื่ออพยพออกมา

    อีกฝ่ายแย้ง

    พวกเขาย่อมรู้ถ่องแท้กว่าเด็กอย่างเรา เพราะพวกเขาเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนนะ ไจอาห์ ถ้ามันวิเศษวิโสจริง พวกเขาไม่ละทิ้งสวรรค์เพื่อมาตรากตรำท่ามกลางพื้นที่รกร้างนี้หรอก พวกเขาอาจมองว่าที่นี่อย่างน้อยก็ช่วยให้พวกเขารู้สึกปล่อยภัยกว่าข้างในนั้น ฉันไม่รู้สิ ฉันก็ฟังๆ แม่มาเท่านั้น

    พวกเขาอาจใส่ร้าย

    ส่ายหน้าอย่างไม่ต้องการถูกหลอมรวมกลายเป็นหนึ่งกับพวกเขาที่นี่

    บางทีอาจไม่

    บางทีอาจใช่

    ซึ่งไม่ยอมแพ้

    แต่ไม่ยอมละทิ้งที่นี่ไป

    อีกฝ่ายกังขา

    ทำไม

    เหลือเราเพียงหนึ่งไม่ได้ ฉันขาดอีกหนึ่งไม่ได้ ฉันอยูลำพังโดยไม่มีอีกหนึ่งไม่ได้

    น้ำตาใสๆ เคยคลอเบ้า ล้อกับแสงกลุ่มดวงดาราโดดเด่นท่ามกลางความมืดมิดของโลกเบื้องใต้ส่องประกายระยิบระยับ ไหลรินอาบสองแก้ม

    อีกฝ่ายยื่นมือปาดน้ำตา เหลือเพียงไว้คราบแห้งกรัง อากาศหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจกัดผิวหนังหน้าลอกเป็นสะเก็ดขาวแสบระคายเคือง

    ฉันถึงรั้งแบบฝืนทนอยู่อย่างนี้

    นายคาดหวังอะไรที่นั่น

    อาจสุขสบายกว่า

    อาจไม่เลยก็ได้ หรือไม่ต่างอะไรจากที่นี่ อย่างน้อยพวกเราก็เป็นหนึ่ง ไม่แตกแยกเหมือนที่นั่น

    ดาไว

    ไร้สิ่งซึ่งจะต่อเถียงอย่างไม่อยากเห็นด้วยต่อความคิดนั้น จึงต้องปราม เพื่อหยุดการซึมซับในมุมมองแง่ร้ายก่อนฝังรากลึกลงในสมองจนถอนรากถอนโคนไม่เกลี้ยง

    มองความสว่างไสวนั่นสิ แล้วย้อนมองกลับมาในความมืดมิดนี่สิ กลุ่มดาวนั่นจะต้องแตกต่างจากที่นี่ ฉันอยากพาเราไปยังดาวเมโทรโปลิสด้วยกันนะ

    สิ้นคำพูดนี้ิแล้ว

    โลกทั้งใบพลันมืดสนิทกว่าที่เคย กลุ่มดาวมหานครเมโทรโปลิสพร่าเลือนในสายตาของทั้งสี่คู่

    มันช่างเงียบงัน

    ไร้สัมผัส

    ปราศจากการรู้สึก

    ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น