ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [衛霄] เพลิงวิญญาณบรรพกาล

    ลำดับตอนที่ #17 : 十 七

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.73K
      1.11K
      1 ก.ย. 63






              ความละโมบของมนุษย์นั้น... หาสิ้นสุดมิได้ 

              และด้วยความสัตย์ซื่อ  เด็กสาวผู้นี้... จะบรรดาศักดิ์ยศถาหรือแก้วแหวนเงินตรา  ไม่ว่าอะไรนางก็มีสิทธิ์เรียกร้องมันทั้งนั้น  ทว่า... เพียงสิ่งเดียว... มีเพียงสิ่งเดียวที่นางไม่สมควรหมายตา  ยิ่งไม่สมควรคิดแตะต้อง 

              ทรัพย์สมบัติในนามของฟู่เหวินหยาง...

              ท่านรวยหรือไม่นึกไม่ถึงจริงๆว่านางจะกล้าพูดมันออกมาตรงๆ

              นี่นาง กำลังขูดรีดเขาอยู่หรือ?  คนอย่างเขาเนี่ยนะ... 

              แม้นรู้แก่ใจว่าเขาสามารถบีบนางให้ตายได้ทุกเมื่อ?  แล้วไหนจะใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังที่คิดตะล่อมไถเงินนั่นอีก...

              สงสัยจริงๆว่านางจะใสซื่อถึงขั้นไม่รู้เชียวหรือ  ฟู่เหวินหยางผู้นี้เกลียดที่สุดคือพวกที่กล้าหมายตาทรัพย์สมบัติของเขา  

              ฟู่เหวินหยางหยุดหัวเราะก่อนพินิจมองเด็กสาวอีกครั้ง  ได้ยินว่านางอุดอู้แต่ในเรือนมาหลายปี  ก็... คงไม่รู้จริงๆนั่นแหละ  

              อืม... เช่นนั้นก็แล้วกันไป 

              แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฟู่เหวินหยางไม่ใคร่เข้าใจนัก  เหตุใดจึงมีข่าวลือที่คุณหนูสามจวนแม่ทัพบูรพาไร้ค่าไร้ราคาหลุดออกมาได้เล่า  เด็กสาวผู้ซึ่งเขากำลังเผชิญอยู่นี่ไม่เห็นเป็นเช่นนั้นเลย

              ทั้งบรรยากาศความตายที่ปกคลุมรอบตัวนั่น  ยิ่งทำให้ฟู่เหวินหยางมั่นใจว่านางมิได้เป็นเพียงคนไม่เอาไหนดั่งผู้คนร่ำลือกันอย่างแน่นอน


              
    ดูเหมือนแม่ทัพเว่ยผู้นั้นคงรำทวนจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วกระมัง  เขากล้าทิ้งขว้างบุตรสาวผู้เป็นดั่งก้อนหยกในโคลนตมได้อย่างไร

              “ไปกันเถอะ ไม่รอให้นางปฏิเสธ  ฟู่เหวินหยางตัดสินใจรวดเร็วเด็ดขาด  ตรงเข้าไปยกเด็กสาวขึ้นพาดบ่า  พุ่งทะยานสู่น่านฟ้าทันที

              หา?  ไปไหน  เว่ยเซียวเริ่มขมวดคิ้ว  กำปั้นน้อยๆทุบกลางหลังบุรุษผมม่วง จะไปที่ใดกัน?  นี่ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!”

              เว่ยเซียวผู้ใช้ชีวิตในเงามืดนานนับสิบปี  ได้ประจักษ์ถึงความรู้สึกอับอายจนหน้าเขียวก็วันนี้

              คุณหนูน้อยซึ่งกำลังยังอ่อนด้อย  ไหนเลยต่อต้านบุรุษผู้เปี่ยมจิตสังหารเข้มข้นได้

              “ฮ่าๆๆเห็นนางโมโหจนตัวสั่น  ฟู่เหวินหยางเบิกบานใจนัก 

              ตั้งแต่เกิดมา  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เริ่มหัวเราะอย่างจริงจัง

              เป็นของเล่นที่น่าสนุกจริงๆ 

              องครักษ์เงาที่หลบซ่อนอยู่บนกิ่งไม้ปาดเหงื่อตกใจ  รู้สึกเหลือเชื่อที่ได้เห็นเจ้านายหัวเราะออกมา  ทั้งยังลอบขโมยคุณหนูจวนแม่ทัพไปโน่นแล้ว!  หากเรื่องน่าอายเช่นนี้แพร่งพรายออกไปเกรงว่า

              หยินอ๋องได้โปรดกลับมาก่อนเถิด... จะทรงทำเช่นนี้ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!



              ท่ามกลางหมู่เมฆบดบังแสงสลัวจากเสี้ยวจันทร์  แว่วเสียงหัวเราะสุขสำราญของบุรุษหนุ่มรูปงาม  ตามด้วยคำก่นด่ารากเหง้าทั้งตระกูลของเด็กสาวตัวน้อย

              ฟู่เหวินหยางแบกเว่ยเซียวพาดบ่าด้วยท่าทีสบายๆ  เหาะเหินเดินอากาศราวเซียนขี่เมฆ

              ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่หมาย  บุรุษผมม่วงทิ้งตัวลอดบานหน้าต่างอย่างชำนาญ  ค่อยวางเด็กสาวลงบนฟูกนิ่ม

              เมื่อเว่ยเซียวเงยหน้ากวาดตามองไปรอบๆ  ก็ได้ยลห้องนอนที่จัดแต่งหรูหราใหญ่โตประหนึ่งโถงวัง ที่นี่?

              ฟู่เหวินหยางเลิกคิ้วมองเด็กสาว  เขาไม่ได้ตอบคำถามนาง  เพียงยกยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ 

              “เจ้าต้องการสมบัติไม่ใช่หรือ?  มานี่สิ” สิ้นคำก็ผลักประตูหยกทับทิมเดินนำลิ่วออกไป 

              เว่ยเซียวไม่มีทางเลือก  ทำได้เพียงลุกขึ้นก้าวตามบุรุษผมม่วงไปเงียบๆ 


              ระหว่างทางเว่ยเซียวได้มองสังเกตไปโดยรอบ  จึงค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้นอกจากจะไร้เงาผู้คุ้มกันแล้ว  มันก็ช่าง… ขี้อวดยิ่งนัก  เจ้าของจะต้องฟุ่มเฟือยจนโปรยเงินต่างกระดาษได้แน่ๆ

              ตลอดทางเดินโอ่อ่าหรูหราเฉกวังเทพสวรรค์ในตำนาน  ทุกส่วนมุมไม่ว่าต้นเสาเศียรมังกรเศียรพยัคฆ์  กระทั่งใบแจกันที่วางเรียงราย  ล้วนรังสรรค์จากหยกทับทิมเนื้อใสสะอาดทั้งสิ้น

              ไม่เว้นแม้แต่พรมปูทางยาวเหยียด  ยังถูกประกอบขึ้นโดยทองคำพราวระยับบาดตา  

              เว่ยเซียวลอบมองแผ่นหลังของฟู่เหวินหยางที่เดินนำหน้า  หากนี่คือถิ่นอาศัยของเขาจริงๆ  เช่นนั้นคงบอกได้เพียงเขามันน่าหมั่นไส้ที่สุดแล้ว  ช่างทำให้ผู้คนรู้สึกเกลียดชังโดยไม่รู้ตัวจริงๆ

              ฟู่เหวินหยางพาเดินเลี้ยวซ้ายลัดขวาไปเรื่อย  จวบจนถึงจุดสิ้นสุดของทางเดิน  เบื้องหน้าคนทั้งคู่ปรากฏประตูทองอร่ามบานใหญ่ยักษ์

              “ถึงแล้ว

              เว่ยเซียวเริ่มตาพร่า  อดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นกำบัง  ประกายวิบวับเหล่านี้ก่อกวนจิตใจนางยิ่งนัก  

              ฟู่เหวินหยางต้องทนใช้ชีวิตในสถานที่เช่นนี้ทุกวี่วัน  ไม่รู้สึกแสบตาบ้างหรือไร

              การกระทำของฟู่เหวินหยางผ่อนคลายเรียบง่าย  เขายื่นมือไปผลักประตูบานยักษ์โดยไม่ต้องออกแรง  เพียงเท่านั้นบานประตูก็เปิดออกช้าๆ 

              “สมบัติทั้งหมดในห้องนี้... เจ้าเอาไปได้เท่าที่ต้องการเลย  ประเดี๋ยวก่อนฟ้าสางข้าจะพาเจ้าไปส่งเองดังนั้นไม่ต้องรีบร้อนกล่าวจบชายหนุ่มพลันคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์  เขาปฏิบัติอย่างใจกว้างจนผิดวิสัย

              เมื่อนางต้องการสมบัติ  เขาก็ให้นาง... แล้วเขาจะรอดูว่านางจะมีความสามารถถึงเพียงใด

              ฟู่เหวินหยางมองประเมินเด็กสาวอีกครั้ง  ค่อยหมุนตัวเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ  ตัวเล็กแค่นี้นางจะขนไปได้สักเท่าไหร่กันเชียว


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×