ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War and Sacrifice : Route to the War

    ลำดับตอนที่ #6 : Chase. ไล่ล่า

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 58


                “อะไรนะ!?”ชายหนุ่มร้อง”แอดเลอร์เนี่ยนะระเบิดสะพานน่ะ?”

                   “ใช่แน่นอนครับ! แหล่งข่าวเราไม่โกหกหรอกครับท่าน!
                   สิ้นเสียงของพลทหาร ชายหนุ่มเดินกลับไปมา ดูท่าทางลนลานผิดจากเดิม เขาคิดไม่ออกว่าควรทำยังไงกับอดีตคู่หมั้นของเขา หากเป็นคนที่มียศสูงกว่านี้ คงต้องประกาศไล่ล่าแอดเลอร์แน่นอน ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่อยากทำสิ่งที่คนอื่นทำกัน แต่ยังไงก็ตามก็ยังไม่รอดพ้นคำสั่งของเอมิลล์ เพราะฉะนั้นเขาถึงรู้สึกแบบนี้..เขาถึงไม่อยากฆ่าเธอ..เพราะเขายังรักเธออยู่ ถึงแม้ว่าความรู้สึกนั้นมันจะไม่เกิดกับแอดเลอร์แม้แต่น้อย..
                     "เราจะทำยังไงกับผู้หมวดดีครับ?"
                     "อืม..."ชายหนุ่มทำท่าคิด
                     "..."พลทหารคนนั้นเงียบ
                     "เอาเป็นว่า.."ในที่สุดเขาก็คิดออก"ไม่ว่ามีคำสั่งให้ฆ่าแอดเลอร์จากใครหน้าไหน ก็ไม่ต้องไปสนใจ เข้าใจ๊!?"
                     "ครับหัวหน้า"
                     วูล์ฟฟ์หันไปดูนอกหน้าต่าง"ระหว่างนี้ฉันจะหาทางคิดไว้ก่อน.."
                     -อีกด้านหนึ่ง-
                     ฉันเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป ก่อนจะปิดประตูห้อง ฉันเดิรไปที่โต๊ะไม้เก่าๆตัวเดิม แฟ้มประวัติของคาร์ลยังคงวางอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน มันกี่วันแล้วที่ฉันหนีการไล่ล่าจากพวกนาซีที่คิดว่าฉันทรยศ? แต่สิ่งที่ฉันสงสัยซะยิ่งกว่านั้นคือหลุมฝังศพที่คาร์ลไปเยี่ยม..เขาบอกว่านั่นเป็นคู่หมั้นของเขา มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก! คนอย่างเขาเนี่ยนะจะมีอดีตคู่หมั้น? ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่า อเล็กซานดร้า ไอเล็น คือใคร
                    ฉันมองไปที่แฟ้มประวัติของเบิร์ต คาร์ล..คำตอบอาจมีอยู่ในนั้น!
                     ฟึ่บ!
                     ฉันรีบลุกขึ้นไปหยิบมันมาทันที ก่อนจะเปิดดูทุกหน้า และในที่สุดฉันก็เจอคำตอบที่ฉันตามหา..ครอบครัวของคาร์ล..ทำไมฉันไม่เคยเห็นรูปแบบนี้มาก่อนนะ? มันเป็นรูปของสมาชิกในครอบครัวของเขาทั้งพ่อ แม่ และผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ฉันรีบอ่านเรื่องของพ่อเขาทันที ไม่แน่ว่า..บางทีไอเล็นอาจเป็นหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวของเขาก็ได้..
                   ประวัติของพ่อของเขาคือ..
         'ชื่อ-โรเบิร์ต ไอเด็น อาชีพ-ไม่ระบุ' ฉันคิด
                    ฉันมองรูปของชายคนนั้น หน้าตาแบบนี้ฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ
                    'นี่ลุงไอเด็นนะ เพื่อนของพ่อสมัยก่อนน่ะ'
                     อ๊ะ...
                     ฉันรีบละสายตาออกจากรูปถ่ายทันที ก่อนจะไปจดจ่อกับอีกรูปหนึ่ง แม่ของเขา...ฉันดูจากรูปแล้วก็ไม่มีอะไรมาก หล่อนเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่สิ่งที่ฉันสนใจมากกว่านั้นคือ..รูปของไอเล็น..
                    "หึ..กะแล้วเชียว.."
                     ฉันกัดฟันแน่น อเล็กซานดร้า ไอเล็น ไม่ใช่คู่หมั้นของคาร์ล แต่เป็นน้องสาวของเขาต่างหาก ทั้งสีหน้าและแววตาของผู้หญิงคนนี้ดูคล้ายคาร์ลที่สุด ดวงตาสีมรกตฉายแววออกมาอย่างชัดเจน ฉันรู้สึกถึงความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมไปในดวงตาของหล่อน ฉันแอบยิ้มนิดหน่อยเมื่อเห็นรูปนี้
                     ก็อกๆๆๆ..
                     ฉันหันไปทางประตูห้อง ก่อนจะเดินเข้าไปหมุนลูกบิด แล้วฉันก็เจอกับดัลตัน 
                     "มีอะไรเหรอดัลตัน?"
                     "ขอโทษครับผู้หมวด! แต่ว่าตอนนี้คุณคาร์ลขอพบคุณข้างนอกน่ะครับ"
                     คาร์ลเรียกฉันเหรอ? มีอะไรนะ? ฉันก้มลงมองแฟ้มประวัติในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นเห็นดัลตันที่ท่าทางเร่งรีบผิดปกติ ในที่สถด ฉันวางแฟ้มประวัตินั่นเอาไว้บนโต๊ะตัวเดิม แล้วลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง
                    "เขามีอะไรเหรอดัลตัน"                                  "คงเป็นเรื่องภารกิจมั้งครับ"เขาพูดในระหว่างที่เดินนำหน้าฉัน
                       เขาเดินนำหน้าฉันมาจนถึงทางออกของฐานทัพใต้ดิน ดัลตันดูท่าทางเหนื่อยๆ อีกทั้งแผลฟกช้ำที่หน้าของเขาบ่งบอกฉันว่าเพิ่งเกิดได้ไม่นาน เขาคงไปมีเรื่องกับทหารคนอื่นแน่ๆ 
                     "ผมขอตัวนะครับผู้หมวด ผมยังเหลือรายงานเป็นสิบให้เขียนน่ะ"เขาพูดพลางหัวเราะ
                     "เชิญ"
                     เขายิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม ฉันหันกลับมา แล้วค่อยๆขึ้นบันไดไปจนออกจากฐานทัพ ข้างนอกก็ยังเหมือนเดิม..เงีบยสงบบางวัน แต่บ่อยครั้งที่ได้ยินเสียงปืนดังแว่วมาตามลม ควันสีเทาหม่นยังคงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉันเห็นภาพนี้ในทุกๆวันที่ออกมาข้างนอก มันชาชินจนฉันคิดวาาเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะ...
                      บรื้นนนนน....
                      เสียงรถเหรอ..?
                      ฉันเดินเข้าที่บังเกอร์ทันที มือขวาหยิบปืนพกออกมาจากซองขึ้นมาถือเอาไว้ ปืนของฉันปลดเซฟเรียบร้อยและพร้อมยิงเมื่อเหนี่ยวไก
                       บรื้นนน..
                       เสียงรถค่อยๆเงียบลง รู้สึกว่ารถคันนั้นจะจอดอยู่ไม่ไกลจากบังเกอร์ที่ฉันหลบอยู่เท่าไหร่ ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น..มากขึ้น..และมากขึ้น....
                       เสียงหัวใจฉันเต้นแรงและเร็วขึ้น คงเป็นนาซีที่มาตรวจแถวนี้แน่ๆ 
                        หมับ!
                        ควับ!!
                        ฉันหันไปพร้อมกับเอาปืนจ่อหน้าอีกฝ่าย นิ้วชี้ที่เตรียมจะเหนี่ยวไกปืนกลับชะงักทันทีเมื่อเจอหน้าฝ่ายตรงข้าม..คาร์ล
                        "ให้ตายสิ! คุณอยากตายมากเหรอเนี่ย!?"
                        "คุณนั่นแหละ! ที่หลังนะถ้าถือปืนไว้ในมือก็อย่างลังเลที่จะเหนี่ยวไกจำเอาไว้ซะ"
                        "ฉันอยากทำแบบนั้นนะ แต่ถ้านี่ไม่ใช่สงครามละก็...ฉันคงโดนจับไปตั้งนานแล้วละ!!"
                        ฉันจ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แถบทำให้บ้าขึ้นมา คาร์ลชอบทำให้ฉันเกือบเอาปืนมายิงใส่หัวเขาตั้งแต่ไหนตั้งนานแล้ว ยิ่งใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยแผลและเลือดมันยิ่งทำให้ฉันอยากจะเหนี่ยวไกขึ้นไปทุกที! แต่ความคิดของฉันทั้งหมดก็หยุดลงเมื่ออยู่ๆคาร์ลก็เผยอริมฝีปากขึ้นยิ้ม..
                        "ผมไม่ได้ดูหน้าคุณใกล้ๆแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว...แอดเลอร์"
                        เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆฉัน...
                        "ออกไปนะไอ้เลว!!"
                        ผลัก!
                         ฉันผลักตัวของเขาออกไปก่อนจะยืนขึ้น แล้วหยิบปืนพกใส่กระเป๋า ดูเหมือนว่าคาร์ลจะเดินตามหลังฉันมาอีก ฉันเลยหันกลับไป...แล้วยกมือขึ้นชี้หน้าเขา...
                          "จำไว้นะ ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามาทำแบบนี้ตอนที่ฉันถือปืนอยู่ เข้าใจมั้ย!?"
                          "...ก็ได้ ผมเกือบลืมไปเลยว่ายืนอยู่ตรงหน้าผู้หมวดแอดเลอร์นะเนี่ย"
                          "หุบ..ปาก..ซะ!"ฉันเน้นเสียง
                          "โอเค..ก็ได้"
                          ฉันหันหลังไป แล้วก้าวเดินไปยังรถคันหนึ่งที่น่าจะเป็นรถที่ฉันได้ยิน แถมเป็นรถของพวกนาซีซะด้วย งั้นก็แสดงว่าคาร์ลเป็นนคนขับมาสินะ ยอดเยี่ยมเลย...
                          "ตกใจแม้กระทั้งเสียงรถนะเนี่ยคุณน่ะ"เขาพูดก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขึ้นไป"ขึ้นมาสิผู้หมวด"
                          ฉันทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินไปอีกด้านหนึ่งของรถ ก่อนจะเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งบนเบาะ คาร์ลเหล่มองฉันด้วยหางตานิดหน่อนก่อนที่จะสตาร์ทรถแล้วก็ขับออกไป
                          -เวลาต่อมา-
                          ฉันนั่งอยู่เบาะรถพลางมองออกไปนอกกระจก สายตาของฉันเหม่อมองขึ้นบนฟ้า ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับฉันไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ แต่ฉันไม่เข้าใจว่า...ทำไมฉันต้องมาเป็นนาซี...ทำไมสงครามนี้ถึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำไมฉันถึงกลายเป็นฆาตรกรโดยไม่รู้ตัว...และทำไม...ทำไมฉันถึงเสียพ่อไป...?
                          ทำไม..ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังร้องไห้อยู่นะ?
                              ฟึ่บ...
                               ฉันยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่กำลังจะล้นเบ้าตาออกมา พยายามเงียบให้มากที่สุด เพราะฉันไม่อยากให้คนข้างได้ยินเสียงสะอื้นของฉัน สงสัยฉันจะคิดถึงเรื่องการตายของพ่อมากเกินไปแล้ว...เลิกคิดถึงเรื่องนั้นซักที...
                               "คุณร้องไห้เหรอ"
                               อ๊ะ...เขารู้ได้ไงเนี่ย? ไม่ใช่ๆ! ตั้งสติเอาไว้แอดเลอร์
                                "ใครบอกว่าฉันร้องไห้"
                               "ผมรู้ว่าคุณร้องไห้แอดเลอร์..."เขาเว้นวรรค"..ผมรู้จักคุณ"
                               "คุณรู้จักฉันยังไม่ดีพอหรอก"
                               "ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็รู้อยู่ดีว่าคุณร้องไห้น่ะ"
                               "เงียบ..ซะ.."
                               ฉันหันไปพูดกับเขาด้วยใบหน้าที่ยังคงเหลือคราบน้ำตาอยู่อย่างเห็นได้ชัด คาร์ลหันกลับไปมองด้านหน้าอีกครั้ง ส่วนฉันก็หันกลับไปมองกระจกอีกเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันอยากชักปืนมายิงหัวเขามากเลยละ ถ้าทำได้ฉันทำไปแล้วละนะ
                               ฉันยังคงมองออกไปเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันยกนาฬิกาขึ้นมาดู มันบอกเวลาว่าบ่ายโมงกว่าๆ วันนี้พวกนาซีก็ยังคงตามหาตัวฉันอยู่เหมือนเดิมสินะ พวกนั้นไม่เหนื่อยกันบ้างเหรอเนี่ย
                               "นี่เรากำลังจะไปไหนกัน"
                               "...."
                               ฉันไม่ได้รับคำตอบใดๆจากคาร์ล เขาเงียบตามคำพูดของฉันจริงๆด้วย ตอนนี้ฉันรู้สึกโหว่งแล้วละ
                                "ไปเรื่อยๆ"
                                "นั่นเหรอคำตอบของคุณน่ะ"               
                                "ซึ่งมันก็คือคำตอบที่คุณต้องการไม่ใช่เหรอแอดเลอร์"
                                "โอเค..ก็ได้!"
                                ฉันกลับไปมองนอกกระจกรถอีกครั้งโดยไม่สนใจคนที่นั่งข้างๆ จากความรู้สึกเศร้าเมื่อกี้กลายมาเป็นความรำคาญทันที ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคาร์ลถึงชอบมายั่วให้ฉันโมโหตลอด ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาว่างมากรึไงที่ไม่ได้ไล่ฆ่าคนในสนามรบ ถึงชอบมาทำให้ฉันโมโหอยู่เรื่อยน่ะ!
                                เอี๊ยดดด!!
                                 ผลัก!
                                 "ให้ตายสิคาร์ล!! คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย!? จะเบรกรถก็บอกบ้างก็ได้นะ!"
                                 "เงียบก่อน.."เขาพูก่อนจะชี้ไปด้านหน้า มันคือ...
                                 "ค่ายทหารเหรอ"ฉันมองไปด้านหน้าตามที่คาร์ลบอก
                                 "ไม่ใช่ของนาซี.."
                                 "....ของอังกฤษสินะ"ฉันตั้งสมมติฐาน
                                 "ใช่..."
                                 ฉันเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป ฉันหยิบกล้องขึ้นมาตรวจดูด้านหน้า.มีทหารเต็มไปหมด ค่ายใหญ่เลยมั้งเนี่ย 
                                 "คุณจะเอายังไงกับค่ายนั่นดี?"ฉันลดกล้องในมือลง
                                 "น่าจะเข้าไปดู..."เขาลากเสียง"ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเราต้องแยกกันแล้วละ"
                                ตอนนี้ฉันสังเกตเห็นสีหน้าของคาร์ลที่เปลี่ยนไป"ก็ได้ ฉันไปทางซ้ายเอง คุณไปขวาละกัน"
                                "เข้าใจล่ะ ตรงนี้เป็นจุดรวมละกัน"
                                ฉันพยักหน้า ก่อนจะเดินไปทางซ้าย แต่ก็ต้องหยุดเดิน เพราะคำพูดที่ิดังมาด้านหลัง มันมาจากคาร์ล
                                 "ระวังตัวด้วยละ"เขาพูด"และอย่าโดนจับได้เด็ดขาดเลยนะผู้หมวด"
                                 ฉันหันหลังกลับไป"ขอบใจที่เป็นห่วงนะ มันซึ้งมากเลยละ"ฉันหันกลับมาอีกครั้ง"คุณก็เหมือนกัน"
                                 เขายิ้ม ก่อนจะเดินแยกออกไปจากฉัน ฉันเดินย่องเข้าไปทางด้านหลัง แต่ไม่ว่าไปทางไหน ก็มีแต่ทหารอังกฤษเดินอยู่เต็มไปหมด บางคนก็มาเป็นยามตรวจตรา บางคนก็เดินเล่น บางคนก็หยิบปืนของตัวเองขึ้นมาทำความสะอาด ดูเหมือนว่าทหารพวกนี้จะว่างงานมากพอๆกับคาร์ลเลยละ
                                "เมียนายเป็นไงบ้างวะ"
                                "เป็นคนสิถามได้!"
                                แต่บางทีฉันก็ขำกับคำพูดของทหารพวกนี้ล่ะนะ
                                "เฮ้ยยย โทษเพื่อน แองจี้ยังสบายดีอยู่ แล้วลูกชายนายเรียนจบยังวะ"
                                "ใกล้แล้วมั้ง ถ้าสงครามนี่จบน่ะ ฉันกะว่าจะกลับไปหามันหน่อย ไม่ได้เห็นหน้านานคิดถึงมากเลย!!"
                                "ฉันก็จะกลับไปดูแองจี้กับลอร่าเหมือนกัน"
                                ฉันก้มหน้านิดหน่อยหลังจากฟังคำพูดของทหารพวกนั้นจบ มันทำให้ฉันได้รู้ว่า....ในอดีต ทหารพวกนี้ก็ยังคงมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่ พวกเขาจากคนที่รักมาเพื่อปกป้องประเทศ หลายคนก็ยอมตายเพื่อประเทศ บางทีฉันอาจอยากกลับไปเป็นหญิงเชื้อสายอังกฤษคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ถ้าฉันไม่มีสายเลือดเยอรมันอยู่ ความฝันนั่นอาจเป็นจริงก็ได้...
                              ฉันย่องเดินเข้าไปหลังค่าย มีช่องเล็กๆอยู่ มันอาจทำให้ฉันเข้าไปในนี้ได้ก็ได้นะ ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าคาร์ลทำงานถึงไหนแล้ว หวังว่าเขาคงไม่ไปเดินเล่นอยู่ในค่ายหรอกนะ
                               ฉันค่อยๆก้าวเท้าไปเรื่อยๆ จนกระทั้งไปสะดุดกับเสียงๆหนึ่ง
                               "เรื่องภารกิจแทรกซึมน่ะไปถึงไหนแล้วล่ะ"มันเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง
                               "ก็ดี"
                               เอ๊ะ..เสียงนี้มันคุ้นหูจังแฮะ..
                                "ก็ดีน่ะ หมายถึงว่ายังเนียนอยู่ใช่มั้ยพันตรี?"
                                "เรียกชื่อก็ได้ สเปนเซอร์"
                                "ฉันเรียกชื่อนายไม่ได้หรอกนะ.."
                                ฉันเริ่มตั้งใจฟังบทสนทนานั่นมากขึ้น ปืนพกที่ถืออยู่ถูกเอาเก็บเข้าซองโดยที่ฉันไม่รู้ตัว แล้วก็ตั้งใจฟังทหารสองคนนั่นพูดต่อไป
                                 "เฮ้...นายรู้สึกแปลกๆมั้ย?"
                                 "..."
                                 "ฉันรู้สึกว่า...มีคนแอบฟังเราคุยกันอยู่น่ะ.."
                                 ฟึ่บ!!
                                 ฉันรีบหันไปด้านหลังทันทีใครคนหนึ่งถือปืนซุ่มยิงเอาไว้ก่อนจะเอาพานท้ายปืนทุ่มมาที่ฉัน!!
                                  ผลัก!!
                              ......
                              ...
                              ....
                              ..
                              ปริบ...
                             "ตื่นแล้วเหรอผู้หมวด?"
                             ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น คนตรงหน้าคือทหารอังกฤษคนหนึ่ง เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรอบ ฉันยกมือขึ้นแตะที่หัวตัวเอง มีผ้าพันแผลอยู่บนหัวฉันนิดหน่อย ฉันหันไปอีกด้านหนึ่ง คาร์ลยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลจากฉัน เขามองฉันด้วยสายตาแน่นิ่งผิดปกติ
                                "ยินดีต้อนรับสู่สงครามผู้หมวด..."เขาลากเสียง"ผมริค สเปนเซอร์ เป็นหัวหน้าที่นี่น่ะ อ้อ! คุณมาจากนาซีเยอรมันสินะ รู้รึเปล่าว่าผมเกลียดไอ้พวกนั้นมากเลยล่ะ!"
                                "...."
                                "แต่ผมไม่เกลียดผู้หญิงที่มาจากฝ่ายนั้นหรอก..ยิ่งอยากคุณ"เขาพูดก่อนที่จะยื่นมือมาแตะที่แก้มฉัน แต่ฉันปัดมันออก
                                "อย่ามาแตะตัวฉัน"
                                "โว้วๆๆ อย่าโหดนักสิสาวน้อย.."เขาเดินไปนั่งเหมือนเดิม"..คู่หูคุณคงมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณนะผู้หมวด ลองเดินไปหาเขาสิ"
                                ฉันทำท่ามองไปที่ทหารที่ชื่อว่าสเปนเซอร์ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วค่อย.ก้าวเท้าไปทีละก้าว
                                แก็ก!!
                                "คุณโกหกฉัน! คาร์ล คุณหลอกให้ฉันมานี่เพื่อให้พวกนี้จับฉันใช่มั้ย!!"
                                "..."
                                ฉันยกปืนขึ้นจ่อหน้าเขา เขายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม แต่เขาไม่ยกปืนจ่อหน้าฉันแฮะ แต่ที่รู้ๆตอนนี้ฉันโมโหสุดขีดเลยล่ะ!!!
                                 "งั้นผมขอตัวนะ"สเปนเซอร์พูดก่อนจะเดินออกไป
                                 ฉันมาหาคาร์ลอีกครั้ง"ว่ายังไง!?"
                                 "คุณยังรู้จักผมได้ไม่ดีพอผู้หมวด.."เขาพูด"..คุณไม่รู้จักผมเลยซะด้วยซ้ำ"
                                 "งั้นเหรอ? คงเป็นเพราะว่าฉันอ่านแฟ้มประวัติคุณไม่จบสินะ!?"
                                 "..."
                                 "ฉันน่าจะฆ่าคุณตั้งแต่ตอนนั้น"
                                 ตึก...ตึก..ตึก...
                                 เขาเดินมาที่ฉันก่อนจะหยิบปืนที่อยู่ในมือฉันทิ้งไป ก่อนจะยกมือที้งสองข้างขึ้นมาจับไหล่ฉัน
                                 "ใจเย็นผู้หมวด.."
                                 "ไปตายซะ.."
                                 ฉันพูดประโยคนั้นใส่หน้าเขาด้วยสีหน้าที่ปนเปื่อนไปด้วยความโกรธแค้น คาร์ลถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไปเลยทันที เหอะ..ไม่เคยเห็นสีหน้าของฉันแบบนี้มาก่อนใช่มั้ย..? ฉันยกมือของเขาที่จับไหล่ฉันอยู่ออกมา ก่อนจะเดินออกไป
                                 "คุณมันไอ้คนโกหก คาร์ล.."ฉันค่อยๆเดินออกไป"ฉันเกลียดคนโกหก"
                                 "..."
                                 ฉันเดินออกมาจากเต้นท์โดยไม่ทันสังเกตเห็นทหารอังกฤษกลุ่มหนึ่งที่ยนคุยกันอยู่ คงมีใครคงหนึ่งหันมาก่อนที่จะร้องเรียกให้คนอื่นๆมาตามจับฉันด้วยละมั้ง
                                 "นาซี!!!!"
                                 "อ๊ะ.."ฉันหันไปหาพวกนั้นก่อนจะรีบวิ่งเข้าป่าที่อยู่ใกล้ๆ
                                 "จับนังนั้นให้ได้!!"
                                 ...
                                 หลังจากที่แอดเลอร์เดินออกไปแล้ว คาร์ลก็ได้เดินไปรอบๆเต้นท์ เหมือนกับคิดถึงคำพูดที่หล่อนทิ้งเอาไว้ให้ ในที่สุดเขาก็เดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่สเปนเซอร์เคยนั่ง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปรอบห้องอีกครั้ง เขาทำแบบนี้ประมาณสองสามครั้งก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมอีก
                                   "เกลียดคนโกหก
    เหรอ.."เขาพึมพำ"ทำอย่างกับว่าไม่เคยโกหกมาก่อนในชีวิตเลยนะผู้หมวด"
                                   เขาลุกขึ้นยืนแต่ไม่เดินไปรอบห้อง เขากลับหยิบซองบุหรี่ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะสเปนเซอร์ขึ้นมาคีบใส่ในมือ ก่อนจะหยิบไฟแช็กออกมา เขาจุดบุหรี่ที่คีบเอาไว้ ก่อนที่จะเริ่มสูบมัน...
                                    'ไม่ยักเชื่อว่าคุณสูบบุหรี่นะ..'
                                    คำพูดนั้นดังขึ้นมาก่อนที่เขาจะเอาบุหรี่ที่คีบอยู่มาสูบ เขาเอามันลง ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงานของสเปนเซอร์ซึ่งมีกระดาซและแผนที่วางอยู่เต็ม เขาก้มลงดูแผนที่ที่แสดงค่ายของนาซี ก่อนจะวางบุหรี่ในมือลงบนแผนที่นั่น ไฟที่ปลายบุหรี่ค่อยๆไหม้แผนที่ทีละน้อย ก่อนจะลามไปที่สิ่งของที่ตั้งอยู่บนโต๊ะของสเปนเซอร์ทั้งหมด
                                    "ครั้งนี้ผมยงให้อภัยคุณได้แอดเลอร์...แต่ครั้งหลัง ผมคงต้องใช้ปืนแล้วละ.."
                                    ....
                                    ..
                                    .
                                    สวบ..สวบ..
                                    ฉันเดินเข้าไปหลบหลังต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ใกล้มมากที่สุด พร้อมกับหยิบปืนพก Tokarev TT-33 ขึ้นมาเตรียมป้องกันตัว ปืนกระบอกนี้เอมิลล์เอาให้ฉันหลังจากได้ยศร้อยโทมา ตอนแรกก็ไม่อยากได้หรอกนะ แต่พอปืนพกกระบอกเก่าพังเท่านั้นละ ฉันต้องรับมันมาโดยไม่ปฏิเสธเหมือนครั้งก่อน เหอะ..เกลียดตัวเองชะมัด
                                     "หานาซีคนนั้นให้เจอ!! ก่อนจะมืดเร็วๆเข้า!!"
                                     เสียงของทหารคนหนึ่งดังขึ้นมาใกล้มากขึ้น ฉันชะโงกหน้าออกไปดู ทหารอังกฤษคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ๆฉันหลบอยู่ใกล้มากขึ้น ในมือของเขาถือปืนลูกซองแฝดเอาไว้แน่น ถ้ามันสติแตกทำงานนอกเหนือคำสั่ง มันอาจยิงฉันแย่ๆถ้ามันเจอฉันเข้า ตอนนี้ต้องเงียบเอาไว้ก่อน..
                                    แกรบๆ..
                                    เสียงประหลาดนั้นดังขึ้นใกล้ๆฉัน ฉันหันไปดูทันที ช...ชิบแล้วไง! งูพิษ!! ให้ตายสิ ทำไมฉันซวยอย่างนี้เนี่ย! 
                                    กรอบ..แกรบ..
                                    มันเลื้อยเข้าใกล้ฉันมากเรื่อยๆ ฉันใจเต้นเร็วขึ้นมาก ทหารคนนั้นก็ยังเดินอยู่ที่เดิม คราวนี้ฉันต้องนิ่งและเงียบให้มากขึ้นอีก ถ้าไม่อยากโดนยิงหรือโดยงูกัดตาย
                                    สวบ..สวบ..
                                     "เสียงอะไรวะ"
                                     ทหารคนนั้นเดินเข้าใกล้ฉันมากขึ้นกว่าเดิมอีก เห็นทีฉันต้องทำอะไรซักอยากแล้วละ..ว่าแต่ทำไงละ?
                                     สายตาของฉันไปสะดุดกับก้อนหินก้อนหนึ่งที่วางอยู่ตรงพุ่มไม้ ฉันค่อยๆเลื่อนมือไปจับมันก่อนจะหยิบมา งูตัวนั้นยังคงเลื้อยไปรอบตัวฉัน เมื่อมันเข้าใกล้ฉันมากขึ้น ฉันรีบเอาก้อนหินทุบมันทันที
                                    ตุบ!
                                    ควับ!!
                                    "เฮ้ย! มาทางนี้หน่อย!! มีเสียงแปลกๆออกมาจากต้นไม้นั่น!!"
                                    "ไหนๆ"
                                    สวบๆ..
                                    "บ..บ้าเอ้ย..หูดีไปแล้ว.."ฉันพึมพำ ก่อนจะปืนขึ้นมาเตรียมยิง 
                                    "เสียงผู้หญิง!! ทางนี้!!"
                                    เสียงวิ่งเหยียบใบไม้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเริ่มตัดสินมจที่จะยิงพวกนั้นทิ้งหรือวิ่งหนีดี แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน..โอกาศตายก็ยังไม่ลดลงเลยซักนิด!! เอาไงดีเนี่ย!?
                                   "ออกมาซะ! เธอยังเป็นคนอังกฤษอยู่รึเปล่า!?"ใครคนหนึ่งตะโกน
                                  ฟึ่บ...
                                  ฉันตัดสินใจยืนขึ้น แต่ที่ฉันยืนเนี่ยไม่ได้หมายความว่าจะมอบตัวให้พวกมันหรอกนะ ฉันจะวิ่งต่างหาก!!
                                  เอาละเตรียมตัว ...
                                  สวบๆๆๆๆๆๆๆ..!!
                                  ฉันรีบวิ่งออกมาทันที แต่หลังจากที่ฉันวิ่งออกมา พวกนั้นก็ลั่นไกปืนยิงไล่หลังฉันมาทันที ฉันไม่ได้วางแผนที่จะตายวันนี้หรอก สงครามยังไม่จบ!!
                                  ...!
                                  "โอ๊ย!"
                                          ฉันก้มลงดูที่ขาตัวเอง เลือดไหลออกมาหยดเป็นทาง นี่ฉันโดนยิงเหรอเนี่ย! ให้ตายสิ!! ตั้งสติๆ.. ฉันพยุงตัวเองให้วิ่งถึงแม้ว่าจะเจ็บมากแค่ไหน พวกนั้นก็วิ่งตามหลังฉันมาเหมือนกัน! ฉันต้องหาที่หลบเดี๋ยวนี้เลย!!
                                         และแล้วสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับบ้านไม้เก่าๆหลังหนึ่ง เยี่ยมเลย!อย่างน้อยพระเจ้าก็ยังเข้าข้างฉันอยู่!! ขอบคุณพระเจ้า!
                                   ตึกๆๆ!
                                   ฉันรีบวิ่งขึ้นบรรไดทันทีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปใน พวกนั้นหาฉันไม่เจอแล้วล่ะ โอ้..ขอบคุณพระเจ้า! แต่ฉันเจ็บขาชะมัด ฉันก้มลงดูขาที่เต็มไปด้วยเลือด ก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นเดินไปในครัว เผื่อบางทีอาจจะมีผ้าพันแผลให้ฉันบ้างซักหน่อย
    แต่ยังไปไม่ถึงประตูเลย ฉันก็ล้มลงซะก่อน                                 ตุบ...
                                   ...
                                   ..
                                   .....
                            ------------
                            'คุณต้องการอะไรจากฉันคาร์ล!!?'
                            'มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรจากผมต่างหาก!!'


                            ......................

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×