ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fanfiction | Black Butler ] BLOODY ROSES (End)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 08 : คุณหนูผู้นั้นฝันร้าย ความจริง เชื้อเชิญ [ 110 %]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.3K
      863
      1 มิ.ย. 61


     Chapter 08 

    Cette dame cauchemar, fait, inviter .








    " คำสั่งขององค์ราชินีถือเป็นที่สุด
    สุนัขรับใช้อย่างเราน่ะ.....
    มีหน้าที่รับคำสั่งเพียงเท่านั้น "



                      ชีวิตของสุนัขรับใช้เช่นเขาไม่เคยสงบสุขเลยซักวัน   มีเจ้าบ้ามารบกวนเวลาของเขาตั้งแต่เช้า  เจ้าคนที่บอกตัวเองว่าเป็นเจ้าชายน่ะ  ทั้งๆที่ตารางของเรามันแน่นแท้ๆ  ซํ้ายังน่าเบื่อซะจนอยากจะรีบทำๆให้มันจบๆไปซะ   ชิเอลกำลังยกยิ้มดั่งผู้ชนะให้กับโซมา ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่รู้กติกาฟันดาบ

                      เท่ากับเขาเล่นสกปรกได้  ถือว่าเอาคืนที่นายบังอาจรบกวนแล้วถือดีแตะต้องพี่สาวของฉัน  อย่าถือโทษโกรธกันล่ะ

                      " ถ้านายไม่ว่างพาฉันไปเที่ยวข้างนอก ให้เซียพาไปก็ได้ "

                      เพราะนายยุ่งกับฉันและพี่เซียมากเกินไปและนายตบปากรับคำท้าเอาเอง

                      " เอ๋~ งั้นถ้าฉันชนะนายได้ เซียต้องอภิเษกกับฉันนะ "

                      แล้วไอคำท้านั่นมันมีเดิมพันน่ะสิ ใครเขาจะยอมแพ้กันล่ะ !   คำพูดของโซมาเวียนว่ายอยู่ในความคิดของชิเอล  มาเกาะแกะเขาเอย  ดึงพี่เซียมาท้าเดิมพันด้วยอีก ทำตัวได้ใจในบ้านคนอื่นเขา ถ้าชนะซะอย่างจะได้ไล่ๆให้หมอนี่ออกไปจากที่นี่ซะ

                      ชิเอลกวัดแกว่งดาบแทงตามจุดจ่างๆบนตัวของโซมา  ผู้เล่นฝ่ายนั้นไม่รู้กติกาเขาก็รุกได้เต็มที่   จังหวะที่ชิเอลจ้วงแทงดาบใส่คู่ต่อสู้อีกครั้ง อัคนีก็เข้ามาสอดแถมยังจี้จุดให้เขายอมปล่อยมือซะอีก

                      " อึก ! "    ชิเอลทรุดลงกับพื้นกุมข้อมือที่เจ็บแปล๊บ

                      " ทะ....ท่านชิเอล ข้าต้องขออภัยด้วย  พอข้าเห็นองค์ชายกำลังเสียท่า ร่างกายมันไปเอง "    ฝ่ายนั้นพอรู้สึกตัวก็ขอโทษขอโพยยกใหญ่  แต่คนเป็นเจ้านายนี่สิกลับหัวเราะร่วนซะงั้น

                      " ฮ่าๆๆๆๆ อัคนีเจ้าทำได้ดีมาก ข้าขอชื่นชมจริงๆ  อัคนีน่ะเป็นคนสนิทของข้าถือเป็นตัวแทนได้ซึ่งนั่นหมายถึงข้าชนะแล้วไงล่ะ "

                     " เออะ อะไรกันน่ะ ! "    พอฟังที่ฝ่ายนั้นพูดแล้วรู้สึกเจ็บใจชะมัด   

                     " แหม๊ แหม๊ ดูเหมือนนายน้อยของนายจะขี้โกงเต็มเปาเลยนะ "    ราอูลหยิบดาบที่ตกพื้นมางอเล่น    " หนุ่มน้อยพ่อบ้าน "    งอดาบแล้วดีดดาบเล่มนั้นส่งให้เซบาสเตียน

                     " จริงๆเล๊ย เล่นงานคู่ต่อสู้ที่ไม่รู้กติกามันน่าอายนะขอรับ "    ปีศาจหนุ่มรับดาบได้ง่ายดายและหันมาพูดลอยๆใส่ชิเอล

                     " ในเมื่อนายท่านเจ็บกลางคัน พ่อบ้านอย่างกระผมคงต้องสานต่อให้จบแล้วล่ะขอรับ " 

                     " นายเข้าข้างฝั่งนู้นรึยังไง "    ชิเอลค้อนใส่เซบาสเตียน

                     " เอาน่าชิเอลเป็นแบบนี้จะได้จบๆไงล่ะ "

                     " พี่ก็เห็นด้วยงั้นเร้อะ! "    แม้แต่พี่เซียก็เห็นดีเห็นงามด้วย

                     สรุปการดวลดาบในครั้งนี้ จำต้องส่งพ่อบ้านของสองฝ่ายมาแทน  แม้แต่เธอที่ยืนเงียบอยู่นานยังนิ่งอึ้งให้กับพวกเขา  ขนาดดูการแข่งดาบโอลิมปิกยังไม่รู้สึกสุดยอดขนาดนี้เลย   สองคนนั้นไม่ว่าความเร็ว ความคล่องแคล่ว ประสาทสัมผัสต่างสูสีกัน

                      คุณอัคนีนี่เหนือคนจริงๆถึงขนาดสู้กับซาตานได้

                   
                      เคร้ง !


                      เสียงดาบทั้งสองตวัดไปมา ปลายดาบผสานเข้าหากันจนงอโค้ง เพียงชั่วพริบตาดาบทั้งสองก็หักจนกระเด็นกระดอนไปคนละทิศทาง

                      " น่าเสียดายจริงที่ดาบดันหักซะก่อน "    เซบาสเตียนหยิบเศษดาบที่หักขึ้นมาและราอูลก็ประกาศผลการท้าชิง

                      " ผลการแข่งคือเสมอกัน "

                     พอได้ยินผลแล้วรู้สึกดีใจที่เสมอ อย่างน้อยๆก็ไม่มีใครได้หรือเสียอะไรทั้งนั้น

                     " คนสนิทของชิเอลเนี่ยสุดยอดไปเลย "    โซมาเดินเข้ามาหาซีอาน่าแล้วกระโดดกอดคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม    " น่าเสียดายที่ผลเสมอกัน ถ้าชนะล่ะก็ฉันคงได้เธอไปแล้ว "

                     " แหะ แหะ เซบาสเตียนลองได้รับคำสั่งแล้วไม่มีวันแพ้หรอกค่ะ "    เธอส่งยิ้มเจื่อนๆให้ชายหนุ่ม

                     แอบลอบมองใบหน้าระรื่นของเขา ไม่อยากเชื่อหรอกว่าคนร่าเริงอย่างโซมากับคนที่ซื่อตรงอย่างคุณอัคนีจะรวมอยู่ในรายชื่อผู้ต้องสงสัยด้วย

                     ดูแล้วก็เป็นคนดีแท้ๆ

                     " โซมาไหนๆผลก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว นายสนใจเล่นหมากรุกกับฉันมั๊ย "    ดึงเขามาเล่นด้วยจะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานของชิเอล

                     " เอ๋ ! จริงเหรอ "    

                     " อื้ม "

                     " ทำไมเจ้าถึงได้น่ารักขนาดนี้ ! "    ชายหนุ่มกอดเธอแน่นขึ้นแล้วคลอเคลียไปมาดุจลูกแมว    " ไม่สนเป็นชายาข้าจริงๆเหรอ ข้าให้เจ้าทุกอย่างเลยนะ "

                     ไม่มีทางย่ะ !!!










    ตกกลางคืน


                     เซบาสเตียนเข้ามารายงานการเคลื่อนไหวของอัคนี ตอนนี้พวกเรากำลังลอบเข้าไปที่คฤหาสน์ของฮาลูเวส  ที่ฉากหน้าเปิดร้านคอฟฟี่ เฮาส์และนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ  แต่ฉากหลังก็เป็นพวกทำผิดกฎหมายที่ต้องกำจัดทิ้งเหมือนเดิม

                      " ถ้าเรามีหัตถ์ขวาของเทพเจ้าอยู่ละก็ยังไงเราก็ได้ตรารับรองของหลวงมาอย่างแน่นอน"

                     " ตรารับรองของหลวง? อย่างนี้เอง "    ชิเอลกับพวกเราที่แอบดูอยู่ก็เริ่มปะติดปะต่อทุกอย่างได้  เป้าหมายคือตรารับรองขององค์ราชินี ถ้ามีสิ่งนั้นล่ะก็จะสามารถใช้ราชวงศ์เป็นที่เชิดหน้าชูตาได้

                     ใช้วิธีสกปรกๆมากมายสุดท้ายก็เพื่อโหยหาอำนาจในยศฐาบรรดาศักดิ์

                     " หากทำตามสัญญา มีนาก็....."


                     ปึง !


                     " มีนางั้นเหรอ !!! "    พอโซมาได้ยินชื่อคนที่ตนตามหา เกิดขาดสติไม่คิดหน้าคิดหลัง ทะเล่อทะล่าเข้าไปในนั้น

                     " เจ้าบ้านั่น "    ชิเอลเผลอจะตามไปแต่เซบาสเตียนห้ามไว้

                     " นายน้อย จะให้พวกนั้นเห็นนายน้อยอยู่ที่นี่ไม่ได้นะขอรับ "



                     พอโซมาเข้าไปก็เกิดการถกเถียงกัน   จนอัคนีตัดสินใจไม่ถูกหวังจะเงื้อมือทำร้ายนายของตนจังหวะที่อัคนีกำลังเงื้อมือตบโซมา เซบาสเตียนกระโดดเข้าไปห้ามได้ทัน  ก็นะ....ในเมื่อไม่อยากให้ฝ่ายนั้นเห็นหน้า เธอเลยเอาหัวกวางที่ติดผนังใส่ให้เขาไป ไม่คิดว่าออกมาจะน่ารักจนคนเห็นถึงกับท้องแข็งได้ 

                     " อุ๊บ! คิก คิก คิก "    ชิเอลเองเห็นแล้วก็กลั้นขำแทบไม่ได้เลยเชียว

                     " กระผมเป็นแค่กวางพ่อบ้านขอรับ "

                     โอ๊ยยยย!!! ฮ่าๆๆๆๆ แถมยังรับมุขอีกด้วยนะเซบาสเตียน   ไอคนที่แอบอยู่ข้างนอกจะขำตายแล้ว

           
                      ตึง ! โครม!! เพล้งงง!!!


                      สถานการณ์เริ่มวุ่นวายมากขึ้น อัคนีเกิดคลั่งไล่ทำลายข้าวของจนเละ แล้วโจมตีใส่เซบาสเตียนที่อุ้มโซมาพาดบ่า   ส่วนทางนี้ราอูลก็อุ้มชิเอลหนีแต่ก่อนจะไปชิเอลเรียกให้ซีอาน่าไปใกล้ๆแล้วบอกบางสิ่งกับเธอ

                     " พี่เซีย "

                     " อื้ม พี่เข้าใจแล้ว "

                     จากนั้นราอูลพาชิเอลหนีไป ซึ่งเด็กสาววิ่งตามไปด้วย    " โอ๊ย ! "    ขาของเธอสะดุดอากาศหรือไงไม่ทราบ ล้มหน้าคะมำกับพื้นจนข้อเท้าแพลง

                      " อัคนีจับตัวผู้หญิงคนนั้นไว้ "    สุดท้ายซีอาน่าก็ถูกจับโดยอัคนี

                      " ปล่อยฉันนะอัคนี ! "    เธอดิ้นพล่านบนบ่าของชายหนุ่ม ถูกเขาเหวี่ยงลงบนโซฟาและเจ้าฮาลูเวสก็เข้ามาถามคำถามเธอไม่หยุด

                      " เธอเป็นใคร! มีจุดประสงค์อะไรที่นี่  ถ้าเธอไม่บอกโดนดีแน่ "

                      เฮ้อ......คำขู่ของหมอนี่ไม่น่ากลัวซักนิด

                      " เรื่องไรจะบอกหนูโสโครกอย่างนายล่ะ "

                      " หน็อยนังนี่อวดดีนักนะ "    ฮาลูเวสเงื้อมือขึ้นหมายจะตบหน้าเธอ


                     หมับ !


                     แต่อัคนีรั้งข้อมือผู้ชายคนนั้นไว้    " ผมว่าคุณไม่ควรลงมือกับผู้หญิงนะครับ "

                     " ชิ ! งั้นแกเอาไปขัง เฝ้าเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา "

                     อัคนียอมรับคำสั่งก้มหัวให้กับหนูโสโครกตัวนั้น  ดูที่ผ่านมาแล้วเขาคงมีเหตุผลของเขาสินะถึงได้ยอมทำตามหมอนั่นขนาดนี้   ซีอาน่าถูกอัคนีพามาที่ห้องนอนห้องหนึ่งในคฤหาสน์ฮาลูเวส

                     " ทำไมคุณถึงยอมให้จับง่ายๆล่ะครับ ท่านเซีย "    ชายหนุ่มเข้ามาดูข้อเท้าให้เธอแล้วถามคำถามที่ค้างคาในใจ

                     เขาดูออกแฮะ

                    ที่ปล่อยให้จับเพราะเธอจงใจวิ่งสะดุดอากาศให้จับไง  อีกอย่างชิเอลสั่งให้เธอโดนจับเพื่อหาข้อมูลและหลักฐานมัดตัวเจ้าฮาลูเวส  ไม่งั้นไม่ได้แอ้มเธอกหรอก   ใช่แล้วที่ชิเอลกระซิบบอกเธอก็คือคำสั่งให้หาข้อมูลด้วยวิธีใดก็ได้อย่างเช่นวิธีที่เธอทำอยู่นี่ไง

                     " งานน่ะ "

                     " ผมก็ว่าอยู่ คนที่เตะผู้ชายปลิวได้อย่างท่านคงไม่ให้จับได้ง่ายขนาดนี้ "

                     " ใครเตะปลิวกันหา!  เฮ้อ.....ช่างเหอะแล้วนายล่ะมีเหตุผลอะไรที่ต้องรับใช้เจ้านั่น "

                     " มีนาน่ะครับ "

                     เขาเริ่มเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง เหตุเพราะทำเพื่อโซมานี่เอง  ก็เข้าใจหรอกนะว่าไม่อยากให้โซมาเสียใจ แต่เป็นเธอจะเลือกบอกตรงๆดีกว่าทำเรื่องสกปรกให้เปรอะมือตัวเองเปล่าๆ

                     " นายใช้วิธีไม่ถูกเลยนะ ถ้าเป็นฉันล่ะก็เลือกบอกตรงๆไปซะยังดีกว่า "

                     " ไม่ได้หรอกครับ ขืนบอกองค์ชายต้องเสียใจมากแน่ๆ "

                     " นายทำให้เขาเสียใจไปแล้วล่ะ "    เธอจ้องหน้าอัคนีเขม็ง    " ที่นายทำมันน่าเสียใจกว่าเยอะ อีกอย่างเขาโตแล้วควรปล่อยให้เผชิญหน้ากับความจริงซะบ้าง ไม่ใช่ตามใจจนเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้ ฉันถึงได้บอกไงว่านายใช้วิธีผิด "

                      " ทะ.....ท่านเซีย "

                      " เอาเหอะ เรื่องของพวกนาย พวกนายก็ไปจัดการกันเอง ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วอยากจะพัก "    เธอลุกอแกจากเตียงแกะโบว์สยายผมออก    " จริงสิอัคนี "

                      " ครับ "

                      " คืนนี้นายอยู่เป็นเพื่อนฉันที่ห้องนี้ได้มั๊ย "    ถึงโดนขังในที่ดีๆแต่ยังไงก็เป็นพื้นที่ของศัตรูเลยวางใจอะไรไม่ได้ ให้เขาเฝ้าเธอดีที่สุด

                      " ได้ครับท่านเซีย "

                      " งั้นนายออกไปก่อน "    เธออยากอาบนํ้าเปลี่ยนชุดเข้านอน

                      " ไม่ใช่ว่าผมต้องอยู่กับท่านตั้งแต่ตอนนี้เหรอครับ ? "

                      " หรือนายอยากอาบนํ้าให้ฉันล่ะ ? "


                      แปร๊ดดดด


                      ฟังเธอพูดแบบนั้นแล้ว ชายหนุ่มหน้าขึ้นสี รีบออกไปนอกห้องทันที ภาพเธอในชุดนอนเนื้อบางยังติดตาเขาไม่จางหายแถมยังโดนเลดี้พูดแบบนี้ใส่อีก

                      " ขออภัยครับท่านเซีย !!! "










                      ซีอาน่าเข้าสู่การหลับใหล ข้างกายเด็กสาวมีชายหนุ่มเฝ้าอยู่ด้วยไม่ยอมห่าง   เธอกำลังก้าวสู่แดนฝัน ฝันนั้นคือห้วงแห่งความมืดที่เธอลืมไปแสนนาน

                      " เซีย ฟังแม่นะลูก "    แม่ของเธอเลดี้เซเรซ่า แฟนธอมไฮฟ์ กำลังโอบกอดเธอในวัยเยาว์แน่น

                      ซีอาน่าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ของเธอต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้น  แววตาของท่านว่างเปล่า อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด

                      " ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกต้องเข้มแข็งไว้นะ ห้ามลังเลเด็ดขาดเพราะความลังเลจะนำลูกไปหาความตาย "

                      " แม่คะแม่พูดอะไรหนูไม่เข้าใจ แล้วนั่นแม่ยืนบนขอบระเบียงทำไมคะ ? "    ดวงตาสีแซฟไฟร์กลมโตมองร่างของแม่กำลังยืนอยู่บนขอบระเบียง

                      " เซีย.....ปืนกระบอกนี้คือปืนพระราชทาน มันมีเครื่องหมายของราชวงศ์และมันเป็นเครื่องหมายสำหรับ สุนัขรับใช้ "    แม่ของเธอล้วงปืนกระบอกสีเงินเงางามออกมาจากกระเป๋าเสื้อนอก

                      " แม่คะ!! แม่คิดจะทำอะไร "    ร่างเล็กของเธอวิ่งเข้าหาผู้เป็นแม่

                      " แม่ทำเพื่อปกป้องลูกนะ สิ่งที่แม่ทำมันเป็นบทลงโทษสำหรับสุนัขที่คิดหันหลังให้เจ้าของ "


                      กึก เปรี้ยงงงง!!


                      ภาพสุดท้ายคือรอยยิ้มงดงามแต่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดของแม่  เสียงไกปืนเหนี่ยวเข้าขมับ ร่างของแม่ร่วงหล่นจากระเบียง  เลือดที่สาดกระเซ็นมาเปรอะทั่วตัวเธอ มือเล็กเกาะอยู่ขอบระเบียง มือที่ไม่สามารถคว้าคนเป็นที่รักได้

                      ดวงตาที่เคยมีแต่ความสดใส บัดนี้จ้องมองร่างของแม่ด้วยความว่างเปล่า  ร่างกายของแม่ที่บิดเบี้ยวไม่เหลือเคล้าเดิม  สวนกุหลาบสีขาวเบื้องล่างถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด  ปืนสีเงินแวววาวราวกับเป็นหอกทิ่มแทง  สัญลักษณ์บนปืนนั้นที่เป็นดั่งตราบาปของตระกูล

                      ตราบาปที่เรียกว่าสุนัขรับใช้องค์ราชินี

                      มือเล็กอันสั่นเทาพยายามคว้าหาร่างของแม่ที่ไร้วิญญาณแต่สิ่งที่คว้าไว้นั้นกลับได้เพียงอากาศ   ความจริงที่เธอได้รับรู้คือแม่คิดจะหันหลังให้องค์ราชินี

                       ส่วนบทลงสำหรับสุนัขที่ผิดในคำมั่นสัญญาคือ การหายไปทั้งตระกูลแต่ว่าแม่ยื่นข้อเสนอว่าจะขอตายเพียงคนเดียวเพราะลูกๆไม่ได้รับรู้อะไรด้วยสุดท้ายแล้วไง?

                      ชีวิตของสุนัขต้องเป็นแบบนี้เหรอ? หากเราลังเลเราต้องตายง่ายๆแค่นั้น เพราะแม่ลังเลถึงได้ตาย? โลกนี้มันไม่มีอะไรยุติธรรมเอาซะเลยเพราะงานที่ทำ สิ่งที่เราแบกรับมันคือความดำมืดอย่างแท้จริง หากถลำเข้ามาแล้วจะไม่มีวันออกมาสู่แสงสว่างได้

                      " ใช่แล้วล่ะ....."    เสียงของแม่แว่วเข้าหู เธอเหลือบตามองก็พบร่างบิดเบี้ยวชุ่มเลือดของแม่    " ถ้าลังเลลูกจะตาย "

                      " กรี๊ดดดดดดดด !!! "

                      " ท่านเซีย ! "    เธอช็อกสุดขีดหวีร้องลั่นออกมาและภาพฝันนั้นสิ้นสุดลง  ตรงหน้าเธอ เธอพบกับอัคนีที่เข้ามาดูเธอ

                      " แฮ่กๆๆๆๆ "    เธอกวาดสายตามองโดยรอบ เหงื่อกายผุดขึ้นเต็มตัวไปหมด ร่างกายที่สั่นไปทั้งร่าง สติที่ยังมีภาพเหล่านั้นวนเวียนซํ้าไปมา

                      ฝันร้ายที่เธออุตส่าห์ขุดมันลงไปจนลืมสิ้นมันกลับมาตอกยํ้าอีกครั้ง

                      " ท่านเซีย ฝันร้ายหรือครับ "    เขาหลับอยู่บนโซฟาในห้องแต่ได้ยินเสียงเธอกรี๊ดจึงรีบวิ่งมาดู  พบเธอนอนผวา ใบหน้าซีดเผือด มีแต่นํ้าตาเจ่อนอง    " ใจเย็นๆนะครับ ไม่มีอะไรแล้วผมอยู่ตรงนี้ "    เขาทำได้แค่ลูบหัวปลอมให้เธอใจเย็นลง

                      อะไรที่ทำให้คุณร้องไห้จนทำลายรอยยิ้มของคุณกัน?

                   
                      หมับ !


                      อัคนีแทบหยุดหายใจ เมื่อเด็กสาวดึงเขาเข้าไปกอด    " อยู่ข้างฉันก่อนนะ ฮึก "    แม้ไม่ได้ยินเสียงรํ่าไห้แต่ไหล่เล็กๆที่สั่นเทานี้มันทำให้เขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังร้องไห้   เขาค่อยๆโอบกอดเธอด้วยร่างกายนี้ ทำได้เพียงกอดปลอบ ยื่นไหล่ให้เธอพักพิง

                      จงอย่าลังเลมิเช่นนั้นมันจักชักนำคุณไปสู่ความตายอันหอมหวาน

                      สิ่งที่ซีอาน่าได้รับในคืนนี้คือความทรงจำที่เธอฝังอยู่ในสุดลึกของจิตใจ  จงใจลืมสิ้นทุกสิ่ง บอกตัวเองซํ้าๆว่าตัวเธอไม่ได้เป็นสุนัขรับใช้  แต่หนีอย่างไรก็ไม่พ้น ความจริงที่ว่าเธอคือผู้นำรุ่นที่ 11 แห่งตระกูลแฟนธอมไฮฟ์ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ขององค์ราชินี

                      หลายครั้งที่เธออ่อนแอจนต้องถูกจับตัวเป็นเหยื่อยล่อในห่วงโซ่อาหารที่พ่อเธอใช้ล่อพวกหนูสกปรก  คนพันนั้นทำได้ทุกอย่างไม่สนวิธีการขอแค่บรรลุความประสงค์ขององค์ราชินีเท่านั้น  การตายของแม่เขายังไม่แยแสด้วยซํ้า

                      " เพราะอ่อนแอถึงได้ตาย "    คำพูดพวกนั้นมันกลับมาตราตรึงเธออีกครั้ง  คนพันนั้นที่ไม่สนใจการตายของภรรยา ใช้ลูกสาวเป็นเหยื่อล่อหนูโสโครกที่ราวกับฝูงหมาป่า  พรํ่าสอนเธอว่าจงเป็นดอกไม้งามที่พร้อมทำลายทุกสิ่งซะ

                      ดอกไม้งามที่มีหนามทิ่มแทง    กุหลาบเปื้อนเลือดที่อยู่เหนือทุกสิ่ง

                      เธอเลิกอ่อนแอซักทีเซียกลับมาเป็นเธอได้แล้ว เลิกลังเลเลิกอ่อนแอ เปลี่ยนฝันร้ายนั้นให้เป็นแรงขับเคลื่อนของเธอสิ ในฐานะที่เป็นคนตระกูลแฟนธอมไฮฟ์ จงกวัดแกว่งดาบนั้นเพื่ออวค์ราชินีซะ !   ถ้าเธอลังเล อ่อนแอเธอจะตาย!

                      เพราะฉะนั้นเธอต้องทำภารกิจที่มาสเตอร์สั่งให้สำเร็จลุล่วง

                      " อัคนี....."    เธอขานเรียกชื่อชายหนุ่มที่เธอกอดอยู่

                      " นายรวบรวมข้อมูลและหลักฐานของฮาลูเวสให้ฉันได้มั๊ย ? "    ซบลงบนไหล่หนากระซิบข้างหูเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน

                      ฝันร้ายมันกินพลังงานเราจริงๆ

                      " ระ.....เรื่องนั้นผมคงทำไม่ได้ "

                      " ถือว่าฉันขอร้อง "    เธอโอบคอเขาแน่น    " หามา.....แล้วพาฉันกลับเทาว์เฮาส์ของตระกูลแฟนธอม "    เธอผละออกแล้วจับใบหน้า จ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีอำพันของเขา

                      อัคนีจ้องดวงตานั้นด้วยความตะลึง  มันคือแววตามุ่งมั่นของคนที่ตัดสินใจไปแล้ว  มันสุกสกาวและเรืองรองเช่นเดียวกับคราแรกที่เขาได้พบองค์ชายพระเจ้าของเขา   เขาคุกเข่าลงกับพื้นหัตถ์ขวาของเทพพระเจ้าทาบทับลงบนอกซ้าย น้อมรับคำสั่งด้วยความเต็มใจ

                      " โจอาเกีย ! "










                      อัคนีใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็รวบรวมหลักฐานได้สำเร็จ เหลือรกสิ่งคือพาเด็กสาวกลับบ้านตามคำขอ    " ข้าขออภัยนะครับท่านเซีย "    เขาช้อนร่างบางขึ้น เปิดหน้าต่างออกแล้วกระโดดพาเธอออกจากคฤหาสน์ของหนูโสมมแห่งนี้  ระหว่างการเดินทางเขาก็ขออะไรจากเธอซักอย่าง

                      " ท่านเซีย ข้าอยากขอให้ท่านปิดเรื่องของข้ากับองค์ชายจะได้ไหมครับ "

                      " สุดท้ายนายก็ไม่คิดจะบอกเขาสินะ.....ตกลงฉันไม่บอกโซมาแน่นอน "

                      " ขอบคุณท่านมากครับ "

                      " กลับไปที่นั่นก็รักษาตัวด้วยนะอัค.....ฟี้~ "    พูดไม่ทันจบซีอาน่าก็หลับคาอกของชายหนุ่ม

                      " จริงๆเลย  ท่านจะเป็นคนดีไปถึงไหนกันครับ "




                      ในที่สุดเขาก็พาซีอาน่ามาส่งที่เทาว์เฮาส์ของตระกูลแฟนธอมไฮฟ์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ พ่อบ้านของที่นี่ออกมายืนรออยู่ประตูด้านหน้าราวกับรู้ว่าเขาจะมา

                      " คุณเซบาสเตียน "

                      " กำลังเลยขอรับคุณอัคนี "

                      คุณเซบาสเตียนส่งยิ้มให้แล้วรับร่างของท่านเซียไป    " ส่วนนี่คือหลักฐานที่ผมรวบรวมมา "    หยิบยื่นกระดาษที่เป็นหลักฐานให้คนตรงหน้า

                      " คุณช่วยกระผมได้เยอะเลยนะขอรับ แล้วก็ขากลับระวังตัวด้วยนะขอรับ "    

                      " ครับ คุณเซบาสเตียน "    แม้แปลกใจที่คนตรงหน้าไม่ห้ามเขาก็ตาม เขายังคงตัดสินใจทำตามสัญญาของฮาลูเวสเช่นเดิม   ก่อนกลับไปที่นั่นเขาเดินไปลูบหัวเด็กสาวทีนึง โน้มหน้าบอกฝันดีให้กับเธอ    " ฝันดีนะครับนายหญิงของข้า "    นั่นทำให้เซบาสเตียนแปลกใจมาก

                      " แหม.....ต่อหน้าผมคุณกล้ามากนะขอรับ "

                      " ขออภัย แต่ผมอดไม่ได้แล้วน่ะครับ "

                      " ไม่น่าเชื่อเลยนะขอรับว่าคุณหนูของกระผมจะเสน่ห์แรงขนาดนี้ "

                      " หรือคุณไม่สนใจท่านเซียหรือครับ "

                      " กระผมเป็นพ่อบ้าปีศาจไม่มีทางสนใจเจ้านายตัวเองหรอกนะขอรับ "

                      สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงดวงวิญญาณเท่านั้น

                      " ถ้าเช่นนั้นผมขอตัว แล้วก็ผมฝากองค์ชายด้วยนะครับ "    พูดจบอัคนีก็กระโดดหายไป เซบาสเตียนยืนส่งยิ้มให้กับแขกที่เพิ่งจากไป

                      " รีบๆไสหัวไปเถอะขอรับ "    ทิ้งท้ายคำพูดให้มันลอยตามสายลม










                       เช้าวันใหม่การแข่งขันทำแกงกะหรี่เริ่มขึ้น เพิ่งรู้ว่าระหว่างที่เธอไม่อยู่พวกโซมากินแกงกะหรี่กันแทบเอียนเลยทีเดียว  ส่วนของที่เหลือมหาศาลพวกฟินีต้องรับเคราะห์เก็บกวาดพุงแทบแตก

                      น่าสงสารแต่รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ร่วมชิมมหกรรมแกงกะหรี่ของเซบาสเตียน

                      " ต่อไปขอแนะนำคณะกรรมการการตัดสินในครั้งนี้ "    พิธีการป่าวประกาศชื่อคณะกรรมการทั้งสามท่าน

                      " ท่านแรก ! พ่อครัวหลวงผู้ไม่ปราณีในเรื่องรสชาติ เชฟฮายอาร์ม "

                      " ท่านที่สอง ผู้ทำหน้าที่เก็บภาษีในประเทศอินเดีย ท่านคาร์เตอร์ "

                      " และท่านสุดท้าย !! ท่านเอิร์ลโดวิด บุรุษผู้มีความรักอันยิ่งใหญ่ให้แก่ศิลปะและอาหาร "


                      ซู่ !  ซู่!!


                      ไอ้บ้านั่น !!

                      เจ้าบ้านั่น !!

                      ชิเอลและซีอาน่าต่างขนลุกยามที่เอิร์ลโดวิดปรากฎกายออกมา แค่เห็นหน้าก็ขนลุกขนพองสะท้านไปยันตับไตไส้พุงหมดแล้ว

                      " ไม่คิดว่าหมอนั่นจะรอดมาจากคดีนั้นได้ บรื๋อ~ แค่เห็นก็ขนลุกแล้ว "

                      " นั่นสิชิเอล พี่เองก็เหมือนกัน บรื๋ออ~ "




                      เวลาในการทำอาหารสิ้นสุดลง คราวนี้พ่อครัวแต่ละคนต้องนําแกงกะหรี่มาเสิร์ฟให้กรรมการได้ลิ้มลองตัดสิน   ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆต่างตกรอบจนมาถึงคิวของอัคนี

                      " ราชันย์กุ้งและแกงกะหรี่เจ็ดชนิดขอรับ "    อัคนีเปิดฝาครอบออก เผยให้เห็นแกงกะหรี่ด้านใน  กรรมการต่างตะลึงและพูดออกมาด้วยความประทับใจ

                      " โอ้ววว~ ช่างให้ความรู้สึกราวกับหญิงงามผู้สมบูรณ์แบบ เธอคนนั้นช่างส่องประกายและงดงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย  เธอคนนั้นผู้ช่วงชิงหัวใจของผมด้วยรอยยิ้ม แม่เทพธิดาผู้มาจากอีเดน !! "    แต่ไอคนที่บรรยายได้เว่อร์สุดๆก็เอิร์ลโดวิดนี่แหละ เล่นซะเธอขนหัวลุกเลย 

                      " บรึ๊ย! เกลียดหมอนั่นชะมัด "

                      " ต่อไปลำดับสุดท้าย ตัวแทนจากบริษัทแฟนธอม "

                      ถึงตาของเซบาสเตียนแล้ว เขาเปิดฝาครอบออกเผยให้เห็นก้อนขาวๆกลมๆอยู่ตรงการถาดเสิร์ฟ ทำกรรมการเอ๋อเลยทีเดียว  ฮ่าๆๆๆ นึกออกแล้วขนมปังแกงกะหรี่สินะ เซบาสเตียนนี่สุดยอดไปเลย

                      ปีศาจหนุ่มหยอดแป้งโดลงกระทะนํ้ามันที่ระอุได้ที่   ฉ่า   เสียงของนํ้ามันที่ไพเราะกำลังบรรเลงให้ขนมปังสุกจนกลายเป็นขนมปังสีคาราเมลอ่อนดูน่ารับประทาน 

                      หิวอ่ะ อยากกินบ้างจัง

                      กรรมการต่างตัดสินและอุทานลั่นด้วยความประทับใจ ความกรอบของขนมปังที่ไม่อมนํ้ามันเข้ากับแกงกะหรี่รสชาติเข้มข้นได้อย่างลงตัว

                      " นี่.....ทำให้ผมนึกถึงสาวน้อยที่พบเจอในงานเต้นรำครั้งนั้น ยามทิวาเธอเป็นแม่นกน้อยไร้เดียงสาแสนน่ารัก แต่ยามราตรีเธอกลับมีเสน่ห์ ลึบลับน่าค้นหา เธอช่วงชิวหัวใจของผมไปหมดสิ้น "

                      " บรื๊อออ หนาว "    ชิเอลกอดตัวเองไล่ความหนาวเหน็บที่ทำให้เขาขนลุกขนพอง

                      ตอนนี้พิธีกรเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ลิ้มลองแกงกะหรี่จากฝีมือผู้เข้าแข่งขัน เพื่อรอคำตัดสินจากกรรมการทั้งสามท่าน  ดูเหมือนกรรมการจะตัดสินใจลำบากน่าดู

                      " ผลคือบริษัทฮาลูเวสและบริษัทแฟนธอมเสมอกันครับ !! "    พิธีกรประกาศคำตัดสิน ผลที่ได้คือเสมอกัน


                      ฝึบ!

        
                      ถ้วยรางวัลบนมือของพิธีการหายไปพร้อมๆกับการปรากฎตัวของชายในชุดสูทสีขาวทั้งตัว  บนมือเขาถือแส้และถ้วยรางวัลเอาไว้

                      " เดี๋ยวก่อน "

                      " พระนางวิคตอ.....แอ่ค! "


                      ฮี่~ พลั่ก !


                      ชายคนนั้นพูดไม่ทันจบ มีม้าจากที่ไหนไม่รู้ควบเข้ามาเหยียบหัวผู้ชายคนนั้นจมดิน พอมองคนบนหลังม้าแล้วกลับพบหญิงชราท่าทางเหมือนฟังค์กี้  แต่ชิเอลพอเห็นเธอคนนั้นแล้วกลับรีบถลาเข้าไปหา ส่วนซีอาน่าที่เคยเห็นในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์ถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

                      " ฝะ.....ฝ่าบาท พระองค์เสด็จทำอะไรที่นี่พะยะค่ะ ! "

                      ทุกคนทั้งหอเรือนกระจกแก้วต่างตกใจสติแทบหลุด เมื่อรู้ว่าหญิงชราบนหลังม้านั้น แท้จริงแล้วคือสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรและเธอเพิ่งได้รู้ว่าชายชุดขาวที่โดนม้าเหยียบหัวนั่นเป็นขุนนางและเป็นพ่อบ้านขององค์ราชินี

                      " ฉันขอเลือก....บริษัทแฟนธอม พ่อบ้านเซบาสเตียน "     พระนางพระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะ แม้มีผู้คัดค้านพระนางทรงตรัสเหตุผลได้อย่างเฉียบคม

                      พระนางทรงตรัสว่าเหตุผลที่ให้บริษัทแฟนธอมชนะนั้นเพราะขนมปังแกงกะหรี่นั้นสามารถทานได้ทุกคนโดยที่เสื้อผ้าไม่เลอะ ทานได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์  คำตัดสินของนางผ่านพระบรมราชวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนแล้ว

                   









                      ตอนนี้ชิเอลกำลังเข้าไปคุยกับองค์ราชินี ส่วนโซมาได้ล่วงรู้ความจริงเกี่ยวกับมีนาและได้คืนดีกับอัคนีแล้ว  พอนึกถึงมีนาได้สงสัยเธอต้องบอกให้ราอูลกับรันเหมาจัดการเก็บกวาดพวกบริษัทฮาลูเวสเสียหน่อย ดูจากลักษณะแล้วพวกนั้นคงไม่เข็ดหลาบ

                      " จริงสิ สาวน้อยผู้นั้นน่ะ "

                      องค์ราชินีเดินเข้ามาจับมือเธอ แล้วส่งยิ้มให้ เธออยากจะกรี๊ดซะตรงนี้แต่ถ้าทำคงเป็นการเสียมารยาทเป็นแน่  แต่ยังไงเธอไม่อาจเก็บอาการตื่นเต้นได้อยู่ ดีใจเอ่อล้นที่ได้อยู่กับบุคคลสำคัญแห่วประวัติศาสตร์โลก

                      " จะเป็นอย่างไร หากเราขอเชิญชวนเจ้าไปร่วมงานเลี้ยงนํ้าชาด้วย เจ้าจะยินดีหรือไม่ "

                      ใครก็ได้ช่วยตบเธอที  เธอไม่ได้ฝันไปสินะเธอจะได้ร่วมจิบนํ้าชากับควีนวิคตอเรีย

                      " ยะ....ยินดีเพคะ  ขอบพระทัยพระองค์อย่างสูง "    เธอถอนสายบัวน้อมรับคำเชิญชวนของพระองค์


                      


                       การแข่งขันได้สิ้นสุดลงพร้อมกับรอยยิ้มจากทุกคน  คำเชิญชวนในครั้งนี้เป็นอีกหนทางเลือกของเธอที่บ่งบอกได้ว่า หากลังเลมีแต่ตาย

                      " ซะ.....โซมา !!? "    ขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆจู่ๆโซมาดึงเธอเข้าไปกอดแล้วร้องไห้ฟูมฟายเสียยกใหญ่

                      " ฮึกๆ ฮรือออ มีนาาาา ! " 

                      เธอได้แต่กอดปลอบตอบ    " ไม่เป็นไรนะเด็กดี "    ลูบหัวโซมาไปมาดุจแม่โอ๋ลูก

                      เป็นอีกวันที่ฉันได้มาอยู่ในอดีตนี้  วันทุกวันมีทั้งสุข ทุกข์ แต่ฉันไม่เสียใจหรอกเพราะที่นี่ทำให้ฉันรู้สึกถึงบ้านที่แท้จริงจะขออยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าร่างกายนี้จะดับสูญ  ขออยู่ข้างกายเขาเอิร์ลปีศาจผู้เป็นดั่งจุดเริ่มต้นของตัวฉัน


    " ใช่.....จุดเริ่มต้นของสุนัขรับใช้
    ผู้มีคมเขี้ยวทำลายทุกสิ่งที่ย่างกลาย
    เข้ามาทำลายสวนใหญ่
    ขององค์ราชินีแห่งนี้

    ไม่ว่าอย่างไนแฟนธอมไฮฟ์ก็คือ สุนัขรับใช้นั่นเอง "

                      





    TALK : แต่งไปกลัวไป แต่งถึงองค์ราชินี เรากลัวเรื่องคำในการพิมพ์มากๆ เราแปลจาก มังงะ ver.eng เอา  ยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ



    (ให้หนูเซียกล่าวทักทายยามเช้ากับรีด // ตั้งใจเรียนกันนะคะทุกท่าน จาก.เซียค่ะ )

    *มีคำถามมาถามรีดค่ะ สำคัญต่อเนื้อหานิยาย

    รีดอยากให้พวกตัวละครในภาคละครสัตว์อยู่หรือตายตามเนื้อเรื่องคะ  แน่นอนค่ะไม่ว่าเลือกอันไหนเนื้อเรื่องในอนาคตจะเปลี่ยนไปด้วย ในหัวไรท์มีเนื้อเรื่องสองแบบเลยค่ะ(แต่ถ้าอยู่ก็สนุกอีกแบบนึง)
    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×