[ Shortfic Detective Conan ] Apis Cerana
โค๊ดเนมของฉันคือ " HONEY " และฉันคือผู้ทรยศองค์กรที่กัดกินอยู่ภายใน นางพญาผึ้งผู้ถูกแผดเผาปีกโดยเขา
ผู้เข้าชมรวม
1,987
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
“ เอาเลยสิ.....บทลงโทษสำหรับผู้ทรยศองค์กร
”
“ ฆ่าฉันด้วยปืนกระบอกนั้น นายทำได้อยู่แล้วยิน ”
Gin The Silver Death
“ คนอย่างเธอไม่จำเป็นต้องยิงให้เปลืองกระสุนหรอก
”
“ แบบนี้ดีกว่า......งั้นฉันให้เธอเป็นเหยื่อทดลองคนแรกละกัน
”
ไม่ใช่ฟิคเรื่องแรกแต่ก็ขอฝากผลงานด้วยนะคะ เป็นฟิคที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบกับพล็อตเด้งขึ้นมาในหัวขณะกำลังไล่ดูโคนัน แล้วก็อยากรู้ว่าถ้าเฮียยีนฆ่าคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดจะรู้สึกยังไง เฮียแกจะเลือดเย็นเหมือนเดิมหรือเปล่า ส่วนอันนี้เป็นแค่ฟิคสั้น ยังไม่มั่นใจว่าจะมีแพลนเรื่องยาวเหลือไม่ ไรท์ต้องดูอีกทีนะคะ
เกร็ดควรรู้
ฉายา HONEY ของนางเอกได้มาจากเหล้ายี่ห้อ Jack Daniel's Honey เป็นวิสกี้เชื้อสายอเมริกันเก่าแก่ที่เชื่อว่าผลิตออกมาเพื่อเอาใจสาวๆ วิสกี้ตัวนี้โดดเด่นในเรื่องความหอมหวานที่เกิดจากการผสมผสาน Honey Liqueur 4 ชนิดจึงทำให้รสสัมผัสเหมือนกับนํ้าผึ้งจริงๆ เพียงจิบแรกที่สัมผัสจะมีกลิ่นหอมหวานของนํ้าผึ้ง อบเชยและชินนาม่อนขึ้นมาอวลอยู่ที่จมูก รวมไปถึงยังได้กลิ่นหอมอ่อนของมวลดอกไม้ เมื่อรสเหล้าผ่านลงคอก็จะได้กลิ่นหอมหวานแต่ไม่บาดคอของมิลค์ช็อกโกแลตและจะยิ่งอร่อยมากขึ้นหากนำไปแช่เย็นจัดก่อนดื่ม
ส่วนชื่อ Apis Cerana คือชื่อของผึ้งนํ้าหวานชนิดหนึ่งที่เป็นญาติกับ Apis Koschevnikovi ผึ้งชนิดนี้พบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งจีน ญี่ปุ่น เนปาล ปาปัวนิกีนี บังกลาเทศและหมู่เกาะโซโลม่อน และป็นสายพันธุ์ผึ้งที่มีพฤติกรรมทางสังคทสูง
ร ะ ฆั ง ย า ม เ ช้ า
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เหตุผลที่คนทำเลวนั้นมีมากมาย เช่นเดียวกับเหตุผลที่คนฆ่าคน บ้างก็ไร้สาระ บ้างก็สมควร แต่เอาเข้าจริงๆ ทุกคนที่เกิดมาล้วนไม่สมควรตายไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม เพราะแม้คนๆนั้นจะเลวแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องได้รับบทลงโทษที่เท่าเทียมกัน
สำหรับเธอแล้วโลกนี้ไม่ได้แบ่งจิตใจคนเป็นขาวหรือดำ เหมือนในหน้าบันทึกคำสอนไหนก็ตาม แต่คนเรานั้นเป็นสีเทา เป็นสีสองที่ผสานกันอย่างลงตัว คนที่ทำเรื่องเลวๆอยู่ในเงามืด บางทีพวกเขาอาจจะทำเรื่องดีๆ กลับกันคนดีบางคนยอมทำเรื่องเลวๆเพื่อปกป้องความดีงามในโลกแสงสว่างเบื้องหน้า
แต่......
[ ถึงไหนแล้ว ฮันนี่ ]
“ อ้ะ! ”
เสียงราบเรียบที่ไร้ซึ่งโทนสูงต่ำทำให้เด็กสาวหลุดจากภวังค์ความคิด มือสัมผัสเครื่องมือสื่อสารเพื่อฟังเสียงจากปลายทางให้ชัดขึ้น สายตาสะท้อนตัวเลขนับร้อยบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เงาสะท้อนที่บิดเบี้ยวภายในห้องมืดมิดเช่นเดียวกับจิตใจของเด็กสาวไหวอิงไปมา
“ อืม.....ตัวสุดท้ายแล้ว ”
[ หืม......ไม่พอใจอะไรรึไง ]
“ ใช่......บิงโก! ยินรหัสทั้งหมดคือ 853B18K192203 ”
[ เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน ] ปลายสายทำเสียงเย็นใส่เด็กสาวที่เมินเฉยต่อคำถามก่อนหน้า เสียงจากคนเต็วเล็กนั่นแค่ฟังก็รู้ว่าไม่พอใจอะไรสักอย่าง
แม้ว่าปากกำลังสนทนา แต่มือที่สวมใส่ถุงมือหนังกำลังกดรหัสบนกระเป๋าตามที่เด็กสาวบอกไว้
“ ชิ......ฉันแค่ยังไม่ได้นอนพอใจยัง แค่นี้นะ! ” เธอถอดเครื่องมือสื่อสารออกหลังจากที่งานของเธอเสร็จลุล่วง
หน้าที่ของเธอนั้นคล้ายๆกับเหยี่ยวข่าว เพียงแต่แตกต่างตรงที่เธอมีหน้าที่ต้องหาข้อมูลทุกอย่างในเชิงลึก ไม่ว่าข่าวแรกเริ่มนั้นจะเป็นอย่างไรเธอต้องหา ชื่อ สถานที่ บุคคล ญาติพี่น้องของเป้าหมาย เจาะระบบความปลอดภัยต่างๆเพื่อข้อมูลแล้วแจ้งข่าว สรุปรายงานผลให้แก่คนในองค์กรได้รับทราบ
พวกเขามักเรียกเธอว่าผึ้งสื่อสาร และโค๊ดเนมที่เธอใช้คือฮันนี่
เธอคือเงามืดที่อยู่ในเงาลึกสุดขององค์กร น้อยครั้งที่จะออกสู่ที่แจ้ง วันๆเธออยู่แต่หน้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อมูลต่างๆ
แต่......
เพราะแบบนี้แหละที่ทำให้ทุกอย่างมันง่าย ง่ายต่อแผนที่เธอกำลังทำ เธอสามารถกัดกินองค์กรได้จากภายใน เลือกเหยื่อหลายๆตัวเพื่อบดบังตัวตน ใส่ข้อมูลปลอมๆที่เสี้ยมให้ผู้ทรยศคนอื่นทีละเล็กละน้อย พิษอันหอมหวานที่หยอดให้เหล่าแขนขาขาขององค์กรทีละนิด
รวมถึงพิษอีกหนึ่งหยดเมื่อครู่ด้วย รหัสเปิดกระเป๋าของเจ้าหน้าที่ซีไอเอคนนึงที่เธอให้ยินไป แน่นอนว่ามันเป็นของจริงและยินเองก็ทำลายเครื่องส่งสัญญาณของฝ่ายนั้นไปแล้วด้วย แต่แล้วไงล่ะ? เธอสามารถปั่นหัวเขาเล่นได้
ด้วยการเป็นผู้หวังดีส่งตำแหน่งของยินให้ซีไอเอไงล่ะ อย่างน้อยการกระทำนี้ก็ช่วยถ่วงเวลาให้เธอได้บ้าง
นายทำตัวเองนะยิน......
“ เพราะจริงๆแล้วฉันไม่อยากทำนายเลย ” ร่างของเด็กสาวก้าวออกจากห้องพร้อมกระเป๋าสีดำใบหนึ่ง
เธอมุ่งตรงไปที่เฟอร์รารี่สีน้ำเงินคันสวยและขับออกไปจากที่แห่งนี้
ตูม!
เพียงขับออกมาได้ซักพัก สถานที่ที่เธอเคยอยู่กลับระเบิดเป็นจุน ทุกข้อมูลทุกอย่างถูกแผดเผาไปกับกองเพลิง ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรและไปที่ไหน เด็กสาวบนรถหรูเหยียดยิ้มพอใจ เธอปล่อยให้สายลมพัดผ่านร่างกาย
“ ถ้าเธอรู้เธอคงยินดีแน่......เชอรี่ ”
แต่ตอนนี้ฉันคงไม่ว่างบอกข่าวดีกับเธอแล้วล่ะ
♞
ทางตอนใต้ของคันไซ กำลังมีรถปอร์เช่สีดำแล่นออกจากตัวเมืองด้วยความเร็ว ปากของชายหนุ่มผมสีเงินกัดฟันกรอดอย่างแค้นเคือง โชคดีที่เขาไหวตัวทันก่อนที่พวกซีไอเอจะมา งานนี้ต้องขอบคุณในสัญชาตญาณของตนเองและสายจากเบลม็อธ
“ ไม่น่าเชื่อเลยนะลูกพี่ว่าฮันนี่จะทรยศองค์กรของพวกเรา ” วอดก้าแอบเสมองคนข้างเบาะที่ได้แต่เงียบ แผ่ไอเย็นชวนสันหลังวาบออกมา “ แถมยังจงใจจับพวกเราใส่พานให้พวกซีไอเออีก ”
ได้ยินประโยคเช่นนั้นจากลูกน้องแล้ว สมองของชายหนุ่มเริ่มขบคิด
“ ยิน......ฮันนี่ทรยศองค์กร เธอระเบิดศูนย์กลางข้อมูลและกำลังหลบหนี ”
“ แล้วฉันได้รับคำสั่งจากท่านผู้นั้นว่า ให้ตามล่าและกำจัดคนทรยศทิ้งซะ เข้าใจไหม ”
หากรวมคำพูดของเบลม็อธและการคิดวิเคราะห์ของเขาก็จะได้ข้อสรุปว่าฮันนี่คือผู้ทรยศจริงๆ ซ้ำร้ายยังตลบหลังให้พวกซีไอเอมาที่โกดังนั่นอีก
หึ.....สมแล้ว
“ ลูกพี่ แล้วตอนนี้เราจะหาตัวฮันนี่ได้ที่ไหนกันครับ ”
“ ฉันรู้อยู่ที่นึง ”
มีแค่ที่เดียวเท่านั้นที่ยัยเด็กนั่นจะไป
♞
ณ เมืองชิระฮะมะ บริเวณจุดชมวิวหน้าผาหินซันเดเบกิแถบตอนใต้ของคันไซ ใบหน้าสวยของเด็กสาวกำลังทอดมองอาทิตย์อัสดงใกล้ลาลับฟ้า เสียงคลื่นทะเลกระทบเข้ากับโขดหินฟังแล้วช่างไพเราะ สีแสดที่ตัดกับท้องฟ้านั้นระยิบระยับเสียจนแสบตา กลิ่นของทะเลชวนให้ผ่อนคลาย หากลองเงี่ยหูฟังดีๆสายลมที่หวืดหวือนั้นเหมือนกำลังพูดคุยกับเธอ
เอี๊ยด!
เสียงยางล้อรถเบรกกะทันหันพร้อมกลิ่นไหม้และกลิ่นไอบุหรี่อันคุ้นเคยจางๆ ผู้มาเยือนใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องหันไปมองเธอก็รู้ว่าคือใคร
“ มาช้านะยิน ” สายตายังคงมองไปที่ทิวทัศน์เบื้องหน้า หัวของเธอถูกปืนจ่อไว้แต่เด็กสาวยังคงท่าทีสุขุมเฉกเช่นเดียวกับทะเลในยามนี้
“ ตอบมา.....ว่าทั้งหมดทำไปเพื่ออะไร ” ชายผู้มีผมสีเงินตัดกับอาภรณ์สีดำสนิทเอื้อนเอ่ยถามคำถามที่แล่นขึ้นมาในหัว
ฮันนี่ค่อยๆหันหลังกลับ ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยส่งยิ้มยียวนที่คนตรงหน้าไม่ชอบใจให้ “ อ้าว......นึกว่ารู้แล้วซะอีก ”
“ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่แท้ๆ ” ใบหน้าที่ราวกับตุ๊กตาเครื่องแก้วฉาบด้วยความทะเล้น
กริ๊ก
ชายหนุ่มบรรจงกดแฮมเมอร์ลง “ อย่ามาเล่นลิ้น! เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ ” เสียงฮึดฮัดกลินหายเข้าลำคอ ยินกำลังอดกลั้นอารมณ์คุกร่นที่ถูกเด็กตรงหน้ายั่วโมโหและเธอทำได้ดีซะด้วย
“ เพื่อทำลายข้อมูลเดียว ” ทั้งหมดทั้งมวลที่เธอยอมเสียเวลาก็เพื่อทำลายข้อมูลเดียว “ ข้อมูลของยานรกนั่นที่พ่อแม่ฉันเป็นหนึ่งในผู้วิจัย ”
ยาตัวเดียวกับที่เชอรี่เคยวิจัย
“ หึ......ยาอาโพท็อกซินสินะ ” ยินค่อยๆลดปืนลง
แม้ว่าศูนย์วิจัยยาจะถูกเผาไปพร้อมกับการทรยศของเชอรี่ แต่ทางองค์กรก็ยังเก็บข้อมูลสำรองและหานักวิจัยเคมีต่างๆมาวิจัยต่อได้ ดังนั้นเธอจึงยอมและรวบรวมทำลายข้อมูลเกี่ยวกับตัวยานั่นใหม่ทั้งหมด หากพวกนี้อยากวิจัยยานั่นต่อก็มีแต่ต้องหาตัวผู้วิจัยดั้งเดิมเท่านั้น ซึ่งหนึ่งคนนั้นหายสาบสูญและอีกหลายๆคนกลายเป็นผีเฝ้าหลุม
“ โอเคเราคุยกันนานพอแล้ว ” ฮันนี่กำมือแน่นเธอเตรียมใจไว้สำหรับทุกอย่าง เธอจำต้องเร่งเร้าอีกฝ่ายเพราะท่าทีของเขามันผิดวิสัยเกินไปสำหรับมือสังหาร ปกติยินจะฆ่าใครสักคน เขาไม่เคยเสียเวลาพล่ามบทสนทนานานเช่นนี้
“ เอาล่ะ.....บทลงโทษสำหรับผู้ทรยศองค์กร ”
“ ฆ่าฉันด้วยปืนกระบอกนั้น นายทำได้อยู่แล้วยิน ” เด็กสาวกางแขนสองข้างออก เปิดโอกาสให้คนตรงข้ามสังหารเธอได้เต็มที่
อย่างน้อยๆเธอขอตายด้วยปืนกระบอกนั้น
เธอไม่คิดหนีให้ตนเองเหนื่อยอะไรทั้งนั้น คนที่เธอปกป้องก็ไม่มี เป้าหมายชีวิตก็ไม่มีสักอย่าง ส่วนการมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคนนั้น เธอถูกคนตรงหน้าทรยศไปเรียบร้อยแล้ว
คิดแล้วรู้สึกคับแน่นกลางอก เธอกลายเป็นตัวโง่งมอยู่นานหากไม่นึกอยากเปิดข้อมูลเรื่องยานั่นอ่านหลังจากเชอรี่หายไป เธอก็คงก้มหน้ารับใช้องค์กรนี้ต่อไปแบบไม่รู้อะไรเลย
มันน่าสมเพชแค่ไหนกัน......
คนที่เธอไว้ใจที่สุดกลับกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอ ซ้ำร้ายที่ๆเธอยืนอยู่ตรงนี้คือสถานที่เดียวกับที่รถของพ่อแม่เธอตกผาและคนทำคือเขา ยิน มัจจุราชสีเงินผู้อำมหิต
อำมหิตขนาดไหนกันหนอ แม้แต่ศพพ่อแม่เธอยังไม่เหลือแม้แต่กระดูก
ชายหนุ่มผมสีเงินนิ่งเพียงครู่ ความเงียบของเขานั้นบ่งบอกว่ากำลังใช้ความคิดตัดสินใจบางสิ่ง และพูดกับเด็กสาวผู้ทรยศด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือขวาล้วงเอาบางสิ่งออกจากกระเป๋าเสื้อ
“ คนอย่างเธอไม่จำเป็นต้องยิงให้เปลืองกระสุนหรอก ”
“ แบบนี้ดีกว่า......งั้นฉันให้เธอเป็นเหยื่อทดลองคนแรกละกัน ” ชูเม็ดยาสีดำเหลืองให้เด็กสาวดู
มันเป็นยาอาโพท็อกซินตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ทดลองกับมนุษย์แต่ผลทดลองกับหนูลองยาส่วนใหญ่คือพวกมันตายหมด ชายหนุ่มโยนเม็ดยาเข้าปากแล้วบรรจงกรอกน้ำตาม
รวบร่างเล็กของเด็กสาวเข้าหา ทาบทับริมฝีปากลง ถ่ายทอดเม็ดยาให้ฮันนี่ช้าๆ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้วอดก้าช็อกอ้าปากค้าง แต่ตอนนี้เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น
“ อึก.....” ฮันนี่ค่อยๆกลืนเม็ดยาลงคอช้าๆ รับความอุ่นจนถึงขั้นร้อนจากคนตรงหน้าอย่างไม่นึกรังเกียจ
หึ......ไม่อยากยิงให้เปลืองกระสุนเหรอ? น่าขำ นายอยากเห็นฉันตายช้าๆมากกว่าน่ะสิ ตายอย่างทรมานด้วยยานรกที่แสนเกลียดชัง แม้ว่าคุณจะฆ่าพ่อแม่ฉัน แต่สุดท้ายก็เกลียดคุณไม่ลงเลย
ตุบ!
ร่างของฮันนี่ล่วงสู่พื้น แขนขารู้สึกชาและเกร็งไปหมด ปากสำลักเลือดคำโต ความร้อนผ่าวแทรกซึมทั่วร่าง สายตาพร่ามัวมองเห็นเส้นผมสีเงินปลิวไสวลางเลือน
ยัง.....มันยังไม่จบ
เธอค่อยๆทุลักทุเลลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบากอีกครั้ง หากชีวิตของเธอต้องจบลงวันนี้ ขอให้เธอได้บอกอะไรสักอย่างกับเขาและขอให้ฉากจบนี้เป็นฉากจบที่สมบูรณ์เถอะ
ฮันนี่เข้าไปดึงเสื้อโค้ดของยิน ขุดแรงเฮือกสุดท้าย โน้มหน้าหาชายหนุ่มและกระซิบถ้อยคำบางอย่างกับเขา มือที่ยังว่างแอบเลื่อนสัมผัสมือซ้ายเของชายหนุ่ม ดึงปากกระบอกปืนจ่อที่อกซ้ายตน นิ้วมือซ้อนทับกับนิ้วที่ยังค้างเติ่งของเขา ค่อยๆลงน้ำหนักบนไกปืนช้าๆ
เปรี้ยง!
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เลนส์นัยน์ตาสีมรกตขยายกว้าง ช่วงที่เขาใช้เวลาขบคิดกับถ้อยคำนั้น มันทำให้เขาไม่รู้ตัวเลยว่าปืนของเขาได้เป่าร่างเล็กนั้น หยาดโลหิตจากรูกลวงนั้นค่อยแทรกซึมตามเนื้อผ้า ความรู้สึกแสนชาและความเย็นของกระสุนสีเงินแล่นตัดผ่านขั้วหัวใจ
สีแดงโลหิตกระจายไปทั่ว แรงอัดของปืนปัดร่างนั้นล่วงหล่นสู่ผาหิน เสียงน้ำทะแลแตกกระจายพร้อมๆกับคนทรยศที่หายไปกับผืนมหาสมุทร เหนือน่านนํ้าสีครามหลอมรวมกับโลหิตสีสด คิดอย่างไรก็รู้ว่าเธอไม่รอดแน่นอน จุดที่ยิงคือจุดตายสำคัญ
ภาพที่มัจจุราชสีเงินเห็นคือรอยยิ้มของเด็กสาว แต่เขารู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันเหมือน รอยยิ้มแห่งชัยชนะ
หลังจากที่ยินลงมือสังหารผู้ทรยศ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขามองทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด พ่นไอสีหมอกจากปากขึ้นสู่ฟากฟ้า บุหรี่ยี่ห้อโปรดทำให้รู้สึกคลายเครียด เขายืนนิ่งปล่อยให้วอดก้าชโลมนํ้ามันทั่วรถสีนํ้าเงิน
“ ลูกพี่ครับ ” วอดก้าเอ่ยเรียกลูกพี่ตนเพื่อให้เขาจัดแจงทำลายหลักฐานนั่นให้มันจบๆ
ยินหยิบซิบโป้ขึ้น แล้วโยนเข้าเฟอร์รารี่คันนั้น บังเกิดเปลวเพลิงลุกโชดช่วง ไอความร้อนเข้ากระแทกหน้า เพลิงสีชาดหล่อหลอมกับท้องฟ้ายามนี้ ทุกอย่างจบลงก็ถึงเวลาที่เขาต้องกลับ ยินและวอดก้าขึ้นปอร์เช่คันเก่งของพวกเขา
รถสีดำแล่นผ่านอุโมงค์ทอดยาว พุ่งผ่านม่านเงาและแสงภายในราวกับอุโมงค์นั้นกำลังแบ่งช่วงสีแห่งขาวดำ ศีรษะของยินพิงเอนข้างกระจกรถใสด้วยความเหนื่อยล้า ทุกอย่างถูกความเงียบเข้าครอบคลุม
“ เอ่อ.....ลูกพี่ทำไมลูกพี่ถึงไม่ยิงฮันนี่ให้มันจบๆ ” วอดก้าถามขึ้น อันที่จริงลูกพี่เขาไม่น่าจะทำอะไรยุ่งยากอย่างกรอกยาพิษและแน่นอนว่าภาพนั้นของลูกพี่กับเด็กสาวยังติดตาไม่หาย
“ แกคิดว่าฉันเห็นอาพิสมากี่ปี่กันล่ะ ” ยินไม่ได้ให้คำตอบ แต่ส่งคำถามให้ลูกน้องขบคิดแทน
“ ตะ.....ตั้งแต่เธอเด็กๆได้ ” วอดก้าขุดลึกในความทรงจำ นับตั้งแต่ที่เขาพาเด็กคนนั้นเข้าองค์กรกับลูกพี่ก็ผ่านมาได้สิบสองปีแล้ว
“ อืม.....แล้วใครเป็นคนสอนเรื่องต่างๆและดูแลยัยเด็กนั่นกันล่ะ ” ดูแลทั้งๆที่มันไม่ได้เข้ากับเขาสักนิด
“ ครับ.....คนคนนั้นก็คือลูกพี่ ” คำตอบของวอดก้าค่อยๆกลืนหายเข้าลำคอ เขารวบรวบความกล้าถามคำถามอีกครั้ง “ แล้วของในกระเป๋านั่นคืออะไรครับลูกพี่และตอนนั้นฮันนี่พูดอะไรกับลูกพี่เหรอครับ ”
“ หุบปาก เลิกถามสักที ” ยินช้อนหางตาใส่วอดก้า ตวาดเสียงเย็นจนฝ่ายนั้นได้แต่เหงื่อตกไม่กล้าพูดสิ่งใดต่ออีก
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง ชายหนุ่มผมสีเงินหลับตาลง มือแอบลูบกระเป๋าสีดำอย่างเผลอไผล ของที่อยู่ในนี้คือปืน ปืนอิตาลีที่เขาซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ฮันนี่ ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทิ้งมันไว้ หรือที่เธอทิ้งไว้ก็เพื่อตอกย้ำเขาเหรอ?
ท่ามกลางถนนทอดยาว ชายหนุ่มนั่งนึกย้อนถึงใบหน้าของเด็กน้อยที่เขาเคยดูแลมากับมือ สายสัมพันธ์นั้นย่อมมีแต่อุดมการณ์กับหน้าที่มันค้ำคอเกินกว่าที่เขาจะละเว้นเธอได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกไม่ฆ่าเธอด้วยการยิง แต่เลือกให้กินยาพิษแทน
เขายิงเด็กคนนั้นไม่ลงและไม่อยากให้ศพเธอย้อมไปด้วยเลือด แต่ไม่คิดว่าเธอจะยิงตัวเอง โดยใช้ปืนกระบอกโปรดที่เขายังถืออยู่
อา.....สมแล้วที่ฉันฝึกมา
เธอมันคาดเดาได้ยากเสียจริง อาพิส
อาพิส ชื่อที่เขาตั้งให้เด็กนั่น เพื่อให้เข้ากับดวงตาสีอำพันที่ตัดกับผมสีดำสลวย เป็นยัยเด็กที่สมกับโค๊ดเนมฮันนี่เสียจริง
ยินฉีกยิ้ม รอยยิ้มของเขาราวกับมัจจุราชสีเงินที่เย้ยหยันต่อความตาย แต่แท้จริงแล้วเขายิ้มให้กับความรู้สึกกลวงโบ๋ที่หายไปพร้อมกับร่างเล็กใต้ทะเลนั่น
ยินนึกย้อนถึงคำพูดสุดท้ายที่เด็กสาวพูดกับเขาก่อนที่เธอจะหายไปในทะเล
จบนี่แล้ว......ลืมฉันเถอะ
เด็กบ้าเอ๊ย! ฮ่าๆๆๆ ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้น เธอก็รู้ว่าเขาเป็นโรคไม่ชอบจำชื่อกับหน้าของคนที่ฆ่า
นอกจากเขาจะไม่จำแล้ว........แต่เขาจะจำเธอไปตลอดชีวิต แค่คนเดียวเท่านั้น
อาพิส เซราน่า เด็กหญิงผู้มีผมสีดำกับนัยน์ตาสีอำพัน
♞
หลายเดือนถัดมา
รถไฟสายบิสทรี่เทรน รถด่วนเบลเทลได้ทำการจอดเทียบชานชะลาอย่างกะทันหันหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดและเหตุวุ่นวายอีกมากมาย ผู้คนต่างกรูกันออกจากรถไฟ รวมถึงเบลม็อธที่ปะปนกับฝูงชน
เพียงจบบทสนทนากับยินที่รออยู่ ณ สถานีนาโกย่า หญิงสาวก็ได้รู้ความจริงว่า เธอนั้นฆ่าเชอรี่ไม่สำเร็จจากบทสนทนาของพวกเด็กๆ
“ แต่ว่าน่าตกใจจริงๆนะครับ ว่าคุณไฮบาระจะไปอยู่ในตู้ที่เจ็ดห้องบีแบบนั้น ”
“ แต่น่าเสียดายจังเลยที่ไปไม่ถึงสถานีนาโกย่า ” เก็นตะเด็กที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มบ่นอุบอิบ
“ อ้ะ! จริงสิ เดี๋ยวอายูมิต้องโทรบอกพี่ราน่าก่อน ”
“ นั่นสิครับ ก็พี่เขาอยู่ที่นู่นเรียบร้อยแล้วนี่นา ผมว่ารีบโทรบอกพี่ราน่าหน่อยก็ดี ”
สถานีนาโกย่า
หลังจากผ่านเรื่องราวยินและวอดก้าเตรียมตัวออกจากสถานีเพื่อไปยังจุดหมายอันเป็นสถานที่นัดรวมตัวกับคนในองค์กร
“ งั้นเหรอ ขอบใจมากนะอายูมิจัง เดี๋ยวพี่รีบย้อนไปหาพวกเธอที่นั่นนะ ”
ระหว่างทางชายหนุ่มก็เดินผ่านเด็กสาวคนนึงที่กำลังคุยโทรศัพท์ เพียงเสี้ยวนาทีที่เดินสวนกันยินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกคุ้นเคยจากเด็กสาวคนนั้น
“ บ้าน่า......” เรียวขาสองข้างหยุดชะงักและมองตามเด็กผู้หญิงเมื่อครู่ เขาจดจ้องแผ่นหลังเล็กที่มีผมสั้นสีขาวประบ่าจนแน่ใจแล้วหันกลับมาเดินต่อ
“ มีอะไรเหรอครับลูกพี่ ”
“ เปล่า.....ไม่มีอะไร ”
เป็นไปไม่ได้......ก็เธอตายไปแล้วนี่
คนตายฟื้นไม่ได้หรอก แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้น
ด้านโคนัน
“ แค่กๆ คุโด้คุง.....” ไฮบาระดึงแขนเสื้อเพื่อสะกิดให้โคนันมาหาเธอ
“ ฉันว่าเธอควรพักก่อนนะไฮบาระ ” หนุ่มน้อยมองเด็กหญิงนอนหอบหายใจอย่างทรมานบนโซฟาในสถานีตำรวจ
“ เรื่อง......แฮ่กๆ เรื่องราน่า ”
ได้ยินคนป่วยพูดถึงพี่สาวอีกคนที่อยู่สถานีนาโกย่าแล้วโคนันถึงกับยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“ ไม่ต้องห่วงราน่าหรอกน่า ”
“ พวกนั้นมันจำเธอไม่ได้อยู่แล้วล่ะ ”
ถึงจำได้แต่ก็คงไม่คิดว่าใช่คนคนเดียวกันกับฮันนี่แน่ เพราะเจ้ายินคงคาดไม่ถึงเหมือนกันว่า คนทรยศที่โดนยิงตรงจุดสำคัญแล้วหายไปในทะเลนั้น
ดันมีหัวใจอยู่ด้านขวาซะได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน จบไปแล้วกับฟิคสั้นเรื่องนี้ อาจไม่สนุกเท่าไหร่ต้องขออภัยด้วยนะคะ ^^ รู้สึกยังไงกับฟิคสั้นนี้เชิญติชมได้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ ส่วนเรื่องนี้จะมีตอนยาวมั้ยนั้น.......ฮุ ฮุ ฮุ ขอคิดอีกทีเนอะ
แก้ไขคำและเพิ่มเนื้อหาบางส่วน
ผลงานอื่นๆ ของ ระฆังยามเช้า. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ระฆังยามเช้า.
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น