ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -Fanfic บารามอส- Believed

    ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 24 : นัดพบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 667
      0
      2 ก.พ. 50


               
    "ดูท่าทางเรื่องจะจบลงด้วยดี" เสียงทุ้มนุ่มเปรยขึ้นท่ามกลางความเงียบ โดยที่ตาสีเขียวประกายนั้นยังไม่ละไปจากกระดานหมากรุกตรงหน้า คู่มือที่นั่งอยู่ตรงข้ามทำแค่ถอนหายใจเฮือกเป็นคำตอบให้โรหัวเราะอารมณ์ดี ก่อนจะขยับบิชอฟสีขาวกินเบี้ยสีดำของอีกฝ่าย


               
    ถ้ามันจริงอย่างที่ว่าก็คงจะดี


               
    "หลังจากนี้นายก็คงได้อยู่สบายๆ เหมือนเดิม" ตาสีฟ้าเหลือบมองคนพูดเล็กน้อย "ฉันไม่อยากหวังอะไรมากนัก"


               
    รอยยิ้มน้อยๆ ขยับขึ้นพร้อมกับอาการพยักหน้าเห็นด้วย


               
    "ที่สำคัญอย่าพูดอะไรในสิ่งที่นายเองก็ยังไม่แน่ใจจะดีกว่า" คราวนี้ตาสีเขียวนั้นเงยขึ้นมาสบยิ้มๆ โรยืดตัวเอนพิงเข้ากับพนักโซฟา นิ้วชี้วนรอบปากถ้วยชาในมือใช้ความคิด


               
    "ก็แค่ความกังวลที่ยังไม่มีตัวตนชัดเจน" โรตอบช้าๆ จ้องมองควันสีขาวที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือถ้วย


               
    "ใคร?" กัสถามให้คนถูกถามยิ้มตอบกลับ "ไม่รู้ อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่ความกังวล"


               
    ความเงียบทิ้งตัวลงอย่างเชื่องช้าภายในห้องนั้น เป็นความเงียบที่เกิดขึ้นจากสมาธิของคนที่อยู่ในห้อง บรรยากาศจึงค่อนข้างตึงเครียดแต่ไม่น่าอึดอัดอย่างที่เป็นมาในหลายๆ วันนี้


               
    "...แรงอาฆาตของผู้หญิงสินะ" โรเปรยขำๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของตนเมื่อครั้งที่คุยกับเนอินที่พริสก์โบโรว์ กัสเงยหน้าเหลือบมองคนพูดเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงขยับคิงหลบม้าของอีกฝ่าย ขอทานกิตติมศักดิ์เลิกคิ้วสูง ตาสีเขียวมองคนตรงหน้าแปลกใจ


               
    "น่าแปลกที่เรื่องนี้ทำให้นายคิดหนักขนาดนั้นนะกัส" โรว่าพร้อมกับส่งควีนรุกฆาตทันที คนแพ้ได้แต่มองกระดานหมากรุกเงียบๆ ไม่ตีโพยตีพายอะไรก่อนจะถอนหายใจเฮือก


               
    อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเกิด


     

    ---------------------------------------



               
    เขาว่าคนที่มีความรักจะเห็นโลกนี้เป็นสีชมพู


               
    ดูท่าทางเธอจะเริ่มบ้า ที่หัดคิดอะไรไร้สาระแบบนั้น


               
    ตาสีแดงเพลิงทอดมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างภายในห้องอย่างเหม่อลอย ถึงจะเช้าแล้วแต่ท้องฟ้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นสีเข้ม แสงสีส้มบางส่วนเริ่มทอจับเป็นเส้นที่ขอบฟ้า พร้อมกับเสียงนกร้องเป็นระยะๆ อันเป็นสัญญาณของวันใหม่


               
    อากาศที่ยังคงเย็นอยู่ทำให้อีกร่างที่นอนขดอยู่บนเตียงอุ่นกระชับผ้าห่มเข้ากับตัวมากขึ้น ซีเวียมองเพื่อนรักที่กำลังหลับสบายแล้วยิ้มน้อยๆ พลางกระชับเสื้อคลุมของตนขึ้นบ้าง


               
    ไม่ใช่เธอนอนไม่หลับ แต่เป็นตื่นเร็วเกินไปต่างหาก


               
    และบางทีสาเหตุก็อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้


               
    ซีเวียระบายลมหายใจช้าจนเกิดเป็นควันสีขาว สมองยังคงคิดคร่ำครวญว่าสิ่งที่ตนเจอเมื่อวานนี้เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่ การได้รับความรักจากใครซักคนเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยคิด ไม่เคยแม้แต่จะเสียเวลาเริ่มคิดเสียด้วยซ้ำ


               
    แล้วจู่ๆ...มันก็ลอยเข้ามาเธอเอง


               
    แถมคนที่เธอรัก ก็เป็นถึงเจ้าชาย


               
    ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่แน่ใจว่ามันคือความจริง


               
    แล้วถ้าเป็นความฝันขึ้นมาล่ะ?


               
    มือเล็กเผลอกำจิกเข้ากับแขนแน่น ก้อนแข็งถูกตีขึ้นจุกกับลำคอเช่นเดียวกับลมหายใจที่เหมือนจะหยุดไปเฉยๆ


               
    แค่คิดก็แย่ขนาดนี้


               
    ซีเวียแค่นยิ้มได้อย่างยากลำบาก


               
    เธอ...อ่อนแอขนาดนี้เชียว


               
    เสียงแสกสากจากประตูห้องทำให้ซีเวียไหวตัว มือทั้งสองเอื้อมลงแตะมีดที่คาดอยู่ที่เอวทันทีตามสัญชาตญาณ ไม่ผิดกับเวซิลที่สะดุ้งคว้าเอามีดใต้หมอนมาไว้ในมือแทบจะทันที


               
    กระดาษแผ่นหนึ่งถูกสอดมาตามช่องว่างด้านล่างของประตู มันวางสงบอยู่ตรงนั้น พร้อมกับเสียงฝีเท้ารีบเร่งที่ค่อยเดินจากไป


               
    ซีเวียสบตากับเวซิลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นอย่างระมัดระวัง


               
    "ใครส่งจนหมายมาเช้าขนาดนี้น่ะ" เวซิลถามพลางอ้าปากหาวขณะเก็บมีดเข้าที่เดิม หากไร้เสียงตอบจากเพื่อนสาว เธอจึงหันมามองและเห็นว่าคิ้วโก่งเหนือดวงตาสีแดงเพลิงนั่นกำลังขมวดกันมุ่น ขณะที่นัยน์ตายังคงกรอกไปมาซ้ำๆ เหมือนกับกำลังตรวจสอบอะไรซักอย่างในจดหมายนั้น


               
    "มีอะไรหรือซีเวีย" เธอทักเป็นกังวล คนถูกถามส่ายหน้าพร้อมกับยื่นกระดาษสีขาวให้เธอแทนคำตอบ เวซิลรับมันมาอ่านอย่างงงๆ


               
    บนกระดาษสีขาวมีเพียงตัวอักษรสีดำเขียนไว้สั้นๆ อย่างเป็นระเบียบ เนื้อหามีเพียงการนัดพบที่สุสานหลังโบสถ์ หากสิ่งที่ทำให้คิ้วบางนั่นมุ่นได้ขนาดนั้นคงเป็นชื่อลงท้าย


               
    อาเวเรีย อากอส


               
    เวซิลมองหน้าเพื่อนสาวแล้วส่ายหน้าช้าๆ เมื่อเห็นว่าอะไรทออยู่ในนัยน์ตาสีเพลิงคู่นั้น


               
    "ฉันว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่ซีเวีย นี่มันบัตรเชิญให้เธอไปตายชัดๆ" หากดวงตาทั้งสองของอีกฝ่ายยังไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เธอต้องสบถออกมายาวเหยียดก่อนจะเอ่ยอย่างอ่อนแรง


               
    "เธอจะเดินไปให้เขาฆ่านะ"


               
    "ถ้าอย่างนั้นอาชีพคิลเล่อร์คงเสียหน้าแย่ ถ้าต้องตายด้วยฝีมือเสจ" เธอตอบยิ้มๆ ขณะเดินไปหยิบมีดมาคาดไว้กับเข็มขัดของตัวเอง


               
    "นี่มันไม่ใช่เรื่องเลยนะซีเวีย" คนถูกคัดค้านมองคนค้านนิ่ง ถอนหายใจแล้วทรุดตัวลงนั่งกับเตียงเล็ก


               
    "ฉันแค่เห็นใจเธอ" คิ้วบางเลิกสูงขึ้นไม่เข้าใจ "คนที่เขารักมาตลอดถูกผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาคาบไปแบบนี้ เป็นเธอก็คงรู้สึกแย่จริงไหม"


               
    เวซิลนิ่งไปด้วยจนต่อคำพูด แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี


               
    "งั้นให้ฉันหรือใครไปด้วย ไอ้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นก็ได้" ซีเวียหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดีเป็นครั้งแรก


               
    "ไม่ได้หรอก เธอก็รู้" หล่อนว่าพลางดีดตัวขึ้นมายืนเต็มความสูง


               
    "เอาเป็นว่าฉันรีบไปแล้วจะรีบกลับมาก็แล้วกัน" สิ้นคำนั้นเจ้าหล่อนก็เดินออกจากห้องโดยมีสายตาเป็นห่วงของเวซิลตามไป


               
    เธอดีใจที่ซีเวียดูสดใสร่าเริงขึ้น รวมไปถึงการมองโลกในแง่ดีแบบนั้น


               
    แต่..สิ่งนั้นก็เป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับนักฆ่าอย่างพวกเธอ


               
    ยิ่งกับคนที่เพิ่งมีความรักอย่างซีเวียด้วยแล้ว....


               
    ตาสีเขียวอ่อนนิ่งคิดอย่างเป็นกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

     


    -----------------------------------------



               
    ความเงียบสงบปนวังเวงทำให้คนที่ชื่นชอบความสงบอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ท้องฟ้าเริ่มปรากฏสีทองของพระอาทิตย์ พร้อมกับเพิ่มความอบอุ่นให้กับอากาศมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นสุสานแห่งนี้ก็ยังคงรู้สึกวังเวงและเศร้าสร้อยอยู่ดี


               
    ไม่ไกลจากจุดที่ซีเวียยืนอยู่ ปรากฏร่างบอบบางยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่


               
    คงไม่มีใครบ้ามายืนคนเดียวอยู่ในสุสานยามเช้าแบบนี้เป็นแน่


               
    เธอมองร่างนั้นเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหา และหยุดยืนห่างจากร่างนั้นสามสี่ก้าวเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง


               
    "ตื่นเช้าดีนะคะ" เสียงหวานใสดังขึ้นโดยปรายตามองทางหางตา แล้วหันกลับไปสนใจทิวทัศน์เบื้องหน้าต่อ


               
    "ท่านหญิงเองก็เช่นกันค่ะ" เธอตอบเรียบๆ ให้อาเวเรียหัวเราะ "ถึงเป็นท่านหญิงก็ต้องตื่นเช้าเหมือนคนอื่นนั่นล่ะค่ะ แต่ที่นอนตื่นสายก็มีเหมือนกัน"


               
    ซีเวียไม่พูดว่าอะไรต่อ ปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวสานต่อบทสนทนาแทน


               
    "รู้ไหมคะว่าทำไมถึงเรียกคุณมาที่นี่" คนถูกถามเงียบแทนคำตอบ


               
    "ดิฉันมีเรื่องที่จะคุยกับคุณเล็กน้อย" อาเวเรียเอ่ยเข้าประเด็น "เกี่ยวกับเจ้าชายเนอาร์"


               
    ซีเวียยังคงเงียบกริบ มือทั้งสองข้างแนบลำตัวแต่คงไว้ซึ่งการเตรียมพร้อมตลอดเวลา


               
    "อย่างที่คุณทราบ ว่าเมื่อปีที่แล้วมีการคัดเลือกว่าที่พระคู่หมั้นของเจ้าชายทั้งสองของคาโนวาล และหนึ่งในสองที่ถูกเลือกนั่นคือดิฉัน" เธอเริ่มบทสนทนา "แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็มีข้อตกลงระหว่างเจ้าชายกับผู้ที่ถูกเลือกว่าหากใครเจอคนที่รักมากกว่าจะต้องยุติความสัมพันธ์นั้นลง"


               
    ริ้วรอยความแปลกใจปนไม่เชื่อทอขึ้นในนัยน์ตาสีแดงเพลิง หากซีเวียก็ยังคงนิ่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดี


               
    "ดิฉันรักเจ้าชายเนอาร์ค่ะ" คำสารภาพปุบปับทำให้สมองที่กำลังแล่นฉิวของอีกฝ่ายหยุดชะงักลงทันที เธอมองแผ่นหลังบางของคนตรงหน้าที่เริ่มสั่นน้อยๆ


               
    "รักตั้งแต่ก่อนที่ฝ่าบาทจะคิดจัดงานคัดเลือกนั่นเสียอีก" น้ำเสียงใสที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจเริ่มสะดุด "ฉะนั้นการได้รับคัดเลือกในปีนั้นจึงมีแต่ความสุขที่เอ่อล้นเต็มจิตใจ แม้จะรู้ดีถึงข้อตกลงนั้นก็ตาม แต่ดิฉันก็ยังคงคิด...คิดว่าช่วงเวลาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีจนถึงวันที่เจ้าชายเนอาร์จะรักดิฉันขึ้นมาบ้าง"


               
    อาเวเรียหยุดพูด ให้สายลมโบกพัดผ่านใบไม้นับร้อยจนเกิดเสียงซ่าไปทั่วบริเวณ ราวกับต้องการให้คำพูดทุกคำซึมเข้าสู่สมองของคนฟัง


               
    "จะเป็นไปได้ไหม" เธอพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปนานพักใหญ่ "ถ้าดิฉันจะขอให้คุณถอนตัว"


               
    ลมหายใจของซีเวียสะดุดกึกทันทีที่ได้ยินคำขอที่สุดจะเห็นแก่ตัวนั้น


               
    ใช่...เธอคิดอย่างนั้น


               
    "ท่านหญิงคิดว่านี่เป็นเกมรึไง" คำถามกระชากออกจะห้วนเกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่อนี่เป็นการพูดกับผู้ที่มีศักดิ์เหนือกว่าตน ตาสีแดงเพลิงวาววับด้วยโทสะ


               
    "ดิฉันแค่ต้องการเจ้าชายเนอาร์คืน"


               
    "คุณก็ควรไปบอกเนอาร์เขาเอง เพราะฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้"


               
    "คุณช่วยได้"


               
    ซีเวียเม้มริมฝีปากแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เดินไปชกหน้าท่านหญิงแห่งคาโนวาล


               
    บางทีอาจจะเป็นอย่างทีเวซิลว่า...


               
    นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะมาคุยกับหล่อนจริงๆ!


               
    "คุณแค่เดินออกไปเงียบๆ เจ้าชายคงไม่ว่าอะไร"


               
    มือบางกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์


               
    "แล้วฉันล่ะ?" ซีเวียเค้นถามเสียงนิ่ง...นิ่งเสียจนตัวเธอเองยังกลัว


               
    มันเยียบเย็น...เหมือนที่เคยได้ยินจากปากของหมอนั่นที่ซูลู


               
    "หน้าที่ของราชินีในอนาคตมันหนักเกินกว่าที่คุณคิดไว้นะคะ" คำตอบที่เหมือนไม่เป็นคำตอบยิ่งยั่วโทสะของคู่สนทนามากขึ้น


               
    ไม่สิ...นี่ไม่เรียกว่าการพูดคุยสนทนาแล้ว


               
    แต่เป็นการออดอ้อนอันน่าสมเพชของท่านหญิงที่มีฉายาเป็นถึงเดอะเสจผู้รอบรู้ หากไร้รู้วิธีที่จะสรรหาคำพูดในการเจรจา


               
    เรียกว่าสมองรับข้อมูลอย่างเดียวแต่ไม่เคยพัฒนาความคิด!!


               
    "ฉันยังไม่เห็นว่านั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะยอมถอนตัว" ซีเวียตอบช้าชัด "เพราะถึงเนอาร์จะไม่ใช่เจ้าชายรัชทายาท ฉันก็ยังรักเขาอยู่ดี"


               
    ร่างของอาเวเรียสะดุ้งเฮือกเมื่อเจอคำย้อนเจ็บแสบ หล่อนสูดหายใจลึก อาการหน้ามืดเริ่มถามหาเมื่อความเครียดจากการถูกขัดใจเริ่มพอกพูนขึ้นทุกที


               
    "แต่ความจริงก็คือเขาจะเป็นคนที่ขึ้นเป็นคิงต่อไปในอนาคต" ซีเวียเหยียดยิ้ม เธอพอจะเข้าใจนิสัยของท่านหญิงคนนี้แล้ว และเริ่มไม่แปลกใจว่าทำไมเนอาร์ถึงยอมเห็นดีเห็นงามกับแผนหลบหนีของผู้เป็นพี่ชายฝาแฝด


               
    นิสัยแบบนี้ เพศเดียวกันยังไม่อยากเข้าใกล้ด้วยเลย


               
    เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ มีดีที่หน้าตา ความรู้ และฐานะ


               
    หึ! ท่านหญิงสมบูรณ์แบบ...แบบที่เธอเกลียดเข้าไส้เลยล่ะ


               
    "และคงไม่ดีแน่ถ้าจะให้ราชินีเป็น...นักฆ่า" หล่อนเน้นเสียงหนักคำสุดท้าย แต่ไม่ทำให้คนฟังอารมณ์เสียไปได้มากกว่าความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อบทสนทนาอันไร้สาระที่กำลังดำเนินอยู่


               
    "ท่านหญิง" ซีเวียเอ่ยเรียก หากคนที่ถูกเรียกก็ยังไม่หันกลับมา


               
    "ท่านเคยถามเนอาร์ไหม ว่าเขา 'เคย'...รักท่านรึเปล่า"


               
    ความจริงอันเจ็บปวดเสียดแทงขึ้นในอก พร้อมกับเพลิงริษยาที่ลุกโหมภายในใจ สมองแล่นเร็วจี๋ด้วยโทสะทำให้ภาพที่เห็นเริ่มหมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างเล็กบอบบางสั่นสะท้าน มือทั้งสองกำจิกแน่นเข้ากับฝ่ามือจนขาวซีด


               
    "มันไม่สำคัญเลยว่าฉันจะอยู่หรือไม่ ถ้าเนอาร์เขารักท่านหญิง...เขาก็คงไม่หนีออกมา"


               
    สิ้นคำพูดนั้น ความอดทนทั้งหมดก็ขาดผึงลง อาเวเรียผลุบตัวลงต่ำ มือทั้งสองกระชากเอามีดสั้นที่เหน็บไว้ที่เอวขึ้นมาพร้อมกับหมุนตัวพุ่งเข้าใส่ร่างที่ยืนอยู่ข้างหลัง ให้แสงแดดยามเช้าส่องจ้าเข้าสู่สายตาของนักฆ่าสาว


               
    มันเป็นแผนที่อาเวเรียวางไว้เพื่อต้องการให้นัยน์ตาของอีกฝ่ายพร่ามัวโดยการใช้ร่างของตัวเองบังดวงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมกับการชวนคุยไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงเวลาที่ดวงอาทิตย์นั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าสายตาเล็กน้อยเธอจึงเริ่มลงมือ


               
    หากสิ่งที่อาเวเรียไม่ได้คาดคือความสามารถของนักฆ่าชั้นยอดอย่างซีเวียที่เดาความคิดของเธอได้ นักฆ่าสาวหลับตาลงพร้อมกับที่ชักมีดออกมารับการปะทะนั้นได้อย่างสบายๆ ซีเวียขยับยิ้มก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับแสง


               
    ฝ่ายอาเวเรียที่เห็นว่าการจู่โจมครั้งแรกไม่ได้ผล มือซ้ายที่ว่างอยู่จึงชักมีดอีกเล่มที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นพร้อมกับเงื้อมันขึ้นสูงในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่ซีเวียเร็วกว่าด้วยการฝึกฝนและประสบการณ์ ในขณะที่อาเวเรียตั้งสมาธิกับมีดในมือซ้าย แรงดันของมีดที่มือขวาก็ตกลง ซีเวียจึงฉวยจังหวะนี้ตวัดมีดที่รับการโจมตีเมื่อครู่ไว้ เฉือนเอามือของอาเวเรียให้เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด อาวุธที่หมายจะทำร้ายจึงร่วงหล่นลงพื้นก่อนที่จะมาถึงตัวเธอ


               
    นัยน์ตาสีแดงเพลิงก้มต่ำมองสภาพท่านหญิงผู้สูงศักดิ์นั่งโอดครวญกับบาดแผลเล็กน้อยบนมือของตัวเองอย่างสมเพช ตาสีน้ำเงินรื้นเต็มไปด้วยน้ำตาของความเจ็บปวด หากในขณะเดียวกันมันก็ทอประกายความเกลียดชังรุนแรงออกมา


               
    ซีเวียรู้สึกสงสารและสมเพชร่างตรงหน้าในเวลาเดียวกัน


               
    สงสาร...ต่อความรักที่ไม่สมหวังที่ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นแบบนี้


               
    สมเพช...ต่อความอ่อนแอของท่านหญิงผู้เอาแต่ใจ


               
    ซีเวียมองมือที่มีเลือดสีแดงไหลซึมออกมาพยายามเอื้อมไปหยิบมีดที่หล่นอยู่บนพื้น ก่อนจะใช้เท้าเตะมันออกไป


               
    เคร้ง!

    ************************************TBC...

    Talk > ลงฉลองวันพิเศษของคนเขียนค่ะ เอิ้กๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×