ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -Fanfic บารามอส- Believed

    ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 17 : วุ่นวาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 615
      0
      13 พ.ย. 49


               
    เช้าวันนี้สดใส...ใช่ มันควรจะสดใส ยกเว้นเสียแต่...


               
    "ท่านแม่!!!!"


               
    โครม!!


               
    ร่างของเด็กสาวตัวน้อยลอยลิ่วทิ้งตัวลงสู่เป้าหมายได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ สองมือเล็กกระชากคอเสื้อนอนของผู้เป็นแม่แล้วเขย่าขึ้นลงอย่างสนุกสนานเท่าที่แรงของเด็กคนนึงจะทำได้


               
    "โอยๆๆ แกจะฆ่าฉันเหรอไง" เฟรินจำใจต้องลุกขึ้นมานั่งงัวเงียลุกจากที่นอน หากลูกสาวคนสุดท้องกลับฉีกยิ้มแป้นน่าเอ็นดู...แต่ย่อมไม่ใช่ตอนเช้าแบบนี้แน่นอน


               
    "นาเดียบอกว่านอนมากๆ จะกลายเป็นวัวนะคะท่านแม่"


               
    ภาษิตประเทศไหนไม่เคยได้ยิน


               
    เส้นผมยาวสีน้ำตาลถูกขยี้จนยุ่งมากกว่าเดิม เฟรินอุ้มแม่ตัวดีของเธอนั่งลงกับเตียงก่อนจะลุกขึ้นเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ เมื่อออกมาก็พบว่าโต๊ะภายในห้องถูกเสิร์ฟอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับที่นาตาชากำลังนั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมถูกพระพี่เลี้ยงดุ


               
    "บอกกี่ครั้งแล้วเพคะ ว่าต้องรอคุณเฟรินก่อนถึงจะทานได้" ตาสีน้ำตาลทอแสงอ่อนลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก่อนเดินไปนั่งฝั่งข้ามลูกสาว


               
    "ถ้าหิวกินก่อนก็ได้ ผมไม่ถือหรอก" ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีสรรพนามแทนตัวก็ไม่คิดจะพัฒนาให้สมหญิง จนผีสาวที่คอยจ้ำจี้จำไชจำต้องล่าถอยยอมแพ้ไปในที่สุด ตาสีฟ้าเป็นประกายวิบวับเมื่อได้ยินคำเข้าข้าง แต่นาเดียกลับหน้างอหงิกบ่น


               
    "คุณเฟรินก็เหมือนกันล่ะค่ะ ตามใจคุณนาตาชาจนเป็นแบบนี้" อันที่จริงต้องบอกว่าตามใจลูกทั้งสามคนเห็นจะถูกกว่า เฟรินที่เริ่มเห็นว่าอาจจะถูกเทศน์รับยามเช้าก็รีบเปลี่ยนเรื่องเสีย


               
    "คาโลไปไหนแต่เช้าล่ะนี่" นาเดียค้อนใส่เล็กน้อยก่อนจะตอบ "เสด็จเข้าประชุม 'เรื่องเดิม' เพคะ"


               
    เฟรินพยักหน้า แค่บอกว่าเรื่องเดิมก็คงไม่พ้นเรื่องการอภิเษกของไอ้สองลิงนั่น ที่ทางสภาเร่งรัดให้ดำเนินมาตรการเด็ดขาดในการจับตัว(?)กลับมาให้ได้


               
    คนที่ไม่เห็นด้วย...เห็นจะมีอยู่แค่พวกเธอ


               
    กับเสนาบดีกลาโหมเพียงคนเดียว


               
    "งั้นก็น่าสงสารมันอยู่"


               
    "แต่ดิฉันเห็นด้วยนะคะที่จะตามตัวเจ้าชายทั้งสองให้กลับคาโนวาล" นาเดียจำใจเอ่ยปากทั้งๆ ที่ในครั้งแรกเธอก็บอกกับตัวเองว่าเรื่องนี้ไม่สมควรที่พระอภิบาลอย่างเธอจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตาสีน้ำตาลเหลือบมองสีหน้าลำบากใจของแม่คนที่สองแล้วยิ้มบาง มือขาวเอื้อมไปกุมมืออีกฝ่ายแผ่นเบา


               
    "คุณนาเดียรู้ไหมฮะ ถ้าปล่อยให้มันเรียนจบแล้วให้คาโลสั่งคำเดียวให้แต่งมันสองคนก็ต้องแต่ง" คราวนี้คนฟังเลิกคิ้วสูง ถ้าอย่างนั้นแล้วต้องรออะไรถึงตอนนี้ เฟรินบีบมือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลาเบาๆ "ยิ่งถ้าเป็นเนอาร์ที่ถือคำสั่งยิ่งกว่าชีวิตมันแล้ว มันคงยอมทำตามไม่ปริปาก แต่จะตั้งป้อมน้ำแข็งใส่ผมกับคาโลไปตลอดชีวิต"


               
    เฟรินปล่อยมือนั้นไปหยิบผ้าเช็ดปากนาตาชาที่เริ่มเลอะซุปไปทั่วหน้า


               
    ไม่รู้ไปติดนิสัยสวาปามนี่มาจากใคร


               
    "กับเนอินเองมันก็คงอิดออดเล่นตัวแต่ก็ยอมแต่งโดยดี เพราะโรงเรียนน่ะสอนให้คนอยู่ในกฏ ตอนที่เรียนอยู่น่ะไม่ค่อยรู้สึกหรอกฮะ แต่พอจบออกมาแล้วหันกลับไปมอง จะรู้ว่ากฏที่เคยเห็นว่าน่ารำคาญพวกนั้นมันมีความจำเป็นแค่ไหน และมันทำให้ชีวิตของเรามีความสุขเช่นไร" เฟรินหยุดพูดพลางยิ้มราวกับยิ้มนั้นเพื่อตนเองในอดีต


               
    "เพราะฉะนั้น...ทั้งผมและคาโลอยากให้พวกมันที่อยู่ในกฏและสภาพเดียวกับคาโลพร้อมๆ กับที่ทำบางอย่างตามใจตัวเองแบบผมแต่ไม่เคยเห็นอิสระที่แท้จริงในการตัดสินใจ จะได้ลิ้มลองความรู้สึกนั้นพร้อมทั้งผลของมัน ในอนาคตไม่ว่าจะเนอินหรือเนอาร์ที่อาจจะได้ขึ้นเป็นคิงต่างต้องเผชิญเหตุการณ์ยากๆ ให้ตัดสินใจ จะตัดสินใจเพราะหน้าที่ก็ดี ตามใจตัวเองก็ดี ทั้งหมดผลจะเกิดกับประชาชน ถ้าแค่ผลกระทบต่อตัวเองยังทนไม่ได้ก็เห็นจะใช้ไม่ได้ สำคัญคือการแต่งงานหมายถึงชีวิตของคนสองคนทั้งชีวิต ตัดสินใจพลาดก็เท่ากับฆ่าตัวตาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือต้องเตรียมพร้อมให้พวกมันเท่านั้น"


               
    นาเดียเงียบกริบขณะฟังเหตุผลจากคนที่นานๆ จะมีเหตุผลขึ้นมาซักครั้ง นัยน์ตาสีน้ำตาลยามพูดถึงบุตรชายฝาแฝดที่เคยแต่พร่ำบอกว่ารำคาญทอแสงอ่อนลง อ่อนโยนและอบอุ่นอย่างที่แม่คนนึงจะทอดมองลูกที่เป็นที่รัก


               
    "ดูสิฮะ! ว่าพวกผมห่วงมันแค่ไหนแต่ไอ้เนอินมันยังเรียกผมว่าเจ๊อยู่ได้!! ไม่มีสัมมาคารวะจริงๆ ไอ้ลูกคนนี้" เฟรินสบถยาวแก้เขินเพราะนานครั้งจะพูดอะไรเป็นการเป็นงานแบบนี้จึงรู้สึกไม่ค่อยชินซักเท่าไหร่ นาเดียขยับยิ้มพยักหน้าว่าตามไม่ขัดอะไรเพราะรู้นิสัยอีกฝ่ายดี


               
    "พวกท่านพี่จะแต่งงานเหรอคะท่านแม่" นาตาชาที่นั่งกินเงียบๆ อยู่นาน(ถ้าไม่นับเสียงจั๊บๆ แจ๊บๆ นั่นน่ะนะ)เอ่ยถาม ตาสีฟ้าใสมองหน้าคนถูกถามแป๋วแหวว มือก็ยังคงกำช้อนแน่นไม่ปล่อยง่ายๆ


               
    "ก็คงเป็นอย่างนั้น"


               
    "แต่งกับใครก็ได้นะคะ แต่กับท่านหญิงล้มลุก นาตาชาไม่เอา!" คนฟังสองคนตาโตเป็นไข่ห่านกับประโยคที่ได้ยิน


               
    ไม่ต้องบอกว่าใครสอน


               
    ไอ้แฝดพี่ตัวดี!!


               
    เฟรินกลั้นหัวเราะกิ๊กกั๊ก ขณะที่นาเดียตวัดสายตามองเหมือนใครบางคนที่ไม่อยู่ในห้องนี้


               
    "เจ้าหญิง ท่านหญิงอาเวเรียเพคะ เรียกแบบนั้นไม่ดีนะเพคะ" นาเดียพยายามแย้งและปรับเปลี่ยน นาตาชาหันมามองไม่เข้าใจ


               
    "ทำไมล่ะคะ ท่านพี่เนอินบอกว่าให้เรียกท่านหญิงล้มลุก เพราะท่านหญิงสะดุดได้แม้กระทั่งฝุ่นธุลีในอากาศ เวลาไปไหนมาไหนต้องมีคนคอยให้เกาะเหมือนไม้ล้มลุกที่ยืนต้นเองไม่เป็น" แค่นั้นล่ะ คุณแม่ยังสาวก็ระเบิดหัวเราะก๊ากออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกต่อไป มือก็ตีป้าบๆ เข้าที่พนักเก้าอี้


               
    เออ...มันพูดถูก!


               
    "ถะ...ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรเพคะ เราต้องให้เกียรติเขา" พระอภิบาลเริ่มหน้าซีด ดูเอาสิ สอนอะไรไม่สอน นี่ยังดีที่นานๆ กลับมาคาโนวาลกัน นาเดียถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็ยิ่งปลงหนัก


               
    ถ้าจบแล้วกลับมาอยู่ถาวรจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย?!


               
    "ถึงยังไงนาตาชาก็ไม่ชอบท่านหญิงคนนั้นค่ะ" เด็กสาวว่าแล้วสะบัดหน้าพรืดพร้อมเชิดหน้าเต็มที่ เลียนแบบจากพวกท่านหญิงชั้นสูงยามออกงานใหญ่ๆ ยิ่งทำให้เฟรินขำหนักกว่าเดิม


               
    "แล้วทำไมเจ้าหญิงถึงไม่ชอบเขาล่ะเพคะ ท่านหญิงอาเวเรียเองก็น่ารัก" นาเดียเริ่มพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดของเจ้าหญิงองค์น้อยขณะที่รินน้ำในแก้วที่แห้งขอด นาตาชารับแก้วมาดื่มอึกใหญ่เพราะขนมปังติดคอก่อนเงยหน้าตอบ


               
    "ก็ท่านพี่บอกว่า น่ารักแต่ทำอะไรไม่เป็นก็ไม่มีประโยชน์ วางเป็นตุ๊กตาโชว์น่ะได้ แต่เอามาเป็นคู่ชีวิตที่ไม่มีความคิดความอ่านไม่ได้นี่คะ"


               
    นั่น...มันเข้าใจเปรียบ


               
    เฟรินทรุดลงขดตัวงอลงกับพื้น เนื้อตัวสั่นกึกสองแขนกุมท้องตัวเองแน่นเพราะหัวเราะมากเกินไปจนปวดท้อง และอาจจะตายเพราะหัวเราะเกินขนาดได้หากบทสนทนานี้ยังดำเนินต่อ


               
    ปัง!!


               
    ประตูบานใหญ่กระแทกเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับการปรากฎตัวของชายผู้อยู่บนจุดสูงสุดของคาโนวาล นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองสภาพห้องนอนที่ไม่ต่างอะไรกับห้องอาหารผ่านใบหน้าเล็กของบุตรสาวที่กำลังเคี้ยวขนมปังตุ้ยๆ จนแก้มป่องทั้งสองข้าง แล้วมาหยุดอยู่ที่ร่างคุดคู้ของผู้เป็นภรรยา


               
    "ขอบใจมาก..คาโล ไม่งั้น....ฉันตาย...แหงๆ" เฟรินพูดพลางหายใจหอบ พยายามปรับลมหายใจและระงับอาการฮาแตกเอาไว้ ก่อนจะยันตัวเองขึ้นมานั่ง รับแก้วน้ำจากพระอภิบาลข้างกายมาดื่มสงบสติอารมณ์


               
    "แล้วเป็นยังไง ประชุมเช้านี้" คำตอบของคำถามนั้นคือใบหน้าหงุดหงิดของคนถูกถาม แต่เฟรินที่เริ่มพล่ามก็ยังไม่หยุดพล่าม "งานนี้แกต้องออกไปตระเวณที่ไหนอีกล่ะ พวกฉันนี่สิต้องอุดอู้อยู่แต่ในวัง ออกไปไหนก็ไม่ได้"


               
    คาโลฟังแล้วคิ้วขมวดมุ่น


               
    ไม่ได้ออกไปไหนแต่ไม่ได้หมายความว่าถูกห้าม


               
    ในเมื่อเมื่อวานนี้แม่ราชินีตัวดีของเขายังออกไปย่ำต๊อกหาแอปเปิ้ลกินอยู่ในตลาด ทั้งๆ ที่ในวังเองก็มีให้กินเป็นเข่ง แล้วฟังเหตุผลมัน


               
    'น่าแกก็...แอปเปิ้ลที่ตลาดมันสดกว่า ใหม่กว่า ที่สำคัญนะ..ฉันว่าแอปเปิ้ลที่ตลาดมันยี่ห้อคนธรรมดากินว่ะ ไอ้ของในวังน่ะนานๆ ทีกินได้แต่ขืนกินมากๆ มันจะพาลเป็นผู้ดีกันหมด'


               
    ถ้ากินแอปเปิ้ลของวังหลวงแล้วทำให้คนกลายเป็นผู้ดีขึ้นมาได้


               
    แม่ผีสาวนั่นคงจับยัดแอปเปิ้ลตั้งแต่เข้ามาในวังแทนอาหารหลักไปนานแล้ว


               
    คาโลแอบลอบถอนหายใจหนักขณะที่ยังปล่อยให้เฟรินพล่ามต่อไป


               
    "...นะ แล้วตกลงว่าประชุมเป็นยังไงบ้าง" เออดี อย่างน้อยมันก็ยังวกกลับเข้าหัวข้อเดิมเป็น คาโลเหมือนจะนิ่งไปนาน เหนืออื่นใดคือแววความลำบากใจอันเป็นสิ่งที่ทำให้เฟรินต้องหยุดฉีกยิ้มกว้าง


               
    "อำมาตย์แทนเนอร์ส่งจดหมายมา" คาโลเปรยตอบแผ่วเบาขณะที่ทรุดตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าที่เคยสลักนิ่งเรียบเต็มไปด้วยริ้วรอยความกังวล ความยุ่งยากใจ คิ้วบางเลิกสูงแปลกใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อำมาตย์คนนี้จะส่งจดหมายมา เนื้อหาส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นการเชื้อเชิญเนอาร์ให้ไปเยี่ยมเยียนที่บ้าน หรือไม่ก็เสนองานเลี้ยงต่างๆ เพื่อหวังจะให้ลูกสาวของตนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ 'ว่าที่พระคู่หมั้น' กันมากขึ้น


               
    "ก็ปฏิเสธไปสิ เขาก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเราไม่ได้ติดต่อกับไอ้ลิงนั่น" เฟรินตอบอย่างพยายามไม่ใส่ใจ มือก็เริ่มบิขนมปังกินบ้าง ตาสีฟ้าเบนมามองคนพูดเป็นภาษาที่เข้าได้ว่า ก็บอกไปแล้วแต่มันยังไม่รู้เรื่องนี่หว่า!


               
    เฟรินถอนหายใจเฮือก นี่แค่ 'ว่าที่' ยังจิกกันถึงขนาดนี้ ถ้าแต่งไปไอ้เนอาร์มันไม่ต้องกลายเป็นคนกลัวเมีย กลัวพ่อตาสมบูรณ์แบบเรอะ แล้วถ้ามันเกิดได้เป็นคิงขึ้นมา...


               
    ...น่าสงสารคาโนวาล...


               
    "งั้นเราก็เฉยๆ เข้าไว้ เรื่องมันก็ไม่มีปัญหาอะไร" หากคาโลกลับส่ายหน้าช้าๆ


               
    "เรื่องมันเริ่มวุ่นวายมากกว่านั้นเฟริน" เสียงทุ้มหนักใจอย่างที่ไม่ค่อยจะได้ยินจากคิงน้ำแข็งแห่งคาโนวาลชะงักมือที่กำลังจะตักซุปผักเข้าปากได้ชะงัด แต่ไม่ใช่กับเจ้าหญิงตัวน้อยที่ยังคงกินต่อไปเรื่อยๆ


               
    "มันจะวุ่นวายอะไรกัน แค่เรื่องแต่งงานนี่นะ" เฟรินเถียงกลับจากมุมมองของคนที่มองโลกในแง่ดี แต่...


               
    "อำมาตย์แทนเนอร์สืบรู้ว่าเนอาร์อยู่ที่กิลดิเรก" หญิงสาวสะดุ้งเฮือก นั่น...ไม่ใช่เรื่องดีเลย และ...............


               
    "แก...อย่าบอกนะว่า....." คนที่เป็นฝ่ายทักกลืนน้ำลายดังเอื้อก ความอยากอาหารหมดไปแทบจะทันทีเมื่อสมองเริ่มเดาเหตุการณ์ที่สองแฝดอาจจะต้องเจอ


               
    คงไม่ใช่...


               
    คาโลนิ่งอยู่นานราวกับไม่ต้องการจะตอบ และไม่ต้องการให้คำตอบเป็นอย่างที่เขาได้รับรู้มา


               
    "ท่านหญิงอาเวเรียจะเดินทางถึงกิลดิเรกภายในสองวันนี้" เหมือนจะมีน้ำแข็งเย็นเฉียบแตะเข้าที่ผิวหนังให้เฟรินรู้สึกขนลุกซู่


               
    เรื่องมันจะวุ่นวายมากขึ้นจริงๆ ด้วย


               
    แกไม่รอดแน่ เนอาร์เอ๊ยยยย


    ****************************************

    Talk > สวัสดีค่ะ ห่างหายกันไปไม่นาน(เรอะ) เปิดเทอมแล้ว งานกำลังจะมา หึๆๆๆ

    ......................................................................

    ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะงั้นเจอกันตอนหน้าค่า (^^)/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×